Timed out คงสายเกินไป...ถ้าจะบอกว่ารักเธอ (NC)

8.5

เขียนโดย OUM_PF

วันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2555 เวลา 10.10 น.

  45 ตอน
  986 วิจารณ์
  199.54K อ่าน
แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

30) พ่อของลูก...

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

Time out คงสายเกินไป...ถ้าจะบอกว่ารักเธอ ตอนที่30 พ่อของลูก...

 

 

พิมท้อง แต่...เขาทิ้งพิมไป”ประโยคต่อมาที่หลุดออกมาจากปากของหญิงสาวทำให้เขาตกใจยิ่งกว่า

 

 

“ใครเป็นพ่อเด็กพิม! บอกป๊อปมาป๊อปจะไปลากคอมันมาเอง”ชายหนุ่มบอกอย่างเดือดดาล

 

 

“อย่าค่ะป๊อป แต่ถ้าป๊อปไม่รังเกียจพิม...ป๊อปเป็นพ่อให้ลูกของพิมได้มั้ยคะ”หญิงสาวพูดออกมาอย่างเศร้า

 

สร้อย เธอจำเป็นต้องทำแบบนี้ ที่บ้านของเธอยากจน หากคนที่บ้านรู้ว่าเธอท้องไม่มีพ่อเธอต้องตายแน่ๆ

 

 

เธอพยายามดิ้นรนเพื่อหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว แล้วยิ่งเมื่อเขามาเลิกกับเธอทำให้เธอต้องดิ้นรนมากกว่า

 

เดิม เธอต้องหาที่พึ่งพิงใหม่หลายต่อหลายครั้ง แต่ผู้ชายมันเลว!!มันได้เธอแล้วมันก็ทิ้ง จนเธอท้อง เธอ

 

 

จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าใครเป็นพ่อเด็ก...

 

 

“เอ่อ...คือพิม ป๊อป...เอ่อ”เขาไม่รู้จะทำอย่างไรดี เมื่อเขาไม่ได้รักเธอ แล้วอีกอย่างฟางก็ได้เสียกับเขา

 

แล้วหากทำอย่างนี้ฟางจะเสียหาย แต่อดีตคนรักของเขากำลังเดือดร้อน...เขาจะทำอย่างไรดี

 

 

“ฮึก...ถ้าที่บ้านรู้ว่าพิมท้องไม่มีพ่อ...พิมต้องตายแน่ๆ”หญิงสาวพูดก่อนจะเขย่าแขนเขารัวๆ

 

 

เขามองเธออย่างเห็นใจ...

 

 

ในเมื่อฟางไม่ได้รักเขาแล้ว...คงจะไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไรหากเขาจะยื่นมือไปช่วยเธอคนนี้...

 

 

“ครับ...ก็ได้”ร่างสูงตอบด้วยน้ำเสียงที่กำลังสับสนตัวเอง ทำแบบนี้มันถูกแล้วหรือ...

 

 

“จริงๆนะคะ...ขอบคุณนะคะ”หญิงสาวพูดก่อนจะกระโดดกอดชายหนุ่ม

 

 

“พิมท้องได้กี่เดือนแล้วครับ”ป๊อปปี้ถามด้วยความสงสัย

 

 

“สองเดือนกว่าแล้วค่ะ ป๊อปลองลูบท้องพิมดูสิคะ”หญิงสาวบอกอย่างตื่นเต้นก่อนจะจับมือของเขาไปลูบ

 

หน้าท้องที่เริ่มนูนขึ้นมา ก่อนจะส่งยิ้มหวานให้เขา

 

 

ก่อนทั้งสองจะผละออกจากกันเมื่อทีมงานมาเรียกตัวไปถ่ายรูป ทีมงานมองทั้งคู่ตาโต ด้วยความสงสัยและ

 

เคลือบแคลงใจ

 

 

‘คุณภาณุนี่ยังไง น้องฟางอยู่ห้องตรงกันข้ามนี้แท้ๆ ยังจะมายุ่งวุ่นวายกับแฟนเก่าอีก หวังว่าแม่นี่คงไม่อ้อน

 

คุณภาณุไปเป็นพ่อของลูกของคุณเธออีกหรอกนะ สงสารน้องฟาง เฮ้อ...ก็เมื่อเดือนก่อนแม่ช่างภาพสาว

 

แสนด้านไปกอดแข้งกอดขาอ้อนวอนคุณวิศวะที่มาให้สัมภาษณ์เป็นพ่อของลูกหล่อนอีกน่ะสิ ยังดีนะที่เขา

 

ไม่หลงใจอ่อนเป็นไปกับเธอด้วย  ก็ได้ข่าวว่าตั้งแต่เลิกกับคุณภาณุสุดหล่อ แล้วหล่อนก็หมดที่เกาะกิน

 

เลือด ก็เลยเปลี่ยนแฟนเป็นว่าเล่น...คนไหนรวยขอให้บอก จนตอนนี้ท้องจนจับไม่ได้ว่าใครเป็นพ่อเด็ก

 

แล้ว

 

 

คนไหนเคยเป็นแฟนของคุณเธอก็โดนกอดแข้งกอดขา อ้อนวอนอย่างนี้ตลอด ไม่รู้ว่าคุณเธอกล้าได้อย่าง

 

ไรไม่อายคนอื่นบ้างหรือไง เคยเป็นแฟนเขาเมื่อห้าปีที่แล้ว แต่ก็ด้านขอเป็นพ่อของเด็กในท้อง...’ทีมงาน

 

สาวไม่แท้บ่นในใจก่อนจะเดินไปทำงานที่สตูดิโอข้างหน้า

 

 

“ว้าว น้องฟางกับคุณภาณุน่ารักมากเลยค่ะ”พี่พริก เจ้าของนิตยสารแซ่บเวอร์เอ่ยชมเสียงดัง อย่างต้องการ

 

ตอกย้ำช่างภาพสาวที่กำลังรัวกล้องอยู่ หวังว่าเธอคงจะช่วยเตือนสติช่างภาพสาวได้ พักหลังมานี้ช่างภาพ

 

สาวของเธอเป็นอะไรไป จากที่เคยเป็นสาวแสนดี ก็กลับจากหน้ามือเป็นหลังตีนเลยก็ว่าได้ เธอคบกับ

 

ผู้ชายไม่เลือกหน้า พักหลังมานี้ได้ยินข่าวลือหนาหูว่าเจ้าหล่อนท้องไม่มีพ่อ ก็เลยไล่กอดแข้งกอดขา

 

ผู้ชายที่เคยมีสัมพันธ์ ขอให้เป็นพ่อของลูกไปทั่ว

 

 

“ต้องขอบคุณคุณภาณุกับน้องฟางมากๆเลยนะคะที่มาถ่ายแบบให้วันนี้นะคะ”พี่พริกเจ้านิตยสารเอ่ยขอบคุณ

 

คู่รักไฮโซที่ให้เกียรติมาถ่ายแบบให้กับนิตยสารของเธอ

 

 

“ป๊อปคะ พิมขอกลับด้วยนะคะ”สาวเจ้าของร่างสูงโปร่งวิ่งมาหาป๊อปปี้ก่อนจะเอ่ยเสียงหวาน

 

 

“ได้สิครับพิม”ป๊อปปี้พูดก่อนจะโอบพิมเดินไป ทิ้งให้คนตัวเล็กเดินตามต้อยๆ นายจ้างของเธอจึงมองตาม

 

ไปอย่างเอือมๆ ว่าแล้วว่าเธอต้องมาช้าไป...

 

 

เสียงโทรศัพท์ยี่ห้อแพงของฟางส่งเสียงหวีดร้อง ในขณะที่ฟางที่เดินตามป๊อปปี้และพิมอยู่

 

 

เธอจึงล้วงเข้าไปในประเป๋าสะพายแล้วกดรับสายโทรศัพท์เครื่องแพง เมื่อสายเรียกเข้าของเธอคือกวิน

 

 

“สวัสดีค่ะกวิน”ทำเอาร่างสูงที่กำลังเดินอยู่หันขวับมาทันที

 

 

“ครับฟาง วันนี้ว่างรึเปล่า”

 

 

“ว่างค่ะ”

 

 

“จำได้มั้ยที่เราขอนัดฟางไปทานข้าว”

 

 

“จำได้สิ”

 

 

“งั้นเดี๋ยวเราไปรับนะ ตอนนี้อยู่ไหน”

 

 

“ฟางอยู่ที่สตูดิโอแซ่บเว่อร์น่ะ”

 

 

“ครับๆแล้วเจอกัน”เธอกดวางสายก่อนจะตกใจเมื่อร่างสูงกระชากเธอเข้าไปใกล้โดยไม่อายสายตาของพิม

 

ที่กำลังจ้องมองอยู่เลยแม้แต่น้อย ดีว่าที่ตรงนี้ปลอดคน ถ้าไม่อย่างนั้นคงได้อายกว่านี้แน่

 

 

“ใครโทรมา!”ป๊อปปี้ตวาดถามคนตัวเล็ก

 

 

“นั่นมันเรื่องของฟาง”ร่างเล็กตอบเสียงเย็น ยิ่งเป็นการกระตุ้นต่อมความโกรธของเขา

 

 

“เดี๋ยวนี้ กล้าปิดบังฉันหรอ”ป๊อปปี้พูดก่อนจะกระชากร่างเล็กเข้ามาใกล้กว่าเดิม

 

 

“ปล่อยฟางนะ...ฟางจะทำอะไรก็ได้ เราเลิกกันแล้ว!”ร่างเล็กตะโกนใส่หน้าชายหนุ่ม ทำเอาเขาโกรธ

 

เลือดขึ้นหน้า ทำไมเพียงเวลาแค่ไม่กี่ชั่วโมงเธอเปลี่ยนไปได้ถึงขนาดนี้นะ

 

 

“ฉันยังไม่ได้พูดคำว่าเลิกสักคำ!!!”ป๊อปปี้ตวาดกลับ ทำเอาสาวหน้าหวานน้ำตาคลอ

 

 

“เอ่อ ป๊อปคะพิมว่าป๊อปใจเย็นๆก่อนนะ”เธอเอ่ยออกมากล้าๆกลัวๆ เพราะรู้ว่าชายหนุ่มโมโหร้าย

 

 

ก่อนเขาจะสะบัดมือเธอออกจากท่อนแขนแกร่งของเขา

 

 

“จะไปไหนก็ไป แล้วอย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก!!!”ป๊อปปี้พูดพร้อมกับผลักคนตัวเล็กออกจากอ้อมแขน

 

 

ดีที่ว่าเธอจับรั้วเหล็กที่กั้นเป็นทางเดินไว้ได้ก่อน ไม่อย่างนั้นลูกน้อยของเธอคง...

 

 

ป๊อปปี้พูดก่อนจะสตาร์ทรถ พร้อมกับพิมที่เดินขึ้นไปนั่งแทนที่ของเธอ... และเคลื่อนออกไป

 

 

“ฮึก...”เสียงสะอื้นที่ดังเล็ดรอดออกมาจากเรียวปากบาง ก่อนจะมีมือยื่นผ้าเช็ดหน้ามาให้เธอ

 

 

เธอเงยหน้าขึ้นมอง

 

 

“กวิน”เขายื่นมือมาเพื่อดึงร่างเล็กขึ้น

 

 

“เราจะไปทานข้าวที่ไหนคะ...”ฟางเอ่ยถามก่อนยกผ้าเช็ดหน้าขึ้นซับน้ำตา

 

 

“ที่บ้านเราเอง...คุณแม่บ่นว่าอยากเจอหลานสาว...”เขาพูดก่อนจะอมยิ้ม เดินนำเธอไปที่รถคันหรูของเขา

 

 

ก่อนรถคันงามจะเคลื่อนที่ออกไปเพื่อมุ่งสู่จุดหมาย

 

 

เมื่อถึงบ้านหลังงามที่อยู่ห่างออกไปจากตัวเมืองมากทีเดียวก็ว่าได้

 

 

เธอเดินเข้าไปในบ้านพร้อมๆกับร่างหนาของกวินที่เดินนำไป

 

 

“สวัสดีครับแม่...ผมพาหลานสาวมาเยี่ยม”เธอจำได้แล้วที่แท้ก็ก็คุณป้าอุไรวรรณนี่เองเธอไม่แปลกใจเลย

 

ว่าทำไมกวินถึงหลงเข้ามาจีบเธอ...เพราะว่าคุณป้าย้ายไปอยู่ที่เมืองนอกกับสามีชาวอังกฤษตั้งแต่ตั้งท้อง

 

อ่อนๆ กลับมาเยี่ยมบ้านเกิดบ้างนานๆครั้ง แต่ก็ไม่ได้พาสามีและบุตรชายมาด้วย…คุณแม่เล่าให้เธอฟัง

 

อย่างนั้น…เธอจำได้ครั้งล่าสุดที่นางมาเยี่ยมคุณแม่ตอนนั้นเธอเพิ่งจะอายุได้เพียง14ปีเท่านั้น

 

 

“คุณพระ!หลานป้าโตเป็นสาวสวยขนาดนี้เลยหรือนี้”นางเดินเข้ามากอดหลานสาวอย่างรักใคร่ น้ำตาแห่ง

 

ความปิติยินดีไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่

 

 

“คุณป้า ฟางคิดถึงคุณป้าจังเลยค่ะ”ถึงแม้ว่ามารดากับคุณอุไรวรรณจะไม่ใช่พี่น้องกันแท้ๆแต่มารดาบอกกับ

 

เธอว่าคุณป้าเป็นพี่สาวที่แสนดีของมารดา ทั้งตลอดระยะเวลาที่คุณอุไรวรรณอาศัยอยู่ที่ประเทศอังกฤษก็

 

ยังคงติดต่อกันเสมอมา

 

 

“มานั่งก่อนลูก...ป้ามาครั้งนี่ยังไม่ได้บอกยัยวีณาเลย ถ้าเธอรู้เข้าละก็ป้าต้องโดนจัดชุดใหญ่แน่ๆเลยเนี่ย

 

”คุณอุไรวรรณบ่น ก่อนจะยกมือขึ้นปาดน้ำตาแห่งความปิติออก

 

 

“หนูหิวรึยังลูกป้าทำกับข้าวไปเยอะแยะเลย ไปทานกันนะ”นางพูดก่อนจะจูงมือหญิงสาวไปที่โต๊ะอาหาร

 

 

ก่อนทุกคนจะนั่งประจำที่ แม่บ้านจึงตักข้าวขึ้นเสิร์ฟ

 

 

“ทานเยอะๆนะลูก”คุณอุไรวรรณพูดก่อนจะตักแกงส้มใส่ถ้วยให้หญิงสาว

 

 

“คะ...ค่ะ”เธอรู้สึกสะอิดสะเอียนกับอาหารตรงหน้า แต่ก็กลัวจะเสียน้ำใจจึงยกช้อนขึ้นมาจะตักเข้าปาก

 

แต่ก็ต้องรีบเอาออกห่างทันทีเมื่อเธอรู้สึกว่าไม่ไหวจริงๆ ไม่อย่างนั้นคงได้ปล่อยออกกลางโต๊ะเป็นแน่

 

 

“คุณป้าคะ ห้องน้ำอยู่ตรงไหนหรือคะ”เธอถามออกมาเมื่อเริ่มรู้ว่าเธอกำลังแย่

 

 

“อ๋อ หนูเดินตรงไปแล้วก็เลี้ยวซ้ายเลยจ้ะ”นางพูดก่อนจะชี้ทางให้เธอดู

 

 

เธอรีบวิ่งไปตามทางที่นางบอก ก่อนจะโก่งคออาเจียนออกมา

 

 

“กวินไปดูฟางหน่อยสิลูกเป็นอะไรรึเปล่า”คุณอุไรวรรณพูดออกมาอย่างใจไม่ดี เมื่อเธอหายเข้าไปในห้อง

 

น้ำนานเกินไป...

 

 

ก่อนบุตรชายจะเดินไปดูลูกพี่ลูกน้องตามคำบอกของมารดา

 

 

“ฟางเธอเป็นอะไร...”กวินถามอย่างเป็นห่วงก่อนจะลูบหลังให้หญิงสาว

 

 

“ฉันไม่เป็นไร...อึก”ฟางหันมาตอบ ก่อนจะโก่งคออาเจียนจนหน้าดำหน้าแดง

 

 

เขาประคองหญิงสาวออกมานั่งพักที่โซฟา ก่อนร่างท้วมของมารดาจะเดินเข้ามาพร้อมกับยาดม ยาหอม

 

 

“หนูเป็นอะไรมากหรือเปล่าลูก...”นางพูดก่อนจะพัดให้หญิงสาว

 

 

“ฟาง เอ่อ...”เมื่อหญิงสาวอ้ำอึ้ง ก่อนจะเป็นบุตรชายของนางที่โผล่พรวดมากลางปล้อง

 

 

“ท้องใช่ไหม”กวินถามหน้าตาย

 

 

“นายรู้...”คุณอุไรวรรณยกมือขึ้นทาบอกอย่างตกใจกับบทสนทนาของบุตรชายและหลานสาว

 

 

“ไอ้ภาณุล่ะสิ”กวินเอ่ยถาม

 

 

“อืม...”หญิงสาวตอบก่อนน้ำตาเจ้ากรรมจะหยดเผาะ คุณอุไรวรรณจึงดึงหลานสาวเข้าไปกอดปลอบ

 

 

“โธ่ หลานป้า...”นางกอดหลานสาวอย่างเห็นใจ

 

 

“เธอทะเลาะกับมันใช่มั้ย”กวินถามก่อนจะเขยิบเข้ามานั่งโซฟาตัวเดียวกับเธอและคุณอุไรวรรณ

 

 

“อืม”ฟางตอบพร้อมกับหันหน้ามามองกวินด้วยความแปลกใจ

 

 

“นี่มันคงจะคืนดีกับแฟนเก่ามันแล้วล่ะสิ”กวินพูดออกมาด้วยน้ำเสียงติดจะโมโห

 

 

“อืม”ฟางก้มหน้าลงอย่างเก่า ความอ่อนแอเข้าคลอบงำ ทำให้น้ำตาเจ้ากรรมไหลลงมามากกว่าเดิมเสียอีก

 

 

“แล้วเธอจะเอาไง”กวินถามอย่างอยากรู้อยากเห็น

 

 

“ฉันคงจะย้ายไปดูแลสวนกุหลาบให้แม่ที่เชียงรายน่ะ”ฟางพูดก่อนจะยกมือบางลูบหน้าท้องแบนราบ

 

 

“อ้าวฟางแล้วลูกหนูล่ะ เด็กทุกคนก็ต้องการพ่อกันทั้งนั้นนะลูก”คุณอุไรวรรณพูดออมาอย่างหวังดี

 

 

“ฟางจะทำยังไงได้ละคะ ก็ในเมื่อพ่อเขาไม่ต้องการลูกของฟาง”

 

 

“ทำไมหนูถึงคิดอย่างนั้นล่ะลูก”

 

 

“เขาไม่ได้รักฟาง”ฟางพูดน้ำเสียงเศร้า

 

 

“แน่ใจหรอ ฉันเห็นมันโกรธเป็นฟืนเป็นไฟตอนเธออยู่กับฉัน”กวินเอ่ยน้ำเสียงมีเลศนัย

 

 

“เขาคงแค่ไม่ชอบใจที่ของเล่นอย่างฟาง...ฮึก”ก้อนสะอึกที่กลั้นไว้มีอันต้องหลุดออกมา เพราะเจ้าของ

 

เสียงนั้นอ่อนแอเหลือเกิน

 

 

“ยังไงเธอก็จะให้ได้ใช่มั้ย”กวินถาม และคุณอุไรวรรณก็รอคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ

 

 

“อืม คงจะมะรืนนี้ คุณแม่เตรียมทุกอย่างไว้หมดแล้ว”ฟางเอ่ยออกมา พร้อมกับยิ้มบางๆ

 

 

“จ้ะ งั้นก็ตามใจหนูเถอะ แต่ป้าว่ากลับบ้านดีกว่านะมันดึกแล้วเดี๋ยวยัยวีณาจะเป็นห่วง”คุณอุไรวรรณพูด

 

พลางลูบศีรษะของหลานสาวเป็นเชิงปลอบขวัญ

 

 

ก่อนกวินจะไปส่งฟางที่บ้านนีระสิงห์

 

 

 

 

 

..................................................................................................ง

 

มาอัพให้แล้วน้า ฝากติดตามนิยายเรื่องนี้ด้วยนะจ้ะ

 

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.2 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.1 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.2 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา