Savage! จะเถื่อนยังไง ก็ได้ชื่อว่าเป็น'เจ้าของ'เธอ
8.9
1) ต้นเหตุ...ของเรื่องทั้งหมด
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ1 เดือนที่แล้ว…
‘เขื่อน..พ่อกับแม่จะไปดูงานที่ต่างประเทศซักสองสามอาทิตย์นะลูก’ แม่
‘ดูแลน้องดีๆนะเขื่อน อย่าปล่อยให้น้องมันห้าวกว่าแกนะ’ พ่อ
‘แม่อ้ะ...แก้วเป็นผู้หญิงนะ >*<’
‘ครับผม พ่อแม่เดินทางโดยสวัสดิภาพนะคร้าบ รีบๆกลับมาทำกับข้าวอร่อยๆให้เขื่อนกินเร็วๆน้า’
1 วันที่แล้ว…
(ฮัลโหล แก้วใช่มั้ยลูก)
‘ค่ะแม่’
(เดี๋ยวแม่จะกลับแล้วนะลูก ประมาณทุ่มนึงแม่จะถึงบ้านแล้วนะ ฝากบอกไอ้เจ้าเขื่อนด้วยนะ)
‘เย่..แม่กลับซักที แก้วคิดถึงพ่อกับแม่จะแย่แล้วน้า เฮียเขื่อนก็บ่นทุกวันเลยว่าอยากกินอาหารฝีมือแม่อ่ะ แก้วหูจะแตกแล้ว’
(ฮะๆ ขนาดนั้นเลยเหรอลูก งั้นแค่นี้ก่อนนะลูก เดี๋ยวแม่จะขึ้นเครื่องแล้ว)
‘ค่ะๆ รักแม่นะ ฝากบอกรักพ่อด้วยนะแม่’
(จ้าๆ รักลูกเหมือนกันน้า)
1 ชั่วโมงที่แล้ว…
(แก้ว แม่ถึงไทยแล้วนะลูก อีกไม่เกินชั่วโมงแม่ก็จะถึงบ้านแล้วล่ะ แม่อยู่บนถนนบายพาสแล้ว)
‘ค่ะแม่ เดี๋ยวแก้วจะเตรียมตัวรับพ่อกับแม่อย่างดีเลย ขอแก้วคุยกับพ่อมั่งน้า’
(เอ้า..ว่าไงยัยแก้ว มีอะไรจะคุยกับพ่อหรอ แหม อีกชั่วโมงเดียวมันก็รอไม่ได้เนอะ)
‘ก็แก้วคิดถึงมากๆเลยนี่นา ว่าแต่เป็นไงบ้างคะ งานที่โน่น’
(ก็ดี ราบรื่นดีอยู่แล้ว)
‘งั้น...กลับมาค่อยคุยกันก็ได้ค่ะพ่อ รักพ่อมากเลย’
(อืม รักลูกนะ)
ปัจจุบัน...
“มะ..ไม่จริงน่า ฮึก ล้อ...ล้อหนูเล่นรึไง พ่อแม่หนูเนี่ยนะ...”
“แก้ว..เกิดอะไรขึ้น บอกเฮียมานะ!”
เขื่อนตะโกนโหวกเหวกเมื่อเห็นน้องสาวที่แสนร่าเริงของตัวเองนั่งสะอื้นไปคุยโทรศัพท์ไป ไม่ยอมบอกอะไรเขาทั้งนั้น
“ไม่จริ๊งงงงงงงงง บอกมาว่ามันไม่จริง ฮึก..ฮืออออออ” แก้วตะโกนลั่นเหมือนคนขาดสติ แล้วโผเข้ากอดพี่ชายที่ยังคงงงๆกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“แก้ว บอกเฮีย ตกลงมันเกิดอะไรขึ้น?!”
“เฮีย...ฮ...เฮีย...ฮึก..”
“แก้ว ตั้งสติดีๆ แล้วมองหน้าเฮียนะ ใครเป็นอะไรแก้ว?”
“เฮีย...แม่...พ่อ...ฮึก....แม่..พ่อ...รถคว่ำ...ฮืออออ”
“แล้วเป็นยังไงบ้าง...แก้ว...ตั้งสติก่อนนะ..แก้ว..แก้ว!”
“ฮือออ เฮีย เราไม่เหลือใครแล้ว...ไม่เหลืออีกแล้วเฮีย...ฮึก...”
“หมายความว่าไงแก้ว.....มะ...ไม่จริงน่า...”
เขื่อนเริ่มมีน้ำตาคลอเบ้าเมื่อตีความคำพูดของน้องสาวออก แต่เขาก็รีบปาดมันออกไปอย่างรวดเร็ว เวลานี้เขาจะต้องเข้มแข็ง เขาจะต้องเป็นที่พึ่งของน้อง..
“เฮีย...พ่อแม่ไปแล้ว....ฮึก...ไปไม่กลับแล้วเฮีย...ฮืออออ...ไม่มีวันกลับมาอีกแล้ว...”
“ที่ไหนแก้ว...ที่..ที่ไหน”
“ตำรวจ...ฮึก...บอกว่าบนถนนห่างจาก...ฮึก...ห่างจากบ้านเราไม่กี่กิโลเอง....ฮือออ”
เธอร้องไห้หนักขึ้นเรื่อยๆ แล้วซบลงกับอกแกร่งของผู้เป็นพี่ เวลานี้เธอมีที่พึ่งเดียวเท่านั้น...ที่เหลืออยู่
แน่นอนว่าครอบครัวนักธุรกิจเดินเรือขนาดใหญ่ที่มีสาขาไปหลายต่อหลายประเทศย่อมมีทั้งคู่แข่งทางการค้า และผู้หวังฮุบกิจการ บรรดาญาติๆของเธอก็จ้องจะเอาสมบัติอยู่เรื่อยๆ ไม่มีใครที่รักเธอจริงๆนอกจากจะหวังผลอื่น
แล้วยิ่งประธานบริษัทมาประสบอุบัติเหตุด้วยแล้ว...ไม่มีใครหรอกที่จะไม่สนใจทรัพย์สมบัติมากมายมหาศาลเหล่านั้น
“แก้ว..ไปแต่งตัวกัน ...เดี๋ยวพี่จะพาไปข้างนอก”
“หา...ฮึก...หาพ่อกับแม่นะ...ฮึก..”
“อืม”
เขื่อนเพียงตอบสั้นๆเท่านั้น
บนถนน ณ จุดเกิดเหตุ
“คุณตำรวจครับ พวกเราเป็นลูกของผู้ตายครับ” เขื่อนรีบปรี่เข้าไปหาตำรวจที่ยืนอยู่บริเวณรถของพ่อและแม่เขาที่มีสภาพยับเยินจนแทบจำไม่ได้ มีรอยเลือดอยู่เต็มไปทั้งบริเวณ ดีที่เขามาช้าเพราะไม่อย่างนั้นคงได้เห็นภาพน่าสลดใจไปมากกว่านี้ เขายังอยากเห็นพ่อแม่ในสภาพที่ดีกว่านั้น
“คุณคงเป็น คุณภัทรดนัยสินะครับ แล้วนั่นก็คงเป็น คุณจริญญา?”
“ครับ พอจะทราบมั้ยครับว่าสาเหตุเกิดมาจากอะไรครับ?”
เขื่อนรีบถาม ไม่สนใจว่าตำรวจนายนั้นจะรู้ชื่อเขาและน้องได้อย่างไร
“คาดว่าน่าจะเป็นการจงใจขับชนของรถอีกคันครับ จากคำให้การของผู้เห็นเหตุการณ์บอกว่า มีรถบีเอ็มสีดำขับเบียดมาจนกระทั่งรถของพ่อคุณหลุดโค้งและพลิกคว่ำครับ”
“แล้วพอจะรู้มั้ยครับว่ารถคันนั้นเป็นของใคร?”
“เรากำลังสืบหาอยู่ครับ เพราะจากคำให้การบอกว่ารถคันดังกล่าวไม่ได้ติดป้ายทะเบียนครับ ถ้าทางเราทราบอะไรมากกว่านี้แล้วจะบอกนะครับ เสียใจด้วยนะครับ”
“อืม”
3 เดือนผ่านไป
“เฮีย มีใครมาก็ไม่รู้อ่ะ”
“หืม?”
“นั่นอ่ะเฮีย สูทดำน่ากลัวชะมัด”
“เดี๋ยวเฮียไปดูให้แล้วกัน”
เขื่อนว่าแล้วเดินออกไปหน้าบ้านที่มีกลุ่มคนชุดดำประมาณ4-5คนยืนอยู่ ส่วนแก้วก็ยืนเก้ๆกังๆอยู่ในบ้านหลังใหญ่ที่มีคนอยู่เพียง 3 คน คือเธอ พี่ชาย แล้วแม่บ้านเก่าแก่อีกคนเท่านั้น
นับตั้งแต่นายใหญ่ของบ้างสองคนเสียชีวิตไปจนเวลาล่วงมา 3 เดือนแล้ว ก็ยังไม่มีเบาะแสอะไรเพิ่มเติมอีกเลย ธุรกิจของครอบครัวก็ตกต่ำเรื่อยๆ เพราะไม่มีใครสนใจที่จะรักษาเอาไว้ มีแต่จะโกงกันทุกคน เงินฝากของพ่อแม่ที่มีกว่าร้อยล้านบาทในธนาคารก็ถูกญาติๆที่หิวเงินทั้งหลายฮุบไปจนหมดสิ้น จะเหลือก็แต่เงินที่อยู่ในตู้เซฟที่มีอยู่ไม่มากนักกับพวกสร้อยเพชรแหวนแต่งงาน ของหมั้นของพ่อกับแม่ซึ่งสองพี่น้องก็อยากจะเก็บเอาไปดูต่างหน้า
“แก้ว..พวกนั้นบอกว่าบ้านเราถูกขายทอดตลาด”
“บ้าน่า..ใครมันจะกล้าทำอย่างนี้กัน”
“ฉันเอง!”
เสียงมีอำนาจของคุณหญิงป้าดังขึ้น
“คะ...คุณป้า”
“ใช่..ฉันเอง พวกแกไม่มีสิทธิ์จะเรียกฉันว่าป้าแล้วย่ะ ไอ้พวกเด็กเหลือขอ ไม่มีพ่อแม่แก พวกแกมันก็ไม่ต่างอะไรกับคนใช้!”
“ทำไมป้าทำอย่างนี้..นี่มันบ้านที่พ่อกับแม่แก้วสร้างมันมากับมือนะ”
“แล้วจะทำไมฮะ! พ่อแม่พวกแกมันก็แค่เศษขี้ผงที่อยู่ในวัด จะมีปัญญาทำอะไรฉันได้ฮะ ฉันรอวันนี้มานานแล้ว ฮึ! ถ้าไม่มีปัญญาเอาเงินมาจ่ายกับธนาคารพวกแกก็ไปอยู่ข้างถนนก็แล้วกัน!”
คุณหญิงป้าว่าแล้วหมุนตัวเตรียมจะเดินกลับออกไป แต่ติดที่ว่า....
“ป้าแก่แร้งทึ้ง ซักวันคนเลวๆ อย่างป้าจะได้รับกรรมที่ก่อไว้! คอยดูสิ!!”
แก้วตะโกนลั่นอย่างเหลืออด ทำให้ป้าแม่บ้านที่อยู่กับเธอมาตั้งแต่เด็กยังตกใจเพราะไม่คยเห็นพฤติกรรมก้าวร้าวแบบนี้มาก่อน
“อีเด็กวิปริตผิดเพศ แกอย่ามาทำเป็นปากดีไป ฮึ!”
คุณหญิงป้าที่ทำท่าจะเข้ามาตบแก้วต้องหันกลับออกไปเมื่อเขื่อนทำท่าจะต่อยอย่างไม่สนเด็กไม่สนผู้ใหญ่แล้ว
“เราจะทำยังไงดีเฮีย???”
. . .TBC
______________________
อัพตอนแรกแล้วว วะวะว้าว *0*
เรื่องนี้แต่งไว้นานมากกกกกแล้ว แต่ไม่ได้ลงบอร์ดTKRซะที ทนรอไม่ไหวลงมันที่นี่แหละ 555
ใครอ่านแล้วคิดเห็นอย่างไร เราควรปรับเปลี่ยนอะไรมั้ยก็บอกได้นะ
ปล.ตามปกติแล้วถ้าใครเคยอ่านฟิคเราที่ลงไว้ที่อื่นจะรู้ว่าเราแต่งแต่แบบหวานๆ
เรื่องนี้เป็นเรื่องแรก(หรอ?)ที่แต่งแบบดราม่า ก็ไม่รู้ว่าจะดีแค่ไหน...เอ่อ..พอละ เวิ่นจังเรา -*-
ปล2.ติดตามทวงนิยายได้ที่ https://twitter.com/M_ysterY_ploo
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.3 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ