Fiction Rewrite
16) Warm Love 'กอด' THE END
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
'กอด'
“แต่พี่ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับแนนนี่แล้วนะแก้ว” เมื่อเห็นว่าเธอเอาแต่นอนคลุมโปงนิ่งไม่ยอมฟังเขาก็ชักหมดความอดทน จึงตะโกนบอกออกไปเสียงดัง แก้วเบ้หน้าเล็กๆอย่างไม่อยากจะเชื่อกับคำพูดลวงๆของเขา
“นั่นมันก็เรื่องของพี่กับผู้หญิงของพี่ ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของแก้วที่ต้องรับฟังเสียหน่อย !”
“ก็...”
“พอค่ะ แก้วจะพักผ่อน แก้วเหนื่อยมามากพอแล้ว อยากจะอยู่คนเดียวสักพัก ถ้าพี่ยังฟังภาษาคนรู้เรื่องก็ช่วยทำตามที่แก้วบอกด้วย” โดนหญิงสาวเอ่ยปากไล่ด้วยอารมณ์คุกรุ่นและยังไม่พร้อมที่จะรับฟังใดๆเขาทั้งสิ้น โทโมะถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะหมุนตัวเดินออกจากห้องไปตามคำเรียกร้องของแก้ว
เขาน่าจะอธิบายให้เธอได้ฟังเร็วกว่านี้,,,
หลังจากที่แก้ววิ่งหนีออกไปท่ามกลางเม็ดฝนที่เริ่มโปรยปรายวันนั้น โทโมะเกิดจะวิ่งตามออกไปด้วยความเป็นห่วงแต่กลับถูกแนนนี่ยื้อกระชากแขนเขาไว้ด้วยแรงอารมณ์โกรธเกรี้ยวที่ถูกคนรักหักหลังหันไปคว้าเด็กข้างบ้านมานอนกกหลังจากลับสายตาเธอ
“โทโมะจะไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น ! “
“ปล่อย,,,แนนนี่ น้องแก้วเขา...”
“มันจะไปตายที่ไหนก็ไป แต่โทโมะห้ามไป ! เรื่องที่ผ่านมาแนนนี่ยังไม่ได้ชำระความกับโทโมะเลยนะ กล้าทำแบบนี้กับแนนนี่ได้ยังไงหา ? บอกมาสิว่าเด็กนั่นมันมีอะไรดีกว่าแนนนี่ อ่อนหัดอย่างงั้นมันจะเร้าใจกว่าฉันเชียวหรือ”
หญิงสาวเขย่าร่างสูงของโทโมะอย่างเอาแต่ใจและคาดคั้นต้องการจะเอาคำตอบจากปากเขาให้ได้ โทโมะส่ายหน้านิดๆกับความรั้นและบวกกับความเป็นห่วงและพะวักพะวงถึงแก้วเขาจึงไม่สนใจจะตอบคำถามของเธอ ร่างหนาสะบัดมือแฟนสาวออกและตั้งท่าจะวิ่งฝ่าสายฝนออกไป แต่...
เพี๊ยะ !
“นายจะบ้าไปแล้วหรือไง ? ตอบฉันมานะ ว่ามันมีดีกว่าฉันตรงไหน !” ร่างเพรียวของแนนนี่ปราดเข้ามาตบฉาดใหญ่เข้าที่ใบหน้าหล่อของโทโมะอย่างแรงจนเขารู้สึกได้ถึงความเค็มปร่าของเลือดที่ริมฝีปาก
“แนนนี่ ! โอเค ถ้าเธออยากรู้ฉันก็จะตอบให้,,,ฉันเบื่อความงี่เง่าเอาแต่ใจเกินเหตุของเธอเต็มทนแล้ว น้องแก้วดีกว่าเธอทุกอย่าง ทั้งน่ารักกว่า นิสัยดีกว่า และที่สำคัญฉันรักเขามากกว่าเธอ รักมาตั้งนาน รักก่อนใคร !”
“นายโกหก ! นังเด็กจืดชืดนั่นมันจะเอาอะไรมาสู้ฉัน อ๋อ...หรือพอได้ลองเข้าหน่อยเลยติดใจจนลืมฉัน เหอะ สาบานได้เลยว่าไม่เกินสามเดือนนังเด็กนั่นมันจะกลายเป็นแค่ขยะของนาย !”
“อย่าพูดดูถูกแก้วให้ฉันได้ยินอีกนะแนนนี่ ! เรื่องของเราจบลงแล้ว ฉันขอเลิกกับเธอ...เชิญ !”
“กรี๊ดดดด โทโมะ นาย !”
“เชิญ !” เขาเน้นย้ำอีกครั้งก่อนจะผายมือออกไปทางประตูเป็นเชิงไล่หญิงสาวกลับบ้านของเธอไป แนนนี่กระทืบเท้าดิ้นเร่าด้วยความคับแค้นใจก่อนจะยอมเดินออกไปแต่โดยดี โทโมะลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก อย่างน้อยเขาก็ได้พูดความจริงและความรู้สึกของเขาออกไปแล้วจนหมดสิ้น
เขารักแก้วมาก รักมาตั้งนาน และรักก่อนใคร,,,,นั่นคือเรื่องจริงที่ผู้ชายอย่างเขาไม่เคยโกหก
วันนี้โทโมะตื่นแต่เช้ามาโรงพยาบาลเพื่อรับแก้วกลับบ้านแต่ปรากฏว่าเมื่อมาถึงห้องหญิงสาวกลับหายไปแล้ว สอบถามจากทางโรงพยาบาลจึงได้ความว่ามีญาติว่ารับตัวกลับไปแต่เช้าตรู่ เขาจึงรีบกระวนกระวายหวนรถกลับทางเดิมเพื่อที่จะไปหาน้องสาวที่รักของเขาถึงบ้าน
เสียงหัวเราะใสๆคุ้นหูลอยแว่วมาตามสายลม เสียงหัวเราะของเด็กหญิงแก้วใจน้องสาวข้างบ้าน...
ภาพในอดีตสมัยยังเด็กหวนกลับเข้ามาในสมองของเขาอีกครั้ง...เมื่อเสียงหัวเราะของเด็กน้อยที่นั่งอยู่ริมหน้าต่างบ้านของเธอกำลังหัวเราะเสียงใสเมื่อเขา...ผู้เป็นพี่ชายข้างบ้านกำลังป้อนขนมใส่ปาก ภาพในอดีตเหล่านั่นเป็นเพียงภาพความทรงจำเก่าๆ ตอนนี้...เธอหัวเราะอีกครั้งเหมือนเมื่อก่อนแต่ต่างกันตรงที่ว่าก่อนนั้นเขาเป็นคนทำให้เธอหัวเราะ แต่วินาทีนี้คนข้างๆเธอกลับกลายเป็นเพื่อนรักของเขา....เขื่อน
“ฮ่าๆ ขอบคุณนะคะพี่เขื่อนที่คอยดูแลแก้ว (^^)”
“ครับ น้องแก้ว คือ,,,,เรื่องน้องแก้วกับไอ้โท....”
“แก้วว่าเราอย่าพูดถึงคนอื่นเลยค่ะ แก้วไม่อยากฟังชื่อคนใจร้ายแบบนั้นหรอก”
“พี่ว่ามันก็ดูรักน้องแก้วดีออก น้องแก้วจะว่าอะไรไหมถ้าพี่จะบอกว่า...เรากลับไปเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิมเถอะ” แก้วมองสบตาแฟนหนุ่ม ? ของเธอด้วยสีหน้าสงสัย หากแต่ไม่ตระหนกตกใจอะไรเท่าที่ควร แค่แปลกใจว่าทำไมเขาถึงขอเลิก...เขื่อนยิ้มบางๆกับอาการของหญิงสาว
เธอไม่ได้มีใจให้เขาโดยแท้จริง เป็นแบบนั้นคงต้องเสียใจบ้างไม่มากก็น้อยล่ะ แต่นี่....
“นี่พี่เขื่อนกำลังขอเลิกกับแก้วเหรอค่ะ?”
“ใช่ค่ะ พี่ขอเลิกกับน้องแก้วเพราะพี่รู้ว่าหัวใจน้องแก้วไม่ได้อยู่กับพี่ หัวใจของแก้วอยู่ที่ใครแก้วก็น่าจะรู้ อย่าให้พี่ต้องกลายเป็นคนบาปที่พรากหัวใจของคนอื่นเลยนะครับ ....ค้นหาหัวใจตัวเองให้เจอ อย่าด่วนตัดสินใจอะไรเร่งรีบโดยไม่ได้คิด ถ้าแก้วคิดอะไรไม่ออก แก้วต้องใช้หัวใจคิด แล้วเดี๋ยวคำตอบทุกอย่างมันก็จะออกมาเองนะเด็กน้อย”
“พี่คิดว่างั้นเหรอค่ะ ?”
เขาไม่ได้ตอบอะไรแก้วอีกนอกจากยิ้มบางๆส่งให้พร้อมพยักหน้าเล็กน้อยเป็นเชิงว่า...ใช่
.
.
.
หลายวันต่อมา
“น้องแก้วจ๋า อยู่ไหมลูก ?” เสียงนุ่มทุ้มคุ้นหูดังขึ้นหน้าบ้านของร่างเล็ก แก้วรีบวิ่งรี่ออกไปดูพบกับคุณป้าข้างบ้านที่เธอเคารพรักนักรักหนา แม่ของโทโมะ หญิงสาวยิ้มร่าด้วยความดีใจก่อนจะรีบวิ่งออกไปไขประตูบ้าแล้วสวมกอดแม่ของโทโมะทันที
“คุณป้าขา แก้วคิดถึงคุณป้ามากๆเลยคะ กลับไทยเสียทีนะคะ โอ้ยย คิดถึงจัง” ร่างเล็กกอดซบคุณป้าของเธอด้วยความคิดถึงสุดแสนก่อนที่คุณป้าของเธอจะชวนไปทานข้าวที่บ้าน แก้วกระอักกระอ่วนไปอย่างปฏิเสธไม่ได้ เธอไม่อยากไปพบเจอกับลูกชายบ้านนั้นอีกนี่นา...
“ไปเถอะนะลูก ป้าซื้อของมาฝากน้องแก้วเยอะเลย ไปๆ เดี๋ยวป้าให้พี่โทโมะเดินมาส่งก็ได้”
“เอ่อ ไม่เป็นไรค่ะคุณป้า ไม่รบกวนพี่เขาดีกว่า เดี๋ยวแก้วตามไปนะคะ ขอแก้วไปเปลี่ยนชุดครู่นึง”
“ได้เลยลูก รีบตามมานะลูกนะ”
“ค่ะคุณป้า” แก้วตอบรับเสียงอ่อยก่อนจะเดินเข้าบ้านไป....
ร่างเล็กกลั้นใจเดินเข้าไปภายในบ้านของอีกฝ่ายตัวลีบเมื่อหันไปเจอสายตาคมเข้มที่เฝ้าดูเธอไม่ห่างวางตา เขาส่งยิ้มยะเยือกมาให้เธอนิดๆ ก่อนที่แก้วจะทำเชิดใส่และมองผ่านเขาเป็นเพียงแค่ธาตุอากาศ โทโมะมองค้อนคนตัวแสบที่ทำหมางเมินใส่เขาด้วยความหมั่นไส้ก่อนจะคิดแผนแก้เผ็ดเธอได้ขึ้นมา
“คุณแม่ครับ วันนี้น้องแก้วเขาแอบมากระซิบผมว่า จะยอมเป็นลูกมือช่วยผมทำกับข้าวต้อนรับการกลับมาของคุณแม่ แบบตัวต่อตัว...คุณแม่แค่นั่งรอเฉยๆ เดี๋ยวผมกับน้องแก้วจะลงครัวเองครับ จริงไหมน้องแก้ว ?”
“เอ่อ...”
“จริงเหรอลูก ขอบใจมากนะตาโทโมะน้องแก้ว เด็กๆของแม่น่ารักที่สุดเลย” แก้วได้แต่นั่งอ้ำอึ้งพูดไม่ออกเมื่อเห็นว่าไม่มีทางจะขัดขืนได้เธอจำต้องยอมทำตามเรื่องบ้าๆแบบนั้น ร่างเล็กถูกโทโมะลากข้อมือมายังห้องครัวโดยที่เจ้าตัวก็ขัดขืนอยู่ตลอดเวลา และเผลอสะบัดมืออย่างแรงจนไปโดนขอบประตูเข้าให้
“โอ๊ย เจ็บอ่า...”
“หึ ! อยากซนอยากสะดิ้งนักนี่ เป็นยังไงเจ็บมาหรือเปล่า ?”
“เพราะพี่นั่นแหละ ! ปล่อยนะไม่ต้องมายุ่ง”
“เลิกเถียงได้แล้ว มานี่พี่จะทายาให้...” ใบหน้าหวานงอง้ำทันทีที่เขาล้างเธอไปทำแผล จะขัดขืนตัวเองก็เจ็บใช่ย่อยเลยไม่กล้าดิ้นอะไรมากนัก เขาคว้ามือเล็กมาล้างแผลตรงซิงค์น้ำก่อนจะจูบซับหยดน้ำพราวที่เกาะตามมือนุ่มออกจนแก้วตกใจรีบสะบัดมือหนี
“ทำบ้าอะไรของพี่”
“ง้อน้องแก้วอยู่ไงครับ” แก้วเบี่ยงหน้าหลบสายตาคมเหยี่ยวนั่นอีกครั้งเมื่อเขาจงใจโปรยยิ้มหวานมาให้ ลางใช้หลังมือไล้แก้มนุ่มเบาๆจนคนตัวเล็กหน้าแดงเป็นลูกตำลึงเขาก็ยังไม่วายจะหยุดแกล้ง
“พี่ขอโทษสำหรับทุกๆเรื่องที่พี่เคยทำให้แก้วเสียใจ ให้อภัยหรือเปล่า?”
“....ง่ายไป” เด็กขี้งอนยังคงไม่ยอมให้อภัยเขาง่ายๆ เธอเบี่ยงตัวหนีเขาก่อนจะหันไปจัดแจงกับของคาวหวานเตรียมจะลงมือ ร่างเล็กคว้าผักมาหั่นอย่างตั้งอกตั้งใจแต่มันก็ยังออกมาไม่ดีเท่าที่ควรจนโทโมะลอบยิ้มเป็นระยะๆ เขาเดินอ้อมไปทางด้านหลังก่อนจะสอดมือโอบกอดร่างเล็กพลางจับมือนุ่มนิ่มของหญิงสาวไว้พร้อมกับสอนวิธีการให้ใหม่
“หั่นแบบนั้นเดี๋ยวก็ได้เฉือนมือเข้าให้หรอก แล้วจะมาร้องไห้ขี้มูกโป่งอีกไม่ได้นะ”
“ปล่อยนะคนฉวยโอกาส !”
“ทำไม...แค่พี่กอดนิดกอดหน่อยกลัวจะเผลอใจไปกับพี่เหรอ ?” ร่างสูงกระซิบข้างใบหูเล็กเสียงแหบพร่าก่อนจะกระชับเบียดร่างเข้ามาแนบชิดอีกครั้ง วงแขนอบอุ่นโอบรัดร่างของแก้วไว้อย่างแน่นหนา จนอีกฝ่ายหน้าแดงแปร๊ดลามไปยังใบหู ด้วยรู้ดีว่าตัวเองใจอ่อนลงมากแล้วเพียงใด
“ขอโทษนะครับ แต่พี่รักน้องแก้วคนเดียวแล้วจริงๆสาบานได้...” เขาพลิกร่างเธอหันมาหาก่อนจะกดจมูกโด่งของตนแนบอิงกับสันจมูกของอีกฝ่าย แก้วหลับตาพริ้มรับสัมผัสแผ่วหวิวนั้นอย่างห้ามไม่ได้
โทโมะอมยิ้มน้อยๆอย่างมีความหวัง มือหนากดท้ายทอยหญิงสาวเข้ามาซุกซบกับแผ่นอกกว้างของเขาพลางลูบเส้นผมปลอบปะโลมเบาๆ แก้วกำชายเสื้อเขาไว้แน่น โทโมะรับรู้ถึงแรงสั่นสะอื้นเบาๆและรู้สึกชื้นบริเวณหัวไหล่เมื่อน้ำตาของแก้วซึบซับลงสาบเสื้อของเขา
“พี่ใจร้าย ใจร้ายยยย”
“โอ๋ๆ พี่ขอโทษ ต่อไปนี้พี่จะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว จะมองแค่น้องแก้วคนเดียว พี่สัญญานะครับ นะ”
“แก้วจะเชื่อ..ฮึก พี่ได้ยังไง พี่ทำให้แก้วเสียใจมากขนาดนี้ แก้วจะเชื่อพี่ยังไง ฮึกๆฮือๆๆๆ” เด็กน้อยสะอื้นฮักด้วยความเสียใจและน้อยใจเขามากเหลือคณา โทโมะรวบคว้าร่างนั่นมากอดเต็มมือส่งผ่านความรู้สึกทางร่างกายผ่านร่างกายที่เต็มไปด้วยความรักที่ลอยเคว้ง
“ให้พี่ทำยังไงก็ได้ หรือจะให้พี่...ให้คุณแม่ไปขอ ?”
“เห ?...อ้ะ ไม่เอานะคะ แก้ว....” ร่างเล็กพยายามเอ่ยปฏิเสธเขาด้วยความเขินแยบวกกับที่เธอเองยังไม่ทันได้ตั้งตัวเสียด้วยซ้ำ
“ไป ไปกับพี่ ไปบอกคุณแม่ “ เขาย่อกายลงเล็กน้อยก่อนจะตวัดอุ้มร่างแบบบางขึ้นแนบอกก่อนจะเดินดุ่มๆไปอย่างฉับไวจนแก้วร้องห้ามแทบไม่ทัน
“พี่โทโมะ .... อย่าเล่นอะไรแบบนี้”
“พี่ไม่ได้พูดเล่น แต่พี่เอาจริง ! ยังไงเสียแก้วก็ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นมะ...” แก้วทำตาเขียวปั๊ดพลางรีบใช้ฝ่ามือปิดปากเขาไว้ก่อนที่เขาจะพูดอะไรให้เธอได้อับอายออกมา
“อย่ามาพูดลามกแถวนี้นะ”
“ครับ เอ่อ ยังไงน้องแก้วก็เป็นของพี่ พี่แค่จะแสดงความรักและก็ความรับผิดชอบ หรือน้องแก้วไม่อยากให้พี่รัก ไม่อยากให้พี่รับผิดชอบ” เขาแกล้งถามเสียงเหย้าจนแก้วหน้าบึ้ง
“ไม่ !” แก้งสะบัดเสียงใส่หน้าเขาก่อนจะซบศีรษะลงบนไหล่หนาลาดเอียงของร่างสูงเป็นเชิงอ้อนน้อยๆ โทโมะยิ้มกระหย่องก่อนจะกระชับอ้อมกอดแล้วโอบอุ้มคนตัวเล็กที่เขาว่ารักนักรักหนาไปหาแม่ของเขา
“อ้าว ไปไงมาไงถึงกับต้องอุ้มน้องกลับมาละลูก ?”
“ผมพาเด็กคนนี้มาให้คุณแม่ดูตัวนะครับ....ผมจะจับเด็กบ้านี่แต่งงานด้วย”
“หา ?”
.
.
.
.
.
.
ลมโชยโกรกพัดมาระเรื่อยผ่านผิวกายเนียนนุ่มที่มีเพียงผ้าพันคอผืนสลวยโอบรอบลำคอระหงไว้เพียงผืนเดียว หญิงสาวยกมือกอดตัวเองเบาๆพลางเหม่อมองท้องฟ้ากว้างและปลายพงหญ้าที่สะบัดพริ้วตามแรงลมปะทะบนทุ่งทิวที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพได้อย่างสวยงาม แก้วยิ้มรับกับภาพตรงหน้าอย่างระรื่นใจก่อนจะรู้สึกอบอุ่นซาบซ่านเมื่อได้รับการสวมกอดจากอ้อมกอดอบอุ่นของใครบางคน อ้อมกอดที่เธอแสนจะปรารถนา...
“เชียงใหม่หนาวมั้ยค่ะ ? ไว้ทริปหน้าพี่จะพาไปเที่ยวทะเล....ว่าแต่น้องกลัวดำหรือเปล่า”
“น้องไม่กลัวหรอกค้า (^^)”
“ดีมากคนดี”
โทโมกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นเมื่อคนตัวเล็กของเขาเริ่มสั่นหงึกๆเล็กน้อย หลังจากที่วันนั้นเขาทำห้าวอุ้มคนตัวเล็กไปหาคุณแม่เพื่อจะให้สู่ขอเธอเอาไว้เสีย ก็เล่นเอาหัวใจคนแก่จะวายช็อค ก็หลานสาวข้างบ้านที่เธอรักปานลูกสาวแท้ๆอยู่ๆก็จะกลับกลายมาเป็นลูกสาวจริงๆเสียนี่...ถึงจะตกใจไม่น้อยแต่ท่านก็ยอมทำตามความประสงค์ให้ แค่สู่ขอหลานสาวไว้อย่างไม่เป็นทางการ,,,,
“ถ้าพี่แม่น้องแก้วกลับมาเมื่อไหร่ และเมื่อหนูเรียนจบ พี่จะจับหนูแต่งงานทันที”
“ไม่ต้องเรียกแบบนั้นก็ได้นี่ค่ะ....” แก้วหลบสายตาคมเข้มอย่างเอียงอายที่เขาเรียกเธอราวกับเธอกลับไปเป็นเด็กแบบั้นอีกครั้ง
“อ้าว เรียกไม่ได้หรือ ?”
“ไม่ได้ค่ะ แก้วไม่ใช่เด็กแล้วเสียหน่อย” หญิงสาวทำหน้างอใส่เขา
“น้องแก้วสำหรับพี่ก็ยังเป็นน้องแก้วคนเดิมทุกอย่างไม่มีเปลี่ยน ยังคงเป็นเด็กน้อยที่พี่รักเหมือนเดิม ยังคงเป็นเด็กที่ชอบให้พี่กอดแน่นๆเวลาแก้วหนาวหรือฝนตก...ใช่ไหมค่ะ ?” โทโมะเชยคางร่างเล็กตรงหน้าขึ้นเล็กน้อยอย่างรู้ดี เขารู้ในทุกๆเรื่องที่เกี่ยวกับเธอ ไม่ว่าจะในอดีตหรือปัจจุบันก็ตาม
“ค่ะ แก้วชอบให้พี่กอดเวลาหนาวหรือฝนตก แต่พี่รู้ไหมค่ะ...ว่าตอนนี้,,,,” แก้วเม้มริมฝีปากเล็กน้อยจนโทโมะสงสัย
“ตอนนี้ไม่อยากให้กอดแล้วหรือ โถ่ น่าน้อยใจจริงๆ”
“ไม่ใช่ค่ะ ตอนนี้....อยากให้กอดทุกเวลามากกว่า” หญิงสาวยิ้มเขินแก้มแดงก่อนจะดึงคนโตกว่าเข้าไปกอดแนบชิด โทโมะยิ้มบางๆอย่างหมั่นไส้ในความน่ารักเกินเหตุของว่าที่เจ้าสาวของเขา
“พี่จะกอดน้องแก้วไปจนวันตาย ยอดรักของพี่โทโมะ”
เพราะ กอด คือความลับของความรู้สึก เป็นสื่อกลางของความรัก
คือสิ่งที่ทำให้หัวใจของคนทั้งสองใกล้ชิดกันมากที่สุด
Even though you’ve got only one person in your life to HUG , that’s enough
THE END
จบแล้วครับ =,,= พักหลังๆมีแต่กอด
เอ้า,,,ก็ชื่อเรื่อง 'กอด' อ๊าาา 555
จบจนได้ =/\=; เรื่องใหม่ยังไม่รู้ค้าบบ.
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ