The Loveless หัวใจไร้รัก...(แล้วฉันต้องทำอย่างไร?)
9.2
30) ไม่เคยรู้...
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความThe Loveless หัวใจไร้รัก...(แล้วฉันต้องทำอย่างไร?)
ตอนที่30 ไม่เคยรู้เลย...
“โอ๊ย ฮือ ปวดท้อง ชะ ช่วยด้วย”หญิงสาวยกมือขึ้นกุมท้อง สีหน้าบ่งบอกถึงความเจ็บปวด แต่ที่สำคัญ....
บนพื้นกลับเจิ่งนองไปด้วยเลือด เขามองตามเรียวขาเล็กที่ตอนนี้กลับเต็มไปด้วยเลือดที่เปรอะเปื้อน
“ฟาง!!! ไม่เป็นไรนะคนดี”เขาช้อนอุ้มหญิงสาวขึ้นมาวางไว้บนเตียง ก่อนจะวิ่งไปหยิบเดรสมาสวมให้เธอ
อย่างรวดเร็ว แล้วช้อนร่างเล็กที่สะลึมสะลือขึ้นมาแล้ววิ่งไปที่รถ เพื่อไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด เท่าทีเขาจะ
ทำได้
ร่างเล็กของฟางทีปรือตาอยู่น้อยๆของนำส่งเข้าห้องฉุกเฉิน มือหนากุมมือเล็กไว้อย่างต้องการจะ
ส่งผ่านกำลังใจไปให้เธอ มือหนาอีกข้างลูบผมนุ่มอย่างปลอบโยน ปากก็คอยพูดปลอบประโลมคนตัวเล็ก
ในขณะเดียวกันเท้าก็คอยวิ่งตามรถเข็นอย่างไม่ห่างจนร่างเล็กของฟางเข้าสู่ห้องฉุกเฉิน พยาบาลจึงขอร้อง
ให้เขารออยู่ตรงนั้น...
“อย่าเป็นอะไรไปนะ”เขาเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงร้อนรน น้ำตาลูกผู้ชายที่รื้นอยู่ที่ขอบตาก็ใกล้จะหล่นลงมา
เต็มที ในเมื่อคนรักต้องมาเป็นอะไรไป และที่สำคัญต้นเหตุคือเขา
ในใจได้แต่ภาวนาว่าขอให้เธอปลอดภัย ในเมื่ออาการของเธอมันแปลกๆเหมือนกับ...แท้ง
แวบแรกที่เขาเห็นก็ตกใจไม่น้อย ซึ่งอาการที่เห็นคงเป็นอะไรอื่นไกลไปไม่ได้ เขาก็พอจะรู้ไม่ได้โง่ถึงขนาดดู
ไม่ออก และที่สำคัญเด็กในท้องของเธอเป็นลูกของเขา เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเขาและเธอ...
“โธ่เว้ย!!!”มือหนากระหน่ำทุบกำแพงอย่างบ้าคลั่ง น้ำตาลูกผู้ชายไหลรินอย่างไม่อายใคร จนพยาบาลต้อง
เข้ามาห้ามและพาไปทำแผลจนได้ เมื่อทำเสร็จถึงแม้ใครต่อใครจะบอกให้ชายหนุ่มพักผ่อนเสียก่อน แต่เขา
ก็ดั้นด้นกลับมาที่หน้าห้องฉุกเฉิน เพื่อรอคนตัวเล็กที่ป่านนี้ยังไม่ออกมาเสียที
เสียงเปิดประตูเรียกความสนใจของเขา ร่างสูงพุ่งไปกระชากหมอเข้ามาถามอาการคนตัวเล็กอย่างร้อนรน
“หมอครับ เมียผมเป็นยังไงบ้าง แล้วลูกผมล่ะ เขาปลอดภัยดีใช่มั้ย”เขารัวคำถามมากมายที่ต้องการคำตอบ
มานานนับหลายชั่วโมง
“ครับ ภรรยาและลูกของคุณปลอดภัยดี”และนั้นทำให้เขาโล่งอกอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
“แต่หมอขอคุยกับคุณหน่อยนะครับ”เขาพยักหน้าก่อนจะเดินตามหลังชายวัยกลางคนเข้าไปในห้องทำงาน
ส่วนตัวของคุณหมอ เขาทรุดตัวลงนั่งเก้าอี้ตัวตรงข้ามคุณหมอตามคำเชื้อเชิญ
“คุณทราบรึเปล่าครับว่าภรรยาของคุณตั้งครรภ์”
“ครับ”เขาพยักหน้ารับ
“ก็ดีแล้ว ผมตรวจดูร่างกายของเธอแล้ว ผมพบรอยฟกช้ำบางแห่ง อีกไม่กี่วันก็คงเขียวม่วงช้ำน่ากลัว อย่า
หาว่าผมละลาบละล้วงเลยนะครับ....ผมไม่รู้หรอกว่าพวกคุณทะเลาะอะไรกัน แต่เธอกำลังตั้งครรภ์อยู่ช่วงนี่
เป็นช่วงที่เสี่ยงต่อการแท้งมาก อย่ารุนแรงกับเธอ อ้อ เธอตั้งครรภ์ได้2เดือน กับอีก2 สัปดาห์แล้วนะครับ
คุณควรพาเธอไปฝากครรภ์ได้แล้วนะครับ ช่วงของการตั้งครรภ์ต้องบำรุงให้มากๆนะครับ ลูกของพวกคุณ
จะได้แข็งแรง หมอขอแสดงความยินดีกับคุณพ่อคนใหม่ด้วยนะครับ”ชายวันกลางคนยิ้มให้เขาอย่างเป็น
มิตรเขายิ้มตอบ ก่อนจะเดินออกไปจากห้อง เพื่อสอบถามพยาบาลถึงห้องพักของภรรยาตัวน้อย
เมื่อเปิดประตูเข้าห้องพักก็เจอร่างเล็กที่เพิ่งจะตื่นนอนขึ้นมา เขารีบปรี่ไปช่วยคนตัวเล็กที่ทำท่าว่า
จะลุกขึ้นนั่ง
“ฉันเป็นอะไรไปคะ”เขาแทบจะพูดไม่ออก เธอคงจะโกรธมาก หากรู้ว่าเขาเป็นคนทำร้ายลูก จนเกือบเสียแก
ไป เขาปั้นหน้ายิ้มให้คนตัวเล็กก่อนจะตอบ
“ฟางท้องแล้วนะ...ลูกของเราอยู่ในนี่”เขาเอื้อมมือสัมผัสหน้าท้อง ที่เขาเพิ่งรู้สึกว่านูนน้อยๆ
“จริง...จริงหรอคะ”แต่ที่น่าตกใจ คือ เมื่อเขาบอกข่าวดีสำหรับเขา แต่น้ำตาของเธอกลับไหลลงมาเสียดื้อ
มือเล็กจับหน้าท้องอย่างไม่เชื่อคำพูดของเขา
“จริงสิ ลูกของเรา”เธอกลับส่ายหน้าทั้งน้ำตา
“ไม่...ไม่จริง ฮือ ไม่จริง”กำปั้นน้อยๆทุบรัวเข้าที่หน้าอกแกร่งของเขา
“ฟางเป็นอะไรไป หยุดก่อนเถอะ”เขาจับมือเล็กที่ทุบรัวอย่างไม่คิดชีวิต
“ฉันไม่ได้ท้อง ฮึก ฮือ ไม่ได้ท้อง”เธอพูดออกมาอย่างเหม่อลอย เมื่อสยบอารมณ์ร้ายได้แล้ว
“ไม่ดีใจหรือไง”เขาเริ่มจะโมโหขึ้นมาเมื่อเธอพูดจาราวกับรังเกียจลูกของเขานักหนา
“จะให้ฉันดีใจยังไง ในเมื่อคุณกำลังจะทิ้งฉันไป แต่ฉันกลับท้องลูกของคุณ ฮึก ฮือ”
“ฉันเคยบอกหรอว่าจะทิ้งเธอ...คิดเองเออเองทั้งนั้น”
“จริงๆนะ สัญญานะว่าจะอยู่กับฉันกับลูก อย่าทิ้งเรานะคะ”มือเล็กเขย่าแขนเขา น้ำตาที่รื้นในดวงจากลมโต
ยิ่งทำให้เขาใจอ่อน เธอนี่มันทำอะไรก็มีอิทธิพลต่อเขาไปซะทุกอย่างสิน่า...
“ครับ ไม่ทิ้งหรอก เมียน่ารักขนาดนี้”เขาหยิกแก้มนวลอย่างหยอกล้อ เธอก้มหน้างุด แล้วเปลี่ยนเรื่องคุย
“ฟางไม่ค่อยแพ้ท้องเลยนะคะ เลยไม่รู้ว่าท้อง สงสัยแกจะเลี้ยงง่าย”เธอลูบท้องของตัวเอง แล้วมองด้วย
สายตาที่เปี่ยมไปด้วยรัก รอยยิ้มสดใสผุดบนใบหน้าสวยหวาน เธอได้ทำสิ่งที่เธอสมควรจะทำแล้ว...
นั้นก็คือการทำทุกวิถีทางให้ลูกของเธอมีพ่อ...ลูกของเธอจะต้องมีทั้งพ่อและแม่
ไม่ว่าเธอจะดูร้ายกาจในสายตาของใครๆ แต่ตอนนี้เธอกำลังจะเป็นแม่คน คนเป็นแม่ย่อมทำทุกๆอย่างเพื่อ
ลูกของเธอ ยิ่งตอนนี้อันตรายยิ่งมีรอบตัว ทั้งแฟนของชายหนุ่ม และพระเอกหนุ่มที่คอยจะติดพันกับเธอ
ตั้งแต่เดินชนกันครั้งก่อน เธอแอบเห็นเขาอยู่กับพิมประภาตั้งหลายครั้ง ถ้าเดาไม่ผิดทั้งสองคงไม่ใช่คนรู้จัก
กันธรรมดาๆแน่ๆ และถ้าเป็นอย่างนั้นพิมประภาคงไม่อยู่เฉยแน่ เธอคงกำลังวางแผนอะไรสักอย่างอยู่...
เพราะฉะนั้นตอนนี้เธอต้องระวังตัวเองไว้ให้มากที่สุด
“คงจะเลี้ยงง่ายหรอก...แม่ดื้อซะขนาดนี้”เธอตวัดฝ่ามือเข้าที่หน้าท้องแกร่ง โทษฐานที่เขาล้อเธอ
“ลูกจ๋า...แม่รักหนูนะ”เธอพูดเบาๆกับลูกน้อยในท้อง
“พ่อก็รักหนูนะ...รักแม่ด้วย”เขาโอบกอดเธอไว้ ก่อนจะกดจมูกลงบนแก้มของเธอแรงๆ
“ให้มันจริงเถอะค่ะ”ยิ่งพูดเขากลับจูบลงบนเรียวปากของเธอเร็วๆ
“พี่ไม่ได้โทรบอกคุณแม่นะ กลัวท่านเป็นห่วง ส่วนเรื่องแต่งงานพี่จะคุยกับท่านเอง ท้องป่องแต่งงานฟางคง
จะเสื่อมเสียแน่ เราอาจจะจัดงานเลี้ยงเล็กๆ แล้วก็จดทะเบียนกันดีมั้ย ส่วนเรื่องเรียนเดี๋ยวค่อยทำเรื่องโอน
มาเรียนต่อที่นี่ก็ได้นี่ เว้นไว้สักปีดีมั้ย ไว้ฟางให้นมลูกก่อน เขาบอกกันว่าเด็กที่ได้รับน้ำนมแม่น่ะ ฉลาดนะ
จะได้ไม่ดื้อเหมือนเราไง ไว้ถ้าฟางอยากเรียนต่อโท เดี๋ยวพี่จะส่งเองรอให้ลูกโตสักสองสามขวบก่อนดีกว่า
ถ้าอยากทำงานก็ทำกับพี่ เดี๋ยวจะยกตำแหน่งเลขาในห้องให้เลย...พิเศษสุด ว่าไง...ฟาง”ชายหนุ่มนิ่งไปเมื่อ
หันมามองร่างเล็กกลับรู้สึกว่าเธอกำลังร้องไห้อยู่
“เป็นอะไรไปฟาง พี่ทำอะไรผิดใจเราหรือ”
“เปล่าหรอกค่ะ ฟางแค่ดีใจ อย่างน้อยคุณก็ยังอุตส่าห์วางฉันกับลูกลงในแพลนอนาคตของคุณ”เธอขยี้ตา
น้อยๆราวกับเด็กน้อยขี้แย
“พี่ตั้งใจจะทำ ไม่ได้ไม่เต็มใจ คำว่า อุตส่าห์ ใช้ไม่ได้นะครับ อ้อ แล้วก็ต่อไปนี้เรียกแทนตัวเองว่าฟาง แล้ว
เรียกพี่ว่าพี่ด้วย ได้ยินเราพูดแบบนี้ทีไร มันอยากจะจับกดนัก”เขาเหยียดรอยยิ้มเลศนัย
“คะ...ค่ะ”เธอพยักหน้าเร็วๆ
“หิวหรือยัง...พี่ไปซื้ออะไรให้ทานนะ เดี๋ยวจะล็อกประตูไว้ ถ้าพยาบาลมาเราค่อยเดินไปเปิดละกัน”เขาพูด
ก่อนจะเดินออกจากห้องไป แต่ก็ไม่ลืมล็อกประตูให้คนตัวเล็ก
ฟางยกมือเล็กขึ้นลูบท้องที่นูนขึ้นมาน้อยๆ เธอนี่มันเป็นแม่ที่ไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ ท้องได้ตั้ง
เกือบสามเดือนแล้วยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย...ต่อไปนี้ครอบครัวของเธอจะได้เป็นครอบครัวที่สมบูรณ์เสียที
มีพ่อ แม่ ลูก ถึงตอนนี้เธอก็ไม่รู้หรอกว่าเขารักเธอจริงๆหรือเปล่า แต่ที่แน่ๆเธอจะไม่เดินไปจากชีวิตของเขา
แน่นอน...ลูกของเธอจะต้องได้รับความรักจากทั้งพ่อและแม่ อย่างน้อยเขาก็คงไม่ใจดำพอที่จะทำร้ายเด็ก
ตาดำๆที่เกิดจากเลือดเนื้อเชื้อไขของเขาหรอก...เธอเชื่อ
ประตูถูกเคาะเบาๆเธอหันไปมองที่ต้นเสียงก็พบกับเพื่อนสาวที่มีสีหน้าร้อนรนอยู่ เธอประคองตัวขึ้นลุก
ก่อนจะเดินไปเปิดประตูให้
“ยัยฟาง แกเป็นยังไงบ้าง ฮือ ไอ้พี่ป๊อปมันไม่ได้บอกฉันเลย ถ้าวันนี้ไม่พาโทโมะมาตรวจไมเกรน ก็คงไม่รู้ว่า
แกนอนเจ็บอยู่นี่”แก้วร้องไห้หนักเอาการและร่ายยาวขณะที่ยังยืนอยู่ที่หน้าประตูแท้ๆ
“เข้ามาก่อนเถอะ ฉันไม่ได้เป็นอะไรมากหรอก”เธอเดินนำเข้ามาในห้อง ก่อนจะนั่งลงบนปลายเตียง
“เพราะพี่แหละพี่ป๊อป นิสัยไม่ดี ถ้าหลานแก้วเป็นอะไรไปนะ...ชิ”คนถูกว่าถึงกับโคลงศีรษะเบาๆ เขาโดนต่อ
ว่าตั้งแต่เล่าเรื่องภรรยาตัวน้อยให้แก้วและโทโมะฟัง ก็โดนด่าตามรายทางมา
“เออ รู้แล้วน่า ฟางยังไม่ว่าอะไรสักคำ”ป๊อปปี้เลื่อนโต๊ะที่มีชามข้าวต้มวางไว้มาตรงหน้าเธอ
“ทานหน่อยนะฟาง...เดี๋ยวลูกพี่จะหิว อ้อ จะได้ทานยาบำรุงครรภ์ด้วย”เขายกชามข้าวต้มไปจากเธอ ก่อน
จะตักมันขึ้นเป่า แล้วยื่นมาตรงหน้าเธอ ซึ่งเธอก็ยอมงับมันเข้าปากแต่โดยดี จะมีงอแงบ้างตอนที่เขาบังคับ
ให้ทานผักก็เท่านั้น
“หมดเกลี้ยงเลย คนท้องอะไร้ ไม่เห็นจะแพ้ท้องเลย เอาอะไรให้กินก็กินหมด”เขาเอ่ยลอยๆ เพื่อแกล้งคนตัว
เล็ก ซึ่งก็ได้รับโทษจากกำปั้นน้อยที่ทุบตรงหน้าท้องแกร่ง เขาแสร้งร้องโอดโอย เมื่อไม่ได้รับคำปลอบโยนก็
ทำเป็นงอนตุ๊บป่อง แล้วเข้าไปล้างจาน เมื่ออกมาก็เห็นภรรยาตัวน้อยกำลังนั่งเมาท์กับเพื่อนสาวตาม
ประสาผู้หญิง เมื่อมองไปรอบๆแล้วไม่เห็นว่าจะมีที่ว่างให้นั่งตรงไหน เขานั่งลงบนเตียงเบียดกับร่างเล็ก
“โอ้ย พี่ป๊อป มานั่งเบียดฟางทำไมเนี่ย อึดอัดนะ”เธอผลักเขาออกจากตัว เมื่อรำคาญกับแรงเล็กที่ระคาย
ผิวหนังเขา ชายหนุ่มจัดการยกเจ้าตัวปัญหามานั่งบนตักโดยไม่แคร์สายตาของสองหนุ่มสาวที่นั่งอยู่ร่วม
ห้องด้วย ก่อนจะกระซิบที่ใบหูบอบบางเบาๆ
“อย่าดิ้นนะ ไม่งั้นได้โชว์หนังสดแน่”เธอพยักหน้าน้อยๆ ก่อนจะหันไปพูดกับผู้มาเยือนตามเดิม ระหว่างนั่ง
ฟังเธอคุยกับแขก เขาก็ไม่ปล่อยให้เวลาไร้ประโยชน์แอบตอดเล็กตอดน้อยจนภรรยาตัวน้อยขนลุกขนพอง
ไปตามๆกัน
“บ๊ายบาย พี่โมะขับรถดีๆนะคะ”เธอยกมือโบกลาโทโมะและแก้ว และก็ยกโบกตาม แต่ไม่ลืมสั่งรั้งท้าย
“ล็อกประตูให้ด้วยนะเว้ย ดึงม่านปิดกระจกบานเล็กที่ประตูให้ด้วย”โทโมะพยักหน้า ราวกับรู้ใจเขาก่อนจะ
ทำตามคำขอแล้วออกไป
“พี่ป๊อป พี่คิดจะทำอะไรฟาง”ร่างเล็กลนลานลุกจากตักของเขา
“เปล่าซะหน่อย เราล่ะคิดมากไปเอง”ถึงจะพูดไปแบบนั้นมือหนากลับไม่ยอมอยู่นิ่ง เลื้อยไปดึงปมเสื้อคนไข้
ออกช้าๆ
“ไหน...ไหนบอกว่าจะไม่ทำอะไรไง”เขาแทบกลั้นหัวเราะไม่ไหว เมื่อเสียงหวานนั้นสั่นยิ่งกว่าสั่น
“ก็จะเช็ดตัวให้ พี่ไม่ชอบให้ใครมาโดนตัวเมีย”
“เอ๊ะ แต่ คุณพยาบาลเขาเป็นผู้หญิงเหมือนกับฟางนะคะ”เธอหันมาท้วงเสียงแข็ง
“ไม่รู้แหละ รอแปบนะครับ”เขาลุกจากเตียงเพื่อไปเตรียมอุปกรณ์เอาเปรียบร่างเล็กบนเตียงผู้ป่วย ก่อนร่าง
สูงจะเดินออกจากห้องน้ำพร้อมกับอ่างน้ำอุ่นและผ้าขนหนูในมือ เขาวางมันลงบนโต๊ะที่เลื่อนมาอยู่ข้าง
เตียงผู้ป่วยเมื่อตะกี้ มือหนาถอดเสื้อผู้ป่วยตัวเล็กออก และนั้นยิ่งทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองพลาดไปแล้ว การ
ทำอย่างนี้มันเหมือนกับการทรมานตัวเองชัดๆ เขาเอี้ยวตัวมาบิดผ้าขนหนูที่ชุบน้ำพอหมาดๆ แล้วเช็ดตาม
เนื้อนวลของภรรยาตัวน้อยที่เริ่มมีน้ำมีนวลขึ้น เพราะเจ้าตัวเล็กในท้อง
“พลิกตัวครับ”เธอพลิกตัวอย่างว่าง่าย เขาเองก็พยายามหักห้ามใจก็หลายหน หากเธอไม่ป่วยอยู่แล้วมา
นอนให้เขาเช็ดตัวในสภาพนี้คงจะได้เหนื่อยแน่ๆ เขาใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำใหม่ ก่อนจะเลิกกางเกงผู้ป่วยมากอง
ไว้ที่เหนือเข่า และลงมือเช็ดตัวต่อ เมื่อเสร็จแล้วเขาจึงจัดการสวมเสื้อให้ฟางตามเดิมก่อนที่เธอจะไม่มี
โอกาสได้สวมมันอีกครั้ง
“เดี๋ยวพี่เอาไปเก็บก่อนนะ แล้วเดี๋ยวจะกลับบ้านไปเอาของ เราจะเอาอะไรรึเปล่า”เธอส่ายหน้าน้อยๆก่อน
จะหันไปสนใจจอโทรทัศน์เบื้องหน้าต่อ
ตอนที่30 ไม่เคยรู้เลย...
“โอ๊ย ฮือ ปวดท้อง ชะ ช่วยด้วย”หญิงสาวยกมือขึ้นกุมท้อง สีหน้าบ่งบอกถึงความเจ็บปวด แต่ที่สำคัญ....
บนพื้นกลับเจิ่งนองไปด้วยเลือด เขามองตามเรียวขาเล็กที่ตอนนี้กลับเต็มไปด้วยเลือดที่เปรอะเปื้อน
“ฟาง!!! ไม่เป็นไรนะคนดี”เขาช้อนอุ้มหญิงสาวขึ้นมาวางไว้บนเตียง ก่อนจะวิ่งไปหยิบเดรสมาสวมให้เธอ
อย่างรวดเร็ว แล้วช้อนร่างเล็กที่สะลึมสะลือขึ้นมาแล้ววิ่งไปที่รถ เพื่อไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด เท่าทีเขาจะ
ทำได้
ร่างเล็กของฟางทีปรือตาอยู่น้อยๆของนำส่งเข้าห้องฉุกเฉิน มือหนากุมมือเล็กไว้อย่างต้องการจะ
ส่งผ่านกำลังใจไปให้เธอ มือหนาอีกข้างลูบผมนุ่มอย่างปลอบโยน ปากก็คอยพูดปลอบประโลมคนตัวเล็ก
ในขณะเดียวกันเท้าก็คอยวิ่งตามรถเข็นอย่างไม่ห่างจนร่างเล็กของฟางเข้าสู่ห้องฉุกเฉิน พยาบาลจึงขอร้อง
ให้เขารออยู่ตรงนั้น...
“อย่าเป็นอะไรไปนะ”เขาเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงร้อนรน น้ำตาลูกผู้ชายที่รื้นอยู่ที่ขอบตาก็ใกล้จะหล่นลงมา
เต็มที ในเมื่อคนรักต้องมาเป็นอะไรไป และที่สำคัญต้นเหตุคือเขา
ในใจได้แต่ภาวนาว่าขอให้เธอปลอดภัย ในเมื่ออาการของเธอมันแปลกๆเหมือนกับ...แท้ง
แวบแรกที่เขาเห็นก็ตกใจไม่น้อย ซึ่งอาการที่เห็นคงเป็นอะไรอื่นไกลไปไม่ได้ เขาก็พอจะรู้ไม่ได้โง่ถึงขนาดดู
ไม่ออก และที่สำคัญเด็กในท้องของเธอเป็นลูกของเขา เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเขาและเธอ...
“โธ่เว้ย!!!”มือหนากระหน่ำทุบกำแพงอย่างบ้าคลั่ง น้ำตาลูกผู้ชายไหลรินอย่างไม่อายใคร จนพยาบาลต้อง
เข้ามาห้ามและพาไปทำแผลจนได้ เมื่อทำเสร็จถึงแม้ใครต่อใครจะบอกให้ชายหนุ่มพักผ่อนเสียก่อน แต่เขา
ก็ดั้นด้นกลับมาที่หน้าห้องฉุกเฉิน เพื่อรอคนตัวเล็กที่ป่านนี้ยังไม่ออกมาเสียที
เสียงเปิดประตูเรียกความสนใจของเขา ร่างสูงพุ่งไปกระชากหมอเข้ามาถามอาการคนตัวเล็กอย่างร้อนรน
“หมอครับ เมียผมเป็นยังไงบ้าง แล้วลูกผมล่ะ เขาปลอดภัยดีใช่มั้ย”เขารัวคำถามมากมายที่ต้องการคำตอบ
มานานนับหลายชั่วโมง
“ครับ ภรรยาและลูกของคุณปลอดภัยดี”และนั้นทำให้เขาโล่งอกอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
“แต่หมอขอคุยกับคุณหน่อยนะครับ”เขาพยักหน้าก่อนจะเดินตามหลังชายวัยกลางคนเข้าไปในห้องทำงาน
ส่วนตัวของคุณหมอ เขาทรุดตัวลงนั่งเก้าอี้ตัวตรงข้ามคุณหมอตามคำเชื้อเชิญ
“คุณทราบรึเปล่าครับว่าภรรยาของคุณตั้งครรภ์”
“ครับ”เขาพยักหน้ารับ
“ก็ดีแล้ว ผมตรวจดูร่างกายของเธอแล้ว ผมพบรอยฟกช้ำบางแห่ง อีกไม่กี่วันก็คงเขียวม่วงช้ำน่ากลัว อย่า
หาว่าผมละลาบละล้วงเลยนะครับ....ผมไม่รู้หรอกว่าพวกคุณทะเลาะอะไรกัน แต่เธอกำลังตั้งครรภ์อยู่ช่วงนี่
เป็นช่วงที่เสี่ยงต่อการแท้งมาก อย่ารุนแรงกับเธอ อ้อ เธอตั้งครรภ์ได้2เดือน กับอีก2 สัปดาห์แล้วนะครับ
คุณควรพาเธอไปฝากครรภ์ได้แล้วนะครับ ช่วงของการตั้งครรภ์ต้องบำรุงให้มากๆนะครับ ลูกของพวกคุณ
จะได้แข็งแรง หมอขอแสดงความยินดีกับคุณพ่อคนใหม่ด้วยนะครับ”ชายวันกลางคนยิ้มให้เขาอย่างเป็น
มิตรเขายิ้มตอบ ก่อนจะเดินออกไปจากห้อง เพื่อสอบถามพยาบาลถึงห้องพักของภรรยาตัวน้อย
เมื่อเปิดประตูเข้าห้องพักก็เจอร่างเล็กที่เพิ่งจะตื่นนอนขึ้นมา เขารีบปรี่ไปช่วยคนตัวเล็กที่ทำท่าว่า
จะลุกขึ้นนั่ง
“ฉันเป็นอะไรไปคะ”เขาแทบจะพูดไม่ออก เธอคงจะโกรธมาก หากรู้ว่าเขาเป็นคนทำร้ายลูก จนเกือบเสียแก
ไป เขาปั้นหน้ายิ้มให้คนตัวเล็กก่อนจะตอบ
“ฟางท้องแล้วนะ...ลูกของเราอยู่ในนี่”เขาเอื้อมมือสัมผัสหน้าท้อง ที่เขาเพิ่งรู้สึกว่านูนน้อยๆ
“จริง...จริงหรอคะ”แต่ที่น่าตกใจ คือ เมื่อเขาบอกข่าวดีสำหรับเขา แต่น้ำตาของเธอกลับไหลลงมาเสียดื้อ
มือเล็กจับหน้าท้องอย่างไม่เชื่อคำพูดของเขา
“จริงสิ ลูกของเรา”เธอกลับส่ายหน้าทั้งน้ำตา
“ไม่...ไม่จริง ฮือ ไม่จริง”กำปั้นน้อยๆทุบรัวเข้าที่หน้าอกแกร่งของเขา
“ฟางเป็นอะไรไป หยุดก่อนเถอะ”เขาจับมือเล็กที่ทุบรัวอย่างไม่คิดชีวิต
“ฉันไม่ได้ท้อง ฮึก ฮือ ไม่ได้ท้อง”เธอพูดออกมาอย่างเหม่อลอย เมื่อสยบอารมณ์ร้ายได้แล้ว
“ไม่ดีใจหรือไง”เขาเริ่มจะโมโหขึ้นมาเมื่อเธอพูดจาราวกับรังเกียจลูกของเขานักหนา
“จะให้ฉันดีใจยังไง ในเมื่อคุณกำลังจะทิ้งฉันไป แต่ฉันกลับท้องลูกของคุณ ฮึก ฮือ”
“ฉันเคยบอกหรอว่าจะทิ้งเธอ...คิดเองเออเองทั้งนั้น”
“จริงๆนะ สัญญานะว่าจะอยู่กับฉันกับลูก อย่าทิ้งเรานะคะ”มือเล็กเขย่าแขนเขา น้ำตาที่รื้นในดวงจากลมโต
ยิ่งทำให้เขาใจอ่อน เธอนี่มันทำอะไรก็มีอิทธิพลต่อเขาไปซะทุกอย่างสิน่า...
“ครับ ไม่ทิ้งหรอก เมียน่ารักขนาดนี้”เขาหยิกแก้มนวลอย่างหยอกล้อ เธอก้มหน้างุด แล้วเปลี่ยนเรื่องคุย
“ฟางไม่ค่อยแพ้ท้องเลยนะคะ เลยไม่รู้ว่าท้อง สงสัยแกจะเลี้ยงง่าย”เธอลูบท้องของตัวเอง แล้วมองด้วย
สายตาที่เปี่ยมไปด้วยรัก รอยยิ้มสดใสผุดบนใบหน้าสวยหวาน เธอได้ทำสิ่งที่เธอสมควรจะทำแล้ว...
นั้นก็คือการทำทุกวิถีทางให้ลูกของเธอมีพ่อ...ลูกของเธอจะต้องมีทั้งพ่อและแม่
ไม่ว่าเธอจะดูร้ายกาจในสายตาของใครๆ แต่ตอนนี้เธอกำลังจะเป็นแม่คน คนเป็นแม่ย่อมทำทุกๆอย่างเพื่อ
ลูกของเธอ ยิ่งตอนนี้อันตรายยิ่งมีรอบตัว ทั้งแฟนของชายหนุ่ม และพระเอกหนุ่มที่คอยจะติดพันกับเธอ
ตั้งแต่เดินชนกันครั้งก่อน เธอแอบเห็นเขาอยู่กับพิมประภาตั้งหลายครั้ง ถ้าเดาไม่ผิดทั้งสองคงไม่ใช่คนรู้จัก
กันธรรมดาๆแน่ๆ และถ้าเป็นอย่างนั้นพิมประภาคงไม่อยู่เฉยแน่ เธอคงกำลังวางแผนอะไรสักอย่างอยู่...
เพราะฉะนั้นตอนนี้เธอต้องระวังตัวเองไว้ให้มากที่สุด
“คงจะเลี้ยงง่ายหรอก...แม่ดื้อซะขนาดนี้”เธอตวัดฝ่ามือเข้าที่หน้าท้องแกร่ง โทษฐานที่เขาล้อเธอ
“ลูกจ๋า...แม่รักหนูนะ”เธอพูดเบาๆกับลูกน้อยในท้อง
“พ่อก็รักหนูนะ...รักแม่ด้วย”เขาโอบกอดเธอไว้ ก่อนจะกดจมูกลงบนแก้มของเธอแรงๆ
“ให้มันจริงเถอะค่ะ”ยิ่งพูดเขากลับจูบลงบนเรียวปากของเธอเร็วๆ
“พี่ไม่ได้โทรบอกคุณแม่นะ กลัวท่านเป็นห่วง ส่วนเรื่องแต่งงานพี่จะคุยกับท่านเอง ท้องป่องแต่งงานฟางคง
จะเสื่อมเสียแน่ เราอาจจะจัดงานเลี้ยงเล็กๆ แล้วก็จดทะเบียนกันดีมั้ย ส่วนเรื่องเรียนเดี๋ยวค่อยทำเรื่องโอน
มาเรียนต่อที่นี่ก็ได้นี่ เว้นไว้สักปีดีมั้ย ไว้ฟางให้นมลูกก่อน เขาบอกกันว่าเด็กที่ได้รับน้ำนมแม่น่ะ ฉลาดนะ
จะได้ไม่ดื้อเหมือนเราไง ไว้ถ้าฟางอยากเรียนต่อโท เดี๋ยวพี่จะส่งเองรอให้ลูกโตสักสองสามขวบก่อนดีกว่า
ถ้าอยากทำงานก็ทำกับพี่ เดี๋ยวจะยกตำแหน่งเลขาในห้องให้เลย...พิเศษสุด ว่าไง...ฟาง”ชายหนุ่มนิ่งไปเมื่อ
หันมามองร่างเล็กกลับรู้สึกว่าเธอกำลังร้องไห้อยู่
“เป็นอะไรไปฟาง พี่ทำอะไรผิดใจเราหรือ”
“เปล่าหรอกค่ะ ฟางแค่ดีใจ อย่างน้อยคุณก็ยังอุตส่าห์วางฉันกับลูกลงในแพลนอนาคตของคุณ”เธอขยี้ตา
น้อยๆราวกับเด็กน้อยขี้แย
“พี่ตั้งใจจะทำ ไม่ได้ไม่เต็มใจ คำว่า อุตส่าห์ ใช้ไม่ได้นะครับ อ้อ แล้วก็ต่อไปนี้เรียกแทนตัวเองว่าฟาง แล้ว
เรียกพี่ว่าพี่ด้วย ได้ยินเราพูดแบบนี้ทีไร มันอยากจะจับกดนัก”เขาเหยียดรอยยิ้มเลศนัย
“คะ...ค่ะ”เธอพยักหน้าเร็วๆ
“หิวหรือยัง...พี่ไปซื้ออะไรให้ทานนะ เดี๋ยวจะล็อกประตูไว้ ถ้าพยาบาลมาเราค่อยเดินไปเปิดละกัน”เขาพูด
ก่อนจะเดินออกจากห้องไป แต่ก็ไม่ลืมล็อกประตูให้คนตัวเล็ก
ฟางยกมือเล็กขึ้นลูบท้องที่นูนขึ้นมาน้อยๆ เธอนี่มันเป็นแม่ที่ไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ ท้องได้ตั้ง
เกือบสามเดือนแล้วยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย...ต่อไปนี้ครอบครัวของเธอจะได้เป็นครอบครัวที่สมบูรณ์เสียที
มีพ่อ แม่ ลูก ถึงตอนนี้เธอก็ไม่รู้หรอกว่าเขารักเธอจริงๆหรือเปล่า แต่ที่แน่ๆเธอจะไม่เดินไปจากชีวิตของเขา
แน่นอน...ลูกของเธอจะต้องได้รับความรักจากทั้งพ่อและแม่ อย่างน้อยเขาก็คงไม่ใจดำพอที่จะทำร้ายเด็ก
ตาดำๆที่เกิดจากเลือดเนื้อเชื้อไขของเขาหรอก...เธอเชื่อ
ประตูถูกเคาะเบาๆเธอหันไปมองที่ต้นเสียงก็พบกับเพื่อนสาวที่มีสีหน้าร้อนรนอยู่ เธอประคองตัวขึ้นลุก
ก่อนจะเดินไปเปิดประตูให้
“ยัยฟาง แกเป็นยังไงบ้าง ฮือ ไอ้พี่ป๊อปมันไม่ได้บอกฉันเลย ถ้าวันนี้ไม่พาโทโมะมาตรวจไมเกรน ก็คงไม่รู้ว่า
แกนอนเจ็บอยู่นี่”แก้วร้องไห้หนักเอาการและร่ายยาวขณะที่ยังยืนอยู่ที่หน้าประตูแท้ๆ
“เข้ามาก่อนเถอะ ฉันไม่ได้เป็นอะไรมากหรอก”เธอเดินนำเข้ามาในห้อง ก่อนจะนั่งลงบนปลายเตียง
“เพราะพี่แหละพี่ป๊อป นิสัยไม่ดี ถ้าหลานแก้วเป็นอะไรไปนะ...ชิ”คนถูกว่าถึงกับโคลงศีรษะเบาๆ เขาโดนต่อ
ว่าตั้งแต่เล่าเรื่องภรรยาตัวน้อยให้แก้วและโทโมะฟัง ก็โดนด่าตามรายทางมา
“เออ รู้แล้วน่า ฟางยังไม่ว่าอะไรสักคำ”ป๊อปปี้เลื่อนโต๊ะที่มีชามข้าวต้มวางไว้มาตรงหน้าเธอ
“ทานหน่อยนะฟาง...เดี๋ยวลูกพี่จะหิว อ้อ จะได้ทานยาบำรุงครรภ์ด้วย”เขายกชามข้าวต้มไปจากเธอ ก่อน
จะตักมันขึ้นเป่า แล้วยื่นมาตรงหน้าเธอ ซึ่งเธอก็ยอมงับมันเข้าปากแต่โดยดี จะมีงอแงบ้างตอนที่เขาบังคับ
ให้ทานผักก็เท่านั้น
“หมดเกลี้ยงเลย คนท้องอะไร้ ไม่เห็นจะแพ้ท้องเลย เอาอะไรให้กินก็กินหมด”เขาเอ่ยลอยๆ เพื่อแกล้งคนตัว
เล็ก ซึ่งก็ได้รับโทษจากกำปั้นน้อยที่ทุบตรงหน้าท้องแกร่ง เขาแสร้งร้องโอดโอย เมื่อไม่ได้รับคำปลอบโยนก็
ทำเป็นงอนตุ๊บป่อง แล้วเข้าไปล้างจาน เมื่ออกมาก็เห็นภรรยาตัวน้อยกำลังนั่งเมาท์กับเพื่อนสาวตาม
ประสาผู้หญิง เมื่อมองไปรอบๆแล้วไม่เห็นว่าจะมีที่ว่างให้นั่งตรงไหน เขานั่งลงบนเตียงเบียดกับร่างเล็ก
“โอ้ย พี่ป๊อป มานั่งเบียดฟางทำไมเนี่ย อึดอัดนะ”เธอผลักเขาออกจากตัว เมื่อรำคาญกับแรงเล็กที่ระคาย
ผิวหนังเขา ชายหนุ่มจัดการยกเจ้าตัวปัญหามานั่งบนตักโดยไม่แคร์สายตาของสองหนุ่มสาวที่นั่งอยู่ร่วม
ห้องด้วย ก่อนจะกระซิบที่ใบหูบอบบางเบาๆ
“อย่าดิ้นนะ ไม่งั้นได้โชว์หนังสดแน่”เธอพยักหน้าน้อยๆ ก่อนจะหันไปพูดกับผู้มาเยือนตามเดิม ระหว่างนั่ง
ฟังเธอคุยกับแขก เขาก็ไม่ปล่อยให้เวลาไร้ประโยชน์แอบตอดเล็กตอดน้อยจนภรรยาตัวน้อยขนลุกขนพอง
ไปตามๆกัน
“บ๊ายบาย พี่โมะขับรถดีๆนะคะ”เธอยกมือโบกลาโทโมะและแก้ว และก็ยกโบกตาม แต่ไม่ลืมสั่งรั้งท้าย
“ล็อกประตูให้ด้วยนะเว้ย ดึงม่านปิดกระจกบานเล็กที่ประตูให้ด้วย”โทโมะพยักหน้า ราวกับรู้ใจเขาก่อนจะ
ทำตามคำขอแล้วออกไป
“พี่ป๊อป พี่คิดจะทำอะไรฟาง”ร่างเล็กลนลานลุกจากตักของเขา
“เปล่าซะหน่อย เราล่ะคิดมากไปเอง”ถึงจะพูดไปแบบนั้นมือหนากลับไม่ยอมอยู่นิ่ง เลื้อยไปดึงปมเสื้อคนไข้
ออกช้าๆ
“ไหน...ไหนบอกว่าจะไม่ทำอะไรไง”เขาแทบกลั้นหัวเราะไม่ไหว เมื่อเสียงหวานนั้นสั่นยิ่งกว่าสั่น
“ก็จะเช็ดตัวให้ พี่ไม่ชอบให้ใครมาโดนตัวเมีย”
“เอ๊ะ แต่ คุณพยาบาลเขาเป็นผู้หญิงเหมือนกับฟางนะคะ”เธอหันมาท้วงเสียงแข็ง
“ไม่รู้แหละ รอแปบนะครับ”เขาลุกจากเตียงเพื่อไปเตรียมอุปกรณ์เอาเปรียบร่างเล็กบนเตียงผู้ป่วย ก่อนร่าง
สูงจะเดินออกจากห้องน้ำพร้อมกับอ่างน้ำอุ่นและผ้าขนหนูในมือ เขาวางมันลงบนโต๊ะที่เลื่อนมาอยู่ข้าง
เตียงผู้ป่วยเมื่อตะกี้ มือหนาถอดเสื้อผู้ป่วยตัวเล็กออก และนั้นยิ่งทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองพลาดไปแล้ว การ
ทำอย่างนี้มันเหมือนกับการทรมานตัวเองชัดๆ เขาเอี้ยวตัวมาบิดผ้าขนหนูที่ชุบน้ำพอหมาดๆ แล้วเช็ดตาม
เนื้อนวลของภรรยาตัวน้อยที่เริ่มมีน้ำมีนวลขึ้น เพราะเจ้าตัวเล็กในท้อง
“พลิกตัวครับ”เธอพลิกตัวอย่างว่าง่าย เขาเองก็พยายามหักห้ามใจก็หลายหน หากเธอไม่ป่วยอยู่แล้วมา
นอนให้เขาเช็ดตัวในสภาพนี้คงจะได้เหนื่อยแน่ๆ เขาใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำใหม่ ก่อนจะเลิกกางเกงผู้ป่วยมากอง
ไว้ที่เหนือเข่า และลงมือเช็ดตัวต่อ เมื่อเสร็จแล้วเขาจึงจัดการสวมเสื้อให้ฟางตามเดิมก่อนที่เธอจะไม่มี
โอกาสได้สวมมันอีกครั้ง
“เดี๋ยวพี่เอาไปเก็บก่อนนะ แล้วเดี๋ยวจะกลับบ้านไปเอาของ เราจะเอาอะไรรึเปล่า”เธอส่ายหน้าน้อยๆก่อน
จะหันไปสนใจจอโทรทัศน์เบื้องหน้าต่อ
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.4 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.1 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ