That not VIRGIN มีสิทธิ์อะไร? หัวใจนั่นของผมนะครับ
9.2
1)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความChapter 1
“เสร็จหน้าที่...ของฉันแล้วใช่มั๊ย?” ร่างบางเอ่ยถามด้วยเสียงเรียบนิ่ง ไร้อาภรณ์ปกปิดร่างกายอันบอบบางที่นอนอยู่บนเตียงกว้าง คู่สนทนาที่กำลังจัดแจงเสื้อผ้าที่ก่อนกระจักดกระจายอยู่บนพื้นห้องหันมามองใบหน้าเรียบเฉยไร้อารมณ์ของคู่นอนที่เพิ่งร่วมกิจกรรมความใคร่กันเมื่อครู่ ก่อนจะยกยิ้มมุมปาก แล้วเดินตรงมาที่ร่างบางบนเตียง
ร่างใหญ่โตนั้นยื่นหน้าเข้าไปหวังที่จะได้ลิ้มลองความหวานจากริมฝีปากสวยนั้นอีกครั้ง แต่ใบหน้าหวานที่ไร้อารมณ์กลับเบือนหนี รอยยิ้มชั่วร้ายปรากฏขึ้นที่ใบหน้านั้นอีกครั้ง ก่อนที่มือหยาบกร้านจะยกขึ้นบีบปลายคางเล็กอย่างแรง
“เหอะ! หยิ่งนักนะ!! เดี๋ยวเราต้องได้นอนด้วยกันใหม่แน่ ไม่ต้องกลัวหรอกแก้ว^^” ...พูดแค่นั้น ก่อนจะสะบัดปลายคางนั้นอย่างไม่ทะนุถนอม เขาลุกไปหยิบสูทที่พาดอยู่ปลายเตียง แล้วเดินออกจากห้องไปทันที ร่างบางนอนแผ่มองเพดานสีขาวซีดอย่างเหม่อลอย ความเจ็บปวดนี้ ทำให้แก้วอยากจะร้องไห้เหลือเกิน แต่น้ำตามันกลับไม่มี!!
รอยยิ้ม...แก้วคนนี้ไม่เคยรู้จัก ไม่เคยทำ และไม่เคยได้รับรอยยิ้มที่จริงใจจากใคร นอกซะจากรอยยิ้มที่หื่นกามและเหยียดหยาม มันยิ่งทำให้เธอดูไร้ค่า ผู้คนพวกนั้นคงไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่าเงินที่ได้จากการขายเรือนร่างของเธอไปวันๆ
‘เตรียมตัวไปอาบน้ำ อีก 1 ชั่วโมงลงไปรับแขกด้านล่าง’
เสียงจากลำโพงที่ติดอยู่บนเพดานดังขึ้น แก้วถอนใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะยันกายลุกขึ้นนั่งด้วยความทุลักทุเล ความเจ็บปวดจากช่วงล่างแล่นแปล๊บมาเป็นระยะ ร่างบางพยุงร่างกายที่ปราศจากอาภรณ์จนไปถึงห้องน้ำ กระจกบานใหญ่สะท้อนร่างกายบอบบางที่เต็มไปด้วยรอยรักเต็มไปทั่วร่าง
มือบางกำลังเอื้อมไปเปิดก๊อกน้ำที่เพื่อล้างหน้าล้างตา แต่ดวงตากลมเหลือบไปเห็นรอยแผลเป็นที่ข้อมือ รอยแผลนี้เกิดจากมีด มีดที่เธอพยายามจะฆ่าตัวตายเมื่อ 3 เดือนก่อน แต่คนพวกนั้นมาเห็นก่อน จึงนำส่งโรงพยาบาลได้ทัน ในช่วงนั้นมีนางพยาบาลมาคอยดูแลรักษาเธอ ก็ทำให้เธอรู้สึกว่าตัวเองมีค่าขึ้นบ้าง พอเริ่มหายดีแล้ว เธอก็ต้องกลับลงมาอยู่ในขุมนรกขุมที่น่ากลัวกว่าเดิม เพราะหลังจากรักษาตัวเสร็จ คนพวกนั้นก็จับเธอล่ามโซ่แล้วทำร้ายทุบตีจนเนื้อตัวช้ำไปหมด แล้วจับขังไว้ในห้องแคบมืดและอับ
ต่างก็รุมทำร้ายจิตใจของเธอจนมันแหลกเหลวไปหมด ทำให้เธอกลายเป็นคนที่เย็นชา ใบหน้าที่แสดงได้เพียงหน้าเดียว เหมือนตุ๊กตามีชีวิต ตุ๊กตาที่ใครๆคิดจะทำอะไรกับเธอก็ได้ อยากจะทุบตี อยากจะระบายความใคร่ หรืออะไรต่างๆ
หลังชำระล้างร่างกายเสร็จ ร่างบางก็เดินออกมา กับเสื้อยืดตัวเก่าๆและกางเกงขาสั้นธรรมดาๆ แก้วล้มตัวลงนอนกับเตียงกว้าง ก่อนจะผล็อยหลับไปด้วยความอ่อนล้าทั้งร่างกายและจิตใจ...
.
.
.
.
ปัง ปัง! ปัง!!
“พี่เขื่อน!! เปิดประตูให้แก้วเถอะนะ ฮือ..ฮึก! แก้วกลัว..พี่เขื่อน!!!!” มือเล็กๆทุบประตูบานใหญ่อย่าไม่สนใจความเจ็บ เธอรู้...รู้ว่าคนที่เธอรักอยู่หลังประตูบานนั้น
“...พี่ขอโทษ” เสียงแผ่วเบาหลุดออกมาจากปากของผู้ชายที่ชื่อเขื่อน เขานั่งพิงบานประตูอย่างรู้สึกผิดที่สุดในชีวิต เขาเลี้ยงแก้วตั้งแต่เขาอายุ 14 ปี ตอนนี้เขากลับส่งน้องที่เลี้ยงมากับมือไปลงนรก
“พี่เขื่อน ฮือ...ช่วยแก้วด้วย! ฮึกๆ ยะ..อย่า.. โอ๊ย!!”
“แก้ว!!!!”
พลั่ก!
หมัดหนักๆปะทะเข้าที่หน้าเขื่อนเต็มๆ เพราะเมื่อครู่เขากำลังเอื้อมมือจะไปบิด ร่างโปร่งล้มลงไปกองกับพื้น พร้อมเลือดที่ไหลออกมาจากมุมปาก เขายกมือขึ้นปาดมันออกอย่างลวกๆ
“แกไม่อยากได้เงินไปรักษาแม่ของแกแล้วหรือไง!?”
“...........”
“ถ้าอยากได้...ก็อย่าแส่!! เพราะลูกค้ารายนี้ เงินสูงว้อย! ...ยังจะมองหน้าอยู่อีก งานไม่มีทำรึไง!!? จะไปไหนก็ไปไป๊..!”
พี่ขอโทษจริงๆแก้ว...พี่ขอโทษ ฮึก!
“ยะ อย่าทำอะไรแก้วเลยนะ กะ..แก้วสัญญาว่าจะเป็นเด็กดี ฮึก! ฮือ...” เมื่อทุบประตูจนหมดแรง มือเล็กๆที่เต็มไปด้วยรอยช้ำก็ยกขึ้นไหว้ปรกๆ แววตานั้นเต็มไปด้วยความหวาดกลัวอยู่เต็มอก ดวงตาเต็มไปด้วยน้ำตาที่ไหลออกมาด้วยความหวาดกลัว และบวมช้ำจากการร้องไห้
“โอ๋ๆ ใช่แล้ว..แก้วหนูเป็นเด็กดี ฉะนั้นอย่าดื้อกับลุงนะรู้มั๊ย?” มือหยาบกร้านยกขึ้นลูบแก้มขาวซีดนั้นอย่างเสแสร้งว่าเอ็นดู รอยยิ้มหื่นปรากฏอยู่บนใบหน้าที่อัปลักษณ์เต็มไปด้วยแผลเป็น ที่เห็นแล้วน่าขยะแขยง
“ฮือ...ไม่เอา ปล่อยแก้วออกไปเถอะนะ ฮึก! ฮือ”
“น่า...อย่าดื้อสิ^^”
“ฮือ...ฮึกๆ ไม่ แก้วอยากไปหาพี่เขื่อน”
“ดื้อนักใช่มั๊ย!!?” มือหยาบกระชากเสื้อยืดตัวบางจนขาดวิ่น บาดผิวกายขาวซีดจนเป็นปื้นสีแดง ลิ้นหนาที่หน้าขยะแขยงแลบออกมาเลียริมฝีปากของตน ก่อนจะก้มไปซุกไซ้ที่ลำคอขาวอย่างหื่นกระหาย
“ยะ หยุดนะ ฮือ... ไม่! ไม่!!”
.
.
.
.
“ไม่! ไม่!! หยุดนะ!!! ไม่เอานะ ฮึก! ฮือ...” มือเล็กปัดป่ายกลางอากาศ ก่อนจะสะดุ้งตื่นขึ้นมา เอาอีกแล้ว...อดีตของเธอ ย้อนกลับมาทำร้ายเธออีกครั้ง ความโหดร้ายในอดีตยังคงตามมาทำร้ายเธอแม้แต่ในฝัน
มือบางยกขึ้นปาดเหงื่อที่เกาะเป็นพราวอยู่ตามไรผม ก่อนจะมองข้อเท้าที่ถูกโซ่ตรวนเส้นโตล่ามเอาไว้ตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ สงสัยคงจะเป็นตอนที่เธอหลับไปและคนพวกนั้นคงเข้ามาล่ามเธอเอาไว้เพื่อป้องกันการหนี ร่างบางลุกนั่งชันเข่าบนเตียงนอนกว้าง ก่อนจะซุกใบหน้าลงกับเข่าเล็กๆ
เสียงตึงตังจากด้านนอกทำให้แก้วต้องเงยหน้าจากเข่าตัวเอง แล้วหันไปมองที่ประตู ไม่นานประตูห้องก็ถูกเปิดออกมา แล้วมีลูกน้องของคนพวกนั้นวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามา
“หนีเร็ว!! ที่นี่มีตำรวจบุกมา!!!”
แล้วไม่ต้องตกใจว่าทำไมคนพวกนั้นถึงกลัวตำรวจ เพราสถานที่นี้คือ...ผับที่เปิดแบบไม่ได้รับอนุญาตผิดกฎหมาย! หรือที่เรียกง่ายๆว่า ผับเถื่อน
------------------------------------------------------------------------
“นี่..แม่หนู เราน่ะชื่ออะไร เห็นนั่งเงียบมาเกือบ 5 ชั่วโมงแล้วนะ ไม่ยอมพูดยอมจาเลยเนี่ย” ตำรวจยศสูงคนหนึ่งเอ่ยถามร่างบางที่นั่งก้มหน้าก้มตาอยู่บนเตียงกว้างมาเกือบ 5 ชั่วโมงแล้วจริงๆ ปากเล็กๆนั่นไม่ยอมอ้าปากพูดอะไรในขณะที่ตำรวจคนอื่นๆกำลังก้มหน้าก้มตาเก็บหลักฐานในการสืบคดีกันอยู่
“.................”
“อ่า..ไม่ตอบแฮะ สงสัยยังตกใจนะครับท่าน” นายตำรวจอีกคนตอบแทน เมื่อเห็นว่าร่างบางยังคงก้มหน้าเงียบไม่ยอมตอบคำถาม
“ฮะๆ ไม่ต้องกลัวไปหรอกนะ ฉันมาช่วยเธอ อืม...ฉันพล.ตำรวจโยธวิทย์ ไทยานนท์ แล้วแม่หนูล่ะ? ชื่ออะไรฮื้ม?” แก้วเงยหน้าขึ้นน้อยๆ ก่อนจะตอบคำถามกลับไปด้วยน้ำเสียงแผ่ว
“...ชะ ชื่อแก้ว”
“ชื่อเพราะจังเลยนะ...แก้วใจ” รอยยิ้มที่แสนอ่อนโยนปรากฏขึ้นที่ใบหน้าของชายวัยกลางคน พร้อมกับมือที่เอื้อมไปลูบหัวอย่างปลอบใจ
ความรู้สึกนี้...แก้วไม่เคยได้รับจากใครนอกจากพี่ชายไม่แท้ที่ชื่อว่าเขื่อน เป็นความรู้สึกที่อบอุ่นหัวใจ ไม่สิ..อบอุ่นไปทั้งร่างกายเลยก็ว่าได้
“เมื่อกี๊ มีโซ่ตรวนล่ามไว้ที่ข้อเท้าเธอด้วย แต่ผมตัดออกไปเรียบร้อยแล้วครับ”
“อืม ดีมาก..”
เด็กคนนี้...
“................”
“แล้วมีใครรับไปเลี้ยงดูรึยัง?” เขาหันไปถามนายตำรวจที่เก็บหลักฐานอยู่ด้านหลัง ต่างก็ส่ายหน้ากันหมด ก็แน่ล่ะ นายตำรวจแต่ละคนก็มีครอบครัวให้ดูแลกันหมดแล้ว คงไม่อยากจะหาภาระเพิ่มให้ตนเองกันหรอก
“อ่า..ถ้างั้นไปอยู่กับฉันก่อนก็ได้ บ้านของฉันยินดีต้อนรับเธอ^^”
---------------------------------------------------------------
“ไม่! ผมไม่ต้อนรับ และก็ยอมให้พ่อเอาคนแปลกหน้าอยู่บ้านเดียวกับเราเด็ดขาด!!” เสียงคัดค้านดังโหวกเหวกมาจากปากของลูกชายคนเล็กของบ้านไทยานนท์ ยังไงเขาก็ไม่ยอมให้ใครหน้าไหนก็ไม่รู้มาอยู่ร่วมบ้านกับเขาเด็ดขาด!!!
“ใจเย็นๆดิวะไอ้โมะ เดี๋ยวน้องเค้าตกใจ ดูสิ..หน้าตาน่ารักนะเว้ย” ป๊อปปี้ผู้เป็นพี่ชายปรามน้องชายเบาๆ ที่ตะโกนค้านหัวชนฝา ก่อนจะหันมายิ้มให้ร่างเล็กที่นั่งก้มหน้าอยู่บนโซฟาข้างๆ
“จะน่ารักแค่ไหนก็กระหรี่ดีๆนี่แหล่ะ เฮอะ! น่ารังเกียจชะมัด”
“หยุด! หยุดได้แล้ว จะว่าน้องเค้าไปถึงไหนกันฮะตาโมะ! น้องเค้าก็ไม่ได้อยากให้ชีวิตของเค้าเป็นแบบนี้หรอกนะ แค่นี้จิตใจของน้องเค้าก็โดนย่ำยีมามากพอแล้ว เราควรจะช่วยให้กำลังใจน้องเค้า ไม่ใช่มาซ้ำเติมน้องเค้าแบบนี้!”
“ใช่ แม่แกพูดถูก คนเรามันเลือกเกิดไม่ได้หรอกนะ หัดเอาใจเค้ามาใส่ใจเราซะบ้าง”
“โถ่พ่อ...ขืนเพื่อนที่มหาลัยฯรู้ว่ามีกะ..เอ่อ มีผู้หญิงแบบนี้มาอยู่ร่วมบ้านด้วย ผมคงอายจนอยากจะมุดแผ่นดินหนีแน่ๆ อีกอย่างผมไม่เคยมีน้อง! ยิ่งน้องแบบนี้...ผม-ไม่-เอา!!!” ร่างสูงลุกยืน ก่อนจะกระแทกเท้าเดินหนีขึ้นชั้นบนไป
“เฮ้อ...หนูแก้ว หนูไม่ต้องกลัวนะลูก ทำใจให้สบาย คิดซะว่าที่นี่เป็นบ้านหนูเลยละกัน”
“ไอ้ลูกคนนี้นี่ โอย...แม่จะเป็นลม” คุณหญิงประจำบ้านไทยานนท์ยกมือขึ้นกุมหัวตัวเอง ก่อนที่สามีของตนจะประคองพาขึ้นไปพักผ่อนข้างบนห้อง โดยไม่ลืมบอกแม่บ้านให้เตรียมห้องพักสำหรับแก้ว ตอนนี้เหลือเพียงพี่ใหญ่ประจำบ้าน กับเด็กใหม่(?)ที่นั่งด้วยกันอยู่บนโซฟากันสองต่อสอง
“นี่...”
“...........?”
“ไม่คิดจะพูดอะไรบ้างเหรอแก้วใจ? หรือว่าโกรธที่ไอ้โทโมะมันพูดจาแบบนั้นใส่เธอ”
“ปะ เปล่าหรอก คือ..”
“หืม?”
“ชินแล้วล่ะ ก็เป็นแบบที่คุณคนนั้นพูดจริงๆนี่” แก้วพูดเสียงแผ่ว ทำเอาชายที่นั่งข้างๆใจแป้ว คิดแล้วจะตบปากตัวเองซะจริงๆ ไม่น่าไปถามเค้าแบบนั้นเล๊ยยยย !!
“เฮ้ย! ไม่เอาๆ อย่าพูดแบบนั้นสิ อ่า...เราเลิกคุยเรื่องนี้กันเหอะนะ”
“..............”
“ทิ้งอดีตที่โหดร้าย แล้วมาเริ่มต้นใหม่กับพวกเรานะ บ้านนี้ยินดีต้อนรับเธอเสมอ”
“แต่...”
“จุ๊ๆ หยุดพูด แล้วไปหาอะไรกินกันดีกว่า ดูสิ..ผอมแห้งจะเนื้อจะติดกระดูกแล้ว^^” มือใหญ่จับมือเล็กๆ ก่อนจะดึงให้ลุกยืนขึ้น แล้วเดินไปพร้อมกับเขา มุ่งหน้าตรงไปที่...ห้องครัว รอยยิ้มที่แสนจริงใจผุดขึ้นที่ใบหน้าเข้มครั้งแล้วครั้งเล่า มันทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นหัวใจมากขึ้น
“อ่ะ มาม่าต้ม กินได้ใช่มั๊ย?” ป๊อปปี้ดันถ้วยมาม่าต้มไปใกล้ร่างบางที่นั่งอยู่ตรงข้าม ตากลมๆมองของตรงหน้า ก่อนจะเอ่ยถามด้วยเสียงเบาๆที่พูดเป็นนิสัย
“นะ ในนี้..ไม่มียาปลุกเซ็กซ์ใช่มั๊ย”
ฮะ !?
“เอ่อ...ที่นี่ไม่มีของแบบนั้นหรอกนะ วางใจได้ ฮ่าๆ” เขาเองลืมไปว่าแก้วผ่านอะไรมาบ้าง ก็ย่อมระแวงแบบนี้เป็นธรรมดา ก่อนจะเห็นร่างบางคีบเส้นมาม่าใส่ปาก แล้วเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย
--------------------------------------------------------------
“อะ เอ่อ...กะ แก้วใจ จะว่าไปเธอก็กินเก่งนะเนี่ย แหมดูสิ..กินซะเกลี้ยงเลย^^;” ทั้งมาม่าชามโต ข้าวมันไก่อีกพูนจาน ตอนนี้เหลือเพียงแค่ภาชนะเปล่าๆที่ใส่อาหารมาตอนแรกเท่านั้น ป๊อปปี้มองร่างเล็กตรงหน้าที่กำลังกินองุ่นกับส้มที่บรรจุอยู่ในถาดใบโตๆอยู่
“พี่...?”
“อ่า..ลืมแนะนำตัวไปซะสนิทเลยแฮะ ฉันชื่อป๊อปปี้ มีน้องชายชื่อโทโมะ อืม..มันก็ใจร้อนวู่วามอย่างที่เธอเห็นน่ะแหล่ะ แต่ความจริงแล้วมันเป็นคนใจดีมากเลยนะ”
“.................”
“เอ่อ..เธอคงไม่เชื่อสินะ แต่ไม่เป็นไร อยู่ไปเดี๋ยวก็รู้เอง ว่าแต่...เธอเรียกฉันทำไมเหรอ? แก้วใจ^^”
“มากิน..ด้วยกันมั๊ย?” ร่างบางว่า ก่อนจะยกพวงองุ่นสีเข้มที่ผลของมันหายไปกว่าครึ่งพวง ป๊อปปี้มองพวกองุ่นที่ถูกคนตัวเล็กตรงหน้าเขมือบ(?)ไปกว่าครึ่งและหัวเราะเบาๆ
“ฮ่าๆ ไม่หรอก ฉันเห็นเธอกินอย่างอร่อยฉันก็ดีใจแล้ว ฮ่าๆ กินเหมือนเด็กตัวน้อยเลย ฮะ ฮ่าๆๆ” แก้มสีขาวซีดขึ้นสีน้อยๆ แก้วหดมือลงก่อนจะเด็ดผลองุ่นจากพวงแล้วใส่เข้าปาก แก้มสวยพองขึ้นเพราะองุ่นที่ร่างบางกำลังเคี้ยว ทำเอาป๊อปปี้อยากจะกระโดด(?)กอดซะให้หายหมั่นเขี้ยวเลย
ถ้าไม่ติดว่ามีฉันแฟนแล้ว จะจับฟัดซักทีสองทีนะเนี่ย =..=
----------------------------------------------------------------------------
Writer Talk.
ฮาโหลวววว เอฟวี่บอดี้ กระเดะเพื่อ?
เอ่อ..เอาเป็นว่าสวัสดีเด็กๆทีเคอาร์ทุกๆคน
เราไม่บอกหรอกว่าชื่ออะไร อุอุ ให้ตามหากันเอง *โดนถีบ*
เราอายุ สะ .. สิบห้า ( เอ่อ..ทำไมแก่จัง )
เรียกพี่ เรียกน้อง เรียกเพื่อนให้ถูกเน้อออ
อะแฮ่มๆ .. เข้าเรื่องล้ะนะ #ห้ะ แม่งยังพล่ามไม่จบอีกเหรอ?
อ่า..นิยายเรื่องนี้ คือ แบบมันไม่ใช่เรื่องแรกหรอก =__=
เรื่องอื่นก็อย่าสนใจมันเลยเนอะ 55555
เอาเป็นว่าทักทายได้ คุยได้ เม้าท์มอยได้ ไม่กัดนะ แค่งับหัว :3
ยิ่งเป็นเรื่องเกาหลีนะ มาเหอะ! (ยกเว้นเกิร์ลเจนนะ วงนี้ไม่รู้จัก *แอนตี้ เข้าใจ๊?* 5555)
ถึงจะแอนตี้ แต่ก็ไม่เคยด่านะ วางใจได้ เพราะแอนตี้เงียบๆในใจ : D
ตอนนี้กำลังบ้า นิวอิสท์ ( Nu’est ) เป็น L.O./\.E อย่างสมบูรณ์แบบ (_ _ ;)
#จบเรื่องเกาหลีเหอะ!
เอ้อ! ขออีกเรื่องนึง
เวลาคอมเมนต์
อย่าสักแต่พิมพ์ว่า “upppppppppppppppppppppppp”
หรือ “อัพพพพพพพพพพพพพพพพ”
^
^
แบบ-นี้-ไม่-เอา ขอร้องเหอะ!
เพราะมันก็เหมือนนักอ่านเงาแหล่ะ พิมพ์อยู่แค่ 2-3 ตัว
ขอแบบ อ่านจริงๆ เมนต์แบบจริงใจ อะไรหยั่งงี้
ขอแค่นี้ ทำให้ได้ใช่ป่ะ? ทีเคอาร์ :D
*กราบงามๆ*
#จบ
“เสร็จหน้าที่...ของฉันแล้วใช่มั๊ย?” ร่างบางเอ่ยถามด้วยเสียงเรียบนิ่ง ไร้อาภรณ์ปกปิดร่างกายอันบอบบางที่นอนอยู่บนเตียงกว้าง คู่สนทนาที่กำลังจัดแจงเสื้อผ้าที่ก่อนกระจักดกระจายอยู่บนพื้นห้องหันมามองใบหน้าเรียบเฉยไร้อารมณ์ของคู่นอนที่เพิ่งร่วมกิจกรรมความใคร่กันเมื่อครู่ ก่อนจะยกยิ้มมุมปาก แล้วเดินตรงมาที่ร่างบางบนเตียง
ร่างใหญ่โตนั้นยื่นหน้าเข้าไปหวังที่จะได้ลิ้มลองความหวานจากริมฝีปากสวยนั้นอีกครั้ง แต่ใบหน้าหวานที่ไร้อารมณ์กลับเบือนหนี รอยยิ้มชั่วร้ายปรากฏขึ้นที่ใบหน้านั้นอีกครั้ง ก่อนที่มือหยาบกร้านจะยกขึ้นบีบปลายคางเล็กอย่างแรง
“เหอะ! หยิ่งนักนะ!! เดี๋ยวเราต้องได้นอนด้วยกันใหม่แน่ ไม่ต้องกลัวหรอกแก้ว^^” ...พูดแค่นั้น ก่อนจะสะบัดปลายคางนั้นอย่างไม่ทะนุถนอม เขาลุกไปหยิบสูทที่พาดอยู่ปลายเตียง แล้วเดินออกจากห้องไปทันที ร่างบางนอนแผ่มองเพดานสีขาวซีดอย่างเหม่อลอย ความเจ็บปวดนี้ ทำให้แก้วอยากจะร้องไห้เหลือเกิน แต่น้ำตามันกลับไม่มี!!
รอยยิ้ม...แก้วคนนี้ไม่เคยรู้จัก ไม่เคยทำ และไม่เคยได้รับรอยยิ้มที่จริงใจจากใคร นอกซะจากรอยยิ้มที่หื่นกามและเหยียดหยาม มันยิ่งทำให้เธอดูไร้ค่า ผู้คนพวกนั้นคงไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่าเงินที่ได้จากการขายเรือนร่างของเธอไปวันๆ
‘เตรียมตัวไปอาบน้ำ อีก 1 ชั่วโมงลงไปรับแขกด้านล่าง’
เสียงจากลำโพงที่ติดอยู่บนเพดานดังขึ้น แก้วถอนใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะยันกายลุกขึ้นนั่งด้วยความทุลักทุเล ความเจ็บปวดจากช่วงล่างแล่นแปล๊บมาเป็นระยะ ร่างบางพยุงร่างกายที่ปราศจากอาภรณ์จนไปถึงห้องน้ำ กระจกบานใหญ่สะท้อนร่างกายบอบบางที่เต็มไปด้วยรอยรักเต็มไปทั่วร่าง
มือบางกำลังเอื้อมไปเปิดก๊อกน้ำที่เพื่อล้างหน้าล้างตา แต่ดวงตากลมเหลือบไปเห็นรอยแผลเป็นที่ข้อมือ รอยแผลนี้เกิดจากมีด มีดที่เธอพยายามจะฆ่าตัวตายเมื่อ 3 เดือนก่อน แต่คนพวกนั้นมาเห็นก่อน จึงนำส่งโรงพยาบาลได้ทัน ในช่วงนั้นมีนางพยาบาลมาคอยดูแลรักษาเธอ ก็ทำให้เธอรู้สึกว่าตัวเองมีค่าขึ้นบ้าง พอเริ่มหายดีแล้ว เธอก็ต้องกลับลงมาอยู่ในขุมนรกขุมที่น่ากลัวกว่าเดิม เพราะหลังจากรักษาตัวเสร็จ คนพวกนั้นก็จับเธอล่ามโซ่แล้วทำร้ายทุบตีจนเนื้อตัวช้ำไปหมด แล้วจับขังไว้ในห้องแคบมืดและอับ
ต่างก็รุมทำร้ายจิตใจของเธอจนมันแหลกเหลวไปหมด ทำให้เธอกลายเป็นคนที่เย็นชา ใบหน้าที่แสดงได้เพียงหน้าเดียว เหมือนตุ๊กตามีชีวิต ตุ๊กตาที่ใครๆคิดจะทำอะไรกับเธอก็ได้ อยากจะทุบตี อยากจะระบายความใคร่ หรืออะไรต่างๆ
หลังชำระล้างร่างกายเสร็จ ร่างบางก็เดินออกมา กับเสื้อยืดตัวเก่าๆและกางเกงขาสั้นธรรมดาๆ แก้วล้มตัวลงนอนกับเตียงกว้าง ก่อนจะผล็อยหลับไปด้วยความอ่อนล้าทั้งร่างกายและจิตใจ...
.
.
.
.
ปัง ปัง! ปัง!!
“พี่เขื่อน!! เปิดประตูให้แก้วเถอะนะ ฮือ..ฮึก! แก้วกลัว..พี่เขื่อน!!!!” มือเล็กๆทุบประตูบานใหญ่อย่าไม่สนใจความเจ็บ เธอรู้...รู้ว่าคนที่เธอรักอยู่หลังประตูบานนั้น
“...พี่ขอโทษ” เสียงแผ่วเบาหลุดออกมาจากปากของผู้ชายที่ชื่อเขื่อน เขานั่งพิงบานประตูอย่างรู้สึกผิดที่สุดในชีวิต เขาเลี้ยงแก้วตั้งแต่เขาอายุ 14 ปี ตอนนี้เขากลับส่งน้องที่เลี้ยงมากับมือไปลงนรก
“พี่เขื่อน ฮือ...ช่วยแก้วด้วย! ฮึกๆ ยะ..อย่า.. โอ๊ย!!”
“แก้ว!!!!”
พลั่ก!
หมัดหนักๆปะทะเข้าที่หน้าเขื่อนเต็มๆ เพราะเมื่อครู่เขากำลังเอื้อมมือจะไปบิด ร่างโปร่งล้มลงไปกองกับพื้น พร้อมเลือดที่ไหลออกมาจากมุมปาก เขายกมือขึ้นปาดมันออกอย่างลวกๆ
“แกไม่อยากได้เงินไปรักษาแม่ของแกแล้วหรือไง!?”
“...........”
“ถ้าอยากได้...ก็อย่าแส่!! เพราะลูกค้ารายนี้ เงินสูงว้อย! ...ยังจะมองหน้าอยู่อีก งานไม่มีทำรึไง!!? จะไปไหนก็ไปไป๊..!”
พี่ขอโทษจริงๆแก้ว...พี่ขอโทษ ฮึก!
“ยะ อย่าทำอะไรแก้วเลยนะ กะ..แก้วสัญญาว่าจะเป็นเด็กดี ฮึก! ฮือ...” เมื่อทุบประตูจนหมดแรง มือเล็กๆที่เต็มไปด้วยรอยช้ำก็ยกขึ้นไหว้ปรกๆ แววตานั้นเต็มไปด้วยความหวาดกลัวอยู่เต็มอก ดวงตาเต็มไปด้วยน้ำตาที่ไหลออกมาด้วยความหวาดกลัว และบวมช้ำจากการร้องไห้
“โอ๋ๆ ใช่แล้ว..แก้วหนูเป็นเด็กดี ฉะนั้นอย่าดื้อกับลุงนะรู้มั๊ย?” มือหยาบกร้านยกขึ้นลูบแก้มขาวซีดนั้นอย่างเสแสร้งว่าเอ็นดู รอยยิ้มหื่นปรากฏอยู่บนใบหน้าที่อัปลักษณ์เต็มไปด้วยแผลเป็น ที่เห็นแล้วน่าขยะแขยง
“ฮือ...ไม่เอา ปล่อยแก้วออกไปเถอะนะ ฮึก! ฮือ”
“น่า...อย่าดื้อสิ^^”
“ฮือ...ฮึกๆ ไม่ แก้วอยากไปหาพี่เขื่อน”
“ดื้อนักใช่มั๊ย!!?” มือหยาบกระชากเสื้อยืดตัวบางจนขาดวิ่น บาดผิวกายขาวซีดจนเป็นปื้นสีแดง ลิ้นหนาที่หน้าขยะแขยงแลบออกมาเลียริมฝีปากของตน ก่อนจะก้มไปซุกไซ้ที่ลำคอขาวอย่างหื่นกระหาย
“ยะ หยุดนะ ฮือ... ไม่! ไม่!!”
.
.
.
.
“ไม่! ไม่!! หยุดนะ!!! ไม่เอานะ ฮึก! ฮือ...” มือเล็กปัดป่ายกลางอากาศ ก่อนจะสะดุ้งตื่นขึ้นมา เอาอีกแล้ว...อดีตของเธอ ย้อนกลับมาทำร้ายเธออีกครั้ง ความโหดร้ายในอดีตยังคงตามมาทำร้ายเธอแม้แต่ในฝัน
มือบางยกขึ้นปาดเหงื่อที่เกาะเป็นพราวอยู่ตามไรผม ก่อนจะมองข้อเท้าที่ถูกโซ่ตรวนเส้นโตล่ามเอาไว้ตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ สงสัยคงจะเป็นตอนที่เธอหลับไปและคนพวกนั้นคงเข้ามาล่ามเธอเอาไว้เพื่อป้องกันการหนี ร่างบางลุกนั่งชันเข่าบนเตียงนอนกว้าง ก่อนจะซุกใบหน้าลงกับเข่าเล็กๆ
เสียงตึงตังจากด้านนอกทำให้แก้วต้องเงยหน้าจากเข่าตัวเอง แล้วหันไปมองที่ประตู ไม่นานประตูห้องก็ถูกเปิดออกมา แล้วมีลูกน้องของคนพวกนั้นวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามา
“หนีเร็ว!! ที่นี่มีตำรวจบุกมา!!!”
แล้วไม่ต้องตกใจว่าทำไมคนพวกนั้นถึงกลัวตำรวจ เพราสถานที่นี้คือ...ผับที่เปิดแบบไม่ได้รับอนุญาตผิดกฎหมาย! หรือที่เรียกง่ายๆว่า ผับเถื่อน
------------------------------------------------------------------------
“นี่..แม่หนู เราน่ะชื่ออะไร เห็นนั่งเงียบมาเกือบ 5 ชั่วโมงแล้วนะ ไม่ยอมพูดยอมจาเลยเนี่ย” ตำรวจยศสูงคนหนึ่งเอ่ยถามร่างบางที่นั่งก้มหน้าก้มตาอยู่บนเตียงกว้างมาเกือบ 5 ชั่วโมงแล้วจริงๆ ปากเล็กๆนั่นไม่ยอมอ้าปากพูดอะไรในขณะที่ตำรวจคนอื่นๆกำลังก้มหน้าก้มตาเก็บหลักฐานในการสืบคดีกันอยู่
“.................”
“อ่า..ไม่ตอบแฮะ สงสัยยังตกใจนะครับท่าน” นายตำรวจอีกคนตอบแทน เมื่อเห็นว่าร่างบางยังคงก้มหน้าเงียบไม่ยอมตอบคำถาม
“ฮะๆ ไม่ต้องกลัวไปหรอกนะ ฉันมาช่วยเธอ อืม...ฉันพล.ตำรวจโยธวิทย์ ไทยานนท์ แล้วแม่หนูล่ะ? ชื่ออะไรฮื้ม?” แก้วเงยหน้าขึ้นน้อยๆ ก่อนจะตอบคำถามกลับไปด้วยน้ำเสียงแผ่ว
“...ชะ ชื่อแก้ว”
“ชื่อเพราะจังเลยนะ...แก้วใจ” รอยยิ้มที่แสนอ่อนโยนปรากฏขึ้นที่ใบหน้าของชายวัยกลางคน พร้อมกับมือที่เอื้อมไปลูบหัวอย่างปลอบใจ
ความรู้สึกนี้...แก้วไม่เคยได้รับจากใครนอกจากพี่ชายไม่แท้ที่ชื่อว่าเขื่อน เป็นความรู้สึกที่อบอุ่นหัวใจ ไม่สิ..อบอุ่นไปทั้งร่างกายเลยก็ว่าได้
“เมื่อกี๊ มีโซ่ตรวนล่ามไว้ที่ข้อเท้าเธอด้วย แต่ผมตัดออกไปเรียบร้อยแล้วครับ”
“อืม ดีมาก..”
เด็กคนนี้...
“................”
“แล้วมีใครรับไปเลี้ยงดูรึยัง?” เขาหันไปถามนายตำรวจที่เก็บหลักฐานอยู่ด้านหลัง ต่างก็ส่ายหน้ากันหมด ก็แน่ล่ะ นายตำรวจแต่ละคนก็มีครอบครัวให้ดูแลกันหมดแล้ว คงไม่อยากจะหาภาระเพิ่มให้ตนเองกันหรอก
“อ่า..ถ้างั้นไปอยู่กับฉันก่อนก็ได้ บ้านของฉันยินดีต้อนรับเธอ^^”
---------------------------------------------------------------
“ไม่! ผมไม่ต้อนรับ และก็ยอมให้พ่อเอาคนแปลกหน้าอยู่บ้านเดียวกับเราเด็ดขาด!!” เสียงคัดค้านดังโหวกเหวกมาจากปากของลูกชายคนเล็กของบ้านไทยานนท์ ยังไงเขาก็ไม่ยอมให้ใครหน้าไหนก็ไม่รู้มาอยู่ร่วมบ้านกับเขาเด็ดขาด!!!
“ใจเย็นๆดิวะไอ้โมะ เดี๋ยวน้องเค้าตกใจ ดูสิ..หน้าตาน่ารักนะเว้ย” ป๊อปปี้ผู้เป็นพี่ชายปรามน้องชายเบาๆ ที่ตะโกนค้านหัวชนฝา ก่อนจะหันมายิ้มให้ร่างเล็กที่นั่งก้มหน้าอยู่บนโซฟาข้างๆ
“จะน่ารักแค่ไหนก็กระหรี่ดีๆนี่แหล่ะ เฮอะ! น่ารังเกียจชะมัด”
“หยุด! หยุดได้แล้ว จะว่าน้องเค้าไปถึงไหนกันฮะตาโมะ! น้องเค้าก็ไม่ได้อยากให้ชีวิตของเค้าเป็นแบบนี้หรอกนะ แค่นี้จิตใจของน้องเค้าก็โดนย่ำยีมามากพอแล้ว เราควรจะช่วยให้กำลังใจน้องเค้า ไม่ใช่มาซ้ำเติมน้องเค้าแบบนี้!”
“ใช่ แม่แกพูดถูก คนเรามันเลือกเกิดไม่ได้หรอกนะ หัดเอาใจเค้ามาใส่ใจเราซะบ้าง”
“โถ่พ่อ...ขืนเพื่อนที่มหาลัยฯรู้ว่ามีกะ..เอ่อ มีผู้หญิงแบบนี้มาอยู่ร่วมบ้านด้วย ผมคงอายจนอยากจะมุดแผ่นดินหนีแน่ๆ อีกอย่างผมไม่เคยมีน้อง! ยิ่งน้องแบบนี้...ผม-ไม่-เอา!!!” ร่างสูงลุกยืน ก่อนจะกระแทกเท้าเดินหนีขึ้นชั้นบนไป
“เฮ้อ...หนูแก้ว หนูไม่ต้องกลัวนะลูก ทำใจให้สบาย คิดซะว่าที่นี่เป็นบ้านหนูเลยละกัน”
“ไอ้ลูกคนนี้นี่ โอย...แม่จะเป็นลม” คุณหญิงประจำบ้านไทยานนท์ยกมือขึ้นกุมหัวตัวเอง ก่อนที่สามีของตนจะประคองพาขึ้นไปพักผ่อนข้างบนห้อง โดยไม่ลืมบอกแม่บ้านให้เตรียมห้องพักสำหรับแก้ว ตอนนี้เหลือเพียงพี่ใหญ่ประจำบ้าน กับเด็กใหม่(?)ที่นั่งด้วยกันอยู่บนโซฟากันสองต่อสอง
“นี่...”
“...........?”
“ไม่คิดจะพูดอะไรบ้างเหรอแก้วใจ? หรือว่าโกรธที่ไอ้โทโมะมันพูดจาแบบนั้นใส่เธอ”
“ปะ เปล่าหรอก คือ..”
“หืม?”
“ชินแล้วล่ะ ก็เป็นแบบที่คุณคนนั้นพูดจริงๆนี่” แก้วพูดเสียงแผ่ว ทำเอาชายที่นั่งข้างๆใจแป้ว คิดแล้วจะตบปากตัวเองซะจริงๆ ไม่น่าไปถามเค้าแบบนั้นเล๊ยยยย !!
“เฮ้ย! ไม่เอาๆ อย่าพูดแบบนั้นสิ อ่า...เราเลิกคุยเรื่องนี้กันเหอะนะ”
“..............”
“ทิ้งอดีตที่โหดร้าย แล้วมาเริ่มต้นใหม่กับพวกเรานะ บ้านนี้ยินดีต้อนรับเธอเสมอ”
“แต่...”
“จุ๊ๆ หยุดพูด แล้วไปหาอะไรกินกันดีกว่า ดูสิ..ผอมแห้งจะเนื้อจะติดกระดูกแล้ว^^” มือใหญ่จับมือเล็กๆ ก่อนจะดึงให้ลุกยืนขึ้น แล้วเดินไปพร้อมกับเขา มุ่งหน้าตรงไปที่...ห้องครัว รอยยิ้มที่แสนจริงใจผุดขึ้นที่ใบหน้าเข้มครั้งแล้วครั้งเล่า มันทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นหัวใจมากขึ้น
“อ่ะ มาม่าต้ม กินได้ใช่มั๊ย?” ป๊อปปี้ดันถ้วยมาม่าต้มไปใกล้ร่างบางที่นั่งอยู่ตรงข้าม ตากลมๆมองของตรงหน้า ก่อนจะเอ่ยถามด้วยเสียงเบาๆที่พูดเป็นนิสัย
“นะ ในนี้..ไม่มียาปลุกเซ็กซ์ใช่มั๊ย”
ฮะ !?
“เอ่อ...ที่นี่ไม่มีของแบบนั้นหรอกนะ วางใจได้ ฮ่าๆ” เขาเองลืมไปว่าแก้วผ่านอะไรมาบ้าง ก็ย่อมระแวงแบบนี้เป็นธรรมดา ก่อนจะเห็นร่างบางคีบเส้นมาม่าใส่ปาก แล้วเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย
--------------------------------------------------------------
“อะ เอ่อ...กะ แก้วใจ จะว่าไปเธอก็กินเก่งนะเนี่ย แหมดูสิ..กินซะเกลี้ยงเลย^^;” ทั้งมาม่าชามโต ข้าวมันไก่อีกพูนจาน ตอนนี้เหลือเพียงแค่ภาชนะเปล่าๆที่ใส่อาหารมาตอนแรกเท่านั้น ป๊อปปี้มองร่างเล็กตรงหน้าที่กำลังกินองุ่นกับส้มที่บรรจุอยู่ในถาดใบโตๆอยู่
“พี่...?”
“อ่า..ลืมแนะนำตัวไปซะสนิทเลยแฮะ ฉันชื่อป๊อปปี้ มีน้องชายชื่อโทโมะ อืม..มันก็ใจร้อนวู่วามอย่างที่เธอเห็นน่ะแหล่ะ แต่ความจริงแล้วมันเป็นคนใจดีมากเลยนะ”
“.................”
“เอ่อ..เธอคงไม่เชื่อสินะ แต่ไม่เป็นไร อยู่ไปเดี๋ยวก็รู้เอง ว่าแต่...เธอเรียกฉันทำไมเหรอ? แก้วใจ^^”
“มากิน..ด้วยกันมั๊ย?” ร่างบางว่า ก่อนจะยกพวงองุ่นสีเข้มที่ผลของมันหายไปกว่าครึ่งพวง ป๊อปปี้มองพวกองุ่นที่ถูกคนตัวเล็กตรงหน้าเขมือบ(?)ไปกว่าครึ่งและหัวเราะเบาๆ
“ฮ่าๆ ไม่หรอก ฉันเห็นเธอกินอย่างอร่อยฉันก็ดีใจแล้ว ฮ่าๆ กินเหมือนเด็กตัวน้อยเลย ฮะ ฮ่าๆๆ” แก้มสีขาวซีดขึ้นสีน้อยๆ แก้วหดมือลงก่อนจะเด็ดผลองุ่นจากพวงแล้วใส่เข้าปาก แก้มสวยพองขึ้นเพราะองุ่นที่ร่างบางกำลังเคี้ยว ทำเอาป๊อปปี้อยากจะกระโดด(?)กอดซะให้หายหมั่นเขี้ยวเลย
ถ้าไม่ติดว่ามีฉันแฟนแล้ว จะจับฟัดซักทีสองทีนะเนี่ย =..=
----------------------------------------------------------------------------
Writer Talk.
ฮาโหลวววว เอฟวี่บอดี้ กระเดะเพื่อ?
เอ่อ..เอาเป็นว่าสวัสดีเด็กๆทีเคอาร์ทุกๆคน
เราไม่บอกหรอกว่าชื่ออะไร อุอุ ให้ตามหากันเอง *โดนถีบ*
เราอายุ สะ .. สิบห้า ( เอ่อ..ทำไมแก่จัง )
เรียกพี่ เรียกน้อง เรียกเพื่อนให้ถูกเน้อออ
อะแฮ่มๆ .. เข้าเรื่องล้ะนะ #ห้ะ แม่งยังพล่ามไม่จบอีกเหรอ?
อ่า..นิยายเรื่องนี้ คือ แบบมันไม่ใช่เรื่องแรกหรอก =__=
เรื่องอื่นก็อย่าสนใจมันเลยเนอะ 55555
เอาเป็นว่าทักทายได้ คุยได้ เม้าท์มอยได้ ไม่กัดนะ แค่งับหัว :3
ยิ่งเป็นเรื่องเกาหลีนะ มาเหอะ! (ยกเว้นเกิร์ลเจนนะ วงนี้ไม่รู้จัก *แอนตี้ เข้าใจ๊?* 5555)
ถึงจะแอนตี้ แต่ก็ไม่เคยด่านะ วางใจได้ เพราะแอนตี้เงียบๆในใจ : D
ตอนนี้กำลังบ้า นิวอิสท์ ( Nu’est ) เป็น L.O./\.E อย่างสมบูรณ์แบบ (_ _ ;)
#จบเรื่องเกาหลีเหอะ!
เอ้อ! ขออีกเรื่องนึง
เวลาคอมเมนต์
อย่าสักแต่พิมพ์ว่า “upppppppppppppppppppppppp”
หรือ “อัพพพพพพพพพพพพพพพพ”
^
^
แบบ-นี้-ไม่-เอา ขอร้องเหอะ!
เพราะมันก็เหมือนนักอ่านเงาแหล่ะ พิมพ์อยู่แค่ 2-3 ตัว
ขอแบบ อ่านจริงๆ เมนต์แบบจริงใจ อะไรหยั่งงี้
ขอแค่นี้ ทำให้ได้ใช่ป่ะ? ทีเคอาร์ :D
*กราบงามๆ*
#จบ
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.9 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ