Our Destiny เพราะเธอคือรักแท้
9.6
เขียนโดย StrawberryTKCuTe
วันที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2555 เวลา 20.51 น.
6 ตอน
147 วิจารณ์
17.16K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2556 21.03 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
4)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความถึงไม่ได้เจอกัน แต่มันไม่เคยหายไป แต่ค้นให้ลึกลงไปในใจ ไม่ว่าจะวันไหนก็มีรักเรื่อยมา
หลายวันต่อมา...
1 Comment
หลังจากที่ผมกลับมานั่งถอนหายใจเป็นรอบที่ร้อยอยู่ที่บ้านพร้อมทั้งเปิดอินเตอร์เน็ตหาวิธีง้อผู้หญิง...ไม่สิ ง้อน้องสาวอยู่นานแต่ก็ยังหาวิธีที่ถูกใจไม่ได้สักที ผมเลยเลื่อนเม้าส์เข้าไปดูที่บทความของตัวเองก่อนจะพบกับอีกหนึ่งคอมเม้นท์จากสาวน้อยผู้คุ้นเคยกันดีแม้จะไม่เคยพบเจอกันก็ตาม...
หรือผมจะถามวิธีจากเธอดีนะ...อย่างน้อยเธอก็เป็นผู้หญิงเหมือนกันนี่นา?
‘หัวใจเจ้าเอย...กล่าวว่า’
“คิดถึงจังเลยค่ะ อยากอ่านผลงานใหม่ของคุณเร็วๆจัง J”
‘ชายนิรนาม...กล่าวว่า’
“อีกไม่นานเกินรอครับ เพราะช่วงนี้ผมมีเรื่องยุ่งๆมากไปหน่อย เลยไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไรเท่าไหร่นัก ต้องขอโทษด้วยนะสาวน้อย L”
‘หัวใจเจ้าเอย...กล่าวว่า’
“ฮะๆๆ นานทีจะเห็นคุณเครียดขนาดนี้ค่ะเนี่ย มีเรื่องอะไรปรึกษาฉันได้นะ...ถือซะว่าเป็นการตอบแทนที่คุณคอยให้คำปรึกษาฉันมาโดยตลอด”
เห็นแบบนี้แล้วผมค่อยยิ้มออกขึ้นมาได้ และผมก็ตัดสินใจแล้วว่าครั้งนี้ผมคงต้องเป็นฝ่ายขอคำปรึกษาจากสาวน้อยคนนี้ซะเองแล้วล่ะ เพราะผมเชื่อว่าอย่างน้อย...เธอก็น่าจะให้คำตอบที่ดีที่สุดสำหรับผมได้ ผู้หญิงก็คงเป็นเหมือนกันนั่นแหละ เวลางอนแล้ว...วิธีง้อคงไม่ต่างกันเท่าไหร่หรอกมั้ง ผมได้แต่คิดแบบนั้น...
เกิดมาผมยังไม่เคยต้องทำอะไรที่วุ่นวายแบบนี้มาก่อนเลยจริงๆนะ...
‘ชายนิรนาม...กล่าวว่า’
“คือน้องสาวผมเค้างอนผมน่ะครับ...แต่ผมไม่รู้จะง้อยังไง คุณเป็นผู้หญิงเหมือนกันน่าจะรู้คำตอบดีนะครับ ช่วยผมทีเถอะ คือ...ผมไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อนเลย”
ฟังดูแล้วหลายคนคงอยากจะหัวเราะผมสินะ น่าอายจัง...ที่ผมต้องมาถามอะไรกับคนอื่นแบบนี้น่ะ
‘หัวใจเจ้าเอย...กล่าวว่า’
“เอ๋...ฉันก็ไม่เคยเป็นฝ่ายถูกง้อซะด้วยสิ แย่จังเลยนะค่ะ ไม่มีใครง้อฉันเลยเพราะว่าฉันไม่เคยได้รับความรักจากใคร แย่จังที่ฉันเป็นที่ปรึกษาที่ไม่ดีเอาเสียเลย...แต่...แต่ฉันเชื่อว่าคุณเป็นคนมีเหตุผลนะค่ะ แล้วน้องสาวคุณก็คงจะงอนได้ไม่นานหรอกค่ะ”
คำตอบนั้นทำให้ผมรู้สึกสะท้อนใจ...แก้วคงรู้สึกไม่ต่างอะไรกับสาวน้อยคนนี้มากนัก รักใครก็ผิดหวัง ไม่เคยถูกรัก ไม่เคยถูกง้อ แล้วผมล่ะ ผมถามตัวเองอีกครั้งว่าทำไมผมจะต้องง้อ...แค่เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆคนเดียวทำให้ผมวุ่นวายได้มากขนาดนี้เลยเหรอ
‘ชายนิรนาม...กล่าวว่า’
“งั้น...ผมถามในความรู้สึกของคุณก็แล้วกันนะครับ ถ้าคุณงอนผู้ชายคนนึง แล้ว...แล้วคุณอยากให้เค้าง้อคุณยังไง คุณถึงจะหายโกรธแล้วก็ให้อภัยเขา...”
‘หัวใจเจ้าเอย...กล่าวว่า’
“สำหรับฉันเหรอคะ...อืม ก็คงจะเป็นของขวัญชิ้นเล็กๆ และเป็นสิ่งที่ฉันโปรดปรานมากเป็นพิเศษ แล้วก็คำอธิบายจากปากของเขานะค่ะ แค่นี้ฉันก็หายงอนแล้ว ฉันเชื่อว่าความจริงใจจะทำให้น้องสาวของคุณหายโกรธคุณอย่างแน่นอน...”
‘ชายนิรนาม...กล่าวว่า’
“งั้นเหรอครับ...ขอบคุณมากนะครับ ผมว่าผมไปทำเลยดีกว่า ยังไงก็ขอบคุณอีกครั้งนะสาวน้อย ไว้เจอกันครับ”
ผมบอกลาสาวน้อยในโลกออนไลน์เสร็จก็รีบปิดคอมฯแล้วรีบสตาร์ทรถออกจากบ้านมาทันที นี่ก็เย็นแล้ว แก้วคงจะเลิกเรียนแล้วด้วย ผมเลยถือโอกาสนี้ไปรับเจ้าตัวกลับซะเลยจะได้หาวิธีปรับความเข้าใจกันด้วย บอกตรงๆว่าผมไม่อยากมีอะไรค้างคากับแก้ว...ผมไม่อยากให้น้องงอนเลย ให้ตายเถอะ!
และก่อนจะถึงมหาวิทยาลัยของแก้ว...ผมแวะซื้อเค้กสตรอบอรรี่ชนิดครีมเยอะๆของโปรดของเจ้าตัวติดมือมาให้ด้วย ไม่รู้ว่าแก้วจะชอบมันหรือเปล่า...แต่ผมน่ะอยากให้แก้วชอบจริงๆนะ อ้อ ผมเขียนการ์ดไว้ใต้ฐานกล่องเค้กสีชมพูใสนั่นด้วยล่ะ หวังว่าแก้วจะเข้าใจผมซักทีนะ...
“แก้ว..แก้ว!” ผมร้องเรียกชื่อยัยตัวแสบทันทีที่เห็นว่าเธอกำลังเดินลงมาจากตึกเรียนพร้อมกับเพื่อนสนิท แต่พอแก้วเห็นผม เจ้าตัวกลับทำหน้าตึงใส่ซ้ำร้ายยังจะเดินหนีผมอีก ร้อนถึงผมต้องเดินเข้าไปหาพร้อมกับกล่องเค้กที่ยังคงถือติดมืออยู่ตลอดเวลา
“พี่...พี่ซื้อมาให้” ผมรีบยื่นของโปรดให้เจ้าตัวทันที แต่ผิดคาดแหะ...แทนที่แก้วจะดีใจ กลับกลายเป็นว่า...
“เอามาให้แก้วทำไมคะ ที่ร้านของแก้วก็มี จะกินให้อ้วนตายเลยก็ยังได้...แก้วไม่เอา!”
ให้ตายเถอะ...ผมนี่โง่จริงๆเลย ก็รู้ทั้งรู้อยู่ว่าร้านของแก้วก็มีขนมเค้กพวกนี้มากมาย ทำไมผมถึงได้โง่กับเรื่องพวกนี้นักนะ น่าอายจริงๆเลย ตอนนี้เพื่อนของแก้วทำท่าหัวเราะคิกคักผมกันใหญ่ ส่วนผมน่ะเหรอ...ได้แต่ยืนยิ้มแห้งๆให้พวกเธออย่างไม่รู้จะพูดอะไรออกไปดี
“ไม่มีธุระอะไรแล้วแก้วกลับนะคะ ไปเหอะ...จินนี่”
“เดี๋ยว...เดี๋ยวสิแก้ว กลับกับพี่นะ พี่ตั้งใจรับ” ใบหน้าหวานหันกลับมามองผมด้วยแววตางุนงงก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นขึงขังอีกครั้ง แน่ล่ะ...เธอกำลังจะปฏิเสธผม
“แก้วกลับกับเพื่อนได้คะ”
“แต่พี่มีเรื่องจะคุยด้วย”
“แก้วไม่มีอะไรจะคุย..”
“แต่เรื่องที่พี่จู...อื้อ~” ยัยตัวเล็กรีบวิ่งมาเอามือปิดปากผมใหญ่เลย บ้าจริง...นี่ผมเผลอหลุดปากพูดอะไรออกไปเนี่ย ผมไม่ได้อยากจะให้แก้วเสียหายนะ ในเมื่อแก้วไม่ยอมฟัง ผมก็เลยไม่รู้จะทำยังไงดีแล้ว โชคยังดีที่เพื่อนของแก้วไม่ทันจะได้ฟังสิ่งที่ผมพูด เธอเลยไม่ได้สนใจอะไร
“อย่าพูดนะ...คนมองใหญ่แล้ว พี่โทโมะบ้า!” แก้วขู่ผมรอดไรฟันอยากโมโห เจ้าตัวทำหน้าบึ้งก่อนจะคลายมือออกจากผม
“งั้นก็กลับกับพี่นะ...”
“ไม่..”
“แก้ว...อย่าดื้อ”
“แฟนมารับทั้งที แกกลับกับเค้าเหอะนะ นะๆ ฉันกลับเองได้ไม่ต้องเป็นห่วง คิกๆ...ฝากแก้วด้วยนะคะ” เพื่อนสนิทของแก้วหันมาดันแผ่นหลังเจ้าตัวให้เดินมาทางผมในขณะที่เธอบอกลาผมกับแก้วเล็กน้อยแล้วเดินเลี่ยงไปอีกทาง ผมมองผู้หญิงสองคนขำๆ อีกคนเข้าใจผิดคิดว่าผมเป็นแฟนแก้ว ส่วนยัยตัวเล็กน่ะเหรอ...ยืนหน้าแดงแปร๊ดเป็นลูกตำลึงเลยล่ะ
เขินน่ารักจังเลย ฮะๆ
“ยัยเพื่อนบ้า..”
“ว่าเพื่อนแบบนี้ไม่น่ารักเลยนะคะ...” คนตัวเล็กค้อนขวับใส่ผมอีกระลอกจนผมต้องยกมือสองข้างขึ้นเป็นเครื่องหมายว่าโอเค...พี่ยอมเธอแล้ว ทำนองนั้น
“ไม่น่ารักก็ไม่ต้องมารักสิ มาทางไหนกลับไปทางนั้นเลย เอาเค้กของตัวกลับไปด้วย เค้าไม่กินๆๆๆ”
“งอแง...” ผมว่ายัยเด็กขี้งอนอันดับหนึ่งก่อนจะเอื้อมมือไปแย่งสมุดหนังสือในมือเจ้าตัวมาถือไว้ นั่นก็หมายความว่า...ถ้าแก้วไม่กลับกับผม ก็อย่าหวังจะได้ทำการบ้านของวันนี้เลย
“...”
“เค้าไม่กินๆๆๆ แต่อย่าให้เห็นว่ากินนะ จะจับจูบให้หายใจไม่ทันเลย”
“บะ...บ้า! พี่โทโมะบ้า! O/////O”
ยัยตัวเล็กก้มหน้างุดพลางเดินไปขึ้นรถแต่โดยดีในขณะที่ผมก็เพิ่งจะรู้สึกตัวว่าพูดอะไรไม่เข้าท่าออกไป บ้าเหอะ...ผมไม่มีวันทำแบบนั้นอีกแน่ แค่นี้แก้วก็เสียหายเพราะผมมากพอแล้ว ถึงผมจะพูดแบบนั้นก็เถอะนะ แต่...แต่ผมไม่มีวันจะทำอย่างที่พูดซะหรอก
ผมพาแม่ตัวดีมาส่งถึงบ้านแถมยังหิ้วทั้งหนังสือสมุดไหนจะยังกล่องเค้กนั่นให้อีก เป็นอันว่าเจ้าตัวสบายที่สุด เดินตัวปลิวเข้าบ้านแถมยังไม่สนใจผมด้วยซ้ำ ผมมองตามแผ่นหลังบางเดินหายเข้าไปภายในร้านด้วยรอยยิ้มขันๆ เพิ่งจะรู้ว่าการง้อน้องสาวเนี่ย...ไม่ใช่เรื่อง่ายเลย
“ตายแล้วยัยแก้ว ทำไมไปให้พี่เขาถือของให้แบบนั้นล่ะลูก ทำไมหนูไม่ช่วยพี่โทโมะถือ?”
“ก็เค้าอยากอาสาเองนี่คะ แก้วเลยไม่อยากขัดศรัทธา...วันนี้คนเยอะจัง แก้วไปล้างจานในครัวดีกว่า รักแม่นะค่ะ” ยัยตัวเล็กหันมาค่อนขอดใส่ผมก่อนจะประจบประแจงคุณแม่ของเขาด้วยท่าทีน่ารัก เหมือนเด็กน้อยไม่มีผิด
“เหนื่อยแย่เลยนะจ้ะ ทำไมลูกสาวน้าถึงดื้อขนาดนี้ก็ไม่รู้”
“ไม่เหนื่อยหรอกครับ เอ่อ...คุณน้าจะอนุญาตมั้ย ถ้าผมจะ...จะไปช่วยน้องล้างจานน่ะครับ” ยอมรับว่าผมไม่กล้าสู้หน้าคุณน้าเท่าไหร่เลย ผมกลัวคุณน้าจะเข้าใจผิดว่าผมน่ะ...มาขอจีบลูกสาวเขา
“ตามสบายจ้ะ ถ้าเขาดื้อกับเรามากๆ ก็จัดการได้เต็มที่...ถือว่าน้าอนุญาต”
ผมรีบของคุณแม่ของแก้วก่อนจะเดินตามยัยตัวเล็กเข้ามาหลังร้านพอดี พอเจ้าตัวเห็นหน้าผมก็พาลจะหนีขึ้นข้างบนเอาเสียดื้อๆ ร้อนถึงผมต้องรีบไปยืนขวางทางบันไดเอาไว้
“ยังไม่หายโกรธพี่อีกเหรอ พี่อุตส่าห์ไปรับ ถือของให้ ซื้อเค้กมาง้อ พามาส่งบ้าน...ทำขนาดนี้แล้วยังไม่เห็นใจกันอีกเหรอ”
“...”
“นี่...แก้วรู้มั้ย ว่าแก้วไม่ใช่แฟน ก็เหมือนแฟนพี่ไปแล้ว”
คนตัวเล็กไม่คิดจะฟังอะไรผมเลยสักคำ ไม่หันหน้าหนีก็เดินหนีผมก็ได้แต่เดินตามแล้วก็พูดอยู่คนเดียวไม่ต่างกับคนบ้าที่เอาแต่พูดกับอากาศ ผมรู้สึกแบบนั้นจริงๆนะ...แก้วไม่ใช่แฟนก็เหมือนแฟนของผมไปแล้ว ดูสิ..ผมเคยง้อผู้หญิงที่ไหนกัน แต่ก็ได้ผลนะ แก้วยอมหันกลับมาฟังผมซักที...
“แก้วจะเป็นแฟนพี่ได้ยังไง แก้วยัง ‘เด็ก’ อยู่เลย แล้วพี่...ก็ไม่ชอบเด็กด้วย!”
“แก้ว...พี่ขอโทษ แต่พี่อยากให้แก้วรู้นะว่าทุกคำที่พี่พูดออกไปเพราะว่าพี่หวังดีกับแก้วจริงๆ ถึงแก้วจะโตเป็นสาวในสายตาของคนอื่น แต่สำหรับพี่...แก้วยังคงเป็นเด็กน้อยอยู่เสมอ เป็นเด็กที่พี่อยากจะคอยดูและแล้วก็ทะนุถนอมไว้...”
“....”
“ไม่อยากทำลาย...”
นัยน์ตาคู่สวยสบมองผมนิ่งๆ ราวกับเธอรับรู้ว่าสิ่งที่ผมพูด ผมพูดออกมาจากหัวใจจริงๆ ผมไม่อยากให้เด็กผู้หญิงคนนึงต้องเสื่อมเสียเพราะเรื่องผู้ชาย แม้คนๆนั้นจะเป็นผม เราเข้าใจกันดีว่าเราสองคนเป็นเสมือนพี่น้องกัน แต่คนอื่นมันไม่ใช่...หลายคนอาจไม่ได้คิดแบบเดียวกับเรา
“ฟังพี่นะคนดี...พี่หวังดีกับแก้วจริงๆ พี่รักแก้วนะ”
ตึงๆๆๆๆๆ
“ยัยแก้ว ขึ้นลงเบาๆหน่อยลูกเดี๋ยวหกล้มหัวร้างข้างแตกขึ้นมาจะยุ่ง”
คนตัวเล็กลงฝีเท้าหนักๆระหว่างที่กำลังวิ่งขึ้นห้องพร้อมกับในมือถือกล่องเค้กสตรอเบอร์รี่เอาไว้อย่างแนบแน่น ใบหน้าสวยหวานเปื้อนยิ้มจนยากที่จะกลับสู่โหมดสาวน้อยคนงอนทำหน้าตึงใส่เขาได้อีก ทันทีที่เข้าห้องตัวเองได้ แก้วก็จัดการล๊อกประตูแล้วพาเจ้าก้อนสีชมพูมาวางแหมะบนโต๊ะทำงานแล้วบรรจงแกะหีบห่อของมันอย่างทะนุถนอมที่สุด...
ไม่อยากทำลาย...
“น่ารักจังเลย...” ดวงตากลมโตหยีขึ้นนิดๆหลังจากที่เจ้าตัวระบายยิ้มออกมาอย่างดีใจแล้วก็ตื่นเต้นกับขนมชิ้นโปรดแม้ปากจะบอกเขาว่าไม่อยากจะกินก็ตาม
น่ารักเหมือนคนซื้อเลย >//////<
งอนแล้วรักป่ะล่ะพี่ชาย(?)
มาแย้วววววฮ่าๆๆๆๆ =0=
ถ้าเรื่องนี้จบเดี๋ยวจะควีโย๊มิให้เบิ่ง?
กรรมนุกพูดเล่นจิ๊ -,- จะจบแล้วแหละ
รีดฯ : #จ้ะ #จบไปสักทีเถอะ แงงงง
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.7 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ