i'm not&you don't [Yaoi NC18+] END หนังสือถามได้คะ

9.2

เขียนโดย Pierre

วันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2555 เวลา 02.28 น.

  49 chapter
  69 วิจารณ์
  260.02K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2559 22.56 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

4) 4 - Greeting

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 
 
 
4 - Greeting
 
โอ๊ยยยยยยยยยยย ปวดหัวโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!!!!
รู้สึกจะไม่ใช่ปวดหัวอย่างเดียวด้วย บริเวณช่วงท้องก็จุกๆ เบ้าตา โหนกแก้ม ก็รู้สึกตึงๆเหมือนกัน
 
ผมลืมตาขึ้นและมองรอบๆตัวก็พบว่าผมกำลังนอนอยู่บนเตียงไอ้ทัช
บนตัวมีเพียงแค่บ๊อกเซอร์บางๆปิดมังกรน้อยไว้ (?)
 
“ตื่นแล้วเหรอมึง” ไอ้ทัชเปิดประตูเข้ามาถาม รู้ดีจริงวุ้ยไอ้นี่
“ยังมั้งสัด”
“ห่า ปากแบบนี้น่าจะโดนต่อยให้แตกตั้งแต่เมื่อคืน”
“กูปวดหัว”
“แล้วไง”
“...”
“เออ แปบ เดี๋ยวกูเอายามาให้แดก มึงนี่คุณชายจริงๆ” ประโยคท้ายมันพูดเสียงเบาก่อนจะออกจากห้องไปหายามาให้ผมกิน ผมลุกขึ้นเข้าไปล้างหน้าล้างตาแปรงฟันให้เรียบร้อย ส่องกระจกสำรวจตัวเองแล้วพบว่า...
 
“เหี้ยยยยยยยยยยยยยยยย ทำไมหน้าหล่อๆของกูถึงได้เป็นแบบนี้วะ!!” ผมตะโกนลั่นแบบไม่เกรงใจใคร
แต่ดันมีคนตอบซะงั้น
 
“ก็มึงอยากแส่หาเรื่องเอง ช่วยไม่ได้ นั่งแดกเหล้าอยู่ดีๆมีคนตีกัน มึงก็เสือกกระโจนเข้าไปต่อยใครไม่รู้ซะงั้น” ไอ้ทัชที่เข้ามาวางยากับข้าวต้มเป็นคนตอบ
“เชี่ยเอ๊ยยย แล้วทำไมมึงไม่ห้ามกูว้า?”
“กูจะรู้ไหมว่ามึงอยากร่วมวงด้วย อยู่ดีไม่ว่าดีแส่หาเรื่อง ไม่โง่ทำไม่ได้นะเนี่ย หึหึ”
 
เอออออออ ด่าเข้าไป
 
 
ผมเดินออกมานอกห้องน้ำก็พบยา ข้ามต้ม และกล่องปฐมพยาบาล
ถึงมันจะด่า ปากหมา แต่อย่างน้อยมันก็เป็นห่วงผม...ผมรู้ดี
 
“ทำแผลเองนะ” แล้วมันก็เดินออกจากห้องไป
 
พอผมกินเสร็จและทายาเรียบร้อยแล้วก็ไปอาบน้ำ พวกเสื้อผ้า แปรงสีฟัน ผ้าเช็ดตัว สบู่ ยาสระผม กางเกงใน บ๊อกเซอร์ ของผม ผมมีในห้องไอ้ทัชไว้อยู่แล้วเพราะรู้ว่าต้องมีเหตุการณ์แบบนี้แน่ๆ (ไม่ได้กลับหอตัวเอง)
 
ไอ้ทัชมันอยู่คอนโดที่ห่างไกลจากม.ไปหลายกิโลเมตร (แล้วมึงจะซื้อคอนโดอยู่ทำเพื่อ?) พ่อแม่มันรวยเลยอยากให้ลูกใช้ตังเก่งๆจึงซื้อรถฮอนด้า แอคคอร์ดให้มันอีกคัน เอาไว้ผลาญน้ำมันเล่น คอนโดที่ผมกำลังอาศัยชั่วคราวนี้มีพร้อมทุกอย่างสมราคา 4ล้านปลายๆ สไตล์ห้องเรียบง่ายแบบหรูๆ เฟอร์นิเจอร์ครบครัน เอาง่ายๆว่าอยู่สบายยยยยยยยยยยย
 
คิดๆแล้วก็อิจฉาคนรวยจริงวุ้ย!
 
ผมเดินออกมาจากห้องนอนก็เห็นว่าไอ้ทัชกำลังดูหนังอยู่ เนื่องจากว่ายังไม่เปิดเรียน อีก5วันถึงจะเปิดโน่นนนนน ไอ้ที่ผมโดนรับน้องไปเมื่อวานนี้ก็เป็นวันเฟิสเดทอะครับ แบบเจอกันครั้งแรกของคณะของเมเจอร์ไรงี้
 
รับน้องจริงๆต้องเปิดเทอมหลังเลิกเรียนตอนเย็น (ไอ้ทัชบอกมาแถมมันยังขู่อีกด้วยว่าเปิดเทอมไปถ้ายังซ่าแบบวันเฟิสเดทอีกผมโดนเล่นหนักแน่นอน)
 
“เออแล้วทำไมอยู่ดีๆมึงถึงเข้าไปต่อยวะ ? ปกติมึงเมามึงก็แค่โวยวายนี่หว่า” ไอ้ทัชถามขึ้น
“ไม่รู้หวะ”
“อ่าวเชี่ย แล้วมึงรู้ตัวมั้ยว่ามึงเข้าไปตั้นหน้าใคร”
“ใครวะ?”
“รุ่นพี่ปี3คณะเรา คนที่เล่นเกมทอยลูกเต๋ากับมึงไง”
“ชิบหาย” เวรเอ้ยยยยยย ต่อยใครไม่ต่อย ดันไปต่อยไอ้เหี้ยพอสเหรอเนี่ยกู
“ยิ่งกว่าชิบหายอีก ถ้ากูไปลากมึงออกมาไม่ทันนะ ป่านนี้มึงอยู่โรงบาลแล้ว ไม่ได้มานั่งปากหมาแบบนี้หรอก พวกพี่เค้าเยอะสัด”
“เออ ขอบใจ ..แล้วกูไปต่อยแม่งได้ไงวะนั่น?”
 
เพราะผมจำได้แค่ว่าเมื่อคืนแดกเพียวแก้เงี่ยน แดกเอาเป็นเอาตาย แล้วจู่ๆก็ได้ยินเสียงต่อยกัน เห็นหน้าไอ้พอสแถวๆที่มีเรื่องก็หมั่นไส้ เลยเข้าไปต่อยแม่งเลย
 
“กูจะรู้มั้ยวะ ห่า กูเกือบซวยเพราะมึงอะ”
“ทำไมวะ?”
 
“ไอ้รุ่นพี่นั่นมันบอกกูว่า ‘ครั้งนี้พี่จะไม่เอาเรื่องน้องเพราะน้องไม่ได้เป็นคนต่อยพี่ ส่วนไอ้คนที่ต่อยพี่ มันโดนแน่ แต่ถ้าครั้งหน้ายังมีอีกพี่จะถือว่าน้องดูแลเพื่อนไม่ได้พี่ก็จะเอาเรื่องน้องด้วยเหมือนกัน’ แบบเนี้ย”
 
“เออ ให้มันมาเถอะ อย่าหัวหดแล้วกัน”
“ทำปากดีไปเถอะมึง เจอของจริงแล้วจะหนาว”
“กูไม่กลัว มึงก็น่าจะรู้นิสัยกูดี”
 
ไอ้ทัชยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย
 
“ก็จริงวะ หึหึ”
 
 
 
 
หลังจากกินๆนอนๆอยู่ที่หอ ออกไปดูเที่ยว ดูหนังกินข้าวกับสาวๆบ้างก็ถึงเวลาเปิดเทอมซักที
บอกตรงๆว่าตารางเรียนอะไร เรียนห้องไหนยังไง ผมยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำ
ตื่นขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัว ก่อนจะไปมหาลัยใช้เวลาเดินไม่เกิน15นาที ต่างกับไอ้ทัชที่ต้องขับรถมา...และนั่นไง ตายยากจริงๆ
 
“อ่าว ยังไม่ตายเหรอวะ?”
ดูมันทัก -*-
“เปล่า กูตายแล้ว นี่คือวิญญาณกูมาหลอกหลอนมึง โทษฐานที่มึงไม่ยอมไปงานศพกู”                 
“โอ๊ยยยยย ไอ้แกน กูขอโทษ อย่ามาหลอกหลอนกูเลยนะ บอกมาแค่ว่าหวยงวดนี้ออกไรแล้วมึงจะไปหลอกใครที่ไหนก็ไปเลย ชิ่ว” ไอ้ทัชมันยกมือไหว้ ทำท่ากลัวตัวสั่นและตบท้ายด้วยโบกมือไล่
“กวนตีนและมึง”
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆ กวนตีนวันละนิดจิตแจ่มใสเว้ยย”
“ไปๆ เข้าเรียนได้ละ สายแล้วเนี่ย”
“มึงรู้หรอว่าเรียนไหน?”
ผมส่ายหัว
“อ้าว”
“เดินๆตามเค้าไปก็รู้เองแหละน่า” ผมว่าพลางเดินเข้าไปในตึกคณะ แต่ไอ้ทัชรั้งผมไว้ ผมหันไปหามันแล้วถามว่า “อะไร?”
“มึงจะไปไหน?”
“เรียนไง”
“ไอ้สัดเรียนที่ตึก3โว้ยยยย ห่า ไม่รู้แล้วยังเสือกมั่วอีก” มันด่าผมแล้วดึงตัวไปอีกทาง
“ตึก3อยู่ตรงไหนวะ?”
“ก็ตึกตรงข้ามคณะเราไงสาดดดด นี่มึงช่วยศึกษาข้อมูลหรือถามคนอื่นก่อนเข้ามาเรียนที่นี่ด้วยเถอะ”
“ก็กูไม่รู้ว่าจะถามใครหรือไปศึกษาจากไหนนี่หว่า” ผมพูดหงอยๆเพราะไอ้ทัชดุผม
“เออๆ ทีหลังก็ถามกูสิวะ ฟายเอ้ยยยย แม่งเข้ามาได้ไงเนี่ย”
“ก็กูหล่อไง” ผมยิ้มแป้น เก๊กหน้าหล่อเต็มที่
“นี่กูทนคบมันมาได้ไงตั้งหลายปีวะ เห้อออ” มันถอนหายใจก่อนจะพูดต่อ “เออแล้วเย็นนี้พวกพี่ปี2นัดประชุมนะ อย่าหนีกลับก่อนละ”
“คร้าบบบบบบบบบบบ”
 
อันที่จริงผมเข้าคณะนี้เพราะตามไอ้ทัชเนี่ยละ ง่ายดีมั้ยละผม 5555 แล้วคะแนนดันถึงด้วยเลยกลายเป็นว่าโชคดีที่ได้อยู่กับมัน ไม่งั้นป่านนี้ผมคงเป็นตายร้ายดีไงก็ไม่รู้ ผมรู้ตัวว่าเป็นคนติดเพื่อนมากถึงมากที่สุด ขาดไอ้ทัชหรือคนอื่นๆไปผมคงกลายเป็นเด็กมีปัญหา (ขนาดนั้นนนน?) ผมบอกรึยังว่าในกลุ่มผมที่สนิทๆอะมี 5 หน่อ สงสัยไรก็ถามไอ้ทัช ไม่รู้อะไรไอ้เต็งก็บอก อยากได้อะไรไอ้แต๊งก็หามาให้ และถ้ามีเรื่องนายบิ๊กก็เคลียให้ครับ
 
แต๊งหรือแต๊งกิ้ว ... อะนะ ชื่อเล่นมัน ... ตามนั้นแหละ ไอ้นี่หน้าตาออกเกาหลีเลยครับ ทรงผม รูปร่าง ความขาว ได้หมด ตอนนี้กำลังเรียนที่มหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง
 
บิ๊ก ไอ้เหี้ยนี่มีเรื่องกับชาวบ้านทีไรไม่เคยเดือดร้อนเพราะพ่อมันใหญ่ มันเป็นคนที่ตัวใหญ่มากกกกกกกกก สูงประมาณ190เซน หนัก96กิโลกรัม ตัวหนาและดำมากถึงมากที่สุด แต่ขอโทษนะครับถึงมันจะชอบต่อยตีกับขาวบ้านแต่มันก็คาราเต้สายดำนะครับ หึหึ ตอนนี้กำลังเรียนอยู่ที่เดียวกับไอ้แต๊ง
 
 
 
 
 
 
“สวัสดีครับน้องๆ” ตัวแทนรุ่นพี่ปี2พูดขึ้นขณะที่พวกปี2ทุกคนยืนล้อมรอบน้องปี1ที่นั่งอยู่ สร้างบรรยากาศกดดันแปลกๆเพราะไม่มีใครส่งเสียงพูดอะไรออกมาเลย
“สวัสดีครับน้องๆปี1” พี่คนเดิมพูดอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่ดังกว่าเดิม คราวนี้เหมือนพวกปี1จะรู้ว่าควรขานรับคำทักทายนั้น
“สวัสดีครับพี่ๆปี2” ทุกเสียงที่พูดออกมานั้นไม่พร้อมเพียงกัน เห็นได้ชัดว่าต่างคนต่างพูด ... และ มีคนไม่พูดด้วยเช่นกัน
 
ไม่ต้องทายหรอก .. ผมเองแหละ
 
“รู้มั้ยว่าทำไมพวกพี่ถึงเรียกน้องๆมารวมกัน” คราวนี้เป็นอีกคนถามขึ้นพลางกวาดสายตามองไปยังน้องๆปี1ที่กำลังนั่งหน้านิ่ง
 
“เอ้า พี่เค้าถามก็ตอบสิครับ เป็นใบ้กันเหรอ?” ผมหันไปมองคนที่พูด พี่เค้าทำผมได้แหวกแนวมาก ล่างตัดเกรียนหมด เหลือไว้แต่ส่วนบน ทำสีบลอนทอง ดิพปลายสีม่วงพาสเทล .. อื้อหือ ไม่มั่นจริงทำไม่ได้นะเนี่ย
 
หึ ดูท่าทางแรงๆ และเป็นเกย์ชัวร์ ฟันธง!
 
เนื่องจากไม่มีคนไหนกล้าหลุดปากตอบคำถามพี่เค้า พี่เค้าจึงตัดสินใจสุ่มมั่ว
 
“น้องผู้ชายคนนั้นที่นั่งก้มหน้า แถวตรงหน้าพี่ คนที่3 ตอบครับ” เสียงนิ่มๆ ประโยคบอกเล่าแกมคำสั่งนิดๆ ฟังแล้วเหมือนคำพิพากษาในศาลเลยวุ้ยว่าจะอยู่หรือจะไป
 
“...” ไอ้คนถูกเรียกเงยหน้า แต่ยังไม่ทันจะพูดอะไร ไอ้รุ่นพี่คนเดิมก็ขัด
 
“ลุกตอบครับ และแนะนำตัวเองด้วย” ตอนนี้ทุกสายตาจับจ้องไปที่ไอ้คนถูกเรียกให้ตอบคำถาม ซึ่งลุกขึ้นยืนแล้ว ผมมองสำรวจมัน .. อืมมม ตัวสูงใช้ได้ ผิวไม่คล้ำแต่ก็ไม่ได้ขาว ตัวหนามีกล้ามเนื้อ หน้าตา ... จัดว่าดี ... แต่ยังน้อยกว่าผม ฮ่าๆๆๆๆๆๆ
 
“ผมชื่อนายแทนไท สิริวัฒนวงศ์ ชื่อเล่น แทน ครับ”
“ชื่อย๊าวยาว แทนไทสิริวัฒนวงศ์ .. แล้วไม่มีนามสกุลเหรอครับ?”
“....”
เมื่อเห็นว่าน้องเงียบ รุ่นพี่ผู้หญิงคนหนึ่ง (จาก4คน) ถามขึ้นว่า
“น้องๆรู้วิธีการแนะนำตัวรึยังค่ะ?”
เงียบฉี่....
พวกผมเพิ่งเปิดเทอมวันแรก จะไปรู้ได้ยังไงล่ะครับ?
“ผมชื่อ อะไรก็ว่าไป นามสกุล บลาๆๆ ชื่อเล่นชื่อ กขค ไม่ต้องมีครับหรือค่ะ ส่วนน้องผู้หญิงก็เหมือนกัน ดิฉันชื่อ อะไรก็ว่าไป นามสกุล บลาๆๆ ชื่อเล่นชื่อ งจฟ พอไม่ต้องมีค่ะ เข้าใจมั้ยค่ะ?”
 
“....”
 
“เข้าใจมั้ยค่ะ??”
 
“เข้าใจครับ/ค่ะ” แน่นอนว่าตอบไม่พร้อมกัน...
 
“น้องแทนลองแนะนำตัวเองอีกครั้ง เป็นตัวอย่างให้เพื่อนๆด้วย”
 
“ผมชื่อนายแทนไท นามสกุล สิริวัฒนวงศ์ ชื่อเล่นชื่อ แทน”
 
“ดีครับ แต่ต้องเสียงดังฟังชัดกว่านี้ คราวนี้ก็ตอบคำถามพี่ได้แล้ว”
“ว่าไงครับ พวกพี่ถามให้ตอบไม่ใช่ยืนเงียบ”
 
แม่งจะกดดันไปไหนวะ ??
 
“ขอทวนคำถามอีกรอบครับ” น้ำเสียงมันนิ่งมาก ไม่มีอาการหวาดกลัวแต่อย่างใด หึหึ โดนกดดันขนาดนี้แต่ก็ยังไม่ประหม่า
 
“พวกพี่ถามว่าน้องรู้มั้ยครับว่าทำไมพวกพี่ๆถึงเรียกน้องๆมารวมกัน”
 
“เพราะอยากให้พวกผมและรุ่นพี่ได้ทำความรู้จักกันครับ”
 
“ดี นั่งลงได้ ... แล้วน้องๆรู้จักกันรึยังครับ?”  คำถามนี้เล่นเอาน้องๆที่นั่งกันอยู่หันซ้ายหันขวาพลันถามชื่อกันอย่างรวดเร็ว
“เงียบ!!” ทุกคนเงียบทันที “นี้ไม่ใช่เวลามาทำความรู้จักกัน น้องๆได้เรียนด้วยกัน ทำกิจกรรมร่วมกันอยู่แล้ว มีเวลามากที่จะทำความรู้จักกัน น้องๆอยากรู้จักพวกพี่มั้ยครับ?”
 
“อยากครับ/ค่ะ”
 
“แต่พวกพี่...ปี2 ปี3 และ ปี4 ไม่ได้มาเรียนกับพวกน้อง ดังนั้นพยายามหาทางทำความรู้จักซะ พวกพี่แนะนำว่าน้องๆควรทำสมุดล่ารายชื่อปี2 3 4กันเอง และไปขอลายเซ็นพวกพี่ๆเค้าให้ครบทุกคน ทำยังไงก็ได้ให้พวกพี่เค้ารู้จักน้อง และ น้องรู้จักพี่เค้า ไม่ใช่สักแต่ว่าเซ็นๆไป ไม่งั้นสิ่งที่พวกพี่ให้ทำจะมีความหมายอะไร”
 
“ไปปรึกษากันซะนะ ว่าจะทำสมุดออกมาเป็นยังไง ให้รูปแบบเหมือนกันทั้งเจอร์” รุ่นพี่อีกคนพูด “แล้วนี่มีประธานเจอร์รึยัง? ... ยังใช่มั้ย ? งั้นงานนี้แหละจะเป็นสิ่งที่ทำให้เห็นแววผู้นำ เจอกันครั้งหน้า พวกพี่หวังว่าจะมีประธานเจอร์และสมุดให้พวกพี่เห็นนะ”
 
“ยังมีอีกเรื่อง...ใครยังไม่ได้โทรหาพี่รหัสบ้าง?”
 
เวรกรรม! ลืมสนิทเลยกู เอาเบอร์ไปทิ้งไว้ไหนแล้วเนี่ย T^T
 
ผมหันไปมองรอบด้านก็พบว่าหลายคนชูมือขึ้นแบบกล้าๆกลัวๆ
 
“เวลายกมือให้ยกแขนแนบหู ...แขนแนบหู ไม่ใช่ หูแนบแขน และฝ่ามือตรงนิ้วเรียงชิด”
 
ทุกคนที่ยกเปลี่ยนการยกมือตามที่รุ่นพี่บอกทันที
 
“ไปโทรซะนะ .. แนะนำตัวเอง พูดคุยอะไรก็ได้ที่บ่งบอกถึงความเป็นเรา หรือถ้าอยากอยู่ในมหาวิทยาลัยนี้แบบลำบากๆก็ไม่ต้องโทรนะ หึ” พี่ที่มีทรงผมแนวๆบอกแต่ก็แอบมีกัดตอนท้าย
 
“วันนี้แค่นี้แหละ มีใครสงสัยอะไรมั้ย? .. เชิญครับ”
 
หืม มีคนสงสัยเหี้ยไรอีกวะเนี่ย ? กูอยากกลับหอแล้วโว้ยยยยยยยยยยยยยยย
 
“ดิฉันชื่อนางสาวโสรธิดา นามสกุล อำไพพรรณ ชื่อเล่นชื่อ กิ๊ง หนูขอถามว่าพวกหนูจะเจอพี่ๆได้ที่ไหนบ้างค่ะ” หญิงสาวที่หาได้ยากยิ่งในคณะผมถามขึ้น
 
ท่าทางจะรู้ระเบียบของพวกพี่เค้าดีวุ้ย เล่นแนะนำตัวแบบไม่ต้องให้เตือนเลย
ซึ่งดูพวกพี่เค้าก็ยิ้มพอใจนะ .. เอ๊ะ หรือว่าสวย ? แต่ผมก็ไม่รู้หรอก เพราะกิ๊งเธออยู่ข้างหลังผม
 
“น้องเห็นม้าหิน2โต๊ะ ตรงมุมเล็กๆนั้นมั้ยครับ? ข้างๆสโมสรคณะ ... นั่นแหละ เรียกว่าซุ้ม พวกพี่จะไปนั่งบ่อยๆ เอ้อ...พี่แนะนำให้น้องๆเข้าซุ้มบ่อยๆก็ดีนะครับ เราจะได้รู้จักกันมากยิ่งขึ้น”
 
งูโผล่ออกมาบนหัวแล้วเพ่ .... แหมมมม หยอดท้ายซะเสียงหวาน กลัวเค้าไม่รู้รึไงว่าม่อ
 
“มีใครสงสัยจะถามอีกมั้ยครับ?...ถ้าไม่มีเจอกันวันพุธ .. พวกพี่ขอตัว สวัสดีครับ” และพวกพี่เค้าก็แยกย้ายกันไป ทิ้งไว้แต่น้องๆปี1ที่กำลังงงๆกับสิ่งที่ต้องทำ
 
“เห้ยไอ้ทัช ไปหาไรแดกกัน” จะมัวรอช้าอยู่ไยละครับ นี่มันก็เย็นแล้วแถมท้องผมก็เริ่มออกอาการประท้วงแล้วด้วย
“ปะดิ” และขณะที่ผมกำลังจะก้าวเท้าเดินนั้นก็มีคนมาขัดผม2คนไว้
 
“เดี๋ยวดิ นาย2คนอะ อยู่คุยกันแปบนึง แล้วไปหาไรกินกัน” ผมไม่รู้จักไอ้คนที่พูดหรอกครับ แต่ดูเหมือนว่าไอ้ทัชจะรู้จัก
“อืมได้ดิ เอ่อ...โย นี่ แกรนด์ เพื่อนเราเองรู้จักกันมานานแล้ว ส่วนนี่โย กูเพิ่งรู้จักตอนวันเฟิสเดท” คนที่ชื่อโยมองหน้าผม ผมก็มองหน้ามัน ไอ้โยนี่มันดูจืดๆครับ ไม่มีพิษไม่มีภัย คบไว้ไม่เสียหาย
“ไปนั่งรวมกลุ่มกับเพื่อนๆกัน” โยแนะนำ ซึ่งผม2คนก็ขัดไรไม่ได้อยู่แล้วจึงเดินตามมันมา
 
ในเจอร์ผมก็มีคนไม่มากหรอกครับ 40 กว่าคน มีหญิงหลงมาประมาณ 10 คน นอกนั้น...ชายไทยแท้มีดุ้นเหมือนผมแน่นอน แต่แอ๊บเกย์ตุ๊ดไว้หรือเปล่าต้องศึกษากันอีกที
 
เซ็งวะ
 
“นี่ๆ เราว่าเราเริ่มทำความรู้จักกันก่อนดีมั้ย ถึงจะรู้จักจากวันเฟิสเดทมาบ้างแล้วก็เถอะ แต่บางคนเรายังไม่รู้จักเลย” ผู้หญิงหน้าตาธรรมด๊าธรรมดาเสนอขึ้นมา
“แต่เราว่าวิธีการทำสมุดล่าลายเซ็นรุ่นพี่ก่อนดีกว่านะ พวกเราอะ ทำความรู้จักกันเมื่อไหร่ก็ได้ อยู่ๆกันไปเดี๋ยวก็ชินเองแหละ” อีกคนมีความเห็นที่ต่างออกไป
“เราว่าก็ดีนะ...งั้นใครพอที่จะมีความอาร์ตตัวแม่ ติสตัวพ่อ อยู่ในสายเลือดมั่งเนี้ย ?” เสียงคุ้นๆวุ้ย เหมือนจะเป็นเสียงกิ๊ง ผมเลยหันหน้าไปมอง...โหว น่ารักเหี้ยๆ (โปรดเลียนแบบเสียงน้องเก้าในเรื่องรัก7ปี กร๊ากกก)
“เอ่อ...เราพอวาดปกให้ได้นะ” ผู้ชายท่าทางติ๋มๆใส่แว่น ดูเนิร์ดๆพูดตะกุกตะกัก
“นายชื่อไรอะ?” กิ๊งถาม
“เมฆ”
 สรุปว่านายเมฆรับหน้าที่ทำปกไป ส่วนข้างในสมุดเดี๋ยวกิ๊งเป็นคนทำเอง และพรุ่งนี้ตอนเช้ามาเจอกันก็จะนำมารวมเล่มและนำไปถ่ายเอกสารแจกจ่ายให้ทุกคนในเจอร์ได้ไปล่ารายชื่อรุ่นพี่
 
ส่วนผมเหรอครับ...อยู่นิ่งๆไว้เป็นดีที่สุด อย่าหาเหาใส่หัว อย่าหางานให้ตัวเองลำบาก
จะว่าผมเห็นแก่ตัวก็ได้นะ เหอๆ แต่ถึงให้ผมมาทำไรพวกนี้มันก็คงออกมาเละ สู้ให้ผมไปแบกของหรือเป็นตำแหน่งเจเนอรัลเบ๊ยังมีประโยชน์กว่า ใครใช้ทำอะไรขอเพียงแค่บอก ผมก็สามารถครับ .. นอกจากจะหล่อแล้วยังใจดีอีกนะเนี่ย คนแบบผมหาไม่ได้แล้วนะคร๊าบบบบบบบ
 
เมื่อตกลงกันเสร็จเรียบร้อยต่างคนก็ต่างแยกย้าย แต่ก็ยังมีบางส่วนที่คุยกันอยู่
“มึงชื่อแกรนด์ใช่มั้ย?”
ผมหันไปมองคนถาม ... ไอ้แทนนี่หว่า
“เออ”
“หึ ปีนเกลียวตั้งแต่เปิดเรียนเลยเหรอมึง ระวังเหอะ”
อ่าวไอ้ห่านี่...
ไอ้ทัชเห็นท่าไม่ดีจึงรีบมาขวาง
“มึงมีอะไรกับเพื่อนกูรึเปล่า? ถ้าไม่มีพวกกูขอตัว” ไอ้แทนยักไหล่ ทำหน้าเบะ ซึ่งแปลได้ว่า ‘ไม่มีแล้ว จะไปไหนก็เรื่องของพวกมึง’
แม่ง .. ดูกวนตีนมากในสายตาผม ยิ่งปากดีแบบนี้ด้วย ... สักวันเหอะมึงปากจะมีสี
 
 
 
Talk
แหะๆ อย่าเพิ่งเบื่อกันน้า

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.3 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา