Vampiric Murderer ปริศนารักคดีแวมไพร์

8.5

เขียนโดย Zindy

วันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2556 เวลา 00.16 น.

  8 ตอน
  13 วิจารณ์
  13.97K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 5 กันยายน พ.ศ. 2557 22.07 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

7) เด็กใหม่(อีกคน) [2]

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
               “เอ่อ... ก็จริงมั้ง”
               ‘ความจริงฉันว่าเด็กใหม่เราไม่มีปัญหานะ พวกเราต่างหาก’ ซารีน่าคิดแบบนั้น แต่ครั้นจะพูดออกไปก็ใช่เรื่อง จึงลุกขึ้นไปซื้ออาหารมาบ้าง
               รีวาเลือกที่นั่งตรงข้ามกับซารีน่า พอเห็นเธอกลับมาก่อนลอลินก็เอ่ยถาม “จริงสิ ยังไม่ได้ถามเลยนะว่าเด็กใหม่เป็นยังไง ย้ายเข้าไปห้องเดียวกับเธอนี่ ชื่ออะไรนะ...”
               ซารีน่านั่งลงก่อนจะตอบ “ฮาลวิลลิส”
               “ชื่อยาวจัง” เฟลินแทรก “ไม่มีชื่อเล่นบ้างหรอ จะได้เรียกง่าย”
               “ไม่รู้สิ เขาไม่ได้แนะนำชื่อเล่นตัวเองนี่ อยู่ดีๆจะไปเรียกก็ไม่ได้ด้วย” ซารีน่าถอนหายใจ ไม่ใช่ว่าไม่คิดเรื่องนี้หรอก แต่เพิ่งจะรู้จักกันได้แค่วันสองวันจะเข้าไปถามชื่อเล่นมันก็ดูจะตีสนิทมากไป
               เอ...หรือเธอจะดูตีสนิทกับเขาอยู่แล้วนะ
               “หรอ แล้วไงต่อ ที่ว่าเป็นแวมไพร์น่ะ” รีวาถามต่ออย่างกระตือรือร้น ซารีน่าไม่รู้จะตอบยังไงดี เพราะไม่รู้ว่าจะมีใครไม่เชื่อเหมือนเธอหรือเปล่า เธออาจจะเป็นคนเดียวที่สงสัยอยู่ก็ได้
               “เรื่องนี้ไม่มีใครรู้หรอกว่าจริงหรือไม่จริง แล้วแต่คนจะเชื่อมากกว่า...จริงมั้ยซารี่” ลอลินที่เดินกลับมาช่วยตอบคำถามนี้ให้แทน เธอหันไปยิ้มนุ่มนวลให้เพื่อนสองคนที่เหลือ
               “อะ...อื้ม”
               “โห่ หมดสนุกเลย” รีวาแบะปากบ่นใส่ลอลิน ทำให้หญิงสาวผมสั้นหัวเราะเบาๆแล้วพูดประโยคที่ทำให้ซารีน่าแทบสำลักออกมาแทน
                “เรื่องนี้ไม่สนุกหรอก ที่สนุกต้องเรื่องที่เด็กใหม่ย้ายไปแถวบ้านซารี่นี่สิ”
                “ละ..ลอลิน!”  เธอนึกว่าลอลินจะช่วยเธอแล้วซะอีก ที่ไหนได้กลับมาแกล้งกันแบบนี้
                “จริงหรอซารี่!” คราวนี้ทั้งรีวาทั้งเฟลินร่วมใจกันจ้องเธอเป็นตาเดียว พอจะหันไปหาลอลินฝ่ายนั้นก็เอาแต่หัวเราะจนคนโดนถามจนปัญญาต้องเอ่ยตอบอย่างเลี้ยงไม่ได้ แม้ว่าที่จริงเธอไม่ได้ตั้งใจจะปิดเป็นความลับอยู่แล้วก็เถอะ
                “ก็จริง เขาย้ายไปหมู่บ้านเดียวกับฉันน่ะ แต่ว่าไม่รู้หรอกนะว่าเขาอยู่บ้านไหน”
                “งั้นเธอก็ลองเดินไปบ้านที่เปิดเช่าอยู่สิ” ลอลินเสนอขึ้นมา สานต่อบทสนทนาที่คิดจะพูดไว้ก่อนจะเกิดเรื่องของเด็กใหม่ “ถ้าฮาลวิลลิสย้ายไปที่นั่นเธอจะได้รู้ซักทีไงว่าสรุปฮาลวิลลิสย้ายไปที่ไหน”
                “ถ้าเขาไม่ได้ย้ายไปที่บ้านนั้นฉันก็ไม่รู้อยู่ดีนี่นาว่าเขาย้ายไปไหน แต่ก็อย่างที่เธอแหละ เอาไว้เย็นนี้ฉันจะลองเดินไปดูแล้วกัน” ซารีน่ารับฟังลอลินไว้ หมู่บ้านของเธอเองก็ไม่ได้ใหญ่มาก การจะเดินไปก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร
                “ได้ผลว่ายังไงมาบอกด้วยล่ะ”
                ซารีน่าพนักหน้ารับ หลังจากนั้นพวกเธอทั้งสี่คนก็เริ่มทานอาหารกันต่อ จนใกล้จะหมดฮาเวิร์ดถึงได้เดินเข้ามาแล้วเอ่ยกับซารีน่า
                “ซารีน่า ขอคุยด้วยหน่อยได้มั้ย อาจารย์จะเอาตารางกำหนดประชุมของกรรมการนักเรียนแต่ละชั้นเย็นนี้น่ะ”
                “เอ๋ เอาด่วนแบบนี้เลยหรอ” ซารีน่าหยุดทานอาหารมาคุยกับฮาเวิร์ด ปกติแล้วประธานนักเรียนชั้นปีอื่นๆไม่ต้องทำอะไรแบบนี้ แต่ก็อย่างว่า...ก็งานส่วนใหญ่จะตกมาเป็นของชั้นของเธอตอนนี้นี่นา แต่นึกไม่ถึงว่ารวมการตั้งกำหนดการชระชุมต่างๆเองด้วย
                “อืม” เขารับ “ขอโทษที่เพิ่งมาบอกนะ พอดีว่าหาเธอไม่เจอน่ะ”
                ซารีน่าส่ายหน้าเป็นเชิงว่าไม่เป็นไร แล้วลุกขึ้นจากโต๊ะโดยไม่ลืมหันไปบอกเพื่อนที่เหลือ “ถ้ากินเสร็จแล้วไปก่อนได้เลยนะ ไม่ต้องรอ”
                ที่จริงการพูดคุยก็ใช้เวลาไม่นานนัก แต่เมื่อซารีน่ากลับมาที่จะคนอื่นๆก็ไปกันหมดแล้ว ...ยกเว้นเพียงคนที่นั่งอยู่ตั้งแต่แรกแล้วเท่านั้น ซารีน่าเดินกลับไปที่โต๊ะเพื่อจะยกถาดอาหารไปเก็บ หากเธอก็ต้องแปลกใจที่เสียงหวานใสแต่เย็นชาของใครบางคนได้เอ่ยขึ้นมา
                “ขอโทษนะคะ นักเรียนใหม่ของชั้นปีเราย้ายไปห้องเดียวกับคุณอย่างนั้นหรอคะ พอดีเมื่อวานฉันไม่ได้มาพิธีปฐมนิเทศน่ะค่ะ”
                “อ้อ ใช่ค่ะ เขาย้ายมาอยู่ห้องสามค่ะ”
                “ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ” อาดิเน่กล่าวขอบคุณเธอตามมารยาทก่อนจะยกถาดอาหารแล้วเดินไป ซารีน่าสงสัยว่าที่อาดิเน่ทานอาหารช้าเป็นพิเศษก็เพราะจะรอถามเรื่องนี้กับเธอรึเปล่า แต่นึกไปนึกมาอาดิเน่ก็ไม่มีความจำเป็นต้องทำอย่างนั้น
                อีกอย่างที่เธอสังเกตคือคำพูดสุภาพของอาดิเน่ที่ไม่คิดว่าเธอจะใช้กับเพื่อนร่วมรุ่น มันให้ความรู้สึกห่างเหินและยากจะเข้าถึง ประกอบกับใบหน้าที่สวยแต่นิ่งสนิทนั่นแล้ว ยิ่งไม่แปลกใจหากจะมีคนไม่อยากคุยกับเธอ
                ซารีน่าเดินเก็บถาดอาหารบ้าง ตอนนี้โรงอาหารคนซาลงไปมาก จากที่โต๊ะได้มีคคนจับจองอยู่ทุกโต๊ะตอนเขามา บัดนี้กลับเหลือไม่ถึงครึ่ง และส่วนใหญ่ก็จะเป็นเพื่อนร่วมชั้นของเธอที่มาล่าช้าเพราะติดประชุมเลือกตั้งประธานนักเรียนเหมือนๆกันหมด
                หลังจากออกจากโรงอาหารแล้วซารีน่าก็ไม่ได้ตั้งใจจะแวะไปที่ไหนอีก เพราะต้องกลับห้องไปร่างตารางเวลาประชุมกรรมการนักเรียนตามที่ได้คุยได้กับฮาเวิร์ด หากว่าสายตาของเธอไม่เหลือบไปเห็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้เธอต้องหยุดมองด้วยความสงสัย
                เด็กสาวหน้าตาหน้ารักที่ผูกริบบิ้นไว้บนผมสีดำสลวยกำลังยืนคุยกับใครบางคนที่ตรงมุมตึกซึ่งไม่มีใครสังเกต ใบหน้าของเธอร่าเริงเป็นพิเศษ ริยยิ้มกว้างจากริมฝีปากเล็กอย่างตุ๊กตาเสริมให้ใบหน้าของเธอน่ามองกว่าเด็กหญิงทั่วไป จนแทบไม่น่าเชื่อว่าก่อนหน้าที่เธอจะทำหน้าไม่พอใจและยังเมินคำขอโทษของคนอื่นสิ้นเชิง
                แต่สิ่งที่ทำให้ซารีน่าสนใจมากที่สุดกลับไม่ใช่รอยยิ้มแสนน่ารักนั่น กลับคือคนที่เธอกำลังยืนคุยด้วยต่างหาก เขาคือชายหนุ่มที่เธออยากเจอตัวมาทั้งเช้า ฮาลวิลลิสกำลังเดินคุยกับรีเบคก้าอยู่
                สองคนนี้รู้จักกันด้วยอย่างนั้นหรอ...
                ทันใดนั้นฮาลวิลลิสก็ยิ้มออกมาจนทำให้ซารีน่าเผลอมองไปชั่วครู่ เพราะนั่นไม่ใช่รอยยิ้มที่เขาใช้อยู่ปกติ มันเป็นรอยยิ้มที่แสดงออกถึงความสนุกสนาน เหมือนว่าเขาได้ยิ้มออกมาอย่างจริงใจ
                “อะไรกัน ยิ้มแบบนั้นก็เป็นนี่นา...” แม้จะเห็นได้จากไกลๆ ซารีน่าก็มั่นได้ใจตัวเองชอบรอยยิ้มแบบนั้นของเขามากกว่ารอยยิ้มที่เคยเห็นเป็นไหนๆ
                ทั้งที่เธอเพิ่งจะรู้สึกเขาได้ไม่ถึงสองวันดีด้วยซ้ำ ทั้งที่เธอยังไม่รู้จักเขาดีด้วยซ้ำ
                เธอสงสัยว่าทำไมตัวเองถึงต้องให้ความสนใจกับฮาลวิลลิสขนาดนี้ อาจจะเป็นเพราะความเป็นประธานนักเรียนที่รู้จักกับเพื่อนแทบจะทุกคนก็เลยทำให้เธออยากรู้จักเขาไปด้วย หรือเป็นเพราะว่าข่าวลือว่าฝ่ายนั้นเป็นแวมไพร์เลยทำให้เธออยากรู้อยากเห็น แต่ไม่ว่าอย่างไหนก็ไม่สามารถอธิบายความรู้สึกยามเมื่อเธอเห็นรอยยิ้มนั้นได้
                ...เป็นไปได้ไหมนะที่เขาจะยิ้มแบบนั้นออกมาในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยสายตาของความระแวงจ้องมาที่ตน
                เป็นไปได้ไหมที่เขาจะยิ้มแบบนั้นออกมาเพราะคนอื่นอีก ไม่ใช่แค่เพราะคนที่รู้จักมาก่อน เธออยากจะให้เขายิ้มอย่างนั้นออกมาเพราะคนที่จะเรียกว่าเพื่อนต่อจากนี้ไป
                ไม่ต้องเป็นเธอก็ได้ ไม่ใช่เพื่อเธอก็ได้
                แต่เธอก็หวังจะได้เห็นรอยยิ้มแบบนั้นของเขาอีกไม่ว่าเขาจะรอยยิ้มนั้นให้ใครก็ตาม
               
                ท้องฟ้าช่วงเย็นของวันนี้สดใสกว่าเมื่อวานอยู่มากทีเดียวจนอาจเรียกได้ว่าเป็นยามเย็นที่แดดเจิดจ้าก็ว่าได้ ซารีน่ากับฮาร์เวิร์ดไปส่งตารางเวลาให้อาจารย์ตรวจแก้ดู และได้รู้กำหนดการว่าการเลือกประธานนักเรียนของแต่ละระดับชั้นจะเสร็จสินภายในอาทิตย์หน้าไปแล้ว
                สำหรับระดับชั้นอื่นๆสถานการณ์ภายในก็ไม่ต่างกันมากนัก นั่นคือคนเป็นประธานยังไงก็จะโดนเลือกให้เป็นอยู่วันยันค่ำนั่นแหละ นานๆครั้งเธอถึงจะเจอหน้ารุ่นน้องคนใหม่ๆซักที นี่แสดงให้เห็นว่าใครๆก็ต่างพร้อมหน้าพร้อมตากันไว้ใจคนเป็นประธานเสียจริงๆ
                “ซารีน่า จะกลับบ้านเลยใช่ไหม”
                หลังจากโดนชี้แจงจุดแก้ของตารางเวลาแล้ว ฮาเวิร์ดก็เอ่ยถามเรียบๆ
                “ใช่”
                “อืม งั้นก็ระวังตัวด้วยล่ะ เดี๋ยวอีกไม่นานจะค่ำแล้ว”
                ซารีน่ารับคำอย่างเป็นปกติ เข้าใจว่าฮาเวิร์ดคงหมายถึงแวมไพร์เพิ่งเป็นคดีไป ซึ่งความจริงแล้วไม่ว่าจะเกิดคดีอะไรหรือไม่ก็ไม่ควรจะเดินคนเดียวมืดๆค่ำอยู่ดี
                “นายเองก็ระวังตัวด้วยล่ะ” เธอบอกเขากลับไปเช่นนั้นแล้วจึงยิ้มให้อย่างปกติ ก่อนจะเดินแยกกลับบ้านไปอีกทางนึง
                ฮาเวิร์ดยืนนิ่งถอนหายใจอยู่กับที่เพื่อมองซารีน่าเดินไปอยู่พักใหญ่ เขาจะพูดอะไรไปเธอก็มองว่าเป็นคำพูดธรรมดาอยู่ดี แต่ความเห็นห่วงนั่นก็เป็นของจริง ไม่จำเป็นต้องให้รู้ก็ได้ว่าเขาห่วงเธอแบบใด
 
                ตามคำบอกของลอลิน ซารีน่าเดินผ่านหน้าบ้านตัวเองไปเพื่อไปยังบ้านที่เคยเปิดเช่าอยู่นั้น ทางเดินในหมู่บ้านไม่ได้คดเคี้ยวมากนัก เธอจึงถึงที่หมายในเวลาไม่นาน
                ตัวบ้านที่เคยแขวนป้ายประกาศเช่า เมื่อตอนที่เธอไปถึงก็ไม่พบป้ายนั้นอยู่อีกแล้ว มองผ่านหน้าต่างเข้าไปจากด้านนอกพบว่าไฟในบ้านเปิดอยู่ อันเป็นเครื่องหมายแน่ชัดว่าบ้านหลังนี้ได้มีคนมาอาศัยเรียบร้อย
                ซารีน่าใช้ปลายนิ้วกดกริ่งหน้าบ้านอย่างกล้าๆกลัวๆ รออยู่ไม่ถึงนาทีก็มีคนเปิดประบ้านออกมา แม้ซารีน่าจะยืนอยู่ที่ประตูรั้วแต่ก็มั่นจัดเจนว่ามองคนไม่ผิด
                เจ้าตัวทำสีหน้าแปลกใจที่ได้เห็นเธอ “ซารีน่า? มีอะไรหรอครับ”
                คนที่เปิดประตูออกมาคือชายหนุ่มผมสีดำที่คุ้นตาจริงๆด้วย ตอนนี้เขาอยู่ในชุดลำลองสีเดียวกับผม ฮาลวิลลิสเดินออกมาหาเธอที่ประตูรั้วทั้งที่ยังมีสีหน้าแปลกใจหลงเหลืออยู่นิดหน่อย
                ซารีน่าโบกมือให้แหยๆ ไม่คิดว่าคนที่ย้ายเข้ามาจะเป็นฮาลวิลลิสจริงๆ สมองก็รีบหาข้ออ้างร้อยแปดจะได้บอกว่ามากดกริ่งถึงหน้าบ้านเขาทำไม
                ‘อ๋อ ฉันแค่จะมาพิสูจน์ดูเฉยๆว่าใครที่ย้ายเข้ามาในบ้านหลังนี้น่ะ ว่าง่ายๆก็มาหานายนั่นแหละ!’
                “พอดีว่าฉันเคยรู้จักเจ้าของบ้านที่เปิดเช่าน่ะ วันนี้ผ่านมาเห็นมีคนอยู่เลยไม่แน่ใจว่าเจ้าของเดิมย้ายกลับมารึเปล่า ถ้าใช่ก็กะจะทักทายนิดหน่อยน่ะ”
               แน่นอนว่าเธอคงไม่บ้าพอจะพูดความจริงออกไปหรอก แบบนั้นมันก็ดูน่าอายไปนิด ได้แต่ปลอบใจว่าอย่างน้อยก็ไม่ได้โกหกฮาลวิลลิสออกไป เพราะเธอเคยรู้จักเจ้าของบ้านหลังนี้จริงๆ
               “อ้อครับ” ฮาลวิลลิสรับคำสั้นๆ “น่าเสียดายนะครับที่เป็นผม”
               “เปล่านะ! ไม่ใช่อย่างนั้น” ซารีน่ารีบแก้เพราะกลัวฮาลวิลลิสจะคิดมาก “คือไม่ได้หมายความว่าฉันจะผิดหวังที่เจอนายนะ แค่เผื่อเจ้าของบ้านคนเก่าเขาจะอยู่เท่านั้นเอง”
               แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาคือเสียงหัวเราะของเขาที่แฝงความสดใสราวกับเป็นเสียงหัวเราะของเด็กซุกซน
               “ซารีน่า... คุณเนี่ยนิสัยน่ารักดีนะครับ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงขำๆโดยไม่ปล่อยให้คนฟังตั้งตัว
               “นะ... น่ารักเนี่ยนะ!?!” คนโดนชมไม่ขำไปด้วย คำชมแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยทำให้ซารีน่าเลือดสูบฉีดจนแก้มเป็นสีระเรื่อ “ไม่ใช่เด็กซะหน่อย พูดอะไรอยู่เนี่ย!”
                ดูเหมือนปฏิกิริยาของซารีน่าจะทำให้ฮาลวิลลิสสนุกมากกวาเดิม “ครับๆ อย่าโกรธผมละกัน ...อุ๊บ ฮ่าๆๆๆ”
                ปากบอกว่าอย่าโกรธ แต่เจ้าตัวก็ยังหลุดขำออกมา ซารีน่าได้แต่ยืนพูดไม่ออก ซักพักนึงกว่าฮาลวิลลิสจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติ แล้วจึงถาม “ครับ ถ้าอย่างนั้นมีอะไรอีกมั้ย”
                โดนเปลี่ยนเรื่องกระทันหัน ซารีน่าก็ไม่รู้จะหาเรื่องชวนคุยอะไรต่อไป “ไม่มีแล้วล่ะ ขอโทษที่มารบกวนนะ งั้นฉันไปก่อนล่ะ”
                ซารีน่าโบกมือลาฮาลวิลลิสเขาเดินไปทางบ้านตัวเอง จนเดินไปถึงครึ่งทางเธอก็นึกเรื่องนึงออก
                ผู้ชายผมยาวที่เดินชนเธอตอนวันเปิดเรียนก็ดูเหมือนเขาจะตามหาบ้านนี้เหมือนกันนะ ทำไมฮาลวิลลิสถึงบอกว่าไม่รู้จักเขากันล่ะ
                เธอไม่คิดว่าฮาวิลลิสจะโกหก...
                มีความเป็นไปได้หลายอย่าง เธออาจจะดูแผนที่ผิด หรือไม่ก็เขาอาจจะมาดูบ้านเช่าแต่ก็พบว่าป้ายประกาศโดนเอาออกไปแล้ว แต่ไม่รู้ทำไมเธอกลับติดใจเรื่องชายคนนั้นไม่แพ้เรื่องของฮาลวิลลิสเลย คงเป็นเพราะรูปลักษณ์อันแปลกตาของเขาก็ได้ล่ะมั้ง
                เพราะติดใจกับเรื่องนี้ซารีน่าจึงมีความรู้สึกลึกๆว่าอยากลองเห็นหน้าเขาอีกซักครั้ง
____________________________________________________________
อ่านแล้วยังไงก็ฝากเม้นติชมด้วยนะคะ 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา