The Loveless หัวใจไร้รัก...(แล้วฉันต้องทำอย่างไร?)
29) ความเข้าใจ...
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความThe Loveless หัวใจไร้รัก...(แล้วฉันต้องทำอย่างไร?)
ตอนที่29 ความเข้าใจ
ป๊อปปี้เดินไปหยุดตรงหน้าหญิงสาว ข้อมือแกร่งคว้าต้นแขนของเธอให้ลุกขึ้น มือหนาไล้ต้นแขนกลมกลึง
เบาๆ ก่อนจะเลื่อนมากุมที่ใบหน้าแสนหวาน เรียวปากของเขาเข้าครอบครองกลีบปากเล็กน่ารักของฟาง
อย่างเชื่องช้า ทว่าอ่อนโยนและทะนุถนอม ริมฝีปากสัมผัสทั้งสองกันอย่างหวานล้ำ หากแต่ภายในใจของ
หญิงสาวตอนนี้กลับยิ่งเจ็บปวดมากกว่าเดิม...ที่ทำนี่เพราะอะไร
เขากดจูบลงบนริมฝีปากที่เริ่มบวมเจ่ออย่างแสนเสียดาย เมื่อผละออกมามองหน้าคนตัวเล็กยิ่งทำให้เขา
ตกใจ น้ำตาไหลรินลงจากดวงตาคู่สวยอย่างไม่ขาดสาย ทั้งที่เมื่อตะกี้เธอไม่มีท่าทีขัดขืนเขาแม้แต่น้อย
แล้วเขาก็ไม่รู้สึกสักนิดเลยว่าเธอกำลังร้องไห้
“ฟาง”ลำคอแห้งผากทำให้เขาเอ่ยได้ลำบากมากยิ่งขึ้น
“ฉันไปรอที่เตียงนะคะ”เธอเดินเข้าห้องนอนไปอย่างเหม่อลอย ตั้งแต่กลับมาจากห้างแล้ว คนตัวเล็กก็ดูจะ
เปลี่ยนไปเป็นคนละคน ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าที่เธอเอ่ยเพราะต้องการประชดประชัน แต่เมื่อกลับเข้ามาใน
ห้องนอนเพื่อจะมาง้อเธอต่อ ภาพเบื้องหน้าแทบทำให้เขาหยุดหายใจ ร่างเล็กที่มีเพียงผ้าขนหนูผืนเล็กที่พัน
ห่อร่างกายแสนเย้ายวนไว้อย่างหมิ่นเหม่ เธอกำลังนอนคว่ำหน้าอยู่บนที่นอนหนานุ่ม
เขาทรุดตัวลงนั่งข้างๆร่างเล็กที่นอนคว่ำและหลับตาพริ้มอยู่
“ทำไมถึงทำแบบนี้ เป็นอะไรไป”เขาถามอย่างเหนื่อยใจ เมื่อเธอคิดอะไร รู้สึกยังไงก็ไม่เคยบอกให้เขาได้รับรู้
เลยตั้งแต่กลับมาจากห้าง
“ฉันหรอคะ?”น้ำเสียงสั่นเครือเอ่ยออกมาอย่างเศร้าสร้อย
“ฟางนั่นแหละ เป็นอะไรไป แล้วมานอนยั่วอย่างนี้เดี๋ยวก็ไม่ได้นอนกันพอดี”เขาตลบผ้าห่มห่มให้ร่างเล็ก
เพราะถ้านานกว่านี้คงเป็นเขาเองที่ทนไม่ได้
“ทำไมล่ะคะ คุณไม่ชอบร่างกายของฉันแล้วหรอคะ มันคงช้ำไปหมด กลายเป็นของเก่าไปแล้ว ไม่นานคุณก็
จะเขี่ยทิ้งใช่รึเปล่าคะ”น้ำเสียงและประโยคที่คนตัวเล็กเพิ่งพูดออกมา ทำเอาเขาสะอึก หากที่ผ่านมาเขา
เห็นค่าเธอ เธอคงไม่จำอะไรที่เลวร้ายจนฝังจิตฝังใจอย่างนี้
“ทำไมถึงพูดแบบนั้น”เขามองเธอที่นอนสะอื้นจนตัวโยน แล้วรู้สึกสงสารขึ้นมาจับใจ แล้วก็รู้สึกอยากจะฆ่า
ตัวเองนัก เพราะเขาแท้ๆ
“แล้วมันไม่ถูกหรอคะ...ที่ฉันเข้าใจแบบนี้ตลอดมาเพราะคุณได้พิสูจน์ให้ฉันเข้าใจแบบนี้เอง”นั้นยิ่งทำให้เขา
ตกใจ
“ฟาง ทำไม....”หากตอนนี้เขากลับไปย้อนเวลาได้ เขาอยากจะกลับไปเริ่มต้นกับเธอใหม่ จะไม่ทำให้เธอรู้สึก
อย่างนี้เลยแม้แต่น้อย
“ฉัน ฮึก ไม่เคยมีค่าในสายตาของคุณอยู่แล้ว เป็นผู้หญิงใจง่าย เป็นผู้หญิงหน้าด้านไร้ยางอาย เป็นผู้หญิง
ไม่มีศักดิ์ศรี เป็นทุกๆอย่างที่คุณอยากให้ฉันเป็น”
“ฟางเรามีค่าสำหรับพี่เสมอนะ ฟางเป็นผู้หญิงที่พี่รัก เป็นแม่ของลูก เป็นเมียของพี่”เธอพลิกตัวนอนหงาย
ก่อนสายตาโศกจะจ้องเขาตอบ ในดวงตาคู่สวยที่เคยสดใส แต่ตอนนี้กลับถูกบดบังไว้ด้วยม่านน้ำตา
“อย่าโกหกกันอีกจะได้รึเปล่า เมื่อกลางวันนี้ฉันเห็นกับตา คุณไม่ได้มีท่าทีว่าจะเลิกกับคุณพิมสักนิดเลย...
คงเป็นฉันเองเสียมากกว่าที่กำลังจะโดนเขี่ยทิ้ง”น้ำตาของเธอไหลรินราวกับทำนบแตก
“พี่ไม่เคยโกหก พูดคำไหนก็คำนั้น ถ้าไม่เชื่อใจกันอย่างนี้ ต่อให้ตอนไหนเราก็คงคุยกันไม่รู้เรื่องหรอก”
“เพราะฉันเชื่อใจคุณมากเกินไปต่างหาก ฉันถึงได้ตัดใจไม่ลงสักที จะทิ้งวันไหนก็บอกก่อนเถอะนะคะ...”
“ทำไม!!!จะรีบแล่นไปหาไอ้เวรนั่นใช่มั้ย ชีวิตเธอมันขาดผู้ชายไปไม่ได้เลยใช่มั้ย”เขาตวาดขึ้นอย่างเดือด
ดาล นี่น่ะหรอเหตุผลที่เงียบมาตั้งแต่กลางวัน ที่แท้ก็หาเรื่องเลิกกับเขานี่เอง
“เลิกดูถูกฉันซะทีเถอะ ที่ทำมาทั้งหมดมันยังไม่สาแก่ใจคุณอีกหรอ”มือเล็กผลักอกของเขาอย่างแรง
“ฉันทำอะไรห๊ะ ไหนลองบอกมาสิ บอกมา เล่ามาให้มันหมดๆเลยนะ!!!!”ร่างเล็กแทบอยากจะปล่อยโฮ
ออกมา ทำไมเขาถึงได้น่ากลัวถึงขนาดนี้ โดยเฉพาะเวลาโกรธ พระอินทร์พระพรหมหน้าไหนก็ไม่สนทั้งนั้น
แล้วอย่างนี้เธอจะไม่ถูกบีบตายคามือเขาหรอกหรือ
“ฮึก ฮือๆ ฮือ ฮึก อย่านะ!”เธอร้องเสียงหลง เมื่อเขาพลิกกายเข้าคร่อมร่างเล็ก ดวงตาคู่นั้นฉายแววดุดัน
พร้อมจะฆ่าลูกไก่ในกำมืออย่างเธอให้ตายได้ในนาทีนั้นเลย
เสียงโทรศัพท์เครื่องหรูของฟางที่ดังขึ้นทั้งสองหันไปมองเป็นตาเดียว ก่อนฟางจะเอื้อมมือไปคว้ามันมากด
รับ โดยไม่สนใจที่จะดูชื่อสักนิด...ขอแค่ตอนนี้เธอยังไม่ต้องรองรับอารมณ์ของชายหนุ่มก็พอ อะไรก็ได้
ทั้งนั้น
“สวัสดีครับน้องฟาง กวินเองนะ”เธอลอบถอนหายใจเบาๆ ทำไมต้องโทรมาตอนนี้ด้วยนะ
“ค่ะ”เธอตอบอย่างไม่ใส่ใจ สายตากลับมองผ่านม่านน้ำตาดูท่าทีของคนตัวโตที่ยังไม่ไหวติง
นั้นก็ยิ่งเป็นสัญญาณน่ากลัวสำหรับเธอ
“ผมอยากนัดทานข้าวด้วยกันสักมื้อ ไม่รู้ว่าคุณจะรังเกียจหรือเปล่า”
“ค่ะ”เธอตอบไปอย่างไม่รู้ตัว แต่ใครจะรู้ว่าปัญหาที่ตามมาพร้อมกับคำสั้นๆนั้นร้ายกาจแค่ไหน
“ครับ ขอบคุณนะครับ เดี๋ยวผมจะไปรับพรุ่งนี้ตอนหกโมงเย็นนะครับ”
“ค่ะ”
“ฝันดีครับ”
“ค่ะ”กว่าเธอจะมารู้ตัวอีกทีว่าปลายสายได้ตัดไปแล้วก็นานพอควร เธอวางโทรศัพท์ลงที่เดิม
“ใครโทรมา”ชายหนุ่มถามติดน้ำเสียงจะไม่พอใจ ทำไมเขาชอบทำให้เธอคิดไปเองอยู่เรื่อยเลยนะ
“กวิน”
“โทรมาทำไม!”มือหนาที่ไม่ต่างจากคีมเหล็กบีบเข้าที่ปลายคางของเธออย่างแรง
“ไม่รู้”เธอตอบไปอย่างซื่อๆ ก็ไม่ได้ฟังนี่...จะรู้เรื่องได้ยังไง
“โกหก!!!บอกมา”เธอยังคงส่ายหน้า และนั้นยิ่งเป็นการจุดชนวนอารมณ์คุกรุ่นให้ก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว
ภายในหัวใจของชายหนุ่ม
“นัดกันไปที่ไหน บอกมา...ไม่อย่างนั้นอย่าหวังเลยว่าฉันจะปล่อยให้เธอลงจากเตียง”เขาเอ่ยอย่างหงุดหงิด
“อย่านะ...ฮึก ฉันไม่รู้จริงๆ ไม่ได้ตั้งใจฟัง”เธอหลุบตาลง ความเจ็บที่ปลายคางกำลังเล่นงานเธอ
“แล้วตอบแค่คำว่า ค่ะ ถ้ามันนัดเธอไปนอนกับมันเธอก็ตกลงงั้นสิ”เขามองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วย
ความโกรธา
“คงไม่มีใครคิดอะไรได้ต่ำๆแบบคุณหรอก....วันๆคิดได้แต่เรื่องพรรค์นั้น”
“หึ...”เขาเหยียดรอยยิ้มร้ายกาจ มือหนาเลื้อยไปปลดปมผ้าขนหนูผืนน้อยออก ทั้งๆที่พยายามยื้อไว้แล้ว
แท้ๆ แต่แรงอันน้อยนิดบวกกับความอ่อนแอตอนนี้ ทำให้เธอไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เลย เธอรู้ดีว่า
หลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น...แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ปล่อยน้ำตาให้ไหลรินลงอย่างอดสู
“ปล่อยมือออกจากคางของฉันนะ...ฉันเจ็บ!”
“เจ็บนิดเจ็บหน่อยจะเป็นไรไป...ต่อไปนี้เธอจะเจ็บมากกว่านี้อีก”เขายอมปล่อยมืออกจากคางของเธอ
ป่านนี้คางมันก็คงเต็มไปด้วยรอยนิ้วมือแล้วล่ะมั้ง
“ปล่อยฉันนะ...เอาคืนมา”เธอพยายามแย่งผ้าขนหนูจากมือของเขา แต่ตอนนี้มันก็ไม่มีประโยชน์แล้ว เมื่อ
ผ้าผืนน้อยถูกเหวี่ยงลงบนพื้นอย่างไม่ใยดี ลงไปกองรวมกับผ้านวมผืนใหญ่เรียบร้อยแล้ว
“มานอนห่อผ้าขนหนูยั่วฉันเองนะ....แค่สนองความใคร่ให้ เธอควรจะขอบคุณฉันมากกว่านะ”พูดจบริม
ฝีปากร้ายกาจก็ฉกวูบลงครอบครองยอดอกอย่างหื่นกระหาย
ชายหนุ่มดูดกลืนยอดอกของคนตัวเล็กอย่างแรง จนเธอมีสีหน้าเหยเก หากแต่มือเล็กที่
กำลังผลักศีรษะของร่างสูงนั้น กลับไม่ส่งผลกระทบใดๆต่อเขาเลย
“โอ้ย อย่าๆ ฮือ”หญิงสาวร้องขอความเห็นใจอย่างน่าสงสาร แต่ความโกรธที่มีมากกว่าทำให้ร่างสูงเลือกที่
จะไม่ได้ยินเสียงหวานนั่น นิ้วเรียวสอดลึกเข้าสำรวจกายสาวที่ยังคงคับแน่น ทั้งๆที่เขาก็ได้เข้ามาเยือน
ความอ่อนนุ่มนี่หลายครั้งหลายครา แต่เธอก็ยังดูเย้ายวนและน่าหลงใหล น้ำหวานเริ่มผลิตออกมาจนเปียก
ชุ่มนิ้วเรียวของเขา ชายหนุ่มก้มลงดื่มด่ำอย่างไม่นึกรังเกียจ ซึ่งร่างเล็กที่ไร้ซึ่งหนทางขัดขืนก็เริ่มคล้อยตาม
มือหนาปัดผมนุ่มที่ปิดบังใบหน้าสวยหวาน นิ้วเรียวกรีดไล้น้ำตาที่นองหน้าอย่างอ่อนโยน แต่เธอกลับไม่ได้
หยุดร้องเลย น้ำตายิ่งไหลลงมาเป็นเท่าตัว
“ร้องทำไม”เขาขมวดคิ้วมือคนตัวเล็กที่ร้องไห้สะอื้นจนตัวโยน
“ฮึก ฮือๆ ฉันกลัว ปล่อยฉันไปเถอะนะคะ ถ้าฉันทำอะไรให้คุณโกรธฉันขอโทษ ฮึก ให้ฉันทำอะไรก็ได้ ฉันทำ
ได้ทั้งนั้น แต่อย่าทำกับฉันแบบนี้เลยนะคะ ฮือ...”หญิงสาวยกมือขึ้นไหว้อย่างน่าสงสาร
“คนเป็นสามีภรรยากันเขาก็ทำแบบนี้กันทั้งนั้น เธอชอบให้ฉันทำแบบนี้ไม่ใช่หรอ”
“ฮือ ไม่ๆ ปล่อยฉันเถอะ”
“ทำไมถึงกลัวล่ะ ฉันอุตส่าห์อ่อนโยนกับเธอแล้ว”คำว่า อุตส่าห์ ที่เขาพูดออกมามันก็ไม่ต่างไปจากมีดคมที่
กรีดลงกลางใจของเธอเลย
“มันเจ็บ เจ็บทุกๆครั้งที่คุณสัมผัสฉัน ถึงคุณจะพยายามอ่อนโยนกับฉันมากแค่ไหน แต่ทุกๆครั้งสมองมันก็
คอยฉายซ้ำเหตุการณ์คืนนั้น มันไม่ต่างไปจากการข่มขืนสักนิดเลย ฉันไม่เคยลืมมันได้สักครั้ง ในเมื่อคุณ
ไม่ได้รักฉัน แล้วทำไมต้องพยายามครอบครองฉัน หากครั้งนั้นจะเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้าย ฉันอาจจะลืม
มันไปแล้ว ถ้ามันไม่มีครั้งต่อมา คุณระบายความโกรธกับร่างกายของฉัน ฉันไม่ใช่โสเภณีนะคะ ทำไมคุณ
ไม่นึกถึงใจฉันเลย แค่นี้ฉันก็ไม่เหลือศักดิ์ศรีอะไรให้คุณย่ำยีอีกแล้ว ทำไมถึงได้ใจร้ายขนาดนี้”เมื่อพูดจบ
ร่างเล็กกลับสวมกอดเขา น้ำตาไหลรินรดเสื้อเชิ้ตของเขา
“ทั้งๆที่ฉันรักคุณมากขนาดนี้ แต่ทำไมคุณไม่เห็นค่าของฉันเลย...ฉันมันไร้ค่าขนาดนั้นเลยหรอคะ คุณอยู่กับ
ฉันเพราะบริษัทของคุณใช่รึเปล่า เพราะมรดก เพราะเงินพวกนั้นใช่มั้ย ฮือ”ชายหนุ่มสะบัดร่างเล็กออกเต็ม
แรง นี่เธอจะดูถูกความรักของเขามากเกินไปหน่อยละมั้ง
“ที่ฉันพูดกับเธอไปตอนอยู่ที่บ้านคุณย่าเธอไม่ได้ฟังเลยใช่มั้ย!!!!”ดวงตาฉาแววความโกรธเกรี้ยวและดุดัน
จนหญิงสาวเองขนลุกเกรียวไปทั้งตัว
“มันก็แค่แผนทำให้ฉันตายใจ!!...ฉันไม่ได้โง่นะ!!!!”เธอตอบโต้ไปอย่างไม่ยอมแพ้เช่นกัน
“งั้นฉันก็โง่งั้นสิ!!!”เขากระชากร่างของหญิงสาวให้ลุกขึ้นตามก่อนจะเหวี่ยงเธอลงบนพื้นเต็มแรง แล้วก้ม
ตัวลงหมายจะทาบทับลงบนร่างบอบบาง แต่...
“โอ๊ย ฮือ ปวดท้อง ชะ ช่วยด้วย”หญิงสาวยกมือขึ้นกุมท้อง สีหน้าบ่งบอกถึงความเจ็บปวด แต่ที่สำคัญ....!!!
.......................................................................................................................
มาแล้ววววววว ฉลองโลกแตก ฮ่าๆ ม่ายนะนี่เราตายกันหมดแล้วหรอเนี่ย ให้ตายเถอะ...เราบ้าไปแล้ว
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ