valued friend เป็นไปไม่ได้ที่เราจะรักกัน
เขียนโดย
Milkcake
วันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2554 เวลา 14.25 น.
แก้ไขเมื่อ 16 มีนาคม พ.ศ. 2556 21.57 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
9) งาน “Continue relationship”
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความแหะๆไม่รู้จะพูดอย่างไรแล้ว อยากจะพูดว่า "เค้าขอโตด
" งานมาไม่ขาดสายเลยแต่พอวางกลับคิดไม่ออกสะงั้นว่าจะแต่งต่อไปไงดีแต่พอคิดได้กับบรรยายไม่ถูกมันก็เลยล้าช้าอย่างนี้ไงค่ะ แบบว่าช้าโคตรๆเลยแต่ตอนนี้ก็ปั่นได้ 14 ตอนแล้วแต่ก็ยังไม่กล้าลงเพราะได้เปลี่ยนเนื้อหาบางตอนอยู่เสมอเมื่อสมองมันคิดออก
-------------------------------
Stamp Talk~
“เฮ้ย! ไอ้โรคจิต” มือฉันยกขึ้นมาปิดตาโดยอัตโนมัติ ก็ไอ้บ้าทราสน์นะสิมันถอดเสื้อทั้งที่มีผู้หญิงอยู่ในห้องได้ไง
ไม่ต้องแปลกใจค่ะตอนนี้ฉันอยู่คอนโดทราสน์เกือบ 2 อาทิตย์แล้ว พร้อมสัมภาระเรียบร้อย จากมาพร้อมกับรอยยิ้มอันสุขใจที่แฝงไปด้วยความหมายที่หามิได้ของแม่ฉัน และสายตาของความห่วงใยจากพ่อซึ่งท่านไม่ได้ห่วงตัวฉันเลยแต่กลัวว่าฉันจะป่วนจนทำให้ทราสน์ลำบากใจที่ต้องรับเด็กตัวน้อยละห้อยๆแบบฉันไปอยู่ด้วย ฮึกๆ ฮึ .. กๆ T0T ชีวิตฉันชั่งรันทดไม่มีใครคิดจะแยแส
“แกเป็นบ้าอะไรหนิ แกหวั่นไหวซิกซ์แพ็กส์ฉันหรอ” แหนะยังจะมายิ้มทะเล้นอีกนะ
“ไอ้บ้าใครกล้าคิดเรื่องสะอิดสะเอียนเยี่ยงนี้ ฉันไม่คิดฆ่าตัวตายขนาดนั้นหรอก”
“เหร๋อ . .” ร่างกายของทราสน์ได้ขยับมาเบียดชิดฉันเรื่อยๆจนชิดติดพนัง ฉันใช้มือยันหน้าอกเค้าไว้เพื่อไม่ให้เค้าเข้าใกล้กว่านี้ โอ้ยยิ่งไม่อยากจับอยู่แค่นี้ก็จะตายอยู่แล้ว อยู่กับมันตั้งแต่เกิดมาก็พึ่งเคยเห็นซิกซ์แพ็กส์มันครั้งแรกและ ตอนเด็กอาบนํ้าด้วยกันมันยังเป็น oneแพ็กส์อยู่เลย (oneแพ็กส์ก็มีแต่พุงแหละค่ะ) - -*
“ฮ่ะๆๆ ดูหน้าแกดิหน้าแดงยังกับลูกกระเจี๊ยบเลย มือสั่นเชียว ^^” เค้าทั้งพูดทั้งหัวเราะแต่ก็ไม่วายที่จะถอยห่างจากตัวฉันแม้แต่น้อยหนำซ้ำยังเบียดเสียดเข้าหาตัวฉันมากกว่าเดิมจนลมหายใจเค้ามันรดหน้าฉันอยู่แล้วยิ่งตัวเล็กอยู่ (เตี้ยนั่นเอง) สายตาที่พร้อมจะหลอมละลายผู้หญิงทุกคนเมื่อสบตากัน แต่ยกเว้นฉันที่ชินกับการจ้องตาเค้ามากกว่าพูดเพราะทราสน์เป็นคนเข้าใจอยากดวงตาของเค้าจะสื่อความหมายได้ดีกว่าการพูดของเค้ามากกว่า มือของเค้าโยกหัวฉันไปมาอย่างเอ็นดู ก่อนจะก้มลงมากระซิบข้างอยู่อย่างชวนขนลุก
“มองอย่างนี้อีกแล้ว....เดียวฉันก็อดใจไม่ไหวหรอก”
“ฮึ่ย .. คำน่ากลัวว่ะ คิดได้เนอะ (- O -//)” ฉันเบ้ปากพูด แต่หัวใจเจ้ากรรมกลับเต้นไม่เป็นจังหวะสะงั้นสิ
“ใจร้ายจัง -*- ”
“แกมีอะไรจะพูดกับฉันมั๊ย” ฉันพูดขึ้นก่อนที่ทราสน์จะทำตัวเหมือนเด็กขาดความอบอุ่นมากกว่านี้ ฉันรู้สึกว่าเค้าจะทำตัวเหมือนเลโอขึ้นทุกวัน
“.....” ทราสน์ไม่ตอบเพียงแค่สบตาก็รู้ว่ามันต้องมีอะไรแน่ๆ
“แต่ฉันมีนะ” ฉันพูดออกไปเพื่อกลบความเงียบ ทราสน์ขมวดคิ้วเล็กน้อยอย่างสงใสก่อนจะกลับมาเป็นหน้าปกติ
“แกมีปัญหาอะไรกับคุณลุงรึป่าว” เมื่อฉันพูดออกไปเท่านั้นแหละทราสน์ก็ผละออกจากตัวฉันเหมือนไฟฟ้ามันสปาร์คกันแล้วต้องรีบเด้งออกยังไงยังงั้น คิดจะออกก็ออกง่ายๆอย่างนี้เลยหรอ
“คงงั้นมั้ง” เค้าหันหลังพูดลอยๆ มือคว้าผ้าเช็ดตัวมาพาดไว้ที่ไหล่
“แล้วมีเรื่องอะไรกันหรอร้ายแรงรึป่าว ฉันพอจะช่วยอะไรได้มั๊ย” ฉันเดินไม่ดักหน้าเค้าแล้วรัวคำที่ต้องการจะพูดไปเต็มที่ถึงจะรู้คำตอบดีว่ายังไงทราสน์มีปัญหาอะไรก็ชอบเก็บไว้คนเดียวไม่คิดที่จะปรึกษาหรือระบายกับใครแม้แต่เพื่อนในกลุ่มของเค้าหรือแม้แต่ฉันเองเค้ายังไม่คิดที่จะปริปากพูดสักคำ เค้าหยุดจ้องตาฉันสักพัก ก่อนจะถอนหายใจแล้วผลักฉันให้หลีกทาง
“ชั่งมันเหอะน่า ฉันไม่ทำให้แกลำบากหรอ อย่ายุ่งไม่เข้าเรื่อง”
ผลึบ ตึก
ฉันดึงให้ทราสน์หันมาหาฉันแล้วใช้เข่าอ่อนอันเบาะบางนี้ ทุ้มขึ้นไปใส่น้องชายของมันเต็มๆจนตัวมันงอขดเป็นกุ้งฝอย
“โอ้ย~ นี่แกทำบ้าอะไรเนี่ย”
“หมั่นไส้” ฉันพูดออกไปด้วยอารมณ์พุ้งปรี๊ด
“ยุ่งไม่เข้าเรื่องงั้นหรอ .. ดี งั้นฉันจะยุ่งเรื่องของแกให้มากๆเลย คอยดู!!” ฉันได้แต่สะบัดหน้าพรืดออกมาจากห้องทราสน์แล้วกระทืบเท้าเดินเข้าห้องของฉันที่อยู่ติดกัน
“คนอุส่าห์เป็นห่วง จำไว้เลยนะ ไอ้ทราสน์บ้าๆๆๆ” ฉันหันไปพูดกับกรอบรูปที่ฉันถ่ายคู่กับทราสน์ก่อนจะหันมารัวหมัดใส่ไอ้หมีพูขนาดกลางที่อยู่หัวเตียง
“ ย๊าก กก ตายซะไอ้บ้าๆๆๆ”
Trasn Talk ~
ผมแง้มๆประตูดูแตมป์ แต่ภาพตรงหน้ามันทำให้ผมต้องเอามือรีบกุมน้องชายของผมอย่างฉับพัน ก็ไอ้แตมป์มันดันรัวลูกเตะในเป้าน้องพูของผมเต็มที่อย่างนี้ น่ากลัวชะมัด มันคงจะโกธรจริงๆนั่นแหละ ผมไม่ได้อยากจะพูดคำนั้นออกไปซักหน่อย แต่เพื่อไม่ให้แกมาคิดมากกับเรื่องที่ยังเคลียร์ไม่จบอย่างนี้มันคงต้องทำแบบนี้
“แกจะยุ่งเรื่องของฉันมากแค่ไหนฉันก็ไม่เคยรำคาญแกหรอกนะ แค่แกคนเดียวเท่านั้นแหละ แค่คนเดียว ...” ผมพูดด้วยเสียงแผ่วเบากับตัวเองก่อนจะแง้มปิดประตู
Tulip Talk~
เชิญชวน
นักเรียนและศิษย์เก่าเซนแกนด์ดิกและเซนซีบิวส์ ร่วมงาน “ Continue relationship เฉลิมฉลองสานสัมพันธ์ระหว่างโรงเรียนเซนแกนด์ดิก&เซนซีบิวส์ ” ร่วมกันจัดหาคู่ควงที่เหมาะสมกันที่สุดของแต่ละโรงเรียนภายใต้ชื่อ zeEd star Of Sibius & Granddik ปีที่ 99 จะไม่มีกำแพงมากั้นระกว่างเราทั้งสองโรงเรียน ในวันงานจะไม่มีเซนซีบิวส์และเซนแกนด์ดิกแต่จะมีเพียง ‘เซนบิวส์ดิก’ ที่รวมกันเป็นหนึ่งเท่านั้น และเนื่องจากที่เป็นปีที่ 99 ในงานนี้เลยมีอะไรพิเศษๆกว่าทุกปีที่คุณคิด!
ประธานโรงเรียนเซนบิวส์ดิก
(รวมกันระหว่างทั้งสองโรงเรียน)
ฉันอ่านการ์ดที่ปลิวว้อนอยู่ทั่วโรงเรียนถูกส่งให้นักเรียนทุกคนเพื่อเข้าร่วมงานของทั้งสองโรงเรียน นักเรียนของทั้งสองโรงเรียนมีอาการตอบสนองจากการอ่านการ์ดได้ดีมาก ทุกคนมีหน้าที่กระสับกระส่ายกระดี๊กระด๊าออกนอกหน้าอย่างเห็นได้ชัด เพราะว่าวันนั้นเป็นวันที่นักเรียนทั้งสองโรงเรียนรอคอยมานาน จะถูกจัดขึ้นมาทุกๆ 3 ปีและปีนี้เป็นปีที่ 99 สองโรงเรียนนี้ถูกก่อตั้งมาในเครือเดียวกันแต่เกิดปัญหาผู้บริหารที่ก่อตั้งโรงเรียนในปีแรกเป็นคู่อริกันเลยทำให้ทั้งสองโรงเรียนชิงดีชิงเด่นกันในด้านต่างๆโดยไม่รู้จักจบสิ้น จนร่วงเลยมาเกือบ 10 ปีมีผู้บริหารสองพี่น้องที่มีคุณธรรมในตัวคิดโครงการสานสัมพันธ์ระหว่างสองโรงเรียนให้รวมเป็นหนึ่งเดียว ความชิงชังชิงดีชิงเด่นจึงถูกรบเลือนไปในอดีตไปแล้ว มันเลยกลายเป็นวันที่สำคัญที่สุดของระหว่างสองโรงเรียนและมีการตกลงว่าจะมีงานนี้ทุกๆ3ปี ทำให้มี การที่จะได้มาร่วมงานกันของทั้งสองโรงเรียนพบปะสร้างสัมพันธภาพกันโดยไม่มีรั่วมากั้นมันก็ถือเป็นอิสระอย่างหนึ่งเช่นกัน งานนี้พวกผู้หญิงต้องประทินโฉมอย่างเต็มที่เพื่อมาประชันความงามในการจับผู้ชายเอ้ยในการหาคู่ควงในงาน เพราะในงานของทุกปีจะมีการจัดหาคู่ควงที่เหมาะสมกันที่สุดของแต่ละโรงเรียนภายใต้ชื่อ zeEd star Of Sibius & Granddik มันเลยกลายเป็นวันที่สำคัญที่พิเศษที่สุด และแน่นอนมันเป็นงานที่ใหญ่มากเพราะนักเรียนของแต่ละโรงเรียนลูกคนใหญ่คนโตทั้งนั้นแต่มันก็มีแต่พวกคุณชายที่เก็กไปวันๆและยัยคุณหนูที่เอาแต่ทาสีบนใบหน้าทั้งนั้น เป็นบุคลากรที่ไม่ทรงคุณค่าเท่าไหร่
“ทิว~ ในที่สุดงานนี้ก็มาถึง ปล่อยให้ฉันรอคอยมานานแสนนาน เย้!! คอยดูนะปีนี้ฉันต้องเป็นคู่เต้นรำกับนายคริปเปอร์ให้ได้” ยัยมีนที่พึ่งลงจากรถของที่บ้านวิ่งหน้าตื่นมาเกาะหลังฉันหลังจากที่ได้รับใบปิวเรื่องงานเฉลิมฉลอง ก็ใช่น่ะสิเมื่องานเลี้ยงของสามปีที่แล้วมันดันไปตกตกหลุมเสน่ห์ลึกของนายคลิปเปอร์ผู้เงียบขรึมและเนี้ยบสุดๆ มันปิ้งไปได้ไงเนี่ย ไม่ใช่คลิปเปอร์ไม่หล่อนะแต่หมอนั้นออกจะเงียบแตกต่างจากยัยมีนมาก
“คอยดูนะฉันจะต้องจับผู้ชายโรงเรียนเซนซีบิวส์ให้ได้” เสียงยัยรุ่นน้องแก่แดดที่กระริกกระรี้อยากได้ผู้ชายเต็มที่
“แล้วเรามาคอยดูกนว่าผู้หญิงโรงเรียนเรากับผู้หญิงโรงเรียนเซนซีบิวส์หนุ่มๆทั้งสองโรงเรียนจะเลือกใคร”
“มันต้องเป็นโรงเรียนเราอยู่แล้วยัยผู้หญิงเซนซีบิวส์เทียบไม่ติดหรอ”
“มันก็จริงนะ ฮ่าๆๆ” ยัยผู้หญิงพวกนี้หลงตัวเองไม่พอหัวเราะได้น่าเกียจจริงๆ - -*
“เฮ้ยแกมีคู่เต้นรำยังวะ” และแน่นอนไม่ใช่ผู้หญิงเพศเดียวที่ตื่นเต้นผู้ชายก็ไม่แพ้กัน
“ยังเลยว่ะ แต่เป้าหมายปีนี้คิดว่าน่าจะหญิงซีบิวส์ว่ะ”
“ฮ่าๆ ฉันก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน เสียดายหญิงโรงเรียนเรามีคู่แล้ว” ผู้ชายคนนี้พูดแล้วหันสายตาเสียดายมาหาฉัน ฉันได้แต่มองซ้ายมองขวาเผื่อมีใครอยู่แถวนี้ กับสิ่งที่เค้าพูดมันหมายถึงฉันรึป่าว
“เอ่อจริงว่ะ ฮ่ะๆ ชั่งมันเถอะผู้หญิงมีเยอะแยะ” นายผู้ชายผมทองดูทาจะอารมณ์ดีที่สุดในกลุ่มตบไหล่เพื่อน
“แต่ฉันไม่เอายัยพวกนี้นะโว้ย น่ากลัวจะตาย”นายนั้นทำท่าสยดสยองแล้วชี้ไปพวกเด็กแกแดดพวกนั้น เสียงฮือฮาหัวเราะก็กลบมาอีกครั้ง
“นี่พวกนาย ฉันก็ไม่คิดจะแยแสพวกนายหรอกย่ะ อย่างฉันต้องพี่ทราสน์สุดหล่อที่ซีบิวส์นู้น” ยัยปากแดงพูดจีบปากจีบคอพูด เหอะทราสน์เนี่ยนะจะเอาคุณหล่อน
“ช่ายๆ อย่างฉันก็ต้องพี่พิชสุดน่าร๊ากกกก ><”
“ฉันต้องพี่เลโอ อ๊าย! >< คนอะไรก็ไม่รู้น่ารักน่าเอ็นดูสุดๆ ><” นายเลโองานนี้นายได้คิดหนักแน่
“ฉันจะเอาทุกคนเลย!” OH!! ยัยคนนี้ท่าจะแรงสุดๆ ขี้เกียจอยู่ฟังแล้วรีบเข้าห้องดีกว่า ฉันคว้ามือมีนให้เดินตามไปแต่ก็ต้องชะงักกับคำพูดของยัยผู้หญิงคนนึง ..
“ใครจะเอาใครก็ชั่ง แต่ฉันต้องนาริคเท่านั้น” ยัยนี่วอนหาเรื่องซะแล้ว
“อะฮึ่ม แคกๆ” ฉันทำกระแอ้มๆให้ยัยนั้นรู้ซะบ้างว่าพูดอะไรออกมา แต่ยัยนั้นก็ตีหน้าตายไม่รู้สึกรู้สาอะไร
“เฮ้ยแก เล่นนาริคเลยหรอ เค้ามีคู่แล้วนะ ดูสิมองตาเขียวเลย” ผู้หญิงรู้สึกจะอ้อยอิ่งที่สุดในกลุ่มเขย่าแขนเพื่อนตัวเองจากที่มองมาทางฉัน
แต่ก็ถูกสะบัดออกอย่างไม่ใยดี แล้วมองมาทางฉันอย่างหาเรื่อง
“ใครดีใครได้” คำพูดนี้ที่หลุดออกมาจากปากของยัยนั้นมันคำให้ฉันปรี๊ดขึ้นสมอง แต่ก็ถูกยับยั้งไว้โดยมีน
“ไปเหอะแก อย่ามีเรื่องกันเลย” มีนลากฉุดฉันให้เดินตามเต็มแรงแต่ตาฉันก็ยังไม่วายที่จะหันกลับไม่มองทางข้างหน้าตาได้แต่ส่งไปอย่างอาฆาตยัยรุ่งน้องแก่แดดนั้น คิดจะแย้งนาริคงั้นหรือ ไม่รู้จักทิวลิปคนนี้ซะแล้ว
หลังจากที่โดนมีนลากมา เสียงที่ดังมาเป็นระยะๆตามทางเดินไปห้อง ดังและโถมมาเรื่อยๆ จนกระทั้งก้าวเข้ามาในห้องเสียงก็ยังไม่วายจะลดลง
“นี่แกจะคู่กับนาริครึป่าว” ยัยแจมกระโดมาถามฉันทันทีที่นั่งลง
“เมื่อกี้แกว่าไงนะ เพื่อนมันพูดเสียงดังไม่ได้ยิน”
“ฉันถามว่างานนี้แกจะคู่กับนาริครึป่าว!!” แจมตะโกนออกมาเต็มที่
“….” เสียงในห้องเงียบลงอย่างฉันพัน
“ช่ายๆๆ แกจะคู่กับนาริครึป่าว ถ้าไม่ฉันขอน้า” เสียงผู้หญิงในห้องถ่าโถมเข้ามาโดยไม่รู้ตัว
“แกฉันขอทิวก่อนน้า”
“แต่นาริคเป็นของทิวนะ” ริคมันเป็นของฉันตอนไหนวะ - -*
“แล้วเค้าอนุญาตแกแล้วหรอ” โอ้ยวุ่นวายชะมัด ฉันได้แต่คลานกระดื้บกระดื้บออกมาโดยไม่ให้ใครรู้
“แกจะไปไหนน่ะ” ไอ้บ้ามีนแกมาพูดอะไรตอนนี้ เห็นมั๊ยพวกนั้นหันมาหมดเลย
“นี่ทิวอย่าพึ่งหนีสิ มาคุยกันก่อน” แคทได้แต่มาดึงให้ฉันลุกขึ้น อ๊ากฉันไม่มีคำตอบให้พวกแกหรอก ปล่อยช้าน น TOT
Stamp Talk~
“นี่แตมป์เห็นข่าวยัง .. เห็นข่าวยัง” พายวิ่งกระดี๊กระด๊า กระโผกชนทุกสิ่งที่ขวางหน้าถือการ์ดขนาดเล็กสีชมพูมาหาฉันที่หน้าประตู
“เขารู้กันหมดแล้ว เนอะแตมป์” เฟย์ที่เดินมาสมทบหลังฉันพูดขึ้น
“อ้าว หวัดดีเฟย์” ฉันเห็นดังนั้นจึงกล่าวทักทาย
“ดีจ้าเฟย์ ^^” พาย
“หวัดดีจ๊ะทั้งสองคน ^^ เป็นไงได้คู่ไปงานรึยัง” เฟย์ตอบมาพร้อมรอยยิ้ม
“ เรื่องนั้นยังไม่คิดเลย เราอาจ .. ไม่ไปก็ได้”
“หา/หา OoO” ทั้งสองคนอุทานพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย
“จะเสียงดังทำไม ไม่มีใครตายซักหน่อย” ฉันเดินแซกตัวระหว่างสองคนนี้เพื่อมานั่งที่โต๊ะ
“เป็นไปได้ไง รู้มั๊ยว่างานนี้นักเรียนทั้งสองโรงเรียนตื่นเต้นแค่ไหน” เฟย์ทำหน้าตื่นรีบวิ่งเดินอ้อมมาหน้าโต๊ะฉันซึ่งตามมาด้วยพาย
“นี่อย่าบอกนะว่าแกจะหนีเหมือนครั้งก่อน แกรู้มั๊ยว่าพวกหนุ่มๆเค้าเสียใจแค่ไหน” พายพูดออกมาด้วยใบหน้าที่หน้าสงสารเต็มที่ แกดราม่าเกินไป - -*
“ครั้งก่อนแตมป์ก็หนีหรอ O_O” เฟย์
“โถ่ก็มันน่าเบื่อนี่ ไม่เห็นน่าสนุกตรงไหนเลย”
“มันอาจจะไม่น่าเบื่ออย่างที่คิดก็ได้นะ ^^”
“ช่ายๆ ปีนี้ฉันต้องคว้าตำแหน่ง zeEd star ของโรงเรียนเรามาให้ได้!” พาย
“แล้วก็อย่าเรื่องมากเรื่องคู่เหมือนครั้งที่แล้วล่ะ มัวแต่รอพี่เอิร์ทเลยปฏิเสธผู้ชายทุกคนเลย - -*” ฉัน
“-3-” พาย
ตำแหน่งบ้าบออะไรก็ไม่รู้ไม่เห็นหน้าสนใจเลย นี่แค่เนื้อหาในการ์ดเชิญมันทำให้ให้นักเรียนทั้งสองโรงเรียนกระตือรือร้นขนาดไม่เป็นอันทำอะไรเลยหรอเนี่ย ตอนนี้ครูสอนไม่มีคนฟังสักคนมัวแต่แอบเมาส์กับเพื่อนเรื่องงานเฉลิมฉลองที่จะจัดขึ้นในอีก 3 วัน บางคนก็เอามือมากุมอย่างเพ้อฝัน ส่วนพวกผู้ชายก็มัวแต่เขียนคำเชิญชวนหาคู่ใส่กระดาษโยนไปใส่ผู้หญิงที่หมายปองจะไปงานด้วย เพราะฉันโนไปหลายแผ่นเลยแหละแต่คนอย่างแตมป์มีหรอจะไป ^^
------------------------------
เน่าอย่าว่ากันน้าตอนแต่งตอนนี้อารมณ์
มันยังไม่เกิด
ตอนต่อไปคงต้องอัพ
ช้าอีกตามเคย เพราะยังไม่หมั่นใจในเนื่อหา
แต่อย่างน้อยก็หวังให้ยังมีคนคอยติดตามอยู่
เรื่องนี้อยากแต่งให้จบจริงๆแต่เมื่ไหร่มันจะจบสักที่ก็ไม่รู้
ช่วงนี้ไม่ค่อยมีอารมณ์แต่งเลยใครมีเพลงอินๆหรือหนังสนุกๆ
ก็แนะนำกันหน่อยนะคะ เพื่ออารมณ์ศิลป์พุ่งพ่าน
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้

รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ