Love Forever ชาติไหนก็รักเธอ
9.4
4) คำปรึกษาที่ใช้ไม่ได้
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความทบทวนตัวละครก่อนอ่านนนน(เนื่องจากกระแสจำชื่อตัวละครไม่ได้ มาแรง)
ภาณุ = ป๊อปปี้ ปลายฟ้า = ฟาง
ธานนท์ = โทโมะ กอหญ้า = แก้ว
ดนัย = เขื่อน ม่านแก้ว = เฟย์
รินลดา = จินนี่ ภาพร = พิม
กานดา = ขนมจีน นิภพ = จองเบ
ริสา = หวาย
ตอนที่ 4
“มะ หมอ พี่สาวฉันเป็นยังไงบ้าง”
“ตอนนี้หมอให้ยานอนหลับไปแล้ว เท่าที่ดูคงจะเป็นอาการแทรกซ้อน”
“แล้วมันจะหายมั้ยค่ะ?”
“อันนี้หมอก็ไม่ทราบนะครับ เพราะมันขึ้นอยู่กับพี่สาวคุณด้วย”
แอ๊ดดดด~
“ขอโทษนะค่ะ คุณหมอค่ะ คนไข้ที่คุณหมอนัดมาแล้วค่ะ”
“ครับๆ งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”เดินออกไปตามคำบอกของพยาบาล ปล่อยให้ม่านแก้วเครียดหนักกับอาการของพี่สาว
"พี่ฟ้า เดี๋ยวม่านแก้วจะซื้อขนมมาฝากพี่นะ"ตั้งแต่เช้าเธอยังไม่ได้อาบน้ำเลย ใจหนึ่งก็ห่วงพี่สาว แต่ใจหนึ่งก็คิดว่าถ้าอยู่ในสภาพนี้คงไม่ดีแน่ๆ เธอจึงเดินออกจากห้องไป แต่ก็ยังไม่วายหันมามองพี่สาวที่หลับอยู่บนเตียง . .
[Koya talk]
“ห๊ะ! พี่ของม่านแก้วเข้าโรงพยาบาล! ทำไมเธอไม่บอกฉันหะยัยหญ้าแห้ง”
“ฉันก็บอกอยู่นี่ไงเล่า! แล้วอีกอย่างนะ พี่ของม่านแก้วชื่อปลายฟ้า เรียกให้ถูกหน่อย”ฉันล่ะอยากกระโดดถีบนายนี่จริงๆเล๊ย! ถ้าไม่ติดว่าเป็นเจ้านาย ทำไปนานแล้ว -*-
“เออน่า แล้วเป็นไงบ้าง อาการหนักมั้ย?”
“ก็เห็นม่านแก้วโทรมาบอกว่าฟื้นแล้ว แต่มีอาการแทรกซ้อน ต้องดูไปเรื่อยๆ”
“เฮ้อออ อีกไม่ถึงเดือน งานนี้ก็ต้องเริ่มแล้ว เธอว่าคุณฟ้าจะออกจากโรงพยาบาลทันรึเปล่า?”ฉันจะไปรู้หรอย่ะ - -+
“คงทันมั้ง”
~รักมากเท่าไหร่ใจเจ็บเท่านั้น แล้วนี่ฉันรักเธอเท่าไร ใจถึงเจ็บปวด ......~
“เบอร์ใคร?”จู่ๆก็มีคนโทรมาหาฉัน . . แต่เบอร์ไม่คุ้นเลยแหะ
“อย่ารับเลย เผื่อเป็นโรคจิต”นายสิโรคจิต -__-
“ถ้าเป็นลูกค้าจะทำยังไงล่ะ -.-”แล้วฉันก็ต้องรับอ่ะนะ
“สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าใครค่ะ?”
“สวัสดีครับคุณกอหญ้า ผมดนัยนะครับ”ในขณะที่ฉันกำลังคุยอยู่ (ไอ้)เจ้านายสุดแสนจะประเสริฐ ก็ทำปากบอกให้เปิดลำโพง
“อ๋อ คุณดนัยนี่เอง แต่ฉันจำได้ว่าฉันsaveเบอร์คุณไว้แล้วนิค่ะ”ฉันก็ไม่เข้าใจนะว่าจะให้เปิดทำไม แต่ก็ทำตามแล้วคุยต่อ
“พอดีผมเปลี่ยนเบอร์ใหม่ น่ะครับ จำเบอร์ใครไม่ได้เลย นอกจากเบอร์คุณกอหญ้า”เอ่อ. . . (เอาซะไปไม่เป็นเลย -[]-)
“อะ เออ. . . แหะๆหรอค่ะ แหม! คุณดนัยความจำดีจังเลยนะค่ะ ว่าแต่โทรมา มีธุระอะไรรึเปล่าค่ะ” เฮ้อ ไม่อยากจะพูดมาก บอกเลยแหละกัน คุณดนัยโทรมาบอกว่าอยากคุยธุระด้วย เลยให้ฉันกับธานนท์ไปหาที่โรงแรมของเขา ตั้งแต่คุยเสร็จนายธานนท์หน้าบูดแปลกๆนะ -~-
“พูดซะหวานเชียวนะ”
“นายจะให้ฉันตะโกนใส่รึไง ก็ต้องเรียบร้อยหน่อยสิ . . ว่าแต่นายเหอะพูดอย่างนี้ . . . หึงฉันรึไง? ;)”
“อืม”
“O__O!”ไม่ . . . . . . . . . . ฉันต้องหูฝาดดดดดดดดดดด!!!! >[]<
“เฮ้ย! ไม่ใช่ๆ คะ คือ . . ฉันหึงคุณดนัย”นายเป็นตุ๊ดหรอ! o[]O บระเจ้าาาา!!!!!
“นี่นายเป็นตะ. . .!”
“ไม่ใช่! ที่ฉันหึงคุณดนัย เพราะว่ากลัวเธอจะคาบไปกินตั้งหาก คนหล่อๆรวยๆอย่างคุณดนัย ถ้าเจอคนอย่างเธอคงโชคร้ายน่าดู”เหตุผลฟังโคตรขึ้นเลย -*-
“ชิ! นั่งอยู่ทำไมล่ะ ไปได้แล้ว คุณดนัยรออยู่”
“คุณภาณุจะไปไหนค่ะ”เสียงหวานเล็กชวนให้หลงใหล ถามผู้เป็นถึงลูกชายของบ้านวรรณรัตน์ สายตาที่ส่งไปบ่งบอกได้เลยว่าเธอไม่ได้คิดกับเขาแบบคนใช้คนอื่นๆ . . .
“ฉันจะไปธุระข้างนอก”ตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชาเพราะรำคาญเหลือเกินที่ต้องมาตอบคำถามแบบนี้ทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน
“หรอค่ะ? แต่รินว่ารองเท้ายังสกปรกอยู่ เดี๋ยวรินเช็คให้นะค่ะ”เธอนั่งลงกับพื้นก่อนจะใช้ผ้าเช็ดหน้าของตัวเองบรรจงเช็ดรองเท้าอย่างเบามือ เธอรู้ว่าเขารำคาญแต่เธอก็ไม่สน แถมยังคิดเข้าข้างตัวเองอีกว่าเขาแอบมีใจให้เธอ แค่ไม่แสดงออก ถ้าเขาไม่สนเธอ เขาจะมาตอบคำถามเดิมๆของเธอทำไมทุกวัน . . (โธ่ ความคิดคนเรามันห้ามกันไม่ได้เนาะ - -)
“วันนี้ฉันรีบ เธอจะไปไหนก็ไปเถอะ”เลยเวลานัดกับลูกค้ารายใหญ่มาหลายนาทีแล้ว หากไม่รีบอาจทำให้เสียงานก็เป็นได้
“แต่รินว่า . .”
“รินลดา!! อย่าให้ฉันโมโหนะ”เธอสะดุ้งกับน้ำเสียงของเขา หลายครั้งที่เป็นแบบนี้แต่เธอก็ยังทำ เขารีบเดินไปขึ้นรถคันหรูสีดำคู่ใจก่อนจะขับออกไปอย่างเร็ว
“. . . . . . . . . . . . . . . .”
“นังริน แกไปนั่งทำอะไรอยู่ตรงนั้น รีบไปช่วยนังสวยกวาดบ้านสิ”
“ป้าจันไม่มีสิทธิมาสั่งฉัน!”ลุกขึ้นแล้วทำท่าจะเดินไปทางเรือนคนใช้ แต่ก็ต้องชะงักกับคำพูดของป้าจัน
“อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะว่าแกคิดอะไรกับคุณหนู”
“หึ แล้วไง”หันกลับมาพูดอย่างท้าทาย
“ฉันขอเตือนแกนะ ถ้าแกยังคิดแบบนั้นอยู่ สักวันแกจะไม่มีที่ซุกหัวนอน!”พูดจบก็เดินเลี่ยงเข้าไปในครัว ปล่อยให้อีกคนยืนกำหมัดแน่น
“แล้วสักวันฉันจะเป็นใหญ่ในบ้านหลังนี้ คอยดู!”
“สวัสดีครับคุณธานนท์ สวัสดีครับคุณกอหญ้า หวัดดีไอ้ดนัย”เอ่ยทักทายแขกคนสำคัญก่อนจะหันไปทักทาย
“สวัสดีค่ะ/ครับ คุณภาณุ :) ”
“เฮ้ย! ไอ้เพื่อนบ้า พอทักคนอื่นนี้พูดดีเชียวนะ - - ว่าแต่ทำไมแกมาช้าจัง?”
“ฉันไปส่งน้องดามา แล้วพอดีลืมเอกสารเลยแวะไปเอาที่บ้าน ก็เลยช้า ผมต้องขอโทษด้วยนะครับ”
“ไม่เป็นไรครับ ผมกับยัย . . . . เอ่อ เลขาก็เพิ่งมาเหมือนกันครับ ^^;”
“งั้นเรามาคุยงานกันเลยดีกว่า”ทั้งสี่คนเริ่มคุยงานกันอย่างจริงจัง จนในที่สุดก็ได้ข้อสรุปที่ลงตัว
“ขอบคุณมากนะครับที่สละเวลามาคุยงานกับผม”
“ยินดีครับคุณภาณุ งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”เมื่อแขกคนสำคัญพร้อมกับเลขาเดินออกไป ก็ถึงเวลาผ่อนคลายพร้อมกับระบายไปด้วย
“แกไม่กลับ?”
“อืม ใช่”
“เฮ้อ! . . . . เอ้า มีอะไรก็พูดมา ฉันเป็นส้วมของแกอยู่แล้วนิ - -”ที่จริงแค่มองหน้าก็รู้ว่าเพื่อนของตนเป็นอะไร
“ทำยังไงว่ะ ฉันถึงจะถอนหมั้นกับน้องแกได้ ฉันสงสารดา ดูเธอจะไม่มีความสุขเลย”
“แกกล้าไปบอกแม่ฉันกับแม่แกมั้ยล่ะ?”
“ไม่ว่ะ”
“งั้นก็จงไม่กล้าต่อไป -0-”
“ไอ้ . . . .”อยากจะเข้าไปบีบคอเพื่อนตัวเอง เมื่อได้คำตอบกวนๆ
‘แกจะพึ่งได้สักเรื่องมั้ยแหะ! ไอ้ดนัย! = =’
“ก็มันจริง ขนาดพ่อของพวกเรายังไม่กล้า แล้วฉัน น้อง แก จะเหลือหรอ”
“แล้วถ้าเกิดว่าวันนึงฉันมีความกล้าจะไปบอกพวกเขา . . .”
“วันนั้นคงเป็นวันที่หิมะตกเมืองไทยและโลกแตกในเวลาเดียวกัน =o=”
“แกไม่กวนฉันสักวันมันจะเป็นอะไรไหมแหะ! เครียดนะเว้ย เครียดดด!”
“ฉันไม่ได้กวนนะเว้ย! แกว่าวันนั้นมันจะมีหรอ? วันที่แกกล้าไปบอกแม่แกเนี่ย ขนาดตอนแกกับฉันไปเที่ยวด้วยกัน แกยังไม่กล้าเข้าห้องน้ำคนเดียวเลย”
“ฉันให้แกช่วยคิดนะ ไม่ใช่ช่วยประจาน! - -”
“เออๆนั้นแหละ แล้วถ้าแกกล้าจริงๆ ฉันว่าไม่บ้านพัง พายุเข้า แกก็คงจะหูดับ ตับไหม้ คลื่นไส้ อาเจียน ”
“ยิ่งคุยกับแกยิ่งเครียดว่ะ ฉันกลับก่อนนะ”รีบลุกออกไปก่อนที่ประสาทจะกิน - -
“อะ อ่าว เฮ้ย! ไอ้ณุ ฉันอุตส่าห์ให้คำปรึกษาแกนะเว้ยยยยย ไอ้ณุ!”
“นี่ก็ใกล้จะเลิกงานแล้ว เธอไปไหนรึเปล่า?”
“ฉันจะไปโรงพยาบาล”หลังจากออกจากโรมแรมของดนัย ทั้งสองก็ต้องไปคุยกับลูกค้ารายอื่นอีก จนเวลาล่วงเลยไปหลายชั่วโมง
“เธอจะไปหาพี่ของม่านแก้วหรอ?”
“ใช่ ฉันเป็นห่วงม่านแก้วด้วย”
“ห่วงตัวเองก่อนดีกว่ามั้ย”คำพูดของเขาที่แถบจะหายไปกับอากาศ แต่ก็พอจะทำให้คนหูดีอย่างเธอพอได้ยินบ้าง
“นายว่าอะไรนะ?”
“เปล๊า! ฉันบอกว่า หาอะไรกินก่อนดีมั้ย ฉันหิว”
“น่าสงสัยนะเนี่ย - -+ แต่ไม่เป็นไรหรอก ฉันขอไปหาม่านแก้วก่อน รายนั้นยิ่งบ๊องๆอยู่ -*- ”
“ไปว่าม่านแก้วทำไม เธอเองก็เป็นเหมือนกันแหละยัยหญ้าแห้ง”
“นาย . . . ฮึ่ย!”
“แต่ฉันว่าไปหาอะไรกินก่อนเหอะ เดี๋ยวจะเป็นลมไปซะก่อน ข้าวเที่ยงยังไม่ได้กินไม่ใช่หรอ?”
“ก็ใช่ เป็นห่วงฉันรึไง?”
“ปะ เปล่า! ฉันกลัวจะไม่มีคนคอยประสานงานให้ต่างหาก”
‘ชิ! ไอ้เราก็คิดว่าจะเป็นห่วง -^-’
“หรออออ! ไม่ต้องไปกินแล้วข้าวน่ะ! ไปโรงพยาบาลเลย เดี๋ยวไปกินที่นู่นก็ได้!”พูดแล้วหันหน้าหนีไปอีกทาง ทำเอาอีกคนงงชุดใหญ่
“อะ เอ่อ . . . . . อืมๆ”
‘เป็นอะไรอีกเนี่ย เมื่อกี้ยังดีๆอยู่เลย รอบเดือนมารึไงนะ -..-’
- วันนั้นคงเป็นวันที่หิมะตกเมืองไทยและโลกแตกในเวลาเดียวกัน -
-Danai-
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
มาอัพแล้วนะ แฟงขอตัวไปเคลียการบ้านก่อนนะค่ะ ^^
ภาณุ = ป๊อปปี้ ปลายฟ้า = ฟาง
ธานนท์ = โทโมะ กอหญ้า = แก้ว
ดนัย = เขื่อน ม่านแก้ว = เฟย์
รินลดา = จินนี่ ภาพร = พิม
กานดา = ขนมจีน นิภพ = จองเบ
ริสา = หวาย
ตอนที่ 4
“มะ หมอ พี่สาวฉันเป็นยังไงบ้าง”
“ตอนนี้หมอให้ยานอนหลับไปแล้ว เท่าที่ดูคงจะเป็นอาการแทรกซ้อน”
“แล้วมันจะหายมั้ยค่ะ?”
“อันนี้หมอก็ไม่ทราบนะครับ เพราะมันขึ้นอยู่กับพี่สาวคุณด้วย”
แอ๊ดดดด~
“ขอโทษนะค่ะ คุณหมอค่ะ คนไข้ที่คุณหมอนัดมาแล้วค่ะ”
“ครับๆ งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”เดินออกไปตามคำบอกของพยาบาล ปล่อยให้ม่านแก้วเครียดหนักกับอาการของพี่สาว
"พี่ฟ้า เดี๋ยวม่านแก้วจะซื้อขนมมาฝากพี่นะ"ตั้งแต่เช้าเธอยังไม่ได้อาบน้ำเลย ใจหนึ่งก็ห่วงพี่สาว แต่ใจหนึ่งก็คิดว่าถ้าอยู่ในสภาพนี้คงไม่ดีแน่ๆ เธอจึงเดินออกจากห้องไป แต่ก็ยังไม่วายหันมามองพี่สาวที่หลับอยู่บนเตียง . .
[Koya talk]
“ห๊ะ! พี่ของม่านแก้วเข้าโรงพยาบาล! ทำไมเธอไม่บอกฉันหะยัยหญ้าแห้ง”
“ฉันก็บอกอยู่นี่ไงเล่า! แล้วอีกอย่างนะ พี่ของม่านแก้วชื่อปลายฟ้า เรียกให้ถูกหน่อย”ฉันล่ะอยากกระโดดถีบนายนี่จริงๆเล๊ย! ถ้าไม่ติดว่าเป็นเจ้านาย ทำไปนานแล้ว -*-
“เออน่า แล้วเป็นไงบ้าง อาการหนักมั้ย?”
“ก็เห็นม่านแก้วโทรมาบอกว่าฟื้นแล้ว แต่มีอาการแทรกซ้อน ต้องดูไปเรื่อยๆ”
“เฮ้อออ อีกไม่ถึงเดือน งานนี้ก็ต้องเริ่มแล้ว เธอว่าคุณฟ้าจะออกจากโรงพยาบาลทันรึเปล่า?”ฉันจะไปรู้หรอย่ะ - -+
“คงทันมั้ง”
~รักมากเท่าไหร่ใจเจ็บเท่านั้น แล้วนี่ฉันรักเธอเท่าไร ใจถึงเจ็บปวด ......~
“เบอร์ใคร?”จู่ๆก็มีคนโทรมาหาฉัน . . แต่เบอร์ไม่คุ้นเลยแหะ
“อย่ารับเลย เผื่อเป็นโรคจิต”นายสิโรคจิต -__-
“ถ้าเป็นลูกค้าจะทำยังไงล่ะ -.-”แล้วฉันก็ต้องรับอ่ะนะ
“สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าใครค่ะ?”
“สวัสดีครับคุณกอหญ้า ผมดนัยนะครับ”ในขณะที่ฉันกำลังคุยอยู่ (ไอ้)เจ้านายสุดแสนจะประเสริฐ ก็ทำปากบอกให้เปิดลำโพง
“อ๋อ คุณดนัยนี่เอง แต่ฉันจำได้ว่าฉันsaveเบอร์คุณไว้แล้วนิค่ะ”ฉันก็ไม่เข้าใจนะว่าจะให้เปิดทำไม แต่ก็ทำตามแล้วคุยต่อ
“พอดีผมเปลี่ยนเบอร์ใหม่ น่ะครับ จำเบอร์ใครไม่ได้เลย นอกจากเบอร์คุณกอหญ้า”เอ่อ. . . (เอาซะไปไม่เป็นเลย -[]-)
“อะ เออ. . . แหะๆหรอค่ะ แหม! คุณดนัยความจำดีจังเลยนะค่ะ ว่าแต่โทรมา มีธุระอะไรรึเปล่าค่ะ” เฮ้อ ไม่อยากจะพูดมาก บอกเลยแหละกัน คุณดนัยโทรมาบอกว่าอยากคุยธุระด้วย เลยให้ฉันกับธานนท์ไปหาที่โรงแรมของเขา ตั้งแต่คุยเสร็จนายธานนท์หน้าบูดแปลกๆนะ -~-
“พูดซะหวานเชียวนะ”
“นายจะให้ฉันตะโกนใส่รึไง ก็ต้องเรียบร้อยหน่อยสิ . . ว่าแต่นายเหอะพูดอย่างนี้ . . . หึงฉันรึไง? ;)”
“อืม”
“O__O!”ไม่ . . . . . . . . . . ฉันต้องหูฝาดดดดดดดดดดด!!!! >[]<
“เฮ้ย! ไม่ใช่ๆ คะ คือ . . ฉันหึงคุณดนัย”นายเป็นตุ๊ดหรอ! o[]O บระเจ้าาาา!!!!!
“นี่นายเป็นตะ. . .!”
“ไม่ใช่! ที่ฉันหึงคุณดนัย เพราะว่ากลัวเธอจะคาบไปกินตั้งหาก คนหล่อๆรวยๆอย่างคุณดนัย ถ้าเจอคนอย่างเธอคงโชคร้ายน่าดู”เหตุผลฟังโคตรขึ้นเลย -*-
“ชิ! นั่งอยู่ทำไมล่ะ ไปได้แล้ว คุณดนัยรออยู่”
“คุณภาณุจะไปไหนค่ะ”เสียงหวานเล็กชวนให้หลงใหล ถามผู้เป็นถึงลูกชายของบ้านวรรณรัตน์ สายตาที่ส่งไปบ่งบอกได้เลยว่าเธอไม่ได้คิดกับเขาแบบคนใช้คนอื่นๆ . . .
“ฉันจะไปธุระข้างนอก”ตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชาเพราะรำคาญเหลือเกินที่ต้องมาตอบคำถามแบบนี้ทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน
“หรอค่ะ? แต่รินว่ารองเท้ายังสกปรกอยู่ เดี๋ยวรินเช็คให้นะค่ะ”เธอนั่งลงกับพื้นก่อนจะใช้ผ้าเช็ดหน้าของตัวเองบรรจงเช็ดรองเท้าอย่างเบามือ เธอรู้ว่าเขารำคาญแต่เธอก็ไม่สน แถมยังคิดเข้าข้างตัวเองอีกว่าเขาแอบมีใจให้เธอ แค่ไม่แสดงออก ถ้าเขาไม่สนเธอ เขาจะมาตอบคำถามเดิมๆของเธอทำไมทุกวัน . . (โธ่ ความคิดคนเรามันห้ามกันไม่ได้เนาะ - -)
“วันนี้ฉันรีบ เธอจะไปไหนก็ไปเถอะ”เลยเวลานัดกับลูกค้ารายใหญ่มาหลายนาทีแล้ว หากไม่รีบอาจทำให้เสียงานก็เป็นได้
“แต่รินว่า . .”
“รินลดา!! อย่าให้ฉันโมโหนะ”เธอสะดุ้งกับน้ำเสียงของเขา หลายครั้งที่เป็นแบบนี้แต่เธอก็ยังทำ เขารีบเดินไปขึ้นรถคันหรูสีดำคู่ใจก่อนจะขับออกไปอย่างเร็ว
“. . . . . . . . . . . . . . . .”
“นังริน แกไปนั่งทำอะไรอยู่ตรงนั้น รีบไปช่วยนังสวยกวาดบ้านสิ”
“ป้าจันไม่มีสิทธิมาสั่งฉัน!”ลุกขึ้นแล้วทำท่าจะเดินไปทางเรือนคนใช้ แต่ก็ต้องชะงักกับคำพูดของป้าจัน
“อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะว่าแกคิดอะไรกับคุณหนู”
“หึ แล้วไง”หันกลับมาพูดอย่างท้าทาย
“ฉันขอเตือนแกนะ ถ้าแกยังคิดแบบนั้นอยู่ สักวันแกจะไม่มีที่ซุกหัวนอน!”พูดจบก็เดินเลี่ยงเข้าไปในครัว ปล่อยให้อีกคนยืนกำหมัดแน่น
“แล้วสักวันฉันจะเป็นใหญ่ในบ้านหลังนี้ คอยดู!”
“สวัสดีครับคุณธานนท์ สวัสดีครับคุณกอหญ้า หวัดดีไอ้ดนัย”เอ่ยทักทายแขกคนสำคัญก่อนจะหันไปทักทาย
“สวัสดีค่ะ/ครับ คุณภาณุ :) ”
“เฮ้ย! ไอ้เพื่อนบ้า พอทักคนอื่นนี้พูดดีเชียวนะ - - ว่าแต่ทำไมแกมาช้าจัง?”
“ฉันไปส่งน้องดามา แล้วพอดีลืมเอกสารเลยแวะไปเอาที่บ้าน ก็เลยช้า ผมต้องขอโทษด้วยนะครับ”
“ไม่เป็นไรครับ ผมกับยัย . . . . เอ่อ เลขาก็เพิ่งมาเหมือนกันครับ ^^;”
“งั้นเรามาคุยงานกันเลยดีกว่า”ทั้งสี่คนเริ่มคุยงานกันอย่างจริงจัง จนในที่สุดก็ได้ข้อสรุปที่ลงตัว
“ขอบคุณมากนะครับที่สละเวลามาคุยงานกับผม”
“ยินดีครับคุณภาณุ งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”เมื่อแขกคนสำคัญพร้อมกับเลขาเดินออกไป ก็ถึงเวลาผ่อนคลายพร้อมกับระบายไปด้วย
“แกไม่กลับ?”
“อืม ใช่”
“เฮ้อ! . . . . เอ้า มีอะไรก็พูดมา ฉันเป็นส้วมของแกอยู่แล้วนิ - -”ที่จริงแค่มองหน้าก็รู้ว่าเพื่อนของตนเป็นอะไร
“ทำยังไงว่ะ ฉันถึงจะถอนหมั้นกับน้องแกได้ ฉันสงสารดา ดูเธอจะไม่มีความสุขเลย”
“แกกล้าไปบอกแม่ฉันกับแม่แกมั้ยล่ะ?”
“ไม่ว่ะ”
“งั้นก็จงไม่กล้าต่อไป -0-”
“ไอ้ . . . .”อยากจะเข้าไปบีบคอเพื่อนตัวเอง เมื่อได้คำตอบกวนๆ
‘แกจะพึ่งได้สักเรื่องมั้ยแหะ! ไอ้ดนัย! = =’
“ก็มันจริง ขนาดพ่อของพวกเรายังไม่กล้า แล้วฉัน น้อง แก จะเหลือหรอ”
“แล้วถ้าเกิดว่าวันนึงฉันมีความกล้าจะไปบอกพวกเขา . . .”
“วันนั้นคงเป็นวันที่หิมะตกเมืองไทยและโลกแตกในเวลาเดียวกัน =o=”
“แกไม่กวนฉันสักวันมันจะเป็นอะไรไหมแหะ! เครียดนะเว้ย เครียดดด!”
“ฉันไม่ได้กวนนะเว้ย! แกว่าวันนั้นมันจะมีหรอ? วันที่แกกล้าไปบอกแม่แกเนี่ย ขนาดตอนแกกับฉันไปเที่ยวด้วยกัน แกยังไม่กล้าเข้าห้องน้ำคนเดียวเลย”
“ฉันให้แกช่วยคิดนะ ไม่ใช่ช่วยประจาน! - -”
“เออๆนั้นแหละ แล้วถ้าแกกล้าจริงๆ ฉันว่าไม่บ้านพัง พายุเข้า แกก็คงจะหูดับ ตับไหม้ คลื่นไส้ อาเจียน ”
“ยิ่งคุยกับแกยิ่งเครียดว่ะ ฉันกลับก่อนนะ”รีบลุกออกไปก่อนที่ประสาทจะกิน - -
“อะ อ่าว เฮ้ย! ไอ้ณุ ฉันอุตส่าห์ให้คำปรึกษาแกนะเว้ยยยยย ไอ้ณุ!”
“นี่ก็ใกล้จะเลิกงานแล้ว เธอไปไหนรึเปล่า?”
“ฉันจะไปโรงพยาบาล”หลังจากออกจากโรมแรมของดนัย ทั้งสองก็ต้องไปคุยกับลูกค้ารายอื่นอีก จนเวลาล่วงเลยไปหลายชั่วโมง
“เธอจะไปหาพี่ของม่านแก้วหรอ?”
“ใช่ ฉันเป็นห่วงม่านแก้วด้วย”
“ห่วงตัวเองก่อนดีกว่ามั้ย”คำพูดของเขาที่แถบจะหายไปกับอากาศ แต่ก็พอจะทำให้คนหูดีอย่างเธอพอได้ยินบ้าง
“นายว่าอะไรนะ?”
“เปล๊า! ฉันบอกว่า หาอะไรกินก่อนดีมั้ย ฉันหิว”
“น่าสงสัยนะเนี่ย - -+ แต่ไม่เป็นไรหรอก ฉันขอไปหาม่านแก้วก่อน รายนั้นยิ่งบ๊องๆอยู่ -*- ”
“ไปว่าม่านแก้วทำไม เธอเองก็เป็นเหมือนกันแหละยัยหญ้าแห้ง”
“นาย . . . ฮึ่ย!”
“แต่ฉันว่าไปหาอะไรกินก่อนเหอะ เดี๋ยวจะเป็นลมไปซะก่อน ข้าวเที่ยงยังไม่ได้กินไม่ใช่หรอ?”
“ก็ใช่ เป็นห่วงฉันรึไง?”
“ปะ เปล่า! ฉันกลัวจะไม่มีคนคอยประสานงานให้ต่างหาก”
‘ชิ! ไอ้เราก็คิดว่าจะเป็นห่วง -^-’
“หรออออ! ไม่ต้องไปกินแล้วข้าวน่ะ! ไปโรงพยาบาลเลย เดี๋ยวไปกินที่นู่นก็ได้!”พูดแล้วหันหน้าหนีไปอีกทาง ทำเอาอีกคนงงชุดใหญ่
“อะ เอ่อ . . . . . อืมๆ”
‘เป็นอะไรอีกเนี่ย เมื่อกี้ยังดีๆอยู่เลย รอบเดือนมารึไงนะ -..-’
- วันนั้นคงเป็นวันที่หิมะตกเมืองไทยและโลกแตกในเวลาเดียวกัน -
-Danai-
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
มาอัพแล้วนะ แฟงขอตัวไปเคลียการบ้านก่อนนะค่ะ ^^
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.2 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ