Rumor เหมือนเป็นข่าวลือ
เขียนโดย StrawberryTKCuTe
วันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2554 เวลา 20.21 น.
แก้ไขเมื่อ 27 เมษายน พ.ศ. 2557 22.21 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
15) Blinded
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
Blinded ♥
ดวงตากลมโตของแก้วกำลังทอดมองใบหน้าหวาน เกลี้ยงเหลาไร้สิ่งตำหนิของบุรุษเบื้องหน้า เขากำลังอยู่ในห้วงนิทราอันแสนยาวนานไม่มีทีท่าว่าคนขี้เซาจะตื่นขึ้นมาง่ายๆ ทรงผมซอยสั้นสีนิลของเขาตัดกับใบหน้าขาวเหลืองทำให้โทโมะดูโดดเด่นเป็นเท่าทวี
อดไม่ได้ที่แก้วจะต้องอมยิ้มให้กับความน่ารักดั่งเด็กน้อยในร่างผู้ใหญ่ของชายคนรัก ลมหายใจเขาออกสม่ำเสมอนั้นบ่งชี้อย่างแน่ชัดว่าเขาไม่ได้แสร้งหลับและรอเวลาที่จะตื่นขึ้นมาจุมพิตเธอ เช่นเดียวกับนิยายรักตามแผงหนังสือนั่น ... เพราะตอนนี้เขาหลับสนิทราวกับว่าเรื่องเมื่อคืนเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้คนหล่ออย่างเขาหมดแรงลงเสียดื้อๆ
“คนขี้เซา”
เอื้อมมือไปสัมผัสกับจมูกโด่งของเขาอย่างหมั่นเขี้ยวก่อนจะระบายยิ้มออกมาด้วยความขบขัน แต่งเติมให้ใบหน้าสวยดูมีชีวิตชีวาต่างจากวันอื่นๆทั่วไป ที่ไม่แยกเขี้ยวใส่เขาก็เป็นเขานั้นแหละที่ชวนหาเรื่องให้หึง ให้หวงจนต้องอารมณ์เสียซะบ่อยๆ
นิ้วเรียวของแก้วค่อยๆเอื้อมไปสัมผัสกับใบหน้าของเขาอย่างบางเบา ไล้ลูบจากหางคิ้วลงมายังจมูกโด่งเป็นสันรับกับใบหน้าหล่อๆชวนให้หญิงสาวมากหน้าหลายตาตกหลุมรักได้อย่างง่ายดาย เธอไม่ปฏิเสธเลยว่าเขาหล่อและน่ารักแค่ไหน เพราะอะไรนะหรือ...เพราะแก้วเองก็เป็นหนึ่งในหญิงสาวพวกนั้นด้วยนะสิ
“ไอ้คิ้วหนาๆจอมเจ้าเล่ห์นี่ .. ชอบนักนะที่จะยักคิ้วให้สาวๆไปเรื่อย คิดว่าตัวเองหล่อแล้วหรือยังไง?”
“.....”
“จมูกโด่งนี่มันน่าหยิกเสียให้เข็ด ชอบเหลือเกินกับการที่จะใช้มันสูดดมความหอมจากแก้มของคนอื่น! อย่าให้รู้นะว่าไปใช้มันกับใครมาแล้วบ้างนะ ฮึ!”
คนสวยตัดพ้อล้อเขาด้วยนึกหมั่นไส้กับความสมบูรณ์แบบของเขา ยากเหลือเกินกับการที่จะหาข้อบกพร่องของโทโมะ เคโอทิค .. ข้อพิพาทสุท้ายที่แก้วจะได้ครหาเขาก็คือ ริมฝีปากหนาสีเชอร์รี่อมชอมพูช่างดูน่าอิจฉา เขาอาจดูดีกว่าผู้หญิงหลายๆคนเลยก็ว่าได้ ไม่แปลกหากเมื่อก่อนหลายๆคนอาจมองว่าเขาไม่ใช่ผู้ชาย ..?
“ปากหนาๆชอบหยอดคำหวาน ฮึ นี่แหละตัวอันตรายที่สุดเลย!”
“.....”
“พูดคำว่ารักกับใครไปแล้วบ้างเนี่ย? เฮ้อ” หญิงสาวถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะเตรียมจัดผ้าขนหนูผืนน้อยที่ห่อหุ้มร่างกายอย่างหมิ่นเหม่ให้เข้าที่เข้าทางเพื่อจะลุกไปชำระร่างกายหลังจากที่คนขี้เซาทำเธอสกปรกมาทั้งคืน
“ก็พูดกับมินนี่คนเดียวไงครับ” ไม่ทันที่ขาเรียวจะแตะสู่พื้นห้อง คนหลับ(?)ก็รีบใช้มือปลาหมึกเกี่ยวกระหวัดเอวบางเข้าหาอ้อมกอดอุ่นๆยามเช้าของเขาทันที โทโมะยกยิ้มริมฝีปากอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนจะยักคิ้วกวนประสาทเย้ายวนคนสวยในอ้อมกอด
“อย่ามายักคิ้วหลิ่วตาแบบนั้นนะ”
“ทำไมละครับ..หื้ม~”
ใช้จมูกโด่งสูดดมความหอมจากแก้มนวลเมื่อแก้วเผลอ สองมือน้อยของแก้วรีบตะครุบแก้วทั้งสองข้างของตัวเองเอาไว้ด้วยรู้ตัวว่าถูกเขาย้อนศรเสียแล้ว แปลว่าทุกอากัปกิริยาที่เธอทำกับเขาเมื่อครู่ เขารู้ตัวทั้งหมดเลยอย่างนั้นนะหรือ .. ดวงตาเรียวเบิกโพลงด้วยความตกใจเมื่อนึกขึ้นได้ว่าสิ่งสุดท้ายที่เธอตั้งข้อครหาคือริมฝีปากของเขา!!
“กะ..”
“ไม่นะ>__<” แก้วรีบยกสองมือปิดปากเขาทันควันเพราะรู้ดีว่าเขาจะพูดอะไรต่อจากกนี้ .. นาทีแรกโทโมะก็ออกจะงงเล็กน้อย แต่พอเห็นแก้มนวลขึ้นสีแดงเรื่อก็พอที่จะเข้าใจว่า ‘ยัยตัวเล็กของเขาคงกำลังเขินอาย’
ปล่อยให้เธอทำใจอยู่สักพักก่อนจะหยิบยกมือเรียวออกและหันมาจุมพิตแทน พลางทอดสายตามองแก้วหวานฉ่ำปนเอ็นดู กับท่าทีแมวน้อยแบบนั้น มือหนาเอื้อมสัมผัสกลุ่มผมของคนในอ้อมกอดด้วยความหมั่นเขี้ยว ขยี้ขย้ำเบาๆให้พอสนุกก่อนจะเอ่ยคำๆนั้นออกมา...
“ไม่ให้โมะพูดให้จบละครับ....”
“....”
“ระ..”
“ไม่นะ ไม่เอา ไม่พูดนะ!”
“ทำไมละ?” ใบหน้าหล่อของโทโมะเริ่มฉายแววแห่งความน้อยใจขึ้นมาเมื่อแก้วไม่ยอมให้พูดเอ่ยคำนั้นให้ฟัง พาลทำให้เขาเข้าใจไปว่าเธอยังไม่พร้อม และเธอยังไม่รักเขา
“แก้ว...”
“ถ้าโมะไปบอกคนอื่นขึ้นมา เด็กดื้ออย่ามาเสียใจทีหลังแล้วกัน!”
“ก็ลองไปบอกคนอื่นดูสิ!”
เมื่อใช้ไม้อ่อนไม่ได้ผล ไม้แข็งจึงเป็นวิธีสุดท้ายที่โทโมะใช้เป็นตัวช่วยสุดท้าย แกล้งขู่ว่าจะไปรักคนอื่นเสียขนาดนั้นละนะถ้าแก้วไม่รู้สึกอะไรเขาต้องผูกคอตายเป็นแน่แท้ ..และในที่สุดเด็กดื้อจอมปากแข็งก็ยอมเผยไต๋ว่าหวงเขาเหมือนกัน ต่อจากนี้ต่อไปเขาก็แค่อยากจะรู้ว่าทำไมเธอถึงไม่ให้เขาพูด
“แล้วทำไมโมะจะพูดไม่ได้ละ ตอบมาเลย ถ้าไม่ตอบไปรักคนอื่นจริงๆนะ”
“ก็...”
“ก็อะไรล่ะ?”
“แก้ว..ยังไม่พร้อม แก้วไม่อยากให้คำนั้นมาจำกัดความสัมพันธ์ของเรา เพราะแค่เรื่องเมื่อคืน..เอ่อ..แก้วก็ไม่รู้จะตอบคำถามกับตัวเองยังไงแล้ว”
“แก้วไม่ได้ไม่พร้อม...แต่แก้วคิดว่าตัวเองไม่พร้อมต่างหาก ความรักไม่ใช่เรื่องหน้ากลัวอย่างที่แก้วคิด เพราะฉะนั้นคำๆนี้ไม่ได้เป็นตัวจำกัดความสัมพันธ์ของเรา แต่เป็นแก้วเองต่างหากที่ไม่ยอมเปิดใจ เป็นแก้วเองต่างหากที่ไม่รู้จักมัน เป็นแก้ว..ที่ไม่ได้รักกันเลย!!”
โทโมะเผลอขึ้นเสียงใส่แก้วด้วยความน้อยใจที่อัดแน่นอยู่เต็มอก มีหรือที่เธอจะไม่รู้ว่าเขารู้สึกเช่นไร? แต่มันก็ไม่ต่างจากเธอเท่าไหร่นักหรอก รักแทบตายสุดท้ายเธอก็ไม่กล้าพูดมันออกมา... ความสัมพันธ์ของเธอกับเขายังไม่ชัดเจนพอและมันก็ยังไม่สมควรที่จะถูกเปิดเผยด้วย !! เพราะอะไรนะหรือ?....ก็เพราะว่าโทโมะยังมีผู้หญิงคนนั้น เขายังมีเบลล์อยู่อีกคน แล้วอย่างนี้จะให้เธอแน่ใจได้อย่างไรว่าเรื่องนี้จะไม่เป็นปัญหาของเธอกับเขา!
“หายไปไหนกันหมดดดดดด!!!!” เสียงแหลมใสของเฟย์ดังขึ้นจนเขื่อนที่ยืนขนาบข้างอยู่ต้องรีบอุดหูด้วยเกรงว่าแก้วหูของเขาจะเป็นอันตรายไปเสียก่อน น้ำเสียง 18 หลอดนั่น ทำร้ายเขาเกือบตายได้เลยเชียว
“หัวหอมจ๋า ใจเย็นๆหน่อยสิครับ เดี๋ยวแก้วก็กลับมา”
“ยังจะมีหน้ามาพูดอีกเหรอเขื่อน! เพื่อนนายพาเพื่อนฉันหายไปทั้งคนนะ บ้าที่สุด!! ไปเลยนะ ไปตามเพื่อนฉันกลับมาเดี๋ยวนี้!!”
เมื่อเห็นว่าวิธีเอาน้ำเย็นเข้าลูบใช้กับเฟย์ไม่ได้ผล เขื่อนจำต้องวิ่งไปขอความช่วยจากฟาง พี่สาวคนสวยของเฟย์ เป็นอันที่รู้ๆกันดีว่าถึงแม้เฟย์จะเป็นคนหัวรั้นไม่ยอมใคร แต่ก็เห็นจะมีแต่พี่สาวของเธอกระมังที่เธอจะยอมรับฟัง
บอสใหญ่ของวงออกอาการหงุดหงิดเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าเขากำลังได้อยู่ตามลำพัง มีโอกาสจะได้ระบายความในใจกับหญิงสาวคนสวยอย่างฟางเสียหน่อย ก็ถูกกบเคโระมาขัดจังหวะเสียได้..
ไอ้เขื่อน ถ้ามีครั้งหน้า แกตายยยย
“ฟาง..แฮ่กๆ..ช่วยฉันหน่อยดิ เฟย์ไม่ฟังอะไรฉันเลย”
หนุ่มร่างโปร่งวิ่งกระหืดกระหอบพลางใช้สองมือจับไหล่ของฟาง ก่อนจะเขย่ามันเสียจนเจาตัวมึนหัว บ่งบอกให้เธอได้รู้ว่าเฟย์คงกำลังโมโหชายหนุ่มตรงหน้าอยู่เป็นแน่ ถึงได้เดือดร้อนจนต้องวิ่งมาหาเธอแบบนี้
“เดี๋ยวๆ..มีเรื่องอะไรกัน ค่อยๆเล่าได้ไหม นี่..หยุดเขย่าฉันก่อนสิ ฉันเวียนหัว”
ชักจะมากเกินไปที่เพื่อนรักบังอาจแตะต้องไหล่เนียนของหญิงสาว บอสใหญ่อย่างป๊อปปี้ก็แอบหวงหวงเหมือนกัน เพราะขนาดเขายังไม่มีโอกาสได้แตะเลย คิดได้ดังนั้นก็รีบขัดขวางโดยการปัดมือเพื่อนออกจากไหล่ของคนรัก(?)
“เยอะไปล่ะ=__=”
“โอ๊ย..ขอโทษครับบอส อย่าเพิ่งมาหึงตอนนี้ได้ม้ายยย? คนกำลังต้องการความช่วยเหลือนะครับ”
“ช่วยอะไรของแก...ยาหยีของแกเป็นอะไรอีกล่ะ ทำไมนะ แกถึงได้ชอบขัดฉันทุกที!”
“นี่ พอเลย เลิกเถียงกันได้แล้วตกลงว่าเฟย์เป็นอะไร?”
“ก็...”
“ฟาง ป๊อปว่าถามเจ้าตัวเขาเองเลยดีกว่า โน่น เดินหน้ามุ่ยมาโน้นล่ะ” ดวงตาเรียวของฟางจดจ้องไปทางน้องสาวตามคำบอกเล่าของป๊อปปี้ คนสวยเจ้าอารมณ์กำลังวิ่งมาเกาะแขนเธอพลางจิกสายตาใส่เขื่อนด้วยความหมั่นไส้
“ไอ้ขี้ฟ้อง..!! พี่ฟาง เฟย์ว่าเราไปตามหาแก้วกันดีกว่านะ เฟย์เป็นห่วงแก้ว”
“ใจเย็นก่อนสิเฟย์ พี่เชื่อว่าแก้วไม่เป็นอะไรหรอก ตราบใดที่อยู่กับโทโมะ”
“ฮึ..นั่นแหละตัวดีเลย!”
“ที่แก้วไม่ให้พูด เพราะแก้วยังไม่แน่ใจว่าโทโมะ..ฮึก..รักแก้วจริงๆหรือเปล่า?”
หยาดน้ำตาคลอหน่วยอยู่เต็มดวงตาคู่สวยทีบัดนี้ฉายแววแห่งความเสียใจล้นท้น โทโมะหันกลับมามองด้วยความไม่เข้าใจ ก็ไอ้ที่เขาพร่ำบอกว่ารักแค่นั้นมันยังไม่เพียงพอที่จะทำให้เธอมั่นใจได้อีกหรือ บางทีเขาก็เหนื่อยเป็นเหมือนกัน!
“ก็ถ้าโทโมะไม่รักแก้ว แล้วจะให้ไปรักใครที่ไหน?”
“เบลล์ไง..ฮึก...รักเขาไม่ใช่เหรอ?”
คนหล่อชะงักไปเล็กน้อย แทบลืมไปเสียสนิทว่าเขายังผู้หญิงอีกคนที่ต้องสะสาง อยากจะบอกความจริงกับเธอเหมือนกัน แต่ก็เกรงว่าเธอก็จะไม่เชื่อเขาอีก ขนาดเขารักเธอ เธอยังไม่คิดจะเชื่อเขาเลย
“แก้ว..คือ..เอาเป็นว่าเรื่องเบลล์ โทโมะจัดการเอง”
“จัดการเหรอ จัดการยังไง?”
“เอ่อ...แก้วไม่ต้องรู้หรอก พอแล้ว โทโมะไม่อยากเถียงกับแก้วแล้วนะครับ แล้วแก้วก็ไม่ต้องพูดถึงใครแล้วด้วย อย่าหาเรื่องชวนทะเลาะสิเด็กดี” มือหารวบตัวแก้วเข้าหาพลางกดจูบลงบนหน้าเนียนด้วยความรัก หญิงสาวมีท่าทีสงบลงยอมทำตามที่เขาบอกอย่างว่าง่าย
บางทีแก้วก็ออกจะหัวรั้นให้เขาได้เหนื่อยกายอยู่บ่อยๆ แต่เขาก็ไม่เคยเหนื่อยใจที่จะง้อ มีเพียงเรื่องเดียวตอนนี้ที่เขายังให้คำตอบกับเธอไม่ได้ก็คือเรื่องของเบลล์ ทำไงได้..ในเมื่อรับคำสัญญากับพี่ชายที่รักเอาไว้แล้วนี่นา แต่ในเมื่อความรักมันบังคับและทดแทนกันไม่ได้ เขาก็ควรจะเลือกชีวิตของตัวเองไม่ใช่หรือ? ถึงแม้จะต้องถูกประณามว่าเป็นคนไม่รักษาสัญญาก็ตาม
จะรักคนอื่นได้ยังไง ในเมื่อโทโมะมีคนที่รักอยู่แล้ว
“ไปอาบน้ำกันดีกว่าครับ” ฉุดรั้งข้อมือเล็กของเด็กดื้อที่ยอมเข้าใจเสียที แต่ดูเหมือนเธอจะเป็นเหมือนเดิมอีกแล้ว ฉุดก็ไม่ไปแถมยังสะบัดข้อมือหนีเขาอีก ‘เด็กดีจ๋า โทโมะตามไม่ทันนะครับ’
“มะ ..ไม่เอา”
“ทำไม?”
“แก้ว...แก้วว่าโทโมะไปอาบก่อนดีกว่า แก้วอาบทีหลังก็ได้-///-“ ฮะๆ เขาพอจะเดาอาการของคนสวยออกอีกแล้ว โทโมะส่ายหัวน้อยๆกับความขี้อายขี้เขินเกินเหตุของหญิงคนรัก ก่อนจะแสร้งพยักหน้าเข้าใจยอมเดินไปห้องน้ำแต่โดยดี แต่...
“ว้าย ไม่นะ...โทโมะ แก้วไม่เล่นนะ”
เอี้ยวตัวกลับมาช้อนร่างเล็กขึ้นแนบอกก่อนจะพาร่างของทั้งเขาและเธอเข้าห้องน้ำไป แก้วได้แต่ดีดดิ้นหวังจะให้หลุดพ้นจากพันธนาการของคนฉวยโอกาส แต่คนแรงเยอะกว่าไม่ปล่อยให้เหยื่อดิ้นหลุด ก่อนจะปล่อยลงร่างเธออ่างอาบน้ำคับแคบนั้น ตามด้วยเขาอีกคน
“เล่นอะไรนะโทโมะ ปล่อยเลยนะ ปล่อยแก้วเดี๋ยวนี้นะคนบ้า”
“อาบด้วยกันนี่แหละ จะกลัวอะไร หืม? แก้ว เฟย์ ฟาง แก้ว สาวมาดห้าว แสนซนคนที่ไม่เคยกลัวอะไร หายไปไหนหนอ?” ชายหนุ่มเหย้าแหย่เสียจนแก้วไปไม่เป็น ก่อนจะหันไปตีหน้ายักษ์ใส่เขาด้วยความท้าทาย เรื่องอะไรที่เธอจะยอมแพ้ต่อโทโมะ ผู้ชายเย็นชา ไอ้เสือหน้าเดียวแบนั้นกันเล่า เขาไม่มีอะไรหน้ากลัวสักนิด!
“ไอ้เสือ แก้วไม่กลัวหรอก แบร่:’P”
“ฮะๆ ไอ้ตัวเล็ก เก่งเหลือเกินนะแม่คุณ เก่งให้ได้ตลอดไปก็แล้วกัน”
รีบคว้าเอวบางเข้าปะทะกับอ้อมอกแข็งแรงของเขาทันที ริฝีปากหนาพรมจูบไปทั่วแก้มนวลไม่หยุดยั้ง คนโดนฉวยโอกาสก็เอาแต่ส่ายหน้าหนีพัลวันอย่างไม่ยอมแพ้ เส้นผมเปียกชื้นถูไถกับใบหน้าหล่อของเขาเล็กน้อย สร้างความเอ็นดูต่อหญิงสาวตรงหน้ามากขึ้นเป็นทวี
“อ๊ากกก ไอ้บ้า หยุดเดี๋ยวนี้นะ>__<”
“ทำไม? ไอ้เด็กบ้า...ไอ้เสือไม่หยุดหรอก ฮ่าๆ ไหนว่าเก่งนักไง..แน่จริงก็เอาชนะให้ได้สิครับ” แก้วได้แต่นึกขบเขี้ยวอยู่ในใจ คิดหาวิธีแก้แค้นเขาให้จงได้ ก่อนจะหมุนตัวกลับไปหาโทโมะ แสร้งยิ้มหวานให้จนอีกฝ่ายนึกแปลกใจ
“แก้วทำได้ก็แล้วกัน”
“ฮะๆ ตัวแค่เนี้ย จะมีปัญญาอะไรมาสู้กับโทโมะครับ”
“แก้วจะทำให้โทโมะ...หลงแก้วคนเดียวเลยคอยดู”
“หลงเลย?...รักไม่ได้เหรอ?”
“ไม่ได้ ยังไม่ให้รัก ต้องหลงก่อนสิ”
ชายหนุ่มแกล้งถามเสียงสูงอย่างไม่เชื่อถือว่าเธอจะทำตามที่ปากพูดได้ รู้ก็รู้นิสัยคนตัวแสบอยู่หรอก เธอไม่มีมารยา เหมือนหญิงทั่วไป ออกจะทะมัดทะแมง ผาดโผนเหมือนลิงทโมนเสียมากกว่า ดีเหมือนกัน อยากจะรู้นักว่าเธอจะทำให้เขาหลง..ไปมากกว่านี้ได้สักกี่น้ำ(?)
เพราะแค่นี้ก็หลงจนโงหัวไม่ขึ้นแล้วครับ^__^
มือทั้งสองยกขึ้นคล้องคอเขาพลางส่งสายตาเย้ายวนคนตรงหน้าอย่างนึกสนุก หางคิ้วยกขึ้นใส่เขาเลียนแบบสิ่งที่เขาทำกับเธอเมื่อครู่ ก่อนจะจรดจมูกโด่งของตัวเองถูไถกับสันจมูกของเขาอย่างหมั้นเขี้ยวจนโทโมะอึ้งกับการกระทำของเด็กน้อยในอ้อมกอด
“จูบตรงไหนก่อนดี?”
“งั้น..ตามใจเด็กดีเลยครับ วันนี้แก้วเป็นเด็กดี น่ารักที่สุดเลย ยอมให้จูบที่ทีก็ได้เลย เอ้า!”
“ฮิๆ แก้มก็น่าจูบ หน้าหน้าผากก็น่าจูบ งั้น...” แก้วไล้นิ้วมือไปตามใบหน้าของเขาอย่างยั่วยวนก่อนจะกดจูบเบาๆที่หน้าปากของเขา ไล่มาถึงแก้วใสซ้ายขวาของเขา สันจมูกโด่งรับกับใบหน้าเรียวรีของเจ้าตัว และ บรรจบด้วยริมฝีปาก
ปากบางขยับเล็กน้อยบนเรียวปากรูปกระจับอวบอิ่มของชายหนุ่ม พอให้อีกฝ่ายได้ย่ามใจ ก่อนที่บทสรุปสุดท้ายจะทำให้โทโมะเจ็บแสบจนไม่มีวันลืมเลือน...
“อ๊ากกกกก แก้วครับ กัดปากโทโมะทำไม?”
อาโหลวๆๆ-__- โทดทีค้าบ ไม่ได้อัพนานแหะๆ :')
สอบบบ จ้าาาT__T
สอบเสร็จมะไหร่เดะ กลับมาอัพต่อคับ ♥^__^ ♥
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ