i'm not&you don't [Yaoi NC18+] END หนังสือถามได้คะ

9.2

เขียนโดย Pierre

วันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2555 เวลา 02.28 น.

  49 chapter
  69 วิจารณ์
  260.56K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2559 22.56 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

24) 20 - Addicted to you

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

20 - Addicted to you           

 

 

ผมตื่นขึ้นมาในยามสาย เพราะอาการปวดเอว ระบมไปทั่วทั้งร่าง หันไปมองคนข้างๆที่ยังไม่รู้สึกตัว เมื่อคืนกว่าจะได้นอนกี่โมงนะ? ตี3หรือว่าตี4? ไอ้พอสมันอึดมาก ไม่ยอมพอ แต่ผมเนี่ยสิ...

 

แหมหลับสบายเชียวนะมึง กูนี่แทบลุกไม่ไหว

 

ผมดึงมาห่มให้คลุมถึงคอ พลิกตัวเล็กน้อย เอามือที่เกาะบนเอวออก แต่ไม่วายมือนั้นก็กลับมาวางที่เดิม ซ้ำยังดึงตัวเข้าไปหาอีก

 

“อืม..จะไปไหน” มันตื่นแล้ว พูดเสียงงัวเงีย

“เปล่า”

 

ริมฝีปากใครบางคนสัมผัสที่หัวไหล่

 

“นอนหันตูดให้กู .. มึงจะยั่วกูเหรอ”

 

แค่กูนอนหันหลังให้มึงยังคิดอุตริได้นะ ไอ้สลัดผัก!!

 

“พ่อง” ผมพลิกตะแคงอีกด้าน หันหน้าเข้าหามัน พบกับสายตาที่จ้องมองกลับมา

 

“กูชอบให้มึงพูดแบบเมื่อคืนมากกว่านะ หึหึ”

“งั้นก็ไม่ต้องฟังอีกเลยไอ้เหี้ย”

 

ผมสะบัดผ้าห่มออก ยันตัวขึ้น หวังจะลุกไปหยิบผ้าเช็ดตัวใกล้ๆ ฝืนร่างกายที่ปวดแปลบ แต่ไอ้คนที่ทำผมเจ็บจนลุกไม่ได้นั้นกลับดึงตัวผมให้ล้มลงนอนเหมือนเดิม                

 

“ทำเก่งนะมึง นอนอยู่เฉยๆเถอะ” ไอ้เหี้ยพอสลุกขึ้น เดินโทงๆไปหยิบชุดคลุมอาบน้ำมาคลุมตัวไว้ และหยิบอีกตัวหนึ่งมาวางไว้ข้างเตียง “อะนี่จะใส่ก็ใส่ .. เที่ยงแล้ว มึงอยากแดกอะไร?”

 

“ไรก็ได้” ผมตอบมัน แล้วมันก็ออกจากห้องไป

 

ไม่ได้หวังให้มันมาดูแลเทคแคร์อะไรทั้งนั้น รู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้ ผมเองก็ไม่ใช่สาวน้อยที่จะต้องมานั่งร้องไห้เพราะเพิ่งเสียพรหมจารีย์ไปหมาดๆ..แต่ขอโทษเถอะ กูผู้ชายนะครับ อีกอย่าง เมื่อคืนผมก็เต็มใจ ห่างจากคำว่าข่มขืนไปไกลโข ถึงแม้มันจะเป็นการมีเพศสัมพันธ์โดยเพศเดียวกันก็เถอะ

 

ผมมองไปรอบๆห้อง ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม การกระทำของมัน คำพูดของผม ก็ยังคงเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง การที่ผมยอมตกเป็นของมันใช่ว่าจะทำให้อะไรๆเปลี่ยนแปลงซะหน่อย

 

ผมก็ยังคงเป็นรุ่นน้อง ไอ้เหี้ยพอสก็ยังเป็นรุ่นพี่...สถานะเดิมๆที่ควรเป็น

 

เสียใจมั้ย ? นิดนึง แต่แค่นี้ไม่ถึงกับร้องไห้ฟูมฟาย

 

ในเมื่อมันบอกว่าชอบผม ผมเองก็ไม่ได้รังเกียจมัน เพียงแต่ไม่ใช่แฟนไม่ใช่คนรักที่จะต้องหวานแหววตลอดเวลา เพื่อนๆพี่ๆจะว่ายังไงถ้าหากจู่ๆเกิดเห็นผมกับมันเดินจับมือกัน

 

พวกเค้าคงคิดว่า ‘บ้าไปแล้วแน่ๆ’ ‘โลกแตกชัวร์’ อะไรเทือกนี้มากกว่า

และถ้าคนภายนอกเห็นก็คงคิดว่า ‘ยี๋’ ‘แหวะ’

 

ไหนจะภาพลักษณ์มาดหล่อเจ้าชู้ผู้หญิงเต็มใจให้ฟันนั่นอีกล่ะ? นามสกุลก็ใหญ่โต คนดังแห่งมหาวิทยาลัย เหอๆ

 

ยังไงก็ตามแต่...ขอเพียงแค่ผมอย่าไปหลง ‘รัก’ มันเข้าก็แล้วกัน

 

เสียงเปิดประตูทำให้ผมหยุดความคิดลง หันไปมองคนที่เข้ามาใหม่เดินถือโจ๊กกระป๋องสีเขียวพร้อมกับน้ำและซองยา ทั้งหมดถูกตั้งไว้บนเตียง

 

“อะ กูไม่รู้ว่ามึงอยากแดกอะไร .. แล้วยา..กินด้วย” ผมหันไปมองซองยา

 

เอาอะไรมาให้กูแดกวะ คิดจะวางยากูเหรอ จะตายไหมเนี้ย?

 

“กูไม่วางยามึงหรอก .. มึงต้องอยู่กับกูอีกนาน หึหึ” เอาอีกละ แม่งอ่านความคิดผมออกได้ไงเนี่ย?

 

“เออๆ กินเสร็จแล้วเดี๋ยวกูจะกลับหอ มึงจะให้กูกลับเองหรือมึงจะไปส่ง?” ถามแม่งหน้าด้านๆอย่างเนี้ยละ ไอ้คนถูกถามขมวดคิ้วทันที

 

“เดี๋ยวกูไปส่ง แล้วขนข้าวของมึงมาอยู่กับกูซะ”

“ไม่โว๊ยยยยยยยยยยยยย”

“ทำไม?” น้ำเสียงตึงนิดๆ

“ไอ้ห่า แล้วกูจะเช่าหออยู่ทำไมวะ กูไม่ได้รวยเหมือนมึงนะสัด”

“งั้นเดือนหน้ามึงต้องย้ายมาอยู่กับกู ยกเลิกหอนั่นไปเลย”

“โอ๊ยยไอ้เหี้ย หอมันติดสัญญาครึ่งปี กูจ่ายล่วงหน้าไปแล้ว3เดือนเหอะ” มันยืนครุ่นคิด ผมหยิบโจ๊กกระป๋องมาตักเข้าปากกินไม่กี่คำก็หมด

 

ไม่อิ่มเลยอะ สงสัยเมื่อคืนเสียพลังงานมากไปหน่อย

 

“งั้นเดี๋ยวกูย้ายไปอยู่กับมึง”

 

พรวดดดด!!!

 

น้ำเปล่าผสมน้ำลายผมพุ่งออกไปเต็มๆ

 

ไอ้เชี้ยพอสสสสสสสสสส นี่คือมึงใช้สมองคิดแล้วใช่มั้ยเนี่ย เห้อออออออ

 

“ไม่ต้องเลย เปลืองค่าน้ำค่าไฟกู”

“กูจ่ายทั้งหมดเอง”

“ไหนมึงบอกว่าห้องกูเล็ก”

“ก็มึงไม่ยอมมาอยู่กับกูนี่”

 

ให้ตาย นี่ผมคุยกับปี3หรือเด็กอนุบาล3กันแน่วะ?

 

“ไม่มีใครย้ายอะไรทั้งนั้น มึงกับกูต่างคนต่างอยู่เหมือนเดิม จบ!”

 

“แต่กูอยากมีเซ็กส์กับมึงทุกวัน” หน้านิ่งได้อีก

 

อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

 

“ไอ้เหี้ย มักมาก ระวังกามตายด้านนะสัด” ผมด่ามันที่นั่งลงปลายเตียง “ขืนอยู่ให้มึงเอาทุกวันกูไม่ต้องไปเรียนพอดี”

 

คนนะเฟ้ย ไม่ใช่ตุ๊กตายาง แถมยังต้องเป็นฝ่ายเจ็บตัวอีก

 

“ไม่ต้องไปเรียนก็ดี...เพราะกูไม่อยากให้ใครมองมึง และถ้าเป็นไปได้กูจะขังมึงไว้...กูบอกแล้วว่ากูเป็นคนหวงของ...” ทั้งสายตาท่าทางไม่ได้บ่งบอกว่าล้อเล่นเลยสักนิด

 

ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

กูจะพ่นไฟ!!!!

 

แม่งเอ๊ยยย ทำไมรู้สึกว่าใจเต้นผิดจังหวะแถมยังแก้มร้อนๆอีกเนี่ย

 

“ไอ้เหี้ย ไม่จับกูใส่กรงไว้เลยล่ะ”

“งั้นเดี๋ยวกูไปสั่งทำกรงแป๊ป”

 

 

ไอ้เชี่ยพอสสสสสสสสสสส กูล้อเล่นนนนนนนนนนนนนน T_______T

 

“สัดพอๆ เลิกเล่น” ผมวางแก้วน้ำไว้ที่เดิม “ต่างคนต่างอยู่เหมือนเดิม...กูจริงจัง มึงห้ามเถียง”

 

ไอ้คนชอบสั่งโดนสั่งบ้างถึงกับเงียบ

 

“แล้วที่ม. มึงห้ามรุ่มร่ามกับกูเด็ดขาด โอเค๊?” มันชักสีหน้า

“ไม่โอเควะ...กูพอทำใจได้ถ้าจะแยกกันอยู่เหมือนเดิม แต่มึงต้องมาหากูถ้ากูโทรตามหรืออะไรก็แล้วแต่” มันจบประเด็น ลุกขึ้นยืน เดินไปหยิบรีโมทเสียง ‘ตี๊ด’ ดังขึ้นเบาๆ ผมนึกว่ามันจะปิดแอร์ แต่ไม่ใช่ ผ้าม่านริมระเบียงกำลังเลื่อนออกจากกันอย่างช้าๆ เจ้าของห้องเดินไปยังประตู ขณะที่กำลังจะก้าวออกจากห้องก็ไม่ลืมที่จะหันมาสั่ง

 

“แดกยาซะ ไม่งั้นกูจะแดกมึงแทน”

 

 

 

 

 

 

“แฮ่ก แฮ่กๆ”

 

ตอนนี้ผมกำลังวิ่งสุดชีวิตเลยครับเพราะว่าเลยเวลาเข้าแลบมานานแล้ว วันนี้มีควิซ...ดังนั้นเรื่องไอ้เซ็นชื่อแทนปัดไปได้เลย สาเหตุที่ผมมาเรียนสายก็ง่ายๆ ผมเพิ่งตื่นเมื่อ10นาทีที่แล้วนี่เอง

 

อ๊ะๆ ไม่ต้องมองผมแบบนั้น เมื่อวานหลังจากที่ไอ้พอสมันมาส่งผมแล้วผมก็ไล่มันกลับไปทันที แน่นอนว่ามันดื้อดึงไม่ยอมท่าเดียว แต่จู่ๆโทรศัพท์ก็ดังขึ้นแล้วกับการเรียกตัวให้ไปช่วยเจรจากับคณบดี

 

โอ้ววว เหยดดดแม่มมมมม ของจริงนี่หว่า

 

ไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรเพราะไอ้พอสมันรีบไสหัวกลับทันที ท่าทางจะเป็นเรื่องด่วนและร้ายแรงจริงๆ

 

แต่ก็ต้องขอขอบคุณอีกครั้งที่ช่วยให้ผมรอดพ้นจากการถูกเขมือบ และยังสามารถเดินตรงได้เหมือนเดิม จนไอ้เพื่อนตัวดีพากันสงสัย เมื่อผมเดินไปถึงที่นั่งประจำ

 

 

“เห้ยแกรนด์ ทำไมมึงดูเหมือนไม่เป็นอะไรเลยวะ?”

“แล้วมึงต้องการให้กูเป็นอะไร?”

“ก็แบบว่า...ตับตับตับ ตับ (ร้องเพลงกินตับ) ไงวะ” พวกเชี่ยนี่แม่ง...

“อ๋อออออออออออ”

 

ผมลากเสียงยาวๆ ก่อนจะแลบลิ้นเลียริมฝีปาก ทำหน้าที่คิดว่าเจ้าเล่ห์และดูสะใจเป็นที่สุด

 

 

“ตับไอ้เหี้ยพอสอร่อยดีวะ”

 

 

เป็นไปตามคาด ทัช แทน ดูตกใจ อ้าปากกว้าง

“เห้ยย ไม่เป็นม่ายด้ายยยยยยยยยยยยยย”

“กูไม่เชื่อออออออออออออ”

 

 

“นี่!! เธอ3คนตรงนั้นถ้าไม่เรียนก็ออกไปซะ”

 

อะจึ๋ย...โดนจารย์ด่าเบยยยยย

 

 

 

 

เวลานี้ผมควรจะนั่งอยู่ในห้องบรรยายที่ตึกคณะ มีอาจารย์สาวแก่ๆคอยให้ความเข้าใจเรื่องแคลคูลัสอยู่มิใช่รึ? แล้วนี่...ทำไมผมถึงได้มาอยู่ที่โรงยิมได้ละเนี่ย?

 

เพราะไอ้คนที่นั่งเรียกเสียงกรี๊ดจากสาวๆตรงมุมพักนักกีฬานั่นแหละ...มันทำให้ผมต้องโดดเรียน ถ้าหากกูติดเอฟกูจะฆ่าเมิงงงงงงงงง แคลตัวนี้ไม่มีดรอปให้ไปเรียนซัมเมอร์ด้วยแสรด

 

กลางโรงยิมมีการแข่งขันบาสเก็ตบอลระหว่างมหาวิทยาลัยเพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรี ไอ้พอสบอกว่านี่เป็นการแข่งเล่นๆชิมลางเท่านั้น ยังไม่เอาจริงเอาจังอะไร การแข่งขันของจริงกะเกิดขึ้นในเทอม2

 

นี่ขนาดยังไม่เอาจริงเอาจัง แต่ละคนดูอย่างกับเล่นรักบี้มากกว่าที่จะเล่นบาสนะ ดูไปดูมาก็เชียร์เพลินดีครับ เล่นกันได้สูสีนี่ก็เข้าควอเตอร์ที่3แล้ว ยังไม่เห็นเค้าลางว่าใครจะเป็นฝ่ายชนะ คนที่ลากผมมาดูการแข่งขันนั่งหน้าเครียด มันคงอยากลง แต่ติดที่ว่าอาการของข้อมือคงจะยังไม่หายดี สู้เก็บตัวไว้เพื่อเล่นในแมทช์ที่สำคัญกว่านี้ดีกว่า

 

เห้อออออ แค่มันโทรตามแล้วทำไมกูต้องมานั่งแกร่วอยู่คนเดียวด้วยวะ?

 

ผมได้แต่ปลง นั่งดูจนกระทั่งการแข่งขันสิ้นสุดที่สกอร์ 107-105 มหาวิทยาลัยผมเป็นฝ่ายชนะ แต่ละคนดูดีใจกระโดดโลดเต้นกันใหญ่ ไอ้คนนั่งหน้าเครียดมาตลอดการแข่งขันถึงกับยิ้มออก ผมลุกขึ้นมองดูนาฬิกาก็พบว่าอีกครึ่งชั่วโมงก็เลิกคลาสแล้ว จึงตัดสินใจว่าจะไปนั่งรอไอ้แทนไอ้ทัชหน้าห้องดีกว่า

 

“ไอ้แกน! ไอ้แกน! จะไปไหน” เสียงไอ้พอสตะโกนหลอกหลอน

 

เชี่ยเอ๊ย! คนหันมามองทั้งโรงยิมแล้วสัด

 

ผมรีบเร่งฝีเท้าก่อนที่จะได้อายไปมากกว่านี้

 

“เฮ้ย กูเรียกไม่ได้ยินไงวะ!” ไอ้พอสมันคงวิ่งตามหลังมาฉุดผมให้หยุดนิ่ง “จะไปไหน?” มันถามย้ำอีกครั้ง

“ไปเรียน”

“เรียนเหี้ยไรจะ4โมงเย็นละ”

“กูเรียนภาคพิเศษมึงไม่รู้เหรอ?” กวนตีนมันไปงั้นแหละ แม่ง เสือกโทรตามกูให้มาดูการแข่งบาสแค่นั้น ทั้งๆที่ตัวเองก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับชมรมนี้เล้ยยยย

“สัดแกรนด์ อย่ากวนตีน” มันด่าผมแล้วหันไปมองด้านหลังที่มีเพื่อนๆชมรมบาสจับจ้องอยู่ “เดี๋ยวกูไปเลี้ยงฉลองกับเพื่อน” มันเกริ่นๆ

“มึงก็ไปดิ”

“มึงต้องไปด้วย” อีกละ บังคับกูอีกละ

“ไม่ กูจะอ่านหนังสือ” มันทำหน้าไม่เชื่อ ผมเลยเสริมทับเข้าไปอีกว่า “พรุ่งนี้มีเทสย่อยแต่เช้า” ดูเหมือนคนชวนจะลังเลหน่อยๆ

“ไม่ไปจริง?”

“เออ กูไม่รู้จักเพื่อนมึงสักคน เดี๋ยวเผื่อกูปากหมาพางานกร่อยพอดี”

“ก็ได้วะ งั้นเดี๋ยวกูไปส่งมึงที่หอก่อนแล้วกัน หรือจะค้างคอนโดกู?” น้ำเสียงแบบนี้...

“กลับหอ!”

 

 

 

 

ผมมาถึงหอ ไอ้คนมาส่งก็กำชับว่าห้ามออกไปไหน ย้ำเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะโทรหาทุกๆครึ่งชั่วโมง แม่งก็เวอร์ไปงั้นแหละครับ พอผมอาบน้ำเสร็จก็เล่นเกมยาวๆเลย ไม่มีสายเข้าให้กวนใจเล่น

 

ดีแต่ปาก...

 

สัก4ทุ่มครึ่งผมก็ปิดคอมแล้วไปอ่านหนังสือ เห็นแบบนี้ผมก็แอบขยันนะครับ ไม่งั้นคงเข้าคณะนี้ไม่ได้หรอก อ่านไปอ่านมาชักเบลอ เผลอหยิบไอโฟนขึ้นมาดูเผื่อว่าอาจจะมีสาวๆคนไหนโทรมาหรือทักไลน์มาบ้าง

 

อื้อหือ เต็มจอเลยครับ

แต่ไม่ใช่สาวๆหรือไอ้เหี้ยพอสนะ กรุ๊ปในไลน์ต่างหาก -*-

 

กูละเซ็ง อยากจะออกจากกรุ๊ป เบื่อการแจ้งเตือนที่ไร้สาระ แต่เดี๋ยวเพื่อนๆจะหาว่าหยิ่งอีก เลยต้องทนอยู่ในกรุ๊ปต่อไป ผมกำลังจะวางไอโฟนลงที่เดิม แต่ทว่าเสียงเรียกเข้าเบสิคที่คุ้นหูดังขึ้นมาเสียก่อน

 

เบอร์ไอ้เหี้ยพอส

 

กว่าจะโทรมาได้นะมึง...

 

ผมกดรับ ได้ยินเสียงดังรอบๆตัวมัน คาดว่าคงอยู่ในร้านเหล้าที่ไหนสักแห่ง

“สัด” คำแรกที่ผมทักทายมัน เพราะมั้ย?

/เอ่อ...นี่เพื่อนไอ้พอสครับ ไม่ใช่พอส/ เสียงปลายสายที่ไม่คุ้นหูตอบกลับมา

เวง หน้าแตกเลยกู

“อ่อครับๆ โทษครับ..มีอะไรรึเปล่า”

/คือตอนนี้ไอ้พอสมันเมามากอะ ช่วยมารับมันที่ร้าน123หน่อยได้มั้ย?/

“แล้วทำไมไม่เอามันไปส่งที่ห้องละครับ?” ไปแดกกัน ก็รับผิดชอบกันเองสิวะ

/คือผมไม่รู้จักห้องมันอะ../

 

กูอยากจะถามไอ้คนในสายเหลือเกินว่าแล้วทำไมไม่เอาไปนอนห้องมึงวะครับ?

 

“แล้วทำไมไม่โทรหาคนอื่น”

/ก็เบอร์นี้เป็นเบอร์สุดท้ายที่มันโทรออกอะ/

 

โว้ววววววว แม่มมมมม

 

/ช่วยหน่อยนะๆ/

 

เห้อออออออ

 

“ครับๆ”

 

ก็ยังดีกว่ามันไปตายอยู่ข้างถนนละวะ

 

 

 

 

“ว่าไงน้องสาว...ไหวอะเปล๊า เบเบ้” เสียงทำนองที่หลายๆคนคงรู้จักกันดีดังกระหึ่ม แต่ละคนแด๊นส์กันมันหยด ผมมองไปรอบๆ ส่ายนมส่ายตูด อกเป็นอกเอวเป็นเอว โว้วววววว

 

เอ๊ย แต่ผมไม่ได้มาที่นี่เพื่อการนี้นะ

 

สายตากวาดส่องไปรอบๆ แต่คนหล่ออย่างมันหาได้ไม่ยากนัก เหมือนมีออร่าประทับ โต๊ะมันอยู่ไม่ไกล ผมไม่ลังเลที่จะเดินเข้าไปหา

 

ไอ้เหี้ยพอสมันกระดกแก้วเหล้าเข้าปาก สายตามองมาที่ผม นัยน์ตามันแดงๆ รอบกายมันไม่มีสาวเหมือนทุกที มีแต่เพื่อนมันที่นอนตายซาก

 

“อ่าว เพื่อนมึงมาแล้วนี่..หน้าตาคุ้นๆวะ...ใช่ที่มึงลากมาดูบาสปะวะ?” คนที่นั่งอยู่ด้านซ้ายเอ่ยปากถาม สภาพยังไหว

“เออ เดี๋ยวกูมา ไปดูดหรี่แป๊บ”

“ดูดหรี่หรือตีหรี่วะ? ฮ่าๆๆๆๆๆ”

 

ไอ้พอสไม่สนใจเพื่อน มันลุกขึ้นยืน เซนิดๆ ผมมองดูว่ามันจะเดินไปได้สักกี่น้ำ

 

มันเมา

 

เป็นครั้งแรกเลยนะเนี่ยที่ผมเห็นมันเมาแบบนี้ ถึงจะไม่ได้ออกอาการอะไรมากมายก็เถอะ มันเดินไปชนเก้าอี้ แล้วก็โต๊ะ จนผมต้องเข้าไปช่วยพยุง

 

กลิ่นเหล้าคละคลุ้งเต็มจมูก คงแดกหนักอยู่เหมือนกัน

ไม่รู้ว่าคิดไปเองรึเปล่า แต่เหมือนมันจะชอบเอาจมูกมาไซร้คอ ผมต้องคอยหลบมันตลอด จนมาถึงแถวๆที่ให้สูบบุหรี่ ผมก็ผลักมันออกไป

 

คนถูกผลักล้วงบุหรี่ในกระเป๋าออกมาตัวนึง ก่อนจะคาบไว้ในปาก เอามือป้องปลายไว้เพื่อจุดไฟ มันสูบอัดเข้าไปเต็มก่อนจะพ่นควันออกมา

 

ตกลงนี่กูนั่งแท็กซี่มาเพื่อดูมันยืนดูดบุหรี่? ไหนมาเมานักหนาไงวะ ไหงมันยืนได้ตรงแบบนี้ละ?

 

ผมถอยห่างนิดหน่อย ไม่อยากให้ตัวมีกลิ่น แต่แล้วจู่ๆไอ้คนที่เพิ่งสูบไปได้ไม่ถึง3ครั้งก็ทิ้งแท่งมวนก่อนจะใช้ปลายเท้าขยี้จนแบนและดับไป ผมงงกับการกระทำนั้นมาก แม่งงงงเสียดายของวะ ยิ่งเดี๋ยวนี้บุหรี่จะขึ้นราคาแล้วด้วย แต่มันก็ไม่ปล่อยให้ผมงงนาน มันดึงตัวผมเข้าไปดูดปากแทนดูดบุหรี่

 

แม้ว่าจะมีกลิ่นบุหรี่และรสชาติของเหล้าติดอยู่ที่ปลายลิ้น แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ขัดอารมณ์แต่อย่างใด ซ้ำยังจะเพิ่มความดิบในสันดานด้วยซ้ำ ริมฝีปากร้อนผ่านขบเม้มพร้อมกับลิ้นที่สอดแทรกเข้ามาอย่างรีบร้อน ดูดดึงด้วยความรุนแรง แต่กลับไม่เจ็บเลยสักนิด ลิ้นของมันสำรวจไปทั่วโพรงปากผม ไม่รู้จักเบื่อไม่รู้จักพอ น้ำลายเปรอะเปื้อนรอบๆริมฝีปากเต็มไปหมด

 

มันไม่กลัวว่าคนจะมาเห็น เป็นผมซะอีกที่กลัวว่าใครจะเข้ามา จนต้องส่งเสียงประท้วงในลำคอ

 

“อื้ออ..หยุด..อื้ออ”

 

แต่มันไม่หยุด เหมือนไฟที่จุดติดแล้วไม่ถูกดับง่ายๆ มันคว้ามือผมให้ไปจับน้องชายมันที่ตื่นตัวจนพองคับแน่นเต็มเป้ากางเกง ส่วนอีกมือมันก็มาจับที่แก่นกายผมที่เริ่มตื่นตัวแล้วนิดๆ

 

“เชี่ยเอ๊ยยย” ผมสบถ เพราะไม่อยากให้เกิดอารมณ์ตอนนี้ ไอ้เหี้ยพอสมันปล่อยปากผมให้เป็นอิสระ หันไปสนใจกับร่างกายผมที่เลิกเสื้อขึ้นสูงแทน

 

ดูเหมือนมันจะรีบ ริมฝีปากมันลากไล้ไปทั่ว มือก็บีบๆคลำๆที่แกรนด์น้อยซะจนคับเต็มกางเกง จับผมพลิกตัว หันหลังให้มัน

 

“เหี้ยพอส ถ้ามึงเอากูตรงนี้ มึงจะไม่ได้เห็นหน้ากูอีก”

 

คนที่กำลังเมามัวกับร่างกายผมชะงักกึก หยุดการกระทำทุกอย่าง ผมหันหน้ากลับมาเผชิญกับมัน สบสายตาตรงๆ ไม่มีการหลบเลี่ยง ผมเอาจริง ไม่อยากให้มันทำกับผมเหมือนเป็นเด็กขายน้ำ ที่จะเอาตรงไหนก็ได้

 

ใช่ว่าได้กูแล้วกูจะยอมมึงทุกที่ .. เห็นแบบนี้กูก็เลือกเอาเหมือนกันนะสัด

 

ไอ้เหี้ยพอสมันนิ่ง คงได้สติแล้ว

 

 

 

“กูขอโทษ”

 

 

 

คำขอโทษจากปากมัน ฟังดูง่ายๆ แต่ใครจะเชื่อละว่าคนอย่างมันจะพูดคำนี้ออกมา

และคนที่ได้ฟังดันเป็นเด็กปี1ปากดีที่กัดกับมันมาตลอดแบบผมด้วย

 

 

“ถ้าที่ห้องก็ไม่เป็นไรใช่มั้ย?”

 

 

สาดดดดดดดด ใครเอาไวอากร้าให้มึงแดกวะ กูจะไปฆ่ามานนนนนนนนนนนนน

 

 

 

 

กลับมาถึงหอ มันก็แปลงร่างเป็นปอปไปตามระเบียบ กินตับผมซะจนอิ่ม ป่านนี้ห้องข้างๆคงด่าผมเละแล้วมั้ง ก็เล่นครางดังซะ...

 

“เหี้ยพอส..พอแล้ว กูจะนอน พรุ่งนี้ตื่นเช้า มีเทส”

 

คือเสร็จสิ้นกามกิจไปแล้ว1รอบ ผมให้มันสอดใส่แค่ครั้งเดียวเท่านั้น แต่ไอ้น้ำขาวขุ่นที่เปรอะเปื้อนเต็มเตียงซะจนใครๆก็ดูรู้ว่ามันไม่ได้ครั้งเดียวแน่ๆนั้นเกิดจากผมใช้แม่นางทั้ง5ปรนเปรอให้มัน ซึ่งมังกรน้อยของมันตื่นแล้วใช่ว่าจะหลับง่ายซะเมื่อไหร่ ปลุกปลอบอยู่นานกว่าจะสงบได้ เมื่อกี้ก็พ่นน้ำออกมาเป็นครั้งที่5 หวังว่ามันจะพอ แต่มือกับปากมันยังหาเศษหาเลยกับผมไม่เลิก

 

โอเค ทีหลังผมจะจำไว้ว่าถ้าไอ้พอสเมาเมื่อไหร่ก็เหมือนกับมันโด๊ปยามา

อึดชิบหาย คนเหี้ยไร

 

นี่ถ้าผมไม่ดุมันเสียงแข็ง ประตูหลังผมคงพังทลายไปตั้งแต่ถูกมังกรพ่นน้ำครั้งที่2แล้ว เลยต้องชักว่าวให้มันด้วยมือนี่ยังไงละ

 

“อื้มมม” เสียงครางในลำคอเบาๆเหมือนจะไม่พอใจที่ผมบอกให้หยุด

 

เอาน้ำออกจากตัวก็เยอะ นี่มึงยังไม่หมดแรงอีกเหรอไงวะ

 

“สัดพอส กูบอกให้พอ กูจะนอน กูง่วง กูเพลีย กูเหนื่อย!” ผมกระชากเสียงแล้วก็กระชากมือมันออกจากหน้าท้องผมด้วย แต่ไอ้คนมักมากมันยังไม่ยอมแพ้ เอื้อมมือมากอดผม

 

“อื้อ...พอแล้วไม่ทำไรแล้ว ขอนอนกอดเฉยๆนะ” คนข้างตัวพูดทั้งๆที่หลับตา

 

 

เห้ออออ

เหนื่อยกับมันจริงๆ

 

คงได้เวลานอนจริงๆจังๆแล้วสินะ...มีเวลาในการนอนอีก3ชั่วโมงกว่าๆ...

แล้วมือทำไมมันเลื่อนสูงขึ้นเรื่อยๆวะ?..

 

โครมมมมมมมม!!

 

“ลงไปนอนข้างล่างเลยสัด!”

 

 

 

 

ต้องขอบคุณนาฬิกาปลุกที่ยังทำหน้าที่ได้ดี ผมสามารถมาทันเทสต้นชั่วโมง ปล่อยให้คนที่ยังไม่ตื่นนอนต่อไป แปะโพสอิทไว้ตรงประตูว่าอย่าลืมล๊อคห้องและช่วยซักผ้าปูเตียงด้วยจะดีมาก

 

ก็คราบบนผ้าของมันทั้งนั้นอะ

 

 

“ไอ้แกน เมื่อวานตอนบ่ายมึงหายไปไหน?” นักสืบคนที่1นามว่าทัช

“ถ้าให้กูเดา..พี่พอสละสิ” นักสืบคนที่2เดาเหตุการณ์แม่นวุ้ย

 

ผมทำหยิ่ง ไม่ตอบพวกมัน เอาแต่จกยิกๆตามที่อาจารย์พูด ไอ้ทัชไอ้แทนไม่ได้ตอแยผม มันเลิกพูดไปเอง จนเลิกคลาสเมฆก็เดินมาหาผมแล้วบอกว่า

 

“แกรนด์ครับ อาทิตย์หน้าก็จะสอบแล้วนะ”

“หะ จะสอบแล้วเหรอวะ?”

“ครับ สอบมิดเทอม แกรนด์เริ่มอ่านหนังสือบ้างรึยัง? ผมเป็นห่วงกลัวว่าแกรนด์จะติดเอฟ”

 

แช่งกูอีก

 

“เออๆ ขอบใจที่เตือน”

 

คงเพราะผมเอาแต่เรียนๆเล่นๆ ไม่จริงจัง ไม่ได้รู้ตัวว่าผมดองงานไว้เยอะแค่ไหน คะแนนแล็ป เทส ควิซ ต่างๆนานาก็พอถูไถ ไม่ต่ำกว่ามีนผมก็โอเคแล้ว ซึ่งความจริงไอ้การที่ได้คะแนนเท่ากับหรือบวกลบมีนไม่เกิน2-3คะแนนนั้นมันหมายความว่าคุณหมดสิทธิ์ที่จะได้Aแน่นอน ผมก็ไม่ได้หวังจะได้Aทุกวิชาอยู่แล้ว

 

สุดท้ายก็ไม่พ้นคนที่ได้แม๊กเกือบทุกวิชามาเตือน

(หมายเหตุ-ค่ามีนmeanคือค่าเฉลี่ย ค่าแม๊กmaxคือค่าคะแนนของคนที่ได้สูงสุด ค่ามินminคือค่าคะแนนของคนที่ได้ต่ำสุด)

 

ผมตัดสินใจไม่ไปกินข้าวกลางวัน เพราะต้องการเคลียงานที่ดองไว้ให้เสร็จเรียบร้อย หย่อนก้นลงบนเก้าอี้ม้าหิน เริ่มเปิดหนังสือและจรดปลายปากกาลงบนกระดาษรายงาน

 

“ฝากซื้อไรป่าว” ทัชหันมาถาม

“ไม่วะ พวกมึงไปกินกันเถอะ” มันพยักหน้ารับก่อนจะพากันเดินไปกินข้าวกลางวัน

 

นั่งปั่นงานอยู่คนเดียว ไม่มีคนคอยรบกวนก็ดีเหมือนกัน จะได้เสร็จเร็วๆ ผมเงยหน้า พักสายตาและพักมือเนื่องจากเขียนมานานแล้ว แต่ขณะที่จะก้มลงทำต่อนั้นก็มีผู้หญิงชั้นปีเดียวกับผมยื่นถุง7-11มาให้พร้อมกับพูดว่า

 

“มีคนฝากมาให้ค่ะ” แล้วเธอก็เดินจากไป ทิ้งให้ผมงงกับถุงที่ตั้งอยู่ตรงหน้า ผมเอื้อมมือไปหยิบ เปิดถุงดูก็พบว่ามีโพสอิสแปะอยู่ด้านใน ผมเลือกที่จะอ่านก่อน

 

ไอ้ของที่กินไม่ได้เก็บไว้ใช้เย็นนี้ 

 

อะไรวะ?

 

ได้อ่านดังนั้นผมก็เลยรื้อค้นดูของในถุง

ข้าวกล่องอีซี่โก ขวดน้ำอิชิตัน เลย์1ห่อ สโมกกี้ไบท์ หมากฝรั่ง M150จำนวน1ขวดและ…

 

ถุงยาง1กล่อง

 

 

ไอ้เชี่ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

 

 

ได้แต่เจ็บใจ ทำไรมันไม่ได้ การที่มันรู้ว่าผมไม่ได้กินข้าวกลางวันแบบนี้แสดงว่ามันต้องแอบจับตามองผมจากที่ไหนสักแห่งแน่ๆ ผมมองไปรอบตัว หรี่สายตาราวกับจับผิดอะไรบางอย่าง โดยเฉพาะตรงโต๊ะหน้าสโมสรคณะวิศวะ แต่ก็ไม่พบเจอคนร้าย เลยก้มหน้าก้มตาเขียนต่อ ไม่แตะต้องของกินที่มีคนฝากมาให้

 

สักพัก ไอ้ทัชกับไอ้แทนก็เดินมา คนอื่นๆไม่ได้ตามมาด้วย มัน2ตัวนั่งลง

 

“เสร็จยังวะ?” ไอ้ทัชถามก่อน ผมหยุดเขียน เงยหน้าตอบมัน

“เห็นว่าเสร็จยังละ?”

“ยัง...แล้วนี่..ของใครวะ..”

“เห้ยยย!!”

 

ไม่ทันแล้วครับ ไอ้ทัชคว้าถุง7ไปรื้อดู

จบกัน ชีวิตกู...

 

“อู้ววววววววววววว กล่องนี้มันอะไรกับครับ..แล้วนี่...โพสอิทจากใครเอ่ย?” ขอบคุณไอ้ทัชที่ไม่ชูกล่องอุบาทว์ๆนั่นขึ้นมาให้อับอายเล่น แต่มันกลับชูกระดาษเล็กๆสีเหลืองขึ้นมาแทน

 

“ลุงรหัสกูแน่นอน ฟันธง!”

 

ผมเข้าไปยื้อแย่งกระดาษนั่นมาจากมือไอ้ทัช แต่ก็แย่งไม่สำเร็จ เพราะมันสูงกว่า แม่มม T T

 

“เดี๋ยวนี้พัฒนาเว้ยเห้ยยยยย กริบกริ้ววววววว”

“สัด” ผมทิ้งตัวลงอย่างปลงๆ ไงก็แย่งมันไม่ได้อยู่แล้ว

“สรุปว่ามึงได้กับพี่พอสยังวะ กูงง” ไอ้แทนถามตรงๆ ไม่อ้อมค้อม สีหน้ามันดูจริงจังมาก แต่เรื่องไรที่ผมจะต้องประจานความอับอายของตัวเองละ?

 

“ถ้ายังไม่ได้...เมียกูจะส่งกล่องนั่นมาให้เหรอไง”

 

“ชิบหายยยยยยยยยยยยยย”

“ลุงรหัสกู...ไม่น่าเลย  ฮือๆๆๆๆ”

 

หึหึ

 

ผมก้มลงทำงานต่อ ไม่สนใจว่าไอ้มัน2ตัวจะซุบซิบไรกัน พอคนที่โต๊ะซุ้มเริ่มเยอะขึ้นก็ไม่เห็นไอ้ทัชกับไอ้แทน หายหัวกันไป2คน เพื่อนๆพากันถาม ผมก็ได้แต่ตอบออกไปว่าไม่รู้ ไม่มีสมาธิในการลอก เอ๊ย ไม่มีสมาธิในการทำงาน เสียงพูดคุยโหวกเหวกดังรอบตัวจนต้องวางปากกา ปิดหนังสือ

 

ถึงเวลาเรียนในช่วงบ่าย ผมเดินขึ้นไปเรียนพร้อมๆกับเพื่อน เดี๋ยว2คนนั้นมันก็ตามมาเองแหละ

 

แล้วก็เป็นไปตามคาด เลทไปประมาณครึ่งชั่วโมง ไอ้2ตัวก็โผล่มาให้เห็น

 

“สัดแกรนด์ หลอกพวกกู คืนนี้เตรียมตูดบานเถอะมึง หึหึ”

 

การที่มันพูดแบบนี้แสดงว่า...พวกมันหายหัวไปเพื่อถามเรื่องนี้กับไอ้เหี้ยพอสสินะ

แม่งจะไปถามทำไมวะ ห๊ะ!?

 

 

 

 

“ไอ้เหี้ยพอส...หยุด...พอ กูจะอ่านหนังสือ”

 

ตอนนี้ผมนั่งอยู่บนโต๊ะเตี้ยๆที่ห้องของมัน มันบังคับผมให้ขึ้นรถมัน พาไปกินเย็นตาโฟริมฟุตบาท ก่อนจะกลับมาที่ห้องและเป็นเช่นนี้แล...

 

“ก็อ่านไปสิ หึหึ”

 

โว๊ยยยแม่งงงงงงงง ไซร้คอกูแบบนี้จะให้กูมีสมาธิอ่านหนังสือได้ไงวะ ห่าราก!

 

“สัด กูขอร้อง อาทิตย์หน้ากูก็จะสอบแล้ว” คนทำตัวเป็นปลิงดูดเลือดก็ยังไม่ยอมหยุด “มึงก็ไปอ่านหนังสือเถอะ ใกล้สอบแล้วอะ” คือไม่ได้เป็นห่วงมันนะ แต่ผมรำคาญ ต้องการไล่มันให้พ้นๆจากตัวผม

 

“ไว้ค่อยอ่าน...” มันดันหนังสือผมวางลงกับพื้น ประคองใบหน้าผมให้สบตากับมัน “มึงไปบอกไอ้ทัชกับไอ้แทนเหรอว่ากูเป็นเมียมึง?” ผมไม่ตอบ พยายามดันตัวออกห่าง

 

“สงสัยต้องทบทวนกันอีกรอบแล้วล่ะมั้งว่าใครเป็นเมียใคร”

“ไม่! กูจะอ่านหนังสือโว๊ยยยยยยยยยยยยยย”     

 

คิดผิดคิดถูกเนี่ย หลวมตัวมาคอนโดมัน เห้ออออออ          

 

“นะครับ...” เสียงกระซิบพร้อมกับคำพูดเพราะๆนั่นทำให้ผมต้องยอมมันทุกทีสิน่า

 

ตามนั้นแหละครับ..กล้องแพนไปที่หนังสือ โคมไฟ อะไรก็แล้วแต่เนอะ...

.

.

 

.

 

 

.

 

“แกรนด์...”

“อะไร”

 

เรียกกูทำไมอีกวะ

 

“มึงทำสเน่ห์ใส่กูใช่มั้ย?”

 

ไอ้ห่า ใช้ส้นตีนไรคิดเนี่ย!?

 

“ทำไมกูนึกถึงหน้ามึงตลอดเวลาเลยวะ แม่ง...” มันเหมือนบ่นกับตัวเอง “จริงๆนะ...กูอยากกอดมึง อยากอยู่กับมึง อยากได้ยินเสียงมึง” คนพูดกระชับอ้อมแขนให้คนฟังรู้สึกว่าที่พูดออกไปนั้นไม่ได้โกหก อยากให้คนฟังได้รับรู้ถึงความรู้สึกที่เป็นอยู่ตอนนี้ว่ามันทรมานแค่ไหน

 

“แล้วผู้หญิงในสต๊อกของมึงล่ะ? เยอะแยะนิ เอาไปไว้ไหนหมดละ เหอะๆ”

 

ยอมรับนิดหน่อยว่าผมใจเต้นไปกับคำพูดหวานเลี่ยนๆนั่น แต่ก็ยังไม่ปักใจเชื่อเต็มร้อย

 

“กูไม่ต้องการผู้หญิงพวกนั้น...กูต้องการแต่มึง” สัมผัสเบาๆที่ปากเพื่อเป็นการตอกย้ำ ผมรับตารับอย่างเต็มใจ ไม่มีการละลาบละล้วงใดๆ เพียงแค่ริมฝีปากชนกันเท่านั้น ไม่นานก็ถอนริมฝีปากร้อนๆออกไป

 

เป็นการจูบที่ผมรู้สึกว่ามันอบอุ่น

 

ไม่ต้องใช้ลิ้นเพื่อเรียกร้องตัณหา เพียงแค่สัมผัสที่แผ่วเบา

 

ครั้งนี้จะยอมมันก็ได้...ยอมรับว่าแพ้มันหมดรูปจริงๆ

 

“อืม...กูก็ต้องการมึง...”

 

คนที่นอนข้างกายเบิกตากว้าง ดูตกใจกับสิ่งที่ผมพูดออกไป ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นสายตาที่แบบมันชอบทำใส่ผม...

 

“ดีมาน ซับพลายตรงกัน...ดังนั้น จัดอีกรอบนะ” มันยื่นหน้าเข้ามาหวังจะฉกจูบ แต่ผมปิดปากมันไว้ได้ทัน

 

โอ๊ยยยยยยยยย ไอ้มักมาก ไอ้หื่น ไอ้หล่อลื่น ไอ้$(^&$*^+^$**^$^

 

“หยุด!!!!! นับแต่เวลานี้ วินาทีนี้เป็นต้นไป ห้ามมึงล่วงเกินกูอีกจนกว่าจะสอบเสร็จ!!!!!”

 

กูไม่อยากติดเอฟหรือโดนไทร์ให้พ่อแม่เสียใจนะโว๊ยยยยย แม่งงงงงงงง

 

“งะ...สอบเสร็จเมื่อไหร่..?”

 

นั่นดิ...แล้วกูสอบเสร็จเมื่อไหร่วะ?

 

“อีก2สัปดาห์...” ตอบส่งๆไปก่อนละกัน เพื่อความปลอดภัยของตัวผมเอง

“โหยเว่อ”

 

มันทำหน้าไม่เชื่อ แต่ผมรู้ว่ามันต้องไปเค้นเอาความจริงจากหลานรหัสมันแน่นอน

 

“แต่ไม่เป็นไร..ถึงกูล่วงเกินมึงไม่ได้...แต่มึงล่วงเกินกูได้นะ”

 

ใครจะอยากทำอะไรมึ้งงงงงงงงงงงงงงงง หลงตัวเองวะแสรดดดดดด

 

 

 

 Talk

เว็บนี้อัพนิยายยากมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

ถ้าไม่มีคอมเม้นต์คงไม่อัพแล้ว (ล้อเล่นนน 55)

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.3 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา