valued friend เป็นไปไม่ได้ที่เราจะรักกัน
เขียนโดย Milkcake
วันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2554 เวลา 14.25 น.
แก้ไขเมื่อ 16 มีนาคม พ.ศ. 2556 21.57 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
10) มันเขี้ยว
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ตอนที่ 9
บรรยากาศยังคงอึดอันเหมือนเดิมฉันโกธรกับทราสน์และไม่ยอมพูดด้วยถ้ารวมวันนี้ก็เป็น 2 วันแล้วแม้แต่หน้าเค้าฉันยังไม่มองเลย แต่สิ่งที่ทำให้ฉันโมโหมากๆคือ ... เค้าไม่ง้อฉัน!!! -M- ปกติเค้าก็ต้องง้อฉันตลอดนี่นา แล้วทำไม! ครั้งนี้ไม่อ่า~ นี่ฉันเล่นตัวไปรึป่าว (มากๆเลย)
ไม่รู้แหละ ถ้าไม่ง้อก็ไม่หาย จบ! (นางเอกเราเอาแต่ใจอะ)
“โอ้ย! ไม่ไหวแล้วนะ” ฉันขยี้หัวตัวเองจนยุ่งเพราะความอึดอัด เดินกระทืบเท้าเดินไปเดินมาอยู่ในห้อง มองดูนาฬิกาเป็นเวลา 3 ทุ่มเศษ
ฉันทิ้งตัวลงนอนบนเตียงนุ่มๆจากความเหนื่อยนิดๆที่เดินไปเดินมา
พรึบ
แต่ก็ต้องสะดุ้งเฮือกขึ้นมาด้วยความตกใจ ทำไมน่ะหรอ ก็ไฟดับนะสิ! และที่สำคัญ ... ฉันไม่ถูกกับมันเอาสะเลย มืด..มืด..มืดไปหมด และถ้ามีความมืด ที่นั่นก็ต้องมี .. ผะ .. ผี!! และมันคือสิ่งที่ฉันกลัวที่สุดในสามโลก โอ้ไม่นะ แม่จ๋า ฮือๆๆ YOY ช่วยหนูด้วยหนูอยากกลับบ้านง่า~ แงๆๆ
ฉันพยายามเก็บรวบรวมสติให้เข้าที่ถึงจะยังไม่ครบก็เหอะ พยามยามควานหาไฟฉาย
“เจอแล้ว!” แต่ ... แกร๊ก แกร๊ก แกร๊ก แกร๊กๆๆๆๆ อ๊าก! ถ่านหมด ง่า~ ทำไมมันซวยอย่างนี้ ทราสน์ ~ ทราสน์อยู่หนายย ยย~
(หายโกธรเขาแล้วหรอ) (ไม่รู้อันนี้เป็นข้อยกเว้นก่อน) (- -;)
ฉันตัดสินใจเดินออกไปอยู่หน้าห้องทราสน์โดยใช้มือคลำทางไปตามสัญชาตญาณเมื่อถึงที่หมายฉันก็แง้มประตูออก แต่กลับพบแต่ความว่างเปล่าและความมืด
“นี่เค้าไปไหนเนี่ย!~” ฉันร้องมาเมื่อแน่ใจว่าเค้าไม่ได้อยู่ที่ห้องจริงๆ แล้วทำไมมันรู้สึกเสียวสันหลังวาบแบบนี้เนี่ย ฮือๆๆ จะไม่ไหวแล้วนะ
“ใจเย็นไว้แตมป์เธออย่าพึ่งฟุ้งซ่านสิมันคงไม่มีอะไรหรอก คอนโดหรูหราขนาดนี้คงไม่มีประวัติที่ไม่ดีหรอก (มั้ง)” ฉันพึมพำเพื่อเรียกสติที่กระเจิกกระเจิง
หมับ
เฮิอก!
โอ้ไม่นะแม่เจ้า มะ …มือใครอะ จะ ..จับไหล่ฉ้านนนนน YOY ฉันได้แต่ยืนตัวแข็งทื่อสั่งหงิกๆอยู่หน้าประตูที่เดิมหน้าที่คิดว่าจะหันไปเผชิญมากลับมาล็อกสะงั้น ฉันรู้สึกถึงบางอย่างที่ขยับเข้ามาเรื่อยๆจนสัมผัสอุ่นๆมากระทบหลัง มือที่ยังคงจับอยู่ที่ไหล่ของฉันเช่นเดิม ตอนนี้น้ำใสมันมาลื่นอยู่ที่ม่านขอบตาเต็มไปหมดพร้อมจะหยดลงได้ทุกเมื่อ TOT ฉันไม่ได้เว่อร์นะ แต่คนเรามันมีสิ่งที่กลัวแตกต่างกันและฉันก็ดันงี่เง่ามากลัวผีจนเว่อร์เองแหละ TOT มันช่วยไม่ได้นี้ เฮือก! มือที่ยังจับอยู่ที่ไหล่ฉันเพิ่มแรงบีมมากขึ้น สายลมที่ผ่านช่องหน้าต่างที่ถูกแง้มไว้เพียงเล็กน้อยลอยมาปะทะผิวหนังฉัน ให้ความรู้สึกเย็บวาบไปทั่วร่างกายผสมผสานกับเสียงฝนที่กำลังตกพร้อมมาด้วยเสียงฟ้าร้องอยู่ภายนอก โอ้บรรยายกาศมันช่างเป็นใจ ฉันจะไม่ไหวแล้วนะ ทำไมตามันร้องอย่างนี้ล่ะ แผละ! เอน้ำอะไรน่ะ หลังคารั่วหรอ บ้า!เป็นไปไม่ได้หรอกน่าที่มันคอนโดนะ แผละ! อีกแล้ว..น้ำมันหยดมาอีกแล้ว ..เอะหรือว่า
ฉันลองเอานิ้วเรียวๆของตัวเองปาดเบาๆที่ข้างแก้ม ฮ่ะๆๆ ^O^ จริงๆด้วย ..ฉันร้องไห้!! TTOTT
“ยัยขี้แย” สัมผัสอุ่นๆจากที่หลังและบางอย่างที่ทิ้งน้ำหนักลงมาบนไหล่ มันทำให้ฉันสะดุ้ง
“ผีนิสัยไม่ดี -^-”
“แต่หล่อ”
“เอ๊ะ..!!! - -*” ไอ้บ้าหนิ ที่จะหลงตัวเองก็เอาสะ ...ฮุ้ย!! -.,- (เออ..ลืมเรื่องผีไปชั่วขณะ)
ฟุ่ ~
“-[]-//” ลมที่ปล่อยออกจากลมปากของคนข้างหลัง สัมผัสบริเวณต้นคอ มันทำให้ฉันกระตุกวาบ
เพี๊ย!!
“เจ็บ - -++” มันปล่อยมือที่ล็อคเอว (ตั้งแต่เมื่อไหน่ไม่รู้)เสียงพูดนิ่งๆแต่เบ้หน้าเล็กหน่อย
“สม”
“ทำตัวไม่น่ารักเลย”
“ก็ไม่ได้อยากน่ารักในสายตาใครหนิ L” ชิชะหาว่าเค้าทำตัวไม่น่ารัก -^-
♫ So get out, get out, get out of my head And fall into my arms instead ..~ ♫
::+ Pitch +::
“นี่สนิทกันจนถึงขนาดให้เบอร์เลยหรอ - _ -” คนนิสัยไม่ดีฉวยโทรศัพท์ที่ฉันพึ่งหยิบออกมาจากกระไปอย่างหน้าตาเฉย ก่อนจะตวัดสายตาอันคมกริบมามอง
“เฮ้! ไม่เอาน่า เอาคืนมา”
“ไม่” คนนิสัยไม่ดีปิดเครื่องโทรศัพท์แล้วโยนไปที่เตียงอย่างไม่ยีหระ
“ทำอะไรน่ะ -_-^^” ทราสน์ยักไหล่ก่อนจะเดินมาชิดตัวฉัน
“…”
“แกชอบมัน” เค้าหันกลับมาสบตาฉันอีกครั้ง แววตาเขาต้องการจะเค้นคำตอบที่แท้จริงออกมา
“มันไหน (- _ -?)”
“อย่ามาทำเป็นไม่รู้หน่อยเลย” เอ๊ะไอ้นี่หนิก็คนมันไม่รู้จริงๆอะ - -*
“นี่แกเป็นอะไรรึป่าว” ฉันก้าวเข้าไปหาเค้าในระยะประชิดที่ตอนนี้จะไม่เหลือช่องให้ชิดอีกต่อไป แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น มือทั้งสองของฉันข้างตบแก้มของเขาเบา
“แกกำลังออกนอกเรื่องและเบี่ยงเบน - -” เค้าไม่ปฏิเสธการกระทำของฉันและจ้องตาฉันตอบ
“แต่แกกำลังจะพูดไม่รู้เรื่องนะ (-_-;)”
“แกต่างหากที่พูดไม่รู้เรื่อง ฉันก็แค่จะถามแกแต่แกก็เบี่ยงเบน .. แสดงว่าแกมีใจให้มัน” เค้าปัดมือฉันออกด้วยความหงุดหงิดทันที แต่ฉันก็มีความอดทนพอที่จะต่อกรกับอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงงายดายของผู้ชายคนนี้ ฉันจับหน้าเค้าหันกลับมาอีกครั้ง เมื่อเห็นสีหน้าก็รู้ทันทีมาไม่ค่อยสบอารมณ์สักเท่าไหร่
“นี่แกกำลังโกธรเค้าหยอ ^^” ฉันถามด้วยน้ำเสียงหยอกล้อ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมสถานการณ์นี้ฉันยังยิ้มออก อาจเป็นเพราะฉันว่าเค้าอารมณ์เสียเพราะฉัน และฉันก็รู้สึกดีที่ทำให้เค้าหงุดหงิด ^^ ฉันต้องเพี้ยนแน่ๆ
“...” เค้าไม่พูดอะไรเพียงแต่จ้องตาฉันนิ่ง ที่แฝงไปด้วยความไม่เข้าใจ ฉันปล่อยมือออกจากหน้าเขาแต่ก็ไม่ได้ออกห่าง
“ ...” ต่างฝ่ายต่างไม่พูดกันเพียงใช้แค่ดวงตามองทะลุหาคำตอบและความหมายซึ่งกันและกันเป็นเวลาพักหนึ่ง
“ทำไมแกต้องทำให้ฉันหงุดหงิด” เค้าพูดออกมาหลังจากที่เงียบกันอยู่นาน ปากของเค้าเม้มกันเป็นเส้นตรงเหมือนกำลังสับสน
“ โกธร ^^” ฉันฉีกยิ้มอย่างชอบใจ
หมับ อยู่ดีๆเค้าก็ดึงตัวฉันไปกอดเฉยเลย
“ไม่ได้โกธร ..สักหน่อย แต่ทำไมฉันต้องมาหงุดหงิดเพราะแกด้วย” ทราสน์
“ฉันต้องตอบแกมั๊ย?” ฉัน
พรืด~ เค้ายิ่งกอดรัดฉันแน่นขึ้นมากจนฉันหายใจแทบไม่ออก
“มันเขี้ยว ..” อ้าว! งั๋ยเป็นงี้อะ =o=
“นี่..ฉันหายใจไม่..ออก ทราสน์” ฉันพูดออกไปอย่างกระตุกกระตักเมื่อเห็นท่าทีว่าเค้าจะไม่ปล่อยง่ายๆแน่ แถมยังรัดแน่นขึ้นทุกที
“เฮ้อ~ แกเนี่ยน้า .. มันน่ามันเขี้ยวจริงๆ” ทราสน์ปล่อยฉันก่อนที่จะมาขยี้ผมฉันจนยุ่งฟู
“ยัยเตี้ยเอ้ย ^^” แหม๋~ อารมณ์ดีเชียวนะ เห็นมั๊ยบอกแล้วผู้ชายคนนี้เปลี่ยนอารมณ์ง่ายสุดๆและเข้าใจยากโคตรขนาดอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เกิด
“หายโกธร .. เอ้ยหายหงุดหงิดแล้วหรอ *0*”
“ไม่รู้ .. ยัง(มั้ง)” เค้าทั้งพูดทั้งโยกหัวฉันไปมา นี่มันคนอารมณ์ดีขึ้นชัดๆ
“หาวว~ -O- ง่วงอ่า~” ปากฉันหาวออกมาเป็นสัญญาณเตือนว่าวันนี้คุณหมดพลังงานแล้ว
“นอนสิ” ไม่ต้องพูดฉันจะขอบใจแกมากก
“นอนด้วยดิ J”
“นี่แกไม่กระดากปากหรอ”
“ไม่หนิ (•o•) ก็เรานอนด้วยกันออกบ่อย”
“นั่นมันตอนเด็ก - -*” เค้าคงบอกเธอไม่ทันแล้วล่ะเพราะเธอได้กระโดดลงเตียงแล้วหลับตาไปแล้ว เขาสายหน้าอย่างระอากับการกระทำเหมือนเด็กของเพื่อนสนิทตัวเอง โตป่านนี้ก็ยังเหมือนเดิม
“แกนี่มันจริงๆเลย” เขายิ้มบางๆให้กันผู้หญิงตรงหน้าที่หลับตาพริ้ม พร้อมกับมือที่เอือมไปหยิกแก้วเธอเบาๆที่เบี่ยงหน้าอย่างขัดใจ
“น่ามันเขี้ยว” เขากระตุกยิ้มมุมปากบางๆซึ่งไม่ค่อยเห็นบ่อยหนักอย่างสบายใจ ก่อนที่จะไปคว้าหมอนไปวางที่บนโซฟาขนาดยาวอยู่ไม่ห่างจากเตียงนอนเท่าไหร่ก่อนที่เขาจะที้งตัวลงนอนโดนหันหน้าออกไปมองเพื่อนสนิทตัวเองที่ตอนนี้นอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียงของเขาแล้ว เขานอนมองใบหน้าหวานของเพื่อนตัวเองอยู่พักใหญ่ๆและคุ่นคิดสิ่งต่างๆมากมายที่วกเข้ามาในหัว เขายังมีเรื่องที่เธออยากรู้มาตลอดแต่ก็ไม่บอกเธอสักที เขาไม่กล้า..หรือเขากลัวกันแน่ กลัวที่จะไม่ได้เห็นใบหน้าหวานๆของเพื่อนสาวที่มาคอยมากวนใจเขาเสมอมาตั้งแต่เล็กจนโต กลัวที่จะไม่ได้ยินเสียงจิ๊จ้ะของเธอเมื่อโดนเขาขัดใจเมื่อคิดรอยยิ้มก็ผุดขึ้นบนใบหน้าที่หล่อเหลาถ้าสาวได้มาเห็นเป็นต้องละลายเป็นแน่ แต่รอยยิ้มนี้คงเป็นของผู้หญิงตรงหน้าแต่เพียงผู้เดียว หลายครั้งที่เขาเฝ้าถามตัวเองว่าเขาเป็นอะไรความรู้สึกนี้มันคืออะไรกันแน่ แต่ก็ไม่เคยได้รับคำตอบเลยสักครั้ง... เขาไม่รู้ตัวเลยว่าลุมลึกของหัวใจมีความรู้สึกหนึ่งที่ค่อยๆก่อเกิดโดยไม่รู้ตัว
---------------------------------------------------------------------------
เออ..ไม่กล้าจะพูดอะไรกลัวโดนตบ เอาจริงๆเราว่าจะทิ้งเรื่องนี้แล้วนะ คือพอร์ตมันไม่ลงล็อกซักที แถมยังคิดพอร์ตนิยายใหม่ได้อีกหลายเรื่องแต่ต้องหยุดคิดไปเพราะงาน งาน งานนน และงาน มันเยอะมากกก และเตรียมสอบแข่งขันอีกมากมายมันก็เลยหยุดไปจนผ่านมาปีหนึ่งเลย แหะ แต่ไปรู้เป็นอะไรวันหนึ่งอยากลองเปิดเข้ามาก็ซึ้งใจว่ายังมีเพื่อนๆรออยู่ขอบคุณมากนะค่ะแค่เสียงไม่กี่เสียงก็ทำให้เราซึ่งแทบขาดใจ ขอบคุณจริงๆ แล้วจะพยายามอัพค่ะ แค่คงนานหน่อย นะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ