รักนี้ร้ายระดับเทพ 20+

5.8

เขียนโดย oncelove

วันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2555 เวลา 23.43 น.

  5 ตอน
  0 วิจารณ์
  11.64K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2556 16.21 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

2) อดีตที่กลับมาหลอกหลอน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

     โอ๊ยปวดหัวโว้ย สงสัยเพราะเมื่อคืนฝันร้ายและเป็นฝันที่ร้ายมากด้วย เฮ้อทำไมนะผ่านมาสิบสองปีแล้วแต่ฉันก็ยังไม่เคยลืมมันไปสักที กี่โมงแล้วเนี่ย พอหันไปดูนาฬิกาก็ตกเตียงปับเที่ยง!นี่ฉันหลับไปกี่ชั่วโมงกันเนี่ย ไม่ต้องพูดอะไรมากกระโดดเด้งตัวลุกขึ้นทันทีพอลุกขึ้นแล้วได้กวาดสายตาไปมองรอบๆดีๆก็พบว่าห้องนี้มันไม่ใช่ห้องของฉันนี่ห้องนี้เป็นห้องที่ใหญ่มากเป็นห้องสีครีมทุกอย่างถูกตกแต่งด้วยเครื่องมืออำนวยความสะดวกที่ทันสมัยต่างๆเตียงนี่ก็คิงไซส์นอนได้ประมาณสี่คนเลยแหละบ้านฉันถึงจะรวยแต่ก็ไม่ได้มีของอะไรขนาดนี้แล้วอีกอย่างห้องนอนของฉันเป็นสีชมพู แล้วนี่ห้องของใคร

 

     ฉันเลยเริ่มเดินไปที่ประตูเปิดออกมาก็เจอว่านี่เป็นห้องชั้นสองบนชั้นสองมีทางเดินยาวแล้วเป็นทางโค้งฉันเลยไม่รู้ว่าที่นี่มีกี่ห้องกันแน่แต่จากที่เห็นด้วยสายตาตรงนี้ก็ปาเข้าไปห้าห้องแล้วดูท่าน่าจะเป็นคฤหาสถ์เดินลงมาตามบันไดแนวยุโรปลงไปชั้นล่างเดินผ่านห้องรับแขกเรื่อยไปก็เจอประตูบ้านฉันเลยตัดสินใจเปิดออกไปดูเพื่อเจอใครพอให้ถามที่หน้าบ้าน

 

     แอ๊ด...จ้อง จ้อง จ้อง จ้อง จ้องทุกคนหันมาจ้องที่ฉันเป็นตาเดียว ไอ้ที่จินตนาการไว้ว่าเปิดไปต้องเจอสวนสวยผิดหมดเพราะเปิดไปก็เจอคนเดินไปเดินมาซึ่งส่วนใหญ่เป็นชายชุดดำ และเป็นทางยาวปูด้วยพรมสีแดงยาวไปตลอดทางและเหมือนมันจะเป็นคอนโดมากกว่าบ้านหลังโต ยิ่งทำให้ฉันมึนไปกันใหญ่ว่า พ่อแม่ฉันมีคอนโดหรูแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่

 

"ตื่นแล้วหรอครับนายหญิง"

 

"หะ ห่ะ อะไรนะนายหญิง"

 

"ครับนายหญิง นายท่านสั่งว่าถ้าหากนายหญิงตื่นแล้วให้ไปปรอที่ห้องอาหารได้เลยครับเพราะนายท่านต้องลงไปเซ็นต์เอกสารข้างล่างสักครู่แล้วเดี๋ยวจะขึ้นมาทานมื้อเที่ยงด้วยครับ"

 

"เอ่อ ขอโทษนะค่ะเอ้ยครับพวกคุณคงเข้าใจอะไรผิดผมเป็นผู้ชายไม่ใช่ผู้หญิงแล้วอีกอย่างนายท่านของพวกคุณเป็นใครผมก็ไม่รู้จัก และช่วยกรุณาบอกด้วยครับว่าที่นี้คือที่ไหนผมอยากกลับบ้าน"

 

"คงไม่ได้หรอกครับนายท่านไม่อนุญาตให้นายหญิงออกไปไหนทั้งนั้นครับ"

 

"ทำไมล่ะ ก็ที่นี้ไม่ใช่บ้านผมผมจะกลับบ้าน"

 

"ต้องขอโทษด้วยจริงๆครับนายหญิงผมคงทำตามที่นายหญิงขอไม่ได้เชิญนายหญิงกลับเข้าข้างในดีกว่าครับ"

 

"ไม่ ผมจะกลับบ้าน"

 

     พูดจบก็ติดเกียร์หมาใส่สปีดเท้าเต็มที่วิ่งจู๊ดชนพวกหนีจนล้มแล้ววิ่งหนีทันทีเรื่องอะไรจะอยู่จับฉันมาเรียกค่าไถ่รึเปล่าก็ไม่รู้แต่ล่ะคนดูเถื่อนๆทั้งนั้นเลย อ๊ายขนาดคนเค้าวิ่งหนีขนาดนี้ยังจะหน้าด้านตามมาอีก ไอ้ตึกบ้านี่ก็ยังไงวิ่งมาตั้งไกลยังไม่เจอทางออกเลยคนสวยชักจะเหนื่อยแล้วนะ

 

"นายหญิงได้โปรดหยุดเถอะครับ"

 

"ไม่พวกนายก็เลิกตามสิ"

 

"ไม่ได้หรอกครับ ได้โปรดเถอะครับนายหญิง"

 

     พูดไปเหอะย่ะยังไงๆฉันก็ไม่หยุดให้พวกแกจับฉันหรอกและแล้วฟ้าก็เลิกกลั่นแกล้งสาวแสนสวยอย่างฉันให้ฉันเจอลิฟต์ แต่อ๊ายลิฟท์กำลังจะปิดแล้วใส่เท้าเทวดาวิ่งอย่างรวดเร็วแต่แล้วก็สะดุดขาตัวเองล้ม กร๊ดมาสุ่มส่ามอะไรตอนนี้ย่ะ ฉันล่ะเบื่อจริงเลยที่เค้าว่ากันว่าคนสวยมักสุ่มส่ามท่าจะจริง อยากขี้แหร่หนูอยากขี้แหร่ เอาว่ะเป็นไงเป็นกัน    ฉันเลยยืนขาออกไปเพื่อกั้นลิฟท์ไม่ให้ปิดตัวลง และแล้วผลที่ตามมาคือ   ปั๊ก! กรี๊ดดดดดดด  เจ็บอ่ะ ในขณะที่ลิฟต์ข้างหน้าก็เปิดออกและปรากฎชายในสูทสีเทาที่ข้างหลังมีแต่ชายในสูทสึดำอีกห้าคนที่เห็นช็อดเด็ดที่ฉันล้มหน้าคว่ำแล้วเอาขาไปกั้นลิฟต์ไม่ให้ปิดลง

 

"เกรซ!"เสียงคุ้นๆแหะ ฉันเลื่อนสายตาจากขาที่โดนลิฟท์หนีบไปทางต้นเสียงทันทีแล้วสิ่งที่กำลังปรากฎกายอยู่ตรงหน้าเล่นเอาฉันตกตะลึงงึงงันทันทีเป็นไปไม่ได้ก็ที่ฉันเห็นเมื่อวานมันเป็นแค่ความฝันหนิ งั้นตอนนี้ก็ความฝันนะสิฉันลงมือตบหน้าตัวเองเพื่อให้ตื่นจากฝันร้ายๆนี้ซะที เพี๊ยะ!

 

"โอ๊ย! เจ็บ"

 

"เกรซตบหน้าตัวเองทำไม ไหนหันมาให้พี่ดูสิ เอาขาออกมาด้วย แล้วนี้เกรซเอาขาไปขวางลิฟต์ไว้ทำไมเจ็บรึเปล่า เกรซๆ เกรซเจ็บตรงไหนบอกพี่สิ"

 

"พี่ภีม"

 

"ใช่พี่เอง ทำไมจำพี่ไม่ได้หรอ หืม เมื่อวานเรายังช่วยพี่อย่างกล้าหาญอยู่เลย วันนี้ลืมกันแล้วหรอ ปลาทองเอ๊ย" 

 

"ฉันไม่ใช่ปลาทอง แต่ฉันไม่เคยจำเลยต่างหาก ปล่อยนะไม่ต้องมาแตะตัวฉัน ไอ้คนทุเรศปล่อยน่ะ โอ๊ย"

 

"เป็นไงล่ะดิ้นจนได้เรื่อง ลุกไหวมั้ย"

 

"ไหวไม่ต้องมายุ่ง" ฉันพยายามพยุงตัวเองลุกขึ้นอย่างที่สุดแต่ไอ้ความเจ็บขาทำให้ลุกไม่ไหว ยัยเกรซเอ๊ย อย่ามาหน้าแตกต่อหน้าคนเลวคนนี้นะ ยัยสวยสุ่มส่าม กัดฟันลอลุกอีกที แต่สังขารบอกว่า เจ๊เค้าไม่ไหวอ่ะตัวเอง ไอ้ร่างกายไม่รักดี

 

"มาเดี๋ยวพี่ช่วย"

 

"ไม่ต้อง"

 

"อย่าดื้อนะเกรซ"

 

"ก็บอกว่าไม่ต้องไง ฉันลุกไหว"

 

"ก็เห็นๆอยู่ว่าลุกไม่ไหวมาเร็วเดี๋ยวพี่ช่วย"

 

"บอกว่าไม่ต้องไงเล่า อ๊ายทำอะไรนะ"

 

"ก็พี่จะช่วยดีๆเกรซไม่ให้ช่วยเอง งั้นพี่ก็จะอุ้มเกรซไปส่งเอง"

 

"ปล่อยนะ"

 

"อย่าดิ้นนะเกรซ ตัวเราไม่ใช่เบาๆถ้าพีี่ไม่ไหวเราได้ตกลงไปนอนบนพื้นแน่"

 

"งั้นก็ปล่อยสิ"ดู๊ดูไอ้คนหน้าด้านมันทำ ขนาดด่าแล้วยังหน้าด้านอุ้มอยู่อีก เชอะมาว่าเราตัวหนักฉันนะหนักแค่80เอง ไอ้ความห่วงใยแบบนี้ ถ้าเป็นเมื่อก่อนฉันคงจะหลงดีใจได้ปลื้มกับมันอยู่หรอก แต่หลังจากวันนั้น วันที่แกเผยธาตุแท้ออกมา ฉันก็ไม่เชื่ออีกแล้วไอ้ความห่วงใยนี่มันก็แค่ของปลอม หลังจากเดินมาในระยะที่ไกลโขสุดท้ายฉันก็ต้องมานั่งเสอนหน้าอยู่บนเตียงอีกจนได้

 

"ไหนเกรซเอาขามานี่เดี๋ยวพี่ดูแผลให้"

 

"ไม่ต้อง"

 

"เกรซอย่าทำให้พี่โมโห"

 

"ไม่ต้องมายุ่งกับฉัน"

 

"เกรซ! เอาขามาพี่จะดูให้"

 

"ก็บอกว่าไม่ต้องไงเล่า ไม่ต้องมายุ่งกับฉัน"

 

"ได้ พวกแกมานี่"พลั่ก!ตะลึงเลยค่ะไอ้นี่มันโหดจริงไรจริงเหมือนเดิมมันชกหน้าคุณหน้าโหดที่คุยกับฉันจนล้มไปนอนกับพื้นเลย

 

"นี่คือโทษฐานที่แกปล่อยนายหญิงให้ออกไปข้างนอกได้"กริ๊ก ตอนนี่ไอ้บ้านี่มันหยิบปืนขึ้นมาแล้วค่ะ

 

"และนี่คือโทษฐายที่แกปล่อยให้นายหญิงเจ็บตัว"เอาไงดีๆไอ้บ้านี่มันจะยิงคุณหน้าโหดแล้ว

 

"เดี๋ยวก่อน!ฉันเจ็บขาดูให้หน่อยสิ"มันหันมามองหน้าฉันสักพักแล้วลดปืนลง ทุกคนร่วมทั้งฉันถอนหายใจพร้อมกันดังเฮือก เฮ้อโล่งอกไปที เกือบทให้คนอื่นตายเพราความดิ้อของตัวเองแล้วแท้ๆ

 

"โอ๊ย จับเบาๆสิเจ็บนะคนบ้า"

 

"พี่ขอโทษ เกรซเจ็บมากเลยหรอ"

 

"ก็ลองมาโดนดูเองบ้างมั้นล่ะ จะได้รู้ว่าเจ็บไม่เจ็บ"

 

"เริ่มบวมๆแล้วนะเกรซพี่ว่าตามหมอมาดูหน่อยดีกว่า"

 

"ไม่ต้อง แค่นี่เองทายาเดี๋ยวก็หาย"

 

"ไม่ได้เกิดมันบวมแล้วอักเสบขึ้นมาล่ะจะยุ่ง ไม่รู้ล่ะเดี๋ยวยังไงให้หมอมาดูหน่อยแล้วกัน พี่เป็นห่วง"

 

"หึ"เป็นห่วงโกหกชัดๆ ระหว่างที่ฉันกำลังเบหน้าด้วยความสะอิดสะเอียนในคำโกหกของคนตรงหน้า พี่ภีมก็เอื้อมมือมาจับที่คางของฉันแล้เชยขึ้นมา นัยย์ตาสีดำสนิทจ้องสบในตาสีเข้มของฉันอย่างไม่คิดหลบมันดูจริงจังและแน่วแน่แต่อ่อนโยนในเวลาเดียวกันจนฉันเกือบลืมหายใจ ในขณะที่ฉันกำลังเคลิ้บเคลิ้มอยู๋นั้น ริมฝีปากหยักได้รูปก็เอื้อนเอ่ยถ้อยคำหวานซึ้งออกมา

 

"เกรซพี่กลับมาตามสัญญาแล้วนะ คนดีของพี่" สิ้นคำเอ่ยรสริมฝีปากเดิมก็เคลื่อนลงมาประทับจูบที่แสนหวานลงที่ริมฝีปากอวบอิ่มของฉัน รอบข้างสิ้นเสียงใด ฉันได้ยินเพียงเสียงหายใจที่รินลดอยู่ใกล้ริมฝีปาก เนิ่นนานจนหมอมา เราถึงแยกออกจากกัน

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา