Fic naruto ภาค พายุโลหิต

10.0

เขียนโดย นิกซ์

วันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 เวลา 15.23 น.

  33 ตอน
  12 วิจารณ์
  53.15K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 16.43 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

24) บทที่ 24 อลวนคนเล่นเกมส์ 2

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

หลังจากพักจนหายเหนื่อยแล้ว ทั้งสามก็ลากสังขารมาที่ด่านต่อไป ซึ่งพาทั้งสามมาที่ระเบียงทางเดินที่มีเหล่าอสูรกายมากมายมีอาวุธครบมือ

ซากุระชักดาบคาตานะออกมาเตรียมพร้อม”ท่าจะมันส์”

เช่นเดียวกับกาอาระที่ถือหอกและตั้งท่าพร้อม “นี่สินะ คือความสนุกของเกมส์”

คุโระหรือทาเคโนมารุเอ่ยเสียงขุ่น “อย่าใช้พลังเปลืองนัก เด็กๆ โดยเฉพาะเธอนังหนู ไม่จำเป็นห้ามใช้ปืน”

“ค่า...”

กาอาระลอบสังเกตถึงความสนิทสนมของสาวผมชมพูกับชายชุดดำปริศนาว่าทำไม ถึงดูสนิทกันมาก...ราวกับพี่ชายและน้องสาว...ทำไมเค้าถึงคิดแบบนั้นน่ะเหรอ? ก็พอมองไปมองมา ซากุระน่ะ ดันมีส่วนคล้ายชายชุดดำ  คุโระ ไปหลายส่วน

ทั้งสามจัดการฟาดฟันเหล่าปีศาจร้ายกันอย่างเมามันส์

ไม่นานทั้งสามก็เคลียร์ด่านที่3ได้สบายๆ

...

นารูโตะ “แหมๆ กาอาระดูสนุกน่าดูนะ”

ซาสึเกะมองอย่างไม่สบอารมณ์ที่ต้องมาเห็นทาเคโนมารุใกล้ชิดกับซากุระแบบนี้ ถ้าเป็นกาอาระเค้าไม่หงุดหงิดเท่าไหร่เพราะการแสดงออกของกาอาระนั้น ดูแล้วก็เป็นแค่เพื่อน และอีกอย่างแพนด้าน่ะมันไร้เดียงสาโคตรๆ

โจจิที่กินขนมอยู่ก็กระซิบกับเพื่อนซี้ขี้เบื่อ “ซาสึเกะดูหงุดหงิดตั้งแต่ด่านสามแล้วนะ”

“น่ารำคาญ แต่ถ้ามองดูคนชุดดำให้ดีๆก็น่าจะเป็นญาติมากกว่านะ”

อิโนะเข้ามากระซิบถาม”เอ๋? จริงเหรอ”

ชิกามารุอธิบาย“ก็ ดูหน้าให้ดีๆซี่ ซากุระน่ะ ไม่ค่อยเหมือนคุณน้าเมบุกิเลย แต่หน้าตาดันไปทางพ่อแทน”

อิโนะนึกแล้วพยักหน้า “จริงด้วย จะว่าไปคุณอาของซากุระน่ะ สวยมากและยัยนั่น ถ้าไม่นับสีผิวล่ะก็ เหมือนคุณอาของเค้ามากเลย”

สองหนุ่มเพื่อนร่วมทีมงง

“ก็คุณอาของเค้า คือคุณแม่ของคาโอรุคุงนี่นา จะว่าไปคนๆนั้นน่าจะเป็นญาติของคุณพี่ริรินนะ คุณริรินเป็นคนทรง หืม...ยัยซากุระเนี่ย ญาติเยอะนะเนี่ย....”

ซาสึเกะที่ได้ยินนั้นรู้สึกคันปากอยากบอกแต่เค้าไม่อยากให้ใครตกใจ...ถ้าบอกว่าเป็นบรรพบุรุษของสองแฝดไปเนี่ย จะเป็นยังไง...

...

เมื่อมาถึงด่านที่4

ทั้งสามถูกพามาที่ห้องๆหนึ่งที่เป็นเหมือนหลุมขนาดใหญ่ พื้นที่ๆยืนก็ไม่ได้กว้างแถมรอบนอกยังมีหนามแหลม

เสียงประหลาดก็ดังขึ้น”ปีนมาหาข้าให้ได้สิ ถ้าแน่จริง”

เสาขนาดใหญ่ปรากฏ บนสุดนั้นมีประตูไว้

หญิงสาวเลิกคิ้ว ...เสียงคุ้นๆแฮะ...

...

คาโอรุ...ของจริงท่าจะต่อจากนี้สินะ...”มีเจ้านั่นอยู่ด้วย คงเอาอยู่”

...

ซากุระถอยหลังไปหลายก้าวก่อนจะพุ่งไป เกาะที่เสา แล้วปีนขึ้นอย่างคล่องแคล้ว

กาอาระกระโจนปีนตามเช่นเดียวกับคุโระ

สัญชาตญาณของทาเคโนมารุก็ทำงาน “ซากุระ เบี่ยงซ้าย!”

หญิงสาวเบี่ยงตัว แทบจะทันทีก็มีหอกแหลมแทงออกมา

ทาเคโนมารุสั่งอีกครั้ง “ปล่อยมือเดี๋ยวนี้ซากุระ”

“อะไรนะคะ”

“เชื่อใจชั้น!”

กาอาระมองอีกฝ่าย”อย่านะ เดี๋ยวซากุระจะตายแน่!”พื้นมีแต่หนามแบบนั้น ตัวพรุนแน่

ซากุระยิ้มบาง“ด้วยความยินดี”จบคำเธอก็ปล่อยมือออก ร่างของเธอร่วงลง มือข้างหนึ่งของทาเคโนมารุคว้าร่างนั้นได้ทัน ก่อนจะใช้แรงเหวี่ยงร่างบอบบางให้ไปสู่ยอด ซึ่งเธอสามารถเกาะชั้นบนเสาแล้วพลิกตัวขึ้นสู่ยอดบนได้สบายๆ การเคลื่อนไหวไม่ผิดกับแมว

ชายชุดดำสั่งอีกครั้ง “เตรียมพร้อมรับเจ้าแพนด้านะ”

“ค่า!”หญิงสาวยืนตั้งท่าเตรียมพร้อม

ทาเคโนมารุปีนขึ้นมาเหนือกาอาระอย่างรวดเร็ว และคว้าหลังเสื้อของชายหนุ่มออกมาได้ทันก่อนที่จะโดนหอกแหลมสิบกว่าเล่มพุ่งออกมา

ร่างของกาอาระถูกเหวี่ยงขึ้นมาชั้นบนสุด ซากุระรีบคว้าตัวของอีกฝ่ายไว้ได้ นั่นทำให้เธอโดนหนุ่มผมแดงทับร่างของเธอเต็มแรง

หน้าของกาอาระอยู่ตรงซอกคอของหญิงสาวอย่างพอดิบพอดี แต่คนโดนทับมีสีหน้าจุกเต็มที่

...

ซาสึเกะกัดฟันกรอดๆผิดกับคาโอรุที่นิ่งเฉย

ซาอิ”สมแล้วคุณซากุระ คล่องตัวมาก ไม่ผิดเมื่อสองสามเดือนก่อนเลย” แต่ท่าทางจะจุก ถึงจะแข็งแรงกว่าแต่ขนาดตัวเล็กกว่าหลายเท่าเลยน่ะนะ

อิโนะงง “จริงเหรอซาอิ ตอนนั้นชั้นอยู่แต่ในถ้ำไม่รู้เรื่องเลย”

“จริงครับ เธอมาช่วยผมกับคุณซามุยไว้ทันก่อนที่ผมจะโดนฆ่า เธอแข็งแรงมาก”

คาโอรุหยิบขนมมากิน “นั่นเป็นเรื่องปกติ จะตกใจอะไร คนเรา ถ้าฝึกอะไรๆในแบบพอดีๆ มันก็เก่งเอง มีใครบางคนสอนไว้ ร่างกายมีขีดจำกัด การที่ฝืนมากเกินไป อาจจะทำให้ร่างกายแย่ได้ ชีวิตมีขีดจำกัด”

เท็นเท็นรู้สึกว่าชายหนุ่มกำลังตำหนิลีอยู่ ใช่เพราะสายตาของเค้ามองไปที่ลีอยู่แวบหนึ่ง แต่คนโดนตำหนิคงจะไม่รู้ตัวเลยสินะว่ากำลังโดนตำหนิเพราะมัวแต่ส่งสายตาอิจฉาใส่กาอาระที่กำลังล้มทับร่างของสาวที่หมายปอง

...

“กาอาระ ลุกออกไปที หนัก”

หนุ่มผมแดงรู้สึกตัวก็รีบลุกแต่ก็จะหงายหลังร่วงไปอีกรอบ ซากุระรีบคว้าแขนไว้ทำให้ กาอาระล้มทับตัวอีกรอบ

“นี่จะซุ่มซ่ามไปไหน”

“โทดที”จู่ร่างของกาอาระก็โดน คุโระคว้าแล้ว ชายหนุ่มแล้ววางข้างๆหญิงสาว“ตั้งสติหน่อย”น้ำเสียงของทาเคโนมารุนั้นแฝงความไม่พอใจอยู่มาก “พร้อมรึยัง ยัยหนู”

หญิงสาวลุกขึ้นเตรียมพร้อม “พร้อมค่ะ”

“แพนด้าคุง?”

กาอาระปี๊ด “ชั้นชื่อกาอาระ ไม่ใช่แพนด้า”

ซากุระต้องรีบห้าม “พอเถอะหนุ่มๆ ตอนนี้ อันตรายของจริงแล้ว”

 สองหนุ่มที่ตั้งท่าทะเลาะกันจึงหยุด

ขณะที่หญิงสาวจะเปิดประตู ทาเคโนมารุก็เข้ามาเปิดเสียเอง ซากุระและกาอาระจึงตามหลังไป...

พอเข้ามาในห้อง

“ชินจูโร่...”

เบื้องหน้าของทั้งสามคือ อดีตผู้นำนาราคุ ชินจูโร่ ในสภาพชุดรัดกุมสีดำ และสวมเกราะสีขาว

“มาจนได้นะ นังจิ้งจอก”

หญิงสาวกอดอก ก่อนจะเอ่ยอย่างยียวน “ตายไปตั้งนาน ยังไม่ไปเกิดอีกเหรอ?”

“ข้ายังไม่ได้ ฆ่าเจ้าเลยเบนิ จะไปเกิดได้ยังไง...”

“แสดงว่า แกไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมา”

“ใช่ เมื่อมีคนปริศนายื่นมือมาช่วยเหลือข้า ให้ข้าสามารถสังหารเจ้าได้ ข้ายินดีมอบวิญญาณนี้ให้ ด้วยความเต็มใจ”

หญิงสาวยิ้มแย้ม “แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว...”

...

คาโอรุมีสีหน้าที่เคร่งเครียด “แย่จริงๆ เจอใครไม่เจอ...”

อิโนะกับซาอิมีสีหน้าถอดสีเพราะรู้ความสามารถและความอำมหิตของชินจูโร่ดี ถึงตอนที่เจอกันในตอนแรกจะไม่ได้ลงมือแต่ก็ถือว่ารับมือได้อย่างลำบาก

ซามุยถามทันที”ทำไมล่ะขอรับ ท่านเบนิเคยฆ่าเค้าได้ครั้งหนึ่งน่าจะรับมือได้”

“ยัยนั่นไม่ได้ฆ่าชินจูโร่ ชั้นและเจ้าบ้าสองคนนั่นต่างหาก ถ้าฝีมืออย่างเดียว ยัยนั่นเอาชนะไม่ได้หรอก แต่ถ้าเรื่องการปั่นประสาทอาจจะชนะ”และมีคุณปู่ทวดยอดนักดาบอันดับ1อยู่ด้วยคงจะรอดล่ะนะ

ซาสึเกะหรี่ตามองไปที่ซามุยอย่างจับผิด ตั้งแต่บนยานเหาะนั้น ดูเหมือนว่าซามุยจะเข้าใจว่าซากุระเป็นคนฆ่าชินจูโร่ แถมเจ้าหล่อนก็ไม่ได้แก้ต่างอะไร เค้าเข้าใจ ซามุยเคยเป็นนักฆ่าแต่กลับเอาไว้ใกล้ตัวจนรู้อุปนิสัย ว่าชอบอะไร ต้องการอะไร

เสียงของคาโอรุก็ดังในหัว ‘อย่าตกใจไป ชั้นคุยกับนายทางจิต  เรื่องซามุยน่ะ ที่ชั้นกับยัยนั่นเอาไว้ใกล้ตัวน่ะ คิดดีแล้ว เกิดอะไรขึ้นจะได้จัดการง่าย แต่เป็นตัวหมากที่ดีเชียวล่ะ ชั้นถึงใช้ให้หมอนั่นดึงความสนใจจากชิกิได้ดี ชินจูโร่น่ะ ฆ่าซามุยไม่ได้หรอก เดี๋ยวก็รู้’

‘ห๋า?’

...

“นักฆ่าชินจูโร่เข้าฟาดฟันกับหญิงสาว ซึ่งสองหนุ่มต่างเข้าช่วย แต่ฝีมือของชินจูโร่ช่างเก่งกาจ ขนาดสามรุมหนึ่งยังรับมือได้สบายๆ

ทาเคโนมารุ ไม่อยากให้ใครบางคนจับทางได้ จึงออมมือไว้ ความจริงจะเอาชนะเจ้านักฆ่านี่ได้สบายๆ แต่ยัยหนูตัวแสบจะรู้วิธีไหมนะ ชักอยากจะรู้ซะแล้วสิ

ชินจูโร่ดักรับอย่างมั่นคงก่อนจะเบนความสนใจไปที่หญิงสาวเพียงหนึ่งเดียว

ทำเอาร่างบางต้องหลบดาบเป็นพันวัล แถมยังไม่สามารถโต้ตอบได้

“แก! แก!แย่งคนสำคัญของชั้นไป”

ซากุระยิ้มยียวน “รักซามุยสินะ นายน่ะ”

นักฆ่าหนุ่มหน้าแดงเมื่อโดนรู้ความลับสุดยอดก็เข้าจู่โจมอย่างขาดสติ

ทำเอาทั้งสามต้องหลบการโจมตีกันจ้าระหวั่นแบละที่โดนเพ่งเล็งที่สุดคือ สาวผมชมพูแต่ก็ดีที่สองหนุ่มใช้ดาบและหอกกันไว้ได้ทันก่อนที่จะออกมาทั้งหลัก ทั้งสองฝ่าย

...

ซามุยหน้าแดงก่ำเมื่อรู้ว่า โดนคนที่เป็นเหมือนพี่ชายมารักในเชิงชู้สาวแบบนี้

หนุ่มผมชมพูนึกแซว “ท่าทางเตค้าจะชอบก้นนายนะ ความจริงก็มีเจ๊ๆเค้าเล่งนายอยู่นะ”

สีหน้าของซามุยซีดขาว “ท่านบันไซอย่าพูดแบบนั้นสิขอรับ ผมชอบท่านเบนินะ”ชายหนุ่มต้องสะดุ้งอีกรอบเมื่อโดนสายตาอาฆาตจ้องเขม่ง “ผมรู้ตัวขอรับว่า ผมเป็นหมาวัดก็ทำได้แต่แอบชอบเค้าเงียบๆ ไม่อยากเป็นศัตรูใครนะขอรับ คุณซาสึเกะ”

หนุ่มผมชมพูหันไปขู่ด้วยรอยยิ้ม “ถ้าคิดจะจีบแฝดชั้นล่ะก็ เดี๋ยวตัดหัวซะหรอก”

ซาอิยิ้มๆ”เห็นหน้าหวานๆทำไมโหดจัง”

“อยากโดนกดน้ำรึ?”

หนุ่มผิวซีดสะดุ้งจึงนิ่งเสีย เพราะไม่อยากโดนทำร้ายอีก

...

กาอาระหอบหายใจเพราะนักฆ่าคนนี้ แรงดีจริงๆ สามรุมหนึ่งยังรับมือได้สบายๆพอมองไปที่คุโระก็พอรู้ว่าอีกฝ่ายออมมือไว้  ทำไม

“กาอาระ!”เสียงหวานเรียกสติ ซากุระใช้ดาบของตนปัดดาบของของศัตรูที่จะแทงหนุ่มผมแดงได้ทันการณ์

ชินจูโร่แสยะยิ้ม มือข้างที่ว่างชักดาบอีกเล่มหมายจะแทงร่างบอบบางแต่

‘ปัง!’

...

“โห เสือซ่อนเล็บนี่หว่า...”หนุ่มผมชมพูยิ้ม เพราะฝาแฝดของเค้าชักอาวุธปืนออกมาได้ทันและยิงที่มือข้างนั้นจนแหลกกระจุย และเอียงศีรษะเล็กน้อยให้กาอาระใช้หอกในมือแทงทะลุตาขวาของชินจูโร่เข้าจังๆ

...

ทันทีที่ล้มศัตรูได้

‘ด่านที่4 เคลียร์’

งานนี้ทำเอาซากุระและกาอาระต่างเข่าอ่อนเพราะใช้พลังวิญญาณไปมาก

ทาเคโนมารุรู้สึกสังหรณ์ไม่ดี แต่ไม่ทันไร ร่างของหญิงสาวก็ถูกบางสิ่งดึงไป

“ซากุระ!/ยัยหนู!”

...

งานนี้ถูกซากุระถูกจับแยกมาอีกห้องหนึ่ง

“ยินดีที่ได้พบ ท่านหญิงเบนิ...”

“ให้เกียรติ์มาก มีแต่เสียง ตัวไม่มี”

หญิงสาวนางหนึ่งในชุดกระโปรงฟูฟ่องสีขาว ผมสีทองยาวสยาย และสวมหน้ากาก “พอดีว่าไม่ได้โง่พอที่จะให้ศัตรูอย่างเธอเห็นนะ ท่านหญิง”

“เขินจัง ถูกเรียกว่าท่านหญิงแบบนี้...”ซากุระแย้มยิ้ม ถึงปากจะยิ้มแต่แววตาไม่ได้แสดงออกแบบนั้น

“ชั้นเองก็...ไม่นึกว่าท่านหญิงจะมีอัศวินตามมาปกป้องถึงนี่นะ เชิญนั่งสิ”

หญิงสาวผมชมพูนั่งลงตรงข้ามของผู้เชื้อเชิญ สองสาวนั่งลงพร้อมกัน

สาวผมชมพูนั่งไขว่ห้าง “ลงทุนมากไปมั้ย สำหรับการลองกำลังของชั้น...”

“มากค่ะ แต่บอกไว้เลย ไม่คุ้มทุนเลยสักนิด”

ตาสีมรกตฉายแววประหลาด “แต่ชั้นรู้สึกสนุกมากนะ แต่ร่างกายคงจะขยับไม่ได้สักพักแหละ”

“ว้าวๆเอาตัวเองมาล่อแบบนี้ น่าสนจัง”

“หึๆ ถ้าเหยื่อไม่คุ้มค่าพอที่จะกิน มันจะมีประโยชน์อะไร”

“ความคิดอ่านช่างคล้ายท่านเทนเซเสียจริงๆ”

“คล้าย?”สาวผมชมพูยิ้มหวาน คิ้วเรียวเลิกขึ้นอย่างสงสัย “สิ่งใดที่ต่างกันรึ?”

“ท่านเทนเซ เป็นบุคคลที่ดิฉันเคารพมากๆเลยนะคะ แต่นอกจากครอบครัวแล้ว...เค้าไม่เคยมองคนรอบข้างเป็นคนเหมือนกัน เค้ามองเป็นเพียงตัวหมากที่มีชีวิตเท่านั้น...แต่กับเธอ เธอใส่ใจและใส่ความรู้สึกกับตัวหมากเกินไปรึเปล่า? การที่จะก้าวไปสู่ความยิ่งใหญ่ได้  ต้องหัดกำจัดตัวหมากที่ไร้ประโยชน์ออกไปซะบ้าง ปล่อยไปมันรกโลกเสียเปล่าๆ”

ซากุระหัวเราะลั่นดั่งนางมารร้ายที่เตรียมจะยึดครองโลก“Ah ฮ่าๆๆๆๆ ไม่เคยรับรู้รึ?ว่าความรู้สึกน่ะ คือแรงขับเคลื่อนให้ทุกสิ่งดำเนินต่อไปโดยเฉพาะความรัก นั่นคือสุดยอดแรงขับเคลื่อน ไม่แพ้แรงแค้นเชียว อีกอย่างนะการฆ่าน่ะมันเป็รเรื่องไร้ประโยชน์นะ ถ้าหากตัวนั้นไม่ได้สร้างปัญหากับเรา แต่ถ้าเกิดมันสร้างปัญหาขึ้นมาก็ควรจะใช้ประโยชน์จากมันให้ถึงที่สุดก่อนและค่อยกำจัด ชนิดที่ไม่เหลือซาก...”

สาวผมทองอุทานอย่างปรีดา “ว้าว น่ากลัวๆเสียจริงๆท่านหญิง นี่สินะที่เรียกว่าจะจัดการปีศาจได้ ก็ต้องยอมเป็นปีศาจ แบบนี้แล้ว...ทำไม...ไม่ขึ้นเป็นใหญ่เสียล่ะ...”

หญิงสาวผมชมพูหัวเราะเบาๆพลางส่ายหน้า”เผอิญชั้นเป็นคนรักสงบและขี้เกียจน่ะนะ เพราะสิ่งที่ยากที่สุดคือการรักษาอำนาจเมื่อได้มันมา ตอนนี้...มาเล่นกันเถอะ...”

 “ยินดีอย่างยิ่ง..”

...

กาอาระกำลังมองหาสาวผมชมพูที่หายตัวไป

ทาเคโนมารุกุมขมับหลับตา...ชิ ต้องมาติดอยู่กับแพนด้า ดูท่าศัตรูจะเป็นคนที่มีเชื้อสายของคนทรงด้วยสินะ...

“ดูสบายใจจังนะ”

“แค่กำลังวิเคราะห์เรื่องศัตรู เด็กคนนั้น...คงจะต้องเจออะไรอีกมาก...คนชั่วน่ะ จะกลัวคนที่คุมคนได้ และคนๆนั้นจะถูกกำจัดก่อนใคร”

กาอาระหรี่ตามองอีกฝ่าย”หมายถึงซากุระเหรอ?”

“อืม...ยัยหนูเอ้ย...เหนื่อยแทนเลย”เด็กสาวนนั้นต้องรับมือกับศัตรูอีกมาก

...

‘ปังๆๆ’

ปืนในมือของหญิงสาวผมทองกระหน่ำยิงไปที่สาวผมชมพูที่นั่งตรงกันข้าแต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไว เธอใช้เท้าเตะโต๊ะกาแฟขึ้นมาเป็นโล่กันกระสุนได้ทัน

การต่อสู้ได้เริ่มขึ้น ต่างฝ่ายต่างมีฝีมือและไม่มีใครยอมใคร

...

เหล่านินจาที่กำลังดูสองสาวผมทองและชมพูกำลังต่อสู้ด้วยฝีมือกันนั้น ก็เกิดความรู้สึกอันหลากหลายต่อซากุระ

อิโนะ เธอเริ่มรู้สึกว่าไม่รู้จักเพื่อนซี้คนนี้เลยจริงๆ

ชิกามารุเหงื่อตกเมื่อได้ยินบทสนทนาของสองสาว “นางมารร้ายครบสูตร” ผู้หญิงคนนี้อันตรายเกินไปแล้ว...

นารูโตะตัวสั่นเพราะรู้สึกกลัวเพื่อนสาวเช่นเดียวกับคุรามะที่เจอคนที่เคยปราบพวกตนไว้เป็นขี้ข้า ใช้งานเยี่ยงทาสมาหลายร้อยปี ถึงจะเป็นลูกเสี้ยวแต่ก็น่ากลัวอยู่ดี

ฮินาตะรู้สึกดีที่รีบแต่งกับนารูโตะเสียก่อน เพราะเธอรู้ดีว่าในหัวใจของสามีเธอ ยังคงรัก ฮารุโนะ ซากุระอยู่            ถ้าหากเค้ารู้ว่าซากุระไม่เคยรักซาสึเกะ ไม่แน่นารูโตะอาจจะหันเหใจไปหาซากุระแน่ และเธอก็แน่ใจว่าซากุระไม่สนใจนารูโตะแน่นอน

ซาสึเกะนึกเห็นด้วยกับคำของหญิงสาวในเรื่องอำนาจ หากได้มันมาแล้วก็ยากที่จะรักษามันไว้ ว่ากันตามจริงคนฉลาดและเก่งอย่างเธอจะครอบครองแคว้นเอโดะนั้นน่าจะทำได้ แต่คงเป็นเพราะรักสงบหรือใจที่ภักดีทำให้เธอทุ่มเทแรงกายแรงใจปกป้องแคว้นเอโดะ กำจัดปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นอย่างนี้

ซาอิต้องยอรับว่า อ่านเพื่อนร่วมทีมหญิงไม่ออกเลยจริงๆ จะว่าไปก็เหมือนเหรียญสองด้านที่ทั้งด้านขาวและดำ

เทมาริ นั้นยอมรับว่าซากุระเป็นคนที่เก่งเกินคาด แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่า หญิงสาวคนนี้หัวใจบ้างไหม แต่ก็อย่างว่า เรื่องงานน่ะไม่ควรเอาความรู้สึกมาใส่มากเกินไป

เท็นเท็นมองเพื่อนในทีมอย่างหนักใจที่กำลังชื่นชมสาวผมชมพู ...อะไรจะหลงขนาดนั้น...

ลี...นี่สิ! ยอดหญิงแห่งยุค ร้อนแรงจริงๆ...

...

สาวผมทองรู้ตัวว่าหากสู้กับอีกฝ่ายต่อ เธอนั่นแหละจะเสียเปรียบเพราะอีกฝ่ายเริ่มรู้แล้วว่าเธอคือใคร...ถอยก่อนก็แล้วกัน อีกไม่นานเราจะต้องเผชิญหน้ากันแน่ เบนิ!...

ร่างของสาวผมทองผู้สวมหน้ากากและชุดกระโปรงสีขาวฟูฟ่องค่อยๆสลายไป “แล้วเจอกันใหม่นะ ท่านหญิง...ถ้าออกไปได้”

สาวผมชมพูมองไปที่ร่างของสาวผมทองที่ค่อยๆเลือนหาย “จะรอนะ”

เมื่อร่างของสาวผมทองหายไปร่างของซากุระก็ถูกดูดไปยังที่ๆสองหนุ่มต่างวัยอยู่ หนุ่มผมดำรู้ว่าหญิงสาวจะร่วงลงมาจึงถีบหนุ่มผมแดงไปให้พ้นทาง และรับร่างของคนที่ร่วงลงมาได้ทันการณ์

“ปลอดภัยดีนะ ยัยหนู”

“ค่ะ ตอนนี้เราต้องหาทางออกว่า กาอาระ”เธอไม่เห็นเค้าเลย...

หนุ่มผมแดงที่โดนถีบกระเด็นนั้นมองไปที่หนุ่มผมดำอย่างไม่พอใจ “ชั้นอยู่นี่...”

หญิงสาวลงจากอ้อมแขนของคนที่อุ้มเธอตรงมาหา “บาดเจ็บเหรอ?”

“นิดหน่อย”

หญิงสาวหันขวับไปหาตัวต้นเหตุ ซึ่งดูเหมือนว่าเค้าจะทำท่ายียวนไม่รู้เรื่อง “จริงๆเลย”เธอมองไปยังสภาพรอบๆที่มีแต่สภาพสีดำ “หรือว่า...”

ทาเคโนมารุหลับตาคิดอยู่ครู่”ใช่ นี่คือเกมส์รุ่นทดลอง ด่านสุดท้ายจึงไม่มี...มีทางเดียวที่จะออกไปได้ ยัยหนูเราสองคนต้องช่วยกันแล้วนะ”

“ดีจริงๆที่คุณมาอยู่ด้วยน่ะ”

กาอาระมองคนทั้งคู่อย่างงุนงง “จะทำอะไรน่ะ”

ซากุระยิ้มหวานเอ่ยราวกับว่ามันเป็นเรื่องปกติสำหรับเธอ “ก็ใช้พลังวิญญาณระเบิดมิติที่นี่ออกไปน่ะนะ ไม่ยาก”

“แล้วร่างกายเธอล่ะ จริงอยู่เธอมีเชื้อสายแต่ก็เป็นลูกเสี้ยว”

หญิงสาวยังคงยิ้ม “ก็อาจจะขยับไม่ได้สักพักน่ะนะ ก็ดี ได้นอนเกาก้นอยู่กับบ้าน เตรียมตัวพร้อมเจอกับยัยนั่น...”

“ใคร?”

“ก็...คนที่ทำให้เราต้องาที่นี่ไง ถอยห่างๆหน่อยกาอาระ...”เธอหันไปหาหนุ่มผมดำ “เริ่มเลยนะคะ”

“อืม...”

‘เปรี๊ยะๆๆๆๆๆตู้ม!!!!!!!!!!!!!!!’

กระแสสายฟ้าเกิดขึ้นในมือของสองหนุ่มสาว ขุมพลังวิญญาณที่มากมหาศาลได้ระเบิดทำลายมิติวิญญาณ ทำให้หน้าจอทีวีที่เหล่าเพื่อนนินจากำลังดูอยู่นั้นเกิดแสงสว่างจนต้องปิดตาไว้...

คาโอรุที่ยกแขนขึ้นมาปิดตาคิด...พลังอะไรจะมากขนาดนั้น...

เมื่อเวลาผ่านไป นินจาทุกคนก็หันมามองที่ร่างของกาอาระที่ลุกนั่งได้ตามปกติ

นารูโตะตรงเข้าไปหาเพื่อน”กาอาระ นายโอเคแล้วนะ”

“อื้อ แต่ซากุระล่ะ”กาอาระทำตาโตเมื่อเห็นว่า คนที่ถามถึงกลายเป็นเด็กห้าขวบไป

ซาสึเกะมองดูร่างที่ยังคงนอนนิ่งอยู่...

คาโอรุจัดการกัดนิ้วและวาดอักขระบนหน้ากากจิ้งจอกที่ร่างบางยังคงสวม และว่าคาถาพึมพำเมื่อว่าจบร่างบอบบางในเครื่องแบบทหารก็กลายเป็นเด็กหญิงตัวน้อยผมสีชมพูวัยน่าจะไม่เกิน ห้าขวบในชุดเสื้อกิโมโนสีขาว กางเกงฮากามะสีแดง โดยที่ใบหน้ายังคงสวมหน้ากากจิ้งจอกอยู่

เสียงเล็กๆดังขึ้น “ขอบใจนะคาโอรุ ร่างนี้ค่อยขยับได้หน่อย”ร่างเล็กค่อยๆยันตัวขึ้น ทำให้หน้ากากที่สวมร่วงเผยให้เห็นใบหน้างามกระจุ๋มกระจิ๋มที่เรียบเฉย ตาสีมรกตกลมโตสดใสแต่ฉายแววเฉยชาไม่สมอายุ

“เออ...อยู่ในร่างนี้คงทำงานไหวนะเพื่อน”

“ไหว ถ้าไม่ออกไปคุ้มกันนายเหนือหัวก็คงได้”

กาอาระมองก่อนจะถาม “ทำไมเธอถึงอยู่ในร่างนี้ล่ะ”

คาโอรุเป็นคนอธิบาย “ร่างกายใหญ่กว่าพลังวิญญาณ จึงต้องอยู่ในร่างของเด็กสามขวบไปก่อน สองสามวันก็เป็นเหมือนเดิมแล้ว”

ซาสึเกะทำตาโต ...สามขวบ!ดูโตเร็วชิบ!...แต่น่ารักว่ะ...

คาโอรุเอ่ยอย่างเอือมๆ”ขอร้อง อย่าทำสายตาหื่นกามของหมีที่เห็นโลลิจะได้ไหมวะ”

ซาสึเกะหน้าหงิก กาอาระทำหน้าเจื่อนๆ

คาโอรุหยิบแผ่นเกมส์ทดลองออกมาก่อนจะหักมันด้วยมือข้างเดียว ไอดำโพยพุ่งพร้อมส่งเสียงโหยหวน

“ไปกันเถอะเบนิ ไปทำงานต่อเถอะ ป่านนี้งานคงท่วมหัวแล้วมั้ง ส่วนนาย พ่อหัวแดง หาซื้อแผ่นเกมส์อื่นมาเล่นเองนะ ลองเล่นดูสนุกแน่”

กาอาระไม่ตอบรับอะไร แต่ตอนนี้เค้ารู้สึกว่าร่างกายหมดแรงข้าวต้ม

ชายหนุ่มจำต้องหิ้วร่างของฝาแฝดที่ตอนนี้กลายเป็นยัยจิ๋วไปทำงานต่อ ซึ่งตอนนี้ก็เป็นเวลาบ่ายแล้ว

ซาสึเกะไม่พูดอะไรเดินตามหนุ่มผมชมพูไป

เมื่อลับร่างของซาสึเกะ

ชิกามารุเอ่ยขึ้น”สรุปแล้ว เจ้าซาสึเกะชอบซากุระสินะ”

นารูโตะทำสีหน้าลำบากใจก่อนจะพยักหน้า “แต่ดูเหมือนว่าซากุระจังจะเกลียดซาสึเกะขั้นร้ายเลย”

ทุกคนตอบเป็นเสียงเดียวกันอย่างพร้อมเพรียง “สมน้ำหน้า”

ชิกามารุ “ไม่น่าเชื่อว่าอย่างหมอนั่นจะชอบแม่มด แบบนั้น”

เทมาริ”เดี๋ยวเถอะ ไปว่าเค้าแบบนั้น!”

“นั่นน่ะ ไม่ใช่ก็ใกล้เคียงแล้ว เสียงหัวเราะแบบนั้น ผู้หญิงเป็นแบบนี้ทุกคนรึไงนะ”

ซามุยทำหน้าเจื่อน”ผมว่า การที่ทำให้ศัตรูกลัวย่อมได้เปรียบนะขอรับ ถ้ายังไงผมจะไปสั่งให้คนเตรียมอาหารให้คุณกาอาระนะ คงเพลียน่าดู”

เทมาริ “รบกวนด้วย”แล้วหันมาทางน้องชาย “กาอาระ นับจากนี้ ต้องออกกำลังกายนะ”

“ครับ ผมไม่อยากโดนผู้หญิงอุ้มแล้ว...”นึกถึงทีไรก็อายจริงๆแต่ ยัยตัวดีก็แกร่งเกิน อีกสาเหตหนึ่งคงเป็นเพราะเค้าเอาแต่ทำงานนั่งโต๊ะด้วยแหละ แต่ตอนนี้เค้ารู้สึกเหนื่อย เหนื่อยจริงๆ

...

ซาสึเกะที่เดินตามฝาแฝดผมชมพูก็เห็นว่าถ้าไปโดยไม่มีขนม เด็กอาจจะโกรธจึงตัดสินใจซื้อแอ๊ปเปิ้ลเคลือบน้ำตาลสีแดงสดติดมือไปด้วย

...ท่าทางเราจะเป็นหมีที่จ้องเขมือบโลลิ แต่ถ้าเป็นเธอล่ะก็นะ ซากุระ ชั้นยินดีเป็นหมีล่ะ...

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา