สี่หัวใจลุ้นรักให้ลงล็อค

10.0

เขียนโดย บู๋บ๋

วันที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2555 เวลา 16.38 น.

  45 ตอน
  2 วิจารณ์
  52.04K อ่าน
แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

13) บุพเพ่อาละวาด

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

เช้าวันต่อมาโตมรขับรถมาที่มหาวิทยาลัยอย่างอารมณ์ดีสร้างความแปลกใจให้กับพวกชลกรมาก
ทางด้านฐิตาเองก็ไม่ได้นอนหลับทั้งคืนเนื่องจากมั่วแต่คิดถึงเรื่องเมื่อคืนอยู่
“ไอ้บ้าโตมรไอ้ผู้ชายเจ้าชู้ไอ้นายคนฉวยโอกาส”   สาวสวยตาคมใช้มือถุริมฝีปากอย่างแรงเหมือนริมฝีปากจะหลุดออกมานั้น
“แก่เป็นอะไรไปฉันเห็นแก่นั่งเช็ดริมฝีปากเหมือนจะหยุดออกจากปากไงได้”
พานัจพูดกับเพื่อนสาวด้วยสีหน้ากวนประสาท
“นี่นัทนี่แก่จะกวนฉันเหรอ” 
“เปล่านะยัยตาฉันเห็นแก่นั่งเครียดอยู่ฉันก็เลยแกล้งพูดแหย่เล่นเธอเฉยๆ”
“แก่มีอะไรไม่สบายหรือเปล่าบอกฉันกับไอ้พลอยและยัยมีนาไอ้โจ๊กได้นะ”
“นั่นนะซิ”  แพรพลอยกับมีนารัตน์หันมาสนับสนุนกับคำพุดของพานัจ
“เปล่าไม่มีอะไร”  “จะให้ฉันพูดได้ไงว่าฉันโดนนายเพลย์บอยนั่นขโมยจูบแรกไป” สาวสวยตาคมก็ได้แต่พูดในใจ
“ไม่มีอะไรแน่นะตา”  มีนารัตน์ถามน้ำเสียงด้วยความเป็นห่วง
“ใช่ไงเห็นมั้ยไม่มีอะไรแล้วนัทเราไปเรียนกันเถอะ”    “พวกแก่เองก็มีเรียนไม่ใช่เหรอ” “ไม่ไปเรียนกันหรือไง”   “รีบไปกันเถอะ”  สาวสวยตาคมไม่รอช้าจึงรีบลากพานัจกับโจ๊กเข้าห้องเรียน
“ลูกพี่คับ”
“ว่าไงไอ้โจ๊ก”
“ลูกพี่ว่ามั้ยผมว่าคุณตาเขามีอะไรปิดบั้งลูกพี่กับผมอยู่นะ”
“มันก็จริงอย่างที่แก่พูดนะว่านะไอ้โจ๊ก”
“ลูกพี่คับผมว่าปากของคุณตาบวมเจ่อเหมือนไปดดนอะไรมาประมาณว่าเหมือนโดนใครจูบ”
“นี่ทั้งลูกพี่และลูกน้องซุบซิบอะไรกันฮะ”   “ท่าท่างสนุกมากเลย”
“ไม่มีอะไรหรอกฉันก็แค่พุดถึงไอ้พี่พัฒน์”
“พี่พัฒน์เหรอยัยนัท” 
“อืม”  “อย่ามั่วพูดอยู่เลยไปเรียนได้แล้วยัยตาไอ้โจ๊ก”
หลังเลิกเรียนพวกสี่สาวต่างแยกย้ายกันกลับบ้าน
“เอาไงไอ้พลอยวันนี้พวกเราใช้บริการมวลชนกันก่อนมั้ย”
“อืมฉันเห็นด้วย”   พวกเขาต่างไม่รอช้าจึงรีบขึ้นรถเมล์ไป   ซึ่งชลกรและพีระวัฒน์เห็นสองสาวกับหนึ่งหนุ่มขึ้นรถเมล์สายนี้    สองหนุ่มไม่รอช้าจึงรีบขึ้นตามสองสาว
สองสาวและหนึ่งหนุ่มกำลังมองหาที่นั่งหรือที่จะเดินเกาะ    สองหนุ่มไม่รอช้าจึงรีบเดินเข้าไปใกล้สองสาวอย่างเต็มที่   ทางด้านโจ๊กก็เข้าไปนั่งข้างหลังเนื่องจากมีที่นั่งเหลือหนึ่งที่
พานัจยืนเกาะอยู่แถวนั้นอยู่ก็มีกระเป๋ารถเมล์มาเก็บหญิงสาวไม่รอช้าควานหาเศษตังค์ในกระเป๋าเป้พร้อมกับเพื่อนสาวคนสนิท   สามหนุ่มเองก็เหมือนกัน
ระหว่าที่รถเมล์หยุดทำให้สองสาวไถลไปใกล้สองหนุ่ม     โดยที่แพรพลอยไปชนพีระวัฒน์
“ขอโทษนะคะคุณ”   หญิงสาวไม่รอช้าพูดพร่ำขอโทษ
“ไม่เป็นไรคับ”
“นายพี”
“ใช่ผมเอง”  
“ทำไมฉันถึงได้ซวยแบบนี้นะ”
“อย่างนี้เขาไม่เรียกว่าซวยหรอกเขาเรียกว่าบุพเพ่สันนิวาสมากกว่า”  ชายหนุ่มพูดด้วยสีหน้ากรุ้มกริ่ม
“บุพเพอะไรก็ช่างเถอะแต่ฉันรู้ว่าฉันซวยทุกครั้งที่ได้เจอนาย”   หญิงสาวไม่รอช้าจึงต่อว่าชายหนุ่มอย่างยกใหญ่
“ซวยอะไรแพรพลอยใครๆเขาก็ชอบผมทั้งนั้น”   ชายหนุ่มพุดด้วยสีหน้าชมตัวเองซะเต็มประดา
“นั่นมันแม่ผู้หญิงพวกนั้นแต่นั้นมันไม่ใช่ฉัน”    แพรพลอยต่อกลับชายหนุ่มอย่างไม่มีใครต่อกัน
“คุณรู้ได้ไงพลอยคุณพูดแบบนี้”   “คุณลองมาคบกับผมมั้ยล่ะ”      “และคุณจะได้รู้ว่าผมเป็นคนยังไง”
“เรื่องอะไรละ” “ที่ฉันต้องทำแบบนั้น”
“หรือว่าคุณไม่กล้า”   ชายหนุ่มเดินเข้าไปใกล้หญิงสาวพร้อมโน้มหน้าเข้าไปไกลหญิงสาว
“นั่นนายจะทำอะไรฮะ”  หญิงทำท่างด้วยสีหน้าไม่ไว้ใจ
“ผมจะทำอะไรคุณดี”  ชายหนุ่มจึงหยิบอะไรใบไม้ที่ผมหญิงสาวสร้างความตกใจให้กับแพรพลอย
“คุณคิดอะไรอยุ่คิดเรื่องทะลึ่งละซิ”    “ผมว่าคุณปอดมากกว่า”
“ใครบอกว่าฉันกลัว”
“ถ้าไม่กลัวก้ตอบตกลงซิ”
“ไม่”
“คุณกลัว”
“ไม่”
“คุณปอดคุณกลัวละซิถ้าคบกับผมแล้วคุณกลัวจะชอบผมใช่มั้ย”
“มั้ย”
“ถ้ามั้ยทำไมจึงไม่ตอบตกลง”
“ก็ได้ฉันรับคำท้าของนาย”
“แค่นี้ก็สิ้นเรื่อง” ชายหนุ่มได้แต่แอบยิ้มในใจ
“นั้นเรามาจับมือกัน”     ทั้งสองคนต่างจ้องหน้าจ้องตากันอย่างไม่มีใครลดละ
แพรพลอยคงไม่รู้ว่ากำลังตกหลุมพรางคนเจ่เล่ห์อย่างพีระวัฒน์เข้าแล้ว
ทางด้านพานัจ
หญิงสาวร่างระหงเถลไปทางด้นนั้นส่งผลให้ชลกรใช้มือจับเอวคอดของหญิงสาวเข้าไว้
“ปล่อยฉันได้แล้ว”  ชายหนุ่มทำเป็นหูทวนลม
“นี่นายฉันบอกให้ปล่อย”  หญิงสาวจึงหันไปพอดีกับที่ชลกรเอาหน้าเข้ามา
“นั้นมันนายชลกรนี่”   นี่ทำไมโลกมันถึงได้กลมขนาดนี้นี่”   ถ้าหญิงสาวมีไม้จะเอามาทุบโลกที่มันกลมให้แตกจะได้ไม่พบหน้ากับชลกร
“ฉันบอกให้ปล่อย”
“ผมไม่ปล่อยนี่เป็นโอกาสดีซะอีกที่ผมได้ใกล้ชิดคุณ”  ชายหนุ่มลอยหน้าลอยตาตอบคำถามหญิง
“โอกาสของพวกที่ชอบฉวยโอกาสอย่างนายละซิ   “ไงคราวที่แล้วนี่นายอย่างไม่เข็ดใช่มั้ย”
“ไม่คับผมว่าเราสองคนคงมีบุพเพ่ต่อกันมากกว่า”
“บุพพงบพเพ่อะไรเขาเรียกว่าบุพเพ่อาละวาดมากกว่าล่ะมั้ง”
“ดีท่างั้นนายก็โดนมากกว่านี้แน่ถ้านายยังไม่เอามืออกจากตัวฉัน”
“ไม่ปล่อยใช่มั้ย”  
“คับ”
“ได้”  หญิงสาวร่างจึงแกล้งเหยียบเท้าชายหนุ่ม   จนทำให้ชายหนุ่มเจ็บจนพูดไม่ออก
ไหนที่สุดก็ถึงที่ที่แพรพลอยลง
“ไอ้นัทและพี่กรฉันไปละฝากลาไอ้โจ๊กด้วยนะ”   ส่วนพีระวัฒน์เองก็หันมาลาชลกร
“ไอ้กรฉันลงก่อนละพี่ไปก่อนนะคับน้องนัท”  พีระวัฒน์ไม่รอช้ารีบเดินตามหญิงสาวไป   พวกเขาทั้งสามจึงนั่งรอเพื่อรถเมล์มาถึงที่จุดหมายปลายทาง
“ไปกันเถอะคับลูกพี่”    ชลกรเองไม่รุ้อะไรดลใจชายหนุ่มเห็นหญิงสาวร่างระหงขึ้นรถเมล์ทำให้ชายหนุ่มจึงต้องขึ้นมาด้วยทั้งที่ตนเองก็พารถมาไว้ที่อู๋
“แล้วนี่นายเดินตามพวกฉันมาทำไม”
“ใครบอกว่าผมตามคุณมา”   “บ้านผมก็อยู่แถวนี้เหมือนกัน”
“เหรอ.....เชื่อตายแหละ”   พานัจกับโจ๊กเดินนำหน้าและชลกรเดินตามหลัง  พานัจเดินไปสะดุดกับก๋วยเตี๋ยวเรือจึงหยุด    ส่งผลให้ชลกรหยุดเดินและไปชนกับพานัจอย่างจัง
“ลูกพี่หยุดทำไม”
“ฉันอยากกินก๋วยเตี๋ยวเรือถ้าแก่อยากกลับก็ไปได้เลย”
“ถ้างั้นผมไปล่ะ”  โจ๊กจึงเดินนำไปก่อนโจ๊กไม่ค่อยห่วงลูกพี่สาวซะเท่าไรรู้ว่าลูกพี่สาวเก่งและเอาตัวรอดได้สบาย
“เอานายชลกรนายก็รีบไปซะสิ”
“ไม่ไปผมหิวเหมือนกันนี่คุณ”   “ความจริงเขาไม่ได้หิวหรอกอาจเป็นเพราะเขาอยากอยู่ใกล้ชิดหญิงสาว
“นี่นายชลกรลูกคุณหนูอย่างนายนะจะกินขอพวกนี่ได้ด้วยเหรอ”
“กินได้อยู่แล้ว”
“นั้นเหรอได้” ชายหนุ่มเห็นหญิงสาวยิ้มหวานให้แปลกๆ  ชายหนุ่มรู้สึกเหมือนเสียวสันหลังวับ
“พี่คะขอก๋วยเตี๋ยวเรือน้ำตกทีหนึ่งคะ”  “แล้วนายละ”
“ผมขอเหมือนคุณ”
“ตกลงก๋วยเรือหมูน้ำตกสองทีนะคับ”
“อืม”  “นายรอตรงนี้เดี่ยวฉันขอไปทำธุระซะหน่อย”  ความจริงหญิงสาวไม่ได้ไปทำธุระอะไรหรอกเนื่องจากหญิงสาวแอบเอายาถ่ายมาใส่ให้อีกชามก๋วนเตี๋ยวเรือของชายหนุ่ม
ในที่สุดก๋วยเต๋ยวเรือทั้งสองชามจึงได้ไปเสริฟ์ให้พวกเขาได้ทานกัน
“อร่อยเหมือนกันนะคุณ”
“อืม”   “เดี่ยวนายจะได้รู้”  หญิงสาวเฝ้าค่อยสังเกตชายหนุ่มมาโดยตลอดและแอบกลั้นหัวเราะมาโดยตลอด   หลังจากที่พวกเขาต่างจ่ายตังค์ชายหนุ่มเดินมาส่งหญิงสาวร่างระหง
“นี่บ้านคุณเหรอ”
“ก็มีตานี่ก็ดูเองซิ”  หญิงสาวพูดกวนประสาท
“ถึงบ้านคุณแล้ว”
“อืม”
“เดี่ยวก่อนซิคุณไม่คิดจะขอบใจผมบ้างเหรอ”
“ชอบใจอะไรฉันไม่ได้ขอให้นายมาส่งซะหน่อยฉันนะและอีกอย่างฉันนะมีอวัยวะครบทุกอย่างไม่ได้พิการ”
“ผมรู้ขอบคุณนะขอบคุณเป็นมั้ยผมว่าเปลี่ยนจากคำขอบคุณมาเป็นไอ้นี่ดีกว่า”   ชายหนุ่มพูดพลางชี้ที่แก้มปิองตนเอง
“ได้นายหลับตาก่อนซิ” “อยากได้มากนะใช่มั้ยเอาหมัดไปกินแทนแล้วกัน”
“โอ้ยผมเจ็บนะคุณ”
“เป็นไงละสมน้ำหน้า”  หญิงสาวร่างระหงจึงรีบเดินไปในบ้านทันที
“แสบจริงๆเลยนะแม่คุณ”    ชายหนุ่มก็เดินมาถึงบ้านตนเองแต่แล้วชายหนุ่มก็ทนไม่ไหวจึงรีบเข้าห้องน้ำในห้องแทบไม่ทันพร้อมพูดว่า
“แสบจริงๆเลยนะแม่คุณ”    “แสบแบบนี้ซิผมชอบ”  ชายหนุ่มได้แต่พรึมพรำพูดคนเดียว
หลังจากที่พานัจทำธุระส่วนตัวกำลังนึกภาพที่ชลกรเข้าห้องน้ำสร้างความสะใจและขบขั้นให้กับหญิงสาวร่างระหงถึงกับกลั้นหัวเราะไม่หยุด
“ฮะฮะฮะฮ่าฮ่า”   จนทำให้หลับไปโดยไม่รู้ตัว

 

 

 

 

 

 

 

 


 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา