กฏ คู่ รัก

8.3

เขียนโดย NewWy

วันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 เวลา 23.09 น.

  3 ตอน
  25 วิจารณ์
  11.12K อ่าน
แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

3)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

“เราต้องมีกฎในการอยู่ร่วมกัน!”

 

 

การแต่งงานถูกจัดขึ้นอย่างลับๆ หรือพูดให้ถูกก็คือเป็นการแต่งงานที่รู้กันเฉพาะคนกันเอง  แขกทีมาบ้านก็มีแค่ญาติๆ ซึ่งแต่ละคนบ้างก็เห็นด้วยบ้างก็ไม่เห็นด้วย หว่าไม่กล้าพูดอะไรเพราะนี้เป็นการตัดสินใจของคุณย่าล้วนๆ

ตอนเช้าเป็นพิธีหมั้น ตอนคืนเป็นพิธีแต่ง จนกระทั่งมาถึงจุดไคลแมซ์นั่นคือ……

 

 

“นี้คือห้องหอ ซึ่งต่อไปนี้ฟางจะต้องมาอาศัยอยู่กับคุณย่าแล้วก็ป็อปปี้ที่นี่จ้ะ”

 

 

“=0= คะ…ค่ะ”

 

 

ก็ไม่ได้รู้สึดตื่นเต้นอะไรหรอก เพราะฉันก็เข้าออกห้องนี้เป็นประจำตั้งแต่ยังเล็กๆ เพราะมาเล่นกับป็อปปี้บ่อยๆ  ที่ว่ามันก็นานหลายปีแล้ว ฉันไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งจากที่เคยเล่นต้องกลับกลายมาอยู่ที่นี่อย่างจริงจัง ป็อปปี้มองหน้า

ฉันอย่างเข้าใจ

 

“ทำตัวสบายๆ เถอะ ไม่มีเหตุผลอะไรที่แกจะต้องเกร็งอย่างนั้น”

 

 

“ไม่เกร็งได้ยังไง ฉันกำลังจะนอนร่วมเตียงเดียวกับแกนะเว้ย “

 

 

ป็อปปี้เงียบไปเมื่อฉันพูดจบฉันไม่รู้เลยว่าเขาคิดอะไร แล้วคุณย่าที่ดูจะชื่นมื่นเป็นพิเศษเรียกให้เราไปนั่รับพร มันช่างเป็นอะไรที่น่าประทับใจก็จริง แต่ฉันไม่คิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นกับคนอายุสิบเจ็ดอย่างสิบแปดอย่างเราเลย

พอพิธีจบลงคุณย่าก็ยื่นหนังสือแปลกๆให้ป็อปปี้ จากนั้นก็แวบออกไปจากห้องด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส

 

 

“ย่ายื่นอะไรมาให้แก”

 

 

“ไม่ต้องรู้ทุกเรื่องก็ได้ -_-”

 

 

“อะไรกัน นี้ฉันเป็นเมียแกแล้วนะ อย่ามามีความลับ”

 

 

“เต็มปากเต็มคำเลยนะเมีย -*- เอาเป็นว่าแกไม่ต้องรู้นั้นแหล่ะดีที่สุดแล้ว” ป็อปปี้ถอดเสื้อนอกกับพวงมาลัยที่คล้องคอแล้วโยนไปทางอื่น จากนั้นก็ทิ้งตัวลงนอนกับเตียง

 

 

“เหนื่อยเป็นบ้าเลย ขนาดไม่ค่อยจะได้ทำอะไร  แค่ยิ้มไปยิ้มมาแล้วก้พูดอะไรแปลกๆบนเวทียังเหนื่อยได้ขนาดนี้”

 

 

 “ฉันเองก็เหนื่อย ชุดบ้านี่ทำให้ฉันคันไปหมดแล้ว ไม่เคยเข้าใจเลย่าทำไมเจ้าสาวถ้าไม่ใส่ชุดบานเป็นสุ่มไก่ก็ต้องมาใส่ชุดไทยท่มีแต่ดอกไม้ไปหญ้า”

 

 

“เขาเรียกว่ากล้วยไม้ “

 

 

“เขาเรียกว่าลูกไม้ “จะแก้ยังแก้ผิดเลย -*-

 

 

“เออ จะเรียกอะไรก็ช่างมันเถอะ ฉันเหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว นอนดีกว่า =_= “ป็อปปี้

 

 

“แล้วนี้แกไม่คิดจะอาบน้ำอาบท่าหน่อยหรือไง “

 

 

“มันเหนื่อยเกินกว่าจะลุกขึ้นไปอาบได้…จริงสิ เราแต่งงานกันแล้วนี่ ทำไมไม่ไปอาบด้วยกันล่ะ แล้วแกก็อาบให้ฉันหน่อย ฉันเหนื่อยมาก! “

 

 

“แกต้องอยากโดนส้นเท้าของฉันลูบที่ปลายคางแน่ๆเลย”

 

 

“โหด “ ป็อปปี้ลุกขึ้นนั่งอีกครั้งแล้วบิดขี้เกีจจนเสียงกระดูกดังกรอบแกรบ ก่อนจะทำท่านึกอะไรบางอย่างได้

 

 

“จริงสิ ฉันเกือบลืมไปแน่ะ “ ป็อปปี้เอื้อมไปหยิบกระดาษที่พับแลดูยู่ยี่นั่นถูกคลี่ออกแล้วส่งมาทางฉัน

 

 

“รับไปซ่ะ “

 

 

“มันคืออะไร โพยบอลหรอ “

 

 

“ความเป็นผู้หญิงของแกอยู๋ที่ไหนกัน อ่านก่อนแล้วค่อยถาม -_-“

 

 

“กฎของการอยู้ร่วมกัน ? อะไรของแกเนี่ย “

 

 

“ฉันเพิ่งคิดได้ตอนที่ขึ้นเวที พอย่าพูดว่าเราต้องมีลูกเต็มบ้านมีหลานเต็มเมืองเชิดชูวงค์ตระ…”

 

 

“หยุด ฉันไม่สามารถทนฟังได้  ToT “

 

 

“นั่นแหล่ะ มันเลยทำให้ฉันขึ้นมาได้ว่าเราควรจะมีกฎในการอยู้ร่วมกันสักหน่อย  เพราะแกคงคิดเหมื่อนฉันว่าการแต่งงานของเรานอกจากตามใจย่าแล้ว มันก็ไม่ได้มีอะไรลึกซึ้งมากไปกว่านั้น “

 

 

“แหงอยู่อยู่แล้ว เพราะเห็นแกมาทำหน้าจ๋องหง็องอยู่ในห้องนอนฉันหรอกนะ ฉันถึงได้รับปากแต่งงานด้วย

แต่ถ้าจะให้มีอะไรลึดซึ้งมากไปกว่านั้นฉันขอเซย์โน”

 

 

“งั้นเราก็เข้าใจตรงกันพอคิดได้อย่างนั้นฉันก็เลยคิดว่าเราควรจะมีกฎ ไม่อย่างนั้นความใกล้ชิดของเราอาจจะทำอันตรายกับความรู้สึกได้ “

 

 

 “อี๋…. ไม่มีอะไรทำให้เราสองคนเปลี่ยนไปได้หรอกแก  ต่อให้แกเดินแก้ผ้าโทงๆ รอบห้องฉันก็ไม่รู้สึกอะไร

เคยเห็นตั้งแต่อันเท่าหนอน”

 

 

“แต่ตอนนี้อันเท่างูเหลือมเผือก”

 

 

“กรี๊ดดด หยุด!”

 

 

“เห็นมั้ยล่ะว่าแกอาย แปลว่าแกมีพลังขับเคลื่อนของเพศหญิงเต็มจำนวน การใกล้ชิดของเรามันควรมีระยะปลอดภัยเอาไว้หน่อย จริงมั้ยหล่ะ  ดังนั้นฉันเลยคิดว่าเราควรจะมีกฎควบคุมเราสองคนเอาไว้ไม่ให้มากเกินไปและน้อยเกินไปถ้าจะอยู่ร่วมกัน “

 

 

 “เว่อร์จริงๆ ฉันคิดว่าตัวเองเป็นนางเอกฟูลเฮ้าส์แล้วเนี้ย ว่าแต่ไหนล่ะกฎ  เห็นแต่เลขข้อ ไม่เห็นมีรายละเอียดอะไรสักอย่าง  แล้วทำไมต้องสิบข้อด้วย ? “

 

 

“มันเป็นเลขที่กำลังดี ไม่มากเกินไป ไม่น้อยเกินไป “

 

 

“แล้วถ้ามันมากกว่านั้นหล่ะ “

 

 

“ทำให้มันครบก่อนค่อยคิดถึงตอนมันเกิน “

 

 

“แล้วแกคิดไว้บ้างรึยัง “

 

 

“ยัง คิดไม่ออก “

 

 

“ถุย “

 

 

“ดังนั้นฉันจะให้แกเอากลับไปคิดเป็นการย้านว่ามันควรจะมีกฎอะไรบ้าง “

 

 

“แล้วแกหล่ะ “

 

 

“จะไปอาบน้ำก่อน “

 

 

“แล้วแกจะนอนตรงไหน “

 

 

“นอนบนเตียง “

 

 

“แล้วฉันหล่ะ”

 

 

“จะไปรู้หรอ นี้ห้องนอนฉันนะ “

 

 

“ฉันจะนอนกับแก “

 

 

“แต่.. “

 

 

“หรือแกรู้สึกอะไรกับฉัน -__-++ “

 

 

“ยัยไม้กระดาน “

 

ปัง!!!!

 

ป็อปปี้วิ่งเข้าห้องน้ำแล้วรีบหันมาปิดประตูอย่างรวดเร็วราวกับรู้ว่าจะมีอะไรลอยตามหลังเขาไป นี่แต่งงานกันวันแรกก็เถียงกันจะเป็นจะตายแล้วต่อไปจะเป็นยังไงเนี้ย !!!!

 

 

 

วันต่อมา….

 

“น้ำตาของย่ามันพานจะไหลเมื่อเห็นหลานๆ  ออกมาจากห้องนอนด้วยชุดนักเรียนสุดแสนจะน่าร๊าก “ คุณย่าเอามือวางทาบไว้บนอกตัวเองด้วยความปลาบปลื้มตามที่พูด จริงๆเราสองคนได้แต่มองหน้ากันแล้วหันไปทางอื่นด้วยความกระดากอายยังไงพิกล

 

 

“ป็อปไปเรียนดีกว่าครับ “

 

 

“แล้วไม่กินข้าวก่อนหรอ “

 

 

“ไม่ดีกว่า  เดี๋ยวย่าชวนคุยเรื่องแปลกๆ “

 

ฉันเห็นด้วยกับป็อปปี้เต็มร้อย  เราสองคนรีบเดินออกมาขึ้นรถส่วนตัวของป็อปปี้  น่าแปลกดี วันก่อนฉันยังนั่งรถเมล์อยู่เลย วันนี้ฉันนั่งรถเก๋งแล้วล่ะ >0<

 

 

“เมื่อคืนหลับสบายดีหรือเปล่า ? “ ป็อปปี้ถามหลังจากขึ้นรถเป็นเรียบร้อยแล้ว ฉันสดุ้งสุดตัวด้วยความขนลุก

 

 

“เราไม่ได้ทำอะไรกันสักหน่อย “

 

 

“อะไรของแก  ฉันก็ถามไปตามมารยาท เห็นมานอนบ้านฉันกลัวจะนอนไม่หลับเพราะแปลกที่เลยถามด้วยความเป็นห่วงเป็นใย  อย่าสะดีดสะดิ้งงไปนักเลย “

 

 

“จะไปรู้ได้ไง อยู่ๆแกก็ถามขึ้นมา …. เออ ก็นอนหลับสบายดี แม้จะแปลกๆ ที่มีคนตัวใหญ่อย่างแกมานอนอยู่ข้างๆ บนเตียง  ว่าแต่แกล่ะนอนหลับสบายดีป่ะ? “

 

 

“อึดอัด” พูดตรงชิบเป๋ง -*-

 

 

“แกอยากจะปล้ำฉันเหรอ “

 

 

“ไอ้บ้า ฉันไม่คิดเรื่องนั้นเลย  ที่อึดอัดฉันหมายถึงว่าเตียงมันแคบเกินไป “

 

 

“พูดให้ชัดคือ แกตัวใหญ่เกินไปต่างหาก  แต่อย่างว่าเตียงมันใช้สำหรับนอนคนเดียวจะเอามานอนสองคนมันก็แลแปลกๆ  อยู่“

 

 

“ซื่อเตียงใหม่ดีมั้ย “

 

 

“จะไปรู้หรอ  ก็มันห้องของแกนี่”

 

 

“ก็แกเป็นเมียฉัน  ฉันก้ต้องถามความเห็นของแกสิ “

 

 

“แกจำเป็นต้องพูดแบบนี้ออกมาด้วยหรือไงกัน ทุเรส “

 

 

“ฉันทำไรผิด - _ - “

 

 

“แกจะซื่อเตียงใหม่หรือจะประดับโคมไฟระย้าฉันก็ไม่ว่าแกหรอก ถึงโรงเรียนแล้ว!!! “

 

 

ฉันพุ่งตัวลงจากรถเป็นคนแรก พอจะก้าวขาเข้าไปในโรงเรียนก็รู้สึกเหมื่อนตัวเองถูกรั้งคอโดยคนตัวใหญ่ จากนั้นร่างของฉันกับป็อปปี้ก็กระแทกเข้าหากันด้วยความตั้งใจของใครบางคน

 

“ไง ทำไมวันนี้สองคนมาพร้อมกันได้เนี้ย “

 

โทโมะ เพื่อนสนิทของป็อปปี้ที่เพิ่งก้าวลงจากรถคันงามอย่างร่าเริงมาถึงก็ทักทายอย่างรุนแรงจนกระดูกกระกระเดี้ยวจะหัก =_=

 

“ฉันไปนอนบ้านป็อปปี้มา “

 

“หา!!! “

 

โทโมะทำหน้าเหมื่อนผี้เข้า มองฉันสลับกับป็อปปี้ด้วยความสงสัยใคร่รู้หน้าตาหล่อเหลาของเขาถึงกับเปลี่ยนจากอมชมพู เป็นซีด แล้วก็เปลียนเป็นเขียวเหมื่อโดนบีบไข่ =__=

 

 

“ทำไมเธอต้องไปนอนบ้านมันด้วย “

 

 

“ก็..... “ฉันตั้งใจจะพูดความจริงไปทำนองเล่นเรื่อยเฉื่อย แต่ดูเหมื่อนป็อปปี้จะรู้แกวก็เลยเอื้มมือมาหยอกเอวฉัน

 

 

“แย้กส์ เจ็บนะ “

 

 

“มันเป็นเรื่องปกติของบ้านฉันน่ะ  อีกอย่างแกก็รู้ดีว่าฟางเป็นเพื่อนสนิทฉัน แถมยัวสนิทกับย่าฉันแค่ไหน การที่มานอนค้างบ้านฉันก็ไม่เห็นจะแปลก เลิกทำหน้าตื่นตกใจเสียที “

 

 

“แล้วที่ค้างได้นอนด้วยกันหรือเปล่า “

 

 

“แน่นอน!!! “ฉัน

 

 

“แน่นอนว่าไม่ได้นอนด้วยกัน ฉันอายุเท่าไหร่ ฟางอายุเท่าไหร่ แล้ว แกเลิกถามเซ้าว้ได้มั้ย เสียลุคหมด “

 

 

“อืมอยางนี้นี่เอง “

 

   โทโมะทำหน้าโล่งอกแล้วก็แทรกตัวเข้ามาอยู่ตรงกลางระหว่างฉันกับป็อปปี้ตอนที่เราสามคนเดินไปพร้อมกันก็จะมีเหล่าสาวๆ มองตามสองหนุ่มนี่อยู่ตลอด (มองข้ามฉันอย่างสิ้นเชิง T0T)  จะว่าไปก็เป็นเรื่องแปลกเหมื่อนกันที่คนอย่างฉันดันมาสนิทกับผู้ชายสองคนที่ผู้หญิงทั้งโรงเรียนต่างจับจ้องกันตาเป็นมัน โดยเฉพาะ โทโมะที่หน้าตาหล่อเหลา แถมยังรวยด้วยทรัพย์ศฤงคาร บุคลิกที่เต็มไปด้วยความเป็นผู้นำและร่ำรวยพ่วงท้ายนั่นจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่สาวๆ ต่างก็ชอบ ส่วนป็อปปี้ที่มีบุคลิกนิ่งๆ ไม่ค่อยพูดค่อยจากัยใครเท่าไหร่ สงวนท่าที แต่พอยิ้มที

สาวๆใจละลายทั้งนั้น นั่นเลยทำให้สองคนนี้เป็นเหมื่อนหยินกับหยางที่พอมาอยู่ด้วยกันแล้วแลกดูอุดมไปด้วยวิตามิน และแร่ธาตุ

 

 

 

“วันนี้มีแข่งตนตรี “

 

 

“……”

 

 

“ได้ยินหรือเปล่า -_ - “

 

 

“พูดกับฉันหรอ ? “ ฉันที่แทบไม่ได้สนใจเลยนอกจากความคิดของตัวเองถึงกับสดุ้งเมื่อโทโมะดึงชายเสื้อฉันเอาไว้

 

 

“เธอกล้ามองข้ามคำชักชวนของโทโมะคนนี้หรอ”

 

 

“โทษที ฉันนึกว่านายคุยกับป็อปปี้น่ะ “

 

 

“ฉันคุยกับป็อปปี้ด้วย  แต่เธออยู่ตรงนี้ก็ควรจะต้องได้ยินฉันด้วย หรือไม่ใช่ “

 

 

“แล้วทำไมฉันต้องฟังนายด้วยลืมไปเลยนะเนี่ยว่าไม่ได้สนิทกัน “ ฉันกระโดดจากโทะโมะ แล้วเผ่ออร่าน่ากลัวใส่ทันที

 

 

“วันนี้นายเอามือมาแตะต้องตัวฉันด้วย “

 

 

“เธอมันไร้สติเอง อีกอย่างถ้าเธอไม่พูด ฉันก็ลืมไปเลยเหมื่อนกันนะ ต้องรีบไปล้างมือซะหน่อยล่ะ”

 

 

“ไอ้……”

 

 

“แล้วสรุปว่ายังไง จะไปมั้ย “

 

 

“ไปไหน.”

 

 

“นี่เธอโง่หรือโง่เนี้ย ก็เรื่องแข่งตนตรีน่ะสิ”

 

 

“พูดอย่างนี้อยากให้ฉันไปเชียร์หรือไง “

 

 

“อยากตายหรอ คนอย่างฉันเนี่ยนะอยากให้เธอไปเชียร์ จัอ้วก!! “

 

 

“เราไปคุยกับคนในวงกันเถอะ “โทโมะบอกป็อปปี้

 

 

“อะไร!  ตัดบทกันอย่างนี้ มาด้วยกันทำไมไปกันสองคน “

 

 

“ก็เธอมันคนนอก “

 

 

“นายไปก่อนฉันขอคุยกับยัยนี่แป๊ปนึง “

 


 

ฝากเม้น+โหวตให้ด้วยน้า

ขอโทษที่หายไปนานสันยาเลยพรุ้งนี้อัพให้อีกตอน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.2 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา