The revenge แค้นร้ายกลายรัก

8.6

เขียนโดย OUM_PF

วันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2555 เวลา 12.57 น.

  33 ตอน
  692 วิจารณ์
  131.82K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 12 มีนาคม พ.ศ. 2556 17.14 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

25)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

The revenge แค้นร้ายกลายรัก ตอนที่ 25 ยังรักได้ไหม?

 

 

ซ่า!

 

 

 

น้ำเย็นจากขันเล็กถูกสาดเข้าหาร่างเล็กที่นอนคู้ตัวอยู่บนพื้นไม้ที่ทั้งแข็งและเย็นมาตลอดทั้งคืน

 

 

 

 

ดวงตาคู่สวยที่เคยฉายแววความสดใสกลับหม่นลงอย่างน่าใจหาย เธอสะบัดศีรษะแรงๆก่อนจะเงยหน้ามองร่างสูง

 

 

 

 

ใหญ่ที่จ้องเขม็งเธออย่างไม่วางตา

 

 

 

 

“จะนอนกินบ้านกินเมืองรึไง”น้ำเสียงเย็นยะเยือกตามแบบฉบับของซาตานร้ายเอ่ยออกมา

 

 

 

 

“คุณจะให้ฟางทำอะไร”น้ำเสียงหวานแต่ทว่าตอนนี้กลับแหบพร่าด้วยพิษไข้กำลังเล่นงานเอ่ยออกมาอย่างยากเย็น

 

 

 

ร่างเล็กประคองตัวเองลุกขึ้นอย่างยากเย็น เพื่อยืนประจันหน้ากับชายหนุ่ม

 

 

 

“ทำงาน...ฉันเคยบอกเธอแล้วว่าเธออยู่ที่นี่ต้องทำงานแลกข้าวทั้งสามมื้อ”

 

 

 

 

“ค่ะ”

 

 

 

“กระท่อมนี้อยู่ไม่ไกลจากไร่เท่าไหร่ เธอต้องเดินจากที่นี่ไปทำงานในไร่”คนตัวเล็กขมวดคิ้วมุ่น นี้น่ะหรือที่เขา

 

 

 

เรียกว่าใกล้ วัดจากระยะจากที่เขาพาเธอเข้ามาที่นี่ก็ประมาณสองกิโลได้

 

 

 

 

“แต่มันไกลเกินไป ฉันเดินไม่ไหวหรอก”

 

 

 

 

“ก็แล้วแต่ อยากตายอยู่ในกระท่อมมืดๆนี่ก็ตามใจ”เขาพูดอย่างไม่ยี่หระ ก่อนจะเดินออกจากห้องไป ไม่นานเธอ

 

 

 

 

ก็ได้ยินเสียงรถแล่นออกไป...

 

 

 

 

                   เขาไม่แม้แต่จะสนใจถามไถ่เธอว่าเป็นอย่างไรบ้าง หลังจากที่ถูกเขาย่ำยีอย่างป่าเถื่อน ไม่มีแม้แต่

 

 

 

จูบปลอบขวัญ มีแต่คำพูดขู่เข็ญอย่างเหี้ยมโหดก่อนนอน ตื่นมาก็เจอน้ำเย็นๆสาดเข้าร่างกายที่ร้าวระบมอยู่แล้วเป็น

 

 

 

 

ทุนเดิม ก็ใช่สิ..เธอมันก็แค่นางบำเรอ ผู้ชายคนเดิมของเธออยู่ที่ไหนกัน คนที่บอกรักเธอทุกวัน คนที่อ่อนโยนและ

 

 

 

 

อ่อนหวานกับเธอทุกยาม หรือทั้งหมดเขาแค่สวมหน้ากากหลอกผู้หญิงน่าโง่อย่างเธอกันแน่

 

 

 

 

ในขณะที่เธอบอกรักเขาอย่างไม่ลังเล เขาก็บอกว่าไม่เคยรักเธออย่างไม่ลังเลเช่นกัน

 

 

 

 

แล้วเธอยังรักเขาได้อยู่ไหม...

 

 

 

 

ในเมื่อผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไป เขากลายเป็นคนใจร้าย ที่คอยแต่จะรังแกเธอเพื่อความสะใจของเขาเอง

 

 

 

ถ้าวันนั้นเธอไม่เลือกที่จะตามเขามาเรื่องราวทุกอย่างก็คงไม่เป็นแบบนี้ เธอไม่ต้องเจ็บปวด ไม่ต้องทนทรมาน

 

 

 

อย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้...หากแต่การที่เธอเลือกที่จะตามเขามา เหตุผลไม่ใช่แค่นหน้าที่ หากแต่หัวใจต่างหากที่

 

 

 

เรียกร้องให้เธอตามเขามา...น่าสมเพช

 

 

 

 

ตั้งแต่เกิดมาเธอยังไม่เคยทำตัวน่าสมเพชอย่างนี้เลยสักครั้ง เธอไม่เคยต้องวิ่งตามผู้ชายที่คอยแต่จะวิ่งหนีเธอ

 

 

 

อย่างเขาเลยสักครั้ง...หากแต่เขาคือข้อยกเว้น ร่างเล็กทรุดตัวลงนั่งบนพื้น มือเล็กๆนั้นกุมท้องไว้ เพราะอากร

 

 

กำเริบของโรคกระเพาะกำลังเล่นงานเธอออย่างหนัก

 

 

ร่างกายที่บอบช้ำบวกกับพิษไข้ทำให้สติอันน้อยนิดเลือนหายไป....

 

 

 

 

................................................................................

 

 

 

 

นายเมฆมองเจ้านายที่ไม่รู้อารมณ์เสียมาจากที่ไหน ความสงสัยเริ่มก่อตัวขึ้นในใจ ตั้งแต่เมื่อวานที่เขาเห็นเจ้านาย

 

 

 

 

พานายหญิงเข้ามาในไร่ก็ไม่เห็นทั้งสองจะออกไปไหนเลย และคิดว่าคงเป็นปกติของข้าวใหม่ปลามัน หากแต่

 

 

 

 

อารมณ์เสียขั้นสุดยอดของเจ้านายทำให้เขาแปลกใจ พักนี้นายของเขาทำตัวแปลกๆ เพราะตั้งแต่สามเดือนที่แล้ว

 

 

 

 

ก็เข้าๆออกๆกรุงเทพฯหลายหน จนเขาอดสงสัยไม่ได้ แล้วหลังจากนั้นสองเดือน คนงานในไร่ก็ลือกันให้แซดว่า

 

 

 

 

 

นายพาแฟนมาแนะนำคุณหญิง แต่น่าเสียดายที่เขาไม่ทันได้เห็นหน้าค่าตาเพราะติดธุระเสียนี่ แต่ที่น่าแปลกใจยิ่ง

 

 

 

 

กว่าคือเมื่อวานที่นายจู่ๆก็พานายหญิงเข้าบ้าน ดูเหมือนเด็กสาวไร้เดียงสาเสียจนเขาไม่แน่ใจว่านายพรากผู้เยาว์มา

 

 

 

 

หรือเปล่า แต่ที่มาของนายผู้หญิงคงไม่ธรรมดาแน่

 

 

 

 

 

“มองหน้าฉันทำไมนายเมฆ”เสียงเอ็ดของเจ้านายทำให้เขาตื่นจากภวังค์ ป๊อปปี้มองลูกน้องคนสนิทของเขาอย่าง

 

 

 

 

ไม่สบอารมณ์

 

 

 

 

“เอ่อ ผมสงสัยน่ะครับว่านายหญิงหายไปไหน”

 

 

 

 

“ไม่ใช่เรื่องของนาย เมียฉัน ฉันจัดการเองได้”ชายหนุ่มลุกขึ้นอย่างอารมณ์เสีย ไม่รู้ทำไมเขาต้องหงุดหงิดงุ่นง่าน

 

 

 

 

ขนาดนี้ แล้วป่านนี้คนตัวเล็กจะเป็นอย่างไรบ้างล่ะ ทั้งๆที่เขาสั่งให้หัวหน้าคนงานรายงานทันทีเมื่อเธอเข้ามาทำงาน

 

 

 

 

แต่นี่ก็ปาเข้าไปเกือบเที่ยงวันแล้ว ทำไมยังไม่มีใครรายงานเขาสักคน หรือว่าเธอจะเป็นอะไรไป...

 

 

 

 

หากแต่ความเป็นห่วงที่กดลึกลงถึงก้นบึ้งหัวใจ กำลังมีอิทธิพลเหนือสิ่งอื่นใด นำพาปลายเท้าแกร่งมาหยุดอยู่ตรง

 

 

 

ประตูรถคันโปรด

 

 

 

 

“อะไรวะ ไม่ใช่หรอกน่า”ชายหนุ่มพูดกับตัวเองอย่างต้องการเตือนสติเมื่อหัวใจของเขากำลังบอกว่าเป็นห่วงเธอ

 

 

แต่ความจริงแล้ว...มันไม่ใช่สักหน่อย เขาแค่อยากจะไปดูให้เห็นกับตาว่าเธอตายหรือยังก็เท่านั้น เมื่อหาเหตุผล

 

 

 

ให้ตัวเองได้แล้ว เขาก็จัดการออกรถด้วยความเร็วสูงชนิดที่คนงานต้องหลบกันจ้าละหวั่น ตามด้วยเสียงบ่นตามท้าย

 

 

กับอารมณ์แปรปรวนของเจ้านายอย่างไม่จริงจังนัก

 

 

 

 

รถคันโตถูกจอดหน้ากระท่อมไม้หลังเล็กในเวลาไม่ถึงสิบห้านาที ป๊อปปี้เปิดประตูเข้าไปภายในกระท่อม หากแต่

 

 

 

หัวใจแกร่งกลับต้องกระตุกวูบเมื่อภายในนั้นมืดสนิท ได้ยินเพียงเสียงสะอื้นไห้ดังออกมาจากห้องนอนห้องเล็ก เขา

 

 

 

ไม่รอช้าย่างสามขุมเข้าไปเปิดประตูทันที

 

 

 

 

“ฟาง!!!”ร่างหนาถลาเข้ากอดร่างเล็กที่นอนคู้ตัวอยู่บนพื้น ใบหน้างามบัดนี้กลับเปรอะเปื้อนด้วยหยาดน้ำตา

 

 

 

มากมาย น้ำเสียงแหบพร่าเอื้อนเอ่ยของความช่วยเหลือจากเขาอย่างน่าสงสาร

 

 

 

“ปวดท้อง...พาฟางไปส่งโรงบาลหน่อยได้มั้ย ฮึก”เธอพูดเสียงปนสะอื้น เขามองไปที่มือบางที่กุมหน้าท้องจนเสื้อ

 

 

 

ตัวโตยับยู่ยี่ อาการของเธอเป็นอะไรที่เขายังคาดเดาไม่ได้ หากแต่เสียงสะอื้นไห้ที่ดังกระทบหู ทำให้เขารีบรุดอุ้ม

 

 

 

ร่างเล็กขึ้นรถ ก่อนจะเหยียบคันเร่งจนมิด...

 

 

 

ณ ตอนนี้ แลกกับอะไรก็ได้ทั้งนั้น ขอแค่เธอปลอดภัย...

 

 

 

 

.....................................................................................................................................

 

 

 

“คุณมาหาพี่ป๊อปสินะ เขาไม่อยู่หรอก จะอยู่รอก่อนมั้ย”น้ำเสียงเย็นชาจากคนหมดรักเอ่ยถามเธอ เมื่อเธอเดินเข้า

 

 

 

มาภายในบ้าน ทั้งๆที่เธอตั้งใจจะมาขอคุยกับเขาให้รู้เรื่องแท้ๆ แต่ทำไมเขาถึงไม่สนใจจะฟังเธอเลย

 

 

 

“นายจะออกไปไหน”เธออดถามไม่ได้ เมื่อกลิ่นแอลกอฮอล์ที่ลอยมาติดจมูกเมื่อเขาเดินผ่าน ทำให้มือบางรั้งแขน

 

 

 

 

ของเขาไว้โดยอัตโนมัติด้วยความเป็นห่วง

 

 

 

“ผมจะไปทำงานในไร่น่ะ เชิญคุณตามสบายนะ”เขาพูดก่อนจะดึงแขนแกร่งออกจากมือของเธอ

 

 

 

“เมาขนาดนี้จะไปทำงานได้ยังไง ทำไมไม่นอนพัก แล้วใครใช้ให้ดื่มฮะ!”เธอตวาดอย่างอดไม่ได้เมื่อเขาทำตัว

 

 

 

เสเพลอย่างเด็กหนุ่มวัยแรกรุ่น ไม่รักตัวเองบ้างเลยหรือไงนะ...

 

 

 

 

“ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงคิดเข้าข้างตัวเองไปแล้ว...ถ้าคุณพูดแบบนี้”เขาหันหน้ามามองหน้าเธอเต็มตา หากแต่

 

 

ดวงตาที่เคยดุดันกลบหม่นลงอย่างคนอมทุกข์

 

 

 

 

“แล้วทำไมตอนนี้นายไม่คิดล่ะ”เธอถามออกไปอย่างใจคิด เวลาแค่ไม่ถึงวันจะทำให้เขาตัดใจได้ง่ายขนาดนี้เลย

 

 

 

หรือไง

 

 

“ใครบอกว่าผมไม่คิด...แต่ก็พอรู้ตัวว่าไม่มีสิทธิ์ คงไม่กล้าสำคัญตัวเองผิดอย่างที่แล้วๆมาอีกแล้วล่ะ หึ คิดไปคิด

 

 

มาแล้วก็น่าอายเหมือนกันนะ คุณคงรำคาญผมมากเลยใช่มั้ย”เขาพูดด้วยน้ำเสียงทะเล้นหากแต่ใบหน้าและแววตา

 

 

 

มันไม่ได้สื่อออกมาอย่างนั้นสักนิด

 

 

 

 

“นายไม่รักฉันแล้วหรอ”

 

 

 

 

 

 

"""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""

มาแล้ว ห่างหายไปนานขอโทษน้า คือต้องสอบเก็บคะแนนทุกวันเลยเหนื่อยมาก ตอนนี้แต่งไปถึงตอนที่28แล้ว

ไม่ต้องบอกก็รู้ว่านิยายเรื่องนี้ยาวขนาดไหน อิอิ ยังไงเราจะทยอยมาอัพให้นะ อย่าเพิ่งเบื่อกันก่อนนะ

เพิ่งเห็นว่าฟิคชั่นตัวเองติดอันดับที่สาม ดีใจมากๆๆๆๆๆ ขอบคุณนักอ่านทุกคนที่ไม่ว่าจะเป็นนักอ่านที่มีตัวตนหรือ

นักอ่านเงาทั้งหลาย ขอบคุณที่ติดตามนิยายของนักเขียนอ่อนหัดคนนี้ ขอบคุณนะจ้ะ ยังไงก็ติดตามกันไปเรื่อยๆนะ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.4 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.4 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา