"Yes, I do" ปาฏิหาริย์ครั้งสุดท้าย

8.9

เขียนโดย January13

วันที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2557 เวลา 16.54 น.

  37 ตอน
  25 วิจารณ์
  37.12K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2562 20.46 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

30) 9 สิงหาคม 2014

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

     สวนสาธารณะของชุมชนที่ตั้งอยู่ละแวกโรงเรียนดูสวยงาม เมื่อดอกไม้ฤดูร้อนนานาพันธุ์ต่างแข่งขันกันออกดอกชูช่อบานสะพรั่ง ยูทากะพึ่งนึกเรื่องดอกไม้ขึ้นมาได้จึงรีบวิ่งย้อนไปยังสวนสาธารณะ แล้วเด็ดช่อดอกอาจิไซสีชมพูอ่อนติดมาด้วยกำหนึ่ง ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังบ้านของคนรักอย่างรีบเร่งในที่สุดก็ถึง

     “ถึงสักที” เขาบอกตัวเองขณะหยุดหอบอยู่หน้าบ้านหลังเล็ก

     “ฮิเดโกะ ฮิเดโกะจัง” ยูทากะตะโกนเรียก เสียงฝีเท้ากระแทกกับพื้นไม้ดังเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ไม่นานประตูก็เลื่อนเปิดออกช้าๆ

     “ยูทากะ พี่ซาซาโกะกำลังพูดถึงอยู่พอดีเลย มาหาฉันแต่เช้ามีอะไรหรอ แล้วนี่ไปทำอะไรมาถึงได้เหนื่อยหอบขนาดนั้น” อริสาถาม และมองเขาอย่างเป็นห่วง ยูทากะไม่ได้ตอบอะไร เพียงแต่เดินเข้ามาใกล้แล้วยื่นดอกอาจิไซให้เธอ หญิงสาวรับมาอย่างประหลาดใจ กำลังจะอ้าปากถามต่อแต่โดนเขาชิงพูดตัดหน้า

     “ฮิเดโกะจัง ข้อเท้าของเธอหนะ หายดีแล้วใช่ไหม” เขาเหลือบมองข้อเท้าที่ไร้ผ้าพันจึงถามขึ้น อริสาถอดมันออกแล้วเพราะอาการบวมและเจ็บที่ข้อเท้าหายเป็นปลิดทิ้ง

     “อืม ใช่ แล้วยังไงหรอ”

     “ดีเลย งั้นเรามาวิ่งแข่งกันเถอะ” พูดจบยูทากะก็ออกตัวนำหน้าไปก่อน ใบหน้ายิ้มแย้มไม่ได้แสดงอาการกังวลใจให้คนรักรู้

     “ห๊ะ?? อะไรนะ?? เดี๋ยวก่อนสิยูทากะ เล่นอะไรของนายเนี่ย”

     “เร็วเข้า ใครถึงโบสถ์อุราคามิก่อนกันคนนั้นชนะ ตกลงไหม” เขาหันกลับมาตะโกนบอก

     “แต่วิ่งนำไปก่อนแบบนั้นหนะ ขี้โกงกันนี่นา รอฉันด้วยสิ” หญิงสาวประท้วงแต่ก็รีบวิ่งตามหลังเขาไป ยูทากะค่อยๆชะลอความเร็วลงจนเธอตามทันก่อนจะส่งมือให้ อริสาเอิ้อมคว้ามือหนาของเขาแล้วกุมไว้แน่น พร้อมส่งยิ้มกลับแก่เจ้าของนัยน์ตาสีนิล ทั้งสองคนวิ่งไปพร้อมกันตามถนนดินสีน้ำตาลเส้นทางสู่โบสถ์อุราคามิ กิ่งก้านของต้นไม้น้อยใหญ่สองข้างทางลู่ไหวตามแรงลมเหมือนกำลังเอาใจช่วยให้พวกเขาไปถึงจุดหมายโดยเร็ว ไม่นานโบสถ์สีแดงอิฐ สถาปัตยกรรมแบบโรมาเนสก์ก็ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าอยู่ไกลลิบๆ พวกเขาวิ่งตรงไปยังจุดหมายปลายทาง ก่อนจะมาหยุดยืนหอบกันหน้าประตูโค้งสีขาวบานใหญ่

     “นี่ยูทากะ อยู่ดีๆทำไมถึงได้มาชวนวิ่งแข่งกันแบบนี้ มันเหนื่อยนะ” อริสาบ่นทั้งที่หอบแฮก

     “ฮิเดโกะจัง จำเรื่องที่ถามฉันเมื่อคืนก่อนได้ไหม” ร้อยยิ้มสดใสของเขาเมื่อครู่จางลง ถูกแทนที่ด้วยแววตาจริงจังและน้ำเสียงหนักแน่น

     “อืม...จำได้สิ ยอมบอกแล้วหรอ จริงๆแล้วฉันก็แค่ถามไปอย่างนั้นเอง”

     “ตอนที่ฉันไปส่งคุณหมอและนามิที่ท่าเรือ คุณหมอบอกกับฉันว่าวันนี้นางาซากิจะโดนโจมตีด้วยระ...” ยูทากะพูดยังไม่ทันจบประโยคก็โดนแทรก

     “เรื่องนั้นหนะฉันรู้แล้ว” อริสาพูดเสียงเรียบก่อนถอนหายใจเบาๆ

     “รู้แล้วอย่างนั้นหรอ” ชายหนุ่มน้ำเสียงประหลาดใจ ไม่คิดว่าคนรักจะรู้เรื่องนี้

     “อืม ใช่” เธอยักหน้าตอบ

     “ฮิเดโกะจังไปรู้มาจากไหน เรื่องนี้เป็นความลับมากเลยนะ” เขาถามต่อ

     “เอ่อ...เรื่องนั้นหนะช่างมันเถอะ ว่าแต่คำตอบของนายที่จะบอกฉันคืออะไรหรอ”

     “อืม...ถ้าวันนี้เป็นวันสุดท้ายของชีวิต สิ่งที่ฉันอยากจะทำก่อนตายก็คือ... แต่งงานกับเธอ”

     “ห๊ะ?? มะมะเมื่อกี้นายพูดว่าอะไรนะ??” อริสาถามซ้ำ เพราะคิดว่าตัวเองคงหูฝาด ยูทากะก้าวเข้ามาใกล้ ก่อนจะกุมมือเรียวทั้งสองข้างของเธอเอาไว้ ส่งกระแสความรู้สึกอันท่วมท้นอยู่ภายในใจผ่านมือหนาอุ่นของเขา

     “ฮิเดโกะจัง....แต่งงานกับฉันนะ” ยูทากะถามอย่างแผ่วเบา แต่คำพูดสั้นๆนั้น กลับให้ความรู้สึกจริงจังและหนักแน่นแก่อีกฝ่าย

     “ยูทากะ” เธอเรียกชื่อพร้อมสบตาเขา อริสามีคำตอบอยู่แล้ว ต่อให้ไม่สามารถอธิบายได้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับเธอนี้เป็นไปได้ยังไง เธอคือฮิเดโกะจริงไหม ยูทากะคือคนรักของเธอจริงๆ หรือเปล่า แต่เธอก็รักเขาไปแล้วหมดทั้งหัวใจ

     “อืม” อริสายักหน้าตอบก่อนจะอมยิ้มอย่างเขินอาย เห็นดังนั้นยูทากะก็คลี่ยิ้มกว้าง เขาส่งมือให้เธออีกครั้ง ก่อนจะกุมมือกันเข้ามายังภายในโบสถ์ที่เงียบสงบ แสงแดดภายนองสาดส่องผ่านกระจกสีฟ้า เกิดเป็นริ้วรุ้งสวยงามอย่างไม่ตั้งใจ ไม่มีใครอยู่ทีนี่เว้นเพียงบาทหลวงอาซากิที่ยืนสวดมนต์อยู่ต่อหน้ารูปเคารพไม่สลักพระแม่มารีโอบอุ้มพระบุตรอยู่ในอ้อมแขน เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าของผู้มาเยือนเขาจึงหยุดท่อง ปิดหนังสือเล่มหนาที่อยู่ในมือ และหันไปหาต้นเสียง

     “สวัสดีลูกๆทั้งสอง มาสวดมนต์กันใช่ไหม นึกว่าจะไม่มีใครมาซะแล้ว” ผู้ถือศีลถามไถ่อย่างยิ้มแย้ม ทั้งๆที่ทราบเรื่องการทิ้งระเบิดวันนี้แล้ว แต่บาทหลวงอาซากิไม่ได้มีสีหน้าหวาดวิตกแต่อย่างใด

     “ไม่ใช่หรอกครับคุณพ่อ พวกเราหนะ...จะแต่งงานกันครับ” ยูทากะบอก

     “แต่งงานอย่างนั้นหรอ แต่ว่าไม่มีสักขีพยานเลยสักคน” นักบวชแปลกใจเล็กน้อย

     “ขอร้องเถอะครับคุณพ่อ ช่วยประกอบพิธีและเป็นสักขีพยานให้กับพวกเราทั้งสองคนด้วยนะครับ” เขาพูดพร้อมโค้งอ้อนวอน เมื่อได้ยินเช่นนั้นบาทหลวงอาซากิก็เขาใจในทันที

     “เข้าใจแล้วหละ ลูกๆทั้งสองจงขึ้นมายืนหันหน้าเข้าหากันตรงนี่เถิด” นักบวชพูดพร้อมผายมือบอก พวกเขาทำตามนั้น อริสามองไปรอบๆ รู้สึกคุ้นๆ กับเหตุการณ์นี้อย่างบอกไม่ถูก เหมือนกับว่าเคยเกิดขึ้นแล้ว

     “จงเอ่ยนามลูกทั้งสอง” บาทหลวงกล่าว

     “ผมวาตานาเบะ ยูทากะครับ และนี่คนรักของผม ฟูคูดะ ฮิเดโกะ” ชายหนุ่มรีบแนะนำ

เสียงไอพ่นของฝูงเครื่องบินรบสัญชาติอเมริกันดังมาแต่ไกลและดังขึ้นเรื่อยๆ ก่อนที่จะแผ่วลงอีกครั้ง เหมือนบินผ่านไป พวกเขาทั้งสามคนต่างมองหน้ากันอย่างกังวล บาทหลวงอาซากิคิดว่าต้องรีบประกอบพิธีให้เสร็จ จึงรวบรัดพิธีการ

     “วาตานาเบะ ยูทากะ คุณจะรับฟูคูดะ ฮิเดโกะเป็นภรรยาและขอสัญญาว่า จะถือซื่อสัตย์ต่อเธอ ทั้งในยามสุข และยามทุกข์ทั้งในเวลาป่วยและเวลาสบาย เพื่อรักและยกย่องให้เกียรติเธอ จนกว่าชีวิตจะหาไม่หรือไม่”

     “รับครับ” ยูทากะตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น แววตาสีนิลส่งคำสัตย์ปฏิญาณแก่คนรักเบื้องหน้า ให้เธอรู้ว่าจะมีรักแท้ที่มั่นคงมอบให้แด่เธอเพียงผู้เดียวตราบจนชีวิตจะหาไม่

     “ฟูคูดะ ฮิเดโกะ คุณจะรับวาตานาเบะ ยูทากะ เป็นสามีและขอสัญญาว่า จะถือซื่อสัตย์ต่อเขา ทั้งในยามสุข และยามทุกข์ ทั้งในเวลาป่วยและเวลาสบาย เพื่อรักและยกย่องให้เกียรติเขา จนกว่าชีวิตจะหาไม่หรือไม่” สิ้นสุดคำถามของบาทหลวง อริสาก็ระลึกขึ้นได้ในทันที ว่าเหตุการณ์นี้เหมือนในฝันร้ายที่ปลุกเธอตื่นตลอดเวลายี่สิบกว่าปี ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้า เจ้าบ่าวในความฝันอันเลือนลางของเธอ คือเขานี่เอง...ยูทากะ!!!...

     ...หวอ...หวอ...หวอ...เสียงไซเรนเตือนภัยดังระงม ปนกับเสียงไอพ่นของเครื่องบินรบที่เหมือนกำลังบินวนไปมาอยู่บริเวณนั้น หญิงสาวสับสนกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น...นี่มันไม่จริงใช่ไหม?? เป็นไปไม่ได้ เหตุการณ์นี้มัน...

     อริสาเหลือบมองนาฬิกาลูกตุ้มโบราณไม้โอ๊คสีแดงเข้ม เข็มโลหะชี้ไปที่เลขโรมันบนหน้าปัดใหญ่นั้นบอกเวลา 11.02 น. และแล้วพื้นและผนังโบสถ์ก็เริ่มสั่นสะเทือนไปทั่วอย่างรู้สึกได้  แรงสั่นสะเทือนที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ผนังเริ่มแตกราว จนอิฐบางส่วนร่วงลงมา ยูทากะคว้ามืออริสามากุมไว้แน่น เป็นสัญญาณบอกให้เธอรู้ว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นจะไม่ยอมปล่อยมือจากกัน ขณะนั้นทุกเสียงดับไปจากโสตประสาทของพวกเขา บาทหลวงอาซากิหันหน้าเข้าหารูปเคารพและสวดมนต์ต่ออย่างใจเย็น ทันใดนั้นเองแสงสีขาวก็ปรากฏขึ้นสว่างวาบพร้อมกับลมที่ส่งกระแสไอร้อน อริสาทำอะไรไม่ถูก แต่รู้ว่าทุกครั้งฝันจบเช่นไร เธอโผเข้ากอดร่างยูทากะเอาไว้แน่น พร้อมซุกหน้ากับอกของเขา เธอกลัวเขาจะหายไปอย่างเช่นทุกครั้ง ยูทากะเองก็โอบเธอไว้อย่างหวงแหน อริสาสัมผัสความอบอุ่นของเขาได้เพียงชั่วครู่ เธอก็รู้สึกเหมือนมีความว่างเปล่าเข้ามาแทนที่ไออุ่นนั้น หัวใจของเธอหล่นฮวบ ร่างกายเบาโหวงเหมือนถูกโยนลงมาจากที่สูง จนเธอเผลอกลั้นหายใจไปชั่วขณะ และเมื่อสูดอากาศเข้าไปเต็มปอดอีกครั้ง ก็ลืมตาขึ้นมาและพบว่าตัวเองอยู่บนเตียงผู้ป่วยในห้องพักเดี่ยวของโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง

     “และในโอกาศนี้ ขอให้ประชาชนทุกคนร่วมกันสงบนิ่งไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์    โศกนาฏกรรมครั้งยิ่งใหญ่ของนางาซากิด้วยครับ” เสียงพิธีกรในงานรำลึก 69 ปีการทิ้งระเบิดปรมาณูที่นางาซากิกล่าว ประชาชนร่วมหมื่นคนที่รวมตัวกัน ณ สวนสันติภาพในชุดสีขาวยืนสงบนิ่งอย่างพร้อมเพรียง อริสามองภาพนั้นผ่านโทรทัศน์ตรงหน้า ก่อนเหลือบมองนาฬิกาที่อยู่เหนือโทรทัศน์ บอกเวลา 11.02 น.

     “นี่มัน...เกิดอะไรขึ้น??” อริสาตั้งตัวไม่ทันกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เธอยกมือข้างหนึ่งกุมขมับ ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วมาก เมื่อกี้เธอยังอยู่ในอ้อมกอดของยูทากะอยู่เลย เธอลุกขึ้นจากเตียงเดินไปเปิดประตูกระจกบานเลื่อน ก่อนออกมายืนตรงระเบียง บ้านช่องแบบญี่ปุ่นโบราณหายไปหมดสิ้น ภาพที่เธอเห็นคือมีตึกสูงๆอยู่มากมาย ถนนคอนกรีตที่มีรถยนต์วิ่งหนาตา

     “ไม่จริง ไม่จริงใช่ไหม” เธอย้ำถามตัวเองเสียงสั่นเครือ น้ำตาใสเริ่มเอ่อคลอ อริสารู้สึกเหมือนมือข้างหนึ่งกำหมัดแน่นจนเล็บจิกเข้าที่ผ่ามือ เมื่อเธอยกมือข้างนั้นขึ้นมาแล้วค่อยๆ แบออกก็พบดอกอาจิไซดอกหนึ่งอยู่ในนั้น น้ำตาหยดใสร่วงหล่นลงบนกลีบดอกไม้สีชมพูอ่อน...ไม่ทัน...

     “ยูทากะ...” อริสาร้องไห้กำดอกอาจิไซแนบอก ข้างในหัวใจรู้สึกกลวงโบ๋ราวกับถูกพรากไปแล้วอย่างไม่มีวันได้คืน

 

ขอบคุณเพลงประกอบตอนที่ 30

https://www.youtube.com/watch?v=QgaTQ5-XfMM&list=PL61D94D09E866552D

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา