COME BACK TO ME ได้โปรด...ที่รัก
9.0
เขียนโดย To_oNg0909
วันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2555 เวลา 03.16 น.
26 COME BACK TO ME
775 วิจารณ์
44.39K อ่าน
26) บทสุดท้ายของเรื่องราว The EnD
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ “ออกไปก่อนได้มั้ย ฉันไม่อยากเห็นหน้านายตอนนี้”
ประโยคของหญิงสาวยิ่งตอกย้ำความเจ็บปวดของเขามากขึ้นไปอีก
"ฟาง เธอฟังนะ ม่ว่าฉันจะเป็นป็อปปี้คนที่เธอรักหรือว่าคนที่เธอเกลียด แต่ฉันอยากให้เธอรู้ไว้นะ ว่า
ฉันคนนี้รักเธอ และมันจะเป็นแบบนั้นตลอดไป ไม่ว่าต่อจากนี้เธอจะหนีหายจากชีวิตฉันไปอีกก็ตาม”
“ฮึก พอแล้วฉันไม่อยากฟัง”
เธอได้แต่ทรุดตัวลงนั่งยองๆกับพื้น ยกมือปิดหูตัวเองราวกับไม่อยากได้ยินความจริงที่มันกำลังจะทำร้ายเธออีกต่อ
ไป
“ฟาง....” ป็อปปี้มองสภาพคนรักด้วยสายตาเจ็บปวด ทั้งๆที่เห็นเธอกำลังร้องไห้ แต่เขากลับเข้าไป
ปลอบเธอไม่ได้ แบบนี้มันยิ่งกว่าฆ่าเขาทั้งเป็นซะอีก
พระเจ้าครับ อย่าเขาหัวใจของผมไปได้มั้ย ถ้าทานเอามันไปแล้วผมจะอยู่ได้อย่างไร
“เรื่องอะไรกันว่ะไอ้ป็อป”
เขื่อนวิ่งนำหน้าอีกสามคนที่เหลือเข้ามาด้วยสภาพยุ่งเหยิง ก็จะไม่ให้มันยุ่งเหยิงได้ยังไงก็ในเมื่อคนโทรไปตาม
มันดันโทรไปตอนตีสามกว่าแบบนี้
“ฟางรู้แล้ว”
“เฮ้ย ยังไง ทำไม อะไรว่ะ”
“ไอ้เขื่อนเมิงจะเว้นช่องให้ไอ้ป็อปมันตอบจะได้มั้ย” โทโมะด่าเพื่อนอย่างหงุดหงิด
“ฟางเปิดไฟเลยเห็นว่ากรูเป็นกรู”
ประโยคสั้นๆของป็อปปี้ ทำให้สี่คนที่เหลือต่างเงียบเสียง
นั้นซินะ เขาเป็นเขา ความจริงที่ไม่มีทางหนีพ้น
“แล้วเมิงจะเอายังไง สู้หรือถอย”
“อย่าถามกรู เพราะกรูสู้มาตลอด สู้เพื่อหัวใจตัวเองมาตั้งแต่ 7ปีที่แล้ว คนที่ควรถามคือฟางไม่ใช่
กรู”
“ใจเย็นๆนะพี่ป็อป พี่ฟางต้องเข้าใจ แก้วเชื่อแบบนั้น”
แก้วเดินเข้าไปโอบคนที่เปรียบเสมือนพี่ชายตัวเองอย่างให้กำลังใจ
ทางด้านในห้องพักฟื้น
“ป็อป ฟางจะทำยังไง จะต้องจบเรื่องนี้ยังไง ถึงจะไม่มีใครเจ็บปวดกับมันนะ”
ถามตัวเองเสียงแผ่ว ระหว่างความรักที่อกข้างซ้าย กับความหวาดกลัวที่มันกำลังเกาะกุมใจเธออยู่ เธอจะเลือก
อะไร เธอต้องเลือกสิ่งไหน
“มันก็ขึ้นอยู่กับว่า พี่ฟางจะรักพี่ป็อปพอที่จะยอมทิ้งความกลัวในใจตัวเองได้รึเปล่าหล่ะ”
“เฟย์ “
“แค่ถามใจตัวเองเท่านั้นแหละพี่ฟาง ว่าพี่จะเลือกอะไร”
ถามใจตัวเอง แต่เธอจะหาคำตอบนนี้ให้ตัวเองได้ยังไงกัน?
ร่างบางก้าวเดินเข้ามาในสถานที่ ที่ครั้งหนึ่งมันเต็มไปด้วยความทรงจำระหว่างเธอกับเขา
สุสาน มันน่าตลกนะ ที่เธอกับป็อปปี้กลับมีความทรงจำมากมายระหว่างกันฝังอยู่ที่นี่จนล้น
ทุกๆความรู้สึกที่ผ่านเข้ามาต่างเรียงร้อยเข้าด้วยกันราวกับสายสร้อยที่มันจะไม่มีวันขาดออกจากกัน
ความกลัวที่มันอยู่ในใจเธอ เธอรู้ดีว่ามันไม่ได้มาจากป็อปปี้ แต่มันมาจากตัวเธอเอง
ความกลัวที่จะอยู่ร่วมกับเขา กลัวที่จะทำให้เขาเจ็บปวดและกลัวว่าวันหนึ่งเธอจะต้องสูญเสียเขาไปเหมือนกับที่เขา
เคยสูญเสียเธอและเธอเคยสูญเสียเขา
แต่ถ้าเธอกล้าที่จะก้าวข้ามผ่านความกลัวนั้นไป เธออาจจะได้พบเจอกับความสุขที่รออยู่ก็เป็นได้
“ฟางเธอจะไม่พูด ไม่มองหน้าฉันเลยหรือไง”
ป็อปปี้เอ่ยกับคนที่นั่งเหม่อมองท้องฟ้าข้างหน้า ด้วยน้ำเสียงอ่อนล้า
“.....”
“เอาเถอะ วันนี้ฉันแค่จะแวะเอานี่มาให้ ถ้ามันไม่ลำบากนัก ฉันอยากให้เธอไป
บางทีเธออาจจะตัดสินใจได้เรื่องของเรา”
วางของในมือลงก่อนจะเดินออกจากห้องนอนของหญิงสาวไปเงียบๆ
เธอละสายตาจากภาพข้างหน้ามามองของที่ป็อปปี้วางไว้บนเตียง ก่อนจะลุกขึ้นมาหยิบออกเปิดดู
“ตั๋วคอนเสิตร์งั้นเหรอ?”
มองตั๋วในมือด้วยความไม่เข้าใจ วันที่ในตั๋วระบุวันแสดงในอีก2วันข้างหน้า
มันจะทำให้ฉันตัดสินใจเรื่องของเราได้จริงๆเหรอป็อปปี้
“แก้วดีใจนะที่พี่ฟางยอมมา”
“ใครว่า ฉันลากมาตั้งหาก”
“ถ้างั้นพี่กลับก็ได้”
“พี่ฟาง” คว้าแขนพี่สาวเอาไว้ก่อนจะออกแรงลากเข้าไปด้านใน ทันทีที่ประตูเปิด
‘Annihilate’
เสียงเรียกร้องของแฟนๆดังกระหึ่มฮอลทันทีที่ทั้งสามหนุ่มปรากฎตัว
ฟางมองการแสดงของทั้งสามคนอย่างอึ้งจัด ไม่คิดว่าทั้งสามคนจะสามารถพัฒนาตัวเองจนมาถึงขั้นนี้ได้
อะไรคือแรงขับเคลื่อนให้ผู้ชายทั้งสามคนที่เคยเห็นว่าดนตรีเป็นแค่ความเท่ห์ที่มีไว้เล่นโชร์สาว มายืนในจุดนี้ได้นะ
“ครับ ก็ต้องขอขอบคุณทุกๆคนมากที่มาในวันนี้ พวกเราสนุกมากครับ”
ป็อปปี้เอ่ยใส่ไมค์ด้วยน้ำเสียงปนเสียงหอบ หลังจากคอนเสิตร์เข้าสู่ช่วงท้ายของการแสดง
“หลายๆคนอาจจะเคยสงสัย ว่าทำไมผู้ชายสามคน ถึงได้มายืน ณ จุดจุดนี้ได้ มันมีเหตุผลครับ”
สายตาคมกวาดมองไปทั่วฮอล ก่อนจะมาหยุดลงที่ใบหน้าหวานของใครคนหนึ่ง
“มันเป็นเพราะว่าผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งๆครับหลายคนอาจจะตอบว่าเป็นแม่ของพวกเรา ก็ใช่ครับ
แต่มันไม่ถูกทั้งหมด แต่มันเป้นเพราะผู้หญิงที่ชื่อ...”
เสียงทุ้มหยุดลง ก่อนที่เขาจะก้าวเดินจากเวทีลงมายังกลุ่มแฟนคลับ เสียงกรี๊สของแฟนเพลงดังขึ้นเป็นเท่าตัว
หากแต่ก็ยอมแหวกทางให้นักร้องหนุ่มได้เดินเข้ามาในโซนคนดูแต่โดยดี
ร่างสูงหยุดลงตรงหน้าร่างเล็กของหญิงสาวคนหนึ่ง ก่อนที่เขาจะฉุดให้เธอยืนขึ้น
เสียงแฟนเพลงทำให้ฟางหูอื้อไปหมด แต่มันคงจะไม่ดังเท่ากับเสียงเต้นรัวของหัวใจเธอแน่นอน
“ฟาง ป็อปรู้ ว่าป็อปอาจจะไม่ใช่ผู้ชายที่ดีที่สุดสำหรับฟางแต่ป็อปอยากให้ฟางได้รู้ว่า สำหรับป็อป
ฟางคือหัวใจได้โปรดกลับมาเป็นอากาศของป็อปได้มั้ย ถ้าไม่มีอากาศ ไม่มีหัวใจ ป็อปจะอยู่ยังไง ถ้าต้องอยู่โดย
ไม่มีฟาง”
นัตตาคมจ้องลึกเข้าในดวงตาของเธอ สื่อสารยอกย้ำในทุกๆคำพูดของตัวเขาเอง
“ได้มั้ยคนดี กลับมาเป็นคนที่รักกันจะได้มั้ย”
“กรี๊สสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสส”
เสียงกรี๊สของแฟนคลับทำเอาเธอหูอื้อตาลายไปเลย บีบมือป็อปปี้ที่กุมมือเธอไว้แน่น
“ฟาง....”
เธอสูดหายใจเข้าปอดลึกๆอีกครั้งก่อนจะเอ่ยประโยคต่อมา
“ฟางรักป็อปค่ะ”
ป็อปปี้ยิ้มก้วางกับคำตอบของเธอทันที คว้างร่างบางเข้ามากอดไว้แน่น
“ขอบคุณนะฟาง ขอบคุณที่ไม่ทิ้งกัน”
“ฟางจะทิ้งลมหายใจของตัวเองไปได้ยังไงกัน”
“ชนๆฉลองให้ไอ้ป็อปที่มันตามหาหัวใจตัวเองเจอกันหน่อยเร็ว”
พี่เมฆยกแก้วขึ้นชูกลางอากาศ เอ่ยด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ถึงแม้พรุ่งนี้เขาจะต้องโดนค่ายเรียกไปด่า แต่เท่านี้สำหรับ
ทั้งสามคนที่เขารักเหมือนน้องก็ถือว่าคุ้ม
“เย้!!!”
“เอาไว้ก่อนเถอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยให้แม่บ้านมาเก็บ”
ป็อปปี้เอ่ยห้ามร่างบางที่กำลังเก็บของบางส่วน ต่างจากคนอื่นๆที่สลบเหมือดไปแล้ว
“ไปนอนดูดาวบนดาดฟ้ากัน”
ฟางเดินตามแรงจูงของอีกฝ่าย ที่พาเดินเข้ามาในห้องนอนของเขา ก่อนจะพาเธออเดินทะลุออกไปทางระเบียง
หลังห้องเดินนำเธอขึ้นบันไดเวียนอันเล็กที่อยู่ตรงกำแพงขึ้นมาบนดาดฟ้า
“ว๊าว ไม่คิดว่าจะมองเห็นดาวเยอะขนาดนี้นะเนี่ย”
ฟางเงยหน้ามองท้องฟ้ายามค่ำคืนที่มีดาวเกลื่อนฟ้า
“มานอนนี่ซิ”
ป็อปปี้ดึงร่างบางให้นอนลงเคียงข้าง ให้หญิงสาวนอนหนุ่มแขนตัวเอง
“เพราะแบบนี้ซินะ ป็อปถึงได้ครองชั้นสามอยู่คนเดียว”
“ไม่ใช่ซักหน่อย เพราะไอ้โมะมันชอบห้องใต้ดิน แล้วไอ้เขื่อนมันก็ชอบเข้าออกบ้านดึกๆบ่อยๆ
ต่างหากมันถึงได้อยู่ชั้นล่าง”
ฟางย่นจมูกไม่เชื่อกับคำแก้วตัวของชายหนุ่ม
“ที่จริง เพราะฉันคิดว่าการที่ฉันได้นอนตรงนี้ก็เหมือนได้นอนมองเธอที่อยู่บนฟ้าตั้งหาก”
ฟางเอื้อมมือมากุมหน้าชายหนุ่มไว้ ป็อปปี้หันกลับมาสบตาเธอ
“ต่อไปนนี้ ฉันจะนอนอยู่ข้างๆนายไม่ไปไหนอีกแล้วนะ ป็อปปี้”
“ใช่ เธอต้องอยู่ให้ฉันกอดไปอีกนาน ไม่งั้นฉันจะตามทวงเธอไปทุกที แน่” ป็อปปี้รัดร่างบางเข้า
มาโอบกอดไว้ ฟางเองก็กอดรัดเอวหน้าของชายหนุ่มเอาไว้แน่นเช่นกัน
“ฉันรักนาย และจะรักตลอดไปนะป็อปปี้”
“ฉันรู้แล้ว” ชายหนุ่มงึมงำตอบกลับมา
“ฉันเองก็รักเธอมากนะฟาง”
“อืม.... ^^” ฟางยิ้มให้ก่อนจะหลับไปในอ้อมกอดของกันและกัน....
ความรักก็ไม่ต่างกับการปลูกต้นไม้ เราต้องคอยรดน้ำ เท่านั้นต้นไม้ก็จะเติบใหญ่
น้ำก็เหมือน ความเชื่อใจซึ่งกันและกัน
ความรักก็ต้องการความเชื่อใจซึ่งกันและกัน มันถึงจะไปรอด
แล้วคุณหล่ะ ดูแลความรักของตัวเองดีแล้วหรือยัง ยังไม่สายที่จะแสดงความรักกับคนที่คุณรักนะค่ะ
The End
วันที่ 22/06/12 20:03
แก้ไขครั้งที่2
วันที่ 17/08/2012
11:19
ปล. ฉากคอนเสิตร์มาจากเรื่อง your are beautiful (หมูกระต่าย) ฮ่าๆขโมยมาสุดฤทธิ์อ่ะ ^^
จบแล้วค่ะจบแล้ว สองเดือนเต็มๆหลังจากการเขียนและแก้ไขครั้งแรก เหนื่อยมากกับเรื่องนี้ ไม่รู้ว่าจะเศร้าไปไหน
เหมือนกัน สงสัยไอ้คนเขียนมันจะเก็บกดมานาน หวังว่าคงจะดราม่าสมใจใครหลายๆคน
ถ้าว่ามีโหมดนี้อีกมั้ย ไม่มีแล้วค่ะ เหนื่อน เขียนกันจนเปื่อยไปข้าง ==”
ขอบคุณทุกๆคนที่ติดตามนะค่ะ หลายคนมากที่คอยทวงมาตลอดๆ
ทั้งในทวิตและในเว็บ ขอโทษดด้วยที่เวลาอัพไม่ค่อยมี เขางานเยอะอ่ะ ฮือT^T
รักคนอ่านมากๆ ขอบคุณคนโหวด กระโดดหอมแกก้มคนเม้นคร้า ^+++^
ประโยคของหญิงสาวยิ่งตอกย้ำความเจ็บปวดของเขามากขึ้นไปอีก
"ฟาง เธอฟังนะ ม่ว่าฉันจะเป็นป็อปปี้คนที่เธอรักหรือว่าคนที่เธอเกลียด แต่ฉันอยากให้เธอรู้ไว้นะ ว่า
ฉันคนนี้รักเธอ และมันจะเป็นแบบนั้นตลอดไป ไม่ว่าต่อจากนี้เธอจะหนีหายจากชีวิตฉันไปอีกก็ตาม”
“ฮึก พอแล้วฉันไม่อยากฟัง”
เธอได้แต่ทรุดตัวลงนั่งยองๆกับพื้น ยกมือปิดหูตัวเองราวกับไม่อยากได้ยินความจริงที่มันกำลังจะทำร้ายเธออีกต่อ
ไป
“ฟาง....” ป็อปปี้มองสภาพคนรักด้วยสายตาเจ็บปวด ทั้งๆที่เห็นเธอกำลังร้องไห้ แต่เขากลับเข้าไป
ปลอบเธอไม่ได้ แบบนี้มันยิ่งกว่าฆ่าเขาทั้งเป็นซะอีก
พระเจ้าครับ อย่าเขาหัวใจของผมไปได้มั้ย ถ้าทานเอามันไปแล้วผมจะอยู่ได้อย่างไร
“เรื่องอะไรกันว่ะไอ้ป็อป”
เขื่อนวิ่งนำหน้าอีกสามคนที่เหลือเข้ามาด้วยสภาพยุ่งเหยิง ก็จะไม่ให้มันยุ่งเหยิงได้ยังไงก็ในเมื่อคนโทรไปตาม
มันดันโทรไปตอนตีสามกว่าแบบนี้
“ฟางรู้แล้ว”
“เฮ้ย ยังไง ทำไม อะไรว่ะ”
“ไอ้เขื่อนเมิงจะเว้นช่องให้ไอ้ป็อปมันตอบจะได้มั้ย” โทโมะด่าเพื่อนอย่างหงุดหงิด
“ฟางเปิดไฟเลยเห็นว่ากรูเป็นกรู”
ประโยคสั้นๆของป็อปปี้ ทำให้สี่คนที่เหลือต่างเงียบเสียง
นั้นซินะ เขาเป็นเขา ความจริงที่ไม่มีทางหนีพ้น
“แล้วเมิงจะเอายังไง สู้หรือถอย”
“อย่าถามกรู เพราะกรูสู้มาตลอด สู้เพื่อหัวใจตัวเองมาตั้งแต่ 7ปีที่แล้ว คนที่ควรถามคือฟางไม่ใช่
กรู”
“ใจเย็นๆนะพี่ป็อป พี่ฟางต้องเข้าใจ แก้วเชื่อแบบนั้น”
แก้วเดินเข้าไปโอบคนที่เปรียบเสมือนพี่ชายตัวเองอย่างให้กำลังใจ
ทางด้านในห้องพักฟื้น
“ป็อป ฟางจะทำยังไง จะต้องจบเรื่องนี้ยังไง ถึงจะไม่มีใครเจ็บปวดกับมันนะ”
ถามตัวเองเสียงแผ่ว ระหว่างความรักที่อกข้างซ้าย กับความหวาดกลัวที่มันกำลังเกาะกุมใจเธออยู่ เธอจะเลือก
อะไร เธอต้องเลือกสิ่งไหน
“มันก็ขึ้นอยู่กับว่า พี่ฟางจะรักพี่ป็อปพอที่จะยอมทิ้งความกลัวในใจตัวเองได้รึเปล่าหล่ะ”
“เฟย์ “
“แค่ถามใจตัวเองเท่านั้นแหละพี่ฟาง ว่าพี่จะเลือกอะไร”
ถามใจตัวเอง แต่เธอจะหาคำตอบนนี้ให้ตัวเองได้ยังไงกัน?
ร่างบางก้าวเดินเข้ามาในสถานที่ ที่ครั้งหนึ่งมันเต็มไปด้วยความทรงจำระหว่างเธอกับเขา
สุสาน มันน่าตลกนะ ที่เธอกับป็อปปี้กลับมีความทรงจำมากมายระหว่างกันฝังอยู่ที่นี่จนล้น
ทุกๆความรู้สึกที่ผ่านเข้ามาต่างเรียงร้อยเข้าด้วยกันราวกับสายสร้อยที่มันจะไม่มีวันขาดออกจากกัน
ความกลัวที่มันอยู่ในใจเธอ เธอรู้ดีว่ามันไม่ได้มาจากป็อปปี้ แต่มันมาจากตัวเธอเอง
ความกลัวที่จะอยู่ร่วมกับเขา กลัวที่จะทำให้เขาเจ็บปวดและกลัวว่าวันหนึ่งเธอจะต้องสูญเสียเขาไปเหมือนกับที่เขา
เคยสูญเสียเธอและเธอเคยสูญเสียเขา
แต่ถ้าเธอกล้าที่จะก้าวข้ามผ่านความกลัวนั้นไป เธออาจจะได้พบเจอกับความสุขที่รออยู่ก็เป็นได้
“ฟางเธอจะไม่พูด ไม่มองหน้าฉันเลยหรือไง”
ป็อปปี้เอ่ยกับคนที่นั่งเหม่อมองท้องฟ้าข้างหน้า ด้วยน้ำเสียงอ่อนล้า
“.....”
“เอาเถอะ วันนี้ฉันแค่จะแวะเอานี่มาให้ ถ้ามันไม่ลำบากนัก ฉันอยากให้เธอไป
บางทีเธออาจจะตัดสินใจได้เรื่องของเรา”
วางของในมือลงก่อนจะเดินออกจากห้องนอนของหญิงสาวไปเงียบๆ
เธอละสายตาจากภาพข้างหน้ามามองของที่ป็อปปี้วางไว้บนเตียง ก่อนจะลุกขึ้นมาหยิบออกเปิดดู
“ตั๋วคอนเสิตร์งั้นเหรอ?”
มองตั๋วในมือด้วยความไม่เข้าใจ วันที่ในตั๋วระบุวันแสดงในอีก2วันข้างหน้า
มันจะทำให้ฉันตัดสินใจเรื่องของเราได้จริงๆเหรอป็อปปี้
“แก้วดีใจนะที่พี่ฟางยอมมา”
“ใครว่า ฉันลากมาตั้งหาก”
“ถ้างั้นพี่กลับก็ได้”
“พี่ฟาง” คว้าแขนพี่สาวเอาไว้ก่อนจะออกแรงลากเข้าไปด้านใน ทันทีที่ประตูเปิด
‘Annihilate’
เสียงเรียกร้องของแฟนๆดังกระหึ่มฮอลทันทีที่ทั้งสามหนุ่มปรากฎตัว
ฟางมองการแสดงของทั้งสามคนอย่างอึ้งจัด ไม่คิดว่าทั้งสามคนจะสามารถพัฒนาตัวเองจนมาถึงขั้นนี้ได้
อะไรคือแรงขับเคลื่อนให้ผู้ชายทั้งสามคนที่เคยเห็นว่าดนตรีเป็นแค่ความเท่ห์ที่มีไว้เล่นโชร์สาว มายืนในจุดนี้ได้นะ
“ครับ ก็ต้องขอขอบคุณทุกๆคนมากที่มาในวันนี้ พวกเราสนุกมากครับ”
ป็อปปี้เอ่ยใส่ไมค์ด้วยน้ำเสียงปนเสียงหอบ หลังจากคอนเสิตร์เข้าสู่ช่วงท้ายของการแสดง
“หลายๆคนอาจจะเคยสงสัย ว่าทำไมผู้ชายสามคน ถึงได้มายืน ณ จุดจุดนี้ได้ มันมีเหตุผลครับ”
สายตาคมกวาดมองไปทั่วฮอล ก่อนจะมาหยุดลงที่ใบหน้าหวานของใครคนหนึ่ง
“มันเป็นเพราะว่าผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งๆครับหลายคนอาจจะตอบว่าเป็นแม่ของพวกเรา ก็ใช่ครับ
แต่มันไม่ถูกทั้งหมด แต่มันเป้นเพราะผู้หญิงที่ชื่อ...”
เสียงทุ้มหยุดลง ก่อนที่เขาจะก้าวเดินจากเวทีลงมายังกลุ่มแฟนคลับ เสียงกรี๊สของแฟนเพลงดังขึ้นเป็นเท่าตัว
หากแต่ก็ยอมแหวกทางให้นักร้องหนุ่มได้เดินเข้ามาในโซนคนดูแต่โดยดี
ร่างสูงหยุดลงตรงหน้าร่างเล็กของหญิงสาวคนหนึ่ง ก่อนที่เขาจะฉุดให้เธอยืนขึ้น
เสียงแฟนเพลงทำให้ฟางหูอื้อไปหมด แต่มันคงจะไม่ดังเท่ากับเสียงเต้นรัวของหัวใจเธอแน่นอน
“ฟาง ป็อปรู้ ว่าป็อปอาจจะไม่ใช่ผู้ชายที่ดีที่สุดสำหรับฟางแต่ป็อปอยากให้ฟางได้รู้ว่า สำหรับป็อป
ฟางคือหัวใจได้โปรดกลับมาเป็นอากาศของป็อปได้มั้ย ถ้าไม่มีอากาศ ไม่มีหัวใจ ป็อปจะอยู่ยังไง ถ้าต้องอยู่โดย
ไม่มีฟาง”
นัตตาคมจ้องลึกเข้าในดวงตาของเธอ สื่อสารยอกย้ำในทุกๆคำพูดของตัวเขาเอง
“ได้มั้ยคนดี กลับมาเป็นคนที่รักกันจะได้มั้ย”
“กรี๊สสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสส”
เสียงกรี๊สของแฟนคลับทำเอาเธอหูอื้อตาลายไปเลย บีบมือป็อปปี้ที่กุมมือเธอไว้แน่น
“ฟาง....”
เธอสูดหายใจเข้าปอดลึกๆอีกครั้งก่อนจะเอ่ยประโยคต่อมา
“ฟางรักป็อปค่ะ”
ป็อปปี้ยิ้มก้วางกับคำตอบของเธอทันที คว้างร่างบางเข้ามากอดไว้แน่น
“ขอบคุณนะฟาง ขอบคุณที่ไม่ทิ้งกัน”
“ฟางจะทิ้งลมหายใจของตัวเองไปได้ยังไงกัน”
“ชนๆฉลองให้ไอ้ป็อปที่มันตามหาหัวใจตัวเองเจอกันหน่อยเร็ว”
พี่เมฆยกแก้วขึ้นชูกลางอากาศ เอ่ยด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ถึงแม้พรุ่งนี้เขาจะต้องโดนค่ายเรียกไปด่า แต่เท่านี้สำหรับ
ทั้งสามคนที่เขารักเหมือนน้องก็ถือว่าคุ้ม
“เย้!!!”
“เอาไว้ก่อนเถอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยให้แม่บ้านมาเก็บ”
ป็อปปี้เอ่ยห้ามร่างบางที่กำลังเก็บของบางส่วน ต่างจากคนอื่นๆที่สลบเหมือดไปแล้ว
“ไปนอนดูดาวบนดาดฟ้ากัน”
ฟางเดินตามแรงจูงของอีกฝ่าย ที่พาเดินเข้ามาในห้องนอนของเขา ก่อนจะพาเธออเดินทะลุออกไปทางระเบียง
หลังห้องเดินนำเธอขึ้นบันไดเวียนอันเล็กที่อยู่ตรงกำแพงขึ้นมาบนดาดฟ้า
“ว๊าว ไม่คิดว่าจะมองเห็นดาวเยอะขนาดนี้นะเนี่ย”
ฟางเงยหน้ามองท้องฟ้ายามค่ำคืนที่มีดาวเกลื่อนฟ้า
“มานอนนี่ซิ”
ป็อปปี้ดึงร่างบางให้นอนลงเคียงข้าง ให้หญิงสาวนอนหนุ่มแขนตัวเอง
“เพราะแบบนี้ซินะ ป็อปถึงได้ครองชั้นสามอยู่คนเดียว”
“ไม่ใช่ซักหน่อย เพราะไอ้โมะมันชอบห้องใต้ดิน แล้วไอ้เขื่อนมันก็ชอบเข้าออกบ้านดึกๆบ่อยๆ
ต่างหากมันถึงได้อยู่ชั้นล่าง”
ฟางย่นจมูกไม่เชื่อกับคำแก้วตัวของชายหนุ่ม
“ที่จริง เพราะฉันคิดว่าการที่ฉันได้นอนตรงนี้ก็เหมือนได้นอนมองเธอที่อยู่บนฟ้าตั้งหาก”
ฟางเอื้อมมือมากุมหน้าชายหนุ่มไว้ ป็อปปี้หันกลับมาสบตาเธอ
“ต่อไปนนี้ ฉันจะนอนอยู่ข้างๆนายไม่ไปไหนอีกแล้วนะ ป็อปปี้”
“ใช่ เธอต้องอยู่ให้ฉันกอดไปอีกนาน ไม่งั้นฉันจะตามทวงเธอไปทุกที แน่” ป็อปปี้รัดร่างบางเข้า
มาโอบกอดไว้ ฟางเองก็กอดรัดเอวหน้าของชายหนุ่มเอาไว้แน่นเช่นกัน
“ฉันรักนาย และจะรักตลอดไปนะป็อปปี้”
“ฉันรู้แล้ว” ชายหนุ่มงึมงำตอบกลับมา
“ฉันเองก็รักเธอมากนะฟาง”
“อืม.... ^^” ฟางยิ้มให้ก่อนจะหลับไปในอ้อมกอดของกันและกัน....
ความรักก็ไม่ต่างกับการปลูกต้นไม้ เราต้องคอยรดน้ำ เท่านั้นต้นไม้ก็จะเติบใหญ่
น้ำก็เหมือน ความเชื่อใจซึ่งกันและกัน
ความรักก็ต้องการความเชื่อใจซึ่งกันและกัน มันถึงจะไปรอด
แล้วคุณหล่ะ ดูแลความรักของตัวเองดีแล้วหรือยัง ยังไม่สายที่จะแสดงความรักกับคนที่คุณรักนะค่ะ
The End
วันที่ 22/06/12 20:03
แก้ไขครั้งที่2
วันที่ 17/08/2012
11:19
ปล. ฉากคอนเสิตร์มาจากเรื่อง your are beautiful (หมูกระต่าย) ฮ่าๆขโมยมาสุดฤทธิ์อ่ะ ^^
จบแล้วค่ะจบแล้ว สองเดือนเต็มๆหลังจากการเขียนและแก้ไขครั้งแรก เหนื่อยมากกับเรื่องนี้ ไม่รู้ว่าจะเศร้าไปไหน
เหมือนกัน สงสัยไอ้คนเขียนมันจะเก็บกดมานาน หวังว่าคงจะดราม่าสมใจใครหลายๆคน
ถ้าว่ามีโหมดนี้อีกมั้ย ไม่มีแล้วค่ะ เหนื่อน เขียนกันจนเปื่อยไปข้าง ==”
ขอบคุณทุกๆคนที่ติดตามนะค่ะ หลายคนมากที่คอยทวงมาตลอดๆ
ทั้งในทวิตและในเว็บ ขอโทษดด้วยที่เวลาอัพไม่ค่อยมี เขางานเยอะอ่ะ ฮือT^T
รักคนอ่านมากๆ ขอบคุณคนโหวด กระโดดหอมแกก้มคนเม้นคร้า ^+++^
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ