suffocated ที่รักคือลมหายใจของใครหรอครับ
เขียนโดย ruktomokaew
วันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 เวลา 19.38 น.
แก้ไขเมื่อ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 13.00 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
22)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเรื่อง suffocated ที่รักคือลมหายใจของใครหรอครับ
"ฉันก็จะบอกอะไรให้อย่างนึงนะ..." โทโมะเงียบไป
"...." ฉันก็ยังคงรอฟังต่อ
"ไม่ว่าอย่างไงเธอก็ต้องหมั้นกับฉัน" มะ...ไม่จริง
"0.0"
ฉันถึงกับอึ้งใบ้ประทานเจ้าค่ะอยู่ดีๆนายโทโมะก็บอกว่าฉันต้องหมั้นกับเค้าเเต่มันจะเป็นไปได้ไงในเมื่อฉันเป็นคนบอกยกเลิกงานหมั้นเองกับมือเอ๊ย!!กับปากแล้วทำไมเรื่องมันกลายเป็นอย่างนี้หละ
ฉันไม่ได้พูดอะไรต่อเพียงแค่เดินออกมาอย่างคนไร้วิญญาณเท่านั้นเรื่องที่ได้ยินมาทั้งหมดวันนี้ฉันอยากให้มันกลายเป็นความฝันที่ไม่มีวันเกิดขึ้นจริงซะหน่อยถึงแม้ว่าฉันจะยังอยากได้อ้อมกอดที่อบอุ่นของนายนั่นยังคิดถึงวันดีๆที่เราเคยมีให้กันแต่ฉันก็ไม่ได้ต้องการแย่งของของใคร
"ม๊า...มาคุยกับแก้วให้รู้เรื่องนะค่ะ” ฉันเรียกม๊าที่กำลังเดินหนีฉันไปบนบ้าน
"เอ่อ...แก้วม๊าขอโทษนะลูกแต่ม๊าอยากให้หนูคืนดีกับโทโมะนะลูกเข้าใจม๊านะ” ม๊าทำหน้าออดอ้อน
"แล้วใคยถามแก้วมั้ยว่าแก้วตกลงรึป่าว" ฉันถามทั้งน้ำตา
"ม๊าก็แค่อยากให้แก้วมีความสุข" ม๊าก็ยังคงพูดต่อไป
"แต่ม๊าไม่ถามแก้วเลยว่าแก้วต้องการรึป่าว" ฉันบอกแล้ววิ่งขึ้นห้องไปเลย
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
"แก้วเดี๋ยวสิลูก" ถึงแม้ว่าฉันจะวิ่งขึ้นมาบนห้องแล้วแต่ก็มิวายที่เสียงม๊าจะตามขึ้นมาอีก ณ ตอนนี้ฉันสับสนวุ่นวายกับชีวิตมากเลยหละถือว่ามันเป็นช่วงที่แย่ที่สุดเลยก็ว่าได้แต่ฉันเชื่อว่าถ้าฉันก้าวผ่านเรื่องนี้ไปได้ช่วงที่ดีที่สุดก็ใกล้จะมาถึง
"โทร.หายัยเฟย์ดีกว่า" หลังจากที่จิตของฉันหายฟุ่งซ่านแล้วก็ตัดสินใจโทร.หายัยเฟย์เพื่อนยากของฉัน
"เมื่อไหร่ยัยเฟย์จะรับสายฉันนะ" ฉันรอจนมือหงิกแล้วนะยะมัวแต่ทำอะไรอยู่นะ- -*
ถือสายรออยู่(โคตร)นานก็ไม่มีวี่แววว่าคนปลายสายคิดจะรับเลย มีโทรศัพท์ไว้เพื่อ?? ฉันเลยล้มเลิกโทร.หายัยเฟย์แล้วกลายเป็นยัยฟางแทนแต่ผลมันก็เหมือนกันคือหายเงียบไปกันหมด นี่เพื่อนฉันหายไปไหนกันหมดนะจะบอกว่าเข้านอนแล้วก็ไม่น่าใช่เพราะนี่มันเพิ่งทุ่มเดียวเองนะคนอะไรจะเข้านอนไวขนาดนั้นเอ๊ะหรือว่าจะติดธุระด่วนพร้อมกันเลยเนี๊ยะนะไม่ๆ โอ๊ยคิดอย่างไงก็คิดไม่ออก ชิ ไม่รับก็ไม่ต้องรับ อ๊ะข้อความเข้าใครส่งมากันนะรึว่ายัยฟางจะส่งมา
‘อย่านอนดึกนะครับพี่เป็นห่วงแล้วก็ขอโทษด้วยนะครับที่ไม่ได้โทร.หาน้องแก้วเลยพี่อยากให้น้องแก้วตัดสินใจให้ดีๆก่อนนะครับ พี่ธาม’
สิ่งที่ฉันเดามาทั้งหมดมันผิดหมดเลยเนื่องจากบุคคลที่ส่งข้อความมาเป็นแฟนของฉันเองนั่นคือพี่ธาม ถึงว่าเดี๋ยวนี้พี่ธามไม่ได้โทร.มาเลยปกติชั่วโมงนึงจะต้องโทร.มาตลอดนี่ล่าสุดคือตอนที่อยู่กับโทโมะที่ศาลาหลังบ้านก็ประมาณ2ชั่วโมงก่อน
ฉันตบทีกับความคิดของตัวเองอยู่อีกแปปเดี๋ยวก็อาบน้ำเข้าเลยตามปกติแต่ในใจฉันกับสบสนยุ่งเยิงตีกันมั่วไปหมดทั้งเรื่องที่โทโมะพูดแล้วไหนจะข้อความที่พี่ธามส่งมาอีก คิดแล้วฉันก็พลอยจะปวดหัวขึ้นมาซะดื้นๆ
"นี่สมองฉันคิดเรื่องอะไรอยู่เนี๊ยะ...นอนดีกว่า"
ณ เช้าวันต่อมา
ฉันตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการปวดหัวนิดๆ แต่มันก็พอทนได้มันคงเป็นเพราะเมื่อคืนฉันคิดมากไปมั้งเลยนอนไม่ค่อยจะหลับแล้วไหนจะต้องมาตอนเช้าอีกก็วันนี้ฉันมีเรียนภาคเช้านี่หน่าเลี่ยงไม่ได้แต่ทนอีกนิดเดียวมหาลัยก็ใกล้จะปิดแล้วหละอีก3-4วันก็สอบแล้วฉันจะได้พักผ่อนจริงๆซะทีนะ
"ยัยแก้วทำไมวันนี้แกตอนตื่นเช้าจังว่ะ" พอลงมาจากห้องปุ๊ปเจอพี่กิ่งสุดสวยแขวะเลยแต่ก็ดีนะไม่ค่อยได้คุยกัยพี่แกนอนหละเพระฉันชอบเลี่ยงที่จะตอบคำถามพี่แกมาตลอด
"ก็วันนี้แก้วมีเรียนเช้านิค่ะจะตื่นสายได้ไง" ฉันตอบแล้วนั่งลงตรงข้ามพี่กิ่งเพื่อรอข้าวเช้า
"แกจะไปพร้อมฉันเลยรึป่าว" อยู่ดีๆพี่กิ่งก็ถามขึ้นแต่ฉันก็ไม่มีทางที่จะปฏิเสธมันอยู่แล้ว
"ไม่จ๊ะเพราะแก้วจะต้องไปกับโทโมะ" นี่มันไม่ใช่เสียงฉันนะแต่มันคือเสียง....
"ม๊า!..แก้วบอกม๊าตอนไหน" ฉันโวยวายขึ้น เรื่องเมื่อวานก็ยังไม่จบเลยวันนี้มาอีกแล้วหรอจะบ้าตาย
"ยัยแก้วใจเย็นๆก่อนนะ" พี่กิ่งรีบห้ามทัพ
"เจ๊ไม่เข้าใจ ม๊าทำเหมือนแก้วไม่มีแฟน ทั้งๆที่ม๊าก็รู้ว่าแก้วคบกับพี่ธามอยู่แล้วอีกอย่างโทโมะกับแก้วเราก็ไม่ได้เป็นอะไรกันด้วย" ฉันพูดแล้วลุกขึ้นหยิบกระเป๋าแล้วเดินออกไปที่รถของตัวเองทันที
ทันทีฉันปิดประตูรถลงเมื่อถึงที่หมายใครหลายๆคนก็มองมาที่ฉันแต่ฉันไม่ได้สนใจอยู่แล้วเพราะมันเป็นเรื่องปกติที่จะมีคนมองแต่นี่มันตอนเช้านะทำไมคนมันเยอะจังผิดปกตินะแล้วนั่นเค้ามุงอะไรกันอยู่นะชั่งเหอะไม่ใช่เรื่องของเรา
"นี่แกนั่นมันพี่แบมกับพี่ฟางกำลังมีเรื่องกันหรอยะ" รุ่นน้องปี1พูดขึ้นทำให้ฉันชะงักขาทันที
"รีบไปดูกันเหอะ" แล้วรุ่นน้อง2คนก็รีบวิ่งไปตรงที่มีคนมุงกันเยอะๆ
ฉันพยายามแทรกตัวเข้ามาให้บุคคลที่อยู่ตรงกลางมากที่สุดเพื่อจะได้เห็นหน้าชัดๆว่าใช่ฟางรึป่าว และเมื่อฉันมาอยู่หน้าสุดฉันก็ตะลึงทันทีเมื่องบุคคลตรงหน้าฉันทั้งคู่ก็คือ
"ยัยฟาง...ยัยแบม" ฉันครางออกมาเบาๆ
"ยัยแก้ว" ยัยฟาง
หันมาเจอฉันที่ยืนดูสถานการณ์อยู่แล้วตรงเข้ามาหลบหลังฉัน พอยัยแบมหันมาฉันก็ฟาดฝ่ามือลงไปทันที ยัยแบมที่ไม่ทันตั้งตัวเลยล้มลงไป ฉันได้โอกาสเลยลงไปค่อมแล้วบีบหน้ายัยแบม
"นี่แกทำอะไรเพื่อนฉัน!!!" ฉันตะคอกถามยัยแบมอย่างเหลืออด
"แกก็ดูเอาเอาสิ" ยัยแบมตอบกลับมาทันให้ฉันละสายตากลับไปมองยัยฟาง
สภาพยัยฟางตอนนี้คือหน้าตาสะบักสะบอมมากมีรอยฝ่ามือเต็มไปหมดมีเหลือชิบมุมปากมีรอยช้ำสีเขียามุมปากทรงผมกะจายดูไม่เป็นทรงซึ่งต่างจากยัยแบมที่ดูจะปกติดีที่สุดไม่มีรอยอะไรเลยนอกจากลอยฝ่ามือของฉันเอง
"นี่แกกล้าทำเพื่อนฉันขนาดนี้เลยหรอ" ฉันหันกลับไปถามยัยแบม
"แล้วทำไมฉันจะไม่กล้าหละ" ยัยนี่วอนตายซะแล้ว
"เพื่อนฉันไปทำอะไรให้แกห๊ะ" ฉันยังคงถามยัยแบมต่อไปเลื่อย
"ก็เพื่อนแกยังไม่เลิกยุ่งกับป็อปปี้หนะสิ" นายป็อปปี้หนะหรอ
"ฉันว่าใครกันแน่ที่ไม่เลิกยุ่ง...แกนั่นแหละที่ไม่ยอมปล่อยป็อปปี้ทั้งๆที่แกก็รู้ว่าเค้ารักกันแต่แกก็ไม่ยอมรับ" ฉันร่ายยาวใส่หน้ายัยแบม
"แกไม่เป็นฉันก็ไม่รู้หรอกว่ามันทำใจยากแค่ไหน" ยัยแบมเริ่มร้องไห้ออกมา
"แล้วไงแกคิดว่าแกเจ็บเป็นคนเดียวรึไงเพื่อนฉันไม่เจ็บว่างั้น" ฉันเริ่มออกแรงบีบครางยัยบแบมเพิ่ม
"เพื่อนแกมันจะมาเจ็บอย่างไงในเมื่อมันได้สมใจมันแล้วหนิ” คิดได้ไง
"หรอแล้วรอยที่อยู่บนหน้ายัยฟางหละมันไม่เจ็บใช่มั้ย...ฉันจะบอกอะไรให้นะว่านายป็อปปี้เองนั่นแหละที่มาขอยัยฟางคืนดีรู้ไว้ซะ" ฉันพูดพร้อมปล่อยมือแล้วดึงแขนยัยฟางออกไปทันที
...ruktomokaew...
---------------------------------------------------------------------------------------------------------ขอโทษนะคะที่หายไปนานทั้งๆที่ปิดเทอมควรจะอัพได้บ่อยๆแต่เราไม่มีทางที่จะปิดนิยายแน่นอนค่ะฝากเม้นกันด้วยนะคะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ