Just a Dream…หรือแค่ฝันไป
เขียนโดย koala
วันที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2556 เวลา 16.59 น.
แก้ไขเมื่อ 17 มกราคม พ.ศ. 2556 00.09 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
1) ยินดีที่รู้จัก
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเป็นโสดทำไม อยู่ไปก็เศร้าเหงาทรวง ไม่คิดจะหาคู่ควง...
ฟังเพลงนี้ทีไรเจ็บจี๊ดทุกทีสิน่า อยู่มาจนป่านนี้ ยังไม่เคยจะมีฟงมีแฟนกับเค้าบ้าง...สาวหน้าหวานคิดในใจ
“นี่ฟาง..ฟาง..ยัยฟางงง” เสียงแก้วเพื่อนสนิทเรียกเธอให้ตื่นจากภวังค์
“จะตะโกนทำไมฮะยัยแก้ว หูแทบแตก” สาวน้อยแหววใส่เพื่อนไปหนึ่งยก
“ก็ฉันเรียกแกตั้งหลายรอบ เห็นแกมัวแต่เหม่ออยู่ นี่แกทำงานหนักจนเอ๋อไปแล้วหรอ” สาวร่างโปร่งเถียงกลับทันควัน
“ไอ้บ้า ฉันปกติดีครบ32ดีจ๊ะ อยากลองดูไหมล่ะ” พลางทำท่านวดหมัด
“โอ้ย ใครจะกล้าหือเจ้าแม่ล่ะคะ”
คนร่างสูงกว่าโบกมือปฏิเสธเพราะทราบถึงฤทธิ์ฝ่ามือพิฆาตของเพื่อนสาวร่างเล็กตรงหน้าเป็นอย่างดี
เห็นตัวแค่นี้แรงเยอะชะมัด
“ดีมาก” คนตัวเล็กเอ่ยอย่างพอใจ
ความจริงไม่มีอะไรหรอกเราก็แกล้งกันเล่นๆนะคะ ฉันกับแก้วเป็นเพื่อนกันมานานแสนนาน เป็นสิบปีจะได้ละ
เราเรียนห้องเดียวกันมาตั้งแต่ป.1ยันจบม.6 เข้ามหาวิทยาลัยเดียวกัน
แต่ดีนะที่คนละคณะไม่งั้นคงเบื่อหน้ากันไปอีกนาน
เพื่อนในกลุ่มของฉันมีหลายคน แต่เอาที่สนิทมากจริงๆก็แก้ว
อีกคนก็ยัยเฟย์ที่ตอนนี้บินหนีพวกเราไปเรียนต่อที่อังกฤษ น่าอิจฉาจริงๆ
อ้อ ลืมบอกไปพวกเราเป็นสาวโสดยกแก๊งค์ค่ะ...
...................................................
หวอ...เสียงไซเรนรถพยาบาลมาถึงที่เกิดเหตุ พบสภาพรถที่ดูจากภายนอกค่อนข้างจะยับเยินพอตัว
หน่วยกู้ภัยกำลังช่วยชีวิตผู้ประสบภัยในรถ เป็นชายหนุ่มอายุประมาณ25ปีซึ่งนอนหมดสติอยู่
หลังจากนำร่างชายหนุ่มออกมาได้
เสียงหวอก็เปิดดังอีกครั้งเพื่อส่งสัญญาณในการนำผู้ประสบอุบัติเหตุไปยังโรงพยาบาล
ณ โรงพยาบาล
“ประกาศขณะนี้มีผู้ป่วยหัวใจหยุดเต้น เรียกทีมCPR เรียกทีมCPR” เสียงประกาศเรียกหน่วยช่วยปั๊มหัวใจดังขึ้น
แพทย์และพยาบาลต่างพากันรีบเข้ามาช่วยชีวิตผู้ป่วยอาการหนักที่เพิ่งมาถึงโรงพยาบาล
“อะดรีนาลีนครับ” เสียงแพทย์สั่งให้ยากระตุ้นหัวใจพลางดูนาฬิกาจับเวลาครบ2นาทีเพื่อคลำชีพจรอีกครั้ง
“คลำชีพจรไม่ได้ ปั๊มต่อครับ” แพทย์หนุ่มบอกผู้ช่วยให้ขึ้นปั๊มหัวใจต่อ
ทีมCPRพยายามช่วยชีวิตหนุ่มผู้ประสบภัยกันอย่างเต็มที่
จนเวลาผ่านไปประมาณ10นาที ชีพจรของชายหนุ่มก็กลับมาเต้นอีกครั้ง
“ติดต่อญาติได้ไหมครับ”
“ยังไม่ได้เลยคุณหมอ คนไข้ไม่ได้พกอะไรติดตัวมาเลย รถก็ไม่ใช่ของตัวเองอีก” พยาบาลสูงวัยบอกนายแพทย์
“ครับ งั้นให้ทำเรื่องนอนโรงพยาบาลไปก่อนละกัน ญาติค่อยหาทางติดต่ออีกที”
1เดือนผ่านไป...
สาวร่างเล็กแต่งตัวด้วยชุดเดรสสีอ่อนก่อนสวมทับด้วยเสื้อกาวน์สั้นปักชื่อด้วยอักษรสีเขียว พญ.ธนันต์ธรญ์ นีระสิงห์
เธอเดินเข้ามาในหอผู้ป่วยทักทายพยาบาลและเจ้าหน้าที่ผู้ร่วมงานด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
ก่อนมองไปที่กระดานดูจำนวนผู้ป่วยที่เธอต้องดูแลในวันนี้ โชคดีที่วันนี้มีไม่มากนัก
เธอค่อยๆเปิดแฟ้มดูอาการของผู้ป่วยและตรวจผู้ป่วยไปทีละคนๆ จนกระทั่งถึงรายสุดท้าย...
เป็นผู้ป่วยชายอายุ25ปี มาด้วยอาการหมดสติเนื่องจากอุบัติเหตุ...
เขานอนใส่ท่อช่วยหายใจมาร่วมเดือนและยังคงไม่ได้สติ
“เคสนี้นอนมานานแล้วค่ะหมอ ยังไม่เคยเห็นญาติมาเยี่ยมเลยค่ะ ไม่รู้จะทำไง แต่อาการคนไข้ก็เท่าๆเดิมตลอดนะคะ”
เสียงพยาบาลผู้ดูแลผู้ป่วยคนนี้เอ่ยขึ้น
“คนที่นอนห้องนั้นไม่เห็นจะมีใครรอดเลยซักคน จริงๆนะคะคุณหมอ” พยาบาลคนเดิมพูดต่อ
สาวร่างบางพยักหน้ารับรู้ ก่อนเดินเข้าไปตรวจผู้ป่วยคนดังกล่าว
แอ๊ดดด...บานประตูเปิดค่อยเปิดตามแรงผลัก
บรรยากาศห้องนี้มันดูหลอนๆไงชอบกลไม่รู้ ร่างบางคิดในใจ...
พุทโธ ธัมโม สังโฆ...ฉันไม่เชื่อเรื่องผีหรือวิญญาณอะไรนะ แต่ปลอดภัยไว้ก่อนก็ดี
เธอค่อยตรวจร่างกายของชายหนุ่มตรงหน้า แม้ใบหน้าอาจจะดูซูบผอมลงไปแต่เค้าโครงหน้าเดิมคงจะหล่อเอาการอยู่
น่าแปลกที่เธอรู้สึกคุ้นเคยกับคนตรงหน้าเหลือเกิน
นี่ฉันเคยรู้จักนายมาก่อนหรือเปล่าเนี่ย...
ท้องฟ้าภายนอกเริ่มมืดครึ้ม ฝนค่อยๆกลั่นตัวเป็นเม็ดตกลงตามแรงโน้มถ่วงของโลก ละอองฝนเริ่มกระเด็นเข้ามาในห้อง
แพทย์สาวเดินไปเลื่อนปิดหน้าต่าง
‘เปรี้ยง’ สายฟ้าพาดผ่านจากท้องฟ้าสู่พื้นดิน พร้อมกับสาวร่างบางที่ตกใจจนเป็นลมหมดสติไป
“ขวัญอ่อนจริงๆเลยนะคุณ” เสียงเข้มๆลอยเข้าโสตประสาทของหญิงสาว
เธอค่อยๆขยับเปลือกตาขึ้นรับแสงสว่าง เห็นเงาดำๆตรงหน้า พยายามเรียกสติกลับคืนมา
เสียงใครกันนะหรือว่าจะเป็นญาติคนไข้
สายตาค่อยๆปรับให้ชัดเจนขึ้น จนสามารถมองเห็นใบหน้าของต้นเสียง
คนตัวเล็กรู้สึกช็อคไปเล็กน้อยถึงปานกลาง
เพราะสิ่งที่เห็นนั้นคือชายหนุ่มที่หน้าตาละม้ายคล้ายคลึงแทบจะเป็นคนเดียวกับคนที่กำลังนอนไม่ได้สติอยู่บนเตียง
“กรี๊ดดดด...ผ..ผ..ผ..ผี ผีหลอก”
เธอพยายามรวบรวมกำลังขาอย่างเต็มที่ แต่ทำไมขาเจ้ากรรมดันไม่ยอมจะขยับเสียนี่
แพทย์สาวหลับตารวบรวมสติ หรือบางทีหมอนั่นอาจจะมีปาฏิหาริย์ฟื้นขึ้นมาเองได้นะ เธอภาวนาให้เป็นอย่างนั้น
แต่ก็ดูไม่เป็นผลเพราะเมื่อลืมตาขึ้นมาก็พบร่างของชายหนุ่มที่เธอเห็นตรงหน้าเมื่อครู่นอนนิ่งไม่ได้สติอยู่
นี่ฉันฝันหรืออะไรกันเนี่ย โอ้พระเจ้าช่วยลูกด้วย นาทีนี้ศาสนาไหนก็ไม่สำคัญแล้ว ฮือ...
หญิงสาวพนมมือสวดมนต์หลับตาอธิษฐานแผ่ส่วนบุญกุศลแบบจัดเต็ม
~~
~~~
เงียบ...
เธอค่อยๆเปิดตาขึ้นพร้อมกับความว่างเปล่า เฮ้อ...เราหลอนไปเองเหรอเนี่ย
“นี่คุณ” เสียงเรียกดังมาจากด้านหลังของเธอ หญิงสาวสะดุ้งหันกลับไปมองแล้วช็อคเป็นรอบที่2
“เยส” ชายหนุ่มทำท่าดีใจสุดขีด “คุณเห็นผมจริงๆใช่ไหม” เขาพูดต่อโดยไม่ให้เธอแทรกจังหวะเข้าไปได้
“กรี๊....”
“หยุดเลย ฟังผมก่อน” ชายหนุ่มตรงหน้าพูดก่อนที่เธอจะกรี๊ดอีกรอบ
“ผมไม่ใช่ผีนะครับ ผมยังไม่ตาย คุณก็เห็นอยู่นั่นไง” เขาชี้ไปที่ร่างไร้สติของตัวเอง
“ถ้ายังไม่ตายแล้วที่ฉันเห็นอยู่ตอนนี้มันคืออะไรล่ะ”
สาวร่างเล็กค้านขึ้น เพราะหลักการและทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ไม่สามารถอธิบายสิ่งที่เธอเห็นตรงหน้าได้
นี่มันศาสตร์มืดอะไรเนี่ย ผี วิญญาณ โอ๊ย...ฉันขอเป็นลมอีกรอบจะได้ไหม สาวร่างเล็กคิดในใจ
“จะให้ผมอธิบายยังไงดีล่ะ คือผมยังไม่ตายนะ แต่วิญญาณของผมเข้าร่างไม่ได้” ชายหนุ่มหน้าเข้มพยายามอธิบาย
“คุณเป็นคนแรกที่สามารถมองเห็นและคุยกับผมได้นะ ที่ผ่านมามีคนเข้าห้องนี้มาเป็นสิบไม่เคยมีใครจะเห็นผมซักคน”
เขาพูดต่อพร้อมกับยิ้มกรุ้มกริ่ม
“แต่ฉันไม่ได้อยากเห็นคุณและคุยกับคุณได้นี่นา”
แพทย์สาวตอบทันควัน พลางคว้าสร้อยพระที่คอขึ้นชี้ไปทางหนุ่มหน้าเข้ม
“นี่คุณ ดูละครมากไปเปล่า เก็บสร้อยพระของคุณไปเลย ก็บอกแล้วไงว่าผมไม่ใช่ผี
ผมยังไม่ตาย ที่สำคัญผมเป็นคนดี เคยได้ยินไหม คนดีผีคุ้มอ่ะ” เขาพูดพลางยักคิ้วใส่เธอ
“และที่สำคัญถ้าผมจะทำ ทำไปนานแล้วไม่รอให้คุณมาต่อปากต่อคำกับผมได้ขนาดนี้หรอก”
“ฉันต่อปากต่อคำกับคุณยังไงไม่ทราบฮะ” คุณหมอสาวเถียงต่อ
“เอาเถอะๆ เอาเป็นว่าเรามาทำความรู้จักกันหน่อยไหมครับคุณหมอ”
“นี่ถามฉันหน่อยมั้ยว่าอยากรู้จักคุณหรือเปล่า” คำพูดของเธอทำให้หน้าชายหนุ่มสลดไปเล็กน้อย
“ถ้าคุณไม่อยากรู้จักผมก็ไม่เป็นไร แค่ทักผมบ้างก็พอแล้วล่ะ อย่างน้อยก็ทำให้ผมรู้ว่าผมไม่ได้อยู่คนเดียวในโลกใบนี้”
คุณหมอสาวอึ้งไปเล็กน้อยกับคำพูดเมื่อครู่ของชายหนุ่ม เธอจึงเอ่ยขึ้นว่า
“โอเคๆ คุณพูดซะฉันเป็นคนเลวไปเลย” สร้างรอยยิ้มให้บังเกิดบนหน้าของชายหนุ่ม
“งั้นผมป๊อปปี้หรือคุณจะเรียกผมว่าป๊อปก็ได้นะ ยินดีที่รู้จักคุณหมอนะครับ” ชายหนุ่มแนะนำตัวพร้อมกับส่งยิ้มตาหยี
“ฉันชื่อฟาง เออว่าแต่ชื่อจริงนายชื่ออะไร เพราะตอนนี้เขายังหาประวัตินายไม่ได้เลย” คุณหมอสาวถามกลับ
“นี่คุณไม่รู้ชื่อผมจริงๆหรอ” ชายหนุ่มทำหน้าแปลกใจเล็กน้อยที่ทำไมไม่มีใครรู้ชื่อเขาเลย
จนอดที่จะคิดไม่ได้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้มีคนต้องการให้มันเป็นแบบนี้หรือเปล่า
“งั้นผมขอให้คุณเก็บชื่อผมไว้เป็นความลับก่อนได้ไหม”
คนถามไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไหร่แต่ก็พยักหน้ารับคำสัญญานั้นไป “ก็ได้”
“ผมชื่อ ภาณุ จิระคุณ”
========================================================
เพิ่งหัดแต่งยังไงก็ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ ติชมกันได้เลยนะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ