Fiction Rewrite

9.3

เขียนโดย StrawberryTKCuTe

วันที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2554 เวลา 16.09 น.

  17 ตอน
  857 วิจารณ์
  38.09K อ่าน
แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

9) ในรอยรัก Special

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

                          ในรอยรัก Special

 

       เมื่อถึงที่หมายโทโมะก็รีบทะยานออกจากรถทันทีด้วยกลัวเหลือเกินหากแม้บ้านเข้ามาเก็บกวาด จะเผลอทิ้งของสำคัญของเขาไปแล้ว  ยิ่งนึกก็ยิ่งเจ็บใจที่เผลอลืมสร้อยสุดรักสุดหวงไปเสียได้   ทันทีที่ก้าวลงจากรถเขาก็รีบวิ่งเข้าไปภายในคอนโดด้วยความเร่งรีบ แต่ก่อนที่เขาจะไปนั้น...

 

“โชคดีนะครับคุณ...ตามหัวใจของคุณกลับมาให้ได้นะครับ”

 

“ขอบคุณครับ”

 

       ชายหนุ่มวิ่งเข้ามาด้วยท่าทีรีบร้อนจนพนักงานทำความสะอาดคนเดียวกับที่เปิดประตูห้องให้กับแก้วเอ่ยทักเขาด้วยความตกใจปนงุนงง ก็ในเมื่อเขาเพิ่งจะย้ายออกไปหมาดๆ จู่ก็รีบรี่กลับเข้ามาโดยไม่รู้สาเหตุสาการ 

 

“อ้าว คุณโทโมะ กลับมาทำไมหรือค่ะ มีอะไรหรือเปล่า?”

 

“เอ่อ..ผมลืมของนะครับ คุณแม่บ้านขึ้นไปทำความสะอาดห้องผม เห็นกล่องสีแดงกำมะหยี่ รูปหัวใจบ้างไหมครับ?”  โทโมะเอ่ยถามพร้อมบ่งบอกถึงลักษณะของวัตถุชิ้นสำคัญของเขากับแม่บ้าน อีกฝ่ายทำท่าครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนจะร้องอ๋อ เป็นเชิงว่าเห็นประมาณนั้น

 

 “อ๋อ เห็นค่ะเห็น  เอ้อ..คุณโทโมะค่ะ เมื่อครู่มีเพื่อนของคุณมาหานะคะ ดิฉันก็เลยฝากมันไว้กับเธอ”

 

“เธอ..? ผู้หญิงเหรอครับ  รู้ไหมครับว่าเป็นใคร?”

 

         โทโมะรีบไถ่ถามด้วยความสนใจ ถึงบุคคลที่มาเยือน แม่บ้านได้แต่ส่ายหน้าไม่รู้จักทำให้เขายิ่งอยากรู้เข้าไปเสียยกใหญ่  ไม่รอช้าเขารีบหาทางขึ้นไปยังห้องของตัวเองโดยเร็ว นึกโมโหกับความเชื่องช้าในการทำงานของลิฟท์ในยามที่เขาเร่งรีบเช่นนี้...

 

“ใคร เธอเป็นใครกันนะ”

 

.

.

.

.

.

 

        เพียงอึดใจเขาก็เดินมาหยุดตรงหน้าห้องที่เคยเป็นของเขา คนหล่อหลับตาพลางสูดหายใจลึก ลุ้นระทึกบวกกับก้อนเนื้อในอกที่กำลังเต้นโครมครามด้วยความตื่นเต้นระคนดีใจอย่างแปลกปะหลาด  ได้แต่หวังภาวนาอยู่ในใจให้ผู้หญิงที่ว่านั้น..เป็นเธอ

 

     เขาค่อยๆเปิดประตูปานนั้นออกด้วยใจระทึก ทำทุกอย่างให้เบาที่สุด  โทโมะย่างก้าวเข้าไปในห้องที่เงียบสนิท ควานสายตามองหาหญิงสาวที่เขาหวังจะให้เป็นเธอ  พลันสายตาก็ไปสะดุดอยู่กับร่างเพียวบางที่กำลังอยู่ในห้วงนิทราบนผืนเตียงสีขาวสะอาด   รอยยิ้มของเขากลับมาอีกครั้งก่อนจะค่อยๆเดินเข้าไปใกล้ๆหญิงสาวด้วยความเงียบเสียงที่สุด

 

“หัวใจของพี่”   เตียงนุ่มยุบยวบไปตามแรงกดทับของโทโมะ เขานั่งลงข้างๆแก้ว พลันเหลือบไปเห็นสร้อยคอสุดหวงของเขาถูกเธอสวมใส่ ก็ยิ่งดีใจจนน้ำตาพาลจะไหลเมื่อรู้ว่าเธอยังคงจำได้ และไม่รังเกียจที่จะสวมใส่มัน  นิ้วเรียวเกลี่ยหยาดน้ำตาที่ยังคงคั่งค้างบนใบหน้าสวยให้พร้อมมอบจุมพิตบนเรียวปากอิ่ม ที่เผยอน้อยๆยามหลับใหล

 

“แก้วจ๋า”  โก้งโค้งลงไปกระซิบข้างใบหูหญิงสาวอย่างแผ่วเบา จมูกโด่งของเขาคลอเคลียอยู่บริเวณแก้มนวลของแก้วส่งผลให้คนที่กำลังหลับใหลตื่นขึ้นมาพบกับความเป็นจริง   ดวงตาเรียวเบิกโพลงด้วยความดีใจเมื่อเห็นหน้าชายคนรักที่เธอเฝ้าภาวนาให้เขากลับมาอีกครั้ง...

 

 “พี่โทโมะ..ฮึก..พี่โทโมะ”  แก้วลุกขึ้นสวมกอดเขาด้วยความดีใจก่อนที่น้ำตาจะไหลอีกครั้ง เป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่อาจทราบได้ของวันนี้ที่เธอต้องร้องไห้  หากแต่ว่าตอนนี้...เธอร้องไห้เพราะความดีใจที่ได้เจอหน้าเขาอีกครั้ง ไม่ใช่ความเสียใจต่างจากหลายชั่วโมงก่อนหน้านี้

 

เขากลับมาแล้ว...

 

“ไม่ร้องนะเด็กดี..ไม่ร้องครับ  บอกพี่มาสิ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับแก้ว ทำไมแก้วถึงมาอยู่นี้ได้?”  มือหนาลูบเส้นผมของแก้วเพื่อปลอบปะโลมเด็กน้อยที่กำลังสะอื้นฮักๆอยู่ในอ้อมกอดของเขา  มือน้อยของแก้วกอดรัดเขาแน่นราวกับว่าเกรงว่าเขาจะหนีหายจากเธอไปอีก..

 

“ฮึก..แก้ว..ฮึกๆ..”

 

       เมื่อเห็นว่าตอนนี้เธอคงยังไม่พร้อมที่จะเล่าอะไรให้เขาฟังแน่ๆ โทโมะจึงไม่ซักไซ้อะไรมานัก ปล่อยให้แก้วร้องไห้ให้เขากอดปลอบอย่างนี้ไปจนกว่าเธอจะพอใจ   หญิงสาวผละออกจากอ้อมกอดของเขาพลางปาดน้ำตาไปสะอื้นไป ทำให้เขามองเธอเป็นเด็กน้อยเวลาร้องไห้เมื่อถูกแย่งขนม  จมูกรั้นๆขึ้นสีแดงเรื่อ พร้อมกับดวงตาเรียวที่กำลังบวมเปล่งเนื่องจากผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก อดที่เขาจะเวทนาไม่ได้เสียจริงๆ...

 

“ร้องไห้ทำไม ใครทำอะไรแก้ว บอกพี่มา พี่จะไปฆ่ามัน ไอ้หน้าอ่อนนั่นหรือไง มันทำให้แก้วเสียใจหรือ?

 

“ฮึก..ไม่นะ ไม่ใช่เลย เคนตะ..ฮึก..เคนตะเป็นคนพาแก้วมาส่ง ฮึก..พามาหาพี่ เขาเป็นคนดี  แก้วแล้วเองที่แก้วไม่รักเขา..เพียงเพราะแก้วรักพี่..ฮึก..แก้วเป็นคนไม่ดีเลย ฮึกๆ”  ม่านตาพร่าเบลอไปด้วยหยาดน้ำตาอุ่นร้อนที่รินไหลไม่ขาดสาย  กว่าที่เขาจะฟังคำพูดของเธอแต่ละคำออกก็แลดูจะยากเสียหน่อยเนื่องจากเธอสะอึกสะอื้นไปด้วย ปาดน้ำตาทิ้งไปด้วย

 

พอจะจับใจความได้ว่าเคนตะเป็นคนพาเธอมาส่งที่นี้ก็เท่านั้น และ คำต่อว่าตัวเองว่าเธอเป็นคนไม่ดี...

 

         เด็กน้อยโผเข้าหาอ้อมกอดแกร่งของเขาอีกครั้งหวังต้องการที่พักพิง โทโมะรีบกอดรับด้วยความรักและเป็นห่วง มือหนาลูบหลังหวังช่วยบรรเทาให้เธอสบายใจและมีสติมากกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้  แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก เมื่อแก้วยังคงไม่หยุดร้องไห้..

 

จนเขาจะร้องตามอยู่มะรอมมะร่อแล้ว...

 

 

 

                                    ----------------------------------------------

 

 

 

      รอให้แก้วทำใจสงบสติอารมณ์ได้สักพัก เธอก็ยอมเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เขาฟังด้วยสีหน้าหม่นหมอง แก้วยังคงเพียรโทษตัวเองว่าเป็นความผิดของเธออยู่ตลอดเวลาจนโทโมะยิ่งรู้สึกผิด ความจริงแล้วคนที่เป็นต้นตอแห่งความเจ็บปวดทั้งหมดก็คือเขา หากเขาไม่กลับมา แก้วก็คงจะลืมเขาและเริ่มต้นกับคนดีๆอย่างเคนตะไปแล้ว

 

เพราะเขาเอง ที่เห็นแก่ตัว...เพราะเขาเองที่รักเธอ

 

“ไม่ใช่ความผิดของแก้วหรอก อย่าโทษตัวเองแบบนี้ไม่น่ารักเลย เอาล่ะ .. พี่ว่าเราเลิกพูดถึงอดีตกันดีกว่านะแก้ว ยังไงเสียเราก็กลับไปแก้ไขอดีตไม่ได้ เหมือนพี่ไง..พี่ไม่สามารถที่จะกลับไปแก้ไขเรื่องราวในอดีตได้อีก แต่พี่ก็เลือกที่จะใช้ปัจจุบันทดแทนในสิ่งที่พี่เคยทำพลาดไป  เพราะฉะนั้น แก้วต้องไม่ร้องไห้นะเด็กดีของพี่”

 

“แก้วควรจะทำยังไงดี”

 

“แก้วไม่ต้องทำอะไรแล้ว แก้วเหนื่อยมามากพอแล้ว ต่อจากนี้พี่จะเป็นคนรับผิดชอบทุกอย่างเอง”  แก้วระบายยิ้มอ่อนๆให้เขาก่อนจะซุกใบหน้าลงบนอกกว้างของโทโมะอีกครั้ง  อีกฝ่ายได้แต่หัวเราะอย่างขบขันกับการกระทำของแก้วแต่ก็ไม่วายจะกอดตอบเธออยู่ดี

 

“ทำไม พี่หัวเราะแบบนี้? ถ้าไม่อยากแก้วกอดก็ไม่เป็นไร”  แก้วคลายอ้อมกอดจากเขาก่อนะทำหน้ามุ่ยเมื่อเห็นว่าโทโมะเอาแต่หัวเราะขำขันเธอ  ทำไม..การที่เธอร้องไห้มันเป็นเรื่องตลกอย่างนั้นเหรอ  เหอะ!

 

        โทโมะปั้นหน้าไม่ถูกเมื่อเห็นว่าสิ่งที่เขาแกล้งเหย้าแหย่  เธอจะเก็บไปเป็นอารมณ์  ก่อนจะต้องรีบงอนง้อด้วยวิธีเพลย์บอยของเขา  กอดแล้วจูบ(?)  หญิงสาวได้แต่เบือนหน้าหนีด้วยความน้อยใจจนโทโมะยิ่งรู้สึกอยากจะขำ แต่เขาก็ต้องเก็บเอาไว้ด้วยกลัวว่าแก้วจะโกรธอีก คราวนี้..เขาคงได้กลับลอนดอนและไม่ได้เจอกับเธออีกแน่

 

ไม่ยอมนะครับ T.T

 

“เด็กขี้ขโมย”

 

“ว่าอีกแล้ว ว่าแก้ว..ฮึก..ว่าแก้วทำไม?”  โทโมะแกล้งแหย่นิดๆ แต่แก้วกลับหันมาฟาดมือบางใส่เขาจนโทโมะสะดุ้งด้วยความเจ็บ  เขาก็แค่แหย่เรื่องที่เธอสวมสร้อยเส้นนี้ก็เท่านั้น ไม่ได้ตั้งใจจะว่าอะไรเลย..

 

“แก้ว พี่ไม่ได้ว่านะ..พี่ล้อเล่น  ถอดออกมาเร็วสร้อยนะ..”   คนอ่อนไหวง่ายรีบปลดสร้อยออกจากลำคอระหงของตัวเองอย่างรวดเร็วก่อนจะปาใส่อกแกร่งของเขาด้วยความน้อยใจ  ต่อจากนี้ ไม่ว่าแก้วจะเป็นยังไง จะทำอะไร จะผิดหรือจะถูก ยังไงเสีย...เขาก็ต้องเป็นฝ่ายผิด  และแก้วคือคนถูกเสมอเช่นกัน

 

“งอนพี่ทำไม  พี่ให้เราถอดออกมาเพื่อที่พี่จะสวมให้แก้วไงครับ”   ชายหนุ่มอธิบายให้แก้วฟังไป สวมสร้อยให้ไป  เด็กเอาแต่ใจก็เอาแต่งนั่งดีดดิ้นทำให้เขาสวมให้ไม่ถนัดเอาเสีย เมื่อก่อนไม่เห็นเธอจะดื้อแบบนี้เลยนี่นา...

 

“แล้วทำไมไม่บอกตั้งแต่แรก ปล่อยให้แก้วเข้าใจผิดอยู่ได้ ประสาท !  คนแก่งี่เง่า”

 

“อ้าวววว!!~”   โทโมะร้องเสียงหลงเมื่อถูกคนสวยต่อว่าก่อนที่เธอจะก้าวๆฉับเดินหนีออกจากห้อง ถูกด่าฟรีๆแถมคนสวยยังงอนอีก นี่เขาผิดเรื่อวงอะไรกัน? โทโมะไม่เข้าใจ...

 

        แก้วกึ่งเดินกึ่งวิ่งจนลงมาถึงด้านล่างซึ่งเป็นสวนสาธารณะติดกับคอนโดของโทโมะ โดยมีเขาตามลงมาติดๆ มือหนาฉุดรั้งข้อมือเล็กไว้ได้ทันก่อนจะตวัดอุ้มร่างเพรียวขึ้นแนบอก ไม่ได้เกรงต่อสายตาผู้คนรอบข้างแม้แต่น้อย กำปั้นเล็กของแก้วพยายามทุบรัวที่หน้าอกแกร่งของคนโตกว่า พยายามดีดดิ้นให้หลุดพ้นจากพันธนาการของคนแก่(?) เอาแต่ใจ...แต่ก็ไม่เป็นผลT^T

 

“ไม่ต้องมายุ่ง ปล่อยนะ ปล่อยๆๆ”

 

“ก็เอาสิ ถ้าไม่หยุดงอแงพี่ก็จะอุ้มแก้วทั้งวันแบบนี้แหละ ตัวเบาเป็นนุ่นขนาดนี้..พี่อุ้มได้ทั้งวันสบายๆ จะลองดุไหมล่ะ”  คนถือไพ่เหนือกว่ายักคิ้วให้เป็นเชิงกวนประสาท ส่วนแก้วก็ได้แต่เม้มริมฝีปากแน่นด้วยความแค้นใจที่ไม่เคยจะเอาชนะเขาได้เลยสักครั้ง  มือหนาขย้ำสาบเสื้อของเขาจนยับยู่ยี่ เมื่อเห็นว่าแก้วนิ่งไปนาน เขาก็แกล้งจะทำให้เธอตกหล่น และด้วยสัญชาติญาณแก้วจำต้องรีบโอบรอบลำคอเขาเอาไว้...

 

ใบหน้าสวยซุกกับไหล่กว้างของเขาด้วยความตกใจที่อีกไม่กี่เซน ร่างของเธอกำลังจะหล่นลงบ่อน้ำพุกลางสวนสาธารณะ หากเขาไม่กระชับวงแขนตวัดร่างเธอขึ้นไปอีกครั้ง...

 

คนบ้า!

 

“ฮะๆ จะยอมพี่ได้หรือยัง?”

 

“ไม่ลงนะ...”

 

“อะไรนะ?”

 

          แก้วอมยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนจะทวนคำพูดอีกครั้ง เธอบอกว่า เธอจะไม่ลงจากตัวเขา จะให้เขาอุ้มมันทั้งวันอย่างที่คนปากเก่งพูดไว้เมื่อครู่  ตัวเบาเป็นนุ่นขนาดนี้..พี่อุ้มได้ทั้งวันสบายๆ จะลองดูไหมล่ะ  เธอก็อยากจะลองดูเหมือนกัน!!!

 

“จะให้พี่อุ้มทั้งวันแบบนี้จริงๆเหรอ?”

 

“อาฮะ^^’’”

 

“แสบบบบบบบ = =’’” โทโมะต่อว่าแก้วเล็กๆด้วยความหมั่นไส้ก่อนที่แก้วจะเห็นใจเขาขึ้นมานิดนึง โดยการที่..สับเปลี่ยนไปเป็นขี่หลังแทน  เทียบกันแล้วน้ำหนักของเธอก็ไม่ได้ลดลงเลยแม้แต่นิด ^^ แอบเห็นสีหน้าแหยๆของโทโมะทำให้ตัวเองยิ้มร่าได้อย่างสะใจ ไม่เคยเห็นโทโมะเป็นแบบนี้มาก่อน...ไม่เคนเห็นเขาตามใจเธอมากมายขนาดนี้

 

“แก้วถามอะไรพี่ได้ไหม?”

 

“อะไรอีกละ ตัวแสบ”

 

“พี่จะกลับลอนดอน โดยที่พี่ไม่คิดจะกลับมาประเทศไทยอีกแล้วเหรอ? พี่ไม่รักแก้ว พี่ลืมแก้วได้จริงๆใช่ไหม?” หญิงสาวด้านหลังเอียงคอถามเขาด้วยความสงสัย พลันความน้อยใจก็บังเกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อเห็นว่าเขาคงตัดใจจากเธอได้แล้วจริงๆ  คนหล่อเงียบไปสักพักก่อนจะส่ายหัวช้าๆ เป็นการให้คำตอบเธอ..

 

“เปล่าเลย เพราะพี่ตัดใจจากแก้วไม่ได้ต่างหาก พี่ถึงต้องไป..จะให้พี่ทนอยู่เห็นคนที่รัก รักคนอื่นอย่างนั้นนะหรือ? พี่ทำใจไม่ได้หรอก พี่ไม่ใช่คนดีอะไรเหมือนเคนตะหรอกแก้ว..พี่ยังคงมีกิเลศ ตัดบ่วงความอิจฉานั้นไม่ได้หรอก”

 

“พี่อิจฉาใคร?”

 

“อิจฉาทุกคนที่ได้อยู่ใกล้ๆกับแก้ว  ทั้งที่พี่อยู่ใกล้เธอแค่เอื้อม พี่อิจฉาจริงๆ” 

 

“อิจฉาทำไม...แก้วก็อยู่กับพี่แล้วนี่ไง แก้วจะลืมเรื่องราวในอดีตให้หมด และจะอยู่กับปัจจุบันเท่านั้น พี่ว่าดีไหม?”  โทโมะเงยหน้าสบตากับแก้วเล็กน้อยก่อนจะระบายยิ้มด้วยความดีใจที่แก้วยอมให้อภัยเขาจริงๆเสียที และยังไม่วายที่เธอจะถามต่อเป็นสิบๆคำถาม ไม่ว่าจะเป็นแค่เรื่องสัพเพเหระ ทั่วไปที่เกี่ยวกับเขา .. และโทโมะก็ยินดีที่จะตอบโดยไม่คิดหน่ายใจเลยแม้แต่น้อย

 

“สงสัยเยอะจัง ฮะๆ”

 

“ไม่ตอบก็ไม่มีใครว่า”

 

“พี่ล้อเล่นT_T”

 

“แก้วจะถามคำถามสุดท้ายนะ”   หญิงสาวทำน้ำเสียงจริงจังจนโทโมะต้องหยุดเดินด้วยความอยากรู้กับคำถามของเธอเสียมากล้น  มือน้อยที่กำลังโอบรอบคอเขากระชับแน่นก่อนจะตัดสินใจเอ่ยถามเขา  คำถามที่แก้วไม่เคยได้ถามโทโมะมาก่อนหน้านี้

 

“.....”

 

“พี่..รักแก้วไหม?”   แก้วนิ่งไปชั่วอึดใจด้วยความระทึกกับคำตอบของเขา เคยได้ยินเขาบอกรักมานับครั้งไม่ถ้วนก็แล้ว แต่เธอก็ยังคงไม่มั่นใจ เพราะหัวใจคนเรา เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา มือน้อยของแก้วขยุ้มสาบเสื้อของเขาจนยับยู่ยี่จนเขารู้สึกได้

 

อยากจะหัวเราะอีกแล้วครับ^^

 

“รักครับ รักมากที่สุดครับ พี่จะไม่เจ้าชู้แล้วครับ รักแค่แก้วคนเดียวครับ”  แก้วยิ้มพอใจกับคำตอบของเขาอย่างมากที่สุด ก่อนจะก้มลงแตะจูบแผ่วเบาข้างแก้มเนียนของโทโมะด้วยความรัก พร้อมอีกหนึงคำถามสุดท้ายจริงๆที่ทำให้โทโมะต้องระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างสุดกลั้น..

 

“พูดอีกนะ พูดอีกครั้ง”

 

“ฮ่าๆๆๆ ...โอเคครับ...รักแก้วครับ พี่รักแก้ว”

 

 

..............................................................................................................................

เอิ่ม..หวานไหม? ไม่หวานเนอะ

ได้แค่นี้เจงๆ หัวไม่ไป อะฮึกๆT_T

ไม่มีใคร Love ดราม่าแบบเค้าบ้างอ่อ==''

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.2 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา