Just a Dream…หรือแค่ฝันไป
เขียนโดย koala
วันที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2556 เวลา 16.59 น.
แก้ไขเมื่อ 17 มกราคม พ.ศ. 2556 00.09 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
2) ลูกค้าโรคจิต
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความผมขอให้คุณเก็บชื่อผมไว้เป็นความลับก่อนได้ไหม...ผมชื่อ ภาณุ จิระคุณ
“คุณหมอ...คุณหมอคะ” เสียงพยาบาลเรียกพลางเขย่าตัวเธอไปพร้อมกัน
ร่างบางค่อยๆลืมตาขึ้นพร้อมความรู้สึกปวดหัวตุ๊บๆนิดหน่อย “นี่ฉันสลบไปหรอคะเนี่ย”
“ใช่ค่ะคุณหมอ ได้ยินเสียงคุณหมอกรี๊ด พี่ก็เลยรีบวิ่งมาดู ก็เห็นคุณหมอนอนอยู่ข้างหน้าต่าง ดูซิตากฝนเปียกหมดเลย”
คนสูงวัยกว่ากล่าวตอบ ก่อนแพทย์สาวจะก้มมองสภาพตัวเองตอนนี้ที่ไม่ต่างอะไรกับลูกหมาตกน้ำ
“สงสัยเมื่อวานคงนอนดึกไปหน่อย ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้ว ขอบคุณนะคะพี่แดง” สาวร่างบางกล่าวขอบคุณผู้สูงวัยกว่า
“ไหวจริงๆหรอคุณหมอ ไปพักก่อนไหม” คนสูงวัยเอ่ยด้วยความเป็นห่วงต่อ
“ไม่เป็นไรจริงค่ะพี่ เดี๋ยวขอนั่งพักซักแป๊บคงดีขึ้น พี่แดงไปทำงานต่อเถอะค่ะ” เธอตอบกลับอย่างเกรงใจ
“ถ้ามีอะไรก็เรียกพี่ได้เลยนะคะ” ร่างบางพยักหน้าและยิ้มตอบรับแทนคำขอบคุณ
นี่เราฝันว่าได้คุยกับหมอนี่จริงๆหรอ สงสัยจะนอนน้อยจริงๆนะเรา เพ้อเจ้อไปกันใหญ่แล้ว
สลัดความฝันเมื่อครู่ออกจากสมอง ก่อนจะเดินออกจากห้อง
“พักผ่อนเยอะๆนะครับคุณหมอ” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นหลังจากที่ประตูห้องปิดลง
นี่เขาทำถูกหรือเปล่านะ ที่ทำให้เธอคิดว่าเรื่องเมื่อครู่มันเป็นแค่ความฝัน...
......................................................
ในห้องประชุม
สาวร่างสูงกำลังนำเสนอโปรเจคท์คอนโดกลางใจเมืองใหม่ล่าสุดที่เธอเป็นคนออกแบบกับที่ประชุมของบริษัท
เสียงปรบมือดังทั่วห้องหลังจากการนำเสนอจบลงอย่างสวยงาม
“ยังสุดยอดเหมือนเดิมนะน้องแก้ว” เสียงรุ่นพี่คนหนึ่งเอ่ยชมเธอ
“ไม่หรอกพี่แบงค์ เพราะทุกคนช่วยกันทำต่างหาก มันเลยออกมาดี” คนถูกชมยังคงถ่อมตัว
“ไม่ต้องถ่อมตัวหรอกแก้ว โปรเจคท์นี้ถ้าไม่ได้แก้วมาช่วยพี่ตายแน่” รุ่นพี่ยังคงยอเธอต่อ
“เสาร์นี้ใครว่างบ้าง” หนุ่มคนเดิมถามสมาชิกที่เหลืออยู่ประปรายในห้องประชุม
“ทำไมเหรอคะเฮีย” พนักงานสาวคนหนึ่งถามขึ้น
“ก็เฮียจะเลี้ยงปิดโปรเจคท์ไงถามได้ ถามไม่คิดเลย” พนักงานชายอีกคนแทรกขึ้นมาต่อ
“โอ๊ย...ใครจะไปรู้ทุกเรื่องเหมือนนายล่ะ”
ร่างสูงมองเพื่อนสองหนุ่มสาวเถียงกันอย่างขำๆ ก่อนจะถูกเสียงหนึ่งเรียกขัดจังหวะ
“แก้ว เข้ามาพบผมในห้องหน่อยสิ” เสียงนั้นคือเสียงท่านประธานบริษัทนั่นเอง
เธอเดินเข้าไปในห้องตามคำสั่งท่านประธานก่อนหย่อนกายนั่งลงบนเก้าอี้อีกฝั่ง
“ผมมีงานที่อยากให้คุณช่วย พอดีเป็นลูกค้ารายใหญ่ของเรา เขาอยากให้ไปช่วยตกแต่งบ้านให้เขาหน่อย
คุณพอจะว่างอาทิตย์นี้ไหม เขาอยากนัดให้คุณไปดูบ้าน” ประธานกล่าวถึงจุดประสงค์ของการเรียกเธอเข้ามาในห้อง
“ว่างค่ะ ไม่มีปัญหาค่ะบอส แล้วเขานัดที่ไหนหรอคะ” เธอตอบตกลง
มือหนาของบอสยื่นแผนที่ของสถานที่นัดหมายให้เธอ
“นี่แผนที่ ไปถูกนะ” เธอดูกระดาษแผ่นนั้นก่อนจะพยักหน้าน้อยๆ
“อ้อ ลูกค้านัด 10โมงนะแก้ว อย่าไปสายล่ะ” เจ้านายเตือนเธอเรื่องเวลา
“รับทราบค่ะบอส” สาวร่างสูงตอบกลับ
ณ งานฉลองปิดโปรเจคท์
เสียงดนตรีดังกึกก้องไปทั่ว หนุ่มสาวต่างพากันออกลีลาลวดลายอย่างสนุกสนานตามเสียงเพลง
“เดี๋ยวฉันไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ” แก้วบอกเพื่อนร่วมงานที่กำลังเต้นอย่างเมามันอยู่ข้างๆเธอ
“ให้ฉันไปเป็นเพื่อนไหมแก” เพื่อนสาวถามด้วยความเป็นห่วง
“ไม่เป็นไร ฉันไปคนเดียวได้ แกไม่ต้องกลัวฉันโดนฉุดหรอกน่า ฝีมือระดับนี้แล้ว” สาวร่างสูงยกแขนขึ้นโชว์กล้าม(ที่ไม่มี)
“จ๊ะ แม่หญิงเหล็ก” เพื่อนคนเดิมเริ่มหมั่นไส้นิดๆ
ความจริงหญิงเหล็กนี่เป็นฉายาที่เพื่อนๆของเธอตั้งให้ เพราะเธอมีดีกรีเป็นถึงนักเทควันโดสายดำและเคยใช้วิชาเทควันโดของเธอจับโจรขโมยกระเป๋าสตางค์มาแล้ว เป็นไงเก่งมั้ยล่ะ
พลั่ก...สาวร่างสูงถูกชนเข้าทางด้านหลัง ร่างของเธอเซถลาไปตามมวลของวัตถุที่เข้ามาชน
แต่ทันใดนั้นก็มีมือหนาคว้าข้อมือเธอเอาไว้ก่อนที่จะล้มลง ร่างของเธอเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของชายหนุ่มหน้าหวาน
ตาทั้งสองประสานกัน ความรู้สึกแปลกๆก่อเกิดขึ้นภายในหัวใจวิ่งไปสู่ปลายประสาททั่วร่างกาย
นี่มันคืออะไรกันนะ ทำไมใจมันสั่นอย่างนี้ล่ะ
แต่ก่อนจะเตลิดไปไกลกว่านั้น สติสัมปชัญญะของความเป็นหญิงเหล็กของเธอก็กลับคืนมา
“เฮ้ย นี่คุณจะลวนลามฉันเหรอ ไอ้โรคจิต”
คนถูกกอดเมื่อครู่สลัดตัวออกพร้อมชักศอกใส่ท้องของหนุ่มร่างโปร่งก่อนจะวิ่งหนีเข้าห้องน้ำไป
โอ๊ย...จุกสิคร้าบบบ ผู้หญิงอะไรโหดชะมัด อุตส่าห์มาช่วย ซวยจริงๆเรา ทำคุณบูชาโทษแท้ๆ
ผู้หวังดีแต่โชคร้ายนึกพลางเอามือกุมท้องตัวเอง
หนุ่มหน้าหวานเดินกุมท้องตัวเองกลับมาที่โต๊ะ สร้างความแปลกใจให้กับเพื่อนร่วมโต๊ะ
“นี่แกไปทำอะไรมาวะไอ้โมะ” เสียงหนุ่มหน้ายาวเพื่อนสนิทของเขาเอ่ยขึ้นหลังจากเห็นสภาพเพื่อนตัวเอง
“ไม่มีอะไรหรอกแค่ไปช่วยผู้หญิงคนนึงไม่ให้ล้ม แต่เขาหาว่าฉันเป็นพวกโรคจิตเลยโดนอัดเข้าให้
โหดชะมัดเลย เห็นตัวผอมๆไม่น่าจะแรงเยอะ” หนุ่มผู้บาดเจ็บยังคงบ่นต่อ
“สงสัยหน้าแกคงจะดูหื่นนะ เขาถึงนึกว่าเป็นพวกโรคจิต” เพื่อนคนเดิมของเขายังคงทับถมต่อ
“ไอ้บ้า ฉันก็ทำหน้าปกติของฉัน ใครจะทำหน้าหื่นได้อารมณ์เท่าแก ไอ้เขื่อน” เขาแซวหนุ่มหน้ายาวกลับบ้าง
“ใช่ๆ พี่เขื่อนทำไมไปว่าพี่โทโมะเขาอย่างนั้นล่ะคะ พี่โทโมะออกจะหล่อขนาดนี้”
จินนี่สาวคนสนิทของเขื่อนกล่าวแทรกขึ้น
“ได้ทีรุมเค้าเลยนะตัวเองอ่ะ นี่แล้วเค้าไม่หล่อหรอ” เขื่อนเริ่มงอน
“โธ่ หล่อที่สุดอ่ะคนนี้น่ะ” สาวคนเดียวในโต๊ะเริ่มง้อหนุ่มหน้ายาว
บทสนทนาค่อยเปลี่ยนเรื่องไปเรื่อยๆจนกระทั่งถึงเวลาที่ต้องแยกย้ายกันกลับบ้าน
“นี่พรุ่งนี้แกว่างหรือเปล่า” หนุ่มหน้ายาวถามเพื่อน
“ไม่ พรุ่งนี้ฉันมีธุระเรื่องที่บ้านนิดหน่อย” หนุ่มหน้าหวานปฏิเสธ
“โอเคๆ งั้นว่างๆค่อยนัดกันอีกที ไว้คราวหน้าอย่าลืมเอาไอ้ป๊อปมาด้วยนะ”
คำชวนของหนุ่มหน้ายาวทำเอาคนที่ฟังสะอึกไปเล็กน้อย ก่อนจะตอบเลี่ยงๆว่า
“ช่วงนี้ป๊อปมันไม่ค่อยว่าง ต้องศึกษางานด้านการบริหารของบริษัทใหม่น่ะ”
“เออจริง ทำงานบริหารมันคงไม่ถนัดเท่าไหร่ คงต้องศึกษากันไปซักพัก แกถนัดด้านนี้แกน่าจะพอช่วยมันได้นะ”
เพื่อนหนุ่มเสริมต่อเพราะเห็นว่าเพื่อนของเขาคนนี้ทำงานในบริษัทส่งออกเฟอร์นิเจอร์รายใหญ่แห่งนี้มาสักพัก
แถมยังมีตำแหน่งเป็นอีกหนึ่งในพนักงานระดับสูงในบริษัทอีกด้วยน่าจะพอให้คำแนะนำกับผู้บริหารคนใหม่ได้
“อ้อ...อืม ช่วยอยู่แล้วล่ะ น้องชายฉันทั้งคนนะเว่ย” หนุ่มหน้าหวานเริ่มตอบตามน้ำไป
“ไปละ โชคดีเพื่อน” เขาตัดบทกล่าวอำลาเพื่อนก่อนจะขับรถสปอร์ตคันหรูออกไป
มันเป็นอะไร ดูแปลกๆนะ หนุ่มหน้ายาวพอจะมองออกถึงปฏิกิริยาที่ผิดปกติไปของเพื่อนสนิท
....................................................
เช้าวันรุ่งขึ้น
แสงแดดยามเช้าสาดส่องเข้ามาทางหน้าต่างบานใหญ่ ชายหนุ่มค่อยๆลืมตาขึ้นพร้อมอาการมึนศีรษะเล็กน้อย
สงสัยเมื่อคืนจะดื่มเยอะไปหน่อย
ชายหนุ่มค่อยบิดตัวคลายความปวดเมื่อยก่อนจะมองนาฬิกาแล้วต้องตกใจอย่างสุดขีด
“ฉิบหายแล้ว 9 โมง นัด10โมงจะไปทันไหมเนี่ย” เขารีบลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวแบบติดเทอร์โบ
ชายหนุ่มใส่เชิ้ตสีชมพูอ่อนพับแขนขึ้นทั้งสองข้างกับกางเกงแสล็คสีขาวคาดด้วยเข็มขัดหนังสีน้ำตาลพร้อมเซ็ตผมเล็กน้อยให้เข้ากับใบหน้าเรียว
หลังจากแต่งตัวเสร็จเขารีบบึ่งรถออกจากบ้านไปยังสถานที่นัดหมาย
ติ๊งต่อง...เสียงกริ่งหน้าประตูบ้านไม้ขนาดเล็กกะทัดรัดดังขึ้น แต่ไร้วี่แววของเจ้าของบ้านที่จะออกมาต้อนรับ
สาวร่างสูงจ้องมองดูแผนที่ที่เจ้านายให้มาอีกครั้ง “ก็ถูกนี่นา แล้วทำไมไม่มีคนอยู่ล่ะเนี่ย”
เธอกดกริ่งเป็นครั้งที่สองแต่ผลที่ได้กลับมายังคงเหมือนเดิม
เมื่อยังไม่มีคนมาเปิดประตูเธอจึงลอบแอบมองบริเวณภายในบ้าน เห็นว่าบ้านหลังนี้มีมุมที่จัดไว้อย่างน่ารักๆหลายมุม
อดที่จะคิดถึงเจ้าของบ้านว่าจะต้องเป็นคนที่อบอุ่นและใส่ใจรายละเอียดมากแน่ๆ
เอี๊ยดดด...
รถสปอร์ตคันหรูหยุดจอดที่หน้าบ้านไม้
10.30 am สาวร่างสูงมองนาฬิกา เฮ้อ...จำไว้จริญญาลูกค้าคือพระเจ้า มาสายก็ด่าไม่ได้ นับ1 2 3…10
ประตูรถเปิดออก ร่างของชายหนุ่มร่างโปร่งใส่เชิ้ตสีชมพูก้าวลงจากรถ
เขาถอดแว่นกันแดดออกแล้วโค้งแสดงความขอโทษที่มาผิดเวลานัด “ขอโทษนะครับที่มาช้า”
ร่างสูงหันกลับมามองหน้าผู้ว่าจ้างของเธอ แล้วก็ต้องตกใจ ทั้งสองต่างพูดพร้อมกัน
“นายโรคจิต” “ยัยโหด”
“อย่าบอกนะว่าคุณคือเจ้าของบ้านหลังนี้” หญิงเหล็กของเราเป็นฝ่ายชิงจังหวะพูดก่อน
“อ้อ แน่นอน และก็เป็นเป็นลูกค้าโรคจิตของคุณไง” หนุ่มหน้าหวานยิ้มอย่างมีชัย
=======================================================
มาต่อนะคะ แนะนำติชมกันได้ อาจจะอัพช้านิดนึงพอดีช่วงนี้ยุ่งๆนิดหน่อย
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ