The Gypsy Death...ต่อให้ตายยังไงก็รัก

9.1

เขียนโดย tietang

วันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2555 เวลา 10.14 น.

  24 ตอน
  981 วิจารณ์
  44.65K อ่าน
แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

21) พี่เคนจิ!!

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
โทโมะที่คร่อมแก้วอยู่ไม่ได้แสดงอาการเจ็บหลังแต่อย่างใดปากยังคง
ทำหน้าที่ได้อย่างดี
 
“อือ อือออ”
 
แก้วเริ่มส่งเสียงครางเพราะมือหนาล้วงเข้าไปในสายเสื้อไล้ไปตาม
ร่างกายไม่หยุดหย่อน
 
 
ก๊อก ก๊อก ก๊อก!!
 
เสียงเคาะประตูดงขึ้นโทโมะรีบผละลงมาจากร่างแก้วอย่างรวด มือ
หนาล้วงเข้าใต้เสื้อแก้วอีกครั้งเพื่อดึงบราที่ตัวเองเลิกมันขึ้นมาให้กลับ
มาอยู่ที่เดิม สายตาคมกริมพรางตรวจสอบไปทั่วร่างบางว่ามีส่วนไหนที่
ไม่เรียบร้อยอีกรึเปล่า พบว่าปกติดีก็เดินนิ่งไปเปิดประตู
 
 
หมับ!!
 
เป็นมือแก้วที่รั้งเอาไว้ มันไม่ปลอดภัยหรอกที่จะเปิดประตูสุ่มสี่สุ่มหก
ให้กับใครก็ไม่รู้
 
“นายมันเสี่ยงนะ เปิดไปถ้าเป็นเคนตะจะทำยังไง”
 
“ถ้าไอ้เคนมาจริงมันไม่มีมารยาทขนาดเคาะประตูหรอก”
 
 
คำตอยของโทโมะทำเอาแก้วหน้าชาไปเลย จะบอกว่าเธฮโง่ก็พูด
ตรงๆก็ได้ไม่เห็นต้องทำท่าทางเฉยชาเลยนินา มือบางรีบปล่อยออก
ทันที โทโมะเดินไปเปิดประตู
 
 
แอ๊ด~
 
 
“ทำงานล่าช้าว่ะ”
 
“เออหน่ะ ก็สัญญาณจากGPSแกมันหาง่ายที่ไหนที่ตรงนี้อับสัญญาณ
จะตาย”
 
 
 
เสียงนี้มันป๊อปปี้นิแก้วแอบชโงกหน้ามามองป๊อปปี้ ป๊อปปี้ก็มองตอบ
แล้วยิ้มให้แล้วกวักมือเรียก แก้วชี้มือมาที่ตัวเองประมาณว่าเรียกเธอเห
รอ ป๊อปปี้ก็พยักหน้า แก้วยันกายลุกแล้วเดินออกไป
 
 
“เป็นไงบ้างดูแลไอ้มาเฟียใหญ่ ลำบากน่าดูเลย”
 
ที่ถามก็เพราะดูสภาพแล้วอดสงสารไม่ได้ มอมแม่มเหมือนลูกหมา
ชายเสื้อขาดวิ่น
 
 
“ใครดูแลใครไอ้ป๊อป คนดูแลมันฉัน”
 
 
รับรู้ได้ทันทีเลยว่าดวงตาคมกริบนั่นกำลังประนามเธออยู่ในใจ อยู่ดีๆ
ความโกรธมันมาจากไหนไม่รู้
 
 
“ก็ฉันบอกแล้วว่าฉันมันซวย ถ้ามันลำบากมันเบื่อก็ไม่ต้องมาดูแล”
 
 
พูดจบก็เดินออกไปจากจากบ้าน ถ้าเธอมันตัวปัญหาสำหรับเขาไม่อยู่
ก็ได้หรอก แก้วก้าวยาวๆหนีทั้งทีขาแทบจะไม่มีแรงสงสัยมาจากการวิ่ง
อย่างหนักหนวงบวกกับเมื่อคืนอยู่ดูโทโมะทั้งคืนไม่ค่อยได้นอน
 
 
 
หมับ~
 
มืออุ่นๆรั้งของมือบางไว้
 
 
“คิดมากน่าแก้ว ไอ้โมะมันก็อย่างงี้อย่าไปถือมันเลย”
 
 
ก็นั่นซิ เค้ามันมาเฟียนิไม่เคยแคร์ใครหรอก แก้วได้แต่กร่นด่าโทโมะ
ในใจ
 
 
“ฉันมันซวยใครจะอยากดูแล”
 
“ไม่มีใครซวยหรอกนะ ไปกลับกับเถอะฟางรอเจออยู่”
 
 
เมื่อได้ยินชื่อเพื่อรักถึงกับเกิกความกระตือรื้อร้นขึ้นมาทันที
 
 
“ฟางอยู่กับนายเหรอ”
 
 
“อืม...ตอนนี้พักอยู่โรมแรมที่พวกเธอสามคนไปเช่าไว้ไงไอ้เจ้าหมาตัว
สีขาวก็อยู่ด้วยนะ”
 
 
 
เฮ้ย~เธอลืมไปสนิทเลยว่าตอนนี้เธอยังอยู่ในพัทยาสินะ ดอล์ล่า...ลูกของเธอ แค่คิดก็อยากไปหามันแล้ว ไหนจะฟางอีก เลยตัดสินใจเดินกลับไปกับป๊อปปี้ ระหว่างนั้นผ่านร้านขายยาที่เธอมาซื้อยาไปเมื่อวาน
 
 
 
“ป๊อปปี้ ฉันยืนเงินร้อยหนึ่งได้ไหม”
 
“หืออ...เอาไปทำอะไร”
 
“พอดีว่าเมื่อเย็นมาซื้อยาที่ร้านนี้แล้วเงินไม่พอแต่ป้าเขาใจดีให้ฉันเอา
ยาไปก่อน”
 
 
 
ป๊อปปี้พยักหน้าเข้าใจล้วงเงินในกระเป๋ามาให้
 
 
“ฉันมีแต่เนี่ย มีใบเดียวด้วย”
 
 
ยืนธนบัตรแบงค์พันมาให้ เบื่อจังพวกคนรวยพกแต่บัตรแต่ก็ยังดีที่พอมีเงินสดติดตัวมาบ้างแก้วเดินตรงเข้าไปหาป้าคนขาย
 
 
“อ้าวแม่หนู ยาหมดเหรอ”
 
 
ยิ้มเป็นมิตรอย่างนี้ทำให้เธออดที่จะส่งยิ้มตอบไม่ได้
 
 
“เปล่าคะ คือหนูจะเอาเงินมาคืนป้าหน่ะคะ”
 
 
ว่าแล้วก็ส่งแบงค์พันให้ ป้าเห็นแกก็ตกใจใหญ่
 
 
“บาท สองบาทไม่เป็นไรลูก เก็บไว้เถอะ”
 
 
“ไม่ได้หรอกนะคะป้า ของซื้อของขาย”
 
 
“แต่ป้าไม่มีเงินทองหรอกนะไม่เป็นไร”
 
 
ถ้าคนเราทั้งโลกมีน้ำใจให้กันแบบนี้ก็คงจะดี แก้วยิ้มกว้างจับมือป้า
แล้วยัดเงินใส่ไว้
 
“ไม่ต้องทอนหนูนะคะ แล้วก็ไม่ต้องคิดมากด้วยถ้าเมื่อเย็นหนูไม่ได้ยา
จากป้าอาจมีคนตายก็ได้ใครจะไปรู้ รับไว้นะคะ”
 
 
มืออวบลูบลงบนเส้นผมดำขลับอย่าเอ็นดู
 
 
“ขอบใจนะลูก แต่ป้าไม่เอาหรอก”
 
 
ยัดเงินคืนมาที่มือแก้วแต่แก้วไวกว่ากำมือแน่นไม่ยอมให้ป้าแกยัดเงิน
ได้เลย
 
 
“รับไว้คะดีแล้ว หนูไปก่อนนะคะ”
 
 
ยกมือไหว้แล้วรีบเดินออกจากร้านไป
 
 
“เงินทอนหล่ะ”
 
“ไม่มี เดี๋ยวฉันค่อยคืนให้ละกันนะ”
 
 
“ล้อเล่นหน่ะไม่เป็นไร เธอกับไอ้โมะคนๆเดียวกันเดี๋ยวฉันไปเก็บกับ
มัน”
 
 
ยังไม่ทันที่แก้วจะได้โต้ตอบอะไรไปมากกว่านั้น สายตาพิฆาตจากโท
โมะก็สงรังสีประหลาดๆมาให้ ไม่เข้าใจทำไมมาเฟียต้องดูลึกลับ และ
ท่าทางโหดร้ายตลอดเวลา บางทีแก้วยังแอบคิดว่า พวกเขาจะรักใคร
เป็นไหม? ความคิดจบลงเมื่อก้นนิ่มๆหย่อนลงบนเบาะรถ เมื่อรถเคลื่อ
ตัวออกไปได้ไม่เท่าไหร่แก้วก็ผลอยหลับไป
 
 
 
“ทางโน้นเป็นไงบ้าง”
 
โทโมะที่นั่งนิ่งมานานเอ่ยถามป๊อปปี้
 
 
“ได้เงินคืนมาแล้ว...”
 
 
“ลุยเดี่ยวเหรอว่ะไอ้ป๊อป”
 
“ลุยเดี่ยวอะไรพี่เคนจิมา”
 
 
โทโมะถึงกับต้องเปลี่ยนสีหน้าทันที พี่เคนจิพี่ชายแท้ๆของเขาเอง
เรื่องนี้รู้ถึงหูพี่ชายเขาได้ยังไงกัน เป็นที่รู้กันอยู่ใครคิดว่าโทโมะโหด
นั่นมันยังไม่ได้ครึ่งหนึ่งของพี่เคนจิเลย ตอนนี้พี่เคนจิคงได้ขึ้นเป็นนาย
ใหญ่ที่ญี่ปุ่นแล้วมั่ง
 
 
 
“แล้วตอนนี้ยังอยู่ไหม”
 
 
“รอเจอแกอะแหละ น้องชายสุดที่รักอย่างแกไม่โดนอะไรหรอก”
 
 
“แต่พวกแกโดนไปแล้วซิ”
 
 
“เออดิว่ะ ฉันกับไอ้เขื่อนโดนไปแล้ว”
 
 
“พี่เคนจิทำอะไรพวกแกอีกหล่ะ”
 
 
“เรื่องนั้นไว้ค่อยเล่า ตอนนี้คนงามแกตื่นแล้ว”
 
 
 
โทโมะมองแก้วผ่านทางกระจกมองหลังที่ติดอยู่ในรถ ไม่เชิงตื่นหรอก
แค่ขยับตัวไปมาเพราะนอนทั้งๆที่ร่างกายยังคงนั่งอยู่คงจะไม่สบายตัว
โทโมะจับร่างบางให่นอนราบลงมาที่ตักแก้วก็นอนซบตักอย่างว่าง่าย
มือหนาจับเส้นผมที่ลงมาปรกหน้าทัดหูให้อย่างแผ่วเบา เครื่องหน้าที่ดู
ยังไงก็น่าหลงไหลเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบดำๆ ลามไปจนถึงเสื้อก็
เปื้อนคราบเลือด
 
 
 
“หลงแล้วซิไอ้โมะ”
 
 
ป๊อปปี้ที่มองมาก็อดแซวไม่ได้
 
“อะไรว่ะ ใครหลง”
 
 
“จะใครหล่ะห๊ะ จะบอกให้แกน่ะเลิกทำนิสัยชาๆใส่แก้วเถอะยัยนั่น
เสียใจนะโว้ย”
 
 
“แกไปรู้ได้ไง”
 
 
“แกก็มองแววตาบ้างดิว่ะ เมื่อตอนที่ให้ฉันไปตามก็เห็นอยู่ว่าจะร้องไห้”
 
 
“แกก็รู้ว่าถ้าฉันเลิกทำนิสัยนั่น คนที่จะไม่ปลอดภัยคือแก้ว”
 
“แต่ทนได้เหรอ?”
 
 
“...”
 
 
 
รถเลี้ยวเข้าไปยังโรงแรมแห่งหนึงที่อยู่ในตัวเมืองพัทยา ที่ทำให้ทุก
 
คนต้องกลับมาขรึมอีกรอบก็เพราะผู้ชายร่างสูงที่อยู่ในชุดไปรเวทสีเทา
 
กำลังยืนรออยู่หน่ะซิ โทโมะรีบสะกิดให้แก้วตื่น
 
 
 
“อือ~”
 
 
“ถึงแล้ว...ลุกเร็วฉันหนัก”
 
 
 
แก้วออกอาการมึนงงเมื่อตื่นมาพบว่าตัวเองนอนหนุนตักโทโมะอยู่ รีบ
กุลีกุจอลุกขึ้นไปนั่งตัวตรง ทั้งหมดก้าวลงจากรถ
 
 
“หวัดดีครับพี่”
 
 
“ไง...ปล่อยให้เงินหายได้”
 
 
 
จริงถึงแม้ว่าเคนจิจะดูโหดในหมู่ลูกน้องแต่กับคนในครอบครัวเหมือน
เป็นคนละคนยิ่มภรรยาด้วยแล้วเคนจิเหมือนแมวเชื่องๆตัวหนึ่งเลย
แหละ แต่ถึงเป็นครอบครัวก็ไม่ใช่ว่าจะใจดีเสมอไปหรอกนะงานก็คือ
งานเสมอ นี่แหละสิ่งที่ทำให้ทุกคนกลัวเพราะถ้าโมโหขึ้นมาเมื่อไหร่
ระเบิดยังต้องถอย เคนจิมองไปที่แก้วพลางเพ่งสายตาจนแก้วรู้ตัวว่า
ถูกมอง
 
 
“สวัสดีค่ะ”
 
 
แก้วเองก็ไม่รู้ว่าใคร แต่คนนี้คงจะสำคัญมากอยู่เพราะโทโมะต้อง
 
ยกมือไหว้ แก้วเองก็ยกมือไหว้ ยิ้มกว้างอย่างที่เธอชอบยิ้ม มือบาง
 
ปายหน้าตาอย่างลวกๆเพราะรู้ว่าตัวเองสะบักสบอมแค่ไหน เคนจิยิ้ม
 
ตอบแล้วเดินมาเอามือลูบหัวเบาๆ
 
 
 
“สวัสดีเมียเจ้าโมะมันเหรอ ยินดีตอนรับสู่ไทยานนท์”
 
 
ลูกน้องแถวนั้นหลายคนแอบลอบถอนหายใจ แก้วก็มองไปอย่างงงแต่
 
เมื่อไล่สายตาไปถึงป๊อปปี้ ป๊อปปี้ก็ขยับปากพูดว่า
 
 
‘พี่เคนจิพี่ชายโทโมะ’
 
 
แก้วพยัหหน้ารับ แต่เอ๊ะพี่ชายหันยังไงหน้าตาไม่ค่อยคล้ายกันเท่าไหร่
 
แลดูพี่ชายจะใจดีกว่าโทโมะซะอีก คงมีแค่เธอคนเดียวที่คิกอย่างงั้น
 
หล่ะมั๋ง
 
 
 
“ไปข้างไหนเถอะ”
 
 
โทโมะเอ่ยชวนพี่ชายแล้วเดินนำเข้าไป
 
 
“ก่อนจะพักพี่มีงานให้แกก่อน”
 
“งานอะไร”
 
 
ระหว่างที่เดินเข้าไปด้านในก็คุยกันไปด้วย ที่นี้ไม่มีคนนอกเลยเหรอทำ
ไม่มีแต่ลูกน้องชุดดำเต็มไปหมดเลย จำได้วันนั้นที่เธฮมาจ้องห้องพัก
คนยังเดินกันขวักไกวกันอยู่เลย
 
 
“นั่นไง”
 
 
เดินมาถึงห้องโถงกลางโรงแรม ผู้ชายที่หน้าตาเต็มไปด้วยแผลถูกมัด
อยู่ ส่วนข้างหลังก็มีผู้หญิงคนหนึ่งกับเด็กผู้ชายตัวเล็กๆยืนร้องไห้อยู่
แก้วเห็นทำท่าจะเดินเข้าไปหาเด็กคนนั้นแต่ติดตรงที่ป๊อปปี้รั้งเขนไว้
ก่อน
 
 
“คนที่เข้ามาเอาเงินในเซฟไป เก็บไว้ให้เผื่อว่าจะอยากคุยอะไร”
 
 
โทโมะพยักหน้ารับเดินเข้าไปใหล้คุยอะไรกันอยู่สองสามประโยคซึ่ง
แก้วเองที่อยู่ห่างออกมาไม่ได้ยิน เห็นก็แต่ผู้ชายคนนั้นถ่มน้ำลายใส่
โทโมะ และแน่นอนโทโมะไม่มีทางยอมแรงเหวี่ยงจากด้ามปืนสั้น
กระทบที่ข้างกกหูจนชายคนนั้นลงไปนอนกลิ้งอยู่ที่พื้น ปลายกระบอก
ปืนที่โทโมะถืออยู่ชี้ไปทางศรีษะ ผู้หญิงกับเด็กคนนั้นร้องไห้คร่ำครวญ
อย่างหนัก แก้วทนไม่ได้หรอก เธอเป็ฯคนขี้สงสาร สบัดมือออกแล้ววิ่ง
เข้าไปในวงล้อม
 
 
 
“โทโมะอย่านะ”
 
 
ยืนบังร่างชายคนนั้นไว้
 
 
“ฮือออ ช่วยพ่อหนูด้วย”
 
 
เด็กผู้ชายร้องอย่างน่าสงสาร อ้อนวอนขอใก้แก้วช่วย
 
 
“หลบไป”
 
 
น้ำเสียงเชียบขาดสั่ง แต่แก้วก็ยังยืนกราน
 
 
“จะทำอย่างนี้ได้ไง เมียกับลูกเขาอยู่ตรงนี้นะ อย่าทำไรเขาเลย”
 
 
“เรื่องนี้เธอไม่เกี่ยว ออกไป!!”
 
 
“แต่ฉันสงสารเด็ก จะโหดร้ายก็ไปทำที่อื่นมาทำต่อหน้าเมียกับลูกเขา
ทำไม”
 
 
 
โทโมะเดินเข้ามาใกล้จับตัวแก้วดันออกไปแล้วเล็งปากกระบอกไปที่
 
เดิม
 
 
 
พลัก!!
 
แก้วพลักโทโมะไม่ให้ยิงจนได้
 
 
“แก้ว!!”
 
 
“จะทำอะไรก็ไล่ลูกกับเมียเค้าออกไปก่อน!!”
 
 
“วุ่นวายอะไรนักหนา!!”
 
 
“นายก็ทำตามที่ฉันบอกก่อนเซ่!!”
 
 
 
เพี้ย!!!!
 
 
โทโมะสบัดมือที่แก้วจับไว้อยู่แต่มันพลาดเนื่องจากสบัดแรงเกินไป
หลังมือเลยฟาดเข้าที่แก้มของแก้ว
 
“โอ๊ย!”
ร่างเล็กปลิวหวือลงไปกับพื้น โทโมะตกใจไม่น้อยแต่ครั้งจะลงไปจับก็
ไม่ได้ทั้งพี่ทั้งลูกน้องยืนมองกันเต็มจำต้องใจแข็งทำเป็นไม่สนใจ
น้ำตาไหลอาบแก้มแค่นี้ถึงกับต้องตบเธอเลยเหรอ
 
"นายใจร้าย ไอ้มาเฟียบ้า!!!"
 
ความที่ไม่ทันเห็นว่าโทโมะไม่ได้ตั้งใจพยุงร่างตัวเองแล้งวิ่งขึ้นไปบนห้องทั้งๆที่ไม่รู้ด้วยซ้ำ
ว่าห้องคือห้องไหน

“ตามไปดูหน่อย เดี๋ยวทางนี้พี่จัดการเอง”
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
............................................................................................
 
มาแล้วมาแล้วไม่รู้จะถูกใจใครรอบ้างไหมมมม~ พยายามสุดฝีมือค๊าบบบบ~อ่านแล้วเม้นๆหน่อยน๊าค๊าบบบโหวดนิดๆ(กำลังใจ) ไม่รู้หล่ะเม้นๆแสดงความคิดเห็นหน่อยว่ามันเละห่วยแค่หนายยยยย55+ แล้วจะมาอัพไหมค๊าบบบ

ปล.1รักรีดเดอร์จ๊วฟฟฟม๊วฟฟฟ
ปล.2เม้นๆ(โหวด)แล้วเราจะเจอกัน^^

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.3 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา