Fiction Rewrite

9.3

เขียนโดย StrawberryTKCuTe

วันที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2554 เวลา 16.09 น.

  17 ตอน
  857 วิจารณ์
  37.81K อ่าน
แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

15)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

                            Warm Love  'กอด'

 

 

 

วันต่อมา ~

 

 

หมับ !

 

 

“อ้ะ ! พี่ทำอะไร ปล่อยแก้วนะ...อย่ามากอดเค้านะ”    ร่างเล็กสะดีดสะดิ้งทันทีที่โดนวงแขนใหญ่โอบรัดจากทางด้านหลังขณะที่เธอกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ตรงชานบ้าน  กลิ่นน้ำหอมจากเสื้อของอีกคนทำให้แก้วรู้ดีว่าเขาเป็นใคร ไม่ต้องหันไปมองหน้าให้เสียเวลา

 

 

“ทำอะไรอยู่ค่ะ ?” 

 

 

 

 

“ไม่ใช่ธุระของพี่นี่คะ ปล่อยแก้วนะ !”   แก้วทำหน้าบึ้งใส่จนโทโมะเริ่มไม่พอใจกระชากแขนเล็กให้ลุกขึ้นเผชิญหน้ากับเขา 

 

 

“แก้วเป็นอะไร ?  พี่กอดหน่อยไม่ได้หรือไง อ้อมกอดพี่มันสกปรกนะหรือ ใช่สิ ! พี่ไม่ใช่ไอ้เขื่อนนี่ ทำอะไรก็ดีไปหมดในสายของแก้ว”

 

 

“พี่รู้ตัวก็ดีแล้ว”

 

 

 

“ปากดี เธอเป็นเมียพี่นะ ! กล้าพูดว่าพี่ได้ถึงขนาดนี้เลยเหรอ !”   ใบหน้าคมสันขบกรามแน่นยามที่เขาเอ่ยชื่อบุคคลที่สามอย่างเขื่อน  แววตาหึงหวงของเขาทำให้แก้วเริ่มไม่เข้าใจ  ทำไมเขาต้องเอาเรื่องนั้นมาประกาศแบบนี้...เธอเป็นผู้หญิงนะ !

 

 

 

“เมียคนไหน ?  ที่พูดมานะใครคะที่พี่บอกว่าเป็นเมีย เมียพี่มันก็มีอยู่ทั่วจังหวัดนั้นแหละ !” 

 

 

 

 

“ไม่เอาน่าแก้ว...พี่ไม่พูดเรื่องนี้แล้วก็ได้ เธองอนพี่เรื่องแนนนี่นะหรือ”   เขาคว้าร่างเล็กมาโอบรัดไว้หลวมๆพลางจรดใบหน้าเข้าหาแก้มใสของแก้วแต่หญิงสาวกลับเบี่ยงหน้าหลบ ท่าทางแบบนั้นโทโมะก็พอจะรู้อยู่หรอกว่าเธองอน  เขาหัวเราะในลำคอเล็กๆก่อนจะเล่นทีเผลอตวัดร่างแบบบางขึ้นอุ้มเข้าบ้านไป

 

 

 

“พี่โทโมะ ! อย่ามายุ่งกับแก้วนะ คนนิสัยไม่ดี”

 

 

 

 

 

“พี่ไม่ทำอะไรแก้วหรอกน่า...แค่อยากจะกอดให้หายคิดถึงเสียหน่อย ทำไม ? จะไม่ให้กอดหรือ”

 

 

 

 

“ไม่ให้กอด !”  แก้วแหวใส่เขาเสียงสูง ใบหน้าแดงระเรื่อขึ้นด้วยความอาย

 

 

 

“แต่พี่จะกอด กอดแล้วก็จะจูบ ...แบบนี้น่ะ”   เขาวางแก้วลงพลางกอดจูบคนตัวเล็กอย่างเหย้าหยอกจนแก้วดิ้นหนีไม่ทันเสียทั้งอ้อมกอดและแก้มหอมๆไปหลายจูบ   

 

 

“อ๊าย อย่านะพี่โทโมะ...ปล่อยแก้วเดี๋ยวนี้นะ ไม่งั้นแก้วจะฟ้องคุณป้า”

 

 

 

 

“อะไร ? จะฟ้องก็ฟ้องไปสิ เธอมีปัญญาหลุดออกจากพี่ไหมเล่า ?”  เขายิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะวิ่งร่างเล็กลงกับโซฟาแล้วทิ้งตัวทาบทับใช้เข่าทั้งสองคร่อมร่างแก้วเอาไว้  มือหนาตรึงข้อมือเล็กของแก้วขึ้นอย่างแน่นหนาพลางมองอีกฝ่ายด้วยแววตากลั่นแกล้ง  ไม่ว่าแก้วจะร้องโวยวายยังไงเขาก็ไม่ยอมปล่อย

 

 

 

“กรี๊ดดดด ปล่อยนะ ! ไอ้คนบ้า...อย่ามาทำบ้าๆแบบนี้กับเค้านะ”

 

 

 

“ฮะๆ อยากร้องก็ร้องไปเลยเด็กขี้งอน นี่พี่กำลังง้อเธออยู่นะ”     เขาใช้ใบหน้าหล่อคลุกเคล้ากับต้นคอระหงของแก้วฝากฝังลิ้นร้อนที่ผิวอันอ่อนนุ่มของหญิงสาวพลางพูดเสียงอู้อี้ในลำคอต่อกรกับเด็กขี้งอนอย่างเธอ  ไม่ได้คิดจะทำอะไรคนตัวเล็กของเขาหรอกในวันนี้...เพียงแค่อยากจะแกล้งให้ไก้ตื่นเล่นๆเสียเท่านั้น

 

 

 

 

 

 

สนุกเป็นบ้าเลยแหะ !

 

 

 

 

 

“อ๊าาา...ปล่อยนะ !”

 

 

 

“ไม่ปล่อย !”

 

 

 

 

 

แก้วดีดดิ้นเป็นพัลวันพยายามแกะพันธนาการของคนโตกว่าออกแต่กลับถูกอีกฝ่ายแกล้งกอดรัดฟัดเหวี่ยงจนเธอทำอะไรไม่ถนัด ได้แต่ร้องโวยวายประท้วงเขาอยู่เนืองๆ  จนกระทั่ง....

 

 

 

“กรี๊ดดดดดดดด ! โทโมะ นังแก้ว...นังแพศยา !”   เสียงกรีดร้องแหลมของผู้หญิงคนนึงดังเล็ดลอกเข้ามา จนทั้งคู่หยุดชะงัก โทโมะกับแก้วหันไปตามต้นเสียงหน้าบ้านนั่นก็คือแนนนี่ที่ยืนทำหน้าถมึงทึงใส่ด้วยความโกรธเกรี้ยว  หญิงสาวเดินนวยนาดเข้ามาจับโทโมะแยกออกจากแก้วก่อนจะพุ่งเข้าตบฟาดฉาดใหญ่ที่ใบหน้านวลของร่างเล็ก

 

 

 

เพี๊ยะ !

 

 

 

“ฉันจะตบแก...เอาเลือดเน่าๆของแกออกมา ฮึ ! นังงูพิษชอบฉกชิงวิ่งราวของของคนอื่น นังหน้าด้าน !”

 

 

 

“โอ๊ย...แก้ว !”      ไม่มีโอกาสที่แก้วจะได้อธิบาย ฝ่ามือเรียวของอีกฝ่ายก็ระรัวตวัดละเลงใบหน้าสวยของเธออยู่หลายเผียะจนช้ำบวม  โทโมะเห็นท่าไม่ดีเลยวิ่งเข้ามาล็อกตัวแนนนี่เอาไว้แต่อีกฝ่ายกลับไม่ยอมหยุดง่ายๆ

 

 

“แนนนี่ พอ...อย่าทำน้อง  หยุด ! ผมบอกให้หยุด !”

 

 

 

“น้อง...ยังจะกล้าเรียกมันว่าน้องอยู่อีกเหรอโทโมะ ! นายกับมันไปถึงไหนกันแล้วยังจะกล้าเรียกมันว่าน้องอีกเหรอ สมภารกินไก่วัดชัดๆ...แกก็เหมือนกันนังหน้าด้าน รู้ก็รู้ว่าเขามีเจ้าของ ยังสะเออะมายุ่งมาจนโทโมะเขาใจอ่อน เพราะแกคนเดียวนังบ้า !”   

 

 

 

 

 

แนนนี่ปรี่เข้าไปหมายจะตบแก้วอีกครั้ง แต่โทโมะกลับรวบตัวเธอไว้แล้วคว้าเอาใบหน้าสวยนั้นมาระดมจูบรุนแรง   แก้วมองภาพนั้นน้ำตาเอ่อคลอ....เธอควรจะรู้สึกตัวได้แล้วว่าใครเป็นตัวจริงและใครเป็นตัวสำรองแก้เหงาเวลาที่เขารู้สึกหว้าเหว่อ้อมแขนเท่านั้น !

 

 

 

“แนนนี่ ผมรักคุณ.....เชื่อผมสิ ผมจะเลิกยุ่งกับแก้ว”   เขาถอนจูบออกพร้อมแววตาของแนนนี่ที่ดูผ่อนลงมาก  ร่างเพรียวยิ้มยั่วก่อนจะหันมาเย้ยหยันแก้วที่นั่งจมกองน้ำตาด้วยความสะใจ

 

 

 

 

“เห็นมั้ย ? นังเด็กโง่ ! สุดท้ายเขาก็เลือกฉัน...อาหารขยะไว้กินเล่นแบบแก จะมาสู้อะไรฉันได้ !”

 

 

 

 

“.....”

 

 

 

 

“จะไปไหนล่ะ ฮ่าๆ นังเด็กเมื่อวานซืน”        แก้ววิ่งออกมาจากบ้านตัวเองโดยไม่รอเวลาและอะไรทั้งนั้น  เมื่อครู่ที่เธอเหลือบมองสายตาของพี่รัก (?) เขากลับเมินใส่และหันไปคว้าร่างของแฟนสาวมากอดจูบต่อหน้าเธอ  หญิงสาวนึกไปด้วยจิตใจเจ็บช้ำ น้ำตารินไหลไปตลอดทางที่วิ่งจากมา จนกระทั่งเม็ดฝนเริ่มโปรยลงจากผืนฟ้า....

 

 

 

 

 

 

“ฮึกๆ ฮือๆ ทำไมพี่ต้องทำร้ายฉันขนาดนี้ด้วย...พี่โทโมะ”   

 

 

 

 

 

 

 

ร่างระหงทรุดลงตรงตู้โทรศัพท์สาธารณะเก่าด้วยหาที่พึ่งพักหลบฝน  บานกระจกที่แตกออกของตู้เก่าๆทำให้ฝนสาดซัดเข้าหาร่างของแก้วด้วยปกปิดไม่มิด  ร่างเล็กนั่งชันเข่าพลางซุกดวงหน้าเปื้อนน้ำตาลงกับหัวเข่า  เสียงสะอื้นปนกับเสียงฟ้าร้องจนแยกไม่ออก แต่วินาทีนี้...ไม่มีอะไรเจ็บปวดไปมากกว่าเรื่องที่ผ่านมาอีกแล้ว  ยิ่งคิดยิ่งเจ็บใจนัก ถ้าวันนั้นเธอห้ามอารมณ์และความรู้สึกตนเองไม่ให้เอนไหวไปกับเขาได้ เรื่องทุกอย่างก็คงไม่เป็นเช่นนี้

 

 

 

 

 

 

.

 

.

 

.

 

.

 

 

 

“แก้ว...แก้ว ! อยู่ที่ไหน ? ออกมาหาพี่นะ พี่ขอโทษ แก้ว !”    ร่างสูงกึ่งเดินกึ่งวิ่งผ่านสายฝนที่โหมรุนแรงออกตามหาน้องรัก (?) ด้วยความยากลำบาก เสียงฝนตกฟ้าร้องกลบเกลื่อนเสียงร้องเรียกของเขาไปจนหมดสิ้น  โทโมะสาดไฟฉายไปตามทางเดินเบื้องหน้า ไม่พบแม้แต่เงาของสิ่งมีชีวิตใดๆ  ไม่มีแม้กระทั่งเสียงตอบรับจากหญิงสาว

 

 

 

“แก้ว  พี่ขอโทษ...ออกมาหาพี่ ออกมาให้พี่กอด เธอบอกเองไม่ใช่เหรอว่าชอบให้พี่กอดเธอเวลาฝนตก เธอจะรู้สึกดี ตอนนั้นไง...ตอนที่เธออายุห้าขวบ  จำได้ไหมแก้ว...ออกมาหาพี่สิ ออกมา !”  ขาป้องปากตะโกนอีกครั้งแต่ก็ไร้เสียงตอบกลับอีกเช่นเคย

 

 

.

 

.

 

.

 

.

 

.

 

“ฮึกๆๆ ฮือ พี่ค่ะ...แก้วหนาว หนาวเหลือเกิน พี่ชาย....”      ร่างเล็กสั่นผงกและเริ่มละเมอเพ้อด้วยพิษไข้ ...เวลาพ้นผ่านไปอย่างเนิ่นนานกว่าที่ทุกอย่างจะสงบลง  แก้วนอนไร้สติอยู่ที่ตู้โทรศัพท์ด้วยแรงพิษไข้ที่เธอกำลังเผชิญ อุณหภูมิในร่างกายสูงจัด หน้าซีดปากสั่น ร่างกายสะท้านหอบ

 

 

 

 

 

 

 

 

ร่างสูงเดินโซเซโซซัดมาตามทางก่อนจะพบกับร่างแน่งนอนที่นอนหมดสติ  ด้วยความเป็นห่วงเขาจึงรีบพุ่งเข้าไปหาร่างนั้นทันที  ถึงแม้จะรู้อยู่แล้วว่าเป็นแก้วแต่อีกใจเขากลับภาวนาให้ไม่ใช่เธอ...ทั้งที่มันใช่ !  

 

 

 

 

“แก้ว ! ตื่น...ลืมตาก่อน มองพี่สิ แก้ว แก้ว !”    มือสากตบแก้มนวลเบาๆเพื่อเรียกสติ  อีกฝ่ายสะลึมสะลือปรือตานิดๆก่อนจะครางเรียกเขาอย่างดีใจ 

 

 

 

“พี่..ชาย...”  และหมดสติลงอักครั้ง

 

 

 

“แก้ว ! โธ่...พี่ขอโทษ”   เขารีบอุ้มร่างนั้นพาไปโรงพยาบาลทันทีด้วยความร้อนใจ   โทรติดต่อผู้ปกครองของอีกฝ่ายก็ไม่ได้เนื่องจากท่านทั้งคู่ติดงานที่ต่างจังหวัด เขาก็พอจะรู้ว่าน้องสาว (?) อยู่บ้านคนเดียวมาเกือบอาทิตย์แล้ว ที่โทรไปก็เพียงแค่ต้องการแจ้งข่าวลูกสาวของพวกขาเท่านั้น  แต่เมื่อไม่มีใครรับสาย...คนที่ดูแลเธอก็ต้องเป็นเขา!

 

 

 

 

ก็เขาทำให้เธอเป็นแบบนี้เองนี่นา !

 

 

 

 

“ปลอดภัยแล้วครับ เธอเป็นปอดบวมและไข้หวัด ยังไงหมอคงต้องให้นอนโรงพยาบาลสักอาทิตย์สองอาทิตย์”

 

 

 

“ครับหมอ ขอบคุณมากครับ”

 

 

 

.

 

 

.

 

 

.

 

 

กว่าสองวันที่แก้วยังคงหลับสนิท โทโมะที่เวียนแวะมาเยี่ยมและเฝ้าไข้ทุกวันยังแอบเป็นห่วงอยู่กลายๆ   เขาทอดมองใบหน้าหวานซีดของคนตัวเล็กที่กำลังหลับตาพริ้มที่ขอบตามีร่องรอยคราบน้ำตาอยู่นิดๆ  เขามองแก้วด้วยความรู้สึกผิดและสงสารจับหัวใจ  ถ้ายอมบอกความจริงไปตั้งแต่แรกแก้วก็คงไม่เป็นเช่นนี้ ความจริงที่แก้วควรจะได้รู้ (?)

 

 

 

 

 

 

มือหนาเอื้อมไปเสยผมคนตัวเล็กที่ระใบหน้าออกให้เบาๆก่อนจะโค้งใบหน้าหล่อจัดมาจุมพิตที่หน้าผากเนียนอย่างผิวแผ่ว  รับรู้ได้ดีว่าร่างกายของเธอยังคงอ่อนแอ ตัวยังอุ่นๆอยู่ พิษไข้เพิ่งจะเริ่มซาลงไปเพียงน้อยนิด  โทโมะนั่งลงตรงเก้าอี้ข้างเตียงพลางกอบกุมมือน้อยทั้งสองหวังจะมอบไออุ่นให้ด้วยความรัก ความปรารถนาดี

 

 

 

 

“พี่ขอโทษนะตัวเล็ก..ขอโทษครับ”   ร่างสูงกดจูบบนหลังมือน้อยแผ่วเบาก่อนจะยกมันขึ้นขนาบแก้มเนียนของเขา  แต่ดันมีอีกคนที่พรวดพราดเปิดประตูเข้ามาเสียก่อน....จากสีหน้าอาธรณ์เมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นหน้านิ่วคิ้วขมวดทันทีที่เห็นเขื่อนเดินเข้ามา

 

 

 

“แก้ว แก้วเป็นไงบ้างไอ้โทโมะ !”

 

 

 

 

“มาทำไมว่ะ !”

 

 

 

 

“ฉันควรถามแกมากกว่านะ..ว่าแกมาทำไม ? เพราะฉันเป็นแฟน ส่วนแกนะแค่พี่ชาย…ข้างบ้าน !”   โทโมะกำหมัดแน่นด้วยความคั่งแขนเขาเดินตรงไปกระชากคอเสื้อเพื่อนรักอย่างหาเรื่อง ใบหน้าคมสันขบกรามแน่นจนเส้นขมับปูดโปนแสดงให้อีกฝ่ายรับรู้ว่าเขากำลังไม่พอใจอย่างแรงกล้า   เขื่อนแสยะยิ้มสมเพชใส่โทโมะเล็กน้อยก่อนจะปัดมือแกร่งออก...

 

 

 

 

“ถ้าอยากจะเคลียกับฉัน ไปข้างล่าง แก้วต้องการพักผ่อน”   เขื่อนพูดแค่นั้นแล้วหมุนตัวเดินลงไปทันที  โทโมะหันมามองร่างเล็กที่ยังสงบนิ่งอยู่เล็กน้อยก่อจะรีบเดินตามเขื่อนลงไป เขาก็อยากจะเคลียให้จบเหมือนกัน !

 

 

.

 

.

 

.

 

.

 

“ไอ้เขื่อน !”  โทโมะส่งเสียงเรียกเขื่อนที่ยืนเท้าสะเอวหันหลังให้เขาตรงสวนของโรงพยาบาล  เขาหันกลับมาจดจ้องเพื่อนรักนิ่งๆก่อนจะเดินเข้ามาหาระยะประชิด

 

 

“แกคิดไงกับน้องแก้ว บอกมาตามตรง อย่าอ้อมค้อม”

 

 

 

“แกรู้ไปก็เท่านั้น ทำใจได้เหรอ ?”  โทโมะกวนประสาทใส่อีกฝ่ายอย่างหาเรื่อง

 

 

 

“ได้ไม่ได้นั่นมันเรื่องของฉัน จะตอบคำถามของฉันได้หรือยังไอ้โทโมะ แกรู้สึกยังไงกับน้องแก้ว รักหรือไม่รัก”

 

 

 

“ก็ดี”

 

 

 

 

“ถ้าตอบได้แค่ว่าก็ดีก็เลิกยุ่งกับแก้วแล้วกลับไปหาบรรดาแฟนๆของแกซะ ! ถ้าไม่จริงใจกับน้องก็อย่ามายุ่ง”

 

 

 

 

 

“ เดี๋ยว...ฉันบอกแกตอนไหนว่าฉันจะกลับไปหาผู้หญิงพวกนั้นและฉันไม่รักแก้ว ?” เขายอกย้อนอีกฝ่ายกลับ

 

 

 

“ไอ้โทโมะ ! ฉันขอเตือน...อย่าทำให้ผู้หญิงที่ฉันรักเสียใจเป็นอันขาด อ้อ...แล้วอีกอย่างช่วยทำความเข้าใจกับแม่แนนี่ของแกด้วย อย่าให้เขาแตะต้องแก้วได้ และถ้าแกทำไม่ได้ตามที่ฉันพูด ฉันจะตามมาแหกอกแกและทวงแฟนฉันคืน !”

 

 

 

 

 

เขาพูดแค่นั้นก่อนจะหันหลังจากไปด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง  โทโมะมองตามด้วยความไม่เข้าใจ  จู่ๆก็จะเลิกข้องแวะกับแก้วแล้วเปิดโอกาสให้เขาเสียอย่างนั้น....โทโมะไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก เขาเดินหลับขึ้นไปหาแก้วอีกครั้งก่อนจะพบว่าพยาบาลกำลังเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้แก้วเพราะเธอฟื้นตัวแล้ว

 

 

 

 

“มาทำไม มาดูว่าแก้วตายหรือยังนะหรือ ?”   แก้วถามอีกฝ่ายที่เดินเข้ามาด้วยความน้อยใจ โทโมะส่ายหน้าน้อยๆก่อนจะเดินเข้ามาหา 

 

 

 

“พี่เป็นห่วงเธอมากรู้ไหม..ทำไมถามพี่แบบนั้นเล่าเด็กขี้งอน”

 

 

 

 

“กลับไป...แก้วไม่อยากเห็นหน้าคนใจร้ายแบบพี่”

 

 

 

 

 

“จะกลับได้ยังไง เธอยังเป็นแบบนี้อยู่เลย”

 

 

 

“ก็บอกว่าแก้วไม่ตายง่ายหรอก ! อยากไปไหนก็ไปเลย”   แก้วเบือนหน้าหนีเขาด้วยความน้อยใจสุดแสน  โทโมะมองคนตัวเล็กที่กำลังโกรธเขาด้วยความเศร้าใจก่อนจะคว้าไหล่บางมากอดแต่แก้วเลือกที่จะผลักดันเขาออกห่าง

 

 

 

 

“ปล่อย ! อย่ามาแตะต้องแก้วอีก เลิกยุ่งเลิกตอแยกับแก้วได้แล้ว แก้วไม่อยากโดนด่าว่าเป็นผู้หญิงหน้าด่านแย่งแฟนชาวบ้านเขา”

 

 

 

“ช่างเขาประไร...นี่หันหน้ามาคุยกับพี่หน่อยสิเด็กดี ฟังพี่ก่อน พี่มีเรื่องจะสารภาพ”   โทโมะเชยคางเรียวของหญิงสาวให้หันมาเผชิญหน้าก่อนจะกดจมูกโด่งแตะแก้มใสเบาๆ

 

 

 

 

“ไม่ฟัง !”  แก้วสะบั้นหน้าหนีพลางล้มตัวนอนใช้หมอนหนุนปิดหน้าปิดตาด้วยไม่อยากเผชิญหน้ากับเขาตอนนี้  คนใจร้าย !

 

 

 

 

...............................................................................................................................

 

มาแล้ววววววฟิค'ซุยๆของผม ^-^;


#ทำไมมีแต่คนว่าพระเอกหนูเลว TT;


เขาน่ารักน้ะ ! (เหรอ?) 55555 ♥

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.2 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา