Psychic

8.3

เขียนโดย Kuroneko_Iyo

วันที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2553 เวลา 23.50 น.

  3 chapter
  8 วิจารณ์
  7,169 อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) คดีคฤหาสน์มรดก บทที่หนึ่ง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

“พระเจ้าสถิตกับท่าน”
“และสถิตกับท่านด้วย”
“ขอพระพรของพระเจ้าผู้ทรงสรรพานุภาพ ...พระบิดา และพระบุตร และพระจิต หลั่งลงมายังท่านทั้งหลาย และดำรงอยู่ตลอดกาล อาเมน...”

“พิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณจบแล้ว จงไปปฏิบัติตามพระวาจาของพระเจ้าเถิด...”

“ขอขอบคุณพระเจ้า”

เมื่อสิ้นถ้อยคำสุดท้ายที่ดังก้องไปทั่วโบสถ์สีขาวสว่าง บรรยากาศก็เปลี่ยนจากความเงียบสงบเป็นเสียงพูดคุย เหล่าผู้คนมากมายที่นั่งอยู่กับที่พลันลุกขึ้นกันจอแจ บ้างก็ยังคงนั่งอยู่ที่เก้าอี้ไม้ยาวและจับกลุ่มกัน และหลายคนที่เดินทยอยออกจากประตูโบสถ์ไป...

เด็กหนุ่มในร่างเล็กสวมแว่นพยายามเดินเบียดเสียดกึ่งวิ่งเข้ามาในโบสถ์สวนกับเหล่าคนนั้น พูดขอโทษไปพลางและพยายามจะแทรกกายผ่านช่องว่างเล็กๆจากท้องใหญ่ๆของคุณลุงสองคนที่พูดคุยกันไปด้วยอย่างไม่ใส่ใจใคร ริมฝีปากเล็กๆพูดขอโทษดังๆอีกครั้งเมื่อคุณลุงทั้งสองดูจะไม่เห็นเขาอยู่ดีในเวลานี้
ร่างเล็กในเสื้อสเวตเตอร์สีน้ำตาลอ่อนเบียดจนทะลุเข้ามาในโบสถ์ พบว่าตนเองเกือบจะล้มลงบนพื้นปูหินอ่อนสีขาวครีมในขณะที่ถูกกระเป๋าของป้าคนหนึ่งตบหัวเอาจนเซ และยังคงพบอุปสรรคจากวังวนกำแพงชาวคริสต์ผู้ประกอบพิธีมิสซาในวันอาทิตย์ของวัดน้อยที่ล้นหลามแห่งนี้ แต่ละคนต่างก็มัวแต่กำลังยืนจับกลุ่มพูดคุยกันกลางทางเดิน บ้างก็พาเด็กมาด้วยและวิ่งเล่นไปทั่วจนกลายเป็นเหมือนป้อมปราการขนาดใหญ่สำหรับเด็กหนุ่มตัวเล็กอย่างเขา สิ่งที่ทำให้ยิ่งยากกว่าเดิมคือแม้จะแหวกคนกลุ่มหนึ่งมาได้ก็ต้องเจอกลุ่มถัดไปอยู่ดี

รวมทั้งผู้หญิงกลุ่มหนึ่งที่กำลังรุมล้อมพระผู้ประกอบพิธีมิสซาในวันนี้

“คุณพ่อสอนให้เด็กๆทำขนมเองเหรอคะ”
“ว้าย เก่งจังเลยค่ะ”
“ยอดไปเลยค่ะคุณพ่อโธมัส”

“อย่าพูดถึงขนาดนั้นเลย พ่อเองก็ใช่ว่าจะฝีมือดีเสียหน่อยนะ”
    

เสียงอ่อนโยนขี้เล่นจากริมฝีปากบางเฉียบที่ฉีกยิ้มกว้างบนใบหน้าอ่อนวัยเรียกรอยยิ้มจากเหล่าสตรีมากมายที่รุมล้อมชายหนุ่มตรงกลาง รูปร่างสูงเพรียวในชุดยาวสีดำสนิทอันเป็นสัญลักษณ์ของนักบวชดูสง่างามยังคงยืนอยู่ข้างแท่นสูง และผมสีน้ำตาลเข้มรวบต่ำด้วยริบบิ้นสีแดงสดเส้นเล็กเรียกความสนใจจากผู้หญิงคนหนึ่งให้ลองเอ่ยปากถาม


“คุณพ่อผูกริบบิ้นสีเหมือนที่ห่อปังเลยนะคะ” เสียงหวานพูดด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ

“บางครั้งพ่อก็อยากดูน่ารักให้เข้ากับขนมบ้างน่ะ”

ดวงตาสีเขียวใสซุกซนตายใต้แพขนตาหนาที่ประดับบนดวงหน้าใสเบิกตาหวานและใช้นิ้วเรียวยาวสีขาวชมพูแตะที่แก้มเรียวของตนเบาๆ เรียกเสียงกรี๊ดกร๊าดในใจเหล่าแม่ยกที่ชื่นชอบบาทหลวงหนุ่มน่ารักจนถึงขั้นยอมมาทำพิธีมิสซาทุกครั้งที่มีโอกาส เหล่าเสียงหวานใสทั้งสามร่วมใจกันหัวเราะเขินอายและบิดม้วนต้วน

“เอ่อ... ท่านพ่อโธมัส... ขอโทษด้วยนะครับ”

สาวๆทั้งสามคนที่กำลังมะรุมมะตุ้มหยุดหัวเราะ ร่างทั้งสี่ที่แท่นพิธีก็หันมามองที่ต้นเสียงในทันที...


หลวงพ่อโปรยยิ้มสดใสให้กับเด็กหนุ่มร่างเล็ก ก่อนจะพูดตัดบทสนทนากับสตรีเหล่านั้น

“ขอโทษด้วยนะลูกทั้งหลาย วันนี้พ่อมีนัดหลังพิธีมิสซาแล้ว”



--------------------------------------------------------------------------------




“หา......”

“ใช่แล้วล่ะโนร่า”

บทสนทนาเริ่มต้นขึ้นในห้องพักด้านข้างเล็กๆในโบสถ์วัดน้อย แสงสว่างส่องสะท้อนลงบนกำแพงสีครีมอ่อนสบายตา เด็กหนุ่มดวงตาสีฟ้าใสกำลังฉงนกับคำพูดของคู่สนทนาที่ใบหน้าอ่อนกว่าวัยจนเกินให้อภัยกำลังยิ้มแย้มพลางจิบน้ำชาชิ้นเลิศยามสายไปด้วย

“จะให้ไปไล่ผีเนี่ยนะครับ?” โนร่าทวนคำด้วยเสียงเบาหวิวราวกับกลัวใครจะได้ยิน หลวงพ่อโธมัสหัวเราะในลำคอระหว่างที่ดื่มน้ำชา ก่อนจะวางถ้วยชาลงอย่างเบามือ

“ลูกไม่ใช่คนทำ พ่อต่างหาก ...สิ่งที่พ่ออยากให้ลูกทำคือเป็นคนตรวจสอบคดี พ่อไล่วิญญาณไม่ได้ถ้าพ่อไม่รู้ว่าเป็นวิญญาณของอะไร... นอกจากนี้มันมีเหตุผลบางอย่างที่พ่อต้องขอร้องลูกเป็นกรณีพิเศษ”

โนร่าเงียบไปชั่วครู่...

“แต่... ผมไม่มีพลัง ‘นั้น’ อีกแล้วนะครับ”

“พ่อรู้... พ่อพอจะติดต่อผู้มีพลังนั้นมาช่วยได้ ได้แต่หวังว่าลูกจะช่วยสืบว่าเกิดอะไรขึ้นที่นั่นได้บ้าง งานนี้ใหญ่ พ่อคงรับทำคนเดียวไม่ได้ โนร่าช่วยพ่อได้ไหม?”

โนร่าสะอึกเมื่อมองใบหน้าอ่อนโยนของบาทหลวงที่ตนเองเห็นมาตั้งแต่สิบกว่าปีก่อน...
สิบกว่าปีนั้นที่เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นกับชีวิตของเขา ก็มีเพียงชายคนนี้ที่คอยให้กำลังใจเขา เป็นเพียงคนเดียวที่ช่วยให้คำปรึกษามาตลอดสิบกว่าปีให้หลัง ชายที่ทำให้เขาตัดสินใจได้ว่าเส้นทางชีวิตของเขาจะเป็นอย่างไรต่อไป...  และเป็นคนที่ทำให้เขาก้าวมาจนถึงการเป็นนักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่งในระดับวงการเรื่องเหนือธรรมชาติ

“ถ... ถ้าเพื่อพ่อ... ผมจะทำครับ”

“งั้นก็ดี” หลวงพ่อโธมัสยิ้มกว้าง ลุกและเดินไปที่ลิ้นชักไม้เพื่อเปิดออก ก่อนที่จะหยิบซองใส่เอกสารแบบพลาสติกใสสีฟ้าอ่อนออกมา ท่านพูดพลางเดินเข้ามาวางเอกสารตรงหน้าเด็กหนุ่ม “ต้องขอบอกก่อนว่าพ่อไม่ได้รับอนุญาตให้ไล่วิญญาณ พ่อเลยขอร้องจากโนร่า ฉะนั้นต้องปิดเป็นความลับด้วยนะ”

“ได้ครับ”

“นี่เป็นสำเนาของข้อมูลที่พ่อได้เกี่ยวกับคดีนี้ ลูกเอาไปได้เลยนะ”

“เอ่อ... ครับ”

เขาพูดเสียงเบาและหยิบซองสีฟ้าใสขึ้นมาเปิด ก่อนจะหยิบเอกสารชิ้นแรกขึ้นมา
บนกระดาษสีขาวส่วนบนมีลายก็อปปี้เอกสารที่ไม่ชัดเจนของภาพถ่ายคฤหาสน์หลังหนึ่งท่ามกลางสนามหญ้าและต้นไม้ใหญ่ แม้จะไม่ชัดเจนแต่ก็เห็นได้ว่าเป็นคฤหาสน์แบบสมัยเก่าที่ใหญ่มากหลังหนึ่ง ดวงตากลมเลื่อนอ่านตัวหนังสือด้านล่างภาพ ที่เขียนข้อความเกี่ยวกับเจ้าของคฤหาสน์หลังโตหลังนี้

‘คฤหาสน์มรดกตระกูลฟิลเบิร์ต
เจ้าของปัจจุบัน ครอบครัวด็อกเตอร์เบนนี่ ฟิลเบิร์ต’


“ด็อกเตอร์เบนนี่ ฟิลเบิร์ต!!!”

“พ่อคิดอยู่แล้วว่าเธอต้องรู้จัก”


โนร่าพูดไม่ออก ทั้งสับสนและตกใจ ชื่อที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าเขาในตอนนี้คือชื่อของนักวิจัยชื่อดังเรื่องพลังงานพลาสม่าเหนือธรรมชาติและเป็นผู้เขียนหนังสือที่ได้รับการตีพิมพ์ซ้ำหลายครั้งเช่นเรื่อง “ความจริงของพลังงานพลาสม่า” ซึ่งระบุทั้งพลังงานที่มีอยู่ในธรรมชาติและเหนือธรรมชาติ รวมแม้กระทั่งวิธีการวิจัยและข้อเท็จจริงของประเภทพลังงานต่างๆ แม้กระทั่งตัวเขาเองก็ยังต้องเก็บไว้อ่านเป็นข้อมูลในการวิจัยเลย ... แล้วทำไมนักวิจัยเรื่องเหนือธรรมชาติถึงต้องให้คนไปไล่ผีในบ้านตัวเองด้วยล่ะ!

“เธอควรจะรู้ไว้ว่าด็อกเตอร์ต้องการให้ปิดเรื่องนี้เป็นความลับ ส่วนผู้ที่มาขอร้องพ่อคือภรรยาของด็อกเตอร์ เธอมีชื่อว่าลีน่า เป็นชาวคริสต์ที่ดีคนหนึ่งทีเดียวล่ะ”

“แต่มันไม่สมเหตุสมผลเลยนะครับ ถ้ามีเรื่องพวกนี้เกิดขึ้นในบ้านนักวิจัย มันควรจะเป็นโอกาสดีสำหรับด็อกเตอร์เอง...”

โนร่าพูดออกมาอย่างสับสน ถ้าเป็นตัวเขาเองที่ได้ประสบเรื่องเหล่านี้ในบ้านของตัวเอง เขาคงจะดีใจมากกว่าไปขอให้พระมาช่วยแท้ๆ ทำไมด็อกเตอร์ถึงต้องทิ้งโอกาสดีขนาดนี้ไปด้วย ไม่ใช่เรื่องหาง่ายในยุคสมัยใหม่แบบนี้เลยที่จะมีปรากฏการณ์ทางวิญญาณเกิดขึ้นในบ้าน นี่มันศตวรรษที่ 25 เข้าไปแล้วนะ
แม้จะยังคงมีการถกเถียงของนักโบราณคดีและนักวิจัยเกี่ยวกับทฤษฎีซึ่งให้เหตุผลที่แหล่งซ่องสุมพลังวิญญาณค่อยๆหายไปตั้งแต่ปลายยุค 21 และลดลงเรื่อยๆจนถึงตอนนี้ ที่เรียกได้ว่าเป็นยุควิทยาศาสตร์อย่างจริงแท้ โนร่าเองก็เคยคิดที่จะลองพยายามหาสาเหตุและตั้งทฤษฎีขึ้นมาบ้าง แต่การทำวิทยานิพนธ์และการวิจัยต่างๆทำให้เขาไม่มีเวลาว่างพอจะลงไปยุ่งกับเรื่องที่กลายเป็นอดีตไปแล้ว

“เรื่องนั้นพ่อก็ไม่ทราบหรอกนะ แต่เมื่อมีคนขอให้ช่วย พ่อก็ช่วยเท่านั้นเอง”

“...งั้นผมจะลองกลับไปหาข้อมูลเองนะครับ”

“ดี” หลวงพ่อยิ้มอ่อนโยนอีกครั้ง “ดีมาก งั้นพรุ่งนี้ตอนสิบโมงก็ช่วยไปพบกับพ่อที่บ้านหลังนั้นด้วย”

“ที่ไหนครับ?” โนร่าเอียงศีรษะ


“คฤหาสน์มรดกตระกูลฟิลเบิร์ต”


To be continue.

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา