No name ความรักครั้งนี้ไม่มีชื่อเรื่อง
9.4
18)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความแม่โทโมะ : ไปไหนมาหลายวันตาโมะ
ทักเมื่อเย็นนี้เห็นลูกชายกลับบ้านไวเพราะหายไปเป็นอาทิตย์
โทโมะ : ผมติดงานครับแม่เลยนอนที่บริษิท
แม่โทโมะ : บอกหนูแก้วบ้างรึเปล่า
เมื่อได้ยินชื่อคนที่คิดถึงก็นิ่งไป
แม่โทโมะ : รู้ตัวไหมว่าทำอะไรลงไปเมียนั่งเป็นห่วงอยู่บ้านตั้งหลายวันร้องไห้แล้วร้องไห้อีก เราก็เหลือเกินไม่
คิดถึงเมียบ้างรึไง
ทำไมเค้าจะไม่คิดถึงหล่ะ เค้าเห็นหญิงสาวโกรธเลยให้อารมณ์เย็นๆก่อนแล้วค่อยกลับมาอธิบายให้เข้าใจ
โทโมะ : งั้นผมไปหาน้องนะครับ
แทนที่ผู้เป็นแม่จะบอกว่าหญิงสาวไม่ได้อยู่แล้วกลับเงียบไปคิดว่าปล่อยให้รู้เองจะดีกว่า
+
+
+
โทโมะ : ตัวเล็ก...
มองไปทั่วห้องก็ไม่เจอ
โทโมะ : ตัวเล็ก...
เดินจนทั่วห้องก็ยังไม่พบเปิดดูในตู้เสื้อผ้าแล้วใจหายวูบในตู้เหลือเพียงเสื้อผ้าของตน รีบลงไปหามารดาทันที
โทโมะ : แม่ครับน้องไปไหน
แม่โทโมะ : แม่ไม่รู้แต่น้องฝากบอกว่าเดี๋ยวจะมาเซนใบหย่าให้ เกิดอะไรขึ้นตาโมะ
รู้ว่าหญิงสาวไปไหนแต่ไม่ยอมบอกปล่อยให้เจ็บซะบ้าง
โทโมะ : ผมไม่รู้...
แม่โทโมะ : โทโมะ...ลูกรู้ไหมที่น้องน้อยใจบ่อยๆเป็นเพราะน้องแคร์เรามาก และรู้ไหมผู้หญิงที่แคร์ผู้ชายคนไห
นมากๆแสดงว่าเธอรักผู้ชายคนนั้น ที่น้องเอาแต่ประชดก็เพราะน้องอยากให้ลูกสนใจบ้าง แต่ลูกก็ไม่เข้าใจทิ้งให้
เค้าอยู่คนเดียว น้องไม่มีใครมีแค่ลูกแต่พอลูกไม่สนใจก็ยิ่งน้อยใจไปกันใหญ่...แม่ไม่ได้บอกว่าลูกผิดแต่อยากให้
ลูกรู้ไว้ลูกจะรักหรือไม่รักน้องเค้าแม่ก็ไม่รู้เพราะมันเป็นเรื่องของคนสองคนแต่ที่แน่ๆแม่เป็นผู้หญิงด้วยกันดูกันออก
ว่าน้องรักลูกมาก
ชายหนุ่มถึงกับคอตกเดินกลับขึ้นห้องไปทำไมเค้าจะไม่รักตอนนี้ยิ่งรักหมดใจรักอย่างไม่เคยรักใครมาก่อนเสียด้วย
โทรหาหญิงสาวหลายรอบแต่ก็ไม่ติด ล้มตัวนอนลงบนเตียงจนหลับไป...
จากกันแค่วันเดียวเหมือนว่าเป็นปีเวลาที่ผ่านไปมันทรมานอย่างบอกไม่ถูก
กลางดึกควานหาร่างบางก็เจอแต่ความว่างเปล่า...
ตื่นเช้ามามองไปที่ตู้เสื้อผ้าก็ไม่มีหญิงสาวค่อยยืนจัดชุดให้ใส่ไปทำงาน...
ลงมาที่โต๊ะอาหารก็ไม่รู้จะทานอะไรได้แต่คิดถึงคนที่เคยทำให้ทานอยู่เป็นประจำ…
ชิวิตแต่ละวันเต็มไปด้วยความเงียบเหงารู้ตัวว่ารักหญิงสาวเข้ามากๆก็ตอนนี้มองไปมุมไหนก็นึกถึงแต่วันเก่าๆ จะ
ตามหาก็ไม่รู้จะเริ่มตรงไหน
+
+
+
ไร่องุ่นMufer
แก้ว : งั้นวันนี้ปิดประชุมเท่านี้นะคะ แก้วต้องขอบคุณทุกคนมากที่มาชี้แจงให้แก้วได้ทราบอะไรหลายๆอย่างแก้ว
ยังไม่เก่งเรื่องการบริหารยังไงก็ฝากตัวด้วยนะคะ ขอบคุณอีกครั้งที่ทุกคนยังภัคดีต่อคุณพ่อ
น้ามิ่ง : ไม่เป็นไรครับคุณหนูพวกเราจะช่วยกันทำให้ไร่นี้กลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง
คำพูดให้กำลังใจจากหัวหน้าคนงานทำให้หญิงสาวรู้สึกมีกำลังใจมากขึ้นหลายเท่า หญิงสาวขึ้นมาอยู่ที่ไร่นี้หลาย
วันแล้วเดินดูทุกแผนกจนวันนี้เรียกประชุมทุกฝ่ายเกี่ยวกับการส่งออกขององุ่น...ตอนนี้ทุกคนเริ่มแยกย้ายออกไป
ทำงานกันแล้วเธอเดินตามลงไปในไร่ส่วที่อยู่หน้าบ้านพัก ที่นี้อาการหนาวตลอดปีขนาดว่าเธอใส่เสื้อผ้าหนาๆแล้ว
ยังรู้สึกเย็นๆอยู่เลย เดินไปช่วยคนงานตัดองุ่น
คนงาน : คุณหนูไม่ต้องหรอกคะ
แก้ว : ไม่เป็นไรคะแก้วอยากช่วย
ใช้กรรไกรตักองุ่นพวงสวยช่วยคนงานต่อไปเรื่อยๆ
แก้ว : โอ๊ยย...
รู้สึกหน้ามืดขึ้นมากระทันหัน มือที่จับกรรไกรอยู่ถึงกับหมดแรงไปดื้อๆ
คนงาน : คุณหนูคะ เป็นอะไรรึเปล่าคะ
รีบเข้ามาดูอาการ
แก้ว : ไม่เป็นไรคะแค่หน้ามืดนิดหน่อย
โบกมือเป็นสัญญาณว่าเธอไม่เป็นอะไร
ฟลึบ~
คนงาน : คุณหนู!
ร่างบางทรุดลงไปกองกับพื้นหญ้า คนงานรีบเข้ามาพยุ่งขึ้น
คนงาน : เฮ้ยๆๆใครก็ได้ไปตามน้ามิ่งมาทีคุณหนูเป็นอะไรไม่รู้
คนงานที่อยู่แถวนั้นรีบกรูกันเข้าช่วยพยุงหญิงสาวขึ้นไปบนบ้าน
+
+
+
ป๊อปปี้ : โทโมะ
เรียกน้องชายที่นั่งเหมออยู่ในห้องทำงาน
ปัง!!
โทโมะ : พี่มีอะไรเหรอ
ทุบโต๊ะดังๆเพื่อเรียกสติน้องชาย
ป๊อปปี้ : ทำไมไม่เอาเวลานั่งเศร้าไปตามเค้า
โทโมะ : พี่จะให้ผมไปตามที่ไหนผมไม่รู้อะไรเลยไม่รู้จะเริ่มยังไง
ป๊อปปี้ : ก็แกมามัวแต่นั่งจะไปรู้อะไรหล่ะ
โทโมะ : แล้วผมต้องทำยังไง
ป๊อปปี้ : ไอ้น้องชายนี้มันชีวิตจริงนะไม่ใช่นิยายแกจะมานั่งรอให้นางเอกกลับมาหาหน่ะมันไม่มีหรอก รู้ว่าเมีย
งอนก็ต้องง้อนเค้าซิ รึว่าไอ้ที่ไม่ทำอะไรเนี่ยไม่ได้รักเมียเลย
โทโมะ : ผมรักเธอจนจะคลั่งตายแล้ว คิดถึงเธอใจแทบขาดแล้วด้วย พี่พอจะรู้ไหมว่าผมจะไปตามแก้วได้ที่ไหน
ถามราวกับว่าพี่ชายจะสนิทกับคนรักมากอย่างงั้นแหละ หญิงสาวเป็นภรรยาเค้านะไม่ใช่ภรรยาพี่ชาย
ป๊อปปี้ : เมื่อวานพี่คุยกับฟางมาเธอบอกว่าคุณแก้วอาจจะไปที่ไร่องุ่นเธอเพราะก่อนหน้านี้ประมาณเดือนนึ่งได้
เธอไปฝากร้านไว้กับฟาง
โทโมะ : ไร่องุ่น ขอบคุณครับพี่
ชายหนุ่มยิ้มออกมาในรอบหลายวันขอบคุณพี่ชายอย่างสุดซึ้งหุนหันวิ่งออกไปจากห้องทำงาน
+
+
+
แม่โทโมะ : ไปไหนตาโมะ
เห็นลูกชายเข้ามาเก็บเสื้อผ้าอย่างรวดเร็วแล้วรีบออกไปจึงเรียกถาม
โทโมะ : ไปหาตัวเล็กครับ
แม่โทโมะ : แล้วรู้เหรอว่าน้องอยู่ไหน
โทโมะ : ไม่ทราบครับแต่หน้าจะอยู่ไร่เห็นคุณฟางเธอบอก
แม่โทโมะ : น้องก็อยู่ที่นั้นแหละ
โทโมะ : คุณแม่รู้
แม่โทโมะ : ใช่แม่รู้
โทโมะ : ทำไมแม่ไม่บอกผม
แม่โทโมะ : ลูกจะได้รู้ไงว่ารักน้องมากแค่ไหน หรือว่าไม่รักเลย
โทโมะ : เฮยยย~
ถอนหายใจยาวๆประมาณว่าแม่ไม่รู้เหรอว่าเค้าหน่ะรักหญิงสาวมากแค่ไหน นี่ถ้าบอกตั้งแต่ทีแรกคงไม่ต้องมานั่ง
ทนคิดถึงคนตัวเล็กให้ปวดใจอยู่ตั้งหลายวัน ไม่รำไรรีบลาแม่แล้ววิ่งลงมาที่รถแล้วขับออกไปอย่างรวดเร็วระยะทาง
จากกรุงเทพไปเชียงใหม่ไม่ใช่น้อยๆชายหนุ่มยังคงขับรถไปด้วยความเร็ว
+
+
+
แก้ว : อือ~
รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอยู่บนเตียง
น้ามิ่ง : คุณหนูเป็นไงบ้างครับ
แก้ว : ดีขึ้นแล้วคะแก้วไม่ได้เป็นอะไรมากไม่เห็ฯต้องมานั่งเฝ้ากันเยอะเลยแก้วทำทุกคนเสียเวลาแย่เลย
มองไปยังคนงานนับ10ยืนออกันอยู่หน้าห้องมองมาที่หญิงสาวด้วยสายตาเป็นห่วงเธอแอบมองไปข้างนอกปรากฎ
ว่ามีคนงานอยู่อีกมาต่างพูดกันว่าคุณหนูฟื้นแล้ว
น้ามิ่ง : ทุกคนเป็นห่วงคุณหนู น้าไปตามหมอให้นะครับพอดีหมอพึ่งออกไปทานน้ำข้างนอก
แก้ว : แก้วแค่หน้ามืดไม่เห็นต้องเรียกหมอเลยนิคะ
น้ามิ่ง : ตรวจบางก็ดีนะน้าว่า หมอบอกว่ามีเรื่องอยากคุยกับคุณหนู
แก้ว : คุยกับแก้ว
หมอ : อ้าวคุณแก้วฟื้นแล้วเหรอคะ
คุณหมอผู้หญิงหน้าตาน่ารักเดินตรงเข้ามาทักหญิงสาว
แก้ว : คะ
หมอ : พอดีหมอมีเรื่องอยากบอกคุณแก้วก็เลยรอบอกด้วยตัวเองจะดีกว่าเผื่อคุณแก้วมีอะไรอยากจะปรึกษา
หมอ
แก้ว : คะ
ครืน ครืน~
เสียงมือถือของหมอสาวดัวขึ้นมาแทรกระหว่างการคุย
หมอ : ขอตัวสักครู่นะคะ
เดินออกไปนิดนึ่งแต่หญิงสาวก็ยังพอได้ยินบทสนทนานั้น
หมอ : คะพี่จองเบ
(...................)
หมอ : อีกไม่กี่เดือนก็กลับแล้วคะแค่มาแทนเพื่อนแป๊ปเดียวเอง
(...................)
หมอ : แหมพี่จองเบ หนมจีนก็รักษาคำพูดนะคะรับรองว่าไปหาคุณแม่พี่แน่นอนคะ
(...................)
หมอ : น่าสงสารจังคะว่าแต่น้องโมะเป็นไงบ้างคะเศร้าน่าดูเลยพี่จองเบนั้นแหละไปพูดแบบนั้นได้ยังไง
(.....................)
หมอ : พอแล้วคะเอาไว้แก้ตัวที่หลังตอนนี้หนมจีนต้องไปดูคนไข้แล้ว เท่านี้นะคะ
วางสายแล้วเดินกลับมา
แก้ว : คุณหมอชื่อขนมจีนเหรอคะ
หมอ : คะ
แก้ว : แก้วขอโทษนะคะที่เสียมารยาทฟัง คุณหมอรู้จักพี่จองเบแล้วก็พี่โทโมะด้วยเหรอคะ
หญิงสาวตัดสินใจถามออกไปเพราะคิดว่าในประเทศไทยคงมีคนไม่กี่คนที่ชื่อจองเบกับโทโมะหรอก และอีกอย่าง
พี่จองเบเคยเล่าว่ามีแฟนชื่อขนมจีนเธอเลยลองถามดู
หมอ : คะรู้จักคุณแก้วก็รู้จักเหรอคะ
แก้ว : คะแต่ไม่ได้คุนเคยเท่าไหร่แต่ช่างเถอะคะ
หญิงสาวอยากถามใจแทบขาดว่าชายหนุ่มเป็นอย่างไรบ้างเพราะเห็นหมอสาวพูดว่าน่าสงสารชายหนุ่มเค้าเป็นอะไร
รึเปล่านะ...แต่แล้วก็ทำได้แค่คิดเท่านั้น
หมอ : คือหมอจะบอกคุณแก้วว่า...
ไม่ใช่หญิงสาวคนเดียวที่ลุ้นอยู่ว่าคุณหมอจะบอกเธอว่าอะไร คนงานที่ยืนอยู่กันก็ต่างอยากรู้เหมือนกันว่าคุณหนู
ของพวกเค้าเป็นอะไร
หมอ : คุณแก้วท้องได้6เดือนกว่าแล้วนะคะ นี่คงจะยังไม่ทราบใช่ไหมคะไม่แปลกหรอกคะท้องสาวก็อย่างนี้
แหละคะท้องเหมือนไม่ท้องเลยบางคน9เดือนก็ยังดูแค่เหมือนคนอ้วนเองคะเค้าเรียกว่าลูกรักไม่อยากให้แม่ท้อง
ลายมากไงคะเลยไม่ถีบมากท้องเลยไม่ใหญ่นัก
แก้ว : ท้องจริงๆเหรอคะ
หมอ : คะท้องจริงท้องตั้ง6เดือนกว่าเหมือนว่า7เดือนแล้วด้วยซ้ำไปยังไงหมอก็แสดงความดีใจกับว่าที่คุณแม่
ด้วยนะคะ อย่าลืมบอกพ่อของเค้านะคะถ้ารู้คงจะดีใจไม่น้อย
แก้ว : คะไว้แก้วจะบอกเค้า...
หญิงสาวตกใจระคนดีใจไปด้วยนึกไม่ถึงว่าลูกจะมาอยู่กับเธอถึง6เดือนแล้วทั้งๆที่เธอไม่รู้อะไรเลย ถ้าเค้ารู้หล่ะ
เข้าจะดีใจแบบที่เธอกำลังดีใจอยู่ไหม เข้าจะพลักไสเธอกับลูกรึเปล่าคิดแล้วก็ได้แต่น้อยใจ... นี่หล่ะมั๋งสาเหตุที่
ทำให้เธอน้อยใจคนบางคนบ่อยๆและช่วงหลังๆยังมีอาการควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ค่อยได้จนเค้าหาว่าเธอใจร้อน
คนงานที่รู้ข่าวต่างยิ้มดีใจบอกกันต่อๆไปแต่ความสงสัยที่ตามมาก็คือ แล้วใครเป็นพ่อของเด็กกันหล่ะเพราะตั้งแต่
มาที่นี้คุณหนูของพวกเธอก็มาเพียงลำพังเท่านั้น
หมอ : ช่วงนี้คุณแก้วต้องดูแลสุขภาพหน่อยนะคะเจ้าตัวเล็กจะได้แข็งแรง
จับมือเรียวให้สัมผัสไปที่หน้าท้องแล้วกดเบาพอรับรู้ถึงได้ถึงเจ้าตัวน้อยที่กำลังดินเบาๆทักทายอยู่
แก้ว : ขอบคุณมากนะคะหมอ
………………………………………………………………………………………
กรี๊ด!!มีใครดีใจเหมือนไรเตอร์ไหมในที่สุดม๊าก็ท้องตั้ง7เดือนแล้วด้วยแหมท้องสาวนี้มันดูแทบไม่ออกจริงๆ
เนอะ555
ฮ่าฮ่าถ้ายังมีคนสนใจอยู่บ้างอยากอ่านต่อก็เม้นๆโหวดๆให้ไรเตอร์หน่อยนะคะ
แล้วจะมาอัพอีกนะคะ
เม้นๆโหวดๆค๊าาาาา
ทักเมื่อเย็นนี้เห็นลูกชายกลับบ้านไวเพราะหายไปเป็นอาทิตย์
โทโมะ : ผมติดงานครับแม่เลยนอนที่บริษิท
แม่โทโมะ : บอกหนูแก้วบ้างรึเปล่า
เมื่อได้ยินชื่อคนที่คิดถึงก็นิ่งไป
แม่โทโมะ : รู้ตัวไหมว่าทำอะไรลงไปเมียนั่งเป็นห่วงอยู่บ้านตั้งหลายวันร้องไห้แล้วร้องไห้อีก เราก็เหลือเกินไม่
คิดถึงเมียบ้างรึไง
ทำไมเค้าจะไม่คิดถึงหล่ะ เค้าเห็นหญิงสาวโกรธเลยให้อารมณ์เย็นๆก่อนแล้วค่อยกลับมาอธิบายให้เข้าใจ
โทโมะ : งั้นผมไปหาน้องนะครับ
แทนที่ผู้เป็นแม่จะบอกว่าหญิงสาวไม่ได้อยู่แล้วกลับเงียบไปคิดว่าปล่อยให้รู้เองจะดีกว่า
+
+
+
โทโมะ : ตัวเล็ก...
มองไปทั่วห้องก็ไม่เจอ
โทโมะ : ตัวเล็ก...
เดินจนทั่วห้องก็ยังไม่พบเปิดดูในตู้เสื้อผ้าแล้วใจหายวูบในตู้เหลือเพียงเสื้อผ้าของตน รีบลงไปหามารดาทันที
โทโมะ : แม่ครับน้องไปไหน
แม่โทโมะ : แม่ไม่รู้แต่น้องฝากบอกว่าเดี๋ยวจะมาเซนใบหย่าให้ เกิดอะไรขึ้นตาโมะ
รู้ว่าหญิงสาวไปไหนแต่ไม่ยอมบอกปล่อยให้เจ็บซะบ้าง
โทโมะ : ผมไม่รู้...
แม่โทโมะ : โทโมะ...ลูกรู้ไหมที่น้องน้อยใจบ่อยๆเป็นเพราะน้องแคร์เรามาก และรู้ไหมผู้หญิงที่แคร์ผู้ชายคนไห
นมากๆแสดงว่าเธอรักผู้ชายคนนั้น ที่น้องเอาแต่ประชดก็เพราะน้องอยากให้ลูกสนใจบ้าง แต่ลูกก็ไม่เข้าใจทิ้งให้
เค้าอยู่คนเดียว น้องไม่มีใครมีแค่ลูกแต่พอลูกไม่สนใจก็ยิ่งน้อยใจไปกันใหญ่...แม่ไม่ได้บอกว่าลูกผิดแต่อยากให้
ลูกรู้ไว้ลูกจะรักหรือไม่รักน้องเค้าแม่ก็ไม่รู้เพราะมันเป็นเรื่องของคนสองคนแต่ที่แน่ๆแม่เป็นผู้หญิงด้วยกันดูกันออก
ว่าน้องรักลูกมาก
ชายหนุ่มถึงกับคอตกเดินกลับขึ้นห้องไปทำไมเค้าจะไม่รักตอนนี้ยิ่งรักหมดใจรักอย่างไม่เคยรักใครมาก่อนเสียด้วย
โทรหาหญิงสาวหลายรอบแต่ก็ไม่ติด ล้มตัวนอนลงบนเตียงจนหลับไป...
จากกันแค่วันเดียวเหมือนว่าเป็นปีเวลาที่ผ่านไปมันทรมานอย่างบอกไม่ถูก
กลางดึกควานหาร่างบางก็เจอแต่ความว่างเปล่า...
ตื่นเช้ามามองไปที่ตู้เสื้อผ้าก็ไม่มีหญิงสาวค่อยยืนจัดชุดให้ใส่ไปทำงาน...
ลงมาที่โต๊ะอาหารก็ไม่รู้จะทานอะไรได้แต่คิดถึงคนที่เคยทำให้ทานอยู่เป็นประจำ…
ชิวิตแต่ละวันเต็มไปด้วยความเงียบเหงารู้ตัวว่ารักหญิงสาวเข้ามากๆก็ตอนนี้มองไปมุมไหนก็นึกถึงแต่วันเก่าๆ จะ
ตามหาก็ไม่รู้จะเริ่มตรงไหน
+
+
+
ไร่องุ่นMufer
แก้ว : งั้นวันนี้ปิดประชุมเท่านี้นะคะ แก้วต้องขอบคุณทุกคนมากที่มาชี้แจงให้แก้วได้ทราบอะไรหลายๆอย่างแก้ว
ยังไม่เก่งเรื่องการบริหารยังไงก็ฝากตัวด้วยนะคะ ขอบคุณอีกครั้งที่ทุกคนยังภัคดีต่อคุณพ่อ
น้ามิ่ง : ไม่เป็นไรครับคุณหนูพวกเราจะช่วยกันทำให้ไร่นี้กลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง
คำพูดให้กำลังใจจากหัวหน้าคนงานทำให้หญิงสาวรู้สึกมีกำลังใจมากขึ้นหลายเท่า หญิงสาวขึ้นมาอยู่ที่ไร่นี้หลาย
วันแล้วเดินดูทุกแผนกจนวันนี้เรียกประชุมทุกฝ่ายเกี่ยวกับการส่งออกขององุ่น...ตอนนี้ทุกคนเริ่มแยกย้ายออกไป
ทำงานกันแล้วเธอเดินตามลงไปในไร่ส่วที่อยู่หน้าบ้านพัก ที่นี้อาการหนาวตลอดปีขนาดว่าเธอใส่เสื้อผ้าหนาๆแล้ว
ยังรู้สึกเย็นๆอยู่เลย เดินไปช่วยคนงานตัดองุ่น
คนงาน : คุณหนูไม่ต้องหรอกคะ
แก้ว : ไม่เป็นไรคะแก้วอยากช่วย
ใช้กรรไกรตักองุ่นพวงสวยช่วยคนงานต่อไปเรื่อยๆ
แก้ว : โอ๊ยย...
รู้สึกหน้ามืดขึ้นมากระทันหัน มือที่จับกรรไกรอยู่ถึงกับหมดแรงไปดื้อๆ
คนงาน : คุณหนูคะ เป็นอะไรรึเปล่าคะ
รีบเข้ามาดูอาการ
แก้ว : ไม่เป็นไรคะแค่หน้ามืดนิดหน่อย
โบกมือเป็นสัญญาณว่าเธอไม่เป็นอะไร
ฟลึบ~
คนงาน : คุณหนู!
ร่างบางทรุดลงไปกองกับพื้นหญ้า คนงานรีบเข้ามาพยุ่งขึ้น
คนงาน : เฮ้ยๆๆใครก็ได้ไปตามน้ามิ่งมาทีคุณหนูเป็นอะไรไม่รู้
คนงานที่อยู่แถวนั้นรีบกรูกันเข้าช่วยพยุงหญิงสาวขึ้นไปบนบ้าน
+
+
+
ป๊อปปี้ : โทโมะ
เรียกน้องชายที่นั่งเหมออยู่ในห้องทำงาน
ปัง!!
โทโมะ : พี่มีอะไรเหรอ
ทุบโต๊ะดังๆเพื่อเรียกสติน้องชาย
ป๊อปปี้ : ทำไมไม่เอาเวลานั่งเศร้าไปตามเค้า
โทโมะ : พี่จะให้ผมไปตามที่ไหนผมไม่รู้อะไรเลยไม่รู้จะเริ่มยังไง
ป๊อปปี้ : ก็แกมามัวแต่นั่งจะไปรู้อะไรหล่ะ
โทโมะ : แล้วผมต้องทำยังไง
ป๊อปปี้ : ไอ้น้องชายนี้มันชีวิตจริงนะไม่ใช่นิยายแกจะมานั่งรอให้นางเอกกลับมาหาหน่ะมันไม่มีหรอก รู้ว่าเมีย
งอนก็ต้องง้อนเค้าซิ รึว่าไอ้ที่ไม่ทำอะไรเนี่ยไม่ได้รักเมียเลย
โทโมะ : ผมรักเธอจนจะคลั่งตายแล้ว คิดถึงเธอใจแทบขาดแล้วด้วย พี่พอจะรู้ไหมว่าผมจะไปตามแก้วได้ที่ไหน
ถามราวกับว่าพี่ชายจะสนิทกับคนรักมากอย่างงั้นแหละ หญิงสาวเป็นภรรยาเค้านะไม่ใช่ภรรยาพี่ชาย
ป๊อปปี้ : เมื่อวานพี่คุยกับฟางมาเธอบอกว่าคุณแก้วอาจจะไปที่ไร่องุ่นเธอเพราะก่อนหน้านี้ประมาณเดือนนึ่งได้
เธอไปฝากร้านไว้กับฟาง
โทโมะ : ไร่องุ่น ขอบคุณครับพี่
ชายหนุ่มยิ้มออกมาในรอบหลายวันขอบคุณพี่ชายอย่างสุดซึ้งหุนหันวิ่งออกไปจากห้องทำงาน
+
+
+
แม่โทโมะ : ไปไหนตาโมะ
เห็นลูกชายเข้ามาเก็บเสื้อผ้าอย่างรวดเร็วแล้วรีบออกไปจึงเรียกถาม
โทโมะ : ไปหาตัวเล็กครับ
แม่โทโมะ : แล้วรู้เหรอว่าน้องอยู่ไหน
โทโมะ : ไม่ทราบครับแต่หน้าจะอยู่ไร่เห็นคุณฟางเธอบอก
แม่โทโมะ : น้องก็อยู่ที่นั้นแหละ
โทโมะ : คุณแม่รู้
แม่โทโมะ : ใช่แม่รู้
โทโมะ : ทำไมแม่ไม่บอกผม
แม่โทโมะ : ลูกจะได้รู้ไงว่ารักน้องมากแค่ไหน หรือว่าไม่รักเลย
โทโมะ : เฮยยย~
ถอนหายใจยาวๆประมาณว่าแม่ไม่รู้เหรอว่าเค้าหน่ะรักหญิงสาวมากแค่ไหน นี่ถ้าบอกตั้งแต่ทีแรกคงไม่ต้องมานั่ง
ทนคิดถึงคนตัวเล็กให้ปวดใจอยู่ตั้งหลายวัน ไม่รำไรรีบลาแม่แล้ววิ่งลงมาที่รถแล้วขับออกไปอย่างรวดเร็วระยะทาง
จากกรุงเทพไปเชียงใหม่ไม่ใช่น้อยๆชายหนุ่มยังคงขับรถไปด้วยความเร็ว
+
+
+
แก้ว : อือ~
รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอยู่บนเตียง
น้ามิ่ง : คุณหนูเป็นไงบ้างครับ
แก้ว : ดีขึ้นแล้วคะแก้วไม่ได้เป็นอะไรมากไม่เห็ฯต้องมานั่งเฝ้ากันเยอะเลยแก้วทำทุกคนเสียเวลาแย่เลย
มองไปยังคนงานนับ10ยืนออกันอยู่หน้าห้องมองมาที่หญิงสาวด้วยสายตาเป็นห่วงเธอแอบมองไปข้างนอกปรากฎ
ว่ามีคนงานอยู่อีกมาต่างพูดกันว่าคุณหนูฟื้นแล้ว
น้ามิ่ง : ทุกคนเป็นห่วงคุณหนู น้าไปตามหมอให้นะครับพอดีหมอพึ่งออกไปทานน้ำข้างนอก
แก้ว : แก้วแค่หน้ามืดไม่เห็นต้องเรียกหมอเลยนิคะ
น้ามิ่ง : ตรวจบางก็ดีนะน้าว่า หมอบอกว่ามีเรื่องอยากคุยกับคุณหนู
แก้ว : คุยกับแก้ว
หมอ : อ้าวคุณแก้วฟื้นแล้วเหรอคะ
คุณหมอผู้หญิงหน้าตาน่ารักเดินตรงเข้ามาทักหญิงสาว
แก้ว : คะ
หมอ : พอดีหมอมีเรื่องอยากบอกคุณแก้วก็เลยรอบอกด้วยตัวเองจะดีกว่าเผื่อคุณแก้วมีอะไรอยากจะปรึกษา
หมอ
แก้ว : คะ
ครืน ครืน~
เสียงมือถือของหมอสาวดัวขึ้นมาแทรกระหว่างการคุย
หมอ : ขอตัวสักครู่นะคะ
เดินออกไปนิดนึ่งแต่หญิงสาวก็ยังพอได้ยินบทสนทนานั้น
หมอ : คะพี่จองเบ
(...................)
หมอ : อีกไม่กี่เดือนก็กลับแล้วคะแค่มาแทนเพื่อนแป๊ปเดียวเอง
(...................)
หมอ : แหมพี่จองเบ หนมจีนก็รักษาคำพูดนะคะรับรองว่าไปหาคุณแม่พี่แน่นอนคะ
(...................)
หมอ : น่าสงสารจังคะว่าแต่น้องโมะเป็นไงบ้างคะเศร้าน่าดูเลยพี่จองเบนั้นแหละไปพูดแบบนั้นได้ยังไง
(.....................)
หมอ : พอแล้วคะเอาไว้แก้ตัวที่หลังตอนนี้หนมจีนต้องไปดูคนไข้แล้ว เท่านี้นะคะ
วางสายแล้วเดินกลับมา
แก้ว : คุณหมอชื่อขนมจีนเหรอคะ
หมอ : คะ
แก้ว : แก้วขอโทษนะคะที่เสียมารยาทฟัง คุณหมอรู้จักพี่จองเบแล้วก็พี่โทโมะด้วยเหรอคะ
หญิงสาวตัดสินใจถามออกไปเพราะคิดว่าในประเทศไทยคงมีคนไม่กี่คนที่ชื่อจองเบกับโทโมะหรอก และอีกอย่าง
พี่จองเบเคยเล่าว่ามีแฟนชื่อขนมจีนเธอเลยลองถามดู
หมอ : คะรู้จักคุณแก้วก็รู้จักเหรอคะ
แก้ว : คะแต่ไม่ได้คุนเคยเท่าไหร่แต่ช่างเถอะคะ
หญิงสาวอยากถามใจแทบขาดว่าชายหนุ่มเป็นอย่างไรบ้างเพราะเห็นหมอสาวพูดว่าน่าสงสารชายหนุ่มเค้าเป็นอะไร
รึเปล่านะ...แต่แล้วก็ทำได้แค่คิดเท่านั้น
หมอ : คือหมอจะบอกคุณแก้วว่า...
ไม่ใช่หญิงสาวคนเดียวที่ลุ้นอยู่ว่าคุณหมอจะบอกเธอว่าอะไร คนงานที่ยืนอยู่กันก็ต่างอยากรู้เหมือนกันว่าคุณหนู
ของพวกเค้าเป็นอะไร
หมอ : คุณแก้วท้องได้6เดือนกว่าแล้วนะคะ นี่คงจะยังไม่ทราบใช่ไหมคะไม่แปลกหรอกคะท้องสาวก็อย่างนี้
แหละคะท้องเหมือนไม่ท้องเลยบางคน9เดือนก็ยังดูแค่เหมือนคนอ้วนเองคะเค้าเรียกว่าลูกรักไม่อยากให้แม่ท้อง
ลายมากไงคะเลยไม่ถีบมากท้องเลยไม่ใหญ่นัก
แก้ว : ท้องจริงๆเหรอคะ
หมอ : คะท้องจริงท้องตั้ง6เดือนกว่าเหมือนว่า7เดือนแล้วด้วยซ้ำไปยังไงหมอก็แสดงความดีใจกับว่าที่คุณแม่
ด้วยนะคะ อย่าลืมบอกพ่อของเค้านะคะถ้ารู้คงจะดีใจไม่น้อย
แก้ว : คะไว้แก้วจะบอกเค้า...
หญิงสาวตกใจระคนดีใจไปด้วยนึกไม่ถึงว่าลูกจะมาอยู่กับเธอถึง6เดือนแล้วทั้งๆที่เธอไม่รู้อะไรเลย ถ้าเค้ารู้หล่ะ
เข้าจะดีใจแบบที่เธอกำลังดีใจอยู่ไหม เข้าจะพลักไสเธอกับลูกรึเปล่าคิดแล้วก็ได้แต่น้อยใจ... นี่หล่ะมั๋งสาเหตุที่
ทำให้เธอน้อยใจคนบางคนบ่อยๆและช่วงหลังๆยังมีอาการควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ค่อยได้จนเค้าหาว่าเธอใจร้อน
คนงานที่รู้ข่าวต่างยิ้มดีใจบอกกันต่อๆไปแต่ความสงสัยที่ตามมาก็คือ แล้วใครเป็นพ่อของเด็กกันหล่ะเพราะตั้งแต่
มาที่นี้คุณหนูของพวกเธอก็มาเพียงลำพังเท่านั้น
หมอ : ช่วงนี้คุณแก้วต้องดูแลสุขภาพหน่อยนะคะเจ้าตัวเล็กจะได้แข็งแรง
จับมือเรียวให้สัมผัสไปที่หน้าท้องแล้วกดเบาพอรับรู้ถึงได้ถึงเจ้าตัวน้อยที่กำลังดินเบาๆทักทายอยู่
แก้ว : ขอบคุณมากนะคะหมอ
………………………………………………………………………………………
กรี๊ด!!มีใครดีใจเหมือนไรเตอร์ไหมในที่สุดม๊าก็ท้องตั้ง7เดือนแล้วด้วยแหมท้องสาวนี้มันดูแทบไม่ออกจริงๆ
เนอะ555
ฮ่าฮ่าถ้ายังมีคนสนใจอยู่บ้างอยากอ่านต่อก็เม้นๆโหวดๆให้ไรเตอร์หน่อยนะคะ
แล้วจะมาอัพอีกนะคะ
เม้นๆโหวดๆค๊าาาาา
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.3 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ