valued friend เป็นไปไม่ได้ที่เราจะรักกัน

9.5

เขียนโดย Milkcake

วันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2554 เวลา 14.25 น.

  10 ตอน
  106 วิจารณ์
  20.20K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 16 มีนาคม พ.ศ. 2556 21.57 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

9) งาน “Continue relationship”

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

แหะๆไม่รู้จะพูดอย่างไรแล้ว อยากจะพูดว่า "เค้าขอโตด" งานมาไม่ขาดสายเลยแต่พอวางกลับคิดไม่ออกสะงั้นว่าจะแต่งต่อไปไงดีแต่พอคิดได้กับบรรยายไม่ถูกมันก็เลยล้าช้าอย่างนี้ไงค่ะ แบบว่าช้าโคตรๆเลยแต่ตอนนี้ก็ปั่นได้ 14 ตอนแล้วแต่ก็ยังไม่กล้าลงเพราะได้เปลี่ยนเนื้อหาบางตอนอยู่เสมอเมื่อสมองมันคิดออก

                                      -------------------------------

Stamp  Talk~

“เฮ้ย! ไอ้โรคจิต” มือฉันยกขึ้นมาปิดตาโดยอัตโนมัติ ก็ไอ้บ้าทราสน์นะสิมันถอดเสื้อทั้งที่มีผู้หญิงอยู่ในห้องได้ไง 

ไม่ต้องแปลกใจค่ะตอนนี้ฉันอยู่คอนโดทราสน์เกือบ 2 อาทิตย์แล้ว พร้อมสัมภาระเรียบร้อย จากมาพร้อมกับรอยยิ้มอันสุขใจที่แฝงไปด้วยความหมายที่หามิได้ของแม่ฉัน และสายตาของความห่วงใยจากพ่อซึ่งท่านไม่ได้ห่วงตัวฉันเลยแต่กลัวว่าฉันจะป่วนจนทำให้ทราสน์ลำบากใจที่ต้องรับเด็กตัวน้อยละห้อยๆแบบฉันไปอยู่ด้วย  ฮึกๆ ฮึ .. กๆ T0T ชีวิตฉันชั่งรันทดไม่มีใครคิดจะแยแส

 “แกเป็นบ้าอะไรหนิ  แกหวั่นไหวซิกซ์แพ็กส์ฉันหรอ”  แหนะยังจะมายิ้มทะเล้นอีกนะ

“ไอ้บ้าใครกล้าคิดเรื่องสะอิดสะเอียนเยี่ยงนี้  ฉันไม่คิดฆ่าตัวตายขนาดนั้นหรอก”

“เหร๋อ . .”  ร่างกายของทราสน์ได้ขยับมาเบียดชิดฉันเรื่อยๆจนชิดติดพนัง ฉันใช้มือยันหน้าอกเค้าไว้เพื่อไม่ให้เค้าเข้าใกล้กว่านี้  โอ้ยยิ่งไม่อยากจับอยู่แค่นี้ก็จะตายอยู่แล้ว  อยู่กับมันตั้งแต่เกิดมาก็พึ่งเคยเห็นซิกซ์แพ็กส์มันครั้งแรกและ ตอนเด็กอาบนํ้าด้วยกันมันยังเป็น oneแพ็กส์อยู่เลย (oneแพ็กส์ก็มีแต่พุงแหละค่ะ) - -* 

“ฮ่ะๆๆ ดูหน้าแกดิหน้าแดงยังกับลูกกระเจี๊ยบเลย มือสั่นเชียว ^^” เค้าทั้งพูดทั้งหัวเราะแต่ก็ไม่วายที่จะถอยห่างจากตัวฉันแม้แต่น้อยหนำซ้ำยังเบียดเสียดเข้าหาตัวฉันมากกว่าเดิมจนลมหายใจเค้ามันรดหน้าฉันอยู่แล้วยิ่งตัวเล็กอยู่ (เตี้ยนั่นเอง)  สายตาที่พร้อมจะหลอมละลายผู้หญิงทุกคนเมื่อสบตากัน   แต่ยกเว้นฉันที่ชินกับการจ้องตาเค้ามากกว่าพูดเพราะทราสน์เป็นคนเข้าใจอยากดวงตาของเค้าจะสื่อความหมายได้ดีกว่าการพูดของเค้ามากกว่า     มือของเค้าโยกหัวฉันไปมาอย่างเอ็นดู ก่อนจะก้มลงมากระซิบข้างอยู่อย่างชวนขนลุก

“มองอย่างนี้อีกแล้ว....เดียวฉันก็อดใจไม่ไหวหรอก”

“ฮึ่ย .. คำน่ากลัวว่ะ คิดได้เนอะ (- O -//)” ฉันเบ้ปากพูด แต่หัวใจเจ้ากรรมกลับเต้นไม่เป็นจังหวะสะงั้นสิ

“ใจร้ายจัง -*- ”

“แกมีอะไรจะพูดกับฉันมั๊ย” ฉันพูดขึ้นก่อนที่ทราสน์จะทำตัวเหมือนเด็กขาดความอบอุ่นมากกว่านี้ ฉันรู้สึกว่าเค้าจะทำตัวเหมือนเลโอขึ้นทุกวัน

“.....” ทราสน์ไม่ตอบเพียงแค่สบตาก็รู้ว่ามันต้องมีอะไรแน่ๆ

“แต่ฉันมีนะ” ฉันพูดออกไปเพื่อกลบความเงียบ ทราสน์ขมวดคิ้วเล็กน้อยอย่างสงใสก่อนจะกลับมาเป็นหน้าปกติ

“แกมีปัญหาอะไรกับคุณลุงรึป่าว” เมื่อฉันพูดออกไปเท่านั้นแหละทราสน์ก็ผละออกจากตัวฉันเหมือนไฟฟ้ามันสปาร์คกันแล้วต้องรีบเด้งออกยังไงยังงั้น  คิดจะออกก็ออกง่ายๆอย่างนี้เลยหรอ

“คงงั้นมั้ง” เค้าหันหลังพูดลอยๆ มือคว้าผ้าเช็ดตัวมาพาดไว้ที่ไหล่

“แล้วมีเรื่องอะไรกันหรอร้ายแรงรึป่าว ฉันพอจะช่วยอะไรได้มั๊ย” ฉันเดินไม่ดักหน้าเค้าแล้วรัวคำที่ต้องการจะพูดไปเต็มที่ถึงจะรู้คำตอบดีว่ายังไงทราสน์มีปัญหาอะไรก็ชอบเก็บไว้คนเดียวไม่คิดที่จะปรึกษาหรือระบายกับใครแม้แต่เพื่อนในกลุ่มของเค้าหรือแม้แต่ฉันเองเค้ายังไม่คิดที่จะปริปากพูดสักคำ  เค้าหยุดจ้องตาฉันสักพัก ก่อนจะถอนหายใจแล้วผลักฉันให้หลีกทาง

“ชั่งมันเหอะน่า ฉันไม่ทำให้แกลำบากหรอ  อย่ายุ่งไม่เข้าเรื่อง”

 ผลึบ  ตึก

ฉันดึงให้ทราสน์หันมาหาฉันแล้วใช้เข่าอ่อนอันเบาะบางนี้ ทุ้มขึ้นไปใส่น้องชายของมันเต็มๆจนตัวมันงอขดเป็นกุ้งฝอย

“โอ้ย~ นี่แกทำบ้าอะไรเนี่ย”

“หมั่นไส้” ฉันพูดออกไปด้วยอารมณ์พุ้งปรี๊ด

 “ยุ่งไม่เข้าเรื่องงั้นหรอ .. ดี งั้นฉันจะยุ่งเรื่องของแกให้มากๆเลย คอยดู!!” ฉันได้แต่สะบัดหน้าพรืดออกมาจากห้องทราสน์แล้วกระทืบเท้าเดินเข้าห้องของฉันที่อยู่ติดกัน

“คนอุส่าห์เป็นห่วง จำไว้เลยนะ ไอ้ทราสน์บ้าๆๆๆ” ฉันหันไปพูดกับกรอบรูปที่ฉันถ่ายคู่กับทราสน์ก่อนจะหันมารัวหมัดใส่ไอ้หมีพูขนาดกลางที่อยู่หัวเตียง

“ ย๊าก กก ตายซะไอ้บ้าๆๆๆ”

 

Trasn  Talk ~

ผมแง้มๆประตูดูแตมป์ แต่ภาพตรงหน้ามันทำให้ผมต้องเอามือรีบกุมน้องชายของผมอย่างฉับพัน ก็ไอ้แตมป์มันดันรัวลูกเตะในเป้าน้องพูของผมเต็มที่อย่างนี้ น่ากลัวชะมัด มันคงจะโกธรจริงๆนั่นแหละ  ผมไม่ได้อยากจะพูดคำนั้นออกไปซักหน่อย แต่เพื่อไม่ให้แกมาคิดมากกับเรื่องที่ยังเคลียร์ไม่จบอย่างนี้มันคงต้องทำแบบนี้

“แกจะยุ่งเรื่องของฉันมากแค่ไหนฉันก็ไม่เคยรำคาญแกหรอกนะ แค่แกคนเดียวเท่านั้นแหละ  แค่คนเดียว ...” ผมพูดด้วยเสียงแผ่วเบากับตัวเองก่อนจะแง้มปิดประตู         

 

Tulip Talk~

     เชิญชวน

               นักเรียนและศิษย์เก่าเซนแกนด์ดิกและเซนซีบิวส์  ร่วมงาน “ Continue  relationship เฉลิมฉลองสานสัมพันธ์ระหว่างโรงเรียนเซนแกนด์ดิก&เซนซีบิวส์ ”     ร่วมกันจัดหาคู่ควงที่เหมาะสมกันที่สุดของแต่ละโรงเรียนภายใต้ชื่อ zeEd star Of Sibius & Granddik   ปีที่ 99    จะไม่มีกำแพงมากั้นระกว่างเราทั้งสองโรงเรียน ในวันงานจะไม่มีเซนซีบิวส์และเซนแกนด์ดิกแต่จะมีเพียง ‘เซนบิวส์ดิก’ ที่รวมกันเป็นหนึ่งเท่านั้น และเนื่องจากที่เป็นปีที่ 99 ในงานนี้เลยมีอะไรพิเศษๆกว่าทุกปีที่คุณคิด!

                                                                                                                                                                                                         ประธานโรงเรียนเซนบิวส์ดิก

                                                                            (รวมกันระหว่างทั้งสองโรงเรียน)

 

 ฉันอ่านการ์ดที่ปลิวว้อนอยู่ทั่วโรงเรียนถูกส่งให้นักเรียนทุกคนเพื่อเข้าร่วมงานของทั้งสองโรงเรียน  นักเรียนของทั้งสองโรงเรียนมีอาการตอบสนองจากการอ่านการ์ดได้ดีมาก  ทุกคนมีหน้าที่กระสับกระส่ายกระดี๊กระด๊าออกนอกหน้าอย่างเห็นได้ชัด เพราะว่าวันนั้นเป็นวันที่นักเรียนทั้งสองโรงเรียนรอคอยมานาน  จะถูกจัดขึ้นมาทุกๆ 3 ปีและปีนี้เป็นปีที่ 99 สองโรงเรียนนี้ถูกก่อตั้งมาในเครือเดียวกันแต่เกิดปัญหาผู้บริหารที่ก่อตั้งโรงเรียนในปีแรกเป็นคู่อริกันเลยทำให้ทั้งสองโรงเรียนชิงดีชิงเด่นกันในด้านต่างๆโดยไม่รู้จักจบสิ้น  จนร่วงเลยมาเกือบ 10 ปีมีผู้บริหารสองพี่น้องที่มีคุณธรรมในตัวคิดโครงการสานสัมพันธ์ระหว่างสองโรงเรียนให้รวมเป็นหนึ่งเดียว ความชิงชังชิงดีชิงเด่นจึงถูกรบเลือนไปในอดีตไปแล้ว มันเลยกลายเป็นวันที่สำคัญที่สุดของระหว่างสองโรงเรียนและมีการตกลงว่าจะมีงานนี้ทุกๆ3ปี   ทำให้มี การที่จะได้มาร่วมงานกันของทั้งสองโรงเรียนพบปะสร้างสัมพันธภาพกันโดยไม่มีรั่วมากั้นมันก็ถือเป็นอิสระอย่างหนึ่งเช่นกัน  งานนี้พวกผู้หญิงต้องประทินโฉมอย่างเต็มที่เพื่อมาประชันความงามในการจับผู้ชายเอ้ยในการหาคู่ควงในงาน เพราะในงานของทุกปีจะมีการจัดหาคู่ควงที่เหมาะสมกันที่สุดของแต่ละโรงเรียนภายใต้ชื่อ zeEd star Of Sibius & Granddik มันเลยกลายเป็นวันที่สำคัญที่พิเศษที่สุด และแน่นอนมันเป็นงานที่ใหญ่มากเพราะนักเรียนของแต่ละโรงเรียนลูกคนใหญ่คนโตทั้งนั้นแต่มันก็มีแต่พวกคุณชายที่เก็กไปวันๆและยัยคุณหนูที่เอาแต่ทาสีบนใบหน้าทั้งนั้น เป็นบุคลากรที่ไม่ทรงคุณค่าเท่าไหร่

 “ทิว~ ในที่สุดงานนี้ก็มาถึง ปล่อยให้ฉันรอคอยมานานแสนนาน เย้!! คอยดูนะปีนี้ฉันต้องเป็นคู่เต้นรำกับนายคริปเปอร์ให้ได้” ยัยมีนที่พึ่งลงจากรถของที่บ้านวิ่งหน้าตื่นมาเกาะหลังฉันหลังจากที่ได้รับใบปิวเรื่องงานเฉลิมฉลอง ก็ใช่น่ะสิเมื่องานเลี้ยงของสามปีที่แล้วมันดันไปตกตกหลุมเสน่ห์ลึกของนายคลิปเปอร์ผู้เงียบขรึมและเนี้ยบสุดๆ  มันปิ้งไปได้ไงเนี่ย  ไม่ใช่คลิปเปอร์ไม่หล่อนะแต่หมอนั้นออกจะเงียบแตกต่างจากยัยมีนมาก

“คอยดูนะฉันจะต้องจับผู้ชายโรงเรียนเซนซีบิวส์ให้ได้”  เสียงยัยรุ่นน้องแก่แดดที่กระริกกระรี้อยากได้ผู้ชายเต็มที่

“แล้วเรามาคอยดูกนว่าผู้หญิงโรงเรียนเรากับผู้หญิงโรงเรียนเซนซีบิวส์หนุ่มๆทั้งสองโรงเรียนจะเลือกใคร”

“มันต้องเป็นโรงเรียนเราอยู่แล้วยัยผู้หญิงเซนซีบิวส์เทียบไม่ติดหรอ”

“มันก็จริงนะ ฮ่าๆๆ” ยัยผู้หญิงพวกนี้หลงตัวเองไม่พอหัวเราะได้น่าเกียจจริงๆ  - -*

“เฮ้ยแกมีคู่เต้นรำยังวะ” และแน่นอนไม่ใช่ผู้หญิงเพศเดียวที่ตื่นเต้นผู้ชายก็ไม่แพ้กัน

“ยังเลยว่ะ  แต่เป้าหมายปีนี้คิดว่าน่าจะหญิงซีบิวส์ว่ะ”

“ฮ่าๆ ฉันก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน เสียดายหญิงโรงเรียนเรามีคู่แล้ว” ผู้ชายคนนี้พูดแล้วหันสายตาเสียดายมาหาฉัน  ฉันได้แต่มองซ้ายมองขวาเผื่อมีใครอยู่แถวนี้ กับสิ่งที่เค้าพูดมันหมายถึงฉันรึป่าว

“เอ่อจริงว่ะ ฮ่ะๆ ชั่งมันเถอะผู้หญิงมีเยอะแยะ” นายผู้ชายผมทองดูทาจะอารมณ์ดีที่สุดในกลุ่มตบไหล่เพื่อน

“แต่ฉันไม่เอายัยพวกนี้นะโว้ย  น่ากลัวจะตาย”นายนั้นทำท่าสยดสยองแล้วชี้ไปพวกเด็กแกแดดพวกนั้น  เสียงฮือฮาหัวเราะก็กลบมาอีกครั้ง

“นี่พวกนาย ฉันก็ไม่คิดจะแยแสพวกนายหรอกย่ะ  อย่างฉันต้องพี่ทราสน์สุดหล่อที่ซีบิวส์นู้น” ยัยปากแดงพูดจีบปากจีบคอพูด เหอะทราสน์เนี่ยนะจะเอาคุณหล่อน

“ช่ายๆ อย่างฉันก็ต้องพี่พิชสุดน่าร๊ากกกก ><”

 “ฉันต้องพี่เลโอ  อ๊าย! ><  คนอะไรก็ไม่รู้น่ารักน่าเอ็นดูสุดๆ ><”  นายเลโองานนี้นายได้คิดหนักแน่

“ฉันจะเอาทุกคนเลย!” OH!! ยัยคนนี้ท่าจะแรงสุดๆ  ขี้เกียจอยู่ฟังแล้วรีบเข้าห้องดีกว่า ฉันคว้ามือมีนให้เดินตามไปแต่ก็ต้องชะงักกับคำพูดของยัยผู้หญิงคนนึง ..

“ใครจะเอาใครก็ชั่ง แต่ฉันต้องนาริคเท่านั้น”  ยัยนี่วอนหาเรื่องซะแล้ว

“อะฮึ่ม แคกๆ” ฉันทำกระแอ้มๆให้ยัยนั้นรู้ซะบ้างว่าพูดอะไรออกมา แต่ยัยนั้นก็ตีหน้าตายไม่รู้สึกรู้สาอะไร

“เฮ้ยแก  เล่นนาริคเลยหรอ เค้ามีคู่แล้วนะ ดูสิมองตาเขียวเลย” ผู้หญิงรู้สึกจะอ้อยอิ่งที่สุดในกลุ่มเขย่าแขนเพื่อนตัวเองจากที่มองมาทางฉัน

แต่ก็ถูกสะบัดออกอย่างไม่ใยดี  แล้วมองมาทางฉันอย่างหาเรื่อง

“ใครดีใครได้” คำพูดนี้ที่หลุดออกมาจากปากของยัยนั้นมันคำให้ฉันปรี๊ดขึ้นสมอง  แต่ก็ถูกยับยั้งไว้โดยมีน

“ไปเหอะแก อย่ามีเรื่องกันเลย” มีนลากฉุดฉันให้เดินตามเต็มแรงแต่ตาฉันก็ยังไม่วายที่จะหันกลับไม่มองทางข้างหน้าตาได้แต่ส่งไปอย่างอาฆาตยัยรุ่งน้องแก่แดดนั้น  คิดจะแย้งนาริคงั้นหรือ ไม่รู้จักทิวลิปคนนี้ซะแล้ว    

หลังจากที่โดนมีนลากมา  เสียงที่ดังมาเป็นระยะๆตามทางเดินไปห้อง  ดังและโถมมาเรื่อยๆ  จนกระทั้งก้าวเข้ามาในห้องเสียงก็ยังไม่วายจะลดลง

“นี่แกจะคู่กับนาริครึป่าว” ยัยแจมกระโดมาถามฉันทันทีที่นั่งลง

“เมื่อกี้แกว่าไงนะ เพื่อนมันพูดเสียงดังไม่ได้ยิน”

“ฉันถามว่างานนี้แกจะคู่กับนาริครึป่าว!!” แจมตะโกนออกมาเต็มที่

“….” เสียงในห้องเงียบลงอย่างฉันพัน

“ช่ายๆๆ แกจะคู่กับนาริครึป่าว ถ้าไม่ฉันขอน้า” เสียงผู้หญิงในห้องถ่าโถมเข้ามาโดยไม่รู้ตัว

“แกฉันขอทิวก่อนน้า”

“แต่นาริคเป็นของทิวนะ”   ริคมันเป็นของฉันตอนไหนวะ  - -*

“แล้วเค้าอนุญาตแกแล้วหรอ”   โอ้ยวุ่นวายชะมัด ฉันได้แต่คลานกระดื้บกระดื้บออกมาโดยไม่ให้ใครรู้

“แกจะไปไหนน่ะ” ไอ้บ้ามีนแกมาพูดอะไรตอนนี้ เห็นมั๊ยพวกนั้นหันมาหมดเลย

“นี่ทิวอย่าพึ่งหนีสิ มาคุยกันก่อน” แคทได้แต่มาดึงให้ฉันลุกขึ้น  อ๊ากฉันไม่มีคำตอบให้พวกแกหรอก  ปล่อยช้าน น TOT

 

Stamp  Talk~

“นี่แตมป์เห็นข่าวยัง .. เห็นข่าวยัง” พายวิ่งกระดี๊กระด๊า กระโผกชนทุกสิ่งที่ขวางหน้าถือการ์ดขนาดเล็กสีชมพูมาหาฉันที่หน้าประตู

“เขารู้กันหมดแล้ว เนอะแตมป์” เฟย์ที่เดินมาสมทบหลังฉันพูดขึ้น

“อ้าว หวัดดีเฟย์” ฉันเห็นดังนั้นจึงกล่าวทักทาย

“ดีจ้าเฟย์ ^^” พาย

“หวัดดีจ๊ะทั้งสองคน ^^ เป็นไงได้คู่ไปงานรึยัง” เฟย์ตอบมาพร้อมรอยยิ้ม

“ เรื่องนั้นยังไม่คิดเลย  เราอาจ .. ไม่ไปก็ได้”

“หา/หา  OoO” ทั้งสองคนอุทานพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย

“จะเสียงดังทำไม ไม่มีใครตายซักหน่อย” ฉันเดินแซกตัวระหว่างสองคนนี้เพื่อมานั่งที่โต๊ะ

“เป็นไปได้ไง รู้มั๊ยว่างานนี้นักเรียนทั้งสองโรงเรียนตื่นเต้นแค่ไหน” เฟย์ทำหน้าตื่นรีบวิ่งเดินอ้อมมาหน้าโต๊ะฉันซึ่งตามมาด้วยพาย

“นี่อย่าบอกนะว่าแกจะหนีเหมือนครั้งก่อน แกรู้มั๊ยว่าพวกหนุ่มๆเค้าเสียใจแค่ไหน” พายพูดออกมาด้วยใบหน้าที่หน้าสงสารเต็มที่ แกดราม่าเกินไป - -*

“ครั้งก่อนแตมป์ก็หนีหรอ O_O” เฟย์

“โถ่ก็มันน่าเบื่อนี่  ไม่เห็นน่าสนุกตรงไหนเลย”

“มันอาจจะไม่น่าเบื่ออย่างที่คิดก็ได้นะ ^^”

“ช่ายๆ ปีนี้ฉันต้องคว้าตำแหน่ง zeEd star  ของโรงเรียนเรามาให้ได้!” พาย

“แล้วก็อย่าเรื่องมากเรื่องคู่เหมือนครั้งที่แล้วล่ะ มัวแต่รอพี่เอิร์ทเลยปฏิเสธผู้ชายทุกคนเลย - -*” ฉัน

“-3-” พาย

ตำแหน่งบ้าบออะไรก็ไม่รู้ไม่เห็นหน้าสนใจเลย  นี่แค่เนื้อหาในการ์ดเชิญมันทำให้ให้นักเรียนทั้งสองโรงเรียนกระตือรือร้นขนาดไม่เป็นอันทำอะไรเลยหรอเนี่ย  ตอนนี้ครูสอนไม่มีคนฟังสักคนมัวแต่แอบเมาส์กับเพื่อนเรื่องงานเฉลิมฉลองที่จะจัดขึ้นในอีก 3 วัน บางคนก็เอามือมากุมอย่างเพ้อฝัน ส่วนพวกผู้ชายก็มัวแต่เขียนคำเชิญชวนหาคู่ใส่กระดาษโยนไปใส่ผู้หญิงที่หมายปองจะไปงานด้วย  เพราะฉันโนไปหลายแผ่นเลยแหละแต่คนอย่างแตมป์มีหรอจะไป ^^

                                        ------------------------------

เน่าอย่าว่ากันน้าตอนแต่งตอนนี้อารมณ์

มันยังไม่เกิด  ตอนต่อไปคงต้องอัพ

ช้าอีกตามเคย เพราะยังไม่หมั่นใจในเนื่อหา

แต่อย่างน้อยก็หวังให้ยังมีคนคอยติดตามอยู่

เรื่องนี้อยากแต่งให้จบจริงๆแต่เมื่ไหร่มันจะจบสักที่ก็ไม่รู้

ช่วงนี้ไม่ค่อยมีอารมณ์แต่งเลยใครมีเพลงอินๆหรือหนังสนุกๆ

ก็แนะนำกันหน่อยนะคะ เพื่ออารมณ์ศิลป์พุ่งพ่าน

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.3 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา