i'm not&you don't [Yaoi NC18+] END หนังสือถามได้คะ

9.2

เขียนโดย Pierre

วันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2555 เวลา 02.28 น.

  49 chapter
  69 วิจารณ์
  260.56K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2559 22.56 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

32) 26 - I'm yours (2)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

26 - I'm yours (2)

 

 

“แล้วทำไมถึงไม่ยอมรับโทรศัพท์ ไม่ตอบไลน์ แถมยังหลบหน้าด้วย”

“อะไร๊ เปล๊า” เสียงสูงเป็นผู้หญิงเชียวมึง

 

ผมเหลือบมองไอ้คนที่กำลังขับรถกลับคอนโดอย่างช้าๆ ไม่คุ้มค่ากับความแรงของรถที่เสียเงินเป็นล้านๆแลกมา แต่ผมจะไปว่าอะไรได้ละครับ ในเมื่อรถก็รถมันนี่

 

มุมปากของคนที่กำลังขับรถยกสูงขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ .. หรืออาจจะตั้งใจ...

 

สรุปแล้วด้วยบัตรเครดิตรูดปรี๊ดๆ จ่ายแทนเงินสดได้ดั่งใจของคุณชายพอสก็ถูกนำออกมาชดใช้ค่าตับห่านที่เสียหายด้วยฝีมือผมและมัน แต่ตัวเลขที่น่าหวาดเสียวนั่น...ผมว่าไม่ใช่แค่ค่าตับห่าน2จาน พ่วงด้วยของหวานอีก2ที่หรอกมั้ง...

 

ออฟชั่นเสริม...พายแอ๊ปเปิ้ลแถมแหวน...

 

“ก็เห็นๆอยู่ว่าอ่านไลน์แล้วเสือกไม่ตอบ”

“สงสัยไอ้พวกเพื่อนๆเอาไปเล่นมั้ง”

“ไอโฟนสาธารณะเหรอสัด”

“กูรวย”

 

ฟัคยู

 

“หึหึ แต่แบบนี้ก็ดีนะ...”

 

ดีไรของมันวะ

 

“จะได้รู้ว่ามีใครบางคนถึงขนาดลงทุนตามง้อถึงที่ แถมยังจะเลี้ยงข้าวด้วยไง ฮ่าๆๆๆๆๆ”

 

อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

เชี่ยแม้ง กูโดดลงจากรถตอนนี้ทันปะวะ?

 

อย่าดีกว่า...เดี๋ยวศพไม่หล่อ

 

“เงิบสิมึง”

“เงิบเหี้ยไร”

“แน่ะ เขิน ทำเขิน ด่าแก้เขิน เอาเข้าไป”

“พ่อง”

 

โอ๊ยแม่ง ทำไมกวนตีนแบบนี้วะ ทักษะกวนประสาทไอ้คนข้างตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆตั้งแต่ผมรู้จักมันนะเนี่ย และดูเหมือนว่าสกิลปากหมาผมจะหดลงเรื่อยๆเช่นกัน

 

อ้อ สกิลน้ำเน่าด้วยนะ นับวันยิ่งส่งกลิ่นเหม็นแรงมากกว่าเดิม (แต่ก็ชอบ กรั่กๆๆ)

 

แหวนที่ทำขึ้นด้วยเส้ยด้ายขาวและแดงเลือดหมูเจ้าปัญหานั้น ผมตัดสินใจเก็บไว้ในกระเป๋าสตางค์...ไม่ใช่อะไร กลัวแหวนมันน้อยใจ เดี๋ยวหาว่ามีแหวนใหม่ หรูกว่า สวยกว่า ถูกใจกว่าแล้วทิ้งๆขว้างๆ ไม่สนใจใยดีมัน

 

คราวนี้คงดีขึ้น แต่ก็คงหลบไม่พ้นไอ้พวกเพื่อนๆตัวดีที่ตั้งท่าจะแซวอย่างเดียว

 

“นี่ กูกลับหอนะ”

“ไมอะ”

“จะเล่นเกม นัดพวกไอ้แต๊งไว้แล้ว”

“คิดเหรอว่าคืนนี้จะได้เล่น”

 

เอาแล้วครับ น้ำเสียงแบบนี้ .. รอยยิ้มเจ้าเล่ห์แบบนี้....

 

“มึงยังไม่อิ่มเหรอ?”

“อิ่มแล้ว”

“แล้วจะมากินตับกูทำไม”

 

ไอ้เหี้ยพอสหันมามองหน้าผมแบบตรงๆเลยครับ ดีที่ว่าติดไฟแดง

 

“ตับมึงกูกินได้ไม่มีเบื่อไม่มีอิ่มหรอก”

 

ผมละเบื่อไอ้เหี้ยพอสจริงๆ ยิ่งอยู่กับมันผมยิ่งกลายเป็นคนหน้าบาง แถมยังจะเข้าสู่โหมดสาวน้อยได้ง่ายๆ

 

เห้ออออออออออออออ

 

แม่งไปแอบเรียนเคล็ดลับวิชาสยบใจชาย(?)มาจากไหนวะ เตรียมการไว้เรียบร้อย แหวน ร้านอาหารหรูๆ แกล้งงอนให้ผมง้อ และตบท้ายด้วยคำพูดหวานหูจนจะอ้วก เชื่อว่าผู้หญิงหลายๆท่านคงยอมแลกกับอะไรก็ได้เพื่อมาแทนที่ผมและถ้าผมเป็นผู้หญิงปฏิกิริยาตอบรับคงจะดีกว่านี้

 

คุณอย่ารู้เลยว่าพอมันพูดจบ อาการตอบรับของผมมันเป็นยังไง

เชื่อผมเถอะ มันไม่ดีต่อสุขภาพจิตคุณหรอกครับ

 

 

 

ไม่นานนักก็ถึง...หอผม

 

“อ่าว ไหนว่าจะกลับคอนโดมึงไง”

“กูเป็นผัวที่ดี ตามใจเมีย และเมื่อเมียติดเกมก็ต้องเข้าใจ”

“ใครเมียมึงวะ?”

“นั่งเตี้ยอยู่ข้างๆนี่ไง ฮ่าๆๆๆ”

 

เออไอ้เปรต ไอ้ขายาว ไอ้สูง ใช่ซี้ กูมันเตี้ยนิ

 

ทำไมวะ เมื่อก่อนยังไม่เห็นจะมีใครล้อผมเรื่องความสูงเลย หรือเพราะว่าสนิทกันเลยทำให้ความสูงไปเตะตาไอ้คนพวกนี้ อันที่จริงผมก็ไม่ได้เตี้ยเลยนะ เพียงแต่ไอ้พวกที่มันล้อผมว่าเตี้ยมันดันสูงเกินคนเองนี่หว่า

 

174 เซนติเมตรนี่มาตรฐานชายไทยสุดๆ

 

ผมลงจากรถแล้วตรงขึ้นห้องโดยไม่รอมัน แต่มันก็ตามผมมาทันจนได้ กะว่าจะรีบล็อกห้องไม่ให้มันเข้าซะหน่อย ชิ

 

ไอ้เหี้ยพอสเข้ามาและทำตัวราวกับว่านี่คือห้องของมันเอง ส่วนผมเหรอ? ก็ได้แต่เปิดคอมแล้วนั่งจุมปุ๊กไม่ยอมลุกไปไหน ทำการเปิดเกมอย่างไม่สนใจไอ้คนที่กำลังนอนกลิ้งเกลือกอยู่ข้างหลัง

 

เล่นเกมมันต้องใช้สมาธินะโว๊ยยยยยยย

 

“แกรนด์ไม่คิดจะอาบน้ำเหรอ”

“เชี่ย! โดนแก๊งเลยสัด” ผมกำลังจะตอบมัน แต่ขณะที่กำลังดันป้อมอยู่นั้นจู่ๆก็มีผู้เล่นฝ่ายตรงข้าม4ตัวละครโผล่ออกมาจากป่าแบบไม่รู้ตัวแล้วใส่สกิลไม่ยั้ง ผลก็คือผมตายนั่นเอง

 

เนื่องจากหูฟังและไมค์พังกะทันหัน เลยไม่ได้คุยสไก้ป์กับพวกทัช แต๊ง บิ๊ก เต็ง อาศัยการพิมพ์เท่านั้น

 

“แกรนด์พรุ่งนี้เรียนกี่โมง”

“เวร ออกของผิดอีกกู” สรุปก็ต้องขายทิ้งแล้วรอเงินพอที่จะซื้อใหม่ เสียเวลาอีก

 

“ละครเรื่องนี้พระเอกชื่อไร”

“ชิบ! 1-1เสือกแพ้อีก” โดนไอ้ทัชพิมด่าว่ากากแกรนด์เลยแม้งงงงงง

 

“กูอาบน้ำนะ”

“หิวไรมะ?”

“นี้มัน5ทุ่มแล้วนะสัด”

“เลิกได้แล้ว อะไรจะติดขนาดนั้น”

 

มึงเป็นพ่อกูเหรอไอ้เหี้ยพอสสสสสสสสส!!

 

สุดท้ายผมก็ต้องออกจากเกมและปิดคอม ดีที่ไอ้เต็งหนึ่งมันก็เลิกเล่นแล้วเหมือนกัน ไม่งั้นมีหวังโดนด่ายับ พอหน้าจอดับหมุนเก้าอี้กลับมาเจอหมาป่าเจ้าเล่ห์นั่งกระดิกหาง หูตั้ง แลบลิ้นน้ำลายไหลอยู่บนเตียง

 

แผนเล่นเกมถ่วงเวลารอให้มันหลับ...ไม่สำเร็จ

 

ผมเดินเข้าห้องน้ำโดยไม่ลืมที่จะเอาชุดนอนเข้าไปเปลี่ยน ปกติผมก็เปลี่ยนข้างนอกเนี่ยละ เดินแก้ผ้าโทงๆออกมาเลย แต่กรณีนี้จะทำแบบปกติไม่ได้เด็ดขาด

 

ทำความสะอาดร่างกายหมดจด ทุกซอกทุกมุม ตัวหอมฟุ้งด้วยแป้งเย็นที่แปะไปทั่ว

 

อ้า˜ เย็นสบายตัวดีจัง

 

 

เดินออกมาจากห้องน้ำก็พบสายตาที่จ้องเขม็งมา คิ้วขมวดเข้าหากันเล็กน้อย ก่อนจะสะบัดหน้าไปยังหน้าจอทีวีที่กำลังฉายละครดังหลังข่าว

 

ไม่ได้เข้ากับตัวมึงเล้ยยยยยยยยยยยยย

 

ผมเดินไปปิดไฟ เหลือไว้แต่โคมไฟหัวเตียงกับแสงจากจอโทรทัศน์ ก่อนจะก้าวขึ้นเขียง เอ๊ย เตียง

 

คนมาอาศัยชั่วคราวนอนอีกฝั่ง เหลือที่ไว้ให้เจ้าของห้องอย่างผม30% เท่านั้นยังไม่พอ มีการยึดหมอนข้างเอาไปกอดแบบไม่ขออนุญาตสักนิด

 

คนอย่างผมไม่แคร์อยู่แล้ว ห้องกู เตียงกู ผ้าห่มกู หมอนข้างกู กางเกงที่มันใส่ก็ของกู(แม่งไม่ใส่เสื้อ ขอให้หนาวตาย) ผมจัดการเบียดร่างที่นอนเอกเขนกให้เถิบไปอีกฝั่ง เพื่อที่จะได้มีพื้นที่เหลือ

 

แต่ไอ้เหี้ยพอสมันนอนนิ่งเป็นท่อนซุง เหลือบมองผมนิดๆ ยักคิ้วหลิ่วตาประมาณว่า

 

‘มีปัญญาทำให้กูขยับได้ก็ทำสิ หึหึ’

 

มันหยามครับ มันหยามมมมมมมมม!!

 

ด๊ายยยยย มึงเล่นงี้ใช่มะ?

 

ผมลุกขึ้นยืน เน้นย้ำว่ายืน

 

3

2

1

 

“อุ๊ก!!!”

 

ฮ่าๆๆๆๆๆๆ

จุกเลยสิมึง

 

คงสงสัยอะสิว่าผมทำอะไร?

ไม่ได้ทำอะไรมากหรอกครับ เล่นกันนิดๆหน่อย ก็แค่...ทิ้งตัวลงมาทับมันทั้งตัวก็เท่านั้นเอง

 

แต่ดันลืมไปว่า ยิ่งเอาคืนแบบนี้ ผมยิ่งเสียเปรียบ

 

มือทั้ง2ข้างที่เคยกอดหมอนข้าง บัดนี้ได้เลื้อยมาประจำตำแหน่งบนตัวผมแล้วครับ กอดรัดแน่นซะจนผมต้องนอนคว่ำหน้าราบไปกับตัวมัน

 

“อยากเป็นหมอนข้างก็ไม่บอก”

 

ไม่ได้อยากเป็นโว๊ยยยยยยยยยยยยย!!

 

ผมขยับตัวเผื่อจะหลุดพ้นจากพันธนาการนี้ แต่ก็ไม่ได้ผลเลยครับ สุดท้าย ก็ต้องยอมให้มันกอดอยู่แบบนั้น ผมเอาคางไปพาดไว้บนบ่า ซุกหน้าเข้าหาลำคอ

 

อุ่นดีแหะ

 

ได้ยินเสียงหัวใจของมันด้วย

 

ต่างคนต่างนิ่ง ไม่อยากขยับเขยื้อนไปไหน ผมเองก็ไม่รู้ว่ามันจะหนักรึเปล่า แต่วินาทีนี้ไม่อยากลงไปจากตัวมัน เสียงโฆษณาดังกลบความเงียบพร้อมๆกับเสียงที่พูดขึ้นข้างริมหูของคนที่กำลังแบกรับตัวผมอยู่พอดี

 

“ขอบคุณครับ”

 

ไม่รู้ว่ามันมีสีหน้ายังไง เพราะไม่เห็นแต่อ้อมแขนที่รัดแน่นกว่าเดิมก็บ่งบอกได้ดี

 

ผมปล่อยให้อยู่ท่านี้อีกสักพักนึงก่อนจะขยับตัว อีกฝ่ายก็เหมือนจะหนักแล้วเลยยอมปลดอ้อมแขนง่ายๆ

 

เมื่อลงมานอนให้ถูกที่ถูกทาง คนข้างๆก็พลิกตะแคงหันหน้าเข้ามาผมทันที

 

“แกรนด์ครับ”

“ว่า?”

“ทำกัน”

 

ขณะที่มันกำลังจะขยับมาคร่อมตัวผม ผมรีบเบรกมันไว้ก่อน

 

“เดี๋ยวๆๆๆๆๆๆ หยู๊ดดดดดดดดดด” ไอ้เหี้ยพอสมันทำหน้าสงสัย “ไม่ทำนะ นะนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปเรียนไม่ไหว”

 

แต่มันไม่ฟัง นั่น...คร่อมตัวกูแล้วคร้าบบบบบบบบ

 

“น้า..นะครับ...คนเป็นแฟนกันไม่จำเป็นต้องมีอะไรกันซะหน่อย”

 

เท่านั้นแหละครับ ไอ้เหี้ยพอสชะงักเลย มันยอมกลับลงไปนอนข้างๆง่ายว่าง่าย ผมนึกว่าจะโดนโกรธ แต่เปล่าเลย มันพูดว่า

 

“แฟน...นั่นสินะ”

 

เอ่อ...ไม่ต้องงงครับ คุณอ่านไม่ผิด ผมกับมันเป็นแฟนกัน

 

มันหันยิ้มให้ผมก่อนจะชูขึ้นมาและคว้ามือผมมาสอดประสานเข้าด้วยกัน

 

ตัวแหวนที่มันให้ผมเมื่อตอนกินตับห่านนั้นสัมผัสผิวหนังของผู้ให้ ส่วนตัวผมนั้นก็เห็นเส้นปากกาสีน้ำเงินที่ถูกวาดลงบนนิ้วนางของมือหนา โดยมีตัวอักษร GP แบบอุบาทว์ๆอยู่ตรงกลาง

 

ผมทำให้มันเองแหละ

 

 

 

“พี่อาจไม่ใช่คนดีถึงขนาดจะพูดว่ารักแกรนด์ตลอดไปหรอกนะ...” 

 

ผมมองหน้ามันและตั้งใจฟัง

 

คำว่าตลอดไปของใครหลายๆคนอาจจะยังไม่พ้นปี แต่เรื่อยๆของพี่คนนี้คือมีตลอดไป” 

 

รอยยิ้มผุดขึ้นที่ใบหน้าโดยไม่รู้ตัว รู้สึกว่าแก้มมันร้อนๆด้วย 

 

คนตรงหน้าทำเพื่อผมขนาดนี้...หลายสิ่งหลายอย่างที่ทำให้โดยไม่หวังผลตอบแทน 

 

รู้สึกละอาย...แล้วทำไมผมไม่ทำอะไรเพื่อมันบ้างเลย? 

 

“นี่...ขอยืมปากกาหน่อย” ไอ้เหี้ยพอสทำหน้างง แต่ก็ยอมหยิบปากกาที่เหน็บไว้ตรงแขนเสื้อช๊อปให้โดยที่มือก็ยังไม่ปล่อย กุมมือผมไว้แบบนั้น 

 

ผมรับปากกามาด้วยมือขวา กดปากกา และทำการวาดแหวนลงบนข้อนิ้วขาว 

 

บอกตามตรงว่าไม่กล้าเงยหน้าขึ้นไปมองหน้ามันเลยอะ 

 

เขินโว๊ยยยยยยยยยยยยยยยย

 

เกิดมาไม่เคยทำไรแบบนี้

 

ไอ้เหี้ยพอสมันก็ดี ไม่ปริปากพูด ยอมให้ผมวาดแบบเงียบๆ ไม่มีการซักถามให้เขินเล่น

 

แหวนที่ผมวาดไม่ต้องคิดหรอกครับว่ามันจะสวย ผมไม่ได้เรียนศิลปกรรมหรือสถาปัตย์ ด้านการวาดรูปแค่ไอโซเมตริก ออบลิคก็จะตายแล้ว ดังนั้นแหวนที่ปรากฏนั้นจึงเป็นแค่เส้นสีน้ำเงินหนาๆ2เส้น ตรงกลางมีตัวอักษร GP เท่านั้น

 

GRANDPAUSE

 

ถ้ามันไม่รู้ก็คงควาย

 

ผมคลายการกุมมือหนา จัดการแบฝ่ามือขาวของมันออก ทำการเขียนอะไรบางอย่างลงไป ก่อนจะเงยหน้ามามองฝ่ายตรงข้ามอีกครั้ง

 

“เอ้า เสร็จแล้ว” ผมผลักมือมันออกและคืนปากกาให้มันด้วย

 

เจ้าตัวดูผลงานแหวนดีไซเก๋ไก๋ที่ไม่เสียเงินสักบาท ลอบยิ้มน้อยๆ

 

“อ่านที่ฝ่ามือด้วยดิวะ”

 

มันไม่ขัด ทำตามสั่งผมโดยการแบฝ่ามือตัวเอง เท่านั้นแหละครับ ลักยิ้มที่แก้มมันบุ๋มลงอย่างเห็นได้ชัด ฟันขาวเรียงสะอาด ดวงตาเปล่งประกาย รอยยิ้มที่ผมคิดว่ากว้างที่สุดดูดีที่สุดเท่าที่เคยเห็นก็ได้เห็นอยู่ตรงหน้า

 

“ครับ เป็นแฟนกันแล้วนะ”

 

ผมเสมองไปยังแจกันสูงที่ตั้งอยู่ตรงริมหน้าต่างบานสีทอง หลบรังสีเจิดจ้าราวกับทุ่งดอกไม้บานของมัน

 

‘PEN FAN GUN’

 

นั่นแหละที่ผมเขียน อย่าถามได้มั้ยเล่า -*-

 

 

 

ตัดกลับมาสู่ปัจจุบันอีกครั้ง ร่างสูงที่กำลังนอนหลับตาพริ้ม

 

คืนนี้คงเป็นคืนที่ยิ่งกว่าฝันดี

 

ผมรอดพ้นจากการเสียประตูหลังอย่างหวุดหวิด

 

อะไรบางอย่างที่มองไม่เห็นแต่สัมผัสได้อบอวลไปทั่วห้อง

 

มือที่กุมอยู่ใต้ผ้าห่มชื้นเหงื่อ แต่ผมไม่รังเกียจเลยสักนิด ไม่คิดจะดึงออกด้วย

 

รักมันจริงๆวะ

 

 

 

 

Talk

ขอโทษค่า มาช้าไปหน่อย แหะๆ

ใครที่ยังไม่ได้กดไลค์แฟนเพจแพร ก็ไปกดกันได้เลยน้า >>คลิก<<

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.3 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา