Game...ล่ารักฝ่าหัวใจคุณหมอเพลย์บอย
9.2
40)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“พี่ยังไม่ได้อาบเลยนะ”
“ก็อาบซิ น้ำก็มี ครีมอาบน้ำก็มี”
“อยากให้เมียอาบให้”
“บ้าเหรอ ง้อยก็ไม่ได้เป็นอาบเองเถอะคะคุณหมอ”
ร่างบางเดินออกไปโดยไม่เหลี่ยวหลังกลับมาอีก โทโมะได้แต่รีบอาบน้ำล้วกๆแล้วเดินตามออกมา แก้วหันมาเห็นก็ตดใจเพราะร่างกายตอนนี้มีเพียงแค่บรากับชุดชั้นในที่ใส่ไว้เท่านั้นไม่คิดว่าจะออกมาเร็วขนาดนี้ มือบางรีบเก็บผ้าขนหนูที่พื้นขึ้นมาคลุมร่างกาย แต่มันช้าไปโทโมะเดินเข้ามากอดแน่น
“อาบเสร็จแล้วเหรอ ไวนะ”
“ก็กลัวใครบางคนจะหนีกลับบ้านไง”
พูดดักเหมือนรู้ทัน
“แก้วเป็นผู้หญิง ดึกแล้วต้องกลับบ้าน”
“3ทุ่มเอง ค้างที่นี้ก็ได้”
“ไม่เอา”
“แต่พี่อยากนอนกอดแก้ว”
“ไม่ต้องมาทำเป็นพูด ทำไมค่ะที่นอนเปลือยให้น้องจินนี่เช็ดตัวให้ก็ลืมแก้วแล้วหล่ะ”
ยิ่งรู้ว่ายิ่งรักก็ยิ่งได้ใจไปใหญ่โต พูดแต่ละอย่างจะหาความสุขเข้าตัวเองอย่างเดียวเลย ความเคลือบแคลงที่ยังไม่ได้รับคำตอบเลยส่งคำถามออกไป จริงซิตอนนั้นจำได้ว่าโทโมะพึ่งอาบน้ำเสร็จแต่ก็ยอมให้จินนี่เช็ดตัวให้ ฮึ้ยมันน่าฆ่าไหมหล่ะ
“ไม่ใช่อย่างที่แก้วคิดสักหน่อย”
เห็นทีตอนนี้ต้องเคลียร์ทุกปัญหาซักที ไม่งั้นคงได้เข้าใจอะไรผิดไปอีกหลายอย่าง
“แล้วอย่างไหนเหรอ...แก้วเห็นพี่พูดครับกับน้องจินนี่ทุกคำ อ่อนโยนกับเขาตลอด”
“พี่ไม่ได้จะพูดแบบนั้นแต่พี่อ่านเอาตามกระดาษเฉยๆครับ นี่ไง”
หยิบกระดาษที่วางอยู่ใต้โคมไฟส่งให้มันออกจะยับยู่ยี่ไปนิด แต่พอได้อ่านรายละเอียด สิ่งที่โทโมะพูดมันเป๊ะมากและไม่ใช่ลายมือใครที่ไหน ทำไมแก้วจะจำลายมือพี่สาวเธอเองไม่ได้ เขียนแบบนี้หวายชัดๆ
“เข้าใจพี่นะครับ ถ้าไม่ทำแบบนี้แก้วก็ไม่บอกซักทีว่ารักกัน”
วงแขนกว้างโอบเอวแล้วยกร่างบางให้นั่งบนตัก
“พี่ต้องให้แก้วพูดก่อนเหรอ พี่ไม่คิดจะบอกแก้วก่อนเหรอไงเชอะ”
“พี่ขอโทษครับ...พี่รู้ว่าตัวเองเป็นผู้ชายที่ไม่ได้เรื่อง แต่ตอนนี้มีเรื่องเดียวที่พี่คิดว่าพี่ทำได้”
“ทำอะไรได้อีกหล่ะ”
“รักแก้วจนหมดหัวใจ”
มีใครเคยพูดไหมว่าพอหมอบทจะหื่นก็หื่นซะน่ากลัว พอจะหวานก็หวานซะเธอจะเอียนตาย จมูกโด่งเริ่มไม่ฟังเสียงก้มลงซุกอยู่ที่ซอกคอเพื่อสูดดมความหอมสดชื่น มือหนาไต่ขึ้นที่เนินอกคลึงเบาๆจนอีกฝ่ายขนลุกเกรียว ร่างกายเธอไม่เคยต้านทานความต้องการที่จะสัมผัสเขาได้เลย ยกมือขึ้นโอบรอบคอเอาไว้
“เล่นเกมกันไหม”
“เล่นอีกแล้ว ชีวิตนี้ไม่จริงจังอะไรเลยเหรอไง”
มือเรียวที่โอบคอโทโมะอยู่เปลี่ยนมาจับยึดไว้ที่ไหล่แทน
“ถ้าใครแพ้ต้องเป็นฝ่ายรุกนะ”
ไม่รอรับคำตอบริมฝีปากนุ่มก็พุ่งฉกลงมาทาบทับเรียวปากสวยอย่างรวดเร็ว แทรกผ่านช่องปากเข้าไปคว้างหาความหวานจนอิ่มเอม
“อือ...”
ดันให้โทโมะออกห่างเผื่อจะหายใจ
“พอแล้ววันนี้ให้ไปหลายรอบแล้วนะ”
“โธ่...มากกว่านี้ยังเคยให้มาแล้วต่ออีกรอบไม่ได้เหรอ”
หื่นยังไงวันนี้ก็ยังคงความหื่นไม่เลิกราไม่คิดว่าคนเจ้าชู้ปากเก่งจะมีความต้องการมากขนาดนี้ แก้วเบื่อนหนาหนีไปทางอื่นทำเป็นไม่สนใจคำพูด โทโมะพลิกตัวเองไปอยู่ด้านหลังสอดมือหนามาคล้องเอวบางไว้แล้วซบหน้าลงกับต้นคอจมูกกดลงที่ไร้ผมด้านหลังพร้อมกับสูดความหอมเข้าไปเต็มปอด
“เมื่อไหร่เมียจะเลิกใจร้าย”
“แก้วใจร้ายกับพี่ยังไง?”
“ชอบให้พี่ทรมานนักเหรอ ไม่รักพี่แล้วเหรอไง”
นี้ไงคุณหมอตัวดีเริ่มออกลวดลายความเป็นเพลย์บอยออกมาอีกแล้วไอ้นิสัยอ้อนยังกับเด็กที่พึ่งเคยเห็นเล่นเอาแก้วใจเต้นรัว
“อืม แก้วไม่ได้รักซักหน่อย”
ดีเหมือนกันชอบมาถามมากนัก ใจจริงแก้วก็อยากแกล้งเหมือนกันดูซิว่าจะยังไง คนตัวสูงซบหนาลงกับแผ่นหลังเนียน บรรยากาศถูกคลุมไปด้วยความเงียบรู้สึกที่หลังได้ว่าเหมือนมีน้ำอุ่นราดลงมา แก้วพลิกตัวหันกลับมาดู
“สุดท้ายแก้วก็ไม่เคยรักพี่”
คนตัวสูงก้มหน้าลง แต่เธอรู้ว่าเขาร้องไห้ อะไรกันพูดเล่นแค่นี้ทำไมน้อยใจง่ายจัง ร่างสูงเดินกลับไปที่เตียงโดยไม่ได้สนใจใบหน้าหวานที่ยืนอึ้งอยู่ แก้วเดินตามไปนั่งลงที่ตักของโทโมะ
“พี่น้อยใจแก้วเหรอ”
“เปล่าครับ”
นั่นไงหล่ะร้อยทั้งร้อยที่บอกว่าไม่น้อยใจไม่เป็นอะไร ที่จริงทั้งน้อยใจทั้งเป็นอะไรนั่นแหละ แก้วเกี่ยวคอของคนที่ตัวเองนั่งตักอยู่ลงมากดจูบลงไปที่ปากนุ่ม ลิ้นเล็กที่ค่อยจะประสาอะไรแทรกเข้าไปภายในช่องปากแต่แล้วก็ถูกไล่ตอนจนต้องยอมจำนนปล่อยให้ลิ้นอุ่นเกี่ยวรัด
“อือ...อย่างนี้ไม่เรียกว่ารักเหรอ”
ถามแล้วจ้องหน้าโทโมะ ส่วนโทโมะก็ได้แต่มองเลยไปเหมือนแก้วเป็นอากาศ ให้มันได้อย่างนี้ซิเมื่อกี้ยังจูบเธออยู่เลยนะ
“เฮ้ย~จะให้แก้วอายไปถึงเมื่อไหร่...แก้วรักพี่นะคะเมื่อกี้แค่หยอกเล่น”
“หัวใจพี่ ความรู้สึกพี่...เล่นสนุกไหม”
อ้าว เธอเล่นด้วยก็ไม่ได้หรือไง นี่ยังน้อยใจไม่เลิกอีกเหรอเนี่ย ไม่เคยเจอผู้ชายขี้น้อยใจอะไรขนาดนี้มาก่อนเลย
“แก้วไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น”
“ครับพี่เข้าใจ”
เบี่ยงหน้าหลบ ถ้าไม่บอกว่าเป็นผู้ชายจะนึกซะว่าเป็นเกย์นะเนี่ย จับหน้าหล่อให้หันมามองลากมือหนาให้จับที่อกอวบด้านซ้าย
“ที่แก้วยอมเนี่ยดูไม่ออกเลยเหรอว่ารักไอ้หมอบ้า!! หรือหัวใจแก้วเขวี้ยงทิ้งไปแล้ว”
ซบหน้าลงที่อกกว้างอย่างออดอ้อน ก้มหน้าอยู่เลยไม่ทันเห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
“ถ้าเขวี้ยงก็โง่ซิครับ”
เห็นร่างบางซบอยู่กับอกได้จังหวะ พลิงตัวลงบนที่นอนแล้วคร่อมเอาไว้ จากนั้นร่างหนาก็เข้าโรมรันเต็มที่ แก้วได้แต่ร้องครวญครางไม่เป็นภาษา
“อือ...พอแล้ว”
เบี่ยงหน้าหลบจุมพิษแล้วร้องปราม
“นิดนึง”
แก้วสายหัวทันทีไม่หรอกให้ไม่ได้นะ ถ้าให้มีหวังพรุ่งนี้ไม่ต้องไปทำงานแล้ว
“แก้วมีขึ้นศาล”
ดันร่างที่นอนทับอยู่ด้านบนให้ลงมานอนกอดกันหลวมๆ โทโมะนิ่วหน้าเลิกคิ้วสูงเหมือนไม่เชื่อและทำท่าว่าจะจูบอีก แต่แก้วรีบดึงผ้าขึ้นมาห่มมุดหน้าลงไป
“เด็กหยิ่งใจร้าย ต้องให้ใช้กำลังใช่ไหม”
“แก้วมีงาน ถ้าพูดไม่ฟังทีหลังแก้วจะไม่นอนกับพี่แล้ว”
เงยหน้าขึ้นมาพูดจริงจัง ถ้าอ้อนไม่ได้ผลก็ต้องโหมดโหดซะบ้าง ดีเลยซิไม่มาจะได้ไม่เปลืองตัว ไม่รู้ป่านนี้พี่สาวเธอกับพี่สาวเขาคงเม้าท์กันสนุกไปแล้วก็เล่นหายขึ้นมาอยู่กับเขาจะข่อนคืนไปแล้ว
“โอเคๆ นอนกอดกันนิ่งๆก็ได้แต่งงานเมื่อไหร่ พ่อจะฟัดทุกคืนเลย”
เพี้ย!!
แก้วฟาดลงไปที่ไหล่หนาไอ้คำพูดหยาบคายแบบนี้ไม่น่าเชื่อว่าคนเป็นหมอจะพูดมันออกมา ทั้งหื่นทั้งกาม แต่ฟาดได้ไม่กี่ทีก็ถูกรวบมือพร้อมกับร่างกายที่ถูกกอดจนแน่น
“นอนกันดีกว่าเผื่อพรุ่งนี้เราจะได้เล่นจ้ำจี้กันตอนเช้ากันอีกนิด”
ยังจะมีรอบเช้าอีกเหรอ ไอ้หมอหื่น... พอแก้วดิ้นจะลุกโทโมะก็ยิ่งรัดแน่น
จุบ~
“ไนท์คิสครับ”
โทโมะจูบลงไปที่เรียวปากบางแล้วหลับตาลง รู้สึกว่าถ้าไม่หลับตอนนี้คงระงับอารมณ์ไม่อยู่แน่ ยิ่งคนในอ้อมกอดยังมีแรงดิ้นนั่นแสดงว่าไม่ได้เหนี่อยเท่าไหร่ แต่อย่างว่าพอจะทำก็ทำไม่ลงเห็นว่าพรุ่งนี้มีงานก็เลยปล่อยให้พักจะดีกว่า นอนนิ่งๆซักพักแก้วที่ดิ้นก็สงบลง ลืมตามมองอีกที ใบหน้าหวานก็ซบอกแกร่งจนหลับไปแล้ว...
+
+
+
ไม่ทันที่แสดงแดดจะได้โผล่รับวันใหม่ แก้วก็ตื่นขึ้นมาก่อนแล้ว วันนี้ชักช้าไม่ได้เพราะถ้ารอให้อีกคนตื่นมีหวังเธอไม่ได้ไปทำงานแน่ ค่อยๆแกะมือหนาที่เกาะอยู่ที่เอวออก เดินอย่างเงียบไปที่ประตูห้องคราวนี้ไม่ลืมที่จะหยิบกุญแจรถตัวเองออกมาด้วย พอออกจากห้องได้ก็รีบจ้ำอ้าวไปที่รถทันที
“ฮ้าววว ว”
โทโมะที่งัวเงียตื่นมาทีหลัง มือก็ป่ายหาร่างบางที่ก็ต้องขมวดคิ้วเพราะบนเตียงมีเพียงเขานอนอยู่เพียงคนเดียว รีบผงกหัวลุกขึ้นนั่งอย่าวรวดเร็ว
“ไปไม่บอกกันสักคำ อย่าให้เจอตัวนะ”
พูดคาดโทษหญิงสาวกับตัวเองเบาๆ แล้วเดินลงไปอาบน้ำน้ำเขาเองก็จะต้องไปทำงานเช่นกันวันนี้มีเวรอยู่ต่อยันดึกซะด้วย กะว่าจะขอกอดให้หน้ำใจตอนเช้าซะหน่อย คนงามก็มาชิ่งหนีไปซะก่อน
………………………………………………………………………………………
ว๊ากกกกถ้าตอนนี้มันจะไม่มีอะไรเลยนอกจากวนไปเวียนมาอยู่ในห้อง55+ ขอโต๊ดหลายๆค๊าบบบช่วงนี้สิ่งรบเร้ามันเยอะเหลือหลาย~ อาการเพลียใจมาไม่หยุดหย่อนเลย มันเลยออกมาได้แค่นี้เจ่งๆ (สารภาพบาป-_-^) ผ่านมาเฟี้ยววว~ ผ่านไปฟิ้ววว~ แวะมาอ่านแล้วก็เม้นๆเป็นกลจ.หน่อยค๊าบ (ตัวย่อใหม่55) สัญญาตัวโตๆว่าตอนหน้ามันจะไม่วกวนเหมือนอยู่ในเขาวงกตอีกล้าววว (แน่เหรอ?)
ปล.1รักรีดเดอร์นะคับจ๊วฟฟ100ที><
ปล.2ยู่ว์ฮูว์~ยังอ่านกันอยู่ป่าว กิกิ (ลืมกันหมดแล้วว ว)
“ก็อาบซิ น้ำก็มี ครีมอาบน้ำก็มี”
“อยากให้เมียอาบให้”
“บ้าเหรอ ง้อยก็ไม่ได้เป็นอาบเองเถอะคะคุณหมอ”
ร่างบางเดินออกไปโดยไม่เหลี่ยวหลังกลับมาอีก โทโมะได้แต่รีบอาบน้ำล้วกๆแล้วเดินตามออกมา แก้วหันมาเห็นก็ตดใจเพราะร่างกายตอนนี้มีเพียงแค่บรากับชุดชั้นในที่ใส่ไว้เท่านั้นไม่คิดว่าจะออกมาเร็วขนาดนี้ มือบางรีบเก็บผ้าขนหนูที่พื้นขึ้นมาคลุมร่างกาย แต่มันช้าไปโทโมะเดินเข้ามากอดแน่น
“อาบเสร็จแล้วเหรอ ไวนะ”
“ก็กลัวใครบางคนจะหนีกลับบ้านไง”
พูดดักเหมือนรู้ทัน
“แก้วเป็นผู้หญิง ดึกแล้วต้องกลับบ้าน”
“3ทุ่มเอง ค้างที่นี้ก็ได้”
“ไม่เอา”
“แต่พี่อยากนอนกอดแก้ว”
“ไม่ต้องมาทำเป็นพูด ทำไมค่ะที่นอนเปลือยให้น้องจินนี่เช็ดตัวให้ก็ลืมแก้วแล้วหล่ะ”
ยิ่งรู้ว่ายิ่งรักก็ยิ่งได้ใจไปใหญ่โต พูดแต่ละอย่างจะหาความสุขเข้าตัวเองอย่างเดียวเลย ความเคลือบแคลงที่ยังไม่ได้รับคำตอบเลยส่งคำถามออกไป จริงซิตอนนั้นจำได้ว่าโทโมะพึ่งอาบน้ำเสร็จแต่ก็ยอมให้จินนี่เช็ดตัวให้ ฮึ้ยมันน่าฆ่าไหมหล่ะ
“ไม่ใช่อย่างที่แก้วคิดสักหน่อย”
เห็นทีตอนนี้ต้องเคลียร์ทุกปัญหาซักที ไม่งั้นคงได้เข้าใจอะไรผิดไปอีกหลายอย่าง
“แล้วอย่างไหนเหรอ...แก้วเห็นพี่พูดครับกับน้องจินนี่ทุกคำ อ่อนโยนกับเขาตลอด”
“พี่ไม่ได้จะพูดแบบนั้นแต่พี่อ่านเอาตามกระดาษเฉยๆครับ นี่ไง”
หยิบกระดาษที่วางอยู่ใต้โคมไฟส่งให้มันออกจะยับยู่ยี่ไปนิด แต่พอได้อ่านรายละเอียด สิ่งที่โทโมะพูดมันเป๊ะมากและไม่ใช่ลายมือใครที่ไหน ทำไมแก้วจะจำลายมือพี่สาวเธอเองไม่ได้ เขียนแบบนี้หวายชัดๆ
“เข้าใจพี่นะครับ ถ้าไม่ทำแบบนี้แก้วก็ไม่บอกซักทีว่ารักกัน”
วงแขนกว้างโอบเอวแล้วยกร่างบางให้นั่งบนตัก
“พี่ต้องให้แก้วพูดก่อนเหรอ พี่ไม่คิดจะบอกแก้วก่อนเหรอไงเชอะ”
“พี่ขอโทษครับ...พี่รู้ว่าตัวเองเป็นผู้ชายที่ไม่ได้เรื่อง แต่ตอนนี้มีเรื่องเดียวที่พี่คิดว่าพี่ทำได้”
“ทำอะไรได้อีกหล่ะ”
“รักแก้วจนหมดหัวใจ”
มีใครเคยพูดไหมว่าพอหมอบทจะหื่นก็หื่นซะน่ากลัว พอจะหวานก็หวานซะเธอจะเอียนตาย จมูกโด่งเริ่มไม่ฟังเสียงก้มลงซุกอยู่ที่ซอกคอเพื่อสูดดมความหอมสดชื่น มือหนาไต่ขึ้นที่เนินอกคลึงเบาๆจนอีกฝ่ายขนลุกเกรียว ร่างกายเธอไม่เคยต้านทานความต้องการที่จะสัมผัสเขาได้เลย ยกมือขึ้นโอบรอบคอเอาไว้
“เล่นเกมกันไหม”
“เล่นอีกแล้ว ชีวิตนี้ไม่จริงจังอะไรเลยเหรอไง”
มือเรียวที่โอบคอโทโมะอยู่เปลี่ยนมาจับยึดไว้ที่ไหล่แทน
“ถ้าใครแพ้ต้องเป็นฝ่ายรุกนะ”
ไม่รอรับคำตอบริมฝีปากนุ่มก็พุ่งฉกลงมาทาบทับเรียวปากสวยอย่างรวดเร็ว แทรกผ่านช่องปากเข้าไปคว้างหาความหวานจนอิ่มเอม
“อือ...”
ดันให้โทโมะออกห่างเผื่อจะหายใจ
“พอแล้ววันนี้ให้ไปหลายรอบแล้วนะ”
“โธ่...มากกว่านี้ยังเคยให้มาแล้วต่ออีกรอบไม่ได้เหรอ”
หื่นยังไงวันนี้ก็ยังคงความหื่นไม่เลิกราไม่คิดว่าคนเจ้าชู้ปากเก่งจะมีความต้องการมากขนาดนี้ แก้วเบื่อนหนาหนีไปทางอื่นทำเป็นไม่สนใจคำพูด โทโมะพลิกตัวเองไปอยู่ด้านหลังสอดมือหนามาคล้องเอวบางไว้แล้วซบหน้าลงกับต้นคอจมูกกดลงที่ไร้ผมด้านหลังพร้อมกับสูดความหอมเข้าไปเต็มปอด
“เมื่อไหร่เมียจะเลิกใจร้าย”
“แก้วใจร้ายกับพี่ยังไง?”
“ชอบให้พี่ทรมานนักเหรอ ไม่รักพี่แล้วเหรอไง”
นี้ไงคุณหมอตัวดีเริ่มออกลวดลายความเป็นเพลย์บอยออกมาอีกแล้วไอ้นิสัยอ้อนยังกับเด็กที่พึ่งเคยเห็นเล่นเอาแก้วใจเต้นรัว
“อืม แก้วไม่ได้รักซักหน่อย”
ดีเหมือนกันชอบมาถามมากนัก ใจจริงแก้วก็อยากแกล้งเหมือนกันดูซิว่าจะยังไง คนตัวสูงซบหนาลงกับแผ่นหลังเนียน บรรยากาศถูกคลุมไปด้วยความเงียบรู้สึกที่หลังได้ว่าเหมือนมีน้ำอุ่นราดลงมา แก้วพลิกตัวหันกลับมาดู
“สุดท้ายแก้วก็ไม่เคยรักพี่”
คนตัวสูงก้มหน้าลง แต่เธอรู้ว่าเขาร้องไห้ อะไรกันพูดเล่นแค่นี้ทำไมน้อยใจง่ายจัง ร่างสูงเดินกลับไปที่เตียงโดยไม่ได้สนใจใบหน้าหวานที่ยืนอึ้งอยู่ แก้วเดินตามไปนั่งลงที่ตักของโทโมะ
“พี่น้อยใจแก้วเหรอ”
“เปล่าครับ”
นั่นไงหล่ะร้อยทั้งร้อยที่บอกว่าไม่น้อยใจไม่เป็นอะไร ที่จริงทั้งน้อยใจทั้งเป็นอะไรนั่นแหละ แก้วเกี่ยวคอของคนที่ตัวเองนั่งตักอยู่ลงมากดจูบลงไปที่ปากนุ่ม ลิ้นเล็กที่ค่อยจะประสาอะไรแทรกเข้าไปภายในช่องปากแต่แล้วก็ถูกไล่ตอนจนต้องยอมจำนนปล่อยให้ลิ้นอุ่นเกี่ยวรัด
“อือ...อย่างนี้ไม่เรียกว่ารักเหรอ”
ถามแล้วจ้องหน้าโทโมะ ส่วนโทโมะก็ได้แต่มองเลยไปเหมือนแก้วเป็นอากาศ ให้มันได้อย่างนี้ซิเมื่อกี้ยังจูบเธออยู่เลยนะ
“เฮ้ย~จะให้แก้วอายไปถึงเมื่อไหร่...แก้วรักพี่นะคะเมื่อกี้แค่หยอกเล่น”
“หัวใจพี่ ความรู้สึกพี่...เล่นสนุกไหม”
อ้าว เธอเล่นด้วยก็ไม่ได้หรือไง นี่ยังน้อยใจไม่เลิกอีกเหรอเนี่ย ไม่เคยเจอผู้ชายขี้น้อยใจอะไรขนาดนี้มาก่อนเลย
“แก้วไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น”
“ครับพี่เข้าใจ”
เบี่ยงหน้าหลบ ถ้าไม่บอกว่าเป็นผู้ชายจะนึกซะว่าเป็นเกย์นะเนี่ย จับหน้าหล่อให้หันมามองลากมือหนาให้จับที่อกอวบด้านซ้าย
“ที่แก้วยอมเนี่ยดูไม่ออกเลยเหรอว่ารักไอ้หมอบ้า!! หรือหัวใจแก้วเขวี้ยงทิ้งไปแล้ว”
ซบหน้าลงที่อกกว้างอย่างออดอ้อน ก้มหน้าอยู่เลยไม่ทันเห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
“ถ้าเขวี้ยงก็โง่ซิครับ”
เห็นร่างบางซบอยู่กับอกได้จังหวะ พลิงตัวลงบนที่นอนแล้วคร่อมเอาไว้ จากนั้นร่างหนาก็เข้าโรมรันเต็มที่ แก้วได้แต่ร้องครวญครางไม่เป็นภาษา
“อือ...พอแล้ว”
เบี่ยงหน้าหลบจุมพิษแล้วร้องปราม
“นิดนึง”
แก้วสายหัวทันทีไม่หรอกให้ไม่ได้นะ ถ้าให้มีหวังพรุ่งนี้ไม่ต้องไปทำงานแล้ว
“แก้วมีขึ้นศาล”
ดันร่างที่นอนทับอยู่ด้านบนให้ลงมานอนกอดกันหลวมๆ โทโมะนิ่วหน้าเลิกคิ้วสูงเหมือนไม่เชื่อและทำท่าว่าจะจูบอีก แต่แก้วรีบดึงผ้าขึ้นมาห่มมุดหน้าลงไป
“เด็กหยิ่งใจร้าย ต้องให้ใช้กำลังใช่ไหม”
“แก้วมีงาน ถ้าพูดไม่ฟังทีหลังแก้วจะไม่นอนกับพี่แล้ว”
เงยหน้าขึ้นมาพูดจริงจัง ถ้าอ้อนไม่ได้ผลก็ต้องโหมดโหดซะบ้าง ดีเลยซิไม่มาจะได้ไม่เปลืองตัว ไม่รู้ป่านนี้พี่สาวเธอกับพี่สาวเขาคงเม้าท์กันสนุกไปแล้วก็เล่นหายขึ้นมาอยู่กับเขาจะข่อนคืนไปแล้ว
“โอเคๆ นอนกอดกันนิ่งๆก็ได้แต่งงานเมื่อไหร่ พ่อจะฟัดทุกคืนเลย”
เพี้ย!!
แก้วฟาดลงไปที่ไหล่หนาไอ้คำพูดหยาบคายแบบนี้ไม่น่าเชื่อว่าคนเป็นหมอจะพูดมันออกมา ทั้งหื่นทั้งกาม แต่ฟาดได้ไม่กี่ทีก็ถูกรวบมือพร้อมกับร่างกายที่ถูกกอดจนแน่น
“นอนกันดีกว่าเผื่อพรุ่งนี้เราจะได้เล่นจ้ำจี้กันตอนเช้ากันอีกนิด”
ยังจะมีรอบเช้าอีกเหรอ ไอ้หมอหื่น... พอแก้วดิ้นจะลุกโทโมะก็ยิ่งรัดแน่น
จุบ~
“ไนท์คิสครับ”
โทโมะจูบลงไปที่เรียวปากบางแล้วหลับตาลง รู้สึกว่าถ้าไม่หลับตอนนี้คงระงับอารมณ์ไม่อยู่แน่ ยิ่งคนในอ้อมกอดยังมีแรงดิ้นนั่นแสดงว่าไม่ได้เหนี่อยเท่าไหร่ แต่อย่างว่าพอจะทำก็ทำไม่ลงเห็นว่าพรุ่งนี้มีงานก็เลยปล่อยให้พักจะดีกว่า นอนนิ่งๆซักพักแก้วที่ดิ้นก็สงบลง ลืมตามมองอีกที ใบหน้าหวานก็ซบอกแกร่งจนหลับไปแล้ว...
+
+
+
ไม่ทันที่แสดงแดดจะได้โผล่รับวันใหม่ แก้วก็ตื่นขึ้นมาก่อนแล้ว วันนี้ชักช้าไม่ได้เพราะถ้ารอให้อีกคนตื่นมีหวังเธอไม่ได้ไปทำงานแน่ ค่อยๆแกะมือหนาที่เกาะอยู่ที่เอวออก เดินอย่างเงียบไปที่ประตูห้องคราวนี้ไม่ลืมที่จะหยิบกุญแจรถตัวเองออกมาด้วย พอออกจากห้องได้ก็รีบจ้ำอ้าวไปที่รถทันที
“ฮ้าววว ว”
โทโมะที่งัวเงียตื่นมาทีหลัง มือก็ป่ายหาร่างบางที่ก็ต้องขมวดคิ้วเพราะบนเตียงมีเพียงเขานอนอยู่เพียงคนเดียว รีบผงกหัวลุกขึ้นนั่งอย่าวรวดเร็ว
“ไปไม่บอกกันสักคำ อย่าให้เจอตัวนะ”
พูดคาดโทษหญิงสาวกับตัวเองเบาๆ แล้วเดินลงไปอาบน้ำน้ำเขาเองก็จะต้องไปทำงานเช่นกันวันนี้มีเวรอยู่ต่อยันดึกซะด้วย กะว่าจะขอกอดให้หน้ำใจตอนเช้าซะหน่อย คนงามก็มาชิ่งหนีไปซะก่อน
………………………………………………………………………………………
ว๊ากกกกถ้าตอนนี้มันจะไม่มีอะไรเลยนอกจากวนไปเวียนมาอยู่ในห้อง55+ ขอโต๊ดหลายๆค๊าบบบช่วงนี้สิ่งรบเร้ามันเยอะเหลือหลาย~ อาการเพลียใจมาไม่หยุดหย่อนเลย มันเลยออกมาได้แค่นี้เจ่งๆ (สารภาพบาป-_-^) ผ่านมาเฟี้ยววว~ ผ่านไปฟิ้ววว~ แวะมาอ่านแล้วก็เม้นๆเป็นกลจ.หน่อยค๊าบ (ตัวย่อใหม่55) สัญญาตัวโตๆว่าตอนหน้ามันจะไม่วกวนเหมือนอยู่ในเขาวงกตอีกล้าววว (แน่เหรอ?)
ปล.1รักรีดเดอร์นะคับจ๊วฟฟ100ที><
ปล.2ยู่ว์ฮูว์~ยังอ่านกันอยู่ป่าว กิกิ (ลืมกันหมดแล้วว ว)
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.2 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.2 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ