My Diary

8.7

เขียนโดย Mawmeaw

วันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2553 เวลา 14.09 น.

  14 หน้า
  20 วิจารณ์
  23.08K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 11 เมษายน พ.ศ. 2562 13.18 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

11) นอนกลางวัน ทำงานกลางคืน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

http://www.keedkean.com

 

วัน ศุกร์ ที่ 14 มกราคม 2554 (17.12 น.)

 

ฉันเพิ่งจะลงจากเวรดึกมาตอนเก้าโมงเช้ากว่าๆ อาบน้ำ แต่งตัว ก่อนจะล้มตัวลงนอนก็ปาเข้าไปเกือบจะห้าโมงเช้าแล้ว ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ตอนบ่ายสี่โมงเย็น แต่เพื่อนห้องข้างๆดันมาเคาะประตูเสียก่อน เลยรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเปิดประตูแบบสะลึมสะลือ จากนั้นเลยตัดสินใจตื่นแบบเต็มตัวไปล้างหน้าล้างตาให้สดชื่น และในที่สุดก็เข้ามาที่นี่ "โลก IE ที่แสนคุ้นเคย"...

 

แหม การทำงานตั้งแต่ห้าทุ่มครึ่ง จนถึงแปดโมงครึ่งของเช้าวันใหม่นี่มันดูเหมือนจะหนักเอาการทีเดียวเชียว แต่ทำงัยได้ล่ะ ชีวิตของพวกเราต้องเป็นแบบนี้ แบบทำงานเป็นเวลา แต่ต้องอุทิศเวลาได้ตลอดทั้ง 24 ชั่วโมงอ่ะนะ เวลาทำงานจริงๆ ก็ต้องขึ้นเวรเช้าตั้งแต่แปดโมงเช้าจนถึงบ่ายสี่โมงเย็น เวรบ่ายก็ตั้งแต่บ่ายสี่โมงเย็นจนถึงเที่ยงคืน และเวรดึกก็เที่ยงคืนจนถึงแปดโมงเช้าของวันใหม่ คุณคิดดูสิว่าการทำงานแปดชั่วโมงแบบพวกเราเนี่ยมันต้องใช้ความอึดมากแค่ไหน?

 

ฉันเพิ่งตื่นนอนมาตอนบ่ายสามโมงครึ่ง ก็กลับมาบ่นบนโลก IE ซะแล้ว วันนี้ได้ดูแลผู้ป่วยรายหนึ่ง น่าสงสารมาก เป็นผู้ป่วย End of Life (ระยะสุดท้าย) แต่ว่าแพทย์ก็พยายามจะช่วยยื้อชีวิตเขาให้ได้มากที่สุดตามความต้องการของญาติ แต่สุดท้ายแผนการรักษาก็เปลี่ยนสโลแกนไปเป็น "ทำทุกอย่างให้ผู้ป่วยรู้สึกสุขสบายที่สุดในวาระสุดท้ายของเขา งดการรบกวนและถอดอุปกรณ์พ่วงทุกชนิดออกทั้งหมด" เราเป็นนิสิตฝึกงาน แต่ได้เป็นคนจ่ายยาชนิดพิเศษ "แบบหลับสบาย ไม่เจ็บปวด ทุกข์ทรมานมาก" แต่เมื่อหันไปมองหน้าญาติของเขาแล้ว ก็เศร้าแทนเหมือนกัน ทำงัยได้ล่ะ มันเป็นความต้องการของผู้ป่วยเหมือนกัน "ขออโหสิกรรมด้วยนะคุณ มันจำเป็นจริงๆ..."

 

คุณๆทั้งหลายคงไม่รู้หรอกว่า ในวาระสุดท้ายของชีวิตคนเรามันไม่เหมือนกัน บางทีการยืดเยื้อชีวิตกันไปเรื่อยๆนั้นอาจเป็นเฉพาะความประสงค์ของญาติ แต่คุณแน่ใจแล้วหรือว่ามันเป็นความต้องการที่แท้จริงของผู้ป่วยระยะสุดท้ายรายนี้ด้วย ผู้ป่วยได้แจ้งความประสงค์เอาไว้ขณะยังมีสติดีอยู่ว่า "ขอให้ช่วงสุดท้ายของชีวิตเป็นช่วงที่ไปแบบสบายๆที่สุด ไม่ขอรับอุปกรณ์ต่อพ่วง อุปกรณ์เสริมอะไรทั้งนั้น" แต่ทว่าในความเป็นจริง ฉันก็ได้แต่คิดว่า "ความต้องการของญาติกับผู้ป่วยมักสวนทางกันเสมอแหละ"

 

ฉันเข้าไปดูแลและเป็นคนให้ยา "หลับสบาย ไร้กังวล" กับเขาตามแผนการรักษา แล้วก็อดนึกสะท้อนถึงคุณค่าของชีวิตมนุษย์ไม่ได้ ไม่แน่ว่าพรุ่งนี้ เตียงที่ผู้ป่วยรายนี้นอนอยู่อาจว่างเปล่าไปพร้อมๆกับคราบน้ำตาของมวลหมู่ญาติทั้งหลายก็เป็นได้ เศร้าแทนจริงๆให้ตายสิ พรุ่งนี้ฉันต้องขึ้นเวรเช้าตอนเจ็ดโมงครึ่ง แต่ฉันยังมีคำถามค้างคาในใจอยู่ว่า "เช้าวันพรุ่งนี้ คุณจะยังคงนอนอยู่บนเตียงนั้นอีกหรือเปล่า?"...

 

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา