Vogola Family ตึกตักป่วนหัวใจเหล่าเจ้าชายมาเฟีย!~
6.7
4) ชิโนบุ อาโออิ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“เธอชื่อเทสทารอสซ่าสินะ”
“หืม? อ๋อ เรียกฉันว่าเรนะเหมือนพวกเคียวโกะก็ได้จ้ะ^^”
ฉันยิ้มให้อาโออิอย่างเป็นมิตร แต่เธอก็ยังทำหน้าไร้อารมณ์เหมือนเดิม ที่แปลกไปก็คงจะเป็นแววตา ที่ดูอ่อนโยนกว่าตอนแรกมาก
“อ๊ะ แล้วที่ขอบคุณฉันน่ะ เรื่องอะไรหรอ ฉันจำได้ว่าพึ่งเคยเจอที่นี่นะ”
“อ๋อ เรื่องนั้น ที่ฉันขอบคุณเพราะ เธอคิดจะปกป้องและยอมเป็นเพื่อนกับฉันนะ”
“อ่า..”
จริงด้วยตอนนั้นฉันคิดแบบนี้นี่นา อาโออิก็คงจะรู้แล้วสินะ
“เธอนี่ดีจังนะ ที่ส่มารถอ่านใจคนได้น่ะ^^”
ฉันพูดด้วยท่าทีสบายๆแต่อาโออิกลับมีสีหน้าแย่ลง เหมือนกับเธอไม่ต้องการพลังนี้ ทำไมกันล่ะ ฉันว่ามันก็ออกจะดีนะที่อ่านใจคนได้น่ะ อยากรู้อะไรจากคนคนนั้นก็ได้รู้หากเขาไม่ตอบก็อ่านใจกันไปเลย เอ๊ะ หรือว่าไม่ดีกันแน่นะ =^=
“สำหรับคนอื่น ไม่สิ สำหรับเธอคงคิดว่าการมีพลังแบบนี้เป็นเรื่องดีสินะ”
“...”
ฉันเงียบตั้งใจฟังที่อาโออิกำลังพูด โดยไม่สนใจที่ครูกำลังสอนอยู่ เนื้อหาที่กำลังเรียนจะบอกให้ว่าฉันเคยเรียนมาตั้งแต่ ม.1 แล้วล่ะ ตอนนี้ก็เลยรู้เรื่องหมดนั่นแหละ ขนาดหลับแล้วตื่นมา ฉันก็ตอบคำถามอาจาร์ยได้สบายๆเลยทีเดียว โฮะๆๆ ก็คนมันเก่งนี่ไม่อยากจะโม้
“แต่มันไม่ดีสำหรับฉัน เพราะว่าฉันไม่สามารถควบคุมมันได้น่ะ”
“ควบคุมไม่ได้? อ๊ะ หรือว่า”
“ใช่ ความคิดทุกอย่างจะไหลเข้าสู่หัวของฉันทั้งเรื่องดีและไม่ดี การที่ฉันรู้เรื่องแบบนี้ทำให้เห็นว่า การที่มนุษย์แสดงท่าทีออกมานั้นมันตรงกันข้ามกับที่ตนคิดเลยล่ะ”
“ดังนั้น เธอเลยไม่คบเพื่อนเลยสินะ แล้วแยกตัวออกมาอยู่คนเดียว”
ฉันพูดต่อให้อาโออิ จะว่าไปเธอดูๆแล้วก็น่าสงสารนะเนี่ย
“ฉันไม่ต้องการพลังนี้ ที่ฉันอยากนั่งกับเธอก็เพราะฉันคิดว่าเธอไม่เหมือนคนอื่นๆน่ะ”
“เอ๋...?!”
ไม่เหมือนคน ฉันไม่ใช่คนงั้นหรอ T^T
“ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ฉันน่ะถ้าปกติจะอ่านใจคนแบบจริงจังก็แค่เพ่งสมาธิไปที่คนคนนั้น แต่ฉันต้องการที่จะอ่านใจเธอ แต่กลับมีกระแสอะไรรบกวนน่ะ บางครั้งฉันก็อ่านใจเธอไม่ได้”
“ก็เลยเลือกที่จะมาเป็นพื่อนกับฉันสินะ”
“ก็นะ.. อ๊ะ”
ฉันยิ้มแล้วกุมมือของอาโออิ รู้สึกว่ามือเธอจะสั่นๆด้วยล่ะ
“เรนะ..”
“ไม่เป็นไรนะ เพราะฉันน่ะตั้งใจจะเป็นเพื่อนเธออยู่แล้วล่ะ อาโออิ^^”
“....”
“ยิ้มสิ ฉันรู้ว่าเธอกำลังดีใจนะ”
“คือฉัน ..... ดีใจจริงๆนั้นแหละ แต่ว่า ฉันจำไม่ได้ว่า การที่เราจะยิ้มนั้นจะต้องทำหน้ายังไง”
ฮะ! นี่เธอไม่เคยยิ้มเลยหรอเนี่ย นานแค่ไหนกันนะ ที่อาโออิต้องอยู่อย่างอ้างว้างแบบนี้ ไม่เคยเจอเลยนะคนที่ไม่เคยยิ้มจนลืมรอยยิ้มของตัวเองไปแล้วนะ ฉันคิดว่ามันต้องมีสักวันที่อาโออิจะต้องยิ้ม ยิ้มด้วยรอยยิ้มอันสดใส ยิ้มด้วยความสุข ยิ้มออกมาจากหัวใจ....
พักกลางวัน
“สึนะคุง เดี๋ยวฉันจะตามไปทีหลังนะพอดีจะต้องไปหาอาจาร์ยน่ะ ฮานะไปกันเถอะ อ๊ะ เรนะจังไปกับพวกสึนะคุงเลยก็ได้นะ เดี๋ยวฉันมา^^”
“อะไรกันเคียวโกะ เอาเรนะไปแทนฉันไม่ได้หรอ ตึกนั่นมันอยู่ตั้งไกลนะ”
“เอาน่า ฮานะก็”
อ่า....ฉันถูกเพื่อนทิ้งหรือเปล่านี่ งั้นฉันก็ต้องไปพร้อมกับสึนะเลยสินะ ตอนแรกว่าจะชวนอาโออิไปด้วยแต่เธอดันลากลับบ้านก่อนครึ่งวันเพราะปวดหัวมาก คงเพราะความคิดมันไหลเข้าสู่หัวจนรับไม่ไหวสินะ เฮ้อ ฉันสงสารอาโออิจังเลย T^T
“ไปกันเถอะ โกคุเดระคุง ยามาโมโคะคุง เรนะด้วย”
“คร้าบรุ่นที่สิบ^^”
“ดานฟ้าสินะ”
“อ่า....”
ดานฟ้า
“นี่พวกนายมากินข้าวที่นี่ทุกวันเลยหรอ”
“ก็นะ^^”
ทาเคชิพูดจบ ก็ลอยละลิ่วไปนั่งที่ประจำก่อนเพื่อน ทำไมหมอนี่ยิ้มได้ทั้งวันเลยล่ะ หรือว่าขากรรไกรค้างน่ะ - -
“เฮอะ เจ้าบ้าเบสบอลทำตัวเป็นเด็กๆไปได้ รุ่นที่สิบเชิญนั่งก่อนเลยครับ^^”
“อะ..อืม ขอบคุณนะ โกคุเดระคุง”
ไม่มีใครเชิญฉันนั่งเลยอ่ะ T^T
“นี่พวกนายคิดยังไงกับนักเรียนใหม่น่ะ” ฉันยิงคำถามทำให้พวกสึนะชะงักนิดหน่อย รู้สึกว่าพวกเขาจะทำหน้างงด้วยล่ะ จะงงทำไมอ่ะ
“เธอน่ะหรอ.. คิดว่ามันก็ดีล่ะมั้ง” โกคุเดระ
“ไม่ใช่ฉันเฟ้ย หมายถึง ชิโนบุ อาโออิน่ะ”
ฉันเขกหัวฮายยาโตะไปป๊อกนึ่ง ฉันน่ะรู้ว่าพวกนี่คิดยังไงกับฉัน แต่กับยอาโออิน่ะ
“ฉันว่าน่ารักดีนะ^^” ทาเคชิ
“ไม่รู้ไม่สนหรอก ดอ๊ย มาเขกหัวฉันทำไมยัยบ้า!”ฮายาโตะ
“ตอบให้มันดีๆหน่อยสิย่ะ- - แล้วนายคิดว่าไงอ่ะ สึนะ”
“อืมฉันหรอ ก็ไม่รู้สิ แต่ฉัยคิดว่าเธอคนนั้นน่ะเป็นคนเงียบๆนะ คิดว่าน่าจะมีเพื่อนผู้หญิงแกล้งแน่ๆ”
สึนะคิดเหมือนฉันนะเนี่ย
“เรื่องนั้นชั่งมันเถอะ ฉันอยากรู้ว่าทำไมเธอถึงรู้ว่าเราเป็นวองโกเล่!~”
มาแล้วไงคำถามที่ไม่อยากตอบ T^T!!!!!!
+ + + + + ++ + + + + ++ ++ + + + + +++++ + ++ + + + + ++ + ++ + + + +
เอ่อ...ในตอนนี้ก็อัพมาถึงตอนที่4แล้ว ก็ขอให้ช่วยคอมเม้น+โหวตหน่อยนะค่ะ สนุกไม่สนุกก็บอกได้จะได้นำไปแก้ไข้อ่ะนะ ยังไงก็ช่วยติดจามหน่อยนะค่ะ พลีสสสสสส ><
“หืม? อ๋อ เรียกฉันว่าเรนะเหมือนพวกเคียวโกะก็ได้จ้ะ^^”
ฉันยิ้มให้อาโออิอย่างเป็นมิตร แต่เธอก็ยังทำหน้าไร้อารมณ์เหมือนเดิม ที่แปลกไปก็คงจะเป็นแววตา ที่ดูอ่อนโยนกว่าตอนแรกมาก
“อ๊ะ แล้วที่ขอบคุณฉันน่ะ เรื่องอะไรหรอ ฉันจำได้ว่าพึ่งเคยเจอที่นี่นะ”
“อ๋อ เรื่องนั้น ที่ฉันขอบคุณเพราะ เธอคิดจะปกป้องและยอมเป็นเพื่อนกับฉันนะ”
“อ่า..”
จริงด้วยตอนนั้นฉันคิดแบบนี้นี่นา อาโออิก็คงจะรู้แล้วสินะ
“เธอนี่ดีจังนะ ที่ส่มารถอ่านใจคนได้น่ะ^^”
ฉันพูดด้วยท่าทีสบายๆแต่อาโออิกลับมีสีหน้าแย่ลง เหมือนกับเธอไม่ต้องการพลังนี้ ทำไมกันล่ะ ฉันว่ามันก็ออกจะดีนะที่อ่านใจคนได้น่ะ อยากรู้อะไรจากคนคนนั้นก็ได้รู้หากเขาไม่ตอบก็อ่านใจกันไปเลย เอ๊ะ หรือว่าไม่ดีกันแน่นะ =^=
“สำหรับคนอื่น ไม่สิ สำหรับเธอคงคิดว่าการมีพลังแบบนี้เป็นเรื่องดีสินะ”
“...”
ฉันเงียบตั้งใจฟังที่อาโออิกำลังพูด โดยไม่สนใจที่ครูกำลังสอนอยู่ เนื้อหาที่กำลังเรียนจะบอกให้ว่าฉันเคยเรียนมาตั้งแต่ ม.1 แล้วล่ะ ตอนนี้ก็เลยรู้เรื่องหมดนั่นแหละ ขนาดหลับแล้วตื่นมา ฉันก็ตอบคำถามอาจาร์ยได้สบายๆเลยทีเดียว โฮะๆๆ ก็คนมันเก่งนี่ไม่อยากจะโม้
“แต่มันไม่ดีสำหรับฉัน เพราะว่าฉันไม่สามารถควบคุมมันได้น่ะ”
“ควบคุมไม่ได้? อ๊ะ หรือว่า”
“ใช่ ความคิดทุกอย่างจะไหลเข้าสู่หัวของฉันทั้งเรื่องดีและไม่ดี การที่ฉันรู้เรื่องแบบนี้ทำให้เห็นว่า การที่มนุษย์แสดงท่าทีออกมานั้นมันตรงกันข้ามกับที่ตนคิดเลยล่ะ”
“ดังนั้น เธอเลยไม่คบเพื่อนเลยสินะ แล้วแยกตัวออกมาอยู่คนเดียว”
ฉันพูดต่อให้อาโออิ จะว่าไปเธอดูๆแล้วก็น่าสงสารนะเนี่ย
“ฉันไม่ต้องการพลังนี้ ที่ฉันอยากนั่งกับเธอก็เพราะฉันคิดว่าเธอไม่เหมือนคนอื่นๆน่ะ”
“เอ๋...?!”
ไม่เหมือนคน ฉันไม่ใช่คนงั้นหรอ T^T
“ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ฉันน่ะถ้าปกติจะอ่านใจคนแบบจริงจังก็แค่เพ่งสมาธิไปที่คนคนนั้น แต่ฉันต้องการที่จะอ่านใจเธอ แต่กลับมีกระแสอะไรรบกวนน่ะ บางครั้งฉันก็อ่านใจเธอไม่ได้”
“ก็เลยเลือกที่จะมาเป็นพื่อนกับฉันสินะ”
“ก็นะ.. อ๊ะ”
ฉันยิ้มแล้วกุมมือของอาโออิ รู้สึกว่ามือเธอจะสั่นๆด้วยล่ะ
“เรนะ..”
“ไม่เป็นไรนะ เพราะฉันน่ะตั้งใจจะเป็นเพื่อนเธออยู่แล้วล่ะ อาโออิ^^”
“....”
“ยิ้มสิ ฉันรู้ว่าเธอกำลังดีใจนะ”
“คือฉัน ..... ดีใจจริงๆนั้นแหละ แต่ว่า ฉันจำไม่ได้ว่า การที่เราจะยิ้มนั้นจะต้องทำหน้ายังไง”
ฮะ! นี่เธอไม่เคยยิ้มเลยหรอเนี่ย นานแค่ไหนกันนะ ที่อาโออิต้องอยู่อย่างอ้างว้างแบบนี้ ไม่เคยเจอเลยนะคนที่ไม่เคยยิ้มจนลืมรอยยิ้มของตัวเองไปแล้วนะ ฉันคิดว่ามันต้องมีสักวันที่อาโออิจะต้องยิ้ม ยิ้มด้วยรอยยิ้มอันสดใส ยิ้มด้วยความสุข ยิ้มออกมาจากหัวใจ....
พักกลางวัน
“สึนะคุง เดี๋ยวฉันจะตามไปทีหลังนะพอดีจะต้องไปหาอาจาร์ยน่ะ ฮานะไปกันเถอะ อ๊ะ เรนะจังไปกับพวกสึนะคุงเลยก็ได้นะ เดี๋ยวฉันมา^^”
“อะไรกันเคียวโกะ เอาเรนะไปแทนฉันไม่ได้หรอ ตึกนั่นมันอยู่ตั้งไกลนะ”
“เอาน่า ฮานะก็”
อ่า....ฉันถูกเพื่อนทิ้งหรือเปล่านี่ งั้นฉันก็ต้องไปพร้อมกับสึนะเลยสินะ ตอนแรกว่าจะชวนอาโออิไปด้วยแต่เธอดันลากลับบ้านก่อนครึ่งวันเพราะปวดหัวมาก คงเพราะความคิดมันไหลเข้าสู่หัวจนรับไม่ไหวสินะ เฮ้อ ฉันสงสารอาโออิจังเลย T^T
“ไปกันเถอะ โกคุเดระคุง ยามาโมโคะคุง เรนะด้วย”
“คร้าบรุ่นที่สิบ^^”
“ดานฟ้าสินะ”
“อ่า....”
ดานฟ้า
“นี่พวกนายมากินข้าวที่นี่ทุกวันเลยหรอ”
“ก็นะ^^”
ทาเคชิพูดจบ ก็ลอยละลิ่วไปนั่งที่ประจำก่อนเพื่อน ทำไมหมอนี่ยิ้มได้ทั้งวันเลยล่ะ หรือว่าขากรรไกรค้างน่ะ - -
“เฮอะ เจ้าบ้าเบสบอลทำตัวเป็นเด็กๆไปได้ รุ่นที่สิบเชิญนั่งก่อนเลยครับ^^”
“อะ..อืม ขอบคุณนะ โกคุเดระคุง”
ไม่มีใครเชิญฉันนั่งเลยอ่ะ T^T
“นี่พวกนายคิดยังไงกับนักเรียนใหม่น่ะ” ฉันยิงคำถามทำให้พวกสึนะชะงักนิดหน่อย รู้สึกว่าพวกเขาจะทำหน้างงด้วยล่ะ จะงงทำไมอ่ะ
“เธอน่ะหรอ.. คิดว่ามันก็ดีล่ะมั้ง” โกคุเดระ
“ไม่ใช่ฉันเฟ้ย หมายถึง ชิโนบุ อาโออิน่ะ”
ฉันเขกหัวฮายยาโตะไปป๊อกนึ่ง ฉันน่ะรู้ว่าพวกนี่คิดยังไงกับฉัน แต่กับยอาโออิน่ะ
“ฉันว่าน่ารักดีนะ^^” ทาเคชิ
“ไม่รู้ไม่สนหรอก ดอ๊ย มาเขกหัวฉันทำไมยัยบ้า!”ฮายาโตะ
“ตอบให้มันดีๆหน่อยสิย่ะ- - แล้วนายคิดว่าไงอ่ะ สึนะ”
“อืมฉันหรอ ก็ไม่รู้สิ แต่ฉัยคิดว่าเธอคนนั้นน่ะเป็นคนเงียบๆนะ คิดว่าน่าจะมีเพื่อนผู้หญิงแกล้งแน่ๆ”
สึนะคิดเหมือนฉันนะเนี่ย
“เรื่องนั้นชั่งมันเถอะ ฉันอยากรู้ว่าทำไมเธอถึงรู้ว่าเราเป็นวองโกเล่!~”
มาแล้วไงคำถามที่ไม่อยากตอบ T^T!!!!!!
+ + + + + ++ + + + + ++ ++ + + + + +++++ + ++ + + + + ++ + ++ + + + +
เอ่อ...ในตอนนี้ก็อัพมาถึงตอนที่4แล้ว ก็ขอให้ช่วยคอมเม้น+โหวตหน่อยนะค่ะ สนุกไม่สนุกก็บอกได้จะได้นำไปแก้ไข้อ่ะนะ ยังไงก็ช่วยติดจามหน่อยนะค่ะ พลีสสสสสส ><
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ