The Loveless หัวใจไร้รัก...(แล้วฉันต้องทำอย่างไร?)
9.2
2) ความเฉยชา
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความThe Loveless หัวใจไร้รัก...(แล้วฉันต้องทำอย่างไร?)
ตอนที2 ความเฉยชา...
ชายหนุ่มที่กำลังนั่งทานอาหารอย่างเงียบๆ และมองไปรอบๆอย่างสนใจอะไรอยู่ ก่อนสายตาจะไปสะดุดกับร่างบาง
ของคนรักของเขา เธอมากับผู้ชายคนอื่น เขารีบลุกตามคนรักไป...
หากแต่ร่างเล็กที่รั้งข้อมือเขาไว้
“จะไปไหนคะพี่ป๊อป”ก่อนเขาจะสะบัดข้อมือเล็กออกโดยไม่ตอบอะไรเลย แล้ววิ่งตามคนรักไป
น้ำตาที่กำลังคลอหน่วยอยู่ที่ดวงตากลมโตบ่งบอกได้ดีว่าเจ้าของดวงตานั้นทุกข์ใจแค่ไหน
ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าเขาจะวิ่งตามอะไรไป...เธอคนนั้นสินะ
แต่ที่เธอถามก็เพื่อรั้งเขาไว้...แต่มันก็ไม่มีผลอะไร
กี่ครั้งกี่หนแล้วที่เธอถูกทิ้งเอาไว้อย่างนี้...เขาทำเหมือนเธอเป็นสิ่งของที่ไม่มีหัวจิตหัวใจ...คิดจะทำอะไรก็ได้
มันคงจะดีกว่านี้...หากใจเจ้ากรรมของเธอไม่ได้รักเขา
เธอคิดอย่างเศร้าๆแต่ก็ไม่ได้กลับบ้านไป...เธอยังนั่งรอเขาอยู่ที่เดิม
......................................................................................................................................
ร่างสูงที่วิ่งตามร่างบางของคนรักมา ก่อนจะกระชากตัวเธอเข้ามาหาร่างของเขา
“พิม!!!”เขาเรียกชื่อคนรักอย่างโกรธๆ
“ป๊อป!!!”เธอที่ตกใจ เมื่อเห็นชายหนุ่ม เขามาได้ยังไงนะ
“มาทำอะไรที่นี่”ชายหนุ่มถามเธอเสียงเย็นเยียบ
“คือ...พิม...พิมมาทานข้าวกับลูกค้า”เธอโกหกคำโตออกไป หากชายหนุ่มรู้ว่าเธอแอบมีคนอื่นเธอต้องตายแน่ๆ
“ทานข้าวตอนเกือบห้าทุ่มเนี่ยนะ”
“ค่ะ ก็ลูกค้าอยากเปลี่ยนบรรยากาศ”เธอตอบไปเสียงเรียบๆ
“หึ ดึกขนาดนี่ทำไมไม่เข้าม่านรูดเลยล่ะ ผมไม่ได้โง่นะ”ชายหนุ่มพูดก่อนจะเดินจากเธอไป เธอจึงไปกอดเขาจาก
ทางด้านหลัง
“ป๊อปคะ พิมไม่เคยโกหกคุณนะ”ใช่เธอไม่เคยโกหกชายหนุ่ม แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรก
“เรามากันหลายคนนะคะ แต่เพื่อนๆพิมกลับหมดแล้ว”เธอพูดอีกครั้งเมื่อชายหนุ่มยังเงียบอยู่ ก่อนจะเหยียดยิ้ม
ออกมาน้อยๆเมื่อเขาหันมาหาเธอ เขาชั่งใจเล็กน้อยก่อนจจะเปิดปากพูดออกมา
“ครั้งนี้ผมจะเชื่อก็ได้...ไปกันเถอะเดี๋ยวผมไปส่งที่บ้าน”ชายหนุ่มพูดพร้อมกับจูงมือเธอไปที่รถ
แล้วขับไปส่งเธอที่บ้าน
“ขอบคุณนะคะ”พิมพูดก่อนจะกดจมูกลงบนแก้มของชายหนุ่ม ก่อนจะลงรถไป เขาจึงออกรถเพื่อกลับไปที่บ้าน
ของเขาบ้าง
ถึงเขาจะรู้สึกแปลกๆที่โดนคนรักหอมแก้ม...มันแปลกๆ...ไม่เหมือนแต่ก่อน
ขนาดนักเรียนนอกอย่างฟางยังไม่เคยทำแบบนั้นกับเขาเลย ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าเขาทิ้งเธอไว้ที่นั่น
แต่ดึกป่านนี้เธอคงหาทางกลับเองแล้วมั้ง...
ก่อนเขาจะขับรถเข้าบ้านตัวเอง
...................................................................................................................................
“อ้าวฟางกลับมาแล้วหรอลูก”คุณหญิงระวีเอ่ยทักบุตรสาวที่ก้าวเข้ามาในบ้าน ก่อนบุตรสาวจะเข้ามากอดนางไว้ ตัว
ที่สั่นน้อยของลูกทำให้นางรู้ว่าเธอกำลังร้องไห้อยู่
“เป็นอะไรไปลูก”นางถามเมื่อลูกสาวตัวน้อยยังเอาแต่ร้องไห้อย่างเดียว
“แม่คะ...ฟางถูกทิ้งอีกแล้ว”ลูกสาวตอบนางอู้อี้ในอ้อมกอดของนาง
“โถ ลูก...พี่เขาอาจจะมีธุระก็ได้”นางเอ่ยปลอบลูกสาว ถึงภายนอกลูกสาวของนางจะดูเข้มแข็ง ไม่ยอมคน แต่
เวลาอยู่กับครอบครัวกับต่างกันเหลือเกิน
“เขาวิ่งไปตามเธอคนนั้น แล้วทิ้งฟางไว้...”เธอเอ่ยเล่าเหตุการณ์ที่เธอพบเจอ....ถึงมันจะเจ็บ
แต่มันคือความจริง....
“ฟางไม่อยากรักเขาแล้ว”บุตรสาวเอ่ยออกมาอย่างเอาแต่ใจ
“ถ้าลูกทำได้อย่างที่พูดก็ดี...”ก่อนเธอจะผุดขึ้นมาจากอ้อมกอดของมารดา
“แต่ฟางก็ยังรักเขา”
“มันอยู่ที่ตัวของหนูลูก...”ก่อนนางจะลูบศีรษะสวยของบุตรสาวเป็นเชิงปลอบๆ
“ไม่ว่าจะยังไง ฟางก็จะเอาเขามาเป็นของฟางให้ได้”นางส่ายหัวน้อยๆให้กับบุตรสาว
เธอถูกเลี้ยงดูมาอย่างดี... อยากได้อะไรก็ต้องได้... ไม่มีอะไรที่เธออยากได้แล้วไม่ได้...
หากบทเรียนรักครั้งนี้อาจจะสอนอะไรลูกสาวของนางบ้างก็ได้...
“ฟาง วันมะรืนไปเยี่ยมคุณย่ากับแม่นะ”นางเอ่ยกับบุตรสาว เพื่อเฉไฉเปลี่ยนเรื่อง
“ค่ะ ฟางจะไปจัดงานวันเกิดให้คุณย่าด้วย”เหมือนลูกสาวของนางจะเปลี่ยนโหมดเร็วซะเหลือเกิน เพราะเมื้อกี้ยัง
ร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่เลย แต่ตอนนี้ดวงตาคู่สวยกลับฉายแววขี้เล่นขึ้นมาอีกแล้ว
“งั้นก็ดีเลยจ้ะ แม่จะได้โทรไปชวนคุณนันทาเลย”นางเอ่ยถึงเพื่อนรักของนางซึ่งเป็นมารดาของชายหนุ่มที่ลูกสาว
ของนางชอบพออยู่ ก่อนบุตรสาวจะหันขวับมาทันที
“แม่ว่าพี่ป๊อปจะไปมั้ยคะ”เธอหันมาถามด้วยแววตาวาววับ
“หนูก็ลองชวนดูสิจ้ะ”นางเอ่ยออกไป
“ค่ะ งั้นพรุ่งนี้ฟางไปหาพี่ป๊อปที่บริษัทดีกว่า”ลูกสาวของนางเอ่ยก่อนจะเดินตัวปลิวคนห้องไป
ตั้งแต่เล็กจนโตเจ้าหญิงตัวน้อยของนางก็ดูจะเอาแต่ใจตัวเองมาตลอด...
ยิ่งมีสามีของนางคอยให้ท้าย เธอก็ยิ่งได้ใจไปใหญ่ แต่ถึงแม้ว่าภายนอกของบุตรสาวจะดูแข็งกร้าว
หากแต่ภายในนั้นเต็มไปด้วยความอ่อนโยน เธอก็เหมือนมีดที่มีเพียงด้านที่คมเพียงด้านเดียว
ที่ใครต่อใครก็บอกว่ามีดนั้นคมกริบ แต่ใครจะคำนึงถึงว่าอีกด้านหนึ่งของมันก็ไม่ต่างอะไรไปจากเหล็กที่ไม่มีคม
อะไรเลยแม้แต่นิด....
แล้วแต่ใครจะได้เห็นมุมที่อ่อนโยนและบอบบางของเธอก็เท่านั้น....
.....................................................................................................................................................
“ตาป๊อปกลับมาแล้วหรอลูก...วันนี้น้องไปหาที่บริษัทรึเปล่า”มารดาเอ่ยถามลูกชายที่เข้ามา
“ครับ”เขาตอบอย่างเหนื่อยหน่าย ก็เพราะว่ามารดาของเขาดูจะปลื้มยัยเด็กนั่นยิ่งกว่าเขาเสียอีก หากแต่งงานแทน
เขาได้ คงจะทำไปแล้วมั้ง
“วันนี้พาน้องไปไหนรึเปล่า”มารดาเอ่ยถามอย่างอารมณ์ดี
“ครับไปทานข้าว”ชายหนุ่มเลือกที่จะเก็บเรื่องที่เขาทิ้งยัยนั้นไปที่ร้านอาหาร
“แล้ว...”ยังไม่ทันที่มารดาจะได้ซักเขาต่อ ชายหนุ่มก็ชิงพูดขึ้นมาก่อน
“ผมไปนอนก่อนนะครับง่วง”ก่อนเขาจะเดินขึ้นห้องไป แต่เสียงของมารดารั้งเขาไว้
“ลูกไม่สงสารน้องบ้างหรือตาป๊อป”เขาหันหลังกลับไปเผชิญหน้ากับมารดา
“ทำไมผมต้องสงสารเธอ...เธอไม่เห็นมีอะไรน่าสงสารสักนิด”
“สองปีที่ผ่านมา...มันยังน่าสงสารไม่พออีกหรอลูก”
“คุณแม่หมายถึงอะไรครับ”เขาถามออกไปเมื่อเขาไม่เข้าใจคำถามของมารดาสักนิด
“ลูกเคยรักใครข้างเดียวรึเปล่า”คำถามของมารดายิ่งทำให้เขางงมากกว่าเดิม
“ไม่ครับ”เขาตอบออกไปอย่างหนักแน่น
“งั้นลูกก็คงไม่เข้าใจน้องหรอก...ว่ามันทรมานแค่ไหน”
“ผมก็ไม่ได้อยากเข้าใจ”เขาพูดก่อนจะเดินขึ้นห้องไป เสียงข้อความที่ดังขึ้น ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าของใคร
ฝันดีนะคะพี่ป๊อป อย่าทำงานจนดึกนะ
เขาส่ายหน้าน้อยๆกับข้อความที่เธอเพียรส่งมาทุกวัน ตลอดสองปีที่ผ่านมา
“ไม่เบื่อบ้างรึไงวะ”เขาพูดก่อนจะโยนมือถือไปที่เตียง
เธอหมั้นกับเขาเมื่อสองปีที่แล้ว แล้วเจ้าตัวก็กลับไปเรียนต่อที่เมืองนอก แต่ทุกปีก็จะกลับมาเมืองไทยในช่วงปิด
ภาคเรียน รวมถึงปีนี้ด้วยที่เธอกลับมาเยี่ยมครอบครัวที่เมืองไทย...
เธอเป็นผู้หญิงที่น่ารำคาญที่สุดในชีวิตเขาเลยก็ว่าได้...
คอยจุกจิกจู้จี้เขาตลอด...ชวนไปทานข้าวบ้าง...ดูหนังบ้าง
ไม่รู้ว่าเธอทนได้ยังไง...ทั้งๆที่เขาพยายามแสดงท่าทีเต็มที่ว่าไม่ได้สนใจเธอเลย
เขาปลีกตัวออกมาจากภวังค์แสนงี่เง่าของตัวเอง ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปทำธุระส่วนตัว แล้วกลับมานอน
.................................................................................................................................
เราตัดสินใจแล้วว่าจะอัพเรื่องนี้ต่อ และสัญญาว่าจะอัพให้จบ เราจะอัพสลับกับกันละกันนะ ถ้าวันไหนติดขัดบ้างก็
อย่าโกรธกันนะ แล้วที่สำคัญอย่าเพิ่งทิ้งกันไป^^
ตอนที2 ความเฉยชา...
ชายหนุ่มที่กำลังนั่งทานอาหารอย่างเงียบๆ และมองไปรอบๆอย่างสนใจอะไรอยู่ ก่อนสายตาจะไปสะดุดกับร่างบาง
ของคนรักของเขา เธอมากับผู้ชายคนอื่น เขารีบลุกตามคนรักไป...
หากแต่ร่างเล็กที่รั้งข้อมือเขาไว้
“จะไปไหนคะพี่ป๊อป”ก่อนเขาจะสะบัดข้อมือเล็กออกโดยไม่ตอบอะไรเลย แล้ววิ่งตามคนรักไป
น้ำตาที่กำลังคลอหน่วยอยู่ที่ดวงตากลมโตบ่งบอกได้ดีว่าเจ้าของดวงตานั้นทุกข์ใจแค่ไหน
ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าเขาจะวิ่งตามอะไรไป...เธอคนนั้นสินะ
แต่ที่เธอถามก็เพื่อรั้งเขาไว้...แต่มันก็ไม่มีผลอะไร
กี่ครั้งกี่หนแล้วที่เธอถูกทิ้งเอาไว้อย่างนี้...เขาทำเหมือนเธอเป็นสิ่งของที่ไม่มีหัวจิตหัวใจ...คิดจะทำอะไรก็ได้
มันคงจะดีกว่านี้...หากใจเจ้ากรรมของเธอไม่ได้รักเขา
เธอคิดอย่างเศร้าๆแต่ก็ไม่ได้กลับบ้านไป...เธอยังนั่งรอเขาอยู่ที่เดิม
......................................................................................................................................
ร่างสูงที่วิ่งตามร่างบางของคนรักมา ก่อนจะกระชากตัวเธอเข้ามาหาร่างของเขา
“พิม!!!”เขาเรียกชื่อคนรักอย่างโกรธๆ
“ป๊อป!!!”เธอที่ตกใจ เมื่อเห็นชายหนุ่ม เขามาได้ยังไงนะ
“มาทำอะไรที่นี่”ชายหนุ่มถามเธอเสียงเย็นเยียบ
“คือ...พิม...พิมมาทานข้าวกับลูกค้า”เธอโกหกคำโตออกไป หากชายหนุ่มรู้ว่าเธอแอบมีคนอื่นเธอต้องตายแน่ๆ
“ทานข้าวตอนเกือบห้าทุ่มเนี่ยนะ”
“ค่ะ ก็ลูกค้าอยากเปลี่ยนบรรยากาศ”เธอตอบไปเสียงเรียบๆ
“หึ ดึกขนาดนี่ทำไมไม่เข้าม่านรูดเลยล่ะ ผมไม่ได้โง่นะ”ชายหนุ่มพูดก่อนจะเดินจากเธอไป เธอจึงไปกอดเขาจาก
ทางด้านหลัง
“ป๊อปคะ พิมไม่เคยโกหกคุณนะ”ใช่เธอไม่เคยโกหกชายหนุ่ม แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรก
“เรามากันหลายคนนะคะ แต่เพื่อนๆพิมกลับหมดแล้ว”เธอพูดอีกครั้งเมื่อชายหนุ่มยังเงียบอยู่ ก่อนจะเหยียดยิ้ม
ออกมาน้อยๆเมื่อเขาหันมาหาเธอ เขาชั่งใจเล็กน้อยก่อนจจะเปิดปากพูดออกมา
“ครั้งนี้ผมจะเชื่อก็ได้...ไปกันเถอะเดี๋ยวผมไปส่งที่บ้าน”ชายหนุ่มพูดพร้อมกับจูงมือเธอไปที่รถ
แล้วขับไปส่งเธอที่บ้าน
“ขอบคุณนะคะ”พิมพูดก่อนจะกดจมูกลงบนแก้มของชายหนุ่ม ก่อนจะลงรถไป เขาจึงออกรถเพื่อกลับไปที่บ้าน
ของเขาบ้าง
ถึงเขาจะรู้สึกแปลกๆที่โดนคนรักหอมแก้ม...มันแปลกๆ...ไม่เหมือนแต่ก่อน
ขนาดนักเรียนนอกอย่างฟางยังไม่เคยทำแบบนั้นกับเขาเลย ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าเขาทิ้งเธอไว้ที่นั่น
แต่ดึกป่านนี้เธอคงหาทางกลับเองแล้วมั้ง...
ก่อนเขาจะขับรถเข้าบ้านตัวเอง
...................................................................................................................................
“อ้าวฟางกลับมาแล้วหรอลูก”คุณหญิงระวีเอ่ยทักบุตรสาวที่ก้าวเข้ามาในบ้าน ก่อนบุตรสาวจะเข้ามากอดนางไว้ ตัว
ที่สั่นน้อยของลูกทำให้นางรู้ว่าเธอกำลังร้องไห้อยู่
“เป็นอะไรไปลูก”นางถามเมื่อลูกสาวตัวน้อยยังเอาแต่ร้องไห้อย่างเดียว
“แม่คะ...ฟางถูกทิ้งอีกแล้ว”ลูกสาวตอบนางอู้อี้ในอ้อมกอดของนาง
“โถ ลูก...พี่เขาอาจจะมีธุระก็ได้”นางเอ่ยปลอบลูกสาว ถึงภายนอกลูกสาวของนางจะดูเข้มแข็ง ไม่ยอมคน แต่
เวลาอยู่กับครอบครัวกับต่างกันเหลือเกิน
“เขาวิ่งไปตามเธอคนนั้น แล้วทิ้งฟางไว้...”เธอเอ่ยเล่าเหตุการณ์ที่เธอพบเจอ....ถึงมันจะเจ็บ
แต่มันคือความจริง....
“ฟางไม่อยากรักเขาแล้ว”บุตรสาวเอ่ยออกมาอย่างเอาแต่ใจ
“ถ้าลูกทำได้อย่างที่พูดก็ดี...”ก่อนเธอจะผุดขึ้นมาจากอ้อมกอดของมารดา
“แต่ฟางก็ยังรักเขา”
“มันอยู่ที่ตัวของหนูลูก...”ก่อนนางจะลูบศีรษะสวยของบุตรสาวเป็นเชิงปลอบๆ
“ไม่ว่าจะยังไง ฟางก็จะเอาเขามาเป็นของฟางให้ได้”นางส่ายหัวน้อยๆให้กับบุตรสาว
เธอถูกเลี้ยงดูมาอย่างดี... อยากได้อะไรก็ต้องได้... ไม่มีอะไรที่เธออยากได้แล้วไม่ได้...
หากบทเรียนรักครั้งนี้อาจจะสอนอะไรลูกสาวของนางบ้างก็ได้...
“ฟาง วันมะรืนไปเยี่ยมคุณย่ากับแม่นะ”นางเอ่ยกับบุตรสาว เพื่อเฉไฉเปลี่ยนเรื่อง
“ค่ะ ฟางจะไปจัดงานวันเกิดให้คุณย่าด้วย”เหมือนลูกสาวของนางจะเปลี่ยนโหมดเร็วซะเหลือเกิน เพราะเมื้อกี้ยัง
ร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่เลย แต่ตอนนี้ดวงตาคู่สวยกลับฉายแววขี้เล่นขึ้นมาอีกแล้ว
“งั้นก็ดีเลยจ้ะ แม่จะได้โทรไปชวนคุณนันทาเลย”นางเอ่ยถึงเพื่อนรักของนางซึ่งเป็นมารดาของชายหนุ่มที่ลูกสาว
ของนางชอบพออยู่ ก่อนบุตรสาวจะหันขวับมาทันที
“แม่ว่าพี่ป๊อปจะไปมั้ยคะ”เธอหันมาถามด้วยแววตาวาววับ
“หนูก็ลองชวนดูสิจ้ะ”นางเอ่ยออกไป
“ค่ะ งั้นพรุ่งนี้ฟางไปหาพี่ป๊อปที่บริษัทดีกว่า”ลูกสาวของนางเอ่ยก่อนจะเดินตัวปลิวคนห้องไป
ตั้งแต่เล็กจนโตเจ้าหญิงตัวน้อยของนางก็ดูจะเอาแต่ใจตัวเองมาตลอด...
ยิ่งมีสามีของนางคอยให้ท้าย เธอก็ยิ่งได้ใจไปใหญ่ แต่ถึงแม้ว่าภายนอกของบุตรสาวจะดูแข็งกร้าว
หากแต่ภายในนั้นเต็มไปด้วยความอ่อนโยน เธอก็เหมือนมีดที่มีเพียงด้านที่คมเพียงด้านเดียว
ที่ใครต่อใครก็บอกว่ามีดนั้นคมกริบ แต่ใครจะคำนึงถึงว่าอีกด้านหนึ่งของมันก็ไม่ต่างอะไรไปจากเหล็กที่ไม่มีคม
อะไรเลยแม้แต่นิด....
แล้วแต่ใครจะได้เห็นมุมที่อ่อนโยนและบอบบางของเธอก็เท่านั้น....
.....................................................................................................................................................
“ตาป๊อปกลับมาแล้วหรอลูก...วันนี้น้องไปหาที่บริษัทรึเปล่า”มารดาเอ่ยถามลูกชายที่เข้ามา
“ครับ”เขาตอบอย่างเหนื่อยหน่าย ก็เพราะว่ามารดาของเขาดูจะปลื้มยัยเด็กนั่นยิ่งกว่าเขาเสียอีก หากแต่งงานแทน
เขาได้ คงจะทำไปแล้วมั้ง
“วันนี้พาน้องไปไหนรึเปล่า”มารดาเอ่ยถามอย่างอารมณ์ดี
“ครับไปทานข้าว”ชายหนุ่มเลือกที่จะเก็บเรื่องที่เขาทิ้งยัยนั้นไปที่ร้านอาหาร
“แล้ว...”ยังไม่ทันที่มารดาจะได้ซักเขาต่อ ชายหนุ่มก็ชิงพูดขึ้นมาก่อน
“ผมไปนอนก่อนนะครับง่วง”ก่อนเขาจะเดินขึ้นห้องไป แต่เสียงของมารดารั้งเขาไว้
“ลูกไม่สงสารน้องบ้างหรือตาป๊อป”เขาหันหลังกลับไปเผชิญหน้ากับมารดา
“ทำไมผมต้องสงสารเธอ...เธอไม่เห็นมีอะไรน่าสงสารสักนิด”
“สองปีที่ผ่านมา...มันยังน่าสงสารไม่พออีกหรอลูก”
“คุณแม่หมายถึงอะไรครับ”เขาถามออกไปเมื่อเขาไม่เข้าใจคำถามของมารดาสักนิด
“ลูกเคยรักใครข้างเดียวรึเปล่า”คำถามของมารดายิ่งทำให้เขางงมากกว่าเดิม
“ไม่ครับ”เขาตอบออกไปอย่างหนักแน่น
“งั้นลูกก็คงไม่เข้าใจน้องหรอก...ว่ามันทรมานแค่ไหน”
“ผมก็ไม่ได้อยากเข้าใจ”เขาพูดก่อนจะเดินขึ้นห้องไป เสียงข้อความที่ดังขึ้น ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าของใคร
ฝันดีนะคะพี่ป๊อป อย่าทำงานจนดึกนะ
เขาส่ายหน้าน้อยๆกับข้อความที่เธอเพียรส่งมาทุกวัน ตลอดสองปีที่ผ่านมา
“ไม่เบื่อบ้างรึไงวะ”เขาพูดก่อนจะโยนมือถือไปที่เตียง
เธอหมั้นกับเขาเมื่อสองปีที่แล้ว แล้วเจ้าตัวก็กลับไปเรียนต่อที่เมืองนอก แต่ทุกปีก็จะกลับมาเมืองไทยในช่วงปิด
ภาคเรียน รวมถึงปีนี้ด้วยที่เธอกลับมาเยี่ยมครอบครัวที่เมืองไทย...
เธอเป็นผู้หญิงที่น่ารำคาญที่สุดในชีวิตเขาเลยก็ว่าได้...
คอยจุกจิกจู้จี้เขาตลอด...ชวนไปทานข้าวบ้าง...ดูหนังบ้าง
ไม่รู้ว่าเธอทนได้ยังไง...ทั้งๆที่เขาพยายามแสดงท่าทีเต็มที่ว่าไม่ได้สนใจเธอเลย
เขาปลีกตัวออกมาจากภวังค์แสนงี่เง่าของตัวเอง ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปทำธุระส่วนตัว แล้วกลับมานอน
.................................................................................................................................
เราตัดสินใจแล้วว่าจะอัพเรื่องนี้ต่อ และสัญญาว่าจะอัพให้จบ เราจะอัพสลับกับกันละกันนะ ถ้าวันไหนติดขัดบ้างก็
อย่าโกรธกันนะ แล้วที่สำคัญอย่าเพิ่งทิ้งกันไป^^
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.4 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.1 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ