วงเวียนแห่งรัก
8.9
เขียนโดย toey
วันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 เวลา 18.51 น.
76 chapter
3776 วิจารณ์
172.46K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 21.02 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
67) ฝันร้าย
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“เดี๋ยวก่อน อย่าพึ่งไป!” โทโมะรีบลุกตามแก้วมาแล้วคว้าแขนแก้วไว้ทันที
“ปล่อยนะ! ฉันจะกลับตามที่คุยอยากให้ฉันกลับแล้วไง ฮึก..” ฉันไม่อยากจะคิดว่าเราสองคนจะมาทะเลาะกัน
ท่ามกลางสายฝนแบบนี้
“ฉันบอกตอนไหนว่าจะให้เธอกลับ เข้าไปในห้องเดี๋ยวนี้เลย!” เขาพูดแล้วพยายามจะลากตัวฉัน
“ไม่เข้าปล่อย! อ๊ายยยยยยย~” ฉันร้องลั่นเมื่อพยายามยื้อตัวเองกับเขาแต่ไม่ทันได้ระวังว่าพื้นที่ยืนอยู่เป็นดินที่
โดนน้ำ(เป็นโคลน) ฉันเลยเสียหลักจะลื่นล้มแต่เขารับไว้ทันแล้วใช้โอกาสนี้อุ้มฉันเข้ามาในห้องทำงานของเขา
ทันที พออุ้มฉันเข้ามาได้แล้ว เขาก็ล็อกประตูห้องทำงานของเขาทันที
“ยัยคุณแม่ตัวแสบ ถ้าเมื่อกี้ฉันรับเธอไม่ทันคิดบ้างมั้ยว่าจะเกิดอะไรขึ้นนะ!!”
“ไม่รู้!! ฉันจะกลับบ้าน!” ฉันลุกพรวดเตรียมก้าวเดินไปที่ประตูที่ถูกล็อค แต่กลับรู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาที่ข้อเท้าฉัน
ถึงกับล้มไปซบอกเขาทันที เจ็บจนปวดเลย
“ข้อเท้าแพลงล่ะสิ ไหนมาดูสิ” เขานั่งยองกับพื้นแล้วจ้องมองมาที่เท้าทั้งสองข้างของฉันที่เลอะโคลน แต่เมื่อเห็น
ว่าฉันไม่ได้ยื่นเท้าไปให้เขาดู เขาเลยเดินเข้าไปในห้องน้ำแล้วกลับมาพร้อมกะละมังแล้วก็ผ้าผืนเล็กๆ
“.....” ฉันมองกระทำของเขาอย่างงงๆ
“ล้างเท้าหน่อยดีกว่า” เขาพูดแล้วเอาเท้าทั้งสองข้างของฉันชุ่มลงไปในกะละมังแล้วเขาก็ล้างโคลนที่
เท้าฉันออกให้
“อะ..โอ๊ย!” ฉันร้องออกมาเพราะมือเขาโดนตรงส่วนที่ฉันเจ็บพอดี
“เท้าขวาหรอ? เดี๋ยวฉันนวดให้นะ แต่เดี๋ยวล้างเท้าให้เสร็จก่อน” พอเขาล้างเท้าเสร็จ เขาก็เอาเท้าฉันขึ้นมาไว้ที่
หน้าตักของตัวเอง แล้วก็เอาผ้าซับที่เท้าให้ฉัน
“ฉัน..ทำเองดีกว่า” ฉันยกขาลงจากหน้าตักของเขา
“ฉันจะทำให้ นั่งอยู่เฉยๆเลย” แต่เขาไม่ยอม เขากลับนั่งเช็ดเท้าให้ฉันต่อ พอเช็ดเสร็จ เขาก็นวดเท้าข้างที่ฉันเจ็บ
ให้อีก
“อ๊ะ..โอ๊ย~” ฉันรีบเอามือแตะที่ไหล่เขาทันทีเพื่อบอกเขาว่าให้เบามือหน่อย
“เจ็บหรอ? มันต้องนวดแรงแบบนี้แหละ ไม่งั้นมันจะไม่หาย” เขาพูดแล้วก็นวดต่อไป ฉันไม่สามารถทำอะไรได้
นอกจากนั่งร้องโอดโอ๊ยต่อไปเรื่อยๆพ
“ฉันว่าเราคงต้องนอนที่นี่แล้วล่ะ ฝนตกหนักมากเหมือนพายุจะเข้า” เขามองออกไปทางหน้าต่างแล้วพูดขึ้น
“......” ฉันเงียบอีกแล้ว ฉันก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมตอนนี้ถึงไม่โวยว่าอยากจะกลับบ้านอีก เมื่อกี้ฉัน
ยังโกรธเขาเป็นฝืนเป็นไฟ แต่ตอนนี้กลับไม่รู้สึกแบบนั้นเลย ตอนนี้ฉันรู้สึกดีที่เขาคอยทำอะไรดีๆให้ฉัน
“ไปอาบน้ำก่อนสิ” เขาพูด
“แต่...ฉันไม่มีชุด” ฉัน
“เดี๋ยวฉันหาให้ รีบไปอาบเถอะ เดี๋ยวป่วยแล้วจะแย่” เขาพูดแล้วจูงมือฉันไปที่ห้องน้ำ ไม่ต้องงงว่าที่นี่ให้องน้ำได้
ยังไง ถึงแม้ว่ามันจะเป็นแค่ห้องทำงานในไร่แต่ที่นี่ก็มีอะไรทุกอย่างที่ไม่ได้ต่างจากบ้าน มีตู้เสื้อผ้า มีเตียงขนาด
เล็กๆอยู่ในห้อง เพียงแต่ห้องแทบไม่ได้แบ่งสัดส่วน ตื่นเช้ามาก็ลุกขึ้นมาทำงานที่โต๊ะได้เลย แบ่งสัดส่วนแค่ห้อง
น้ำเท่านั้น จริงๆแล้วฉันก็ไม่เคยเข้ามาในนี่หรอก แต่เห็นเดินผ่านบ้าง แล้วองอาจก็เคยเล่าว่าตอนที่ฉันยังไม่ได้มา
อยู่ที่นี่ เขาก็ทำงานไม่ได้กลับบ้านเลย ทำงานที่นี่แล้วก็นอนค้างที่นี่เลย
ฉันรีบอาบน้ำให้เสร็จโดยเร็วเพราะรู้ว่าตัวเขาก็เปียกฝนเหมือนกัน เขาคงอยากจะอาบน้ำ ฉันอาบน้ำเสร็จแต่ก็
ไม่มีวี่แววของชุดฉันเลย แต่พอแง้มประตูออกไปก็เจอชุดนอนแขวนอยู่ ฉันจึงรีบหยิบมันมาใส่ทันที ถึงจะสงสัยว่า
ที่นี่มีชุดนอนของฉันได้ยังไง
“คุณไม่อาบน้ำหรอ?” ฉันเดินออกมาถามเขา เขาก็ยังคงนั่งอยู่บนโต๊ะทำงานอ่านเอกสารสักอย่างอย่างตั้งใจ
“เดี๋ยวอาบน่ะ อ่านแผ่นนี้จบแล้วจะไปอาบน้ำ เธอไปนอนก่อนละ...ทำอะไรนะ?” ช่วงแรกที่เขาพูด เขาก็ไม่ได้มอง
หน้าฉันมองแต่เอกสาร แต่พอเขารู้สึกถึงสัมผัสที่อยู่บนหัว เขาก็เงยหน้าขึ้นมาถามฉัน
“เช็ดผมให้ไง คุณก็ทำงานไปสิ” ถึงตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าเขาเอาเสื้อผ้าของฉันมาจากไหนเพราะเมื่อกี้ฉันเดินไปเปิดตู้
เสื้อผ้าเพื่อเอาผ้ามาเช็ดผมให้เขา ฉันเห็นชุดของตัวเองเต็มตู้ของเขาเลย
“ถ้ายังไม่อาบน้ำ ฉันก็จะเช็ดผมให้กะ..คุณปล่อยฉันลงนะ~” ฉันกำลังเช็ดผมไปเรื่อยๆ แต่เขากลับอุ้มฉันแล้วพา
ฉันมานอนที่เตียงทันที
“นอนได้แล้ว นี่ 3 ทุ่มแล้วนะ” เขาพูดแล้วเลิกผ้าห่มมาคลุมตัวฉัน
“แต่ฉันยังเช็ดผมให้คุณไม่เสร็จเลยนะ” ฉันแย้งแล้วจะลุกมาเช็ดผมให้เขาต่อ แต่ว่า...
“นอนได้แล้ว ฝันดีครับที่รัก จุ๊บ~” เขาพูดอย่างเดียวไม่พอกลับโน้มหน้าลงมาจุ๊บที่ริมฝีปากของฉันอีก >///<
“นะ..นอนก็ได้ ฝันดีมะ..เหมือนกันนะ” ฉันพยายมคุมเสียงตัวเองไม่ให้มันสั่นจนออกนอกหน้า
แต่มัน..ห้ามไม้ได้แล้ว
“ไม่จุ๊บฉันบ้างหรอ? บอกฝันดีแล้วต้องจุ๊บปากด้วยสิ” เขาพูดแล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้ฉัน แต่อย่าขึ้นมาฉันจะจูบเลย
(แค่นี้ก็เขินจะตายแล้ว) ฉันรีบนอนหันหลังให้เขาทันที
โทโมะได้แต่ยิ้มกับภาพตรงหน้า แก้วยังน่ารักเสมอไม่เคยเปลี่ยน โทโมะบอกแก้วสักพักใหญ่แล้วก็รีบไป
อ่านน้ำเพื่ออ่านเอกสารที่จะต้องเข้าประชุมในวันพรุ่งนี้ให้จบ
TOMO TALK
ช่วงเที่ยงคืนของคืนเดียวกัน
ผมนั่งอ่านเอกสารยังไม่จบเลยทั้งๆที่มันก็ดึกมากแล้ว ตอนนี้ฝนก็ยังตกอยู่แต่เบาขึ้นเยอะมากถ้าเทียบกับ
ตอนที่แก้วฝ่าฝนมา ตอนนี้คุณแม่มือใหม่ก็หลับปุ๋ยไปเรียบร้อยผมเลยนั่งอ่านเอกสารได้อย่างสบายใจ
“อือ...อย่าทำนะ! อย่า! ฮึก..ฮึก” ผมเผลอนึกอะไรของผมไม่เท่าไร จู่ๆแก้วที่ตอนอยู่ก็ร้องขึ้นพร้อมกับร่างที่ดิ้น
ไปดิ้นมา พอเห็นแบบนั้นปุ๋บผมก็รีบวิ่งเข้าไปหาแก้วทันที
“แก้วเป็นอะไรนะ ตื่นสิ แก้วๆ!” ผมพยายามเขย่าตัวให้แก้วตื่น
“อย่ายิงนะ! ฮึก..ปล่อยเขาไป ฮือออออ!!” แก้วปัดมือผมไม่ยอมให้ผมจับตัวเธอ ส่วนตัวของแก้วเองก็สั่นเหมือน
กลัวอะไรสักอย่างแล้วก็ร้องไห้ออกมา
“ยิงอะไร ไม่มีใครยิงใครทั้งนั้นนะแก้ว” ผมรีบคว้าตัวเธอที่ดิ้นๆอยู่มากอดแนบอกทันที มือก็พลางลูบหัวเพื่อให้เธอ
สงบลง
“คุณ! ไม่เป็นอะไรใช่มั้ย?? ฮือออออ” แก้วตื่นขึ้นมาพร้อมใบหน้าที่เปื้อนน้ำตา พอตื่นขึ้นมาเจอหน้าผมเท่านั้นก็
ถามด้วยประโยคข้างบนแล้วก็คว้าคอผมเข้าไปกอดพร้อมร้องไห้อีก
“ไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย เธอคงฝันร้าย ไม่มีอะไรหรอก โอ๋ๆ~” ผมลูบหัวเธอที่ยังร้องไห้ไม่หยุดเพื่อเป็นการ
ปลอบเพราะรู้ว่าเธอคงเสียขวัญอยู่ ผมไม่รู้หรอกว่าเธอฝันว่าอะไร แต่มันคงต้องมีเรื่องตายๆเกิดขึ้นแน่ ก็ผมได้ยิน
จากปากเธอเองว่ามียิงกันด้วย สงสัยแก้วจะดูละครหลังข่าวมากไปจนเก็บเอามาฝันล่ะมั้ง
“ฮึก..ฮือออออ”
“ฝันว่าฉันตายรึไงห๊ะ? ร้องไห้ขี้มูกโป่งเชียว” ผมพูดติดตลก
“อย่าพูดสิ ฮึก..” แก้วผละออกจากแก้วอย่างงอนๆ แสดงว่าแก้วฝันว่าผมตายจริงๆสินะ
“ฝันว่าฉันตายจริงๆหรอเนี่ย? ฉันไม่ตายง่ายๆหรอก”
“ฉันฝันว่าคุณ..ถูกยิงอ่า ฮือออออ” แก้วพูดแล้วร้องไห้อีกหนึ่งรอบ
“ไม่ต้องร้องแล้ว ก็แค่ฝันเอง อย่าคิดมากนะ นอนต่อเถอะคนเก่ง” ผมพูดแล้วผลักร่างของแก้วให้นอนราบกับเตียง
แล้วดึงผ้าห่มมาห่มให้แก้ว
“ไม่เอา ฮึก..ฉันไม่อยากนอน ฉันไม่อยากฝันอีกแล้ว...” แก้วยื้อตัวไว้ ไม่ยอมท่าเดียว
“ไม่เอาๆ นอนๆ มาม่ะฉันกอดๆ” ผมพูดแล้วลงไปนอนกอดแก้วทั้งตัว จะเป็นไปได้มั้ย?ที่แก้วฝันร้ายเพราะ
คืนนี้ผมไม่ได้กอดแก้ว ฮ่าๆ ถ้าใช่มันคงจะเป็นเรื่องแปลก
“แต่ฉัน..”
“กอดฉันด้วยสิ ถ้าพรุ่งนี้ฉันตายไปอย่ามาเสียดายกอดล่ะ” ผมพูดติดตลกอีกเช่นเคย
“ไม่เอา..คุณต้องไม่ตาย ฮึก..คุณต้องอยู่กับฉัน” แก้วพูดแล้วกอดผมแน่น เธอกลัวเหลือเกิน..ถ้านี่คือกอดสุดท้าย
ที่เธอจะได้กอดเขา เธอจะทำยังไงดี
“ฉันอยู่กับเธออยู่แล้ว นอนเถอะ ฉันจะกอดเธอไว้แบบนี้ไม่ไปไหนแน่ๆ รับรองว่าฝันร้ายมันเข้าถึงตัวเธอไม่ได้แน่
เพราะถ้ามันมา..ฉันจะเตะมันให้กระเด็นเลย” ผมพูดแล้วลูบหัวแก้ว ถึงเวลาที่เขาจะได้หลับแล้วล่ะ เอกสารที่ยัง
อ่านไม่จบเดี๋ยวค่อยอ่านพรุ่งนี้เอา ตอนนี้ขอนอนกอดภรรยาตัวน้อยก่อนแล้วกัน!
----------------------------------------------------------------------------------------------
อัพแล้วยาวมั้ย? 555555555555
แก้วฝันร้ายแหละ จะมีอะไรเกิดขึ้นมั้ยนะ? อยากรู้ต้องติดตาม ฮ่าๆ
เม้นกันหน่อยสิ นับวันเม้นมันก็น้อยลง เสียใจอ่ะ TOT
13:48 TOEY
6 พฤษภาคม 2556
“ปล่อยนะ! ฉันจะกลับตามที่คุยอยากให้ฉันกลับแล้วไง ฮึก..” ฉันไม่อยากจะคิดว่าเราสองคนจะมาทะเลาะกัน
ท่ามกลางสายฝนแบบนี้
“ฉันบอกตอนไหนว่าจะให้เธอกลับ เข้าไปในห้องเดี๋ยวนี้เลย!” เขาพูดแล้วพยายามจะลากตัวฉัน
“ไม่เข้าปล่อย! อ๊ายยยยยยย~” ฉันร้องลั่นเมื่อพยายามยื้อตัวเองกับเขาแต่ไม่ทันได้ระวังว่าพื้นที่ยืนอยู่เป็นดินที่
โดนน้ำ(เป็นโคลน) ฉันเลยเสียหลักจะลื่นล้มแต่เขารับไว้ทันแล้วใช้โอกาสนี้อุ้มฉันเข้ามาในห้องทำงานของเขา
ทันที พออุ้มฉันเข้ามาได้แล้ว เขาก็ล็อกประตูห้องทำงานของเขาทันที
“ยัยคุณแม่ตัวแสบ ถ้าเมื่อกี้ฉันรับเธอไม่ทันคิดบ้างมั้ยว่าจะเกิดอะไรขึ้นนะ!!”
“ไม่รู้!! ฉันจะกลับบ้าน!” ฉันลุกพรวดเตรียมก้าวเดินไปที่ประตูที่ถูกล็อค แต่กลับรู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาที่ข้อเท้าฉัน
ถึงกับล้มไปซบอกเขาทันที เจ็บจนปวดเลย
“ข้อเท้าแพลงล่ะสิ ไหนมาดูสิ” เขานั่งยองกับพื้นแล้วจ้องมองมาที่เท้าทั้งสองข้างของฉันที่เลอะโคลน แต่เมื่อเห็น
ว่าฉันไม่ได้ยื่นเท้าไปให้เขาดู เขาเลยเดินเข้าไปในห้องน้ำแล้วกลับมาพร้อมกะละมังแล้วก็ผ้าผืนเล็กๆ
“.....” ฉันมองกระทำของเขาอย่างงงๆ
“ล้างเท้าหน่อยดีกว่า” เขาพูดแล้วเอาเท้าทั้งสองข้างของฉันชุ่มลงไปในกะละมังแล้วเขาก็ล้างโคลนที่
เท้าฉันออกให้
“อะ..โอ๊ย!” ฉันร้องออกมาเพราะมือเขาโดนตรงส่วนที่ฉันเจ็บพอดี
“เท้าขวาหรอ? เดี๋ยวฉันนวดให้นะ แต่เดี๋ยวล้างเท้าให้เสร็จก่อน” พอเขาล้างเท้าเสร็จ เขาก็เอาเท้าฉันขึ้นมาไว้ที่
หน้าตักของตัวเอง แล้วก็เอาผ้าซับที่เท้าให้ฉัน
“ฉัน..ทำเองดีกว่า” ฉันยกขาลงจากหน้าตักของเขา
“ฉันจะทำให้ นั่งอยู่เฉยๆเลย” แต่เขาไม่ยอม เขากลับนั่งเช็ดเท้าให้ฉันต่อ พอเช็ดเสร็จ เขาก็นวดเท้าข้างที่ฉันเจ็บ
ให้อีก
“อ๊ะ..โอ๊ย~” ฉันรีบเอามือแตะที่ไหล่เขาทันทีเพื่อบอกเขาว่าให้เบามือหน่อย
“เจ็บหรอ? มันต้องนวดแรงแบบนี้แหละ ไม่งั้นมันจะไม่หาย” เขาพูดแล้วก็นวดต่อไป ฉันไม่สามารถทำอะไรได้
นอกจากนั่งร้องโอดโอ๊ยต่อไปเรื่อยๆพ
“ฉันว่าเราคงต้องนอนที่นี่แล้วล่ะ ฝนตกหนักมากเหมือนพายุจะเข้า” เขามองออกไปทางหน้าต่างแล้วพูดขึ้น
“......” ฉันเงียบอีกแล้ว ฉันก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมตอนนี้ถึงไม่โวยว่าอยากจะกลับบ้านอีก เมื่อกี้ฉัน
ยังโกรธเขาเป็นฝืนเป็นไฟ แต่ตอนนี้กลับไม่รู้สึกแบบนั้นเลย ตอนนี้ฉันรู้สึกดีที่เขาคอยทำอะไรดีๆให้ฉัน
“ไปอาบน้ำก่อนสิ” เขาพูด
“แต่...ฉันไม่มีชุด” ฉัน
“เดี๋ยวฉันหาให้ รีบไปอาบเถอะ เดี๋ยวป่วยแล้วจะแย่” เขาพูดแล้วจูงมือฉันไปที่ห้องน้ำ ไม่ต้องงงว่าที่นี่ให้องน้ำได้
ยังไง ถึงแม้ว่ามันจะเป็นแค่ห้องทำงานในไร่แต่ที่นี่ก็มีอะไรทุกอย่างที่ไม่ได้ต่างจากบ้าน มีตู้เสื้อผ้า มีเตียงขนาด
เล็กๆอยู่ในห้อง เพียงแต่ห้องแทบไม่ได้แบ่งสัดส่วน ตื่นเช้ามาก็ลุกขึ้นมาทำงานที่โต๊ะได้เลย แบ่งสัดส่วนแค่ห้อง
น้ำเท่านั้น จริงๆแล้วฉันก็ไม่เคยเข้ามาในนี่หรอก แต่เห็นเดินผ่านบ้าง แล้วองอาจก็เคยเล่าว่าตอนที่ฉันยังไม่ได้มา
อยู่ที่นี่ เขาก็ทำงานไม่ได้กลับบ้านเลย ทำงานที่นี่แล้วก็นอนค้างที่นี่เลย
ฉันรีบอาบน้ำให้เสร็จโดยเร็วเพราะรู้ว่าตัวเขาก็เปียกฝนเหมือนกัน เขาคงอยากจะอาบน้ำ ฉันอาบน้ำเสร็จแต่ก็
ไม่มีวี่แววของชุดฉันเลย แต่พอแง้มประตูออกไปก็เจอชุดนอนแขวนอยู่ ฉันจึงรีบหยิบมันมาใส่ทันที ถึงจะสงสัยว่า
ที่นี่มีชุดนอนของฉันได้ยังไง
“คุณไม่อาบน้ำหรอ?” ฉันเดินออกมาถามเขา เขาก็ยังคงนั่งอยู่บนโต๊ะทำงานอ่านเอกสารสักอย่างอย่างตั้งใจ
“เดี๋ยวอาบน่ะ อ่านแผ่นนี้จบแล้วจะไปอาบน้ำ เธอไปนอนก่อนละ...ทำอะไรนะ?” ช่วงแรกที่เขาพูด เขาก็ไม่ได้มอง
หน้าฉันมองแต่เอกสาร แต่พอเขารู้สึกถึงสัมผัสที่อยู่บนหัว เขาก็เงยหน้าขึ้นมาถามฉัน
“เช็ดผมให้ไง คุณก็ทำงานไปสิ” ถึงตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าเขาเอาเสื้อผ้าของฉันมาจากไหนเพราะเมื่อกี้ฉันเดินไปเปิดตู้
เสื้อผ้าเพื่อเอาผ้ามาเช็ดผมให้เขา ฉันเห็นชุดของตัวเองเต็มตู้ของเขาเลย
“ถ้ายังไม่อาบน้ำ ฉันก็จะเช็ดผมให้กะ..คุณปล่อยฉันลงนะ~” ฉันกำลังเช็ดผมไปเรื่อยๆ แต่เขากลับอุ้มฉันแล้วพา
ฉันมานอนที่เตียงทันที
“นอนได้แล้ว นี่ 3 ทุ่มแล้วนะ” เขาพูดแล้วเลิกผ้าห่มมาคลุมตัวฉัน
“แต่ฉันยังเช็ดผมให้คุณไม่เสร็จเลยนะ” ฉันแย้งแล้วจะลุกมาเช็ดผมให้เขาต่อ แต่ว่า...
“นอนได้แล้ว ฝันดีครับที่รัก จุ๊บ~” เขาพูดอย่างเดียวไม่พอกลับโน้มหน้าลงมาจุ๊บที่ริมฝีปากของฉันอีก >///<
“นะ..นอนก็ได้ ฝันดีมะ..เหมือนกันนะ” ฉันพยายมคุมเสียงตัวเองไม่ให้มันสั่นจนออกนอกหน้า
แต่มัน..ห้ามไม้ได้แล้ว
“ไม่จุ๊บฉันบ้างหรอ? บอกฝันดีแล้วต้องจุ๊บปากด้วยสิ” เขาพูดแล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้ฉัน แต่อย่าขึ้นมาฉันจะจูบเลย
(แค่นี้ก็เขินจะตายแล้ว) ฉันรีบนอนหันหลังให้เขาทันที
โทโมะได้แต่ยิ้มกับภาพตรงหน้า แก้วยังน่ารักเสมอไม่เคยเปลี่ยน โทโมะบอกแก้วสักพักใหญ่แล้วก็รีบไป
อ่านน้ำเพื่ออ่านเอกสารที่จะต้องเข้าประชุมในวันพรุ่งนี้ให้จบ
TOMO TALK
ช่วงเที่ยงคืนของคืนเดียวกัน
ผมนั่งอ่านเอกสารยังไม่จบเลยทั้งๆที่มันก็ดึกมากแล้ว ตอนนี้ฝนก็ยังตกอยู่แต่เบาขึ้นเยอะมากถ้าเทียบกับ
ตอนที่แก้วฝ่าฝนมา ตอนนี้คุณแม่มือใหม่ก็หลับปุ๋ยไปเรียบร้อยผมเลยนั่งอ่านเอกสารได้อย่างสบายใจ
“อือ...อย่าทำนะ! อย่า! ฮึก..ฮึก” ผมเผลอนึกอะไรของผมไม่เท่าไร จู่ๆแก้วที่ตอนอยู่ก็ร้องขึ้นพร้อมกับร่างที่ดิ้น
ไปดิ้นมา พอเห็นแบบนั้นปุ๋บผมก็รีบวิ่งเข้าไปหาแก้วทันที
“แก้วเป็นอะไรนะ ตื่นสิ แก้วๆ!” ผมพยายามเขย่าตัวให้แก้วตื่น
“อย่ายิงนะ! ฮึก..ปล่อยเขาไป ฮือออออ!!” แก้วปัดมือผมไม่ยอมให้ผมจับตัวเธอ ส่วนตัวของแก้วเองก็สั่นเหมือน
กลัวอะไรสักอย่างแล้วก็ร้องไห้ออกมา
“ยิงอะไร ไม่มีใครยิงใครทั้งนั้นนะแก้ว” ผมรีบคว้าตัวเธอที่ดิ้นๆอยู่มากอดแนบอกทันที มือก็พลางลูบหัวเพื่อให้เธอ
สงบลง
“คุณ! ไม่เป็นอะไรใช่มั้ย?? ฮือออออ” แก้วตื่นขึ้นมาพร้อมใบหน้าที่เปื้อนน้ำตา พอตื่นขึ้นมาเจอหน้าผมเท่านั้นก็
ถามด้วยประโยคข้างบนแล้วก็คว้าคอผมเข้าไปกอดพร้อมร้องไห้อีก
“ไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย เธอคงฝันร้าย ไม่มีอะไรหรอก โอ๋ๆ~” ผมลูบหัวเธอที่ยังร้องไห้ไม่หยุดเพื่อเป็นการ
ปลอบเพราะรู้ว่าเธอคงเสียขวัญอยู่ ผมไม่รู้หรอกว่าเธอฝันว่าอะไร แต่มันคงต้องมีเรื่องตายๆเกิดขึ้นแน่ ก็ผมได้ยิน
จากปากเธอเองว่ามียิงกันด้วย สงสัยแก้วจะดูละครหลังข่าวมากไปจนเก็บเอามาฝันล่ะมั้ง
“ฮึก..ฮือออออ”
“ฝันว่าฉันตายรึไงห๊ะ? ร้องไห้ขี้มูกโป่งเชียว” ผมพูดติดตลก
“อย่าพูดสิ ฮึก..” แก้วผละออกจากแก้วอย่างงอนๆ แสดงว่าแก้วฝันว่าผมตายจริงๆสินะ
“ฝันว่าฉันตายจริงๆหรอเนี่ย? ฉันไม่ตายง่ายๆหรอก”
“ฉันฝันว่าคุณ..ถูกยิงอ่า ฮือออออ” แก้วพูดแล้วร้องไห้อีกหนึ่งรอบ
“ไม่ต้องร้องแล้ว ก็แค่ฝันเอง อย่าคิดมากนะ นอนต่อเถอะคนเก่ง” ผมพูดแล้วผลักร่างของแก้วให้นอนราบกับเตียง
แล้วดึงผ้าห่มมาห่มให้แก้ว
“ไม่เอา ฮึก..ฉันไม่อยากนอน ฉันไม่อยากฝันอีกแล้ว...” แก้วยื้อตัวไว้ ไม่ยอมท่าเดียว
“ไม่เอาๆ นอนๆ มาม่ะฉันกอดๆ” ผมพูดแล้วลงไปนอนกอดแก้วทั้งตัว จะเป็นไปได้มั้ย?ที่แก้วฝันร้ายเพราะ
คืนนี้ผมไม่ได้กอดแก้ว ฮ่าๆ ถ้าใช่มันคงจะเป็นเรื่องแปลก
“แต่ฉัน..”
“กอดฉันด้วยสิ ถ้าพรุ่งนี้ฉันตายไปอย่ามาเสียดายกอดล่ะ” ผมพูดติดตลกอีกเช่นเคย
“ไม่เอา..คุณต้องไม่ตาย ฮึก..คุณต้องอยู่กับฉัน” แก้วพูดแล้วกอดผมแน่น เธอกลัวเหลือเกิน..ถ้านี่คือกอดสุดท้าย
ที่เธอจะได้กอดเขา เธอจะทำยังไงดี
“ฉันอยู่กับเธออยู่แล้ว นอนเถอะ ฉันจะกอดเธอไว้แบบนี้ไม่ไปไหนแน่ๆ รับรองว่าฝันร้ายมันเข้าถึงตัวเธอไม่ได้แน่
เพราะถ้ามันมา..ฉันจะเตะมันให้กระเด็นเลย” ผมพูดแล้วลูบหัวแก้ว ถึงเวลาที่เขาจะได้หลับแล้วล่ะ เอกสารที่ยัง
อ่านไม่จบเดี๋ยวค่อยอ่านพรุ่งนี้เอา ตอนนี้ขอนอนกอดภรรยาตัวน้อยก่อนแล้วกัน!
----------------------------------------------------------------------------------------------
อัพแล้วยาวมั้ย? 555555555555
แก้วฝันร้ายแหละ จะมีอะไรเกิดขึ้นมั้ยนะ? อยากรู้ต้องติดตาม ฮ่าๆ
เม้นกันหน่อยสิ นับวันเม้นมันก็น้อยลง เสียใจอ่ะ TOT
13:48 TOEY
6 พฤษภาคม 2556
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ