Game...ล่ารักฝ่าหัวใจคุณหมอเพลย์บอย
9.2
36)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความแก้วสะดุงเฮือกที่ได้ยินเค้าบอกว่ารักเธอ ใครบอกว่าเธอลืม ถ้าลืมเค้าง่ายๆเธอลืมไปแล้วไม่นอนร้องไห้เพราะคิดถึงทุกคืนหรอก เค้ารู้บ้างไหมมันทรมานไม่แพ้กัน แก้วโผ่เข้ากอดโทโมะทั้งที่โทโมะไร้สติ ความโหยหาเรียกร้องให้เธอกอด กอดเค้าไว้แน่นๆ
“แก้ววว ว เหรออออ”
“อืม”
ดวงตาแดงพยายามปรือตาขึ้นมาดูพอเห็นชัดว่าเป็นใครก็คว้าร่างบางเข้ามากอด
“เย็นชากาบพี่มากเกินปายแล้ววว ยางงายพี่ก็เปนผัวน้องแก้วววน๊า”
“เมามากเลยนะเนี่ยทำไมทำตัวเละเทะขนาดนี้ห๊ะ รู้ไหมมีคนเค้าเป็นห่วง”
“ครายยห่วงงง~”
ฟลึ่บ!!
ทำท่าจะพูดแต่แล้วก็ต้องสลบลงไปคาข้างๆโซฟานั่นแหละ แก้วต้องค่อยๆจับลากมานอนที่เตียง ผ้าชุบน้ำถูกเช็ดที่ตัวซ้ำแล้วซ้ำเล่าก่อนจะเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ จัดการห่มผ้าห่มให้เป็นอย่างดี
“คำพูดของคนเมามันไร้น้ำหนักในชั้นศาลพี่รู้ไหม ”
บอกตรงหน้าโทโมะแล้วลุกจากเตียงไปเก็บบรรดาขวดเหล้าทั้งหลายแหล่ไปทิ้ง คนเมาถือว่าเป็นผู้มีสติไม่ครบพูดอะไรเป็นความจริงรึเปล่าเราก็ไม่อาจรู้ได้…
+
+
+
เช้า
“น้องแก้ว!!”
โทโมะที่ได้สติตื่นขึ้นมาเห็นว่าแก้วนอนฟลุบอยู่ข้างเตียงก็ตกใจ เค้าแทบจะจำอะไรไม่ได้เลยที่จำได้ล่าสุดคือตัวเองกินเหล้าไปเยอะมาแล้วหลังจากนั้นทุกอย่างก็พร่ามัวไปหมด
“เสียงดังจริง!!”
ร่างบางที่พึ่งตื่นก็ตีหน้ายักษ์แล้วตะโกนใส่ ทั้งๆที่ในใจอยากจะทักดีๆกับเขา ว่าเป็นอย่างไรบ้างแต่ว่าปากมันไม่ยอมพูดไป ผลมันก็เลยออกมาตามที่เห็น
“มาอยู่ที่นี้ได้ยังไง”
น้ำเสียงหม่นลง เพราะความรู้สึกผิดที่ยังท่วมใจ หวงนึกไปถึงคำที่พี่มากิบอก เมื่อไหร่ที่มีโอกาศพูดไปเลยว่ารัก...โอกาศทองตอนนี้มาอยู่ตรงหน้าเข้าแล้วแค่สารภาพความรู้สึกคงไม่เป็นปัญหาเท่าไหร่
“พี่มากิตามมาแก้วก็มา ตอนนี้ไม่มีอะไรแล้วขอตัวนะ”
ขาเรียวๆหมุนตัวแล้วหันหลังเตรียมเดินออกจากห้อง เป็นอย่างที่เธอคิดคนเมาก็คือคนที่ขาดสติพูดอะไรมันเชื่อไม่ได้เลยสักอย่างเดียว
หมับ~
วงแขนกว้างโอบรัดรอบเอวไว้อย่างหวงเเหน ไม่ใช่ว่าไม่รู้สึกอะไรก็แค่ยังงงและมึนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็เท่านั้นเอง
“ปล่อยแก้วนะ”
“จะให้ปล่อยไปได้ยังไง”
“ทำไมหล่ะ ทำไมถึงปล่อยแก้วไม่ได้”
“กะ ก็...”
เฮยย...รักไง รักคำเดียวก็พูดไปทุกอย่างจะดีขึ้น เขารู้แต่ปากมันไม่ยอมพูด อยากจะเอาไม้ฟาดที่ปากให้มันหายแข็งเสียจริง
“ไร้เหตุผลก็ปล่อยแก้ว”
“ต้องมีเหตุผลเหรอที่ผัวจะกอดเมียไม่ได้”
พูดแล้วรั้งร่างบางเข้ามาใกล้ๆผินใบหน้าให้หันมาหา พวกคนปากแข็งมันจะพูไม่เก่งแต่เรื่องการแสดงออกรับรองไม่น้อยหน้าใครแน่ๆ
“คิดถึงพี่รึเปล่า?”
จู่ๆก็ถามทำให้แก้วขมวดคิ้วจนยุ่งเป็นโบว์ผูกผม เมื่อร่างบางยังคงเงียบโทโมะเองก็ขมวดคิ้วตาม ทำไมจะไม่คิดถึงหล่ะห่างกันกี่เดือนเขานับบ้างรึเปล่ากี่เดือนแล้วที่ต้องห่างหายไปจากอ้อมกอดนี้
“ไม่ตอบพี่”
ไม่ตอบ...ริมฝีปากนุ่มหดลงทาบทับเรียวปากสวยได้รูป พลางดันร่างเล็กให้เข้ามาแนบกายมือหนาเฉยค้างแก้วขึ้นเพื่อรับจูบแสนอ่อนหวานลิ้งร้อนแทรกผ่านไรฟันสวยเป็นระเบียบเข้าไปสำรวจภายในช่องปากอย่างโห้ยหา ความหอมหวานที่ไม่ได้สัมผัสมานานมันยิ่งเยายวน ร่างเล็กได้แต่สะท้านอยู่ในอกเผลอรับสัมผัสจูบตอบไปเช่นกัน ลิ้นร้อนลากลามมาที่ซอกคอหอมกรุ่นหอมแรงๆที่ซอกคออย่างหมั่นเคี้ยว
“ไหนว่าไม่คิดถึงกัน ปากแข็งนะเด็กหยิ่ง”
ใครบอกว่าไม่คิดถึงเธอยังไม่ได้แม้แต่จะพูดเขาเองต่างหากที่คิดไปเอง เขาใจไปเอง หากบอกว่าไม่คิดถึงคงจะยากเพราะสัมผัสที่รับรู้ได้ถึงความโหยหาเรียกร้องของกันและกันมันยังติดอยู่ที่ริมฝีปาก
“นิ่งอย่างนี้ ยอมให้พี่กดเหรอ”
“หยุดพูดจาไม่ดีนะ”
“ตอบไม่ตรงคำถาม”
“ไม่ยอม”
“งั้นพี่จะเอา เดี๋ยวน้องแก้วก็ยอมพี่อยู่ดี”
“แก้วจะฟ้องพี่ขอหาข่มขืน”
“ข่มขืนเมียผิดเหรอ ถ้าผิดไม่เป็นไรไว้คุยกันที่หลังก็ได้ถ้าเมียจะฟ้องผัวลงละก็นะ”
ดันร่างเล็กให้ถอยไปจนชิดเตียงแล้วโน้มตัวทับลงไป ร่างเล็กแทบจะกระดิกตัวไม่ได้ คนข้างบนยิ่งได้ใจ มือหนาสอดล้วงเข้าไปใต้สาบเสื้ออย่างแสดงความเป็นเจ้าของลูบไล้จากหน้าท้องแบนราบไปยันถึงอกอิ่มแต่มีบราที่กันไว้อยู่ทำรำคาณ โทโมะจัดการกระตุกทั้งเสื้อทั้งบารออกในเวลาเดียวกัน มือหนาอดไม่ได้ที่จะแตะต้องสิ่งที่ปรากฎอยู่ตรงหน้าบีบเคล้นอย่าเรียกอารมณ์ ตามมาด้วยปากนุ้มที่จุมพิตที่เนินเนื้อขาวผ่องฝากรอยรักไว้จนเต็มอกอวบ
“อืออ~...”
ร่างบางเริ่มสงเสียงครวญคราง
“บอกแล้วไงยังไงก็ต้องยอมพี่อยู่วันยังค่ำ”
ปากนุ้มวกกลับขึ้นไปบดขยี้เรียวปากสวยอีกรอบ นิ้วยาวๆเกี่ยวตะขอกางเกงจนหลุดแล้วเกลี่ยจนกางเกงพ้นปลายเท้าลงไปกองกับพื้น สะโพกกลมกลึงได้รูปยิ่งทำให้อารมณ์พลุงพล่านจนควบคุมไม่อยู่รีบสอดร่างกายเข้าไปในกายสาว
“อือ...จะ เจ็บ อืออ”
ร้างลากันไปนานหลายเดือนจนช่องทางกลับมาคับแน่นอีกครั้ง ปากนุ้มๆยังคงทำหน้าที่ได้อย่างรู้เวลาจูบไล้เวียนไปทั่วซอกคอเพื่อบรรเทาอาการเจ็บ มือนาวนอยู่ที่สะโพกบีบเคล้นเพื่อทำให้คนใต้ล่างเกิดอารมณ์ไม่แพ้กัน จังหวะรักยังคงเป็นไปด้วยความร้อนแรง
“อะ อื้อห์ อาห์...”
“อืมห์ ยังหวานไม่เปลี่ยนจริงๆ”
ต่อให้ตอนนี้จะเปิดแอร์จนเย็นช่ำก็ไม่สามารถดับความเร่าร้อนที่ร่างสองร่างกำลังเสพความสุขได้ ทั้งสองพลัดกันรุกรับอย่างคล่องแคล่วพากันปีนป่ายไปสู่ความสุขพร้อมกันซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนหมดแรงตามๆกันไป
“เมื่อไหร่จะเลิกปากแข็งซักที่หืมแม่ทนายตัวแสบ”
กอดร่างที่นอนแนบกับอกแล้วถามขึ้นเมื่อแก้วรู้สึกตัว มันไม่ใช่ใครคนหนึ่งที่ปากแข็งก็ทั้งคู่แหละ
“แล้วทำไมพี่ไม่บอกแก้วก่อนล่ะ ผู้ชายรึเปล่า”
“ต่างคนก็ต่างรู้แล้วทำไมยังต้องบอกอีก”
เป็นงั้นไป เขาเองไม่ใช่เหรอที่เรียกร้องให้พูดตามจริงเขาเป็นผู้ชายก็ควรเริ่จะพูดก่อนซิ หรือว่าไม่ถูก??
“แต่พี่เริ่มก่อนนะ”
“ก็อยากได้ยิน”
“แล้วคิดว่าแก้วไม่อยากได้ยินเหรอไง!!”
==============================================
มาแล้วค่าหลังจากห่างหายไปนานมีคนคิดถึงกันไหมอ่านแล้วเม้นๆโหวดๆเยอะน่ะค่า
ปล รักลีดเดอร์มากๆนะคะ
ปล อยากอ่านต้องเม้นๆโหวดๆน๊า
“แก้ววว ว เหรออออ”
“อืม”
ดวงตาแดงพยายามปรือตาขึ้นมาดูพอเห็นชัดว่าเป็นใครก็คว้าร่างบางเข้ามากอด
“เย็นชากาบพี่มากเกินปายแล้ววว ยางงายพี่ก็เปนผัวน้องแก้วววน๊า”
“เมามากเลยนะเนี่ยทำไมทำตัวเละเทะขนาดนี้ห๊ะ รู้ไหมมีคนเค้าเป็นห่วง”
“ครายยห่วงงง~”
ฟลึ่บ!!
ทำท่าจะพูดแต่แล้วก็ต้องสลบลงไปคาข้างๆโซฟานั่นแหละ แก้วต้องค่อยๆจับลากมานอนที่เตียง ผ้าชุบน้ำถูกเช็ดที่ตัวซ้ำแล้วซ้ำเล่าก่อนจะเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ จัดการห่มผ้าห่มให้เป็นอย่างดี
“คำพูดของคนเมามันไร้น้ำหนักในชั้นศาลพี่รู้ไหม ”
บอกตรงหน้าโทโมะแล้วลุกจากเตียงไปเก็บบรรดาขวดเหล้าทั้งหลายแหล่ไปทิ้ง คนเมาถือว่าเป็นผู้มีสติไม่ครบพูดอะไรเป็นความจริงรึเปล่าเราก็ไม่อาจรู้ได้…
+
+
+
เช้า
“น้องแก้ว!!”
โทโมะที่ได้สติตื่นขึ้นมาเห็นว่าแก้วนอนฟลุบอยู่ข้างเตียงก็ตกใจ เค้าแทบจะจำอะไรไม่ได้เลยที่จำได้ล่าสุดคือตัวเองกินเหล้าไปเยอะมาแล้วหลังจากนั้นทุกอย่างก็พร่ามัวไปหมด
“เสียงดังจริง!!”
ร่างบางที่พึ่งตื่นก็ตีหน้ายักษ์แล้วตะโกนใส่ ทั้งๆที่ในใจอยากจะทักดีๆกับเขา ว่าเป็นอย่างไรบ้างแต่ว่าปากมันไม่ยอมพูดไป ผลมันก็เลยออกมาตามที่เห็น
“มาอยู่ที่นี้ได้ยังไง”
น้ำเสียงหม่นลง เพราะความรู้สึกผิดที่ยังท่วมใจ หวงนึกไปถึงคำที่พี่มากิบอก เมื่อไหร่ที่มีโอกาศพูดไปเลยว่ารัก...โอกาศทองตอนนี้มาอยู่ตรงหน้าเข้าแล้วแค่สารภาพความรู้สึกคงไม่เป็นปัญหาเท่าไหร่
“พี่มากิตามมาแก้วก็มา ตอนนี้ไม่มีอะไรแล้วขอตัวนะ”
ขาเรียวๆหมุนตัวแล้วหันหลังเตรียมเดินออกจากห้อง เป็นอย่างที่เธอคิดคนเมาก็คือคนที่ขาดสติพูดอะไรมันเชื่อไม่ได้เลยสักอย่างเดียว
หมับ~
วงแขนกว้างโอบรัดรอบเอวไว้อย่างหวงเเหน ไม่ใช่ว่าไม่รู้สึกอะไรก็แค่ยังงงและมึนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็เท่านั้นเอง
“ปล่อยแก้วนะ”
“จะให้ปล่อยไปได้ยังไง”
“ทำไมหล่ะ ทำไมถึงปล่อยแก้วไม่ได้”
“กะ ก็...”
เฮยย...รักไง รักคำเดียวก็พูดไปทุกอย่างจะดีขึ้น เขารู้แต่ปากมันไม่ยอมพูด อยากจะเอาไม้ฟาดที่ปากให้มันหายแข็งเสียจริง
“ไร้เหตุผลก็ปล่อยแก้ว”
“ต้องมีเหตุผลเหรอที่ผัวจะกอดเมียไม่ได้”
พูดแล้วรั้งร่างบางเข้ามาใกล้ๆผินใบหน้าให้หันมาหา พวกคนปากแข็งมันจะพูไม่เก่งแต่เรื่องการแสดงออกรับรองไม่น้อยหน้าใครแน่ๆ
“คิดถึงพี่รึเปล่า?”
จู่ๆก็ถามทำให้แก้วขมวดคิ้วจนยุ่งเป็นโบว์ผูกผม เมื่อร่างบางยังคงเงียบโทโมะเองก็ขมวดคิ้วตาม ทำไมจะไม่คิดถึงหล่ะห่างกันกี่เดือนเขานับบ้างรึเปล่ากี่เดือนแล้วที่ต้องห่างหายไปจากอ้อมกอดนี้
“ไม่ตอบพี่”
ไม่ตอบ...ริมฝีปากนุ่มหดลงทาบทับเรียวปากสวยได้รูป พลางดันร่างเล็กให้เข้ามาแนบกายมือหนาเฉยค้างแก้วขึ้นเพื่อรับจูบแสนอ่อนหวานลิ้งร้อนแทรกผ่านไรฟันสวยเป็นระเบียบเข้าไปสำรวจภายในช่องปากอย่างโห้ยหา ความหอมหวานที่ไม่ได้สัมผัสมานานมันยิ่งเยายวน ร่างเล็กได้แต่สะท้านอยู่ในอกเผลอรับสัมผัสจูบตอบไปเช่นกัน ลิ้นร้อนลากลามมาที่ซอกคอหอมกรุ่นหอมแรงๆที่ซอกคออย่างหมั่นเคี้ยว
“ไหนว่าไม่คิดถึงกัน ปากแข็งนะเด็กหยิ่ง”
ใครบอกว่าไม่คิดถึงเธอยังไม่ได้แม้แต่จะพูดเขาเองต่างหากที่คิดไปเอง เขาใจไปเอง หากบอกว่าไม่คิดถึงคงจะยากเพราะสัมผัสที่รับรู้ได้ถึงความโหยหาเรียกร้องของกันและกันมันยังติดอยู่ที่ริมฝีปาก
“นิ่งอย่างนี้ ยอมให้พี่กดเหรอ”
“หยุดพูดจาไม่ดีนะ”
“ตอบไม่ตรงคำถาม”
“ไม่ยอม”
“งั้นพี่จะเอา เดี๋ยวน้องแก้วก็ยอมพี่อยู่ดี”
“แก้วจะฟ้องพี่ขอหาข่มขืน”
“ข่มขืนเมียผิดเหรอ ถ้าผิดไม่เป็นไรไว้คุยกันที่หลังก็ได้ถ้าเมียจะฟ้องผัวลงละก็นะ”
ดันร่างเล็กให้ถอยไปจนชิดเตียงแล้วโน้มตัวทับลงไป ร่างเล็กแทบจะกระดิกตัวไม่ได้ คนข้างบนยิ่งได้ใจ มือหนาสอดล้วงเข้าไปใต้สาบเสื้ออย่างแสดงความเป็นเจ้าของลูบไล้จากหน้าท้องแบนราบไปยันถึงอกอิ่มแต่มีบราที่กันไว้อยู่ทำรำคาณ โทโมะจัดการกระตุกทั้งเสื้อทั้งบารออกในเวลาเดียวกัน มือหนาอดไม่ได้ที่จะแตะต้องสิ่งที่ปรากฎอยู่ตรงหน้าบีบเคล้นอย่าเรียกอารมณ์ ตามมาด้วยปากนุ้มที่จุมพิตที่เนินเนื้อขาวผ่องฝากรอยรักไว้จนเต็มอกอวบ
“อืออ~...”
ร่างบางเริ่มสงเสียงครวญคราง
“บอกแล้วไงยังไงก็ต้องยอมพี่อยู่วันยังค่ำ”
ปากนุ้มวกกลับขึ้นไปบดขยี้เรียวปากสวยอีกรอบ นิ้วยาวๆเกี่ยวตะขอกางเกงจนหลุดแล้วเกลี่ยจนกางเกงพ้นปลายเท้าลงไปกองกับพื้น สะโพกกลมกลึงได้รูปยิ่งทำให้อารมณ์พลุงพล่านจนควบคุมไม่อยู่รีบสอดร่างกายเข้าไปในกายสาว
“อือ...จะ เจ็บ อืออ”
ร้างลากันไปนานหลายเดือนจนช่องทางกลับมาคับแน่นอีกครั้ง ปากนุ้มๆยังคงทำหน้าที่ได้อย่างรู้เวลาจูบไล้เวียนไปทั่วซอกคอเพื่อบรรเทาอาการเจ็บ มือนาวนอยู่ที่สะโพกบีบเคล้นเพื่อทำให้คนใต้ล่างเกิดอารมณ์ไม่แพ้กัน จังหวะรักยังคงเป็นไปด้วยความร้อนแรง
“อะ อื้อห์ อาห์...”
“อืมห์ ยังหวานไม่เปลี่ยนจริงๆ”
ต่อให้ตอนนี้จะเปิดแอร์จนเย็นช่ำก็ไม่สามารถดับความเร่าร้อนที่ร่างสองร่างกำลังเสพความสุขได้ ทั้งสองพลัดกันรุกรับอย่างคล่องแคล่วพากันปีนป่ายไปสู่ความสุขพร้อมกันซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนหมดแรงตามๆกันไป
“เมื่อไหร่จะเลิกปากแข็งซักที่หืมแม่ทนายตัวแสบ”
กอดร่างที่นอนแนบกับอกแล้วถามขึ้นเมื่อแก้วรู้สึกตัว มันไม่ใช่ใครคนหนึ่งที่ปากแข็งก็ทั้งคู่แหละ
“แล้วทำไมพี่ไม่บอกแก้วก่อนล่ะ ผู้ชายรึเปล่า”
“ต่างคนก็ต่างรู้แล้วทำไมยังต้องบอกอีก”
เป็นงั้นไป เขาเองไม่ใช่เหรอที่เรียกร้องให้พูดตามจริงเขาเป็นผู้ชายก็ควรเริ่จะพูดก่อนซิ หรือว่าไม่ถูก??
“แต่พี่เริ่มก่อนนะ”
“ก็อยากได้ยิน”
“แล้วคิดว่าแก้วไม่อยากได้ยินเหรอไง!!”
==============================================
มาแล้วค่าหลังจากห่างหายไปนานมีคนคิดถึงกันไหมอ่านแล้วเม้นๆโหวดๆเยอะน่ะค่า
ปล รักลีดเดอร์มากๆนะคะ
ปล อยากอ่านต้องเม้นๆโหวดๆน๊า
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.2 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.2 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ