เอล คนทะลุมิติ chapter 1

-

เขียนโดย pong43

วันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2556 เวลา 19.34 น.

  48 ตอน
  0 วิจารณ์
  56.23K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 17 มีนาคม พ.ศ. 2556 20.29 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

21) เอล คนทะลุมิติ ตอนที่ 21

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

สู่กับดัก

 

ห้านาทีต่อมาขณะที่เอลกำลังเดินขึ้นไปยังห้องเรียนซึ่งเป็นห้องติดริมบันไดตึก จู่ๆร่างของเด็กชายคนหนึ่งก็ถูกซัดร่วงลงมากระแทกเอลจนเสียหลักตกบันไดลงมาสองสามขั้น แต่ก็ทรงตัวไว้ได้เพราะจับราวบันไดเอาไว้ได้ทัน

เอลกลับจับมือของเด็กคนนั้นไว้ได้ทันเพราะกลัวว่าจะตกบันไดลงไปคอหัก แต่เจ้านั่นกลับกลายเป็น

“ลองก์” ลองก์ไม่ได้หันมามองหน้าเอล หมายวิ่งกลับขึ้นไปข้างบน แต่ถูกเอลดึงมือเอาไว้

“ใครทำนายวะ” เอลถาม แต่ลองก์ก็ไม่หันหน้ามามองเอล ทำให้เขารู้สึกว่าต้องเกิดอะไรบางอย่างกับลองก์แน่ ลองก์ไม่พูดไม่จาวิ่งกลับขึ้นไป

เอลเดินตามขึ้นไปและพบเด็กคนหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้า

“แก”

เขารับรู้ได้ในทันทีว่าลองก์ถูกอะไรบางอย่างควบคุมอยู่ และคนที่เล่นงานลองก์คือเจ้าคนที่อยู่ตรงหน้านี้

“ชิลด์”

ชิลด์ยืนจ้องหน้าเขาตาเขม็ง แต่เอลรู้สึกว่าดวงตานั้นเลื่อนลอยไร้แววตาเสียมากกว่า

ทันใดนั้นลองก์ซึ่งยังคงยืนนิ่งตรงหน้าชิลด์ก็กระโดดเข้าชกหน้าชิลด์อย่างแรงไปทีหนึ่ง ชิลด์กระเด็นไปแต่กลับทรงตัวได้และพุ่งเข้าหาลองก์

แล้วทั้งคู่ก็ยืนแลกหมัดกันอย่างไม่กลัวเจ็บเลยสักนิด เอลตกตะลึงร้องขึ้น

“อย่าตีกัน อย่า อย่า หยุดได้แล้ว”

ท่ามกลางเสียงร้องของเพื่อนๆ ให้ทั้งสองคนหยุด แต่ทั้งลองก์และชิลด์ไม่มีทีท่าว่าจะยอมหยุด มีเพียงเด็กชายสองสามคนที่เชียร์ให้ทั้งสองชกกัน

“ซัดมันเลย ซัดมัน”

เอลรู้ว่าต้องมีอะไรแปลกๆอยู่แน่ ลองก์ซึ่งขี้ขลาดแทบแย่กลับยืนแลกหมัดกับชิลด์ได้ จู่ๆ ครูนีน่าก็วิ่งเข้ามาห้าม

“หยุดได้แล้ว หยุดได้จะบ้าหรือไง”

เอลและเด็กชายสองสามคนจึงวิ่งเข้าไปแยกทั้งสองคนออกจากกัน และเมื่อทั้งคู่แยกจากกัน ลองก์ซึ่งมีเอลล๊อคแขนอยู่กลับตาเหลือกจนเห็นแต่ตาขาว

“ลองก์ ๆ เป็นอะไร เฮ้ย”

“ลองก์กำลังจะชัก” ครูนีน่าเห็นว่าลองก์กำลังจะชัก เอลก็รู้สึกเช่นนั้น ชิลด์ก็เหมือนกับลองก์ ทั้งสองกำลังจะชักตาตั้งด้วยกันทั้งคู่

“พวกเราหาผ้าอุดปากเจ้านั่นเร็วมันจะชักแล้ว”

เอลร้องบอกสองคนที่พยุงชิลด์ไว้ ส่วนทางลองก์ ครูนีน่าเอาผ้าเช็ดหน้าอุดปากไปเรียบร้อยแล้ว ทั้งสองชักเพียงเล็กน้อยและสักครู่ก็สลบไสลไม่ได้สติไป

                “เกิดอะไรขึ้นกันนี่ พวกเขาเป็นอะไรไปแล้ว”

เสียงสาวๆร้องลั่นที่เห็นทั้งสองคออ่อนคอพับลงไป  ครูนีน่าจึงร้องบอกให้พาทั้งสองไปห้องพยาบาล

“เร็วๆ หลีกทางให้หน่อยเร็ว” เอลเอาลองก์พาดไหล่และเด็กอีกคนก็เข้ามาช่วย นักเรียนหลายคนต่างเข้ามาช่วยกันพยุงทั้งสองไปห้องพยาบาลซึ่งอยู่ถัดออกไปอีกสองตึก

เกิดอะไรขึ้นกันนะไม่เข้าใจเลยจริงๆ ... เอลยืนงงอยู่ระเบียงตึก

ทุกอย่างกลับคืนเป็นปรกติ เอลกวาดตาไปรอบๆ บริเวณนั้นและสายตาก็ไปสะดุดที่เงาร่างไกลๆของคนๆหนึ่งซึ่งหลบวูบลงบันไดซึ่งอยู่อีกฝากหนึ่งของตึก

เจ้านั่น…

เอลเห็นแค่เงาของเด็กนักเรียนคนหนึ่งในชุดสูทที่ใส่เหมือนกันทั้งโรงเรียน แม้ไม่แน่ใจแต่เขาหูตาไวย่อมมองออกว่าเด็กนั่นมีพิรุธ

......................................................................................................

 

หกโมงเย็น

ที่ห้องเรียนซี

เย็นแล้ว เอลยังไม่กลับบ้าน นั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยในห้องเรียนที่เหลือแต่เพียงเขาคนเดียว

มันเรื่องบ้าอะไรกัน

เขากำลังนั่งคิดถึงเรื่องนั้นอยู่  เพราะก่อนหน้านี้เด็กๆในห้องต่างพูดกันเป็นเสียงเดียวกันว่าทั้งสองโดนผีสิง

“ฉันเห็นกับตา จู่ๆ ลองก์ก็ลุกขึ้นและเดินอาดๆออกไปจากห้องไปหาเจ้านั่น พอพวกเราตามออกมาก็เห็นชิลด์ถูกลองก์ถีบกระเด็นออกมานอกห้อง หลังจากนั้นทั้งสองก็ซัดกันนัวเนียแบบนั้นแหละ”

หรือว่าทั้งคู่ถูกผีเข้า... เป็นไปได้ยังไงกัน...

เขาพยายามครุ่นคิดหาความจริงของเรื่องนี้ หรือว่าเป็นแผนการของเจ้าผู้บุกรุกทางจิตนั่น

สองคนน่าจะถูกสะกดจิตมากกว่าผีสิง... เจ้าตัวการคงสะกดจิตทั้งคู่ไว้ 

เอลนั่งหลับตาพิงเก้าอี้ ลมเย็นๆทำให้เขาหลับไปงีบหนึ่ง

จู่ๆ ก็มีมือนุ่มนิ่มมาแตะไหล่ทั้งสองของเขา และค่อยๆนวดไหล่ของเขาอย่างช้าๆ แต่เขายังคงนิ่งอยู่และไม่ยอมลืมตา

มือใคร ไม่น่าจะมีใครอยู่แล้วนี่นา รู้สึกเป็นมือของผู้หญิงด้วย 

เอลลืมตาแค่ครึ่งเดียว ก็เห็นนิ้วมือนวดอยู่ที่ไหล่ เป็นมือผู้หญิงนี่นา  

นิ้วขาวยาวเรียวเล็ก มือสาวจริงๆด้วย...

แล้วเขาก็แกล้งทำเป็นไม่ลืมตาทำไม่รู้ไม่ชี้  มือนั้นยังคงนวดอยู่ที่ไหล่ทั้งสองข้าง และบีบนวดไปเรื่อยๆ ไม่มีทีท่าว่าจะพูดอะไรออกมาสักคำ เขาได้กลิ่นกายของหญิงสาว กลิ่นน้ำหอมเบาๆลอยมาปะทะจมูกของเขา

หอมจัง ยัยนี่เป็นใครกันนะ...

ทันใดนั้นริมฝีปากของหญิงสาวนั้นก็อ้อมมาจุมพิตที่แก้มด้านขวาของเขา

เฮ้ย ไม่ได้แล้วเว้ย... 

เอลสะดุ้งพลิกตัวหันมาจับแขนของหญิงสาวนั้นไว้ เมื่อเห็นชัดว่าเป็นใคร ยิ่งทำให้เอลแปลกใจเข้าไปใหญ่

“แอนนา”

เอลอุทานและปล่อยมือด้วยความตกใจ เขาขยี้ตาเพื่อให้แน่ใจว่าคนๆนั้นคือแอนนาจริงๆ เธอยืนยิ้มตาแป๋วมองมาที่เอลอย่างเชิญชวน

“แอนนา นี่เธอ” เอลกลับหน้าแดงขณะที่แอนนายังยิ้มไม่พูดไม่จา

“ยังไม่กลับบ้านหรือ” เอลจับแก้มของตนเองที่ถูกจุมพิตเมื่อครู่ เขายังไม่เชื่อเสียทีเดียวว่าเมื่อครู่แอนนาเป็นคนจูบเขา

“ไม่น่าเชื่อ นี่มันเรื่องจริงหรือนี่..”

เป็นจุมพิตของหญิงสาวคนแรกในชีวิต เอลมองแอนนาที่ยืนยิ้มอย่างไม่เชื่อสายตา ทำไมต้องทำตาเซ็กซี่แบบนั้นนะ...หรือว่าเราฝันไป ตรงหน้าเราก็แอนนาจริงๆนี่นา

ทำไมเธอทำแบบนี้ล่ะ ทำไม หรือว่า.. เธอชอบเรา...

“ฉันชอบเธอนะ ฉันแอบชอบเธอมาตั้งแต่สมัยโรงเรียนเก่าแล้ว ชื่อเสียงเธอดังไปทั่ว เด็กๆโรงเรียนอื่นรู้จักเธอกันทั้งนั้น”

นี่เป็นเรื่องจริงหรือนี่ ไม่น่าเชื่อ... เอลร้องในใจ หัวใจเต้นตูมตาม

............................................................................................................................

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา