เอล คนทะลุมิติ chapter 1
-
เขียนโดย pong43
วันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2556 เวลา 19.34 น.
48 ตอน
0 วิจารณ์
56.24K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 17 มีนาคม พ.ศ. 2556 20.29 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
23) เอล คนทะลุมิติ ตอนที่ 23 ศัตรู
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความศัตรู
เอลเอามือกุมใบหน้าด้านที่โดนจูบเมื่อครู่ ด้วยความโมโหที่มันกลายเป็นความฝันไปแล้วจริงๆ
“จูบเดียวทำให้แกเคลิ้มได้ขนาดนี้เชียวรึ ที่จริงฉันน่าจะทำให้มันมากกว่านี้”
เสียงนั้นกวนอารมณ์เอลมาก
“แกเป็นใคร ทำไมทำแบบนี้วะ” เอลแผดเสียงลั่นด้วยความโกรธ
“ทำไมเรียกแอนนาว่าแกนะ...หยาบคายจริงๆ”
“ไม่ต้องมาเสแสร้ง แกไม่ใช่แอนนา บอกมาเดี่ยวนี้ แกเป็นใคร”
“ไม่ใช่แอนนาแล้วเป็นใครล่ะ เอลนี่ชักจะเพี้ยนใหญ่แล้วนะ..” เสียงเด็กสาวอ้อนขณะยกมือขึ้นลูบไล้หน้าอกของเอล
เอลนึกขึ้นมาได้ว่าเคยได้ข่าวว่าตอนอยู่โรงเรียนเก่าแอนนามีชื่อเสียงด้านการแสดงละครเวที..
หรือว่าเธอกำลังเล่นละครอยู่...
“เล่นได้สมบทบาทจริงๆนะแอนนา ฉันเชื่อเธอเลย” เอลยิ้ม มือยังเกาะกุมมือของแอนนาอยู่ “ฉันยอมแพ้แล้ว เลิกเล่นได้แล้ว..ไม่เห็นต้องเล่นถึงขนาดนี้...”
เอลปล่อยมือแอนนาและลุกขึ้น
“กลับบ้านดีกว่า เดี๋ยวใครมาเห็นเข้าจะแย่นะ”
เด็กสาวงุนงงและสีหน้าแปรเปลี่ยน
“ฉันยอมแพ้เธอแล้วไม่ต้องลองใจฉันหรอก กลับเถอะ แต่ก่อนออกจากห้องควรดูลาดเลาให้ดีก่อน ใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อยเร็วเข้า”
เอลดึงเด็กสาวให้ลุกขึ้นจนเธอเซถลาเข้าหาทั้งตัว เขาเห็นใบหน้าขึงขังเหยเกน่ากลัวของแอนนากลับยิ้ม
“เป็นอะไรไปอีกล่ะ”
“ใครว่าฉันล้อแกเล่น เอล อย่ามาทำตลกนักเลย” แอนนาเสียงกร้าวตาขวางเหมือนผีเข้า “ไอ้อ่อนหัดคิดจะถ่วงเวลาเหรอ”
“ไปเถอะ” เอลดึงมือเด็กสาวอีก แต่แอนนากลับยืนตัวแข็งทื่อ
“แกไม่รู้เรื่องพลังเหนือโลกเลยหรือไง โลกนี้ไม่ใช่มีแต่แกคนเดียวเท่านั้นที่เป็นพวกเหนือมนุษย์ ขณะนี้พวกเหนือมนุษย์มากมายกำลังมาที่นี่เพื่อชิงพลังของแก แกไม่รู้อะไรเลยหรือวะ”
คำพูดนี้ทำให้เอลต้องปล่อยมือแอนนาทิ้ง
พวกเหนือมนุษย์?
“ฉันรู้เรื่องของแกจากการอ่านใจ ทำให้ฉันเข้าถึงแกได้ง่ายๆ”
“อ่านใจ...” เอลคิ้วขมวด
“จงบอกฉันมาว่าพลังที่แท้จริงๆของแกคืออะไรกันแน่”
“แกคือพวกเหนือมนุษย์…แกอยู่ในร่างแอนนา.. แกอ่านใจได้...?” เอลหน้าตาตื่น
“บอกมาสิว่าพลังที่แท้จริงๆของแกคืออะไร..เอล”
“แกคือพวกเหนือมนุษย์…แกทำอะไรแอนนา...แกสิงแอนนาใช่มั้ย ปล่อยเธอนะ”
“ฉันไม่ได้สิงสู่ แต่ฉันสะกดจิตและสั่งการจากที่ไกลๆ ต่างหากล่ะ เป็นไง..ตกใจล่ะสิ”
“แก............” เอลสีหน้าเคร่งเครียดทั้งโกรธทั้งโมโห “แกทำเรื่องบ้าๆได้ยังไงกันวะ”
“แสดงพลังของแกให้ฉันดูเป็นขวัญตาหน่อยสิเอล”
“ถ้าแกเก่งนักก็ดูเอาเองสิ”
“เรื่องแย่ๆในสมองของแกกับสาวๆในโรงเรียนนี้น่าอ้วกหวะ”
“อย่าพูดบ้าๆนะ”เอลชักเดือด
“จะว่าไปก็เป็นเรื่องธรรมดาของเด็กหนุ่มวัยแตกพาน ไม่แปลกที่จะคิดฝันลมๆแล้งๆกับพวกสาวๆ”
“หยุดได้แล้ว ออกจากร่างแอนนาเดี๋ยวนี้นะ”
เอลเริ่มแน่ใจแล้วว่าแอนนาถูกสะกดจิตเอาไว้ เจ้านั่นอาจจะเป็นปีศาจก็ได้ ถ้าเป็นพวกเหนือมนุษย์ การสั่งการจากที่ไกลๆของมันหมายความว่าอย่างไร แสดงว่ามันต้องอยู่ใกล้ๆกันนี้แน่ เขาพยายามควบคุมสติไว้และคิดว่าต้องใช้สติปัญญาอันแน่วแน่จึงจะแก้ไขสถานะการณ์นี้ได้ แต่ไม่ว่าจะเป็นปีศาจหรือพวกเดียวกัน มันก็น่ากลัวทั้งคู่แหละ อีกอย่างที่มันขู่ว่าพวกเหนือมนุษย์จะมาที่นี่เพื่อแย่งชิงพลัง มันจะมาแย่งพลังของเขาหรือ...
“พลังอะไร พูดเรื่องอะไร ฉันไม่เข้าใจ..”
“จะมาไม้ไหนอีกล่ะ”
“แอนนา พูดอะไรของเธอ ฉันไม่เข้าใจเธอเลยนะ” เอลแสร้งเล่นละครตบตากลับ ขณะที่กำลังปิดกั้นความคิดไว้โดยการทำสมาธิให้ว่างเปล่า ไม่มีอะไรอยู่ในสมอง
“นึกสิว่าถ้าฉันบังคับยัยนี่แล้วจะไม่สามารถสแกนแกได้ เข้าใจผิดแล้วเอล ฉันจะทำให้ดู” เสียงแอนนาลั่น
ทันใดเอลก็รู้สึกได้ว่าบางอย่างได้แทรกเข้ามาในสมองของเขาจริงๆ
เจ้าบ้านั่นทำได้...
“ฉันอยู่ในสมองแกแล้ว”
“อะไรกันนี่”
“ฉันแค่หยุดพลังที่ควบคุมยัยนี่แล้วพุ่งไปที่แกก็แค่นั้น”
เสียงนั้นก้องอยู่ในโสตประสาทของเอล.....
“จิตของมันช่าง....”
ทันใดนั้นเอลรู้สึกปวดสมองเหมือนกำลังถูกบีบสมองอย่างรุนแรงจนต้องเอามือกุมขมับไว้ทั้งสองข้าง
“โอยเจ้าชั่วช้า แกคือใคร บอกมาสิวะ ไม่แน่จริงนี่หว่าโอ้ยยยยยยยยย” เขาร้องลั่นเพราะกำลังถูกบีบสมองอยู่
“คนที่แกเรียกว่าผู้บุกรุกไง ฉันเก่งกว่าแก ฉะนั้นอย่าขัดขืน ไม่งั้นฉันจะทรมานแกจนตายไปเลย” เสียงออกมาจากปากแอนนาซึ่งหน้าตาน่ากลัว
เอลรู้สึกดีขึ้นไม่ปวดศีรษะแล้ว เขารู้ว่ามันหยุดการบุกรุกสมองของเขาและกลับไปที่แอนนาแล้ว นั่นแสดงว่ามันไม่สามารถควบคุมอะไรได้ทีละสองอย่าง
“แกไม่มีทางหาตัวฉันหรอก เจ้าชิลด์ไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วยสักนิด ฉันนี่แหละที่เป็นคนเอาข้อสอบของแกไปให้กับมันเอง”
“แก...”
“ฉันคือพระเจ้าแห่งโลก แกก็เห็นแล้วนี่ ฉันเอาสมองของใครไปใส่ให้ใครก็ได้และบงการให้มันทำอะไรก็ได้ เรื่องที่ชิลด์กับลองก์ชกกันก็เป็นการกำกับการแสดงของฉัน”
โธ่เว้ย...เสียท่ามันมาตลอด น่าโมโห....
เอลแค้นใจกำมือแน่น ยิ่งเขาโกรธก็ยิ่งทำให้วายร้ายพอใจมากขึ้น
“ฉันสแกนสมองทุกคนในโรงเรียนนี้ไว้หมดแล้ว ฉันรู้ความคิดของทุกคน ความชั่วในสมองพวกแกคือความลับที่ฉันสามารถขายมันได้” วายร้ายในร่างแอนนาพูดอย่างผยอง “…สองอาทิตย์ที่แล้วฉันได้เงินมาเกือบห้าพันดอลล์จากเจ้าลูกเศรษฐีห้องเอฟ ฉันแค่ขู่ว่าจะเปิดโปงพฤติกรรมต่ำทรามของมันที่ทำกับเด็กมัธยมต้น แค่นั้นแหละมันก็เข้าบัญชีค่าปิดปากให้ฉันอย่างว่าง่ายเลยทีเดียว ยอดมั้ย”
“อาชีพของแกหาเงินดีได้ดีนี่ไอ้บ้า”
เอลกำลังหลอกล่อให้มันพูดไปเรื่อยๆ เพื่อจะเดาตัวตนของมันว่ามันเป็นใครในโรงเรียนนี้
คำพูดมันคุ้นๆ....
แต่สิ่งที่เอลคิดนั้นกลับถูกวายร้ายล่วงรู้
“จะหลอกล่อให้ฉันเผยตัวรึ มันไม่ง่ายหรอกเอล”
“แกไม่มีทางรู้ว่าฉันเป็นใครหรอก และถึงแม้แกจะเดาถูกก็อาจจะไม่ใช่อยู่ดี”
มันอ่านความคิดของเราได้....
“แน่ใจหรือเจ้าโง่”
“ฉันเป็นพระเจ้าแห่งโลกนี้ ฉันจะควบคุมทุกคนในเมืองนี้ให้ได้ภายในห้าปี ฉันจะครองประเทศนี้ด้วยมือของเด็กมัธยมปลายตัวเล็กๆนี่ล่ะ”
ตัวเล็กๆ มันต้องตัวเล็กแน่...
“ฉันปล่อยให้แกคุยโวมานานเกินไปแล้ว”
เอลกำลังใช้สติแก้เกมวายร้าย เพราะถ้ามันโจมตีเหมือนเมื่อครู่นี้ เขาคงแย่แน่
...ทำไงดี...
เมื่อคิดถึงตรงนี้เอลก็ถึงกับเหงื่อกาฬแตกอาบหน้า
“หน้าซีดเลยนะเอล”
วายร้ายรู้ถึงความวิตกในใจของเอล แต่เวลานี้มันก็ต้องการช่องโหว่ที่จะเข้าจู่โจมเขาให้ตั้งตัวไม่ได้
“ฮ่ะฮ่ะฮ่ะฮ่ะฮ่ะฮ่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา”
เอลจ้องมองแอนนาที่ยืนมือเท้าสะเอวและหัวเราะร่านั้นด้วยความสับสันว่าจะทำอย่างไรดี
“หัวเราะบ้าอะไรกัน” เอลพรุสวาทดังลั่น
“แกแพ้ฉันตั้งแต่ยังไม่สู้แล้วล่ะ พลังของแกคงไม่เท่าไหร่แน่ เพราะถ้าแกจู่โจมฉัน ฉันก็จะจัดการดับลมหายใจของนังนี่ซะ”
“อย่าทำบ้าๆอย่างนั้นนะ ฉันจะแสดงพลังของฉันให้แกดูเดี๋ยวนี้แหละ”
“ฉันไม่ต้องการรู้แล้ว พลังอำนาจของฉันนี่แหละทรงอำนาจที่สุด ถ้าฉันฆ่าแกได้ก็จะได้พลังของแกมาเอง พลังจะถูกส่งต่อมาที่ฉันเอง”
มันพูดอะไรของมัน ถ้าเราตายพลังของเราจะกลายเป็นของมัน... มันเอาอะไรมาพูด
พลังของผู้แพ้จะกลายเป็นพลังของผู้ชนะ...
จู่ๆเอลก็รู้สึกได้ถึงกฎอะไรสักอย่างขึ้นมา
พลังจะดึงดูดพลัง....
“แกจะได้รู้ว่าพลังของฉันลึกล้ำเพียงใด แกไม่มีทางเอาชนะฉันได้หรอกเจ้าโง่เอล”
ทันใดนั้นวายร้ายก็บังคับมือของแอนนาให้ปลดกระดุมเสื้อของเธอออกทีละเม็ด
“ไอ้ชั่วอย่าทำแบบนั้นนะ” เอลร้องลั่น
“แกจะได้พบกับความสุขสุดยอดที่แกใฝ่ฝันถึงตลอดเวลาไง ความสุขของหนุ่มกลัดมันอย่างแก ฉันยกโอกาสนี้ให้เลย”
“อย่านะ อย่าทำบ้าๆนะ.........” เสียงเอลขาดหายไป เขายกมือจับที่ปากด้วยความสงสัยว่าเสียงหายไปไหนหมด
อะไรกัน...ทำไมเสียงของเรา...หายไป
เอลตะลึงลาน เขารู้ว่ากำลังถูกรุกล้ำอีกครั้งแล้ว มันกำลังปิดเสียงของเขา
.................................................................................................................................................
เอลเอามือกุมใบหน้าด้านที่โดนจูบเมื่อครู่ ด้วยความโมโหที่มันกลายเป็นความฝันไปแล้วจริงๆ
“จูบเดียวทำให้แกเคลิ้มได้ขนาดนี้เชียวรึ ที่จริงฉันน่าจะทำให้มันมากกว่านี้”
เสียงนั้นกวนอารมณ์เอลมาก
“แกเป็นใคร ทำไมทำแบบนี้วะ” เอลแผดเสียงลั่นด้วยความโกรธ
“ทำไมเรียกแอนนาว่าแกนะ...หยาบคายจริงๆ”
“ไม่ต้องมาเสแสร้ง แกไม่ใช่แอนนา บอกมาเดี่ยวนี้ แกเป็นใคร”
“ไม่ใช่แอนนาแล้วเป็นใครล่ะ เอลนี่ชักจะเพี้ยนใหญ่แล้วนะ..” เสียงเด็กสาวอ้อนขณะยกมือขึ้นลูบไล้หน้าอกของเอล
เอลนึกขึ้นมาได้ว่าเคยได้ข่าวว่าตอนอยู่โรงเรียนเก่าแอนนามีชื่อเสียงด้านการแสดงละครเวที..
หรือว่าเธอกำลังเล่นละครอยู่...
“เล่นได้สมบทบาทจริงๆนะแอนนา ฉันเชื่อเธอเลย” เอลยิ้ม มือยังเกาะกุมมือของแอนนาอยู่ “ฉันยอมแพ้แล้ว เลิกเล่นได้แล้ว..ไม่เห็นต้องเล่นถึงขนาดนี้...”
เอลปล่อยมือแอนนาและลุกขึ้น
“กลับบ้านดีกว่า เดี๋ยวใครมาเห็นเข้าจะแย่นะ”
เด็กสาวงุนงงและสีหน้าแปรเปลี่ยน
“ฉันยอมแพ้เธอแล้วไม่ต้องลองใจฉันหรอก กลับเถอะ แต่ก่อนออกจากห้องควรดูลาดเลาให้ดีก่อน ใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อยเร็วเข้า”
เอลดึงเด็กสาวให้ลุกขึ้นจนเธอเซถลาเข้าหาทั้งตัว เขาเห็นใบหน้าขึงขังเหยเกน่ากลัวของแอนนากลับยิ้ม
“เป็นอะไรไปอีกล่ะ”
“ใครว่าฉันล้อแกเล่น เอล อย่ามาทำตลกนักเลย” แอนนาเสียงกร้าวตาขวางเหมือนผีเข้า “ไอ้อ่อนหัดคิดจะถ่วงเวลาเหรอ”
“ไปเถอะ” เอลดึงมือเด็กสาวอีก แต่แอนนากลับยืนตัวแข็งทื่อ
“แกไม่รู้เรื่องพลังเหนือโลกเลยหรือไง โลกนี้ไม่ใช่มีแต่แกคนเดียวเท่านั้นที่เป็นพวกเหนือมนุษย์ ขณะนี้พวกเหนือมนุษย์มากมายกำลังมาที่นี่เพื่อชิงพลังของแก แกไม่รู้อะไรเลยหรือวะ”
คำพูดนี้ทำให้เอลต้องปล่อยมือแอนนาทิ้ง
พวกเหนือมนุษย์?
“ฉันรู้เรื่องของแกจากการอ่านใจ ทำให้ฉันเข้าถึงแกได้ง่ายๆ”
“อ่านใจ...” เอลคิ้วขมวด
“จงบอกฉันมาว่าพลังที่แท้จริงๆของแกคืออะไรกันแน่”
“แกคือพวกเหนือมนุษย์…แกอยู่ในร่างแอนนา.. แกอ่านใจได้...?” เอลหน้าตาตื่น
“บอกมาสิว่าพลังที่แท้จริงๆของแกคืออะไร..เอล”
“แกคือพวกเหนือมนุษย์…แกทำอะไรแอนนา...แกสิงแอนนาใช่มั้ย ปล่อยเธอนะ”
“ฉันไม่ได้สิงสู่ แต่ฉันสะกดจิตและสั่งการจากที่ไกลๆ ต่างหากล่ะ เป็นไง..ตกใจล่ะสิ”
“แก............” เอลสีหน้าเคร่งเครียดทั้งโกรธทั้งโมโห “แกทำเรื่องบ้าๆได้ยังไงกันวะ”
“แสดงพลังของแกให้ฉันดูเป็นขวัญตาหน่อยสิเอล”
“ถ้าแกเก่งนักก็ดูเอาเองสิ”
“เรื่องแย่ๆในสมองของแกกับสาวๆในโรงเรียนนี้น่าอ้วกหวะ”
“อย่าพูดบ้าๆนะ”เอลชักเดือด
“จะว่าไปก็เป็นเรื่องธรรมดาของเด็กหนุ่มวัยแตกพาน ไม่แปลกที่จะคิดฝันลมๆแล้งๆกับพวกสาวๆ”
“หยุดได้แล้ว ออกจากร่างแอนนาเดี๋ยวนี้นะ”
เอลเริ่มแน่ใจแล้วว่าแอนนาถูกสะกดจิตเอาไว้ เจ้านั่นอาจจะเป็นปีศาจก็ได้ ถ้าเป็นพวกเหนือมนุษย์ การสั่งการจากที่ไกลๆของมันหมายความว่าอย่างไร แสดงว่ามันต้องอยู่ใกล้ๆกันนี้แน่ เขาพยายามควบคุมสติไว้และคิดว่าต้องใช้สติปัญญาอันแน่วแน่จึงจะแก้ไขสถานะการณ์นี้ได้ แต่ไม่ว่าจะเป็นปีศาจหรือพวกเดียวกัน มันก็น่ากลัวทั้งคู่แหละ อีกอย่างที่มันขู่ว่าพวกเหนือมนุษย์จะมาที่นี่เพื่อแย่งชิงพลัง มันจะมาแย่งพลังของเขาหรือ...
“พลังอะไร พูดเรื่องอะไร ฉันไม่เข้าใจ..”
“จะมาไม้ไหนอีกล่ะ”
“แอนนา พูดอะไรของเธอ ฉันไม่เข้าใจเธอเลยนะ” เอลแสร้งเล่นละครตบตากลับ ขณะที่กำลังปิดกั้นความคิดไว้โดยการทำสมาธิให้ว่างเปล่า ไม่มีอะไรอยู่ในสมอง
“นึกสิว่าถ้าฉันบังคับยัยนี่แล้วจะไม่สามารถสแกนแกได้ เข้าใจผิดแล้วเอล ฉันจะทำให้ดู” เสียงแอนนาลั่น
ทันใดเอลก็รู้สึกได้ว่าบางอย่างได้แทรกเข้ามาในสมองของเขาจริงๆ
เจ้าบ้านั่นทำได้...
“ฉันอยู่ในสมองแกแล้ว”
“อะไรกันนี่”
“ฉันแค่หยุดพลังที่ควบคุมยัยนี่แล้วพุ่งไปที่แกก็แค่นั้น”
เสียงนั้นก้องอยู่ในโสตประสาทของเอล.....
“จิตของมันช่าง....”
ทันใดนั้นเอลรู้สึกปวดสมองเหมือนกำลังถูกบีบสมองอย่างรุนแรงจนต้องเอามือกุมขมับไว้ทั้งสองข้าง
“โอยเจ้าชั่วช้า แกคือใคร บอกมาสิวะ ไม่แน่จริงนี่หว่าโอ้ยยยยยยยยย” เขาร้องลั่นเพราะกำลังถูกบีบสมองอยู่
“คนที่แกเรียกว่าผู้บุกรุกไง ฉันเก่งกว่าแก ฉะนั้นอย่าขัดขืน ไม่งั้นฉันจะทรมานแกจนตายไปเลย” เสียงออกมาจากปากแอนนาซึ่งหน้าตาน่ากลัว
เอลรู้สึกดีขึ้นไม่ปวดศีรษะแล้ว เขารู้ว่ามันหยุดการบุกรุกสมองของเขาและกลับไปที่แอนนาแล้ว นั่นแสดงว่ามันไม่สามารถควบคุมอะไรได้ทีละสองอย่าง
“แกไม่มีทางหาตัวฉันหรอก เจ้าชิลด์ไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วยสักนิด ฉันนี่แหละที่เป็นคนเอาข้อสอบของแกไปให้กับมันเอง”
“แก...”
“ฉันคือพระเจ้าแห่งโลก แกก็เห็นแล้วนี่ ฉันเอาสมองของใครไปใส่ให้ใครก็ได้และบงการให้มันทำอะไรก็ได้ เรื่องที่ชิลด์กับลองก์ชกกันก็เป็นการกำกับการแสดงของฉัน”
โธ่เว้ย...เสียท่ามันมาตลอด น่าโมโห....
เอลแค้นใจกำมือแน่น ยิ่งเขาโกรธก็ยิ่งทำให้วายร้ายพอใจมากขึ้น
“ฉันสแกนสมองทุกคนในโรงเรียนนี้ไว้หมดแล้ว ฉันรู้ความคิดของทุกคน ความชั่วในสมองพวกแกคือความลับที่ฉันสามารถขายมันได้” วายร้ายในร่างแอนนาพูดอย่างผยอง “…สองอาทิตย์ที่แล้วฉันได้เงินมาเกือบห้าพันดอลล์จากเจ้าลูกเศรษฐีห้องเอฟ ฉันแค่ขู่ว่าจะเปิดโปงพฤติกรรมต่ำทรามของมันที่ทำกับเด็กมัธยมต้น แค่นั้นแหละมันก็เข้าบัญชีค่าปิดปากให้ฉันอย่างว่าง่ายเลยทีเดียว ยอดมั้ย”
“อาชีพของแกหาเงินดีได้ดีนี่ไอ้บ้า”
เอลกำลังหลอกล่อให้มันพูดไปเรื่อยๆ เพื่อจะเดาตัวตนของมันว่ามันเป็นใครในโรงเรียนนี้
คำพูดมันคุ้นๆ....
แต่สิ่งที่เอลคิดนั้นกลับถูกวายร้ายล่วงรู้
“จะหลอกล่อให้ฉันเผยตัวรึ มันไม่ง่ายหรอกเอล”
“แกไม่มีทางรู้ว่าฉันเป็นใครหรอก และถึงแม้แกจะเดาถูกก็อาจจะไม่ใช่อยู่ดี”
มันอ่านความคิดของเราได้....
“แน่ใจหรือเจ้าโง่”
“ฉันเป็นพระเจ้าแห่งโลกนี้ ฉันจะควบคุมทุกคนในเมืองนี้ให้ได้ภายในห้าปี ฉันจะครองประเทศนี้ด้วยมือของเด็กมัธยมปลายตัวเล็กๆนี่ล่ะ”
ตัวเล็กๆ มันต้องตัวเล็กแน่...
“ฉันปล่อยให้แกคุยโวมานานเกินไปแล้ว”
เอลกำลังใช้สติแก้เกมวายร้าย เพราะถ้ามันโจมตีเหมือนเมื่อครู่นี้ เขาคงแย่แน่
...ทำไงดี...
เมื่อคิดถึงตรงนี้เอลก็ถึงกับเหงื่อกาฬแตกอาบหน้า
“หน้าซีดเลยนะเอล”
วายร้ายรู้ถึงความวิตกในใจของเอล แต่เวลานี้มันก็ต้องการช่องโหว่ที่จะเข้าจู่โจมเขาให้ตั้งตัวไม่ได้
“ฮ่ะฮ่ะฮ่ะฮ่ะฮ่ะฮ่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา”
เอลจ้องมองแอนนาที่ยืนมือเท้าสะเอวและหัวเราะร่านั้นด้วยความสับสันว่าจะทำอย่างไรดี
“หัวเราะบ้าอะไรกัน” เอลพรุสวาทดังลั่น
“แกแพ้ฉันตั้งแต่ยังไม่สู้แล้วล่ะ พลังของแกคงไม่เท่าไหร่แน่ เพราะถ้าแกจู่โจมฉัน ฉันก็จะจัดการดับลมหายใจของนังนี่ซะ”
“อย่าทำบ้าๆอย่างนั้นนะ ฉันจะแสดงพลังของฉันให้แกดูเดี๋ยวนี้แหละ”
“ฉันไม่ต้องการรู้แล้ว พลังอำนาจของฉันนี่แหละทรงอำนาจที่สุด ถ้าฉันฆ่าแกได้ก็จะได้พลังของแกมาเอง พลังจะถูกส่งต่อมาที่ฉันเอง”
มันพูดอะไรของมัน ถ้าเราตายพลังของเราจะกลายเป็นของมัน... มันเอาอะไรมาพูด
พลังของผู้แพ้จะกลายเป็นพลังของผู้ชนะ...
จู่ๆเอลก็รู้สึกได้ถึงกฎอะไรสักอย่างขึ้นมา
พลังจะดึงดูดพลัง....
“แกจะได้รู้ว่าพลังของฉันลึกล้ำเพียงใด แกไม่มีทางเอาชนะฉันได้หรอกเจ้าโง่เอล”
ทันใดนั้นวายร้ายก็บังคับมือของแอนนาให้ปลดกระดุมเสื้อของเธอออกทีละเม็ด
“ไอ้ชั่วอย่าทำแบบนั้นนะ” เอลร้องลั่น
“แกจะได้พบกับความสุขสุดยอดที่แกใฝ่ฝันถึงตลอดเวลาไง ความสุขของหนุ่มกลัดมันอย่างแก ฉันยกโอกาสนี้ให้เลย”
“อย่านะ อย่าทำบ้าๆนะ.........” เสียงเอลขาดหายไป เขายกมือจับที่ปากด้วยความสงสัยว่าเสียงหายไปไหนหมด
อะไรกัน...ทำไมเสียงของเรา...หายไป
เอลตะลึงลาน เขารู้ว่ากำลังถูกรุกล้ำอีกครั้งแล้ว มันกำลังปิดเสียงของเขา
.................................................................................................................................................
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ