COME BACK TO ME ได้โปรด...ที่รัก
เขียนโดย To_oNg0909
วันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2555 เวลา 03.16 น.
1) ความฝัน?
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
‘เฮือก’
ร่างหนาผลุดลุกขึ้นนั่ง ร่างกายชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อ หัวใจเต้นถี่รัวกับภาพในความฝัน
“โธ่เว้ย!! ฟางฉันขอโทษ”
ทิ้งตัวลงนอนยกมือปิดหน้าปวดร้าวไปกับภาพความทรงจำในอดีตที่มักจะย้อนเข้ามาในความฝันของเขาเสมอๆ
“นอนไม่หลับอีกแล้วไงว่ะ”
เขื่อนออกปากทักป็อปปี้ที่เดินหน้าโทรมลงมาจากบนห้องนอน
จริงๆนับแต่วันนั้น วันที่ทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป พวกเขาสามคนก็ไม่เคยมีใครได้นอนหลับเต็มตาซักคน ถ้าไม่ใช่
เพราะความคะนองของเขาบางทีพวกเขาอาจไม่ต้องเสียฟางไปก็ได้
“อืม ไอ้โมะหล่ะ”
“มันนั่งแกะเพลงอยู่ห้องใต้ดิน”
ป็อปปี้พยักหน้ารับรู้ก่อนจะเดินไปเปิดตู้เย็น หยิบน้ำออกมาดื่ม หวังว่าความเย็นของน้ำมันจะช่วยทำให้สติสตังของ
เขามันเข้าที่เข้าทางมากกว่านี้
“วันนี้...เมิงจะไปเปล่าว่ะ”
ป็อปปี้เงยหน้าขึ้นไปสบตาเขื่อน วันนี้อีกแล้วซิ มันวนกลับมาอีกจนได้ ทั้งๆที่ผมคิดว่ามันจะเป็นแค่ฝันร้าย
แต่ความจริงก็คือความจริง ที่ผมไม่มีวันหนีพ้น
“อืม ไปดิยัยนั้นรอเราอยู่นี่นะ” เหม่อมองออกไปยังท้องฟ้าไกล
ฟาง เธอยังรอฉันอยู่ใช่มั้ย เธอรอที่จะฟังคำขอโทษจากฉันใช่มั้ย....
ภาพร่มรื่นของสถานที่ตรงหน้าไม่ได้ทำให้พวกเขาทั้งสามคนสดชื่นขึ้นมาได้ กลับยิ่งทำให้พวกเขารู้สึกหดหู่เพราะ
ต่างก็รู้ดีว่าภายใต้แผ่นหินเย็นฉียบตรงหน้ามีร่างบอบบางของใครคนหนึ่งนอนสงบนิ่งมาเป็นเวลานาน
“ฟาง ฉันมาหาเธอแล้วนะ”
ปลายนิ้วเรียวไล้ภาพรอยยิ้มของหญิงสาวในภาพ สัมผัสได้แต่ความเย็นยะเยือกของแผ่นหินไม่ชึความอบอุ่นของ
ร่างเธออีกแล้ว
“ป็อปปี้ นายมาแล้วงั้นเหรอ”
ทั้งสามคนหันกลับไปมองตามเสียงทัก ภาพซ้อนทับของคนตายที่ซ้อนอยู่ในเงาของคนเป็นยิ่งทำให้ชายหนุ่มก้ม
หน้านิ่งกดความรู้สึกที่กำลังตีตื้นขึ้นมา
“อืม คุณแม่เธอล่ะเฟย์” เอ่ยกับน้องสาวของฟาง ที่มีหน้าตาเหมือนกันราวกับฝาแฝด
“เดี๋ยวคงเข้ามา ฉันนึกแล้วว่านายต้องมา”
“ฟางรอฉันอยู่นิ ฉันต้องมาซิ” เอ่ยเสียงเบากับหญิงสาวที่นั่งยองๆลงเคียงเขา
“ทำใจเถอะ พี่ฟางไปสบายแล้ว เหลือแต่พวกนายที่ยังต้องอยู่ และใช้ชีวิต ใช้แทนครึ่งชีวิตที่เหลือ
ของพี่ฟางด้วย”
มองหน้าเพื่อนชายคนสนิทของพี่สาวด้วยแววตาเศร้าสร้อย
“เพราะฉันคงจะมาที่นี่ไม่ได้อีก”
“เธอหมายความว่าไงกันเฟย์”
เขื่อนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงงุนงง
“แม่จะย้ายไปอเมริกา นายคงเข้าใจนะ ฉันไม่อยากต้องเห็นแม่ต้องเป็นทุกข์ทุกครั้งที่เห็นของๆพี่
ฟาง”
“เธอไม่ไปไม่ได้หรือไง เฟย์”
เขื่อนเอ่ยเสียงเบา ราวกับใจเขาหลุดลอยตามคนตรงหน้าไปแล้ว
“ไม่ได้หรอก ฉันเองก็ทนไม่ไหวแล้ว ไม่มีวันไหนที่ฉันนอนหลับได้สนิทซักคืน ราวกับว่าพี่ฟางยังอยู่
ฉันทำใจไม่ได้ ฮึก...” เสียงสั่นเครือของเฟย์ทำให้ป็อปปี้ต้องกำหมัดแน่น ทุกอย่างมันเป็นเพราะเขา
“ฉันว่าแม่คงไม่เข้ามาแล้ว ฉันไปก่อนนะ ลาก่อน”
เฟย์ส่งยิ้มให้ครั้งสุดท้ายก่อนจะเดินจากไป ทิ้งไว้แต่คนที่หัวใจสลายไปกับการจากไปของหญิงอันเป็นที่รักสองคน
ที่ไม่ว่าจะจากเป็นหรือจากตาย มันก็ทำให้พวกเขาเจ็บปวดไม่ต่างกัน
“ฉันขออยู่ฟางเดี๋ยวแล้วกัน พวกแกไปรอที่รถก่อน”
โทโมะตบบ่าเพื่อนเบาๆ ก่อนจะเดินออกไปพร้อมเขื่อน
ป็อปปี้มองตามหลังเพื่อนไป ก่อนจะเบนสายตากลับมาที่ภาพของหญิงสาวอีกครั้ง
“เธอไม่คิดจะให้โอกาสฉันได้เอ่ย คำนั้นเลยหรือไงนะฟาง”
“เธอรู้มัย เวลาที่มันไม่มีเธอแล้วมันเหงาแค่ไหน”
“ยัยบ้า...เธอทิ้งฉันไปได้ยังไง”
“ฉันรักเธอมากนะฟาง ถึงมันจะช้าไปก็เถอะ”
เอ่ยออกมาด้วยเสียงสั่นเครือ น้ำตาที่ทนเก็บกดเอาไว้หลั่งรินลงมาอย่างมิอาจห้าม ให้กับความแหลกสลายของ
หัวใจตัวเอง
“กลับมาได้มั้ย เธอจะกลับมาให้โอกาสฉันได้มั้ย ฟาง”
เสียงแผ่วเบาราวสายลม เงยหน้ามองท้องฟ้าห้ามหยดน้ำที่กำลังจะกลบสองตาของเขา เอ่ยขอร้องกับคนบนฟ้า
เพื่อบางทีเธออาจจะได้ยิน แล้วกลับมาตามคำเรียกร้องของเขา ตามเสียงเรียกของหัวใจ...
-7 ปีผ่านไป-
ร่างบางเงยหน้ามองท้องฟ้าสดใส ของบ้านเกิดเมืองนอนที่เธอจากไปเกือบ 7 ปีด้วยความคิดถึง
ในที่สุดก็ได้กลับมาซักที นายยังจะเหมือนเดิมอยู่มั้ยนะ
ป็อปปี้ เขื่อน โทโมะ เดินเข้าสู้เส้นทางสายดนตรีตามที่พวกเขาวาดฝันไว้ เปิดตัวด้วยภาพลักษณ์ของกลุ่มคน
ดนตรีที่มีความดิบ เถื่อนและรุนแรง ของดนตรีและเพศชายอย่างเต็มเปี่ยม ภายใต้ชื่อวง ‘Annihilate’ ที่มีความ
หมายของการทำลายล้างและบดขยี้
แค่เพียงปีแรกทั้งสามคนก็สามารถทำลายสถิติยอดผู้เข้าชมเอ็มวี ที่มียอดผู้เข้าชมมากสูงสุดเป็นแระวัติการณ์ใน
รอบ10 ปี
กลุ่มแฟนคลับต่างให้การต้อนรับเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายด้วยกัน ที่ชอบในความดิบ เถื่อนของดนตรีที่สื่อออก
มาได้รุนแรงในทุกๆบทเพลง หรือแม้แต่แฟนคลับผู้หญิง ที่ต่างก็ชื่นชอบใบหน้าที่หล่อเหลาราวกับเทพบุตรของทั้ง
สามหนุ่ม
“พี่เมฆ ผมบอกแล้วไงว่าไม่รับงานวันนี้”
ป็อปปี้เอ่ยกับพี่ผู้จัดการวงด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด แทบอยากจะเข้าไปชกหน้าชายวันกลางคนที่ยืนมองหน้าเขา
อย่างไม่สะทกสะท้าน ดีว่าเขื่อนกับโทโมะ ช่วยกันรั้งเอาไว้
“แต่งานนี้เขาให้เงินดีนะเว้ย”
“ผมไม่สน ผมบอกพี่แล้วไง ว่าผมไม่รับงานวันนี้ เรื่องแค่นี้พี่ฟังไม่รู้เรื่องหรือไง”
“ไอ้ป็อป มันจะมากไปแล้วนะ ฉันอายุมากกว่าแกนะ” อีกฝ่ายเริ่มขึ้นสียงอย่างหงุดหงิดที่โดนหนุ่ม
รุ่นน้องใส่อารมณ์เอาให้
“พี่เมฆ พี่ก็รู้ว่าวันนี้ไอ้ป็อปมันมีที่ๆต้องไปนี่หว่า” เขื่อนออกแรงช่วยเพื่อนอีกคน
“ไอ้ป็อป กรูว่าเมิงทำงานนี้ให้จบๆแล้วค่อยไปแล้วกัน”
คำพูดของโทโมะทำให้ป็อปปี้ลดอารมณ์ที่กำลังร้อนแรงลงได้
สุดท้ายทุกอย่างก็ต้องดำเนินไปตามตารางเดิม ทั้งๆที่นักร้องของวงกำลังอารมณ์บูดถึงขีดสุด แต่ทุกอย่างก็ยังคง
ออกมาดีเช่นเดิม
ทันทีที่จบงานคอนเสิตร์ ป็อปปี้ก็โดดลงจากเวทีตรงดิ่งไปที่รถของตัวเองก่อนจะออกรถไปด้วยความเร็วทันที
ความเศร้าที่มองเห็น‘“กลับมาได้มั้ย เธอจะกลับมาให้โอกาสฉันได้มั้ย ฟาง”’
~♬ ♫~♬ ♥ ~♬ ♫~♬ ~♬ ♫~♬ ♥ ~♬ ♫~♬ ~♬ ♫~♬ ♥ ~♬ ♫~♬ ~♬ ♫~♬ ♥ ~♬ ♫~♬
มาแล้วๆค่ะ เรื่องนี้ตั้งใจไว้ว่าเราจะเศร้ากระจายค่ะ ฮ่าๆ แต่มันจะเศร้ามั้ยคงต้องถามคนอ่านแล้วแหละ
อ่านแล้วคิดเห็นยังไงกับเรื่องนี้ก็บอกกันบ้างน้า
ทุกๆการกระทำของมนุษย์มักมีเหตุผลซ่อนอยู่เสมอ
เจอกันตอนหน้าค่ะ ^^
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ