Sweet ก็น่ารักขนาดเนี๊ย...ขอรักเลยได้มั้ย
9.8
3) ไม่คิด...แต่รู้สึก
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“ ลัลล๊าๆๆๆ ” วันนี้แก้วใจมีความสุขได้เป็นกามเทพให้ลิงตัวน้อยๆได้สมหวัง โฮะๆๆ ฉันยืนดี๊ด้าอยู่ตรงป๊ายรถเมล์เมื่อเห็นรถมอไซด์ของไอ้เคนตะที่มีจินนี่นั่งซ้อนอยู่แล่นผ่านไป ฉันโบกมือให้มันยิ้มๆเป็นเชิงว่า “โชคดีนะโว้ยย” แล้วมันก็ขยิบตาให้ทีนึง ไอ้ตรงเนี้ยแหละ ฉันล่ะหมั่นไส้มันเหลือเกิน แต่อยู่ๆความสุขที่มีก็แปลเปลี่ยนเป็นความทุกข์ครั้งยิ่งใหญ่ (บรรยายให้อลังการ) เมื่อสายตาเจ้ากรรมดั๊นนนนหันไปเห็น....
“ ไง ยัยทอมหัวเหม่ง ” ให้ตายเถอะ!!!!! ไอ้บ้านี่อีกแล้ว เรื่องเมื่อเช้ากับกลางวันยังไม่ทันได้เคลียร์จะมาหาเรื่องตอนเย็นให้อีกแล้ว แล้วอยากจะถามเหลือเกิน ว่าแกจะมาอะไรนักหนากับหัวฉันนนนน!!!!!! ฉันเปลี่ยนจนไม่รู้จะเปลี่ยนยังไงแล้วนะ T_TTTT
“ หัวพ่อแกสิเหม่ง ไอ้ซาบะปากหมา ” รมณ์เสียโว้ยยยย ไม่น่ามาเจอมันเลยกรู
“ อ้าว เฮ้ยคนอุตส่าห์มาทักดีๆพูดดีๆหน่อยจะได้มั้ยห๊ะ ที่มาหาก็เพราะฉันหวังดีนะเนี๊ยยยยยย ”
หวังดีประสงค์ร้ายสิไม่ว่า
“ เฮอะ อย่างแกเนี่ยนะจะมาหวังดีกับฉัน มีไรว่ามาเลยดีกว่า ” ฉันรีบถามเพราะอย่างนายเนี้ยถ้าไม่มีธุระอะไรคงไม่มาคุยกับฉันหรอก
“ พี่ป๊อบให้เธอกลับกับฉัน ” อ๋อออออ ก็นึกว่าอะไร หะ ห๊า!!!!!!!!!
“ ไอ้พี่ป๊อบเนี่ยนะ ดูปากฉันดีๆนะ ฉัน – ไม่ – กลับ- กับ – นาย ” ฉันบอกเสียงแข็งแล้วสะบัดหน้าไปอีกทาง งงกันใช่มั้ยว่านายนี่รู้จักกับพี่ป๊อบได้ยังไง ก็ไอ้โทโมะมันอยู่บ้านติดกับฉันเลยนะเซ่!!!!! กำแพงเดียวกันเลยด้วย มันเลยสนิทกับพี่ป๊อบต่างกับฉันลิบลับฉันเกลียดขี้หน้ามันจะตาย จริงๆเรารู้จักกันตั้งแต่ ม.ต้นแล้วล่ะแค่ตอนนั้นเราไม่ได้อยู่โรงเรียนเดียวกันเลยไม่ค่อยได้เจอกันเท่าไหร่ ถึงเจอก็เป็นต้องแขวะกันให้ตายกันไปข้างนึง
แต่พอขึ้น ม.ปลาย คุณแม่ของไอ้โทโมะดันย้ายนายนี่มาอยู่โรงเรียนเดียวกับฉันเพราะว่าท่านต้องไปทำงานที่ญี่ปุ่นทั้งคู่เลยจะให้อยู่เป็นเพื่อนกัน คราวนี้ฉันเลยเจอหน้ามันแทบจะ 24 ชม. เลยก็ว่าได้
“ เธอต้องกลับเพราะวันนี้พ่อแม่ฉันกับพ่อแม่เธอกลับมาจากต่างประเทศ ถ้าเราไม่กลับด้วยกันมันจะไม่แปลกรึไงห้ะ รึเธออยากจะให้พ่อแม่เรารู้ว่าเรา เกลียดกัน!!! ” นายโทโมะย้ำเสียงแข็ง แล้วอีกเรื่องก็คือพ่อแม่ฉันกับพ่อแม่นายนี่เป็นเพื่อนบ้านที่รักกกกกันมากกกกก อยู่ต่อหน้าพวกท่านฉันกับนายโทโมะเลยต้องทำเป็นเพื่อนรักสนิทกันมากกกกแทบจะตายแทนกันเลยก็ว่าได้ แต่พออยู่ลับหลังจะฆ่ากันให้ตายไปข้างนึง
“ แล้วก็ไม่บอกตั้งแต่แรกมัวแต่พล่ามๆๆอยู่นั้นแหละ ชิส์ ” ฉันพูดแล้วกระโดดขึ้นนั่งบนรถมอไซด์ของอีตานี่ ไอ้แก๊งบ้าบอของมันมีมอไซด์กันทุกคนแหละ อย่าให้ฉันมีบ้างก็แล้วกัน
“ นี่!!! อยากจะนั่งไปดีๆหรือเธออยากจะให้ฉันเอาแขนเธอผูกกับรถแล้วลากเธอไปด้วยกันห๊ะ!!! ”
ไอ้นี่มาแนวโหดอีกล่ะ
“ โอ้ยยยย จะไปก็รีบซะสิ ฉันขี้เกียจเถียงกับนายแล้ว น่าเบื่อ ” ฉันบอกแล้วนั่งกอดอกทำหน้าเซ็ง
“ อ่ะ เอาไปใส่ซะ ” นายโทโมะยื่นหมวกกันน๊อคมาให้ฉัน
“ ชิส์ ขอบใจ ” กลั้นใจตอบหรอกนะ
“ ห๊ะ เมื่อกี้เธอพูดว่าไรนะ ” หูตึงรึไงย่ะ
“ ฉันบอกว่าขอบใจโว้ยยยย ”
“ หึ ” นายนี่หัวเราะในลำคอเบาๆแต่ขอโทษเถอะฉันได้ยิน
“ หัวเราะอะไร ”
“ ก็แค่สงสัยว่าทำไมวันนี้เธอ....น่ารักจังล่ะ ” นายนี่หันหน้ามาน้อยๆแล้วพูดด้วยน้ำเสียงชวนขนลุก (สำหรับฉันอ่ะนะ)
“ อะ ไอ้บ้า รีบๆออกรถไปเซ่!!! ป่านนี้พ่อแม่รอนานแล้ว ” ฉันบอกเสียงดัง กลบอาการเขินนิดหน่อย
“ หึ เกาะแน่นๆล่ะ ไม่งั้นอย่าหาว่าฉันไม่เตือน ”
“ ให้ตายฉันก็ไม่กอดนายหรอกย่ะ ”
“ แล้วฉันจะคอยดู ”
บรื้นนนน แว๊นนนนนน (ออกตัวไปอย่างรวดเร็ว)
“ กรี๊ดดดด ” ใครช่วยบอกทีเมื่อกี้ฉันกรี๊ดหรอ
หมับ
จะรีบไปตายที่ไหนว่ะเนี่ย ตอนออกตัวทำเอาฉันเกือบหงายท้องตกรถ มันแกล้งฉันแน่ๆ
เอี๊ยดดดดดดดดด
“ ไปไงบ้างล่ะ ” ยังมีหน้ามาถามอีกนะ ตอนนี้ฉันรู้สึกว่าข้าวกลางวันฉันมันเตรียมจะออกมาแล้ว อย่านะ อย่าออกมาเชียว เสียดายตาย
“ ไอ้บ้าเอ๊ยยยย แกจะรีบไปลงนรกหรือไง ” ฉันแว๊ดออกมาอย่างคนหมดแรง เวียนหัวจัง พะอืดพะอมแปลกๆ
“ แล้วใครน้าเป็นคนบอกฉันว่าจะไม่มีวันกอดฉันเด็ดขาด ” ฉันงงกับคำพูดมันนิดหน่อยก่อนจะเลื่อนสายตาไปมองที่เอวของมัน
“ ฮะ เฮ้ยยยยย ” มะ มือฉันกอดเอวมันแน่นเลย ดึงเอาออกแทบไม่ทัน
“ ทำเอาฉันหายใจแทบไม่ออกเลยรู้มั้ย ” มันหันมาทำหน้ากวนๆใส่ฉัน เจ็บใจโว้ยยย ฉันรีบกระโดดลงจากรถมันแล้วเดินเข้าบ้านไปทันที ฉันเกลียดน๊ายยยยยยย
“ หึหึ ” ชายหนุ่มข้างนอกยกยิ้มขึ้นน้อยๆแล้วหัวเราะเบาๆ
โทโมะ// แกล้งยัยนี่สนุกชะมัด
“ แก้วลูก กลับมาแล้วเหรอ ” พอฉันเดินเข้ามาในบ้านก็มาเจอพ่อกับแม่ทันที
“ แม่มมมม ” ฉันรีบวิ่งเข้าไปกอดแม่ทันที คิดถึงจังเลย
“ เอ๊า ทำเป็นเด็กๆไปได้ ” แม่คลายกอดฉันแล้วลูบหัวฉันเบาๆ
“ ก็คนมันคิดถึง ” ฉันบอกแล้วฉีกยิ้มกว้าง
“ แล้วนี่กลับมากับโทโมะเหรอ ” แม่จะไปพูดถึงมันทำม๊ายยยยย
“ ใช่จ้ะ ”
“ นับวันยิ่งจะสนิทสนมมากขึ้น ” พ่อฉันพูดแทรกขึ้นมาด้วยเสียงล้อๆ
“ พ่อหมายความว่าไงอ่ะ ” ฉันหันไปถามพ่อหน้ามุ่ย
“ เปล๊าาาา พ่อพูดเฉยๆ ” ท่าทางพ่อมีพิรุธนะเนี่ย แต่ช่างเหอะ
“ เพิ่งกลับมาไปอาบน้ำเถอะลูก ”
“ คร๊า ” ฉันตอบ แล้วรีบวิ่งขึ้นห้องไปทันที
“ เฮ้ออออออ ” พอขึ้นห้องมาปุ๊บฉันก็นอนแผ่หลาบนเตียงทันที
“ น่าเจ็บใจชะมัด ไอ้ขี้เก๊กเอ๊ยยย ” ฉันหยิบตุ๊กตาหนูฟันเหยินๆ ตัวเน่าๆ ตัวไม่ใหญ่มากมาแล้วต่อยไปแรงๆทีนึง (ตุ๊กตาตัวนี้หมอนั่นให้ฉันตอนเด็กๆมันหาว่าหัวฉันเหมือนถูกหนูแทะ)
“ ไอ้ปลาแซลม่อน ” ต่อยไปอีกที
“ ไอ้ยากิโซบะ ” ตามด้วยเข่า
“ ไอ้ญี่ปุ่น ” ตามด้วยลูกถีบกระเด็นไปติดข้างฝา แต่มันยังไม่หนำใจ
“ นี่แหนะๆ ไอ้ตุ๊ด ” ฉันตบซ้ายตบขวาหน้ามือหลังมือไม่ยั้งแล้วปาไปติดข้างฝาอีกรอบ เฮ้ออออ ค่อยยังชั่ว ได้ระบายสักที
“ ไปอาบน้ำดีกว่า ฮ่าๆ ” ฉันพูดกับตัวเองอย่างร่าเริง แล้ววิ่งเข้าห้องน้ำไปทันที
10 นาทีผ่านไป
ฉันอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย ด้วยเสื้อยืดสีเขียว กางเกงขาสั้นสีขาว ฉันเดินออกจากห้องแล้วตรงไปห้องพี่ป๊อบทันที
ก๊อกๆๆๆๆๆ (เคาะรัวๆ)
“ พี่ป๊อบบบบบบแก้วเข้าไปนะ” ฉันตะโกนบอกพี่ชาย
“ เออๆ ” พี่ป๊อบตะโกนตอบมา แล้วฉันก็เข้าไปในห้องทันที
แกร๊ก (เสียงบิดลูกบิดประตู)
“ โห นี่ห้องคนเหรอว่ะ ” ฉันแทบจะเป็นลมเมื่อเข้ามาเห็นห้องไอ้พี่ชายรกยังกะรังหนู (ไม่ต่างอะไรกับห้องตัวเอง)
ตุ๊บ
“ เฮ้ออออ ” ฉันไม่ได้สนใจไอ้ขยะพวกนั้นแล้วกระโดดขึ้นเตียงพี่ชายทันที นุ่มจัง
“ แกมีไรเนี่ย ” ฉันมองไปตามเสียงเห็นพี่ป๊อบเดินออกมาจากห้องน้ำเหมือนเพิ่งอาบน้ำเสร็จ
“ ก็ไม่มีไรน้องอยากมาหาพี่มันแปลกหรือไงเล่า ” ฉันดีดตัวขึ้นนั่ง พี่ป๊อบยิ้มอย่างเอ็นดูแล้วเอามือมาขยี้หัวฉันเบาๆ
“ ผมยุ่งหมดแล้วพี่ป๊อบ ” ฉันทำหน้ายู่แล้วเอามือจัดทรงผมไปด้วย
“ ที่โรงเรียนเป็นไงมั่งอ่ะ ” พี่ป๊อบนั่งลงข้างๆฉันแล้วถาม
“ ก็ดีอ่ะ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แล้วพี่กับพี่ฟางอ่ะแหมๆอย่าคิดว่าแก้วไม่รู้นะ แก้วไปอยู่กับเฟย์ พี่ฟางไม่ค่อยกลับบ้านเลย ” ฉันยิ้มล้อๆพี่ป๊อบ จะว่าไปความรักพวกพี่เขาก็อยู่ทนดีเหมือนกันแฮะ คบกันมาตั้งแต่ ม.4 ตอนนี้ก็เรียนอยู่ปีสองกันแล้วก็ยังรักกันดีเหมือนเดิมไม่เห็นมีทะเลาะอะไรกันเลย
“ เรื่องของผู้ใหญ่เด็กไม่เกี่ยว ” พี่ป๊อบผลักหัวฉันแรงๆทีนึง
“ โถ่ถถถ ไรว่ะ ”
“ ไอ้แก้วลงไปกินข้าวได้แล้วแม่เรียกแล้ว ” พี่ป๊อบบอกฉันแล้วเดินนำลงไปก่อน ฉันจึงเดินตามลงไป
“ มาแล้วค๊า ” ฉันตะโกนลงไปแล้วรีบเดินลงมาแต่มีบางสิ่งทำให้ฉันเกือบจะตกบันได
“ สวัสดีคร๊าบบบคุณน้า ” อยู่ๆนายโทโมะก็โผล่มาจากหน้าประตูแล้วยืนยิ้มแฉ่ง
“ อ้าว ตาโทโมะมาๆมากินข้าวกันก่อนเร็ว ยัยแก้วรีบๆลงมาสิ ” แม่หันมาฉันที่ยืนเอ๋อรับประทานอยู่ตรงบันได พอได้สติฉันรีบเดินไปหานายโทโมะแล้วกระซิบกระซาบบางอย่าง
“ ใครใช้ให้นายมาบ้านฉัน ”
“ ไม่มีใครใช้ฉันอยากมาเองมีไรป่ะล่ะ” ตอบได้กวนมาก
“ บ้านตัวเองไม่มีอยู่รึไง ” ฉันถามกลับไป
“ มีแต่ไม่อยู่อยากมาเป็นลูกเขยบ้านนี้มีไรป่ะ ” คำพูดกวนที่แอบทำฉันหวั่นไหวพร้อมกับรอยยิ้มกระชากใจที่ใครใฝ่ฝันจะได้เห็น ฉันควรภูมิใจมั้ยเนี่ย
เพี๊ยะ
มือบางๆ(แต่หนัก)ของฉันฟาดลงไปที่แขนนายนั่นเต็มๆ
“ ลามปาม ” ฉันจิกตาใส่อย่างไม่ค่อยพอใจ แต่นายนั่นกลับส่งสายตาล้อเลียนมาให้
“ อ้าว มัวแต่เล่นกันอยู่ได้มากินข้าวมายัยแก้ว ตาโทโมะ ” เสียงแม่ฉัน
“ ค๊า / คร๊าบบบ ”
“ คุณโทยะค่ะ กิจการที่ญี่ปุ่นเป็นยังไงบ้างค่ะ ”
“ ก็ดีครับ แต่บลาๆๆๆๆ ฉอดๆๆๆ” ผู้ใหญ่ก็คุยเรื่องการเรื่องงานกันไป แต่คงไม่มีใครทันสังเกตว่ามีประกายไฟฟ้าเปรี๊ยะๆแล่นออกมาจากสายตาฉันและนายโทโมะ ที่จ้องกันเหมือนจะฆ่ากันให้ได้
“ แม่จ้ะ แก้วอิ่มแล้ว ” ฉันเป็นฝ่ายที่ทนไม่ได้ก่อนรีบเก็บจานแล้วลุกออกไปทันที
“ เอ่อ ผมก็อิ่มครับ ” โทโมะมื่อเห็นแก้วลุกไปก็รีบตามไปที่ครัวทันที
“ ฮึ่ยยย น่าโมโห อ้ะ ” เมื่อมาถึงครัวฉันก็วางจานแล้วบ่นอยู่คนเดียว แต่ก็รู้สึกถึงลมอุ่นๆที่มารดต้นคอจนฉันต้องหันหน้ากลับไป
“ โมโหอะไรเหรอ ” นายโทโมะ จะตามจองล้างจองผลาญฉันถึงไหนเนี่ย แล้วดันยื่นๆหน้าหล่อๆมาใกล้กันอีก
“ อะเอ่อ โมโหอะไร ใครโมโห ไม่มี๊ ” ฉันปฏิเสธเสียงสูง
“ จริงเหรออออ ” นายนี่ลากเสียงยาวแบบไม่ค่อยเชื่อ แต่กลับยื่นหน้าเข้ามาใกล้อีกจนจมูกเกือบจะชนกันอยู่แล้ว
“ แล้วนายยุ่งไรด้วยเล่า!!!!” ฉันผลักเขาออกแก้เขินชอบทำตัวแปลกๆอยู่เรื่อย
“ หึ หน้าแดงใหญ่แล้วยัยบ๊อง ” อะไรนะ!!!!
“ บ้าแล้ว ใครหน้าแดง ” ฉันเอามือปิดแก้มตัวเองแล้วก้มหน้า
“ ก็เธอไง ” นายนี่ก้มหน้าลงมากระซิบข้างหูฉัน ทำเอาฉันถอยห่างแทบไม่ทัน นายต้องเพี้ยนไปแล้วแน่ๆนายไม่ใช่ไอ้โทโมะคนเดิมหรือว่านายจะถูกผีหื่นเข้าสิง ไม่นะ!!!!
“ อย่ามายุ่ง!!!!!” ฉันบอกแค่นั้นแล้วรีบวิ่งออกไปทางหลังบ้านทันที ขอพักสงบจิตใจก่อน
“ ฮ่าๆๆๆๆ” เมื่อหญิงสาววิ่งออกไปแล้วร่างสูงในครัวก็หัวเราะออกมาทันที ตั้งแต่เหตุการณ์วันนั้นตอนเปิดเทอมทำให้เขาเกิดความรู้สึกแปลกๆขึ้นกับตัวเอง พอเห็นหน้าหวานๆ(ปนหล่อ) แล้วก็เกิดอาการอยากแกล้งขึ้นมาทันที ใครจะมองว่าเขาโรคจิตก็เชิญเถอะ เห็นทอมหน้าแดงแล้วมันก็อดภูมิใจไม่ได้
“ แล้วทอมอะไรมันจะมาเขินกับผู้ชายว่ะ ” เขาพูดกับตัวเองเบาๆนี่แหละคือข้อสงสัยทำหน้าครุ่นคิดสักพักแล้วก็ยกยิ้มขึ้นที่มุมปากอย่างเจ้าเลห์
“ แบบนี้มันคงต้องพิสูตกันหน่อย แล้วล่ะยัยแก้วแตก หึหึ ”
มาทางด้าน Kaew
“ หายใจเข้าช้าๆหายใจออกกกกก ” ตอนนี้ฉันกำลังพักสงบสติที่กำลังเตลิคเปิดเปิงไปไกล นายนั่นมันต้องโดนผีเข้าชัวป๊าบบบบ ต้องเป็นผีหื่นด้วยแน่ๆอึ๋ยยยย น่ากลัว ถึงหน้ามันจะหล่อชวนหวั่นไหวแค่ไหนก็เหอะ แต่เกลียดมันก็คือเกลียดแหละน่า เกลียดมันจะเปลี่ยนเป็นรักได้ไง(เนอะ) ชีวิตจริงมันคงไม่ไปเหมือนนิยายหรอก (มั้ง) ฉันนั่งอยู่แป๊ปนึงแล้วก็ตัดสินใจกลับเข้าบ้านด้วยท่าทางปกติ
“ แม่แล้วคุณลุง คุณน้าล่ะ ” ฉันถามแม่
“ อ้อ เพิ่งกลังไปเมื่อกี้เอง ” แม่บอกแค่นั้นแล้วเดินเข้าครัวไปทันที ฉันจึงเดินขึ้นห้องไป
“ เฮ้ออออ ทำไมหัวใจต้องเต้นแรงด้วยล่ะ ” ฉันเอามือทาบที่หน้าอกข้างซ้ายเมื่อรู้สึกว่าก้อนเนื้อตรงนั้นมันเต้นแรง
ก๊อก แก๊กๆ
“ หืม ” มีเสียงเหมือนมีอะไรมากระทบที่หน้าต่างตรงระเบียงห้องฉัน ฉันจึงเดินไปดู
โป๊กกกกก
“ โอ้ยยยยย ” ฉันร้องเสียงหลงเมื่อมีวัตถุบางอย่างลอยมาโดนหน้าผากอย่างจัง
“ อ้าว เฮ้ยยย ยัยทอมหัวเห็ดฉันขอโทษ ” เสียงนี้มัน...
“ โทโมะ!!!! ” ฉันเรียกชื่อเขา นายนี่แอบลอบทำร้ายฉันแน่ๆ แกเลวจริงๆ ฮึ่มมม
“ เรียกชื่อฉันได้แล้วเหรอ ” นายนี่ยืนทำหน้ากวนอยู่ที่ระเบียงตัวเอง
“ ไอ้บ้า แกแอบลอบทำร้ายฉันเหรอห๊ะ!!!! ” ฉันตวาดมันกลับไป
“ ใคร ใครลอบทำร้ายเธอห๊ะ แค่มีอะไรจะบอก แต่เธอดันเซ่อซ่าเดินมาเปิดตอนฉันกำลังโยนหินก้อนสุดท้ายพอดี ” หินเลยเหรอ ไอ้นี้เป็นแก๊งปาหินหรือไงดีนะมันเป็นก้อนเล็ก ถ้าก้อนใหญ่ฉันคงหัวแตกเลยล่ะมั้ง
“ มีอะไรก็รีบพูดมารบกวนเวลาส่วนตัว ” ฉันรีบชวนเข้าเรื่องก่อนที่จะทะเลาะกันไปมากกว่านี้
“ ก็ไม่มีอะไรมากหรอกแค่อยากจะบอกว่า ”
“ บอกว่า? ”
“ ฝันดีนะ ” นายนั่นบอกแล้วฉีกยิ้มกว้างอย่างน่ารัก ก่อนจะปิดประตูระเบียงหนีหายไป ส่วนฉันน่ะเหรอ กำลังยืนอึ้งไม่ขยับไหวติงใดๆทั้งสิ้น ฝันดีเหรอ
“ นายนั่นบอกว่าฝันดีเหรอ ” ฉันยืนพูดคนเดียว เหมือนคนบ้า
“ ใช่ ” เสียงจากบ้านข้างๆทำให้ฉันหันควับไปทันที
“ นะ นาย ” ตอนนี้ฉันกำลังทำอะไรไม่ถูก
“ ลืมบอกอย่างนึง.....อย่าลืมฝันถึงฉันด้วยล่ะกัน ” ถ้าตอนนี้ไม่มืดนะนายนั่นต้องเห็นว่าหน้าฉันมันแดงมากแน่ๆเลย
“ ถ้าฝันถึงนายฉันก็คงฝันร้ายกันพอดี แบร่ ” ฉันแลบลิ้นปริ้นตาใส่คนตรงหน้าแล้วรีบวิ่งเข้าห้องมาทันที
“ ไอ้โคโดโมะเอ๊ยยย นายคิดอะไรของนายกันแน่ ” ฉันเอามือกุมที่หน้าอกข้างซ้ายแล้วพึมพำอยู่คนเดียว เหมือนความรู้สึกของเธอกับเขามันกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนแปลงนะว่ามั้ย
__________________________________________________________
มาอัพพพพแล้วนะ เม้นกันเยอะๆหน่อยสิ จะได้รู้ว่าตัวเองแต่งเป็นยังไง แต่เม้นน้อยก็ยังดีกว่าไม่เม้นเลยนี่เนอะ
ฮ่าๆๆๆๆ
“ ไง ยัยทอมหัวเหม่ง ” ให้ตายเถอะ!!!!! ไอ้บ้านี่อีกแล้ว เรื่องเมื่อเช้ากับกลางวันยังไม่ทันได้เคลียร์จะมาหาเรื่องตอนเย็นให้อีกแล้ว แล้วอยากจะถามเหลือเกิน ว่าแกจะมาอะไรนักหนากับหัวฉันนนนน!!!!!! ฉันเปลี่ยนจนไม่รู้จะเปลี่ยนยังไงแล้วนะ T_TTTT
“ หัวพ่อแกสิเหม่ง ไอ้ซาบะปากหมา ” รมณ์เสียโว้ยยยย ไม่น่ามาเจอมันเลยกรู
“ อ้าว เฮ้ยคนอุตส่าห์มาทักดีๆพูดดีๆหน่อยจะได้มั้ยห๊ะ ที่มาหาก็เพราะฉันหวังดีนะเนี๊ยยยยยย ”
หวังดีประสงค์ร้ายสิไม่ว่า
“ เฮอะ อย่างแกเนี่ยนะจะมาหวังดีกับฉัน มีไรว่ามาเลยดีกว่า ” ฉันรีบถามเพราะอย่างนายเนี้ยถ้าไม่มีธุระอะไรคงไม่มาคุยกับฉันหรอก
“ พี่ป๊อบให้เธอกลับกับฉัน ” อ๋อออออ ก็นึกว่าอะไร หะ ห๊า!!!!!!!!!
“ ไอ้พี่ป๊อบเนี่ยนะ ดูปากฉันดีๆนะ ฉัน – ไม่ – กลับ- กับ – นาย ” ฉันบอกเสียงแข็งแล้วสะบัดหน้าไปอีกทาง งงกันใช่มั้ยว่านายนี่รู้จักกับพี่ป๊อบได้ยังไง ก็ไอ้โทโมะมันอยู่บ้านติดกับฉันเลยนะเซ่!!!!! กำแพงเดียวกันเลยด้วย มันเลยสนิทกับพี่ป๊อบต่างกับฉันลิบลับฉันเกลียดขี้หน้ามันจะตาย จริงๆเรารู้จักกันตั้งแต่ ม.ต้นแล้วล่ะแค่ตอนนั้นเราไม่ได้อยู่โรงเรียนเดียวกันเลยไม่ค่อยได้เจอกันเท่าไหร่ ถึงเจอก็เป็นต้องแขวะกันให้ตายกันไปข้างนึง
แต่พอขึ้น ม.ปลาย คุณแม่ของไอ้โทโมะดันย้ายนายนี่มาอยู่โรงเรียนเดียวกับฉันเพราะว่าท่านต้องไปทำงานที่ญี่ปุ่นทั้งคู่เลยจะให้อยู่เป็นเพื่อนกัน คราวนี้ฉันเลยเจอหน้ามันแทบจะ 24 ชม. เลยก็ว่าได้
“ เธอต้องกลับเพราะวันนี้พ่อแม่ฉันกับพ่อแม่เธอกลับมาจากต่างประเทศ ถ้าเราไม่กลับด้วยกันมันจะไม่แปลกรึไงห้ะ รึเธออยากจะให้พ่อแม่เรารู้ว่าเรา เกลียดกัน!!! ” นายโทโมะย้ำเสียงแข็ง แล้วอีกเรื่องก็คือพ่อแม่ฉันกับพ่อแม่นายนี่เป็นเพื่อนบ้านที่รักกกกกันมากกกกก อยู่ต่อหน้าพวกท่านฉันกับนายโทโมะเลยต้องทำเป็นเพื่อนรักสนิทกันมากกกกแทบจะตายแทนกันเลยก็ว่าได้ แต่พออยู่ลับหลังจะฆ่ากันให้ตายไปข้างนึง
“ แล้วก็ไม่บอกตั้งแต่แรกมัวแต่พล่ามๆๆอยู่นั้นแหละ ชิส์ ” ฉันพูดแล้วกระโดดขึ้นนั่งบนรถมอไซด์ของอีตานี่ ไอ้แก๊งบ้าบอของมันมีมอไซด์กันทุกคนแหละ อย่าให้ฉันมีบ้างก็แล้วกัน
“ นี่!!! อยากจะนั่งไปดีๆหรือเธออยากจะให้ฉันเอาแขนเธอผูกกับรถแล้วลากเธอไปด้วยกันห๊ะ!!! ”
ไอ้นี่มาแนวโหดอีกล่ะ
“ โอ้ยยยย จะไปก็รีบซะสิ ฉันขี้เกียจเถียงกับนายแล้ว น่าเบื่อ ” ฉันบอกแล้วนั่งกอดอกทำหน้าเซ็ง
“ อ่ะ เอาไปใส่ซะ ” นายโทโมะยื่นหมวกกันน๊อคมาให้ฉัน
“ ชิส์ ขอบใจ ” กลั้นใจตอบหรอกนะ
“ ห๊ะ เมื่อกี้เธอพูดว่าไรนะ ” หูตึงรึไงย่ะ
“ ฉันบอกว่าขอบใจโว้ยยยย ”
“ หึ ” นายนี่หัวเราะในลำคอเบาๆแต่ขอโทษเถอะฉันได้ยิน
“ หัวเราะอะไร ”
“ ก็แค่สงสัยว่าทำไมวันนี้เธอ....น่ารักจังล่ะ ” นายนี่หันหน้ามาน้อยๆแล้วพูดด้วยน้ำเสียงชวนขนลุก (สำหรับฉันอ่ะนะ)
“ อะ ไอ้บ้า รีบๆออกรถไปเซ่!!! ป่านนี้พ่อแม่รอนานแล้ว ” ฉันบอกเสียงดัง กลบอาการเขินนิดหน่อย
“ หึ เกาะแน่นๆล่ะ ไม่งั้นอย่าหาว่าฉันไม่เตือน ”
“ ให้ตายฉันก็ไม่กอดนายหรอกย่ะ ”
“ แล้วฉันจะคอยดู ”
บรื้นนนน แว๊นนนนนน (ออกตัวไปอย่างรวดเร็ว)
“ กรี๊ดดดด ” ใครช่วยบอกทีเมื่อกี้ฉันกรี๊ดหรอ
หมับ
จะรีบไปตายที่ไหนว่ะเนี่ย ตอนออกตัวทำเอาฉันเกือบหงายท้องตกรถ มันแกล้งฉันแน่ๆ
เอี๊ยดดดดดดดดด
“ ไปไงบ้างล่ะ ” ยังมีหน้ามาถามอีกนะ ตอนนี้ฉันรู้สึกว่าข้าวกลางวันฉันมันเตรียมจะออกมาแล้ว อย่านะ อย่าออกมาเชียว เสียดายตาย
“ ไอ้บ้าเอ๊ยยยย แกจะรีบไปลงนรกหรือไง ” ฉันแว๊ดออกมาอย่างคนหมดแรง เวียนหัวจัง พะอืดพะอมแปลกๆ
“ แล้วใครน้าเป็นคนบอกฉันว่าจะไม่มีวันกอดฉันเด็ดขาด ” ฉันงงกับคำพูดมันนิดหน่อยก่อนจะเลื่อนสายตาไปมองที่เอวของมัน
“ ฮะ เฮ้ยยยยย ” มะ มือฉันกอดเอวมันแน่นเลย ดึงเอาออกแทบไม่ทัน
“ ทำเอาฉันหายใจแทบไม่ออกเลยรู้มั้ย ” มันหันมาทำหน้ากวนๆใส่ฉัน เจ็บใจโว้ยยย ฉันรีบกระโดดลงจากรถมันแล้วเดินเข้าบ้านไปทันที ฉันเกลียดน๊ายยยยยยย
“ หึหึ ” ชายหนุ่มข้างนอกยกยิ้มขึ้นน้อยๆแล้วหัวเราะเบาๆ
โทโมะ// แกล้งยัยนี่สนุกชะมัด
“ แก้วลูก กลับมาแล้วเหรอ ” พอฉันเดินเข้ามาในบ้านก็มาเจอพ่อกับแม่ทันที
“ แม่มมมม ” ฉันรีบวิ่งเข้าไปกอดแม่ทันที คิดถึงจังเลย
“ เอ๊า ทำเป็นเด็กๆไปได้ ” แม่คลายกอดฉันแล้วลูบหัวฉันเบาๆ
“ ก็คนมันคิดถึง ” ฉันบอกแล้วฉีกยิ้มกว้าง
“ แล้วนี่กลับมากับโทโมะเหรอ ” แม่จะไปพูดถึงมันทำม๊ายยยยย
“ ใช่จ้ะ ”
“ นับวันยิ่งจะสนิทสนมมากขึ้น ” พ่อฉันพูดแทรกขึ้นมาด้วยเสียงล้อๆ
“ พ่อหมายความว่าไงอ่ะ ” ฉันหันไปถามพ่อหน้ามุ่ย
“ เปล๊าาาา พ่อพูดเฉยๆ ” ท่าทางพ่อมีพิรุธนะเนี่ย แต่ช่างเหอะ
“ เพิ่งกลับมาไปอาบน้ำเถอะลูก ”
“ คร๊า ” ฉันตอบ แล้วรีบวิ่งขึ้นห้องไปทันที
“ เฮ้ออออออ ” พอขึ้นห้องมาปุ๊บฉันก็นอนแผ่หลาบนเตียงทันที
“ น่าเจ็บใจชะมัด ไอ้ขี้เก๊กเอ๊ยยย ” ฉันหยิบตุ๊กตาหนูฟันเหยินๆ ตัวเน่าๆ ตัวไม่ใหญ่มากมาแล้วต่อยไปแรงๆทีนึง (ตุ๊กตาตัวนี้หมอนั่นให้ฉันตอนเด็กๆมันหาว่าหัวฉันเหมือนถูกหนูแทะ)
“ ไอ้ปลาแซลม่อน ” ต่อยไปอีกที
“ ไอ้ยากิโซบะ ” ตามด้วยเข่า
“ ไอ้ญี่ปุ่น ” ตามด้วยลูกถีบกระเด็นไปติดข้างฝา แต่มันยังไม่หนำใจ
“ นี่แหนะๆ ไอ้ตุ๊ด ” ฉันตบซ้ายตบขวาหน้ามือหลังมือไม่ยั้งแล้วปาไปติดข้างฝาอีกรอบ เฮ้ออออ ค่อยยังชั่ว ได้ระบายสักที
“ ไปอาบน้ำดีกว่า ฮ่าๆ ” ฉันพูดกับตัวเองอย่างร่าเริง แล้ววิ่งเข้าห้องน้ำไปทันที
10 นาทีผ่านไป
ฉันอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย ด้วยเสื้อยืดสีเขียว กางเกงขาสั้นสีขาว ฉันเดินออกจากห้องแล้วตรงไปห้องพี่ป๊อบทันที
ก๊อกๆๆๆๆๆ (เคาะรัวๆ)
“ พี่ป๊อบบบบบบแก้วเข้าไปนะ” ฉันตะโกนบอกพี่ชาย
“ เออๆ ” พี่ป๊อบตะโกนตอบมา แล้วฉันก็เข้าไปในห้องทันที
แกร๊ก (เสียงบิดลูกบิดประตู)
“ โห นี่ห้องคนเหรอว่ะ ” ฉันแทบจะเป็นลมเมื่อเข้ามาเห็นห้องไอ้พี่ชายรกยังกะรังหนู (ไม่ต่างอะไรกับห้องตัวเอง)
ตุ๊บ
“ เฮ้ออออ ” ฉันไม่ได้สนใจไอ้ขยะพวกนั้นแล้วกระโดดขึ้นเตียงพี่ชายทันที นุ่มจัง
“ แกมีไรเนี่ย ” ฉันมองไปตามเสียงเห็นพี่ป๊อบเดินออกมาจากห้องน้ำเหมือนเพิ่งอาบน้ำเสร็จ
“ ก็ไม่มีไรน้องอยากมาหาพี่มันแปลกหรือไงเล่า ” ฉันดีดตัวขึ้นนั่ง พี่ป๊อบยิ้มอย่างเอ็นดูแล้วเอามือมาขยี้หัวฉันเบาๆ
“ ผมยุ่งหมดแล้วพี่ป๊อบ ” ฉันทำหน้ายู่แล้วเอามือจัดทรงผมไปด้วย
“ ที่โรงเรียนเป็นไงมั่งอ่ะ ” พี่ป๊อบนั่งลงข้างๆฉันแล้วถาม
“ ก็ดีอ่ะ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แล้วพี่กับพี่ฟางอ่ะแหมๆอย่าคิดว่าแก้วไม่รู้นะ แก้วไปอยู่กับเฟย์ พี่ฟางไม่ค่อยกลับบ้านเลย ” ฉันยิ้มล้อๆพี่ป๊อบ จะว่าไปความรักพวกพี่เขาก็อยู่ทนดีเหมือนกันแฮะ คบกันมาตั้งแต่ ม.4 ตอนนี้ก็เรียนอยู่ปีสองกันแล้วก็ยังรักกันดีเหมือนเดิมไม่เห็นมีทะเลาะอะไรกันเลย
“ เรื่องของผู้ใหญ่เด็กไม่เกี่ยว ” พี่ป๊อบผลักหัวฉันแรงๆทีนึง
“ โถ่ถถถ ไรว่ะ ”
“ ไอ้แก้วลงไปกินข้าวได้แล้วแม่เรียกแล้ว ” พี่ป๊อบบอกฉันแล้วเดินนำลงไปก่อน ฉันจึงเดินตามลงไป
“ มาแล้วค๊า ” ฉันตะโกนลงไปแล้วรีบเดินลงมาแต่มีบางสิ่งทำให้ฉันเกือบจะตกบันได
“ สวัสดีคร๊าบบบคุณน้า ” อยู่ๆนายโทโมะก็โผล่มาจากหน้าประตูแล้วยืนยิ้มแฉ่ง
“ อ้าว ตาโทโมะมาๆมากินข้าวกันก่อนเร็ว ยัยแก้วรีบๆลงมาสิ ” แม่หันมาฉันที่ยืนเอ๋อรับประทานอยู่ตรงบันได พอได้สติฉันรีบเดินไปหานายโทโมะแล้วกระซิบกระซาบบางอย่าง
“ ใครใช้ให้นายมาบ้านฉัน ”
“ ไม่มีใครใช้ฉันอยากมาเองมีไรป่ะล่ะ” ตอบได้กวนมาก
“ บ้านตัวเองไม่มีอยู่รึไง ” ฉันถามกลับไป
“ มีแต่ไม่อยู่อยากมาเป็นลูกเขยบ้านนี้มีไรป่ะ ” คำพูดกวนที่แอบทำฉันหวั่นไหวพร้อมกับรอยยิ้มกระชากใจที่ใครใฝ่ฝันจะได้เห็น ฉันควรภูมิใจมั้ยเนี่ย
เพี๊ยะ
มือบางๆ(แต่หนัก)ของฉันฟาดลงไปที่แขนนายนั่นเต็มๆ
“ ลามปาม ” ฉันจิกตาใส่อย่างไม่ค่อยพอใจ แต่นายนั่นกลับส่งสายตาล้อเลียนมาให้
“ อ้าว มัวแต่เล่นกันอยู่ได้มากินข้าวมายัยแก้ว ตาโทโมะ ” เสียงแม่ฉัน
“ ค๊า / คร๊าบบบ ”
“ คุณโทยะค่ะ กิจการที่ญี่ปุ่นเป็นยังไงบ้างค่ะ ”
“ ก็ดีครับ แต่บลาๆๆๆๆ ฉอดๆๆๆ” ผู้ใหญ่ก็คุยเรื่องการเรื่องงานกันไป แต่คงไม่มีใครทันสังเกตว่ามีประกายไฟฟ้าเปรี๊ยะๆแล่นออกมาจากสายตาฉันและนายโทโมะ ที่จ้องกันเหมือนจะฆ่ากันให้ได้
“ แม่จ้ะ แก้วอิ่มแล้ว ” ฉันเป็นฝ่ายที่ทนไม่ได้ก่อนรีบเก็บจานแล้วลุกออกไปทันที
“ เอ่อ ผมก็อิ่มครับ ” โทโมะมื่อเห็นแก้วลุกไปก็รีบตามไปที่ครัวทันที
“ ฮึ่ยยย น่าโมโห อ้ะ ” เมื่อมาถึงครัวฉันก็วางจานแล้วบ่นอยู่คนเดียว แต่ก็รู้สึกถึงลมอุ่นๆที่มารดต้นคอจนฉันต้องหันหน้ากลับไป
“ โมโหอะไรเหรอ ” นายโทโมะ จะตามจองล้างจองผลาญฉันถึงไหนเนี่ย แล้วดันยื่นๆหน้าหล่อๆมาใกล้กันอีก
“ อะเอ่อ โมโหอะไร ใครโมโห ไม่มี๊ ” ฉันปฏิเสธเสียงสูง
“ จริงเหรออออ ” นายนี่ลากเสียงยาวแบบไม่ค่อยเชื่อ แต่กลับยื่นหน้าเข้ามาใกล้อีกจนจมูกเกือบจะชนกันอยู่แล้ว
“ แล้วนายยุ่งไรด้วยเล่า!!!!” ฉันผลักเขาออกแก้เขินชอบทำตัวแปลกๆอยู่เรื่อย
“ หึ หน้าแดงใหญ่แล้วยัยบ๊อง ” อะไรนะ!!!!
“ บ้าแล้ว ใครหน้าแดง ” ฉันเอามือปิดแก้มตัวเองแล้วก้มหน้า
“ ก็เธอไง ” นายนี่ก้มหน้าลงมากระซิบข้างหูฉัน ทำเอาฉันถอยห่างแทบไม่ทัน นายต้องเพี้ยนไปแล้วแน่ๆนายไม่ใช่ไอ้โทโมะคนเดิมหรือว่านายจะถูกผีหื่นเข้าสิง ไม่นะ!!!!
“ อย่ามายุ่ง!!!!!” ฉันบอกแค่นั้นแล้วรีบวิ่งออกไปทางหลังบ้านทันที ขอพักสงบจิตใจก่อน
“ ฮ่าๆๆๆๆ” เมื่อหญิงสาววิ่งออกไปแล้วร่างสูงในครัวก็หัวเราะออกมาทันที ตั้งแต่เหตุการณ์วันนั้นตอนเปิดเทอมทำให้เขาเกิดความรู้สึกแปลกๆขึ้นกับตัวเอง พอเห็นหน้าหวานๆ(ปนหล่อ) แล้วก็เกิดอาการอยากแกล้งขึ้นมาทันที ใครจะมองว่าเขาโรคจิตก็เชิญเถอะ เห็นทอมหน้าแดงแล้วมันก็อดภูมิใจไม่ได้
“ แล้วทอมอะไรมันจะมาเขินกับผู้ชายว่ะ ” เขาพูดกับตัวเองเบาๆนี่แหละคือข้อสงสัยทำหน้าครุ่นคิดสักพักแล้วก็ยกยิ้มขึ้นที่มุมปากอย่างเจ้าเลห์
“ แบบนี้มันคงต้องพิสูตกันหน่อย แล้วล่ะยัยแก้วแตก หึหึ ”
มาทางด้าน Kaew
“ หายใจเข้าช้าๆหายใจออกกกกก ” ตอนนี้ฉันกำลังพักสงบสติที่กำลังเตลิคเปิดเปิงไปไกล นายนั่นมันต้องโดนผีเข้าชัวป๊าบบบบ ต้องเป็นผีหื่นด้วยแน่ๆอึ๋ยยยย น่ากลัว ถึงหน้ามันจะหล่อชวนหวั่นไหวแค่ไหนก็เหอะ แต่เกลียดมันก็คือเกลียดแหละน่า เกลียดมันจะเปลี่ยนเป็นรักได้ไง(เนอะ) ชีวิตจริงมันคงไม่ไปเหมือนนิยายหรอก (มั้ง) ฉันนั่งอยู่แป๊ปนึงแล้วก็ตัดสินใจกลับเข้าบ้านด้วยท่าทางปกติ
“ แม่แล้วคุณลุง คุณน้าล่ะ ” ฉันถามแม่
“ อ้อ เพิ่งกลังไปเมื่อกี้เอง ” แม่บอกแค่นั้นแล้วเดินเข้าครัวไปทันที ฉันจึงเดินขึ้นห้องไป
“ เฮ้ออออ ทำไมหัวใจต้องเต้นแรงด้วยล่ะ ” ฉันเอามือทาบที่หน้าอกข้างซ้ายเมื่อรู้สึกว่าก้อนเนื้อตรงนั้นมันเต้นแรง
ก๊อก แก๊กๆ
“ หืม ” มีเสียงเหมือนมีอะไรมากระทบที่หน้าต่างตรงระเบียงห้องฉัน ฉันจึงเดินไปดู
โป๊กกกกก
“ โอ้ยยยยย ” ฉันร้องเสียงหลงเมื่อมีวัตถุบางอย่างลอยมาโดนหน้าผากอย่างจัง
“ อ้าว เฮ้ยยย ยัยทอมหัวเห็ดฉันขอโทษ ” เสียงนี้มัน...
“ โทโมะ!!!! ” ฉันเรียกชื่อเขา นายนี่แอบลอบทำร้ายฉันแน่ๆ แกเลวจริงๆ ฮึ่มมม
“ เรียกชื่อฉันได้แล้วเหรอ ” นายนี่ยืนทำหน้ากวนอยู่ที่ระเบียงตัวเอง
“ ไอ้บ้า แกแอบลอบทำร้ายฉันเหรอห๊ะ!!!! ” ฉันตวาดมันกลับไป
“ ใคร ใครลอบทำร้ายเธอห๊ะ แค่มีอะไรจะบอก แต่เธอดันเซ่อซ่าเดินมาเปิดตอนฉันกำลังโยนหินก้อนสุดท้ายพอดี ” หินเลยเหรอ ไอ้นี้เป็นแก๊งปาหินหรือไงดีนะมันเป็นก้อนเล็ก ถ้าก้อนใหญ่ฉันคงหัวแตกเลยล่ะมั้ง
“ มีอะไรก็รีบพูดมารบกวนเวลาส่วนตัว ” ฉันรีบชวนเข้าเรื่องก่อนที่จะทะเลาะกันไปมากกว่านี้
“ ก็ไม่มีอะไรมากหรอกแค่อยากจะบอกว่า ”
“ บอกว่า? ”
“ ฝันดีนะ ” นายนั่นบอกแล้วฉีกยิ้มกว้างอย่างน่ารัก ก่อนจะปิดประตูระเบียงหนีหายไป ส่วนฉันน่ะเหรอ กำลังยืนอึ้งไม่ขยับไหวติงใดๆทั้งสิ้น ฝันดีเหรอ
“ นายนั่นบอกว่าฝันดีเหรอ ” ฉันยืนพูดคนเดียว เหมือนคนบ้า
“ ใช่ ” เสียงจากบ้านข้างๆทำให้ฉันหันควับไปทันที
“ นะ นาย ” ตอนนี้ฉันกำลังทำอะไรไม่ถูก
“ ลืมบอกอย่างนึง.....อย่าลืมฝันถึงฉันด้วยล่ะกัน ” ถ้าตอนนี้ไม่มืดนะนายนั่นต้องเห็นว่าหน้าฉันมันแดงมากแน่ๆเลย
“ ถ้าฝันถึงนายฉันก็คงฝันร้ายกันพอดี แบร่ ” ฉันแลบลิ้นปริ้นตาใส่คนตรงหน้าแล้วรีบวิ่งเข้าห้องมาทันที
“ ไอ้โคโดโมะเอ๊ยยย นายคิดอะไรของนายกันแน่ ” ฉันเอามือกุมที่หน้าอกข้างซ้ายแล้วพึมพำอยู่คนเดียว เหมือนความรู้สึกของเธอกับเขามันกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนแปลงนะว่ามั้ย
__________________________________________________________
มาอัพพพพแล้วนะ เม้นกันเยอะๆหน่อยสิ จะได้รู้ว่าตัวเองแต่งเป็นยังไง แต่เม้นน้อยก็ยังดีกว่าไม่เม้นเลยนี่เนอะ
ฮ่าๆๆๆๆ
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ