valued friend เป็นไปไม่ได้ที่เราจะรักกัน
เขียนโดย Milkcake
วันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2554 เวลา 14.25 น.
แก้ไขเมื่อ 16 มีนาคม พ.ศ. 2556 21.57 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
8) อยากตาย!
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความวันที่ 31 แล้ว สุ่งท้ายปีเก่าตอนรับปีใหม่ พรุ้งนี้วันที่ 1 ก็ขอให้ทุกคนมีความสุขมากๆนะคะ คิดสิ่งใดขอให้สมปรารถนา ทิ้งความทุกข์ไว้ปีนี้แล้วปีหน้าเริ่มใหม่กัน (แล้วเรามาคอยดูว่าช่วงเคาท์ดาวน์จะแผ่นดินไหวรึป่าว)<< ยังแต่งนิยายไม่จบเลยจะตายแล้วหรือ (ล้อเล่นค่ะ)
... ในที่สุดฉันก็ต้องมารับประทานอาหารเย็นเพื่อสานสัมพันธ์ของสองตระกูล ใบหน้าของฉันตอนนี้เปื้อนยิ้มอยู่ตลอดเวลาสิ่งที่จะทำห้ฉันหุบยิ้มได้มีอย่างเดียวคือใบหน้าเหมือนคนอมขี้ของไอ้ทราสน์นั่นเอง
“แตมป์ไม่หิวหรอลูก ป้าเห็นตักอาหาน้อยจัง กินเยอะๆหน่อยนะจ๊ะเดี๋ยวไม่มีแรงสู้รบกับลูกชายเอาแต่ใจของป้า ^^” คุณป้าแม่ของทราสน์ถามฉันด้วยความเป็นห่วงก่อนที่จะตักอาหารใส่จานอันมีแต่ข้าว พร้อมส่งยิ้มแล้วเหล่ตาไปหาทราสน์เหมือนบอกให้ฉันเหล่ตาม
“ ขอบคุณค่ะ ^^” ฉันหันกลับไปขอบคุณคุณน้าทันทีที่ทราสน์หันมาสบตากับฉัน คุณป้าก็ยิ้มตอบ
ผ่านไปเกือบชั่วโมงกับการคุยสนทนาของผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายอย่างสนุกสนานพ่อฉันกับคุณพ่อทราสน์ออกจะคุยเสียงดังหน่อยกับการวางแผนธุรกิจร่วมกันส่วนแม่ฉันกับแม่ทราสน์ก็ไม่น้อยหน้าต่างพากันนัดหมายอย่างดิบดีว่าจะไปช็อปปิ้งที่ปารีส แต่ฉันมีความรู้สึกว่าทราสน์กับคุณลุงไม่คุยกันเลยมีเพียงแค่สบตากับนิ่งๆเพียงเสี้ยววินาที สองคนนี้คงยังไม่ปรับความเข้าใจกันตั้งแต่ทราสน์ออกจากบ้านแน่เลย
“แม่มีเรื่องสำคัญจะบอกจ๊ะ” เมื่อแม่ของฉันเอ่ยปากพูดขึ้นทุกอย่างก็ตกอยู่ในความเงียบ
“พวกผู้ใหญ่ตกลงและลงความเห็นไว้แล้วว่าจะให้ทราสน์กับลูก” เมื่อแม่ฉันพูดขึ้นยังไม่ทันจบฉันก็รู้สึกได้ถึงปฏิกิริยาตอบรับของทราสน์อย่างผิดปกติ เค้าเหมือนจะสะดุ้งอย่างตกใจ นี่เค้าเป็นอะไรเนี่ย
“ไปอยู่ด้วยกันจ๊ะ โดยให้หนูแตมป์ไปอยู่กับลูกที่คอนโด” แม่ของทราสน์เสริมขึ้นมา แล้วทำให้เค้าตกใจของทราสน์หายไปอย่างเห็นได้ชัด แต่ความสงใสคงเข้ามาแทนและแน่นอนไม่ใช่แค่ทราสน์ฉันหนิซุปเปอร์งงเลย
“ทำไมล่ะคะ” ฉันถามออกไปเมื่อรู้ว่าทราสน์คงไม่พูดอะไรแน่
“ก็เพราะหนูแตมป์ต้องคอยเทียวไปหาทราสน์ทุกวันคงจะเหนื่อยแย่ พอจะจ้างคนใช้ให้ทราสน์ก็ไม่ยอมแล้วป้าก็ไม่อยากให้หนูต้องเหนื่อยเลยจะให้ไปอยู่ด้วยกันเลย” คุณป้ากล่าวเสียงเรียบปนรอยยิ้มเหมือนเรื่องที่พูดไม่ใช่เรื่องใหญ่ แล้วถึงพ่อฉันกับพ่อทราสน์ไม่แสดงความคิดเห็นอะไรแต่ดูจากแววตาแล้วออกจะเห็นด้วย ด้วยซ้ำ
“แต่หนูเป็นผู้หญิงนะคะแล้วให้ไปอยู่กับผู้ชายนะหรอคะ” ฉันคงจะขึ้นเสียงดังไปหน่อยเลยรีบเบาเสียงโดยเฉียบพันก็คนมันตกใจนี่นา ถึงจะรู้ก็เหอะนะว่าพ่อแม่ของฉันกับพ่อแม่ทราสน์ไว้ใจเรามากแค่ไหนเรื่องนั้นไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอนแล้วอีกอย่างเราสองคนเป็นเพื่อนกันจะยังไงมันก็คงจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่
“ไม่ต้องห่วงนะหนูแตมป์ลูกของลุงมันเป็นสุภาพบุรุษพอ มันคงไม่ทำอะไรแบบนั้นหรอก” หลังจากที่คนลุงนั่งฟังการสนทนาอยู่นานก็พูดขึ้นทำให้ทราสน์ต้องหันควับมาทางคุณลุงทันที
“ หนูรู้ค่ะ แต่ .. ” ฉันกำลังจะค้านก็ถูกแม่ตัดหน้าก่อน
“ งั้นเอาเป็นว่าลูกตกลงนะ แล้วทราสน์ว่าไงจ๊ะ” แม่ส่งยิ้มหวานไปให้ทราสน์อย่างรอคำตอบ
“ ก็แล้วแต่ครับ” ทราสน์ตอบเสียงเรียบอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไรมือก็ยกแก้วนํ้าขึ้นมาจิบเล่นอย่างสบายอารม์ นี่แกไม่คิดจะค้านเลยหรอ
“งั้นก็เอาเป็นว่าตกลงนะจ๊ะ” ร้อยยิ้มของผู้เป็นแม่ฉันกับทราสน์ผุดขึ้นมาอย่างสงสัย ผู้ใหญ่สองคนนี้ชักมีพิรุธแล้วสิแล้วฉันต้องไปอยู่กับทราสน์จริงๆหรอเนี่ยตั้งแต่เกิดมาไม่เคยอยู่กับผู้ชายยกเว้นพ่อ แล้วต้องไปอยู่กับไอ้เพื่อนตัวแสบเอาแต่ใจเปลี่ยนอารมณ์เก่งแบบนี้ ดิฉันอยากตาย แล้วท่ามีใครมารู้ละก็ แฟนคลับไอ้ทราสน์ไม่ลุมฉันตายหรอ โอ้ยคนสวยอยากตายรอบสอง -- [ ] --
--------------------------------
ตอนนี้สั้นสุดๆไปเลยเนอะ ถือว่าเป็นตอนที่สั่นที่สุดก็ว่า
ได้เพราะยังคิดอะไรไม่ออก แหะๆ ต้องหาอะไร จิ้นๆ
ถึงคิดออกอ่าใครมีหนังรักสนุกๆเพลงเพราะๆ ก็บอกหน่อยน้า
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ