รักนะ...นายขี้เก๊ก(TK)
5.5
3) มาถึงเกาะ(มรณะ)แสนสุข(ตรงไหน)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความสนามบินภูเก็ต
ในที่สุดก็ถึงภูเก็ต>.< ฉันอ่าต้องนั่งตัวลีบที่เครื่องบินตลอดทางเลย ไม่แฟร์ชะมัด>3< แต่อย่างน้อยฉันหวังว่าพี่ชายกับไอ้พวกนายจอมกวนนั่นจะไม่มาที่บ้าน(ของพี่ป๊อบ)ด้วยนะ ไม่งั้นฉันลาตายเลย
“คุณหนูเล็ก ทางนี้ครับ”เสียงเรียกของชายวัย50กว่าๆอย่างลุงชัยเรียกฉัน แหม๋ต่อไปฉันต้องให้ลุงชัยกับลุงโชคเที่ยวด้วยกันบ้างละ ช่วงนี้หน้าเริ่มไม่เหมือนกันขึ้นทุกวัน
“นี่ แก้วลุงโชคมาที่นี้ด้วยหรอ?”ยัยเฟย์ถามแปลกใจ
สมควรแปลกใจ..
“เอาน่าเฟย์เดี๋ยวแกไปที่บ้านฉันทุกที่แล้วแกจะงงยิ่งกวานี้”ฉันบอกปัดอย่างหน่าย จะไม่ให้เบื่อได้ไงใครที่มาบ้านฉันก็ถามเรื่องนี้ทุกคนเลย เซง
ลุงชัยเดินเข้ามาลากกระเป๋าฉันและยัยเฟย์ เพราะเราหอบมาเยอะเว่อร์=_= แต่พี่ฟางน่ะกระเป๋าเป้ใบเดียวจบเพราะพี่แกส่งมาที่นี้ตั้งตอนที่ฉันไปดูดาวกับยัยเฟย์แล้ว ลุงชัยขับรถเลียบภาพชายฝั่งของภูเก็ต หาดสีขาวกับทะเลสีฟ้าครามสดใส
คิดถึงจังเลย บรรยากาศแบบนี้...
ฉันแปลกใจกับความคิดตัวเองอีกแล้ว ทำถึงถูกรู้สึกคุ้นแปลกอีกแล้วนะทั้งที่เคยมากับพ่อแม่แล้วก็พี่ป๊อปตั้งหลายครั้ง แต่กลับรู้สึกเหมือนว่าทุกครั้งจะมีคนๆหนึ่งมาด้วยแต่ทำไมละ
ทำไมคิดไม่ออก...
“แก้วถึงแล้ว”เฟย์ร้องตะโกนใส่แก้วหูฉัน นี่ยัยเฟย์ยัยเพื่อนใจร้าย
“ตะโกนทำบ้าอะไรยะยัยเพื่อนบ้า”ฉันแว๊กใส่ พลางลูบหูตัวเองเบา
“ก็ฉันเห็นแกเหม่อนี่ เป็นอะไรหรอ”ยัยเฟย์บอกเสียงงงๆ
แต่ฉันก็ขี้เกียจเถียงเลยเดินขึ้นไปที่บ้านโดยไม่รอให้ลุงชัยเชิญ ทันทีที่ผลักประตูบ้านเปิดออกสิ่งที่ฉันเห็นคือเมดยันพ่อครัวออกมายืนรอรับอย่างกับฉันเป็นราชนิกูล บอกแล้วไม่เคยฟังว่าไม่ต้องออกมาเรียงแถวต้อนรับ เฮ้อ!!!
คนสวยเซ็ง!!!~
“เชิญคุณหนูเล็กไปพักผ่อนก่อนนะค่ะ เดี๋ยวป้าจะขึ้นไปเรียกลงมาทานอาหารกลางวัน”เสียงของหญิงชราที่ดูอาวุโสที่สุดในกลุ่มสาวใช้บอกกับฉัน แหม๋ป้าหวนนี่ต่างกับป้าหอมลิบลับเลยจริงๆ
แล้วป้าหวนก็จัดการสั่งบ่าวไพร่(ศัพท์เรียกโคตรโบราณ)ให้ยกกระเป๋าและข้าวของต่างๆของพวกเราขึ้นไปชั้นสองทางทิศตะวันออก โซนของบ้านจะแบ่งเป็นห้องนอนแขกแล้วก็เจ้าบ้านซึ่งนั่นแปลว่าฉันต้องไปนอนที่ฝั่งตะวันตกนั้นเอง ส่วนยัยเฟย์กับพี่ฟางก็ไปนอนที่ห้องของแขกทางตะวันออก ตอนแรกกะว่าจะไปอยู่โซนตะวันออกนะแต่มันติดตรงที่ว่าการย้ายของออกจากห้องน่ะมันใช้เวลาเลยจำใจนอนคนเดียว ฉันเหลือมองไปที่ห้องซึ่งอยู่ในสุดของฝั่งตะวันตกห้องที่ไม่ว่าใครก็เข้าไปไม่ได้เพราะมันเป็น..
ห้องของคุณพ่อคุณแม่...
แต่ฉันก็ไม่อยากจะคิดถึงอดีตอันแสนเลวร้ายนั่นอีก เพราะงั้นเลยถึงเวลาที่ฉันจะเข้าไปพักผ่อนในห้องหลังจากที่ยืนรอเมดทำความสะอาดภายในห้อง ช้าโคตรๆๆ
ตัดเงินเดือนมันซะเลยดีไหมเนี่ย!!!=_=
“นี่ทำไมน้องถึงมาช้า ทั้งที่ลงจากเครื่องก่อนพี่”เสียงทุ้มเรียบดังมาจากด้านหลังซึ่งเป็นห้องของเฮ้ย!!!
พี่ป๊อปปี้!!!!
“O_oพะ..พี่มาอยู่นี่ได้ยังไง”ฉันถาม เฮ้ยไหนว่าไปทำงานไม่ใช่หรอไงฟะ
“ก็นี่บ้านของพี่เหมือนกัน ทำไมพี่จะมาอยู่ไม่ได้ละ”พี่ป๊อปปี้ตอบหน้าตาย
“หรือว่าพี่..”ฉันพูดอย่างรู้ทัน
โอ๊ย!!
เสียงเตะประตูห้องดังมาจากฉันเอง ทำไมฉันโง่งี้นะ รู้ทั้งรู้ว่าพี่ป๊อปปี้ขึ้นเครื่องมาด้วยต้องไม่ใช่ธุระแน่ๆแต่ฉันก็ยัง...
“น้องเสียรู้พี่อีกแล้ว ต่อไปพยายามเข้านะ”พี่ป๊อปปี้พูดพร้อมกับเดินเข้าห้องไป นี่ฉันต้องเจอไอ้นั่นใช่ไหมเนี่ย
คิดแล้ว เครียด !!!
คนสวยเครียด!!!!
เดี๋ยวมาอัพที่เหลือนะค่ะ คือเอาไปอ่านก่อนสัก25% นะค่ะ
ดีหรือไม่ดีก็ช่วยเม้นด้วยนะค่ะ
ภายในห้องของฉันส่วนใหญ่ตกแต่งด้วยของน่ารักๆที่ถ้าบอกใครก็ไม่มีใครเชื่อฉันหรอก เพราะทุกคนคิดว่าฉันมันหยิ่งน่ะสิ แต่ก็เอาเหอะฉันไม่แคร์หรอก ฉันเดินเข้าไปในห้องเพื่อเดินหาของบางอย่างที่ฉันเองยังงงๆ ว่ามันคืออะไรแต่ลางสังหรณ์ของฉันบอกว่ามันคือของสำคัญที่ใครเห็นไม่ได้
และมันคือของที่เป็นความลับของฉัน
พรึบ!!
ฉันเดินเข้าไปเปิดลิ้นชักในตู้เสื้อผ้าที่อยู่ข้างโต๊ะอ่านหนังสือ ของที่อยู่ในลิ้นชักทำให้ฉันแทบจะตกใจ ไม่ใช่อะไรหรอกมันคือ
รูป!!!
“นี่มันรูปฉันตอนเด็กๆนี่นา”
ฉันแปลกใจสุดๆทั้งที่ฉันพยายามหารูปพวกนี้มาตลอด แต่ทำไมถึงมาอยู่ที่นี้ละจำได้ว่ามีคนให้ฉันแต่มันน่าจะอยู่คฤหัสถ์ที่กรุงเทพไม่ใช่หรอ แต่รูปที่ทำให้ฉันต้องตกใจมากกว่าเดิมคือ
รูปคือฉันกับนายโทโมะ!!!O_o
ทำไมมาอยู่ที่นี้ และนี้ทำไมฉันถึงถ่ายรูปกับนายนั่นแล้วยิ้มแบบ ไอ้ยิ้มแบบที่คนมองโลกในแง่บวกยิ้มกัน
ทำไม!!!
“โอ๊ย ปวดหัว อะไรกันโอ๊ย”
โอ๊ย!!! ทำไมฉันปวดหัวอย่างนี้ นี่มันอะไรกันโอ๊ย!!!
“ช่วยด้วย”ฉันรวมแรงเฮือกสุดท้ายร้องออกไป
แกร๊ก!!!
“แก้ว นี่แก้ว”
ใครกันนะเรียกฉัน
End Keaw Talk:
( Tomo Talk: )
ผมเดินเข้ามาในห้องของแก้วซึ่งตอนแรกก็จะไม่เข้ามาถ้าเกิดว่าไม่บังเอิญได้ยินเสียงขอความช่วยเหลือ ทันทีที่ผมเปิดประตูเข้ามาร่างบางก็นอนอยู่ที่พื้น มือเล็กๆกุมอยู่ที่ศีรษะราวกับว่ากำลังคิดอะไรบางอย่างได้ “แก้ว นี่แก้ว”
ผมร้องเรียกพลางวิ่งไปประคองร่างเล็ก เธออย่าเปิดอะไรไปนะแก้ว
“แก้วจัย ตื่นสิอย่าเป็นอะไรไปนะ ฉันขอร้อง”
ผมร้องตะโกนราวกับคนบ้า
“เฮ้ยไอ้โมะเกิดอะไรขึ้นวะ ทำไมแกถึง... เฮ้ยยัยน้อง”ไอ้ป๊อปปี้มันร้องถามอย่างแปลกใจเมื่อเห็นว่าผมนั่งตะโกนอยู่ แต่พอมันเห็นว่าแก้วนอนสลบอยู่มันรีบวิ่งมาเขย่าตัวน้องสาวของมัน ในขณะพวกน้องเฟย์ก็วิ่งเข้ามาพร้อมกับสีหน้าตกใจไม่แพ้กัน
แต่ผมไม่ยอมให้คนสำคัญของผมเป็นอะไรไปหรอก
ผมรวบรวมแรงอุ้มแก้วจัยเดินออกจากโดยมีน้องเฟย์กับคุณฟางเดินตามมาอย่างห่วง ส่วนไอ้ป๊อปปี้ก็วิ่งไปเปิดรถรอ ผมอุ้มแก้ววิ่งไปที่รถอย่างรวดเร็วและวางเธอลงที่เบาะหลังโดยมีไอ้ป๊อปเหยียบคันเร่งเต็มที
โรงพยาบาลHealth
พอถึงโรงพยาบาลผมรียอุ้มแก้วจัยไปที่ห้องICUโดยไม่สนว่าต้องทำอะไรก่อนส่งตัวเข้าโรงพยาบาลเพราะโรงพยาบาลไทยน่ะถึงจะฉุกเฉินแต่ต้องหาคนมากรอกบ้าอะไรก็ไม่รู้ผมรำคาญ เลยวิ่งเข้าไปไม่สนด้วยว่าห้องICUจะมีคนไข้อยู่รึเปล่าแต่
แก้วจะต้องไม่เป็นอะไร
ผมนั่งรอหมอสักพักหลังจากส่งแก้วเข้าไปในห้องเรียบร้อย แล้วหมอก็เดินออกมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้มราวกับว่าได้โบนัสงั้นละ ที่รักของผมจะเป็นจะตายมายิ้มงี้ พ่อจะอาละวาดหมอดีไหมฟะ=_=!!
“คุณวิศวะใช่ไหมครับ ตอนนี้คุณจริญญาปลอดภัยแล้วครับ”
โอ้แก้ว ปลอดภัยหรอ
“แต่ผมขอเชิญคุณมากับผมด้วยครับ”
เอ๋!!!
เชิญผมทำไมเนี่ย สงสัยจะต้องมีบางอย่างที่แปลกไปหรือว่า
แก้วเป็นลูคีเมีย!!!
ไม่หรอก ต้องไม่ใช่อย่างนั้นแต่พอผมจะเดินตามหมอไอ้ป๊อปจอมวางแผนก็เดินขึ้นมาพร้อมกับพวกน้องเฟย์ อ๋อถ้าจะถามถึงไอ้เขื่อนละก็นะมันยังนอนไม่ตื่นเลยครับ
ครืด
พยาบาลเลื่อนประตูห้องตรวจโรคของหมออย่างช้าๆราวกับว่าอยากรู้ด้วยว่าแก้วจัยของผมเป็นอะไร หมอขี้มาดก็นั่งเท่ๆ(ทั้งที่หน้าตามันไม่น่า)แล้วจ้องผมด้วยสายตาจริงจัง
“คุณวิศวะ คุณรู้ใช่ไหมครับว่าคุณจริญญาความจำเสื่อม”
ซีเรียส!!!
“ครับ”
“ตอนนี้คุณจริญญาเป็นโรคประหลาดที่ทางแพทย์ก็ยังอธิบายไม่ได้ว่าเป็นอะไร เธอจะกลายเป็นอีกคนที่ตรงข้ามกับเธออย่างมาก”
เหอะๆๆ
“และด้วยที่เธอความจำเสื่อม ทำให้การดึงเอาความทรงจำเดิมมาอย่างจะลำบากมาก”
“แล้วผมจะต้องทำยังไง”
“ถ้าหากเป็นไปได้ผมอยากให้คุณลองรักคุณจริญญาคนใหม่ดู เพราะผมก็ไม่อาจจะบอกได้ว่าเธอจะจำคุณได้รึเปล่า และเปอร์เซ็นต์มันน้อยมากเลยด้วย”
“...”
“ถ้าหากคุณยังฝืนดันทุรังดึงความทรงจำของเธอ นอกจากจะไม่หายความจำเสื่อมแล้วร่างกายเธอก็จะไม่ตอบสนองต่อความทรงจำเดิมเลย และเธออาจกลายเป็นโรคความจำเสื่อมตลอดไป”
คำพูดของหมอทำให้ผมแทบช็อค ผมรักแก้วนะถึงเธอจะเป็นอย่างไง ผมก็จะรักแต่ถ้าหากว่าผมไม่อาจลบภาพของแก้วคนเดิมไปได้ ผมก็ไม่อาจจะคิดว่าแก้วเป็นคนเดียวกันได้
ผมเดินอย่างคนซังกะตายออกมาจากห้องของหมอ ทำไมกันแก้วถึงลืมแค่ผมละ ทั้งที่ผมเป็นคู่หมั้นของเธอ แต่เธอกลับความจำเสื่อมเฉพาะกับผมและช่วงเวลาทั้งหมดที่เรามีด้วยกัน
ผมควรจะทำยังไงต่อไปดี
หวาย ถ้าเธออยู่ที่นี้กับฉันตอนนี้เธอจะช่วยฉันได้ไหมนะ
อ่านแล้วช่วยเม้นหน่อยนะค่ะ
ในที่สุดก็ถึงภูเก็ต>.< ฉันอ่าต้องนั่งตัวลีบที่เครื่องบินตลอดทางเลย ไม่แฟร์ชะมัด>3< แต่อย่างน้อยฉันหวังว่าพี่ชายกับไอ้พวกนายจอมกวนนั่นจะไม่มาที่บ้าน(ของพี่ป๊อบ)ด้วยนะ ไม่งั้นฉันลาตายเลย
“คุณหนูเล็ก ทางนี้ครับ”เสียงเรียกของชายวัย50กว่าๆอย่างลุงชัยเรียกฉัน แหม๋ต่อไปฉันต้องให้ลุงชัยกับลุงโชคเที่ยวด้วยกันบ้างละ ช่วงนี้หน้าเริ่มไม่เหมือนกันขึ้นทุกวัน
“นี่ แก้วลุงโชคมาที่นี้ด้วยหรอ?”ยัยเฟย์ถามแปลกใจ
สมควรแปลกใจ..
“เอาน่าเฟย์เดี๋ยวแกไปที่บ้านฉันทุกที่แล้วแกจะงงยิ่งกวานี้”ฉันบอกปัดอย่างหน่าย จะไม่ให้เบื่อได้ไงใครที่มาบ้านฉันก็ถามเรื่องนี้ทุกคนเลย เซง
ลุงชัยเดินเข้ามาลากกระเป๋าฉันและยัยเฟย์ เพราะเราหอบมาเยอะเว่อร์=_= แต่พี่ฟางน่ะกระเป๋าเป้ใบเดียวจบเพราะพี่แกส่งมาที่นี้ตั้งตอนที่ฉันไปดูดาวกับยัยเฟย์แล้ว ลุงชัยขับรถเลียบภาพชายฝั่งของภูเก็ต หาดสีขาวกับทะเลสีฟ้าครามสดใส
คิดถึงจังเลย บรรยากาศแบบนี้...
ฉันแปลกใจกับความคิดตัวเองอีกแล้ว ทำถึงถูกรู้สึกคุ้นแปลกอีกแล้วนะทั้งที่เคยมากับพ่อแม่แล้วก็พี่ป๊อปตั้งหลายครั้ง แต่กลับรู้สึกเหมือนว่าทุกครั้งจะมีคนๆหนึ่งมาด้วยแต่ทำไมละ
ทำไมคิดไม่ออก...
“แก้วถึงแล้ว”เฟย์ร้องตะโกนใส่แก้วหูฉัน นี่ยัยเฟย์ยัยเพื่อนใจร้าย
“ตะโกนทำบ้าอะไรยะยัยเพื่อนบ้า”ฉันแว๊กใส่ พลางลูบหูตัวเองเบา
“ก็ฉันเห็นแกเหม่อนี่ เป็นอะไรหรอ”ยัยเฟย์บอกเสียงงงๆ
แต่ฉันก็ขี้เกียจเถียงเลยเดินขึ้นไปที่บ้านโดยไม่รอให้ลุงชัยเชิญ ทันทีที่ผลักประตูบ้านเปิดออกสิ่งที่ฉันเห็นคือเมดยันพ่อครัวออกมายืนรอรับอย่างกับฉันเป็นราชนิกูล บอกแล้วไม่เคยฟังว่าไม่ต้องออกมาเรียงแถวต้อนรับ เฮ้อ!!!
คนสวยเซ็ง!!!~
“เชิญคุณหนูเล็กไปพักผ่อนก่อนนะค่ะ เดี๋ยวป้าจะขึ้นไปเรียกลงมาทานอาหารกลางวัน”เสียงของหญิงชราที่ดูอาวุโสที่สุดในกลุ่มสาวใช้บอกกับฉัน แหม๋ป้าหวนนี่ต่างกับป้าหอมลิบลับเลยจริงๆ
แล้วป้าหวนก็จัดการสั่งบ่าวไพร่(ศัพท์เรียกโคตรโบราณ)ให้ยกกระเป๋าและข้าวของต่างๆของพวกเราขึ้นไปชั้นสองทางทิศตะวันออก โซนของบ้านจะแบ่งเป็นห้องนอนแขกแล้วก็เจ้าบ้านซึ่งนั่นแปลว่าฉันต้องไปนอนที่ฝั่งตะวันตกนั้นเอง ส่วนยัยเฟย์กับพี่ฟางก็ไปนอนที่ห้องของแขกทางตะวันออก ตอนแรกกะว่าจะไปอยู่โซนตะวันออกนะแต่มันติดตรงที่ว่าการย้ายของออกจากห้องน่ะมันใช้เวลาเลยจำใจนอนคนเดียว ฉันเหลือมองไปที่ห้องซึ่งอยู่ในสุดของฝั่งตะวันตกห้องที่ไม่ว่าใครก็เข้าไปไม่ได้เพราะมันเป็น..
ห้องของคุณพ่อคุณแม่...
แต่ฉันก็ไม่อยากจะคิดถึงอดีตอันแสนเลวร้ายนั่นอีก เพราะงั้นเลยถึงเวลาที่ฉันจะเข้าไปพักผ่อนในห้องหลังจากที่ยืนรอเมดทำความสะอาดภายในห้อง ช้าโคตรๆๆ
ตัดเงินเดือนมันซะเลยดีไหมเนี่ย!!!=_=
“นี่ทำไมน้องถึงมาช้า ทั้งที่ลงจากเครื่องก่อนพี่”เสียงทุ้มเรียบดังมาจากด้านหลังซึ่งเป็นห้องของเฮ้ย!!!
พี่ป๊อปปี้!!!!
“O_oพะ..พี่มาอยู่นี่ได้ยังไง”ฉันถาม เฮ้ยไหนว่าไปทำงานไม่ใช่หรอไงฟะ
“ก็นี่บ้านของพี่เหมือนกัน ทำไมพี่จะมาอยู่ไม่ได้ละ”พี่ป๊อปปี้ตอบหน้าตาย
“หรือว่าพี่..”ฉันพูดอย่างรู้ทัน
โอ๊ย!!
เสียงเตะประตูห้องดังมาจากฉันเอง ทำไมฉันโง่งี้นะ รู้ทั้งรู้ว่าพี่ป๊อปปี้ขึ้นเครื่องมาด้วยต้องไม่ใช่ธุระแน่ๆแต่ฉันก็ยัง...
“น้องเสียรู้พี่อีกแล้ว ต่อไปพยายามเข้านะ”พี่ป๊อปปี้พูดพร้อมกับเดินเข้าห้องไป นี่ฉันต้องเจอไอ้นั่นใช่ไหมเนี่ย
คิดแล้ว เครียด !!!
คนสวยเครียด!!!!
เดี๋ยวมาอัพที่เหลือนะค่ะ คือเอาไปอ่านก่อนสัก25% นะค่ะ
ดีหรือไม่ดีก็ช่วยเม้นด้วยนะค่ะ
ภายในห้องของฉันส่วนใหญ่ตกแต่งด้วยของน่ารักๆที่ถ้าบอกใครก็ไม่มีใครเชื่อฉันหรอก เพราะทุกคนคิดว่าฉันมันหยิ่งน่ะสิ แต่ก็เอาเหอะฉันไม่แคร์หรอก ฉันเดินเข้าไปในห้องเพื่อเดินหาของบางอย่างที่ฉันเองยังงงๆ ว่ามันคืออะไรแต่ลางสังหรณ์ของฉันบอกว่ามันคือของสำคัญที่ใครเห็นไม่ได้
และมันคือของที่เป็นความลับของฉัน
พรึบ!!
ฉันเดินเข้าไปเปิดลิ้นชักในตู้เสื้อผ้าที่อยู่ข้างโต๊ะอ่านหนังสือ ของที่อยู่ในลิ้นชักทำให้ฉันแทบจะตกใจ ไม่ใช่อะไรหรอกมันคือ
รูป!!!
“นี่มันรูปฉันตอนเด็กๆนี่นา”
ฉันแปลกใจสุดๆทั้งที่ฉันพยายามหารูปพวกนี้มาตลอด แต่ทำไมถึงมาอยู่ที่นี้ละจำได้ว่ามีคนให้ฉันแต่มันน่าจะอยู่คฤหัสถ์ที่กรุงเทพไม่ใช่หรอ แต่รูปที่ทำให้ฉันต้องตกใจมากกว่าเดิมคือ
รูปคือฉันกับนายโทโมะ!!!O_o
ทำไมมาอยู่ที่นี้ และนี้ทำไมฉันถึงถ่ายรูปกับนายนั่นแล้วยิ้มแบบ ไอ้ยิ้มแบบที่คนมองโลกในแง่บวกยิ้มกัน
ทำไม!!!
“โอ๊ย ปวดหัว อะไรกันโอ๊ย”
โอ๊ย!!! ทำไมฉันปวดหัวอย่างนี้ นี่มันอะไรกันโอ๊ย!!!
“ช่วยด้วย”ฉันรวมแรงเฮือกสุดท้ายร้องออกไป
แกร๊ก!!!
“แก้ว นี่แก้ว”
ใครกันนะเรียกฉัน
End Keaw Talk:
( Tomo Talk: )
ผมเดินเข้ามาในห้องของแก้วซึ่งตอนแรกก็จะไม่เข้ามาถ้าเกิดว่าไม่บังเอิญได้ยินเสียงขอความช่วยเหลือ ทันทีที่ผมเปิดประตูเข้ามาร่างบางก็นอนอยู่ที่พื้น มือเล็กๆกุมอยู่ที่ศีรษะราวกับว่ากำลังคิดอะไรบางอย่างได้ “แก้ว นี่แก้ว”
ผมร้องเรียกพลางวิ่งไปประคองร่างเล็ก เธออย่าเปิดอะไรไปนะแก้ว
“แก้วจัย ตื่นสิอย่าเป็นอะไรไปนะ ฉันขอร้อง”
ผมร้องตะโกนราวกับคนบ้า
“เฮ้ยไอ้โมะเกิดอะไรขึ้นวะ ทำไมแกถึง... เฮ้ยยัยน้อง”ไอ้ป๊อปปี้มันร้องถามอย่างแปลกใจเมื่อเห็นว่าผมนั่งตะโกนอยู่ แต่พอมันเห็นว่าแก้วนอนสลบอยู่มันรีบวิ่งมาเขย่าตัวน้องสาวของมัน ในขณะพวกน้องเฟย์ก็วิ่งเข้ามาพร้อมกับสีหน้าตกใจไม่แพ้กัน
แต่ผมไม่ยอมให้คนสำคัญของผมเป็นอะไรไปหรอก
ผมรวบรวมแรงอุ้มแก้วจัยเดินออกจากโดยมีน้องเฟย์กับคุณฟางเดินตามมาอย่างห่วง ส่วนไอ้ป๊อปปี้ก็วิ่งไปเปิดรถรอ ผมอุ้มแก้ววิ่งไปที่รถอย่างรวดเร็วและวางเธอลงที่เบาะหลังโดยมีไอ้ป๊อปเหยียบคันเร่งเต็มที
โรงพยาบาลHealth
พอถึงโรงพยาบาลผมรียอุ้มแก้วจัยไปที่ห้องICUโดยไม่สนว่าต้องทำอะไรก่อนส่งตัวเข้าโรงพยาบาลเพราะโรงพยาบาลไทยน่ะถึงจะฉุกเฉินแต่ต้องหาคนมากรอกบ้าอะไรก็ไม่รู้ผมรำคาญ เลยวิ่งเข้าไปไม่สนด้วยว่าห้องICUจะมีคนไข้อยู่รึเปล่าแต่
แก้วจะต้องไม่เป็นอะไร
ผมนั่งรอหมอสักพักหลังจากส่งแก้วเข้าไปในห้องเรียบร้อย แล้วหมอก็เดินออกมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้มราวกับว่าได้โบนัสงั้นละ ที่รักของผมจะเป็นจะตายมายิ้มงี้ พ่อจะอาละวาดหมอดีไหมฟะ=_=!!
“คุณวิศวะใช่ไหมครับ ตอนนี้คุณจริญญาปลอดภัยแล้วครับ”
โอ้แก้ว ปลอดภัยหรอ
“แต่ผมขอเชิญคุณมากับผมด้วยครับ”
เอ๋!!!
เชิญผมทำไมเนี่ย สงสัยจะต้องมีบางอย่างที่แปลกไปหรือว่า
แก้วเป็นลูคีเมีย!!!
ไม่หรอก ต้องไม่ใช่อย่างนั้นแต่พอผมจะเดินตามหมอไอ้ป๊อปจอมวางแผนก็เดินขึ้นมาพร้อมกับพวกน้องเฟย์ อ๋อถ้าจะถามถึงไอ้เขื่อนละก็นะมันยังนอนไม่ตื่นเลยครับ
ครืด
พยาบาลเลื่อนประตูห้องตรวจโรคของหมออย่างช้าๆราวกับว่าอยากรู้ด้วยว่าแก้วจัยของผมเป็นอะไร หมอขี้มาดก็นั่งเท่ๆ(ทั้งที่หน้าตามันไม่น่า)แล้วจ้องผมด้วยสายตาจริงจัง
“คุณวิศวะ คุณรู้ใช่ไหมครับว่าคุณจริญญาความจำเสื่อม”
ซีเรียส!!!
“ครับ”
“ตอนนี้คุณจริญญาเป็นโรคประหลาดที่ทางแพทย์ก็ยังอธิบายไม่ได้ว่าเป็นอะไร เธอจะกลายเป็นอีกคนที่ตรงข้ามกับเธออย่างมาก”
เหอะๆๆ
“และด้วยที่เธอความจำเสื่อม ทำให้การดึงเอาความทรงจำเดิมมาอย่างจะลำบากมาก”
“แล้วผมจะต้องทำยังไง”
“ถ้าหากเป็นไปได้ผมอยากให้คุณลองรักคุณจริญญาคนใหม่ดู เพราะผมก็ไม่อาจจะบอกได้ว่าเธอจะจำคุณได้รึเปล่า และเปอร์เซ็นต์มันน้อยมากเลยด้วย”
“...”
“ถ้าหากคุณยังฝืนดันทุรังดึงความทรงจำของเธอ นอกจากจะไม่หายความจำเสื่อมแล้วร่างกายเธอก็จะไม่ตอบสนองต่อความทรงจำเดิมเลย และเธออาจกลายเป็นโรคความจำเสื่อมตลอดไป”
คำพูดของหมอทำให้ผมแทบช็อค ผมรักแก้วนะถึงเธอจะเป็นอย่างไง ผมก็จะรักแต่ถ้าหากว่าผมไม่อาจลบภาพของแก้วคนเดิมไปได้ ผมก็ไม่อาจจะคิดว่าแก้วเป็นคนเดียวกันได้
ผมเดินอย่างคนซังกะตายออกมาจากห้องของหมอ ทำไมกันแก้วถึงลืมแค่ผมละ ทั้งที่ผมเป็นคู่หมั้นของเธอ แต่เธอกลับความจำเสื่อมเฉพาะกับผมและช่วงเวลาทั้งหมดที่เรามีด้วยกัน
ผมควรจะทำยังไงต่อไปดี
หวาย ถ้าเธออยู่ที่นี้กับฉันตอนนี้เธอจะช่วยฉันได้ไหมนะ
อ่านแล้วช่วยเม้นหน่อยนะค่ะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6.2 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
4.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
6.2 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ