เดชแม่ยาย

9.3

เขียนโดย ชนบท

วันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2554 เวลา 23.54 น.

  7 ตอน
  7 วิจารณ์
  27.09K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

6) ลวดลายผู้ใหญ่

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ผมพาสาวน้อยมานั่งที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งหลังผ่านเหตุการณ์ระทึกขวัญมา  สาวน้อยยังมีท่าทางหวาดกลัวหลงเหลือมาบ้าง  ผมมองแล้วรู้สึกสงสารจับใจ

“ยังกลัวอยู่อีกหรอ?”ผมถามขณะสาวน้อยกำลังดื่มน้ำส้ม

“ก็ตื่นเต้นนะค่ะ?ใจหายหมดเลย  เกิดมาไม่เคยเจอเหตุการณ์อย่างนี้มาก่อน  ทั้งปล้นทั้งจะ...โส....”

“อย่าไปคิดถึงมันเลย  ตราบใดที่มีพี่อยู่  น้องโสจะปลอดภัยเสมอ  พี่รับรอง”

สาวน้อยยิ้มหวานที่มุมปาก

“พี่ผู้ใหญ่ดูไม่ตื่นเต้นเลยนะคะ  เหมือนเคยเจออย่างนี้บ่อยๆ”

สาวน้อยถามมา  ผมเลยได้ทีโม้เสียเลย

“แค่นี้ยังน้อยไป....เมื่อก่อนเคยเจอโจรเป็นโขยงยกมาปล้นหมู่บ้าน  พี่ยังพาชาวบ้านสู้จนจับตัวหัวหน้ามันได้เลย  และอีกหลายครั้งที่เฉียดเป็นเฉียดตาย  พี่ยังไม่กลัวเลย”

“พี่ผู้ใหญ่ชอบทำอะไรเสี่ยงๆอย่างนี้  ไม่ห่วงคนที่เขารักพี่ผู้ใหญ่บ้างเลยรึคะ  หากพลาดพรั้งไป....แล้ว......”

ผมถึงสะดุดในคำพูดของเด็กสาว  ใช่...ตั้งแต่สร้อยจากไป  ผมมักทำอะไรเสี่ยงๆเสมอ  ไม่เคยห่วงว่าตัวเองจะเป็นอะไร  เพราะรู้สึกเหมือนตัวเองไม่มีใครคอยห่วง....

“พี่ผู้ใหญ่คะ?....ทำไมเงียบไป....”

“เอ่อ....ไม่มีอะไรหรอก?  ว่าแต่น้องโสมีเบอร์โทรไหม?  ขอพี่เบอร์พี่หน่อยสิ  เผื่อมีอะไรจะโทรมาหา....”

“โสไม่มีมือถือจ๊ะ  แม่ไม่ให้ใช้  บอกว่าฟุ่มเฟื่อย  และที่สำคัญ....เอ่อ...ไม่มีเงินชื้อด้วยค่ะ”

ผมนั่งมองแล้วยิ้ม  ได้โอกาสหว่านเงินล่อเด็กให้หลงอีกแล้ว  และผมทำไมถึงรู้สึกว่าเต็มใจอยากจะชื้อของให้เด็กคนนี้จัง ผมเรียกพนักงานมาเก็บเงิน  และชวนเด็กสาวให้ตามมา

“ไปกันเหอะน้องโส?”

“จะกลับแล้วหรือคะ?”สาวน้อยทำหน้าซื่อๆถาม

“เปล่าหรอก...”

“แล้วจะไปไหนคะ”

“พาน้องโสไปชื้อมือถือ”

“จะชื้อมือถือให้โสหรือคะ”

“อื่ม...พี่จะชื้อให้น้องโสไว้ใช้สักเครื่อง  เพื่อไว้ติดต่อกับพี่...”

“จะชื้อให้จริงๆหรือคะ?”เด็กสาวทำท่าตื่นเต้นยิ่งกว่าตอนเจอโจรปล้นในธนาคารอีก

“พี่รับปากแล้วว่าจะชื้อให้นะ  ก็จะชื้อให้จริงๆ”

“ชื้อให้โสจริงๆนะ”

“จริงสิ...”

สาวน้อยทำท่าดีใจและถามย้ำจนผมอดขำไม่ได้ 

ผมเดินนำหน้าสาวน้อยมาที่ร้านขายมือถือ  เด็กสาวตาวาวเดินดูมือถือยี่ห้อต่างๆ  คนขายก็พาแนะนำสรรพคุณของไอ้เครื่องฟุ่มเฟื่อยหลอกเด็กชนิดน้ำไหลไฟดับ  เพื่อหลอกล่อให้ลูกค้าชื้อ  สาวน้อยมาสะดุดตากับ NOKIA เครื่องหนึ่ง  ซึ่งคนขายสาธยายจนผมฟังแล้วเวียนหัว

“พอเหอะ  ไม่ต้องอธิบายแล้ว ราคาเท่าไหร่”

“.........บาทครับ  นี่ราคาลดแล้วนะครับ....”

โสภาฟังราคาแล้วมือสั่น  วางลงแล้วมองหน้าผม

“เอา.....เอาที่ถูกกว่านี้เหอะพี่ผู้ใหญ่  อันนี้ราคามัน  เอ่อ...ไม่ไหว....”

ผมมองหน้าสาวน้อยแล้วยิ้ม  หยิบโทรศัพท์มือถืออันนั้นยัดใส่มือของเธอ

“อะไรก็ตามที่น้องโสอยากได้  พี่พร้อมจะหาให้  ขอเพียงแค่น้องโสพอใจเท่านั้นก็พอสำหรับพี่...”

สาวน้อยตาแวววาวราวจะร้องไห้จับมือถือมาลูบคลำอย่างซาบซึ้ง  เมื่อคนขายจัดการใส่ซิมป์และลองเครื่องแล้ว  ผมก็ชำระเงิน  ขณะเด็กสาวกดโทรศัพท์เล่นลองเครื่องอยู่หน้าร้าน

“เอ่อพี่?  เด็กคนนั้นพี่กำลังคั่วอยู่หรอ?”คนขายถามผม

ผมควักเงินจ่ายแล้วมองหน้า”ทำไมหรอ?”

“รับรองคืนนี้พี่ได้ฟันแน่?”

“รู้ได้ไง?”ผมถามกลับ

“เด็กสมัยนี้  มือถือเครื่องเดียวมันก็ยอมแล้ว  และนี่ยิ่งเครื่องนั้นด้วย  พี่ชื้อให้นี่  ออกจากร้านผมแล้วดิ่งไปม่านรูดเลย  ได้แน่นอน”

“ง่ายขนาดนั้นเลยหรอ?”ผมถามย้ำ

“ไม่เชื่อลองดูสิ?”คนขายพยักหน้าบอกผม

ออกจากร้านมือถือ  ผมเห็นเด็กสาวกดเครื่องไม่หยุด  และทำหน้าร่าเริงเหมือนเด็กได้ของเล่นใหม่ 

“อื่ม....บ่ายกว่าแล้ว  น้องโสอยากไปไหนต่อ?”ผมดูนาฬิกาแล้วถามเด็กสาว

“กลับบ้านเหอะค่ะ  เดี๋ยวโสต้องไปปิ้งหมูขายและนำเต้นแอร์โรบิกเย็นนี้ด้วย”

“งดสักวันไม่ได้หรอ?”

“ไม่ได้ค่ะ  มันเป็นหน้าที่และอาชืพของโสตอนนี้”

“แล้วถ้ามีคนอยากเลี้ยงน้องโส  ไม่ต้องมาทำงานอย่างนี้  อยู่สบายๆมีบ้านมีเงินให้ใช้  แล้วน้องโส....”

“ไม่เอาหรอกค่ะ...ลุงกำนันก็บอกโสอย่างนี้แหละ  โสยังบอกเลย  ถ้าพูดอย่างนี้  ไม่ต้องมาคุยกันเลย  โสมีศักดิ์ศรีค่ะ”

คำตอบของเด็กสาวทำเอาผมไม่พูดต่อ  เดี่ยวจะถูกเด็กด่าเหมือนไอ้เม้ง  ท่าทางอีโก้จะสูงนะเด็กคนนี้  เฮอะ...เขาว่าของยิ่งได้ยากยิ่งมีค่า   ก็ลองดูสักตั้งสาวน้อยเอ้ย...จะทานแรงเสน่ห์ของผู้ใหญ่บ้านนางรองที่มีทั้งรูปทั้งทรัพย์พร้อมอย่างเราไปได้สักเท่าไหร่  แล้วผมก็ขับรถพาเด็กสาวกลับบ้าน  แต่ระหว่างทางผ่านม่านรูด  ผมคิดถึงคำพูดของคนขายมือถือเลยขับเลิ้ยวเข้าไป  เด็กสาวหันมามองผม  แล้วทำตาโต

“เลี้ยวเข้ามาทำไม?”เด็กสาวถามตาขุ่นๆ

ผมจอดรถแล้วหายใจลึกๆ  ตื่นเต้นยังไงบอกไม่ถูก  เคยพาสาวๆมาฟันบ่อยๆ  แต่ไม่เคยตื่นเต้นขนาดนี้

“เอ่อ...คะ...คือ...เอ่อ....”

“พาโสเข้ามาในนี้ทำไม?”เสียงเด็กสาวชักแข็งๆ

เด็กสาวจ้องตาผมเขม็ง  ผมอึกอัก  พูดไม่ออก  และในที่สุดก็ตัดสินใจบอกเธอไปตรงๆ

“เอ่อ...นะ..น้องโส...พะ..พี่...ปวดฉี่ขอแวะเข้าห้องน้ำหน่อยนะ”

“อ้อ....แวะมาเข้าห้องน้ำเองหรอคะ...เอ่อ....เชิญเลยค่ะ....พี่ผู้ใหญ่....โสใจหายหมด....นึกว่าพี่จะเหมือนคนอื่นๆ”

“รอพี่แป้ปเดียวน้องโส..เดี๋ยวพี่มา.”

แล้วผมก็เดินออกจากรถไปเปิดประตูห้องแล้วเดินเข้าไปถอนหายใจในห้องน้ำ  โอ้ย...ทำไมกูไม่กล้าบอกวะ  ไม่น่าเชื่อเลย  เด็กคนนี้ทำเรากลายเป็นเด็กวัยรุ่นที่ไม่ประสาในเรื่องหญิงไปได้อย่างไง   ผมยืนหอบหายใจอยู่พักใหญ่ๆก็กลับออกมาและเห็นเด็กสาวยังกดมือถือเล่นอยู่ในรถที่สตาร์ทเปิดแอร์รอไว้

“เสร็จแล้วหรอคะ?”เด็กสาวยิ้มเมื่อเห็นผมเข้ามานั่งในรถ

“อื่ม...เรียบร้อยแล้วจ๊ะ”ผมส่ายหัวอย่างผิดหวัง

เด็กบริการวิ่งเข้ามาเก็บเงินค่าห้องจากผม   และผมก็ขับรถออกมา  อื่มดีเนอะ  พาสาวมาเข้าม่านรูดเพื่อให้ตัวเองเข้าไปฉี่แล้วก็พาสาวกลับไปส่งบ้าน  ไม่มีใครทำได้อีกแล้วนอกจากกูนี่คนเดียว  สุดยอดจริงๆ

ผมพาเด็กสาวมาส่งถึงหน้าบ้านของเจ้าชม  ด้วยอารมณ์ผิดหวัง  เนื่องจากสองครั้งแล้ว  ที่ไม่ได้อะไรบ้างเลย  ได้แค่กอดตอนโจรเข้าปล้นธนาคารเท่านั้น  แต่อย่างว่า  ของได้ยากย่อมมีค่า  อดเปรี้ยวไว้กินหวาน  นวดนานๆเดี๋ยวก็น่วมกินได้เองแหละ  น้องโสเอ๋ย  เวลาพี่กิน  พี่จะกินให้หายอยากเลยคอยดู

“ขอบคุณสำหรับมือถือนะคะ”เด็กสาวยกมือไหว้”แล้ววันนี้พี่ผู้ใหญ่จะไปเต้นออกกำลังกายไหมคะ?”

“อื่ม...ดูก่อน  ว่างแล้วพี่จะไป?”

“ถ้าจะไปก็โทรมานะ  แล้วโสจะเก็บหมูปิ้งไว้ให้ผู้ใหญ่ทานนะคะ”

พูดไปอย่างงั้นแหละ  เรื่องอะไรเย็นนี้จะไม่ไป  เดี๋ยวไอ้เม้งมันฉวยโอกาสตอนผมเผลอคาบน้องโสไปกินก็เสร็จนะสิ  งานนี้ต้องระวัง  ถ้ากระพริบตามีสิทธ์พลาดได้

“แล้วพี่จะโทรไปบอกจ๊ะน้องโส  พี่กลับละนะ”

“โชคดีคะ  และหวังว่าเย็นนี้จะมานะพี่ผู้ใหญ่”เด็กสาวโบกมือลาพร้อมรอยยิ้มหวานประทับใจ....

ผมกลับมาถึงบ้านเกือบๆบ่ายสาม  มาถึงก็หลบร้อนเข้าไปนั่งในห้องรับแขก  และนั่งเล่นนอนเล่นไปๆมาก็เผลอหลับไป  และมาตื่นเอาเกือบๆ  สี่โมงเย็น  สาเหตุต้องตื่นเพราะ  สายใจเข้ามาปลุกเพราะมีคนมาหา  คนที่มาคือ  อาใส  น้องอีกคนของพ่อที่ไม่ทำงานทำการ  กินเหล้าเมายาไปวันๆ

“มีอะไรอา?  มาหาฉันทำไม?”ผมทักอย่างเย็นชา”

“อุวะ? ดูมันพูดกับน้องพ่อของมัน  ทำไมทำท่ารังเกลียดอาอย่างนี้”เสียงอาใสอ้อแอ้ท่าจะเมามาไม่น้อย

“ไม่มีอะไรฉันจะนอนแล้วนะ  ง่วง?”ผมทำท่าจะล้มตัวลงนอน

“เดี๋ยวซิวะ...เอ้อ...คือ...ข้า..มี..เรื่อง....จะ....”อาใสพูดติดอ่างขึ้นมาทันที

“จะมายืมเงิน   อีกแล้วใช่ไหม?”ผมตอบแทนอย่างเซ็งๆ

“ใช่แล้วไอ้หลานรัก”อาใสตอบสีหน้าระรื่น

“คราวก่อนก็ยังไม่ใช้เลย  คราวก่อนนู้นก็ด้วย  และอีกหลายๆคราวก่อนไม่รู้กี่คราวก่อน  อานี่มันเป็นปลิงคอยสูบเลือดฉันหรืออย่างไงนี่”

“ทำไมพูดอย่างนั่นล่ะหลานชาย  เอ็งมันได้ดิบได้ดี  ร่ำรวยขนาดนี้ก็น่าจะช่วยเหลือกันบ้าง”อานอกคอกพยายามท้วงติงทางสายเลือด”ใจคอของเอ็งจะทนเห็นน้องแท้ๆของพ่อเอ็งอดตายต่อหน้ารึ?”

“ถ้าอาทำงานทำการ  ไม่กินเหล้าเล่นการพนันละก้อ  อาคงไม่อยู่ในสภาพนี้หรอก  นี่เห็นเป็นญาติกันนะ  ไม่งั้นไอ้ที่แอบต้มเหล้าเถื่อน  ตั้งวงเล่นการพนัน  ฉันจับส่งตำรวจติดคุกไปนานแล้ว”ผมเอ่ยอย่างรำคาญ

“ตอนนี้อาเดือดร้อนจริงๆ  ไม่มีเงินเลย  อยากจะรบกวนหน่อยนะ  ช่วยอาหน่อยนะ”

“ช่วยอะไรอีกล่ะ  อีกเท่าไหร่”ที่สุดผมก็ต้องใจอ่อน

หลังจากให้เงินแล้ว  อาใสก็ยังไม่ยอมกลับ

“มีอะไรอีกล่ะอา?”

“เอ่อ...คือ  อาจะไม่อยู่ที่นี่  จะไปทำงานที่กรุงเทพฯ  เลยอยากจะฝากนังบัวผันเอาไว้ทำงานรับใช้ที่บ้านของเอ็งจะได้ไหม?”

ผมผุดลุกอารมณ์เสียทันที”อะไรวะ?  เงินก็ขอยังจะเอาลูกสาวมาให้เลี้ยงอีก  อานี่มันแย่มากๆเลย...”

“แต่นังบัวผันมันต้องอยู่คนเดียว  อาเป็นห่วงมัน  เลยอยากจะฝากเอ็งช่วยเลี้ยงดูแลมันหน่อย”อาใสยังตื้อ

“แล้วไปฝากคนอื่นไม่ได้รึไง?”ผมบอกปัดไป

“ไม่ได้หรอก?ข้าไม่ไว้ใจ  เพราะตอนนี้นังบัวผันมันอายุ 16 เป็นสาวแล้ว”

“ฮื่ม...อะไรนะ?  บัวผันนั่นโตจนเป็นสาวอายุ 16 แล้วรึ?”ผมหยุดฟังหูผึ่ง

“ไงๆมันก็เป็นน้องเป็นนุ่งของเอ็ง  ก็ช่วยรับเลี้ยงไว้เอาบุญสักคนละกัน”อาใสพูดอ้อน

“แล้วอยู่ไหนล่ะ? มาด้วยรึเปล่า?”ผมถามหา

“มาสิ...นังบัวผันเอ้ย...เข้ามาได้แล้ว  มาไหว้พี่เขาแล้วฝากเนื้อฝากตัวด้วย”

สิ้นคำเด็กสาวร่างกายสูงโป่รงอวบอัดผิวค่อนข้างขาว  ผมสั้น  อยู่ในชุดกางเกงยีนต์เอวต่ำตามสมัยนิยม สวมเสื้อยืดรัดติ้วสีขาวก็เดินเข้ามาและยกมือไหว้ผม  เมื่อรับไหว้ตามธรรมเนียมแล้วผมก็พินิจดู  เด็กคนนี้หน้าตาก็ดูดี  ออกจะอวบกว่าโสภาเสียด้วย  และท่าทางจะสูงกว่านิดหน่อย...

“นี่เรอะ?บัวผันน่ะ  แหม...โตไวนะ  ไม่เจอกันเท่าไรก็โตจน...อื่มมมม....เป็นสาวแล้ว...”

ผมนิ่งคิดสักครู่ก็ตกลงช่วยเหลือดูแลบัวผัน  ลูกพี่ลูกน้องให้อาใส  ด้วยความคิด....อื่ม....เวทนาเด็กบัวผัน  เพราะว่าโตขนาดนี้แล้วน่าจะเสียดายเอ้ย....น่าจะเป็นอันตรายถ้าไปอยู่กับคนอื่น  ฉะนั้นเก็บไว้เอา...เอ้ย...เลี้ยงไว้ดูแลเองดีกว่า   เอื้อก..นะนี่เห็นเป็นน้องเป็นนุ่งนะเนี่ย......

“เอาล่ะ...ฉันเห็นแก่อาใสที่เป็นน้องของพ่อฉันนะ  ฉันจะรับเด็กบัวผันนี่ไว้เลี้ยงเอา...เอ่อ...บุญอยู่ที่นี่ก็แล้วกัน  จะให้คอยดูแลบ้านช่วยเป็นลูกมือของสายใจนะ”

“ขอบคุณพี่ผู้ใหญ่เขาเสียสินังบัว..ขอบคุณแล้วฝากเนื้อฝากตัวกับเขาเสียด้วย...”อาใสเอาแขนกระแทกสีข้างลูกสาว

“ขอบคุณพี่ผู้ใหญ่ค่ะที่เมตรตาบัว  บัวสัญญาจะทำงานรับใช้ผู้ใหญ่ให้ดีค่ะ”เด็กสาวบัวผันพูดพร้อมยกมือไหว้

“แล้วจะย้ายมาเมื่อไหร่ล่ะ?”ผมถามอาใสที่ตาลุกวาวดีใจที่ไม่ต้องเลี้ยงลูกเองและผลักภาระมาให้ผม  แกตอบแทนทันที

“วันนี้เลย  เพราะเย็นนี้รถรับคนงานจากกรุงเทพฯจะมารับแล้ว”

“อื่ม....ไฟลนก้นเลยนะอา...”ผมส่ายหน้าอย่างเบื่อหน่ายในพฤติกรรมของอาน้องร่วมสายเลือดของพ่อ

“เอาละอีหนู  อยู่ที่นี่ก็ทำตัวดีๆ  คอยรับใช้พี่เขาให้เขารักเค้าเมตรตานะ”อาใสสั่งเสียลูกสาว

จะพ่อ? แล้วพ่อไปทำงานที่กรุงเทพฯก็อย่าไปมัวเล่นการพนันกินเหล้าเมายาจนลืมว่ามีหนูอยู่ทางนี้นะ  ไงๆก็กลับมาเยี่ยมหนูบ้าง..”เด็กสาวพูดเหมือนชาตินี้จะไม่ได้เจอพ่อของตัวเองอีก

“เออ..พ่อไปล่ะ”แล้วอาใสก็เดินออกไปชนิดไม่หันหลังกลับมา

ผมมองเด็กสาวที่ยังนั่งก้มหน้ามองพื้น

“เอาล่ะนะ   บัวผัน เดี๋ยวพี่จะให้สายใจเขาพาไปพักที่เรือนเล็กหลังบ้านนะ  แล้วก็ทำความรู้จักกับเขาไว้  คอยช่วยงานเขานะ และต้องเชื่อฟังเขาด้วย  อย่าสร้างปัญหานะ”

เด็กสาวพยักหน้ารับ”ค่ะ...บัวจะเชื่อฟังทุกอย่างเลยค่ะ”

ผมไม่ได้ซักประวัติอะไรบัวผัน   ผมเรียกสายใจมาแนะนำให้รู้จักแล้วให้พาไปที่เรือนเล็ก  ส่วนตัวเองเดินเข้าไปนอนต่อในห้อง   แล้วผมก็นอนหลับต่อไปสักพักก็ต้องสะดุ้งเมื่อถูกลูบคลำตามตัว   โดยเฉพาะตรงเป้าโดนหนักกว่าที่อื่น....

เมื่อผมลืมตาขึ้นมาดูก็พบว่าเป็นกานดา 

“อ้าว?เข้ามาได้อย่างไงกันนี่....กานดา”

เทพีบ้านนางรองคลานเข้ามาหาผม

“ก็ห้องไม่ได้ล็อก  ถามนังคนรับใช้มันก็บอกว่าพี่นอนหลับ  ให้เรียกให้หน่อยมันก็เดินหนี  กานดาเลยเดินเข้ามาเองก็เจอพี่หลับอยู่  เลยเข้ามานี่แหละ”

“ทีหลังอย่าทำอย่างนี้  ออกไปก่อน”ผมลุกขึ้นเดินไปเข้าห้องน้ำแล้วล้างหน้า

เมื่ออกมาก็ต้องตกใจเมื่อกานดานุ่งผ้าเช็ดตัวนอนรออยู่บนเตียง  หุ่นอวบอัดแทบล้นออกมาจากผ้าเช็ดตัวที่พันไว้หลวมๆ  ผมมองแล้วก็เกิดอาการหายใจขัดๆ

“มาหาพี่ทำไม?”ผมฝืนถามไป

“กานดาคงจะมาให้พี่ดูลายมือละม้าง..”

เทพี่บ้านนางรองลุกจากเตียงเดินนวดนาดเอาเนื้อหนังเข้ามากอดพัวพันถูไถร่างกายของผม  พลางพูดเสียงเคลือๆยั่วเย้า

“เดี๋ยวนี้พี่หมางเมินกานดาจังเลย  เจอก็หลบหน้าและก้อพูดไล่อย่างไม่ใยดี  ทำไมกานดามันน่ารังเกลียดนักรึไง  พี่ถึงทำอย่างนี้”

“ไอ้รูปร่างหน้าตานะ  ไม่น่ารังเกลียดหรอก  แต่นิสัยนี่สิ  ต้องปรับปรุง  ถ้ากานดายังขี้วีน  และชอบดูถูกคนอื่นอยู่อย่างนี้  มันจะหาผัวยาก”ผมพูดเตือนเธอ

“วันนี้เรื่องที่พี่ไปในตัวอำเภอและจับโจรปล้นธนาคารด้วยมือเปล่านะ  ดังมากเลยรู้เปล่า  เค้าคุยกันทั้งหมู่บ้านชื่นชมกันใหญ่เลย”

“ข่าวมาไวจัง”

“ไอ้ข่าวที่พี่จับโจรได้นะ  กานดาไม่แปลกใจหรอก  แต่กานดาแปลกใจตรงที่นังเด็กนั่นไปกับพี่ด้วยนี่สิ  พี่พามันไปเที่ยวเพราะติดใจมันเมื่อวานนี้ใช่ไหม?  แล้วจะเอามันเข้ามาแทนที่ของกานดา”

เทพีบ้านนางรองถามอย่างหึงหวง

“กานดา  พี่บอกตั้งกี่ครั้งแล้ว  ว่าพี่จะไปไหนกับใคร....หรือเธอจะไปไหนกับใคร  เราจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวของอีกฝ่าย....กานดายังจำได้ไหม?”

ผมพูดเตือนความจำของเทพีบ้านนางรอง

“แต่กานดารักพี่นะ”

กานดายังคงออดอ้อนผม  ซึ่งผมก็ได้แต่ถอนหายใจ

“กานดา...พี่เคยบอกตั้งหลายครั้งแล้วนะ  ว่าอย่ามารักพี่เลย  ทำไมไม่ฟัง?”

“ก็กานดาตัดใจจากพี่ไม่ได้นี่...”

“กานดา  ต้องให้พี่พูดอีกกี่ครั้ง”ผมเริ่มหงุดหงิด

“ก็ได้?  แต่ยังไงกานดาก็ไม่ยอมแพ้หรอก  กานดาจะทำให้พี่ยอมรับให้ได้”

“แล้วจะทำยังไงล่ะ?”ผมถามเธอ

“ทำอย่างงี้ไง”แล้วเทพีบ้านนางรองก็ปลดผ้าเช็ดตัวออก  ทรวดทรงองค์เอวอันอร้าอร่ามก็หลุดออกมาอวดโฉมโนนเนื้อต่อหน้าต่อตาของผม

 

 ผมได้แต่ถอนหายใจเฮือก  วันนี้ต้องเหนื่อยอีกแล้ว....

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา