Stubborn Love Plan แผนการณ์ขโมยหัวใจ รักนายปากแข็ง
9.1
เขียนโดย narami
วันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2555 เวลา 22.08 น.
24 chapter
538 วิจารณ์
68.13K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 3 เมษายน พ.ศ. 2556 22.18 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
6) Love at first sight
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความChapter 6
Love at first sight
ดวงตาสีดำสนิทนั้นจ้องมองฉันไม่วางตา สัมพัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆของเขาที่หายใจออกมา
ทำไมกันนะ... ฉันถึงไม่สามารถขยับตัวเองออกไปได้เลยแม้แต่นิด
กลับกันหน้าของฉันที่ค่อยๆก้มลงไปเรื่อยๆเหมือนมีแรงดึงดูด
จากตอนแรกก็ห่างกันน้อยอยู่แล้ว ตอนนี้ช่องว่างระหว่างเรายิ่งน้อยเข้าไปใหญ่
ปากบางของฉันแทบจะติดกับปากหนาของเขา
ไม่นะ ....
:: Poppy Talk ::
เวลาเหมือนหยุดเดินเอาดื้อๆ หลังจากที่ยัยลูกหมาล้มทับผม เราสองคนก็นอนนิ่งไม่ขยับเขยื่อนไปไหนเลย หน้าผมที่แทบจะติดกับหน้าฟางนั้น ทำให้ผมเห็นโครงหน้าสวยหวานของผู้หญิงตรงหน้า ดวงตากลมโต จมูกเรียวโด่งที่ชนกับจมูกของผม ลมหายใจอุ่นๆ ริมฝีปากบางที่เหมือนเยลลี่นั่น อยู่ห่างจากปากผมไม่ถึง1cm.
‘อยากลองลิ้มรสความหวานตรงหน้าดูจัง....’
ปากหนาของผมกำลังจะเคลื่อนไปปิดปากบางของฟาง
ขอลิ้มลองความหวานหน่อยนะ แม่กระต่ายน้อย....
“ครืดดด”
เสียงเลื่อนประตูห้องพยาบาล ทำให้สติของผมและฟางกลับเข้าร่าง ร่างกายพลันออกห่างจากกันและกันอย่างอัตโนมัติ ผมได้แต่เอามือเกาคอก้เก้อ ส่วนฟางก็นั่งก้มหน้า อยากบอกว่าตอนนี้หน้าเธอแดงมากๆเลยละ
“อ้าวน้องฟาง ฟื้นแล้วหรอคะ ไปนั่งทำอะไรบนพื้นคะเนี้ย”
เสียงของบุคคลที่เข้ามาขัดจังหวะ(?)เอ่ยขึ้น เธอผู้นั้นคือคุณพยาบาลที่ทำแผลให้ฟางนั้นเอง
“อ๊อ พอดีเมื่อกี้ฟางล้มนะคะ ป๊อปปี้เลยจะช่วยดึงฟางขึ้น แต่ทำไปทำมากลับลงมานอนอยู่บนพื้นด้วยกันทั้ง2คนเลย แฮะๆ”
ฟางยิ้มแห้งๆตอบกลับคุณพยาบาลไป ดีแล้วที่ไม่ได้บอกความจริง ไม่งั้นคงต้องอธิบายอีกยาวกว่าจะเข้าใจ
“เออใช่ น้องฟางค่ะ เมื่อกี้พี่เห็นท่านผู้อำนวยการพึ่งกลับออกไปนะคะ เห็นว่าตามหาน้องฟางอยู่นาน แต่สงสัยท่านติดงานเลยรีบกลับ”
คุณอามาด้วยหรอเนี่ย สงสัยเรื่องที่เกิดขึ้นคงใหญ่มากจนถึงขั้นต้องเรียกผู้อำนวยการมาเลย
“อ๊อ สงสัยคุณพ่อติดประชุมที่บริษัทนะคะ”
ฟางตอบพร้อมกับลุกขึ้นยืม ผมก็ลุกขึ้นตามเธอ
“แผลนั้นอีกไม่กี่วันก็หายแล้วละคะ พี่โทรไปบอกทางบ้านแล้วว่าต้องทำยังไงบ้าง ช่วงนี้เวลาทานอะไรก็ระวังหน่อยนะคะ งดกีฬาทุกชนิดเป็นเวลา3วันนะคะ นี่ใบรับรองค่ะ”
คุณพยาบาลบอกพร้อมกับยื่นใบรำรองให้ฟาง
“งั้นฟางกลับห้องก่อนนะคะ ขอบคุณมากๆเลยค่ะ”
เธอรับกระดาษนั้นมาพร้อมกับกล่าวขอบคุณ
“ผมไปก่อนนะครับคุณพยาบาล ขอบคุณครับ”
ผมบอกขอบคุณก่อนจะเดินตามฟางออกไป
“นี่เธอ เรื่องเมื่อกี้ฉันขอโทษนะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ ขอโทษด้วยจริงๆ”
ผมบอกกับฟางที่เดินนำหน้าผม ผมไม่อยากให้เธอคิดมาก ที่ต้องกล่าวขอโทษเพราะยังไงๆเธอก็เป็นผู้หญิง เหตุการณ์แบบนั้นมันดูไม่ดีได้สำหรับเธอครับ ถึงผมไม่ได้ทำผิดแต่ยังไงก็ตั้งใจจะขอโทษอยู่แล้ว
“ไม่เป็นไรหรอก ฉันเข้าใจว่ามันคืออุบัติเหตุ ขอโทษนายด้วยนะกับเรื่องเมื่อกี้”
ตอบกลับมาพร้อมกับยิ้มสดใส ทำไมกันนะ ผมเห็นเธอยิ้มแบบนี้ทีไรแล้วใจเต้นแรงทุกที....
เมื่อกี้ที่เผลอจะจูบกัน ใจผมก็เต้นรัวเป็นจังหวะกลอง อย่าบอกนะว่าคืออาการ'รักแรกพบ ' ไม่นะ! ผมเป็นเพลย์บอย ผมห้ามตกหลุมรักใครเด็ดขาด ไม่ได้ๆๆๆ
“เป็นอะไรรึเปล่า”
ฟางที่เห็นผมเอาแต่ทิ้งหัวตัวเองเล่นถามขึ้น ไม่ได้ๆ ต้องรักษามาดไว้
“ปล่าวๆ เออนี่ แล้วเรื่องล็อคเกอร์ละ”
ผมพยายามเปลี่ยนประเด็นคุยเพื่อไม่ให้เธอสงสัยมากไปกว่านี้
“เดียวตอนคาบชมรมฉันจะพาไปเลือก แล้วนายจะเลือกชมรมยังไงละ”
เธอถามผม เออใช่ ลืมเลยว่าต้องเลือกชมรมด้วย
“เธอพาพวกฉันไปทัวร์หน่อยสิ ไหนๆเธอก็ว่างอยู่แล้วไม่ใช่หรอ”
ออกปากใช้ยัยลูกหมาไปด้วยซะเลย หุๆๆ
“ได้ อยากให้ฉันพาทัวร์ก็ได้ นายเตรียมใจไว้ได้เลยนะนายหมี แบร่”
พูดจบก็หันมาแลบลิ้นใส่ผม หน่อยยยย ยัยลูกหมา
“ยัยเตี้ย! มาให้ฉันจับซะดีๆ”
สุดท้ายผมก็วิ่งไล่ฟางจนมาถึงห้อง ยัยนี่วิ่งเร็วเหมือนกัน ทำเอาเหนื่อยเลยละครับ
:: End Poppy Talk ::
:: Fang Talk ::
หลังจากที่ฉันกับป๊อปปี้มาถึงห้อง เราก็ไม่ได้คุยกันอีกเลย ยัยฟาง! เธออย่ามัวแต่คิดถึงเรื่องในห้องพยาบาลสิ มันเป็นอุบัติเหตุนะ ท่องไว้ อุบิตติเหตุ อุบัติเหตุ...
“Ding Dang Dong ~”
อ๊ะ เสียงออดดังได้เวลาคาบชมรมแล้ว ต้องพา3หนุ่มไปเลือกล็อคเกอร์กับดูชมรมใช่มั้ยเนี้ย
“พวกนาย3คน ได้เวลาแล้ว”
ฉันเดินไปหาทั้ง3คนที่หลังห้อง นั่งรวมกัน3คนแล้วรังศีหน้าใสมันวิบวับทิ่มตาฉันจริงๆเลย ให้ตายสิ 3คนนี้หน้าใสกว่าผู้หญิงซะอีก!
“Let’s go ครับเจ๊ฟาง!”
เขื่อนที่เปลี่ยนสรรพนามมาเรียกฉันว่าเจ๊เอ่ยก่อนจะเดินนำออกไป ฉันเดินตามออก ตามด้วยป๊อปปี้และโทโมะปิดท้าย
[ ทางเดินชั้น1 ]
หลังจากที่พาทั้ง3คนลงมาข้างล่างแล้ว ก็ได้เวลาเลือกล็อกเกอร์ 3คนนี้ก็เลือกกันเสียงดังเหมือนลูกลิง ฉันละปวดหัวจริงๆเลย
“เลือกได้แล้วใช่มั้ย จะให้ติดตั้งตรงไหนก็บอกพี่เขาแล้วกัน ส่วนลายอยากได้ลายไหนก็บอกเขาไปด้วย เดียวจะมีศิลปินมาวาดให้ แต่ถ้าอยากวาดเองก็ได้ตามสบาย”
ฉันพูดจบก็ลงไปนั่งที่ม้านั่งแถวๆนั้น เมื่อยจังเลย
ตอนนี้ทั้ง3หนุ่มกำลังวาดสิ่งที่ตัวเองต้องการลงไปในกระดาษสั้งจองล็อกเกอร์ หน้าตาแต่ละคนดูตื่นเต้นเหมือนเด็กน้อยมากเลย ไม่ได้การแล้ว ฉันต้องถ่ายรูปเก็บไว้blackmailพวกนี้
ฉันยกiPhone ขึ้นมาถ่ายรูปของทั้ง3คนอย่างเงียบๆ ก่อนจะรีบเก็บมันลงกระเป๋าก่อนจะมีใครรู้ตัว
“เสร็จแล้ว!”
ทั้งสามคนพูดออกมาอย่างพร้อมเพรียง นี่นัดกันเสร็จรึเปล่านะ แต่ช่างเถอะ
“พี่ค่ะ ฝากด้วยนะคะ”
ฉันหันไปบอกกับพี่ที่ทำหน้าที่ติดตั้งล็อคเกอร์ พี่เขารับกระดาษไปก่อนจะรีบไปทำงานที่ได้รับ
“พวกเราไปดูชมรมกันดีกว่า”
ฉันพูดก่อนจะเดินนำทั้ง3คนออกไปดูชมรม
[ ตึกชมรม ]
หลังจากที่เดินอกมาจนถึงตึกชมรม ฉันก็หยุดอยู่ตรงชั่น1 ทั้ง3คนหยุดตามฉันก่อนจะส่งสายตาสงสัย
“ที่นี่ตึกชมรมหรอ”
เขื่อนถามขึ้น ก่อนจะเดินตามฉันมาหยุดตรงหน้าแผนที่ของตึกนี้
“ใช่แล้ว พวกนายอยากเข้าชมรมอะไรละฉันจะพาไปดู แต่เลือกได้ห้ามเกิน5ชมรมนะ”
ทั้ง3คนพยักหน้ารับคำที่ฉันพูด ก่อนจะจ้องมองแผนที่ ก่อนเริ่มค้นหาชมรมที่ตัวเองอยากเข้า
“นี่ฟาง เธออยู่ชมรมอะไรบ้างละ”
โทโมะที่เงียบไปนานถามขึ้น ฉันนะหรอ อยู่หลายชมรมเลยละ
“ก็ ชมรมคาราเต้ ชมรมเทนนิส ชมรมเบเกอรี่ ชมรมร้องเพลง แล้วก็ชมรมดนตรีคลาสสิกนะ”
หลายคนอาจจะคิดว่ามันเยอะ แต่ความจริงมันไม่เยอะเลย เพราะใน1อาทิตย์เรสามารถจัดตารางได้ว่าเราจะไปชมรมวันไหน ทำให้นักเรียนสามารถร่วมกิจกรรมของทุกๆชมรมที่ตัวเองเลือกได้อย่างคุ้มค่า
“โหหห ทั้ง5ชมรมเลยหรอ ไม่เหนื่อยหรอเนี่ยเจ๊ ต้องเป็นผู้คุมกฎของโรงเรียนด้วย งานหนักไม่เบาเลยนะ”
เขื่อนหันมามองฉันอย่างไม่เชื่อ ก็นะ.... ใครจะไปเชื่อละว่าฉันสามารถทำทั้ง5อย่างได้ดี มันอยู่ที่ฝีมือ
“แล้วพวกนายจะเข้าชมรมอะไรละ”
ฉันถามออกไปเมื่อเห็นว่าพวกเขาน่าจะเลือกได้แล้ว
“ฉันขอเป็นชมรมทำอาหาร กับชมรมบาสแล้วกัน”
เขื่อนตอบ ชมรมทำอาหารก็อยู่กับเฟย์สินะ สงสัยชอบทานเหมือนกัน
“ฉันขอชมรมถ่ายภาพ ชมรมภาษาญี่ปุ่น กับชมรมบาส 3ที่ก็พอ”
โทโมะเอ่ย ชมรมถ่ายภาพก็อยู่กับแก้ว จริงสิ เขาเป็นลูกครึ่งญี่ปุ่นนี่หน่า ไม่น่าละ..
“ส่วนฉัน ขอชมรมบาส ชมรมดนตรีแจ๊ส ชมรมร้องเพลง ชมรมเปียโน กับชมรมเทนนิส”
นายหมีเล่นเอาทั้ง5ชมรมเลย ฉันต้องอยู่กับนายนี่ตั้ง2ชมรม อ๊ากกกกก หนีไม่พ้นจริงๆ
“เห้ย ไอ้ป๊อป เอาท้ง5เลยหรอวะ”
เขื่อนถามขึ้นอย่างเป็นห่วง
“เออ ฉันอยากลองหลายๆอย่างดูนะ”
ตอบกลับไปอย่างมั่นใจ เห้อออ เอาความมั่นใจพวกนั้นมาจากไหนกันนะพ่อคุณ
“โอเค งั้นฉันขอเริ่มจากชมรมบาสเลยแล้วกัน พวกนายทั้ง3คนเลือกเหมือนกันด้วย”
ฉันกล่าวก่อนจะเดินนำทั้ง3คนไปที่สนามบาส
[ สนามบาสเกตบอล ]
โอ้วววว พวกรุ่นพี่ชมรมบาสกำลังซ้อมกันขมักเขม่นเลย ต้องพา3คนนี้ไปฝากเนื้อฝากตัวซะแล้ว
“พี่เยล ฟางพาคนมาสมัครชมรมค่ะ”
ฉันวิ่งเข้าไปทักพี่เยล ผู้จัดการชมรมบาสเกตบอลสาวสวย พี่เยลอยู่Grade12 ห้องA สนิทกับฉันพอสมควรเพราะเราสองคนชอบกีฬาเหมือนกัน
“น้องฟาง พาใครมาค่ะเนี้ย”
พี่เยลที่กำลังนั่งดูการฝึกของคนในชมรมทักขึ้นพร้อมกับเดินมาทางฉัน
“อ๊อ 3คนนี้พึ่งมาแลกเปลี่ยนที่นี่เป็นวันแรกนะคะ ฟางเลยพามาสมัครชมรม ฝากด้วยนะคะ”
ฉันพูดฝากเนื้อฝากตัวให้ทั้ง3คน ทั้ง3คนที่ยืนอยู่ข้างหลังฉันก้มหัวนิดๆเหมือนเป็นการสวัสดี
“นี่มันป๊อปปี้ โทโมะ เขื่อน มือ1บาสเก็ตบอลของICSนิ ดีเลย พี่รับเข้าชมรมแบบไม่ต้องทดสอบเลยค่ะ”
พี่เยลดูตื่นเต้นไม่น้อยที่ได้ทั้ง3คนเข้าชมรม 3คนนี้มันเก่งมากเลยรึไง
“ยัยพี่เยล เธอรับคนโดยไม่เช็คแบบนี้ไม่ได้นะ!”
เสียงผู้ชายคนนึงดังขึ้น ฉันเดาว่าเขาน่าจะเป็นนักเรียนใหม่เพราะปีที่แล้วฉันยังไม่เคยเห็นเขามาก่อน ดูท่าทางจะหยิ่งสุดๆ
“ใครหรอค่ะพี่เยล ฟางยังไม่เคยเจอเลย”
ฉันหันไปกระซิบพี่เยล ตอนนี้ผู้ชายคนนั้นกำลังยืนจ้องหน้ากับ3หนุ่มอย่างเอาเป็นเอาตาย ไปแค้นกันมาจากไหนเนี้ย
“เบียร์ Grade11 ห้องD เด็กใหม่นะ”
พี่เยลตอบอย่างเอือมระอา สงสัยวีรกรรมจะเยอะ Grade11เท่าพวกฉันเลย
“ฉันขอท้า ถ้าพวกนายเอาชนะชมรมบาสไปได้ ฉันจะยอมรับพวกนายเข้าทีม”
นายนี่พูดอย่างหยิ่งยโส นายคิดว่านายเป็นใครมาจากไหนเนี้ย ฉันเป็นลูกเจ้าของโรงเรียนยังไม่กร่างแบบนี้เลย แล้วฉันเคยไปมีเรื่องกับนายมาก่อนมั้ยเนี้ย ทำไมต้องมาท้ากันด้วย
“เฮ้ย ไอ้เบียร์พูดบ้าอะไรวะ นั่นน้องฟาง...”
“ไม่ต้องค่ะพี่อาร์ม!”
พี่อาร์มรุ่นพี่ Grade12พูดยังไม่ทันขาดคำ ฉันก็ขัดขึ้น ฉันไม่อยากเอาชื่อเป็นข้ออ้าง และฉันก็ไม่อยากโดนนินทาด้วยว่าใช้เส้น
“หึ มันอาจจะดูไม่ยุติธรรมไปหน่อยสำหรับพวกนายงั้นฉันยอมให้ผู้หญิงคนนั้นรวมวงด้วยก็ได้ ว่าไง...”
น้ำเสียงยี่ยวนที่ส่งมาทำให้ป๊อปปี้ที่ยืนอยู่ข้างๆฉันคิ้วกระตุก ฉันว่าถ้าเรายังไม่จบบทสนทนานี้ มีหวังเขาได้ระเบิดแน่
“นายจะบ้ารึไงวะ ฟางห้ามเล่นกีฬาเป็นเวลา3วัน แล้วนายมีความคิดบ้าๆจะให้ผู้หญิงไปสู้กับชมรมบาสเนี่ยนะ ใช้อะไรคิดวะ”
นั่นไง ป๊อปปี้ระเบิดออกมาแล้ว ฉันพูดยังไม่ทันขาดคำเลย
“ไม่ต้องป๊อปปี้ ฉันไหว แต่มันติดปัญหาอยู่นิดหน่อยนะ...”
ฉันตอบอย่างหน้ามุ่ยพร้อมกับใช้ความคิด เพราะอะไรนะหรอ ฉันไม่ได้ใส่กางเกงซับในนะสิ! แล้วรองเท้าที่ฉันใส่ก็เป็นส้นสูงซะด้วย (พอดีที่นี้นักเรียนสามารถใส่รองเท้าอะไรก็ได้นะ) จะให้ฉันไปวิ่งเดาะลูกบาสแล้วกระโดดชู้ดเข้าแป้น ฟางก็ไม่ไหวเป็นเหมือนกันนะคะ ฮืออ
“เออ ฉันลืมไปเลยว่าเธอไม่ได้ใส่กางเกงซับใน แล้วก็รองเท้าส้นสูงด้วย.... Shit!”
ป๊อปปี้สบถออกมาอย่างไม่ได้ดั่งใจ ฉันไม่อยากเป็นตัวท่วงหรอกนะ แต่ฉันก็มีลิมิตเหมือนกัน เอาไงดีละ....
“อ๊อ ที่แท้เธอก็คือฟาง ธนันต์ธรญ์ นีระสิงห์ นี่เอง ลูกสาวคนโตของตระกูลนีระสิงห์เจ้าของโรงเรียนนี้ ได้ข่าวว่าเก่งในทุกด้านเลยนิ แน่จริงเธอก็ลงแข่งพร้อมกับรองเท้าส้นสูงของเธอสิ ฉันละอยากจะรู้จริงๆว่าเธอจะเอาชนะพวกฉันได้รึเปล่า หึ”
ตาบ้านี่บอกพร้อมกับหัวเราะในลำคอ คิดหรอว่าฟางคนนี้ไม่กล้า!
“โอเค ฉันตกลง”
ฉันเอ่ยตอบไปด้วยสายตาที่แน่วแน่ ทำให้ทุกคนตกใจกับการตัดสินใจของฉัน
“เดี่ยวๆๆน้องฟาง พี่รู้ว่าน้องฟางสามารถเล่นบาสได้ดีแม้จะใส่ส้นสูง แต่ว่ากางเกงซับใน....”
พี่เยลพูดอย่างเป็นกังวล แบบนี้ฉันก็ห้ามกระโดดชู้ดเด็ดขาด มันก็แย่ละสิ
“เห้อ ก็มันไม่มีทางเลือกอื่นแล้วนิคะพี่เยล...”
ฉันถอนหายใจออกมาอย่างหมดหนทาง แต่แล้วก็ต้องตกใจเมื่ออยู่ๆพี่เยลก็ถอดกางเกงซับในที่ใส่อยู่ยื่นมาให้ฉัน
“เอาของพี่ไปใส่ก่อน”
โอ้วววววววววววววววววว ฟางจะเป็นลมค่ะ พี่เยลช่างเป็นแม่พระจริงๆ ใจดีแล้วยังสวยมากๆด้วย ขอบคุณนะคะ
“ขอบคุณนะคะพี่เยล”
ฉันกอดพี่เยล1ทีก่อนจะรับกางเกงซับในมาใส่ตรงนั้นเลย ทำเอาพวกผู้ชายตกใจเป็นรอบที่2 จะตกใจอะไรกันฮะ
“เห้ยๆยัยบ้า เธอมาใส่เอาอะไรตรงนี้เนี้ย ผู้ชายก็อยู่กันเยอะแยะ เดียวฉันก็เป็นตากุ้งยิงหรอก”
ป๊อปปี้โวยขึ้นมาพร้อมกับปิดตาตัวเอง แต่ฉันใส่เสร็จแล้วนิ ช่วยไม่ได้
“เอาละ ฉันพร้อมแล้วละเบียร์ ทีมฉันมีแค่4คนก็พอ ส่วนทีมนายนายอยากเอาใครมาแข่งก็เอามาเลย เอามาเกิน10คนก็ได้นะ ฉันไม่กลัว”
ฉันพูดอย่างสบายๆ ต่อให้เอาคู่ต่อสู้มาเป็น10ฉันก็ไม่กลัวหรอกค่ะ เก่งซะอย่าง
“หึ ในเมื่อเธอพูดแบบนี้เอง ฉันขอเอาทั้งหมด10คน คงจะไม่เยอะไปสำหรับเธอหรอกนะ หึ”
เบียร์พูดอย่างคนที่ถือไผ่เหนือกว่า ตาบ้านี่ก็หน้าด้านดีนะ ปกติเขาแข่งกันแค่5คน คราวนี้เล่นเอาซะตั้ง10 แต่ฉันไม่กลัวหรอก ยังไงฉันก็ต้องชนะ
ระหว่างที่เบียร์เลือกคนเข้าทีม ฉันก็เอ่ยขึ้นมาว่า
“ไม่ต้องออมมือให้ฟางนะ”
ที่ฉันบอกไปแบบนี้เพราะพวกรุ่นพี่ส่วนใหญ่รู้จักกับฉันดี แล้วเขาก็เป็นสุภาพบุรุษพอที่จะไม่คิดทำร้ายผู้หญิงทางอ้อม
“แต่ฟาง พี่คิดว่า...”
พี่อาร์มเถียงขึ้นมา เห้ออออ รุ่นพี่ชมรมบาสก็ใจดีกับฉันแบบนี้ทุกคนแหละ
“พี่อย่าลืมนะคะ ว่าครั้งที่แล้วฟางชนะพวกพี่ ทั้งๆที่ฟางเล่นแบบไม่เต็มร้อย คราวนี้ฟางอ่อนให้ด้วยการใส่ส้นสูงเลยนะ แล้วอีกอย่างพี่ก็รู้ว่าฟางไม่ยอมมาแข่งอะไรแบบนี้ง่ายๆหรอก”
ฉันบอกพี่อาร์มและคนอื่นๆก่อนจะยิ้ม ยิ้มนี้เป็นยิ้มที่สดใสไม่ใช่ยิ้มเคลือบยาพิษแต่อย่างใด พี่อาร์มยิ้มตอบฉันอย่างเข้าใจ ก่อนจะเดินไปประจำที่ตัวเอง
“แข่งคราวนี้ทีมไหนทำแต้มได้ครบ30ก่อน ชนะไปเลย”
เบียร์เอ่ยบอกกติกา ทุกคนยืนประจำที่ของตัวเอง ก่อนที่พี่เยลจะเป่านกหวีดเพื่อเป็นสัญญาณเริ่มการแข่งขัน
“ปี๊ดดดดดดดดดดดดดดด”
:: End Fang Talk ::
___________________________________________________
Talk with Writer ::
เอาแล้วไง ฟางดันไปรับคำท้าซะงั้น แล้วฟางจะสู้ไหวมั้ยเนี้ย
ขอโทษด้วยนะคะที่ไม่สามารถให้ทั้ง2คนจูบกันได้
เพราะนาระคิดว่ามันยังเร็วไปหน่อย แต่ในอนาคตอาจจะไม่แน่ก็ได้
พวกของป๊อปปี้จะแข่งชนะมั้ย ติดตามอ่านได้ในChapter7ค่ะ
วันนี้มาอัพช้าไปหน่อย เพราะพึ่งกลับมาจากข้างนอก เลยเพิ่มเนื้อเรื่องให้ยาวแบบพิเศษ
อ่านแล้วคอมเม้นกันด้วยนะคะ เจอกันตอนหน้าค่ะ ^^/
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.4 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.4 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.4 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ