i'm not&you don't [Yaoi NC18+] END หนังสือถามได้คะ

9.2

เขียนโดย Pierre

วันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2555 เวลา 02.28 น.

  49 chapter
  69 วิจารณ์
  260.02K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2559 22.56 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

33) 27 - Ordinary Day

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

27 - Ordinary Day

 

ผมรู้สึกตัว ลืมตาตื่น น่าแปลกที่คราวนี้ไม่ต้องอาศัยนาฬิกาปลุกที่แสนจะหนวกหูและน่ารำคาญในทุกๆเช้า ผมตื่นก่อนเวลาที่ตั้งไว้ เลยเอื้อมมือไปปิดก่อนที่มันจะดังแผดหูลั่นไปทั่วจนคนข้างๆต้องตื่นตาม

 

เพิ่งจะ6โมงกว่า

 

เมื่อคืนนอนหลับเต็มอิ่ม ไม่มีมือปลาหมึกหรืออาการกวนอะไรให้ระแวง เช้านี้ผมจึงตื่นขึ้นมาแบบสดใส ไร้อาการปวดตัวแต่อย่างใด

 

ผมลุกลงจากเตียงให้เบาและเงียบที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถอดเสื้อยืดโยนอย่างแม่นยำไปที่ตะกร้าผ้า เดินตรงไปประตูที่เชื่อมออกไปยังระเบียงเล็กๆ ที่ตรงนั้นผมไว้สำหรับตากเสื้อผ้าและมีหน้าต่างบานเล็กติดอยู่เพื่อให้ห้องได้มีอากาศถ่ายเทบ้าง

 

อากาศยามเช้า ไม่ร้อน ไม่หนาว ไม่มีมลพิษ กำลังดี ผมพิงตัวกับระเบียง สายตาทอดยาว ท้องฟ้า อาคารบ้านเพื่อน ผู้คนที่ตื่นเช้า แสงสีส้มจากพระอาทิตย์

 

แล้วนี่ผมมาเกิดอารมณ์ติสท์อะไรตอนนี้เนี้ย?

 

คงเป็นเพราะผมไม่เคยตื่นเช้าและได้มีโอกาสมามองอะไรแบบนี้บ่อยๆมั้งครับ ปกติตื่นก่อนเข้าเรียน5นาที อาบน้ำลวกๆ แต่งตัวแบบหลุดลุ่ยไปมหาลัย เอาหนังสือเข้าไปจองที่นั่งแล้วทำเป็นว่าขอตัวมาเข้าห้องน้ำ แต่อันที่จริงแอบไปซื้ออาหารเช้ามากินต่างหาก

 

แบบนี้รึเปล่าที่เค้าเรียกว่ามีความสุขโดยไม่ต้องอาศัยเงินทองหรือสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆทั้งสิ้น

 

ปัจจัยหลักที่ทำให้ผมมีความสุขแบบนี้ได้ก็คงไม่พ้นคนที่กำลังพิงตัวอยู่ข้างๆ

 

“ตื่นเช้า ไม่ยอมปลุก”

 

คนที่ได้ตำแหน่งแฟนสดๆร้อนๆพูดขึ้นลอยๆ ขณะที่สายตาก็มองไปเรื่อย ไม่เจาะจง

 

“ถ้าไม่ตื่นก่อนจะได้เห็นคนแถวนี้นอนน้ำลายไหลเหรอวะ ฮ่าๆๆ”

“มั่วละ ไม่มีเหอะ กูไม่เคยทำไรอุบาทว์ๆแบบนั้น”

“เหรออออออ” ลากเสียงยาวกวนตีนมัน

“มีแต่มึงอะดิ ฝันถึงกูน้ำลายเยิ้ม คราบติดเต็มแก้มเลยนะ” ไม่ว่าเปล่า ยืนยันด้วยการเอานิ้วมาจิ้มๆแถวแก้มผมอีก

“มั่ววะ กูล้างแล้วเถอะ ฮ่าๆๆๆ” ในเมื่อเล่นไอ้มาดหล่อนี้ไม่ได้ก็เล่นตัวเองซะเลย ฮ่าๆๆๆ หัวเราะจนคนข้างๆหัวเราะตาม

“ฮ่าๆๆๆๆๆๆ”

 

พอหัวเราะเสร็จแล้วเรา2คนก็เงียบ เหลือไว้แต่รอยยิ้มจางๆที่ใบหน้า

 

“เออนี่...ทำไมต้อง GP เป็น PG ไม่ได้เหรอ?” ไอ้เหี้ยพอสมันถาม ชูมือตัวเองขึ้นมาดูเล่น

“ไม่ได้ ชื่อพี่ต้องนำก่อนนะจ๊ะ” ผมแกล้งมันโดยการเอามือไปโอบเอว แต่เจ้าตัวก็ไม่มีทีท่าว่าจะปัดออกแต่อย่างใด แถมยิ้มชอบใจซะด้วย

“ได้ แต่พอบนเตียงมึงต้องเป็น PG นะ”

“ทำไมวะ? มันต่างกันยังไง”

“หึหึ” มันไม่ยอมตอบผม เอาแต่หัวเราะโรคจิตในลำคออยู่ได้

 

ใครก็ได้บอกผมที

 

 

 

พอถึงมหาลัยต่างคนก็ต่างขึ้นเรียนละครับ ไม่ปิดบังด้วยว่ามาด้วยกัน เดินเนียนตีคู่มาเลย หลายๆคนก็มองอะนะ แต่พอนึกถึงว่าขนาดไอ้คนหน้าหนาข้างๆมันยังไม่อายแล้วผมจะอายทำไม? แคร์คนอื่นทำไม? ไหนๆก็ไม่มีอะไรจะเสียแล้วนี่ ขอทำตามใจตัวเองหน่อยเถอะ

 

“ไปง้องอนกันถึงไหนจ๊ะ” โว้วววว เบื่อพวกมันจริงๆครับ ทันทีที่เห็นผมเดินเข้ามาในห้องก็ทำการเห่าหอน นี่คงกลายเป็นกิจวัตรประจำวันของพวกมันไปแล้ว คนเริ่มก็ไม่ใช่ใคร

 

ไอ้แทน

 

“เสือก”

 

“แต่ยังคงความดุไว้เหมือนเดิม ฮ่าๆๆๆ” ไอ้ทัชมันหันมามองผม สายตาเลื่อนไปที่นิ้วผมอย่างรวดเร็ว “เอ๊ะ...แหวน...”

“ไหนๆ แหวนอะไรอีก” ไอ้แทนรีบถลามาดูตามเลยครับ แต่ผมเบี่ยงตัวพร้อมกับมือ ไม่ให้มันเข้าถึงตัวง่ายๆ

“พอๆ กูบอกเอง ไม่ต้องซักไซ้เซ้าซี้ และที่สำคัญเลิกแซวได้แล้ว กูไม่สะทกสะท้านแล้วสัด” ผมหัวหน้ามาบอกพวกมันที่กำลังรอเสือก เอ๊ย รอฟังที่มาที่ไปของแหวนนี้

“เร็วๆ อย่าลีลา”

“เออ พี่พอสให้ จบ.” มีจุดฟูลสต๊อปเพื่อให้รู้ว่าจบประโยคแล้ว ฮ่าๆ

“โห่ยยย แค่เนี้ยะ?” ส้มโอมีทีท่าไม่พอใจ “แล้วไอ้ที่กูแนะนำไปเมื่อวาน ไหนๆ เล่าดิ๊ว่าง้อกันยังไง”

“ไม่มีไรมาก กูพาพี่พอสไปเลี้ยงตับห่าน”

“เหย็ดดดดดดดดดดดดดด”

“ในร้านอาหารสุดหรู”

“อู้วววววววววววววว”

“จานละพันห้า”

“ว้าวววววววววววววว”

“แต่พี่พอสจ่าย”

 

โครมมมมมมม

 

เสียงไอ้พวกที่กำลังนั่งรอผมเล่าตกเก้าอี้กับเป็นแถวๆ ฮ่าๆๆๆๆๆ

 

“มึงนี่นะ...กูว่าแล้ว...น้ำหน้าอย่างมึงคงไม่มีปัญหาจ่าย”

“แล้วพอกินตับห่านเสร็จพี่พอสกินตับมึงต่อปะอีแกน”

“ไม่โว๊ยยยยยยยยย พี่พอสไม่ได้หมกมุ่นเหมือนพวกมึงนะ”

“แน่ะๆๆ มีปกป้อง”

 

ชิบหาย นี่กลายเป็นว่ากูปกป้องมันอีก

 

“เอ...หรือว่า...” ไอ้แทนพูดค้างไว้ ก่อนจะก้มลงเขียนอะไรบางอย่างหลังชีท พวกผมนี่ก็บ้า รอมันเขียนเสร็จ มันชูขึ้นมา บนกระดาษนั้นมีตัวอักษรควายๆ(เหมือนคนเขียน)เขียนไว้ว่า

 

someone when one

 

“เน่าวะแทน” ส้มโอออกความเห็นก่อนใครเพื่อนทันทีที่อ่านจบ

“ใช่นี่ไหน วลีนี้อ่านว่า ‘ซั่ม วัน เว้น วัน’ ต่างหาก ดังนั้นการที่เมื่อคืนไอ้แกนไม่โดนกินตับ แสดงว่าคืนนี้มันต้องโดนแน่ๆ กร๊ากกกกกกกกกกกกกก”

 

เหี้ยแท๊นนนนนนนนนนนน

มึงนี่จังไรสัดๆ

 

พวกเพื่อนๆก็เอาแต่หัวเราะ ส่วนผมเหรอ....ได้แค่อาฆาต เก็บความแค้นนี้ไว้ชำระ หึหึ

ไอ้แทนเดี๋ยวเถอะมึง

 

แต่ยังไม่ทันที่จะได้อ้าปากอาจารย์ก็เข้าห้องมาซะแล้ว ทำให้พวกผมต้องหุบปากเงียบกันไปตามระเบียบ

 

 

 

หลังจากที่มีแฟนเป็นตัวเป็นตน ใช่ว่าชีวิตผมจะเปลี่ยนอะไรไปมากมาย แค่มีอีกชีวิตที่เข้ามาพ่วงด้วยแค่นั้น บางวันก็นอนหอ บางวันก็นอนคอนโด กินข้าวง่ายๆอย่างไข่เจียว หมูทอด หรือบางวันที่ไอ้คนรวยมันนึกครึ้มออกครึ้มใจก็จะพาไปกินชายสี่หมี่เกี๊ยวข้างทาง ไม่ก็ร้านอาหารหรูๆ แต่ผมไม่ชอบ มันไม่ใช่อะ มันเลยพาไปเลี้ยงบะหมี่บ่อยกว่า

 

ต่างคนต่างเรียน เพราะรู้ว่านี่คือสิ่งสำคัญที่สุด จะทอดทิ้งมันไม่ได้ ตัวไอ้เหี้ยพอสเองก็ปี3แล้ว เรียนหนักขึ้น งานเยอะขึ้น ไหนจะต้องทำวิจัยอะไรของมันอีก เป็นนักบาสก็ต้องไปซ้อม แต่บางวันมันก็แอบเลว โดดมาอยู่ที่หอผมซะงั้น

 

เรื่องผู้หญิงของผม...โดนไอ้พอสกำราบเรียบ!

ผมไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น ก็แม่งเล่นป่าวประกาศในเฟซบุค ทวิตเตอร์ อินสตาแกรม ไลน์ โซเชี่ยลเน็ตเวิร์คทุกแขนงว่า PG GP แกรนด์มีเจ้าของแล้ว ห้ามยุ่ง คือผมแอบเสียดายนิดๆแหละ อย่าไปบอกมันนะ

 

ตัวมันเองก็ไม่มีผู้หญิงมาเกาะแกะให้น่ารำคาญใจ

 

เรา2คนเข้าใจกันมากขึ้นนะ ไม่มีง้องแง้งหรืออาการงี่เง่าของพวกผู้หญิง ถ้ามันกลับดึกก็จะโทรมาบอกว่าให้กินข้าวเลยเพราะบางทีมันอาจติดงานหรือซ้อมบาส อย่างเช่นวันนี้

 

/แกรนด์เย็นนี้กินข้าวเลยนะ ไม่ต้องรอ...นอนหอใช่มั้ย?/

“ใช่”

/โอเค งั้นแค่นี้นะ โค้ชเรียกแล้ว/

 

ขณะนี้ผมกำลังรอเรียนวิชาต่อไปอยู่ที่หน้าห้อง กิ๊งกำลังกดบีบี เมฆกำลังอธิบายเรื่องอะไรสักอย่างให้เพื่อนในเจอร์ฟัง แทนเถียงกับส้มโอผิดกับไอ้ทัชที่กำลังหยอกล้อกับทิวาอยู่ตรงมุมโน้น

 

อ้าวเฮ้ย

 

พี่วอร์มกับซับน้ำคนนั้นนี่หว่า มาด้วยกันได้ไงวะ

 

ทั้งคู่เดินขึ้นบันไดมาด้วยกัน แต่สงสัยคงไม่เห็นผมละมั้งเพราะเดินขึ้นบันไดเพื่อไปยังชั้นต่อไปเลย

 

หึหึ แบบนี้มันต้องมีอะไรในกอไผ่อย่างแน่นอน ตั้งแต่รู้จักกับไอ้น้องหมิงไรนั่นรู้สึกคุณพี่รหัสจะหายหัวเลยนะครับ ผิดกับเมื่อก่อนที่มาป้วนเปี้ยนบ่อยๆ

 

“เฮ้ยแกรนด์ เย็นนี้ไอ้แต๊งมันชวนไปกินเหล้าร้านเดิมวะ” ไอ้ทัชมันเดินมาบอกผม

“เออก็ไปดิ”

 

ไหนๆเย็นนี้ไอ้พอสมันก็ต้องไปซ้อมบาสอยู่แล้ว สบายละงานนี้ ฮ่าๆๆๆๆๆ

 

นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่ผมกับมันแทบจะฆ่ากันตายคาห้อง สาเหตุเพราะไอ้เหี้ยพอสนั้นไม่อยากไปผมไปกินเหล้าโดยที่ไม่มีมันหรือถ้าให้ดีก็ห้ามกินเลย แต่ผมไม่พอใจเพราะแม่งกินได้แล้วทำไมถึงมาห้ามกูวะ?

 

จะให้กูไปนั่งแดกเป๊ปซี่เหรอไง

 

“มึงเลี้ยงนะ”

“ไม่ใช่ล่ะ ทำไมกูต้องเลี้ยง”

“ก็วันนี้วันเกิดมึง”

 

ครับ...วันนี้วันเกิดผม

 

“เออ ห่า แต่ถ้ากูไม่มีจ่ายมึงก็ออกไปก่อนนะ” ผมบอกมัน มันพยักหน้ารับรู้ก่อนจะเดินเข้าห้อง

 

เย็นนี้กูจะพกเงินแค่200 กร๊ากกกกกกกกกกก

 

ไม่ต้องแปลกใจหรอกครับที่ไม่มีใครรู้เรื่องวันเกิดผมเลยสักคน วันที่8เดือน8 มีคนรู้แค่พ่อ แม่ และก็เพื่อนเก่าอย่างทัช เต็ง แต๊ง บิ๊ก ตามประวัติในเฟซบุคอะไรพวกนี้ผมก็ไม่เคยใส่วันเกิดเลย ไม่ใช่อะไรหรอก ผมขี้เกียจน่ะ

 

และถึงแม้ผมจะไม่เคยบอกไอ้เหี้ยพอสเลยว่าผมเกิดวันไหน แต่บอกตามตรงว่าแอบหวังเล็กๆว่ามันอาจจะเซอไพรซ์อะไรผมก็ได้ จากเหตุการณ์ที่ผ่านมาก็พอจะรู้นิสัยมันเลยว่าชอบทำให้ผมแปลกใจอยู่เรื่อย

 

คืนนี้ต้องคอยดูละครับว่ามันจะทำอะไรให้ผมต้องประหลาดใจอีก

 

 

 

ร้านเดิม โต๊ะเดิม แต่หวังว่าคราวนี้คงไม่มีเรื่องชกต่อยเหมือนเดิมนะ

 

หลังจากผมกลับมาที่หอก็โทรมาผู้ให้กำเนิดทั้ง2 ได้รับคำอวยพรและพูดคุยกันให้หายคิดถึงจนผมเกือบน้ำตาไหล มันซึ้งจริงๆนะครับ จากนั้นก็ทำการแต่งตัวให้หล่อที่สุด เพราะวันนี้วันของผม ใครจะมาหล่อเกินหน้าเกินตาไม่ได้ สั่งไอ้พวกนั้นทางไลน์เรียบร้อยแล้วว่าให้แต่งซกมกที่สุด ค่ำคืนนี้สาวๆจะได้มารุมล้อมผมแต่เพียงผู้เดียว ฮ่าๆๆๆๆ

 

แล้วนั่น...ไอ้แต๊ง ไอ้เต็ง ไอ้ทัช ไอ้บิ๊ก....พวกเหรี้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

หล่อบาดตามาแต่ไกลเลยสาดดดดดดดดดดดด

 

ไอ้เพื่อนทรยศ!

 

“แกรนด์มาแว้วววววววววววววววววว” เสียงหลอนของไอ้แต๊งโหยหวนมาแต่ไกล ผมเดินตรงไปยังโต๊ะประจำที่มาทุกครั้งก็ต้องนั้งโต๊ะนี้

“พวกเชี่ย กูบอกแล้วไงว่าให้แต่งธรรมดาๆ เสือกจัดเต็มกันมาทุกคนเลยห่า”

“เอ้า วันเกิดมึงจะให้พวกกูแต่งซอมซ่อได้ไงวะ” ไอ้เต็งหนึ่งมันค้าน

“ใช่ๆ...อีกอย่างวันนี้มึงเลี้ยง...พวกกูต้องให้เกียรติเจ้าภาพ” คนตัวใหญ่ที่สุดในกลุ่มพูดก่อนจะกระดกเหล้าเข้าปาก

“มึงบอกพี่พอสรึยังว่าจะมา” สัดทัชครับ จะพูดทำเพื่อ?

“พี่พอส?....ผัวไอ้แกนเหรออออออออออ” เอาละไง ไอ้แต๊ง มันเริ่มทำตาหวานเยิ้มใส่ผม คาดว่าอีกไม่นานคงโดนซักประวัติไม่ต่างจากคราวที่แล้ว “ร้ายนะมึงหาผัวได้หล่อกว่ากูอีก”

“นับวันมึงยิ่งแรดนะแต๊ง” ขอบใจบิ๊กที่ช่วยด่ามัน

“ขอบคุณที่ชมคร๊า!!”

 

เอ่อ สงสัยมันคงเมาแล้วล่ะครับ เอ๊ะ หรือยังไงไม่เมา เรพาะปกติไอ้แต๊งมันก็รั่วๆแบบนี้อยู่แล้ว ฮ่าๆๆๆ ช่างมันเถอะ

 

“ไหนของขวัญวันเกิดกู เอามาเลยพวกมึง” ไหนๆก็ไหนๆละ ทวงของขวัญวันเกิดแม่งเลย

“อยู่ในรถว่ะ” ว่าที่สัตวแพทย์เป็นคนตอบขึ้นมาก่อน ท่าทางมันชิลๆ

“ไว้ค่อยให้พรุ่งนี้ กูขี้เกียจแบกมา” เออก็ดี เพราะยังไงถึงเอามาให้ผมก็แบกกลับหอไอ้ทัชมันอยู่ดี

“แล้วมึง2ตัวอะ” ผมหันไปหาอีก2คนที่ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้

“กูไม่รู้จะให้ไรมึงวะ อยากได้อะไรก็บอกละกัน” ไอ้บิ๊กบอก สไตล์ของมันก็แบบนี้ ดีแต่หาเรื่อง กับเพื่อนฝูงมันจะออกแนวสบายๆดูเหมือนไม่สนใจแต่ก็พร้อมที่จะทำร้ายคนที่มาทำร้ายเพื่อนมันก่อน

“งบ? ไม่อั้น?” ผมถามซ้ำ เผื่อบางทีจะได้ขอบ้านขอรถ กร๊ากกกกกก

“200”

“ทุ๊ย!”

 

เท่าเงินสดที่ผมเอามาวันนี้เลยนี่หว่า ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ

 

“แล้วมึงอะแต๊ง ไหนๆ ของขวัญกู เอามาเลย” ผมแบมือพร้อมกวักเข้าหาตัว

“เออน่า....กูไม่ลืมหรอก มินนี่กำลังเอามาให้”

“มินนี่?”

“ผัวมันไง พี่มิลเลียน ที่มึงต่อยคราวที่แล้วอะ” ไอ้บิ๊กขยายความ

 

อ้อออออออออออ

 

เอาละครับ พูดมากไม่ดี แดกเหล้ากันดีว่า

 

ถึงแม้จะวันเกิดแต่ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องกินเหล้าด้วย ทั้งๆที่มันส่งผลเสียต่อสุขภาพ ซึ่งเรื่องนี้ใครๆก็รู้ แต่...ช่างมันเถอะครับ

 

วันนี้มีดนตรีสดด้วย คนร้องเป็นผู้ชาย แอบเสียดายเล็กๆ แต่เสียงเพราะเลยทำเป็นไม่เห็น แก้วแล้วแก้วเหล้าที่ถูกส่งเข้ามาในมือทำเอาผมอยากจะถามไอ้คนชงว่านี่มึงไม่กลัวเปลืองเหล้าบ้างเหรอวะ?

 

แต่พอดื่มนานๆเข้า สติของไอ้แต๊งก็เริ่มไปแล้วครับ มันคออ่อนสุดแล้ว ไอ้เหี้ยนี่อะ

 

“พวกมึง กูมีอะไรมาให้เล่นแหละ คิคิ” ทุกคนหันไปมองคนพูดอย่างไอ้แต๊งทันที ใบหน้ามันแดงๆ มือถือแก้วเหล้า “ง่ายๆแค่นับเลข”

“ถ้าแค่นั้นจริงมึงไม่เอามาให้พวกกูเล่นหรอกมั้ง” เออว่ะทัช กูเห็นด้วย

“โธ่ ง่ายๆจริงๆนะ นับเลขกันไปเรื่อยๆ...เพียงแต่ห้ามพูดจำนวนที่มีเลข4หรือหารด้วย4ลงตัว โอเคป๊ะ?”

“แล้วถ้าไม่ให้พูดจะให้ทำอะไร”

“ก็พูดไรก็ด้ายยยยยย ที่ไม่ใช่จำนวนนั้นอะ”

“แล้วถ้าพูดจะถูกลงโทษยังไงวะ” ไอ้เต็งมันถาม เพราะมันยังแขยงเกมไพ่พระราชาคราวที่แล้วไม่หาย ฮ่าๆๆๆ

“เลือกอย่างใดอย่างหนึ่งระหว่างแดกเบียร์1แก้ว เหล้า1แก้วหรือตอบคำถามรอบวง แล้วก็ต้องนับเร็วๆด้วยนะจ๊ะ อย่าช้า ฮี่ฮี่”

 

ท่าทางง่าย ลองเล่นกับมันหน่อยก็ได้

 

เริ่มที่ไอ้ทัช

 

“1”

“2” ต่อด้วยผม

“3” ไอ้เต็งก็คงสบายๆ

“กูหล่อ” ไอ้คนตั้งกฎขึ้นมาเองไม่พูดเลข4แต่เสือกชมตัวเองซะงั้น

“5” ปิดท้ายด้วยบิ๊ก

“6” วนมาที่ไอ้ทัชอีกรอบ

“7” ผมไม่หลงกลมันหรอก ฮ่าๆๆๆ

“พรุ่งนี้มีแลบ”

“9”

“10”

“11”

“12”

 

“โดนแล้ววววววววววววววววววววววววววววว”

 

ชิบหาย 12 หาร4ลงตัวนี่หว่า กูพลาดได้ไงวะเนี่ยยยยยยยยย

 

“จะแดกหรือจะตอบคำถามพวกกูครับแกรนด์”

 

แน่นอนว่าผมเลือก

 

“แดกดิวะ” เรื่องไรจะให้พวกมันล้วงความลับผมง่ายๆล่ะ

 

ไอ้บิ๊กส่งเบียร์กับเหล้ามาอย่างละแก้ว เวรละ...เบียร์ กูยิ่งแพ้ง่ายๆ แต่ในเมื่อยังไหวอยู่ก็ต้องดื่มให้หมดแหละครับ ผมกระแทกแก้วเบียร์ลงบนโต๊ะต่อด้วยเหล้าทันที

 

อุแหวะ...เกือบอ้วก

 

มีหวังท่าพลาดอีก...อาจขย้อนของเก่าออกมาแบบไม่รู้ตัว

 

“ต่อๆ เต็งพูด13ต่อเลยยยย” ไอ้แต๊งมันว่า เหลือบมามองผมราวกับสมน้ำหน้า

 

เดี๋ยวก่อนเถอะมึงงงงงงง

 

“13”

“อะปู้วววววววววว” ศัพท์เชี่ยไรของมันว่ะ แต่นับว่าไอ้แต๊งมันยังมีสติดี ถ้าเป็นผมก็คงพลาดพูด14ไปอีก แต่อย่างว่าละนะ...มันเป็นคนเริ่มเกมนี้นี่หว่า แสดงว่ามันต้องเคยเล่นมาก่อนแล้วแน่ๆ

“15”

“เด็กเทคโนแม่งกวนส้นตีนกู” หืม ไอ้บิ๊กก็ยังไม่หลงกล หึหึ งานนี้ชักจะสนุกขึ้นเรื่อยๆ

“17”

“สะสิบ..18” แหะๆ แอบไม่มั่นใจนิดหน่อย

“19”

“21”

 

“22”

 

“พี่เบิ้มโดนมั่งแล้ว ฮ่าๆๆๆๆๆ” ไอ้แต๊งตะโกนขึ้นมา คนที่เพิ่งพูดว่า22ทำหน้างง “ก็มึงต้องพูดว่า22สิวะ จะนับข้ามเลขได้ไง”

“แต่มึงนับ21ไปแล้วนี่” ไอ้บิ๊กแย้ง

“เอ้าห่า กูไม่ได้บอกซะหน่อยว่าห้ามพูดเลขต่อไป”

“สัด”

“ไม่ต้องด่าเลยยยยย จะแดกหรือจะตอบคำถาม” ไอ้บิ๊กไม่ตอบ แต่เอื้อมมือไปหยิบแก้วเหล้ากับเบียร์แล้วครับ

 

หึหึ...แล้วมึงจะได้รู้สึกแบบที่กูรู้สึกว่ะบิ๊กเพื่อนยาก

 

พอมันแดกเหล้าหมดต่อด้วยเบียร์ มันทำหน้าพะอืดพะอม แอบสงสารมันนิดๆ แต่เกมนี้ตัวใครตัวมันแหละครับ

 

ยิ่งตัวเลขเยอะพวกผมก็ยิ่งมึน บวกกับต้องนับเร็วๆห้ามหยุด ทำให้ไม่มีเวลาได้มานั่งหารหรอกว่าไอ้เลขนี้4หารลงตัวมั้ย หรือมีเลข4อยู่ในจำนวนด้วยรึเปล่า แต่ขอบอกเลยว่าเกมนี้ไอ้คนชวนเล่นมันไม่พลาดเลยสักครั้ง แต่ผมเนี่ยสิ...

 

กูจะอ้วกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

 

แต่ก็ยังต้องฝืนเล่นต่อไป ไม่ยอมแพ้ง่ายๆหรอกโว๊ยยยย รู้จักกูน้อยไปซะและ

 

ส่วนไอ้ทัช ขนาดที่ว่ามันคอแข็งทั้งเบียร์ทั้งเหล้า ยังเลือกที่จะตอบคำถามเหมือนเต็งหนึ่งเลยครับ

 

“กูขอถาม...ทำไมปลาต้องวางไข่?” นายบิ๊กเป็นคนเริ่มถาม

“เพราะถ้าโยน ไข่จะแตก” ไอ้เต็งตอบหน้านิ่ง แต่ไอ้คนถามเนี่ยดิ ท่าทางมันผิดหวังมาก ฮ่าๆๆๆ

 

ตากูม่างงง

 

“ชมรมดนตรีไทยกลัวชมรมอะไร?”

“ชมรมจิ๊กซอ”

 

เหยดดดดดดดดดดด ตอบได้ด้วย

 

“อาวช้างส่ายยยตู้เย็น มีกี่ขั้นตอนนน? คิคิ เต็งหนึ่งตอบไม่ได้แน่” แต๊งกิ้วถามเสียงอ้อแอ้...ไหวมั้ยมึง ขนาดไม่พลาดเลยสักครั้ง แต่เสือกแดกเล่นเองซะงั้น

“3ขั้น”

“จงอธิบายยยย” แน่ะ มีเล่นต่อ

“เปิดตู้เย็น เอาช้างใส่ ปิดตู้เย็น”

“ง้านนนน เอายีราฟใส่ตู้เย็นอะ มีกี่ขั้นตอนนนน”

“4 .. เปิดตู้เย็น เอาช้างออก ใส่ยีราฟ ปิดตู้เย็น” อธิบายพร้อมเลยครับ

“แล้วยีราฟวิ่งแข่งกับเต่า ครายชนะ?”

“เต่า เพราะยีราฟถูกแช่อยู่ในตู้เย็นเมื่อกี้”

 

“เมพขิงๆเลยเพื่อนกู ฮ่าๆๆๆๆๆๆ” ผมชมมัน เจ้าตัวเลยชนแก้วกับผมซะหน่อย

 

แกร๊งงงง

 

“แน่นอน ระดับนี้ล่ะ”

 

“เฮ้ยๆ เหลือกู” ไอ้ทัชรีบขัด

“ถามมาดิ”

“คำว่าอิ่ม ในภาษาญี่ปุ่นพูดยังไง”

 

คราวนี้คนที่ตอบคำถามมาได้ตลอดนิ่งครับ เอาละสิ จะมาตกม้าตายเพราะคำถามนี้เหรอวะ กูตอบได้นะ หึหึ ทุกคนนั่งลุ้นว่ามันจะตอบได้รึเปล่า

 

“อิ่มจัง”

 

“สวดยอดดดดดด สมกับที่ฉลาดที่สุดในกลุ่ม กร๊ากกกกกกกก”

 

 

แล้วพวกผมก็เล่นต่อไปเรื่อยๆครับ เดี๋ยวไอ้บิ๊กพลาดบ้าง ทัชเผลอบ้าง จะเอาอะไรกับคนเมาละคร้าบบบบ แต่ผมยังไหวอยู่น้า ฮ่าๆๆๆๆ

 

“เนื่องในวันนี้เป็นวันครบรอบวันเกิดของคุณแกรนด์ครับ”

 

หืมมมม? ไอ้นักร้องบนเวทีมันพูดว่าอะไรนะ?

 

“ผมเลยอยากจะอนุญาตเล่นเพลงให้สักหน่อยครับ เป็นเพลงที่ยาก หลายคนอาจจะร้องไม่ได้ แต่ก็ขอให้ทุกคนร่วมกันอวยพรให้คุณแกรนด์โต๊ะ5ด้วยนะครับ”

 

เอาละไง สาดดด กูไม่อยากเด่นนะโว๊ยยยยยยยยยยย

 

ผมหันไปมองเพื่อนๆแต่ละคนที่ยิ้มๆ แต่จู่ๆไอ้แต๊งก็หายไปและมันกลับมาพร้อมกับเค้กในมือที่จุดเทียนไว้เรียบร้อยแล้ว แถมคนช่วยถือก็ไม่ใช่ใคร พี่มิลนั่นเอง

 

ตอนนี้ทั้งร้านเงียบ รอคอยให้นักร้องบนเวทีกับโต๊ะผมได้เป่าเทียน

 

“Happy birthday to you…happy birthday to you...happy birthday happy birthday…happy birthday to you…”

 

ไหนว่าจะร้องเพลงที่ยากไงวะ นักร้องแม่งกวนตีน

 

เพลงวนซ้ำอีกรอบ คราวนี้ทั้งร้านช่วยกันร้อง ไอ้เพื่อนตัวดี4คนก็ทั้งร้องทั้งปรบมือให้ ตัวผมก็ได้แต่นั่งก้มหน้าจ้องเค้กที่วางบนโต๊ะ ขนาดราวๆ8ปอนด์ ใหญ่มาก วางเกือบเต็มโต๊ะแน่ะ

 

อยากจะบอกว่าเป็นเค้กที่แต่งหน้าได้อุบาทว์ที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาเลยละครับ

แต่ผมก็ชอบเค้กก้อนนี้มากที่สุดเหมือนกัน

 

ลายมือหวัดๆบ่งบอกว่าเนี้ยแหละว่าที่แพทย์ของไอ้เต็งหนึ่ง...

ลายมือราวกับเด็กอนุบาลของคนโตแต่ตัวอย่างไอ้บิ๊ก...

ลายมือที่ยิ่งกว่าไก่เขี่ยของไอ้แต๊งกิ้ว...

และสุดท้าย ลายมือที่คุ้นตาเพราะลอกงานมันจนชินอย่างไอ้ทัช...

 

พวกมันเขียนอวยพรบนหน้าเค้กได้เละตุ้มเป๊ะ แต่ยังดีที่แยกสีให้รู้ว่าประโยคไหนเป็นของใคร แถมด้วยรูปผมที่เป็นไอ้ก้างจากเส้น5เส้นมีวงกลมหนึ่งวงให้รู้ว่านี่คือหัว จุด2จุดบ่งบอกว่านี่คือตา และเส้นโค้งเล็กๆที่ไม่ต้องถามก็รู้ว่านี่คือปากที่กำลังยิ้ม

 

“ไอ้เหี้ย อย่ามาทำซึ้ง รีบๆอธิษฐานแล้วเป่าเทียนซะ”

 

เทียนเล่มเล็กหลากสีถูกปักเป็นวงกลมรอบนอก จำนวนเท่าอายุผม...19ปี

 

กูจะเป่าหมดในคราวเดียวมั้ยเนี่ย?

 

ผมหลับตา อธิษฐานเพียงครู่เดียวเท่านั้น ก่อนจะโน้มตัวเป่าเค้กก้อนโตที่วางอยู่ตรงหน้า

 

“ฟู่ววววววววววววว”

 

“เฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ”

 

เทียนดับหมดทุกเล่มครับ

ขอบคุณที่พวกมันไม่นึกแกล้งโดยเอาเทียนที่เป่าไม่มีวันดับมาใช้

 

“มีความสุขมากๆนะมึง แล้วก็ไม่ต้องใช้โควต้าในมหาลัยเต็ม8ปีหรอกนะ ขอให้จบภายใน4ปีเถอะวะ มีไรไม่เข้าใจตรงไหนก็ถามกูได้” คำอวยพรจากเต็งหนึ่งพร้อกับแรงตบที่หลังเบาๆ

“ขอให้หล่อๆรวยๆคว-แข็งๆ พี่พอสรักพี่พอสหลงนะโว๊ย แล้วก็อย่ามาต่อยมินนี่ของกูอีกละ หมาในปากก็ลดๆลงหน่อย ฮ่าๆๆๆๆๆ”

“สัดแต๊ง กูจะต่อยมึงแทนเนี่ยแหละ ฮ่าๆๆ” ถึงจะด่า แต่ผมก็หัวเราะไปกับมันครับ

“มีเรื่องไรก็บอกกูได้เสมอว่ะ แต่ให้ดีที่สุดก็อย่ามีเรื่องเลยนะมึง” ไอ้บิ๊กบอกยิ้มๆ มันคงเตือนตัวเองด้วยแหละ

“กูไม่อวยพรมึงหรอกนะ เพราะยังไงปีหน้าก็ต้องอวยพรมึงอีก” ก็จริงของมัน ยังไงผมก็ต้องเจอหน้ามันเกือบทุกวันอยู่ละ จะอวยพรไรให้มากมาย

 

หลายๆคนในร้านก็ร่วมตะโกนอวยพรส่งมาถึงผม นักร้องบนเวทีก็เริ่มร้องเพลงถัดไปแล้วครับ

 

“ว่าแต่เค้ก...พวกมึงทำเหรอว่ะ?” ผมถามแล้วมองหน้าเรียงตัว

“ใช่ที่ไหนสัด อยากท้องเสียในวันเกิดเหรอไง”

“แล้วไป” ผมมองก้อนเค้กตรงหน้า แล้วหันไปมองขวดเหล้า ขวดโซดา ถังน้ำแข็งข้างๆ “เอ่อ กินเค้กกับเหล้า? เข้ากันมากเลยวะ”

“แดกพอเป็นพิธีโว๊ยยย ที่เหลือก็เก็บกลับหอมึงไป”

 

ถึงจะพูดแบบนั้น แต่สุดท้ายแล้ว...ก็ไม่พ้นต้องแดกกับเหล้าพ่วงด้วยการปาเค้กหรือเอาครีมป้ายหน้านั่นแหละครับ

 

แผละ!

 

อื้มมมมมมมม

 

ผมค่อยๆลูบเนื้อครีมบนใบหน้าช้าๆ...

 

“เต็มหน้ากูเลยไอ้สาดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!!!!!!!!”

 

“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”

 

 

 

 

เล่นไรไม่รู้เรื่องไอ้พวกนี้ แล้วคราบครีมมันล้างออกง่ายๆซะที่ไหน

 

ผมเดินมายังห้องน้ำ ปล่อยให้พวกมันเล่นกันไป แต่ผมไม่ไหวล่ะ รู้สึกอยากอ้วกมากๆอะ ทั้งเค้ก ทั้งเบียร์ ไหนจะเหล้าอีก เมื่อถึงอ่างล้างหน้าก็จัดการวักน้ำให้กระทบหน้าเต็มๆ เปิดก๊อกน้ำทิ้งอย่างไม่กลัวว่าจะเปลืองสักแค่ไหน เอามือรองแล้ววักเข้าหน้า ทำแบบนั้นอยู่หลายครั้ง ถูๆไถๆให้คราบครีมออกไป เงยหน้ามาส่องกระจกพอเป็นพิธี

 

เฮือกก!!

 

เงาในกระจกกำลังสะท้อนภาพของผมและใครบางคนที่ยืนซ้อนด้านหลัง

 

พี่ฮาร์ท

 

มาตั้งแต่เมื่อไหร่วะ?

 

ผมจ้องมองคนที่ตัดสกินเฮดในกระจก ส่วนเจ้าตัวก็จ้องกลับมาที่ผมผ่านกระจกเช่นกัน

 

ผมตัดสินใจปิดก๊อกน้ำ และทำการเดินเลี่ยงออกมา

 

ใบหน้าพี่ฮาร์ทดุดัน ราวกับจะฆ่าใครได้

 

การที่อยู่ด้วยกัน2คนแบบนี้ ไม่ดีเลย...ผมไม่อยากมีเรื่องกับเพื่อนของไอ้เหี้ยพอสตอนที่มันไม่อยู่หรอกนะ

 

แต่แล้วก็มีแรงดึงที่ต้นแขน รัดแน่นซะยิ่งกว่าคีม ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าพี่ฮาร์ทเป็นคนรั้งไว้แน่ๆ ผมหันกลับไปเผชิญ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ผมไม่หนีปัญหาอยู่แล้ว สู้เคลียร์กันตรงๆเลยดีกว่า

 

“เลิกกับไอ้พอสซะ อย่าทำให้มันเป็นเกย์เหมือนมึง!”

 

น่าแปลกที่ผมไม่เจ็บกับคำพูดนั้นเลย ยิ้มเยาะกลับด้วยซ้ำ

 

“เหอะๆ ไปบอกพี่พอสเองดีกว่ามั้ยครับ? เพราะรู้สึกว่าพี่พอสเค้าจะรักผมมากเหลือเกิน แบบว่าขาดไม่ได้เลยล่ะ”

 

“มึง!!!”

 

แรงรัดที่แขนกระชากผมเข้าไปใกล้ อีกมือเงื้อขึ้นมากำหมัดแน่น แต่ก็ค้างไว้แค่นั้น

 

“พวกวิปริตอย่างมึง ไอ้พอสมันก็แค่อยากลองของไม่ได้จริงจังอะไรด้วยหรอก...คนสุดท้ายที่เป็นตัวจริงของมันยังไงก็ต้องเป็นหมอน!!” พี่ฮาร์ทขู่เสียงต่ำ

 

หมอน...?

 

“หน้าอย่างมึงคงโดนไอ้พอสหลอกเอาละซิ ซื้อใจด้วยแหวนกับคำพูดหวานเน่าๆนั่น...เหอะ กูเห็นแล้วสมเพชมึงว่ะ” สายตาของคนที่กำลังชมขู่ผมเลื่อนลงไปที่นิ้วนาง “แต่กูจะบอกอะไรให้เอาบุญนะ...คนที่ไอ้พอสมันรักมากที่สุดก็คือผู้หญิงที่ชื่อหมอน!! 2คนนี้รักกันมาก แม้แต่มึงที่เป็นเกย์ก็ไม่สามารถมาแทรกความรักของ2คนนี้ได้!”

 

ผมก้มหน้า หูได้ยินที่พี่ฮาร์ทพูดทุกอย่าง

 

“แล้วไงล่ะครับ? ไหนล่ะหมอน...ทุกวันนี้ผมยังไม่เคยได้ยินคนชื่อหมอนออกมาจากปากพี่พอสเลย”

 

ขอโทษเถอะ กูไม่ได้เป็นนางเอกละครหลังข่าวนะสัด

 

“อ้อ...หรือว่าพี่เองนั่นแหละที่แอบชอบคนชื่อหมอนใช่มั้ย? เหอะๆ”

 

ผลั่กกกกกกกก!!!

 

“ไอ้สัด เกย์อย่างมึงไม่ต้องมาทำเป็นรู้ดี!!!!!”

 

ถึงจะเจ็บตัว ไอ้พี่ฮาร์ทแม่งเหวี่ยงผมกระแทกกับประตูห้องน้ำเต็มๆ แต่ก็คุ้ม....แม่งเสือกรักคนชื่อหมอน แต่ผู้หญิงดันมารักไอ้เหี้ยพอสสินะ

 

แต่ไม่รู้ว่าไอ้เหี้ยพอสมันรักตอบรึเปล่าเนี่ยสิ....

 

“หน้าอย่างมึงคงไม่รู้สินะว่าเป็นของเล่นให้ไอ้พอส....เดี๋ยวกูจะช่วยตอกย้ำสถานะนั้นเอง!!”

 

ไอ้พี่ฮาร์ทมันตัวโตกว่าผม จับหิ้วปีกผมขึ้นมา จิกหัวกระแทกไปกับผนังห้องน้ำ

 

“บางทีมึงอาจจะชอบคว-กูมากกว่าของไอ้พอสมันก็ได้นะ” ไอ้เหี้ยฮาร์ทกระซิบใส่หูผม ล๊อกมือทั้ง2ข้างไว้ด้วยกัน

 

“ไอ้เหี้ย!!! ปล่อย!!!!!!” ผมดิ้นสุดแรงเกิด แต่ดูเหมือนไอ้เหี้ยที่กำลังโมโหจนหน้ามืดตามัวจะไม่กระเทือนเลยสักนิดเดียว “ไหนว่ารังเกียจเกย์ไงไอ้สัด!!!”

 

“กูอยากลองของแปลก” ไม่พูดเปล่า มืออีกข้างของมันปลดเข็มขัดผมแล้ว

 

สัดเอ๊ยยย!!

 

เอาไงดีวะ ทำไงดี ไอ้พวกเพื่อนข้างนอกมันจะรู้มั้ยว่ากูกำลังโดนอะไรอยู่

 

งานนี้ต้องพึ่งตัวเองสินะ คงไม่มีแบบในละคร ที่จะมีคนมาขวางไว้ได้ทัน

 

ผมนิ่ง ไม่ดิ้น ไม่ขัดขืนอะไรทั้งนั้น

 

“สงบแล้วเหรอ ใจจริงก็อยากโดนนี่หว่า เหอะๆ แล้วมาทำเป็นเล่นตัว”

 

“ไม่ว่ากูจะโดนใครเอา กูก็ยังจะรักพี่พอสเหมือนเดิม”

 

คนกำลังปลดซิบกางเกงนิ่ง

 

“มึงรักมัน แต่มันจะทนให้เมียตัวเองเป็นเมียคนอื่นได้อีกเหรอไงไอ้สัด!!” มันกระชากตัวผมให้ออกจากผนัง จ้องเข้ามานัยน์ตา

 

ลึกๆแล้ว...ผมว่าพี่ฮาร์ทเองก็คงเสียใจ

 

“กูไม่รู้ กูรู้แต่ว่าไม่ว่าจะเป็นยังไง...กูก็ยังจะรักพี่พอส...ต่อให้มันเกลียดกูก็ตาม”

 

“ไอ้เหี้ยเอ๊ยยยย!! ทำไมถึงมีแต่คนรักมันวะ!!”

 

ปึงงงงงง!!!!

 

เสียงดังสนั่นเพราะหมัดที่กระทบเข้ากับผนังกำแพง เฉียดหน้าผมไปนิดเดียว ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าหมัดนั้นโดนหน้าผมเต็มๆจะเป็นยังไง

 

“ออกไป!! ก่อนที่กูจะฆ่ามึง!”

 

ไม่ต้องย้ำซ้ำสอง ผมเดินออกมาจากห้องน้ำ ปล่อยให้อีกคนบ้าอาละวาดอยู่ในนั้น

 

เมื่อจัดการซิบกางเกงกับเข็มขัดให้เข้าที่เข้าทางก่อนจะเดินไปยังโต๊ะ ซึ่งผ่านโต๊ะเดิมคราวก่อนที่เพื่อนๆไอ้เหี้ยพอสนั่งด้วย สังเกตว่าพวกมันแต่ละคนมองตามผม แต่ก็ไม่พูดอะไร

 

ไอ้เหี้ยฮาร์ทคงมาพร้อมกับพวกนี้สินะ

 

แม่งงง วันเกิดกูแท้ๆ ทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วยวะ

 

เมื่อมาถึงโต๊ะก็ตวัดสายตาไปยังพี่มิลที่นั่งอยู่กับไอ้แต๊งแบบไม่รู้เรื่องรู้ราว

 

“จะต่อยกูเหรอครับ เมียไอ้พอส” ถ้าจะมีมวยงานนี้กูก็ไม่ได้ปากหมาใส่ใครก่อนละกัน “แต่วันนี้วันเกิดมึงนี่” ไอ้พี่มิลมองมาที่ผมซึ่งไม่โต้ตอบอะไร

 

เหี้ยทั้งกลุ่ม

 

คำนิยามสำหรับพวกเพื่อนไอ้พอส

 

ผมมองซากที่เกลื่อนเต็มโต๊ะ เค้ก8ปอนด์ที่กินไปไม่ถึงปอนด์ ส่วนที่เหลือก็เอามาปาเล่น เจริญจริงๆพวกกู ให้แดกเหล้าต่อก็ไม่มีอารมณ์จะกินละ

 

“กูกลับแล้วสัด...ฝากเคลียร์บิลด้วย พรุ่งนี้ให้ไอ้ทัชมาเก็บกะกูที่ม.”

“อ้าวเฮ้ย ทำไมรีบกลับวะ?” ไอ้บิ๊กถามอย่างงงๆ

“ไม่มีรมณ์จะอยู่ต่อ” ผมตอบ พลางชำเลืองมองไปอีกโต๊ะ ที่คาดว่าไอ้เหี้ยที่เกลียดเกย์เข้ากระดูกดำมันกำลังมองผมอย่างอาฆาตแค้น

“กรรม ไหงเป็นงั้น แค่ไปเข้าห้องน้ำมาอารมณ์เปลี่ยนเลยเหรอแกนน้อย” ไอ้แต๊งมันยังไม่รู้ถึงวีรกรรมเพื่อนผัวตัวเอง มันถึงได้ล้อแบบนั้น

“กูไปละ กลับแท็กซี่ได้ มึงแดกต่อเถอะ” ผมหันไปบอกคนที่จะต้องส่งผมทุกครั้ง แต่ครั้งนี้ กูขอกลับเองเถอะวะทัช ไม่อยากขัดความสนุกของพวกมัน

 

ผมเดินออกมาข้างนอกร้าน มีแท็กซี่แล่นมาหน้าร้านพอดี ผมกำลังจะโบกมือเรียกแต่ทว่าโดนใครบางคนดึงตัวไปซะก่อน

 

“กูไปส่งเอง”

 

ผมอาจจะบ้าหรือประสาทเสียไปแล้วก็ได้ที่ยอมเดินตามไอ้พี่ฮาร์ทมาขึ้นรถสปอร์ตสีเหลืองที่จอดโดดเด่นอยู่คันเดียว

 

มีเพียงแค่เสียงผมที่คอยบอกเส้นทางเป็นระยะๆ ส่วนคนขับก็เงียบตลอด ข้อนิ้วที่กำพวงมาลัยมีเลือดไหลย้อย แต่ดูท่าเจ้าตัวจะไม่สนใจ

 

แล้วผมจะไปสนใจทำไม? ต่อยเองเจ็บเองโง่เอง

 

มีบางสิ่งบางอย่างกวนใจผม

 

ทั้งด่า ทั้งจะเอาตูด ทั้งจะต่อย ทำร้ายสารพัด แต่ทำไมสุดท้ายแล้วแม่งต้องมาส่งกูเนี่ย?

 

อ้อ อีกเรื่อง

 

ทำไมไอ้เหี้ยพอสไม่โทรตามผมเลย นี่มันก็เที่ยงคืนแล้ว ถ้ามันกลับหอแล้วไม่เห็นผมมันต้องโทรโวยวายตามตัวแล้วดิ แต่นี่กลับไม่มีมิสคอลสักสาย

 

“จอดตรงนี้แหละ” ผมชี้บอกให้มันจอดริมฟุตบาทหน้าซอย เดี๋ยวเดินเข้าไปเอง

 

“ไอ้พอสรักหมอนมาก กูเตือนมึงไว้แค่นี้แหละ” มันพูดขึ้นมาลอยๆตอนที่เหยียบเบรค “ลงไปได้ละ เสนียดติดรถ ต้องเอาไปล้างฆ่าเชื้อ”

 

ผมไม่ขอบคุณมันหรอกนะ เสือกดึงกูขึ้นรถ มาส่งก็จริงแต่ทิ้งท้ายไว้แบบนั้นใครจะไปอยากขอบคุณกันละ

 

เดินเข้าซอยไม่กี่เมตรก็ถึงหอ กดลิฟท์แบบเนือยๆ

 

ทำไมวันนี้กูรู้สึกเหนื่อยจังวะ?

 

ขาก้าวไปตามทาง หยุดที่หน้าประตูห้องกำลังจะไขกุญแจ

 

“ครับหมอน...บายครับ”

 

เสียงไอ้พอสที่ลอดออกมาทำเอาผมตัวชาวาบ แต่ผมก็เลือกที่จะเปิดประตูเข้าไปเลย

 

คนที่อยู่ก่อนแล้วกำลังนั่งบนเตียง มีเพียงบ๊อกเซอร์ตัวเดียวที่สวมอยู่ เมื่อมันเห็นหน้าผมก็พูดขึ้นมาทันที แม้ในมือจะกำไอโฟนไว้

 

“สัด ออกไปแดกเหล้า เดี๋ยวเถอะ”

 

ผมไม่โต้ตอบอะไร

 

“ไปไม่บอกไม่ชวน น้อยใจวะ”

 

เดินไปยังห้องน้ำ หวังจะชำระร่างกาย เผื่ออะไรที่ๆหนักอึ้งอยู่ในอกจะได้ผ่อนเบาลงบ้าง

 

“เป็นใบ้เหรอวะ กูพูดดีด้วยไม่พูด” น้ำเสียงมันเข้มขึ้น ต่างจากประโยคแรกที่มันทัก ผมพาดผ้าเช็ดตัวบนไหล่ เอ่ยถามมันทั้งๆที่หันหลังแบบนั้น

 

“มึงรู้มั้ยวันนี้วันอะไร?”

“ก็วันพฤหัส”

“ไม่ใช่”

“ก็วันที่8 วันธรรมดาๆไม่ใช่เหรอวะ?”

“วันนี้วันเกิดกู”

 

ปึง!

 

ผมปิดประตูห้องน้ำ ไม่อยากรับรู้ว่าไอ้คนที่เพิ่งคุยโทรศัพท์กับใครบางคนเสร็จจะทำหน้ายังไง

 

เซอไพรซ์ได้สุดยอดเลยวะไอ้เหี้ยพอส

 

 

 

 

 

 

Talk

ขออภัยคะที่หายไปหลายวัน

แบบว่าอ่านนิยายที่เหมามาจากงานหนังสือแบบลืมวันลืมคืน แหะๆ

ตอนนี้เอ่าไปเต็มตอนเลยละกันนะคะ ^^

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.3 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา