[B2ST/Beast] Dream Story รักนี้ให้นาย...เจ้าชายอสูร
เขียนโดย Kreota
วันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 00.14 น.
แก้ไขเมื่อ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2557 22.21 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
7) [Episode 1 :: Leader Lover] # Chapter 7
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
Episode 1 Leader Lover
:: Chapter 7 ::
“แล้วจะเดินทางไปหอบีสท์กันวันไหนหรอคะพี่มะนาว ^O^” วิลล่าร้องถามเป็นคนแรก ทีเรื่องแบบนี้ล่ะรีบเชียวนะยะ -_-
“ตอนนี้ยัยกี้กำลังไปเตรียมห้องให้อยู่ พรุ่งนี้น่าจะย้ายเข้าไปพักได้เลย”
รวดเร็วได้อีกนะคะพี่นาบี ไม่เคยเล๊ยที่จะบอกเราล่วงหน้า =_=;;
“เอาล่ะ วันนี้ไม่มีซ้อมแล้วกัน พี่จะให้พวกเธอเก็บของ”
“โอเคค่ะ ^O^” วิลล่าที่ดูจะร่าเริงกว่าผองเพื่อนรับคำอย่างสดใส
หลังที่พวกเราประชุมกันเสร็จพวกเราก็ลงมาที่โรงรถพร้อมกับพี่มะนาว พี่มิวกี้บอกว่าจะรีบมารับนี่นา นี่มันก็มืดมากแล้วทำไมช้าจัง
บรืนนน...
ขณะที่พวกเรากำลังยืนรอพี่มิวกี้อยู่ ก็มีเสียงเร่งเครื่องยนต์ดังก้องไปทั่วโรงรถ แต่ยังไม่ทันที่ฉันจะได้หันไปมองที่มาของเสียง ก็มีเสียงผู้ชายคนหนึ่งดังแทรกขึ้นมา
“แกเป็นใครวะ!!!” เสียงทุ้มดังขึ้นอย่างโกรธจัด ทำให้ฉันจำได้ทันทีว่าเป็นเสียงของจุนฮยอง
“เฮ้ย!!” เสียงนี้ดังตามมา พร้อมๆ กับที่รถสปอร์ตขาวติดฟิล์มดำทั้งคันวิ่งผ่านหน้าพวกเราไปด้วยความเร็วสูง
“จุนฮยอง!” พี่มะนาวรีบวิ่งไปทางที่คาดว่าจุนฮยองจะอยู่ แล้วก็พบจุนฮยองล้มลงไปกองอยู่กับพื้น
“เกิดอะไรขึ้นคะ!!” พี่มะนาววิ่งเข้าไปถามพร้อมกับให้พวกเราช่วยเข้าไปพยุงจุนฮยองให้ลุกขึ้น
“ไม่รู้ไอ้บ้าที่ไหน มันจงใจจะขับรถชนผม” จุนฮยองตอบพี่มะนาว ดูท่าทางขบกรามแล้วเหมือนจะโกรธเอามากๆ เลยล่ะ
“นายคิดว่าเป็นพวกเดียวกับที่ทำรถพวกนายจนเละ ตอนที่อยู่ไทยรึเปล่า” ณัชถาม ทำให้ทั้งกลุ่มหันไปมองณัชเป็นตาเดียวที่สามารถโยงเรื่องให้เข้ากันได้
“นั่นสิ” หยาพูดบ้าง
“กลิ่นชักตุๆ แล้วสิ” ที่มะนาวเกาคางทำท่าครุ่นคิด
“เอาเป็นว่าคุณรีบกลับหอพักให้เร็วที่สุดแล้วกันนะคะ เดี๋ยวเรื่องนี้ฉันจะฝากให้นาบีตามสืบให้” พี่มะนาวสรุป
หลังจากส่งจุนฮยองขึ้นรถเรียบร้อย พี่มิวกี้ก็ขับรถตู้มารับพอดี พวกเราเลยแอบขับรถตามไปเงียบๆ โดยไม่ให้จุนฮยองรู้ตัวเพราะจากที่ดูหมอนั่นคงไม่ยอมให้เราทำแบบนี้แน่ๆ หยิ่งซะขนาดนั้น =_=
“เอ๊ะนั่น!! รถคันเดียวกันกับที่ขับเฉี่ยวจุนฮยองรึเปล่าคะ” วิลล่าพูดพร้อกับชี้ไปที่รถสปอร์ตสีขาวติดฟิล์มดำทั้งคันจอดอยู่ในซอยไม่ไกลจากหอพักบีสท์มากนัก
“ใช่จริงๆ ด้วย O_O!” ฉันร้อง
ทันทีที่พี่มิวกี้ทำท่าจะเลี้ยวเข้าไปในซอย รถสปอร์ตคันนั้นก็รีบเร่งเครื่องหนีไปเลย แต่อย่าดูถูกฝีมือการขับรถของพี่มิวกี้เชียวนะคะ คนนี้นี่เซียนเลยล่ะ พี่เขาชอบแอบพี่นาบีไปแข่งซิ่งรถเอาเงินเดิมพันมาเลี้ยงเราบ่อยๆ
“เฮ้ย!”
เอี๊ยดดด!!!
พี่มิวกี้อุทานออกมาดังๆ พร้อมกับเหยียบเบรกจนมิดเพราะรถคันข้างหน้าที่เรากำลังบึ่งตามมา อยู่ๆ ก็เบรกกระทันหัน
“เบรกได้เลวมาก!” พี่มิวกี้สบถ ก่อนจะบีบแตรเสียงดังๆ ใส่คันข้างหน้า ดีนะที่แถวนี้ไม่ใช่ถนนใหญ่แล้วก็ไม่ค่อยมีบ้านคน ไม่งั้นเกิดจลาจลกันแน่ๆ งานนี้ =_=
บรืนนน...
รถสปอร์ตคันนั้นกลับรถด้วยพื้นที่ของถนนอันน้อยนิดอย่างชำนาญ และตอนนี้รถคันนั้นก็หันมาประจัญหน้ากับเราพร้อมกับเร่งเครื่องถี่ๆ เหมือนกำลังจะขับเข้ามาชนเราให้ได้!
“ยะ...ยัยกี้! มันจะชนเราแล้ว จะทำไงดี!!” พี่มะนาวที่นั่งข้างๆ คนขับร้องถามด้วยอาการตื่นๆ
“ถอยดิ!!!” พี่มิวกี้ไม่พูดเปล่า แต่รีบใส่เกียร์ถอยหลังทันทีซึ่งพร้อมๆ กับรถคันข้างหน้าที่ใส่เกียร์เดินหน้ากะจะเข้ามาชนเราเต็มที่
“กรี๊ดดด...” เสียงกรี๊ดลากยาวๆ ดังลั่นรถขณะที่รถของพวกเรากำลังถอยหลังด้วยความเร็วใกล้เคียงกับตอนที่ขับตามรถสปอร์ตคันนั้นมา อ๊ากส์!! ไม่นะฉันยังไม่อยากตายยย...>_<!
แล้วก็เหมือนมีระฆังช่วยชีวิต เพราะอยู่ๆ รถตำรวจสายตรวจก็ผ่านมาทางนี้พอดี ทำให้รถสปอร์ตขาวคันนั้นรีบขับแยกไปเลนตัวเองแล้วสวนออกไปทันที
“เฮ้อ...” เสียงนี้ดังออกมาแทบจะพร้อมๆ กันทั้งคันรถ
“เกือบตายแล้วไหมล่ะยัยกี้!” พี่มะนาวตีแขนพี่มิวกี้แรงๆ
“โหย! มาตีฉันทำไมล่ะ ฉันอุตส่าห์ช่วยชีวิตแกไว้นะยะ ไม่งั้นโดนชนหน้ายับไปแล้ว” พี่มิวกี้หันมาว่าพี่มะนาวหลังจากที่จอดรถชิดขอบถนนแล้ว
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
เสียงเคาะที่กระจกสามครั้งทำให้พวกเราหันไปมอง คุณตำรวจนายหนึ่งกำลังทำท่าวันทยหัตถ์แล้วพูดผ่านกระจกเข้ามาว่า ‘เปิดกระจกหน่อยครับ’ พี่มิวกี้เลยเลื่อนกระจกลง
“มีอะไรให้ช่วยไหมครับ?” คุณตำรวจถาม
“เอ่อ...ไม่มีค่ะ ขอบคุณมากนะคะ ^^;”
“แล้วเมื่อกี๊มีอะไรกันรึเปล่าครับ ทำไมขับรถถอยหลังแบบนั้น มันอันตรายนะครับ”
“อ๋อ...คือฉันเผลอวางจดหมายสำคัญไว้บนหลังคารถน่ะค่ะ พอเห็นมันปลิวลงข้างทางเลยคิดได้ ก็เลยรีบถอยกลับไปเอา ^_^;”
“ถึงถนนเส้นนี้จะไม่ค่อยมีรถแต่ก็ต้องระวังหน่อยนะครับ”
“ค่ะคุณตำรวจ”
“งั้นก็ขับรถดีนะครับ” คุณตำรวจพูดแล้วทำท่าวันทยหัตถ์ก่อนจะเดินกลับไปที่รถ พี่มิวกี้เลื่อนกระจกกลับที่เดิมแล้วถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
“ดีนะคะที่มีตำรวจผ่านมาทางนี้พอดี” ฉันพูด ถึงมันจะดูเหมาะเจาะเกินไปก็เถอะ =_=;
“แต่ทางเปลี่ยวๆ แบบนี้ตำรวจเขาคงไม่มาขับเล่นเฉยๆ หรอก ต้องมีใครแจ้งตำรวจแน่ๆ” ณัชพูด
“ชาวบ้านแถวนี้มั้ง” หยาแสดงความเห็น
“จะใครแจ้งก็ไม่สำคัญหรอก ที่สำคัญตอนนี้คือ ห้ามให้นาบีรู้ว่าพี่พาพวกเธอมาเสี่ยงอันตรายแบบนี้ ถ้านาบีรู้หัวพี่กุดแน่ เข้าใจใช่ไหม T.T” พี่มะนาวพูดแล้วทำท่าทางขนลุกเมื่อนึกถึงพี่นาบี
“แล้วเรื่องจุนฮยองล่ะคะ ไม่บอกไม่ได้นะ” วิลล่าพูด
“อันนั้นน่ะบอกอยู่แล้ว พี่แค่ให้ตัดช็อตที่เราบู๊ออกเท่านั้นเอง” พี่มะนาวเสริมเพื่อให้เข้าใจมากขึ้น
หลังจากอบรมกันเป็นอย่างดีแล้ว พวกเราก็กลับไปที่พักโดยมีพี่นาบียืนกอดอกรออยู่ตามคาด =_=
“มีอะไรจะสารภาพไหม?” พี่นาบีพูด ทำเอาพี่มะนาวกับพี่มิวกี้ถึงกับเข่าทรุด
“ฉันรู้เรื่องหมดแล้วว่าพวกเธอพาเด็กๆ ไปทำอะไรมา” พี่นาบียังคงพุ่งเป้าไปที่พี่มะนาวและพี่มิกี้
“ฉัน...” พี่มะนาวยังไม่ทันได้พูดอะไร พี่นาบีก็ชิงพูดก่อน
“จุนฮยองบอกว่าเห็นรถพวกเธอขับตามเขาไป แล้วอยู่ดีๆ ก็เลี้ยวแยกไปอีกทางเหมือนตามใครไป เขาเป็นห่วงเลยโทรมาบอกฉัน ถ้าเกิดฉันไม่โทรแจ้งตำรวจให้ลองไปสอดส่องทางนั้นดูพวกเธอจะเป็นยังไงห๊ะ...”
หลังจากนั้นพี่นาบีก็สวดถวายพระพรพวกเราซะนานสองนาน กว่าจะได้เก็บข้าวของเตรียมย้ายบ้านก็ปาเข้าไป 5 ทุ่มกว่า =_=
“ว้าว...เหมือนห้องของบีสท์เลย” วิลล่าร้องแล้ววางกระเป๋าเดินทางของตัวเองลงบนพื้นแล้ววิ่งไปดูห้องนั้นห้องนี้อย่างตื่นเต้น
“รู้ได้ไงว่าเหมือนห้องบีสท์ =_=” ณัชถามขณะยืนมองวิลล่าวิ่งไปวิ่งมาอยู่รอบตัว
“ก็เคยดูในรายการทีวีอ่ะค่ะพี่ณัช ห้องแบบนี้เลย...แล้วห้องของบีสท์อยู่ไหนหรอคะพี่มิวกี้ ^^” ประโยคสุดท้ายวิลล่าหันไปถามพี่มิวกี้ที่เป็นคนพาพวกเรามา
“อ๋อ ออกไปเนี่ยก็ประตูห้องทางซ้ายมืออ่ะจ้ะ”
“กรี๊ดๆๆๆ ใกล้แค่เอื้อม >///<” วิลล่าวิ่งพล่านๆ ทั่วห้องอย่างตื่นเต้น แต่แปลกแฮะ พอรู้ว่าบีสท์พักอยู่ใกล้ๆ แล้ว ใจมันตุ้มๆ ต่อมๆ ยังไงไม่รู้ -///-
ภายในห้องเป็นห้องสีน้ำตาลอ่อนๆ กับพื้นขัดมันสีเดียวกันดูสะอาดตาน่าอยู่มาก เข้าห้องมาก็จะเจอห้องนั่งเล่นโล่งๆ เป็นห้องแรกด้านข้างของห้องนั่งเล่นจะเป็นห้องครัว แต่ถ้าเลี้ยวไปขวามือจะเป็นห้องนอนซึ่งห้องนอนเป็นห้องนอนรวมค่ะเป็นเตียง 2 ชั้น 3 เตียงวางต่อกัน พวกเราเลยจับฉลากเลือกเตียงกัน ฉันได้เตียงชั้นบนฝั่งซ้ายมือ
“มีอะไรให้ช่วยไหมครับ” ดูจุนเดินเข้ามาในห้องที่พวกเรากำลังวุ่นวายกับการจัดห้องนั่งเล่นอยู่
“ดีเหมือนกันค่ะ” พี่มิวกี้พูดพลางใช้หลังมือปาดเหงื่อ
“มา เดี๋ยวยกให้” ดูจุนเดินมาหยุดอยู่ข้างๆ ฉันที่กำลังช่วยวิลล่าแกะกล่องทีสีจอแบนใหม่เอี่ยมที่พี่นาบีซื้อให้
“ขอบคุณค่ะ ^O^” วิลล่าตอบ
หลังจากนั้นเราก็จัดห้องกันอย่างสนุกสนาน แต่ฉันไม่ค่อยได้ทำอะไรเลยไม่สนุกเท่าไหร่เพราะอีตาดูจุนนั่นไม่รู้เกิดคึกอะไรขึ้นมาถึงได้ทำอะไรต่อมิอะไรแทนฉันซะหมด จนฉันแทบจะนั่งชี้นิ้วสั่งเขาได้เลย -.-//
พอจัดห้องพวกเราเสร็จ พี่มะนาวก็เข้ามาสมทบโดยมีอาหารมื้อใหญ่มาทำกินกัน โดยมีบีสท์เป็นลูกมือ แต่ให้ตายเถอะ! ผู้ชายพวกนี้ทำกับข้าวกันไม่เป็นเลยสักคนแม้กระทั่งหั่นผัก -_-;
“หั่นแบบนี้ไงคะพี่ซึง” วิลล่าพูดพร้อมกับหั่นผักเป็นตัวอย่างให้ฮยอนซึงดูช้าๆ เป็นรอบที่ 4 ฉันเหนื่อยแทนเธอจังวิลล่า =_=
“เหม่ออะไรของเธอ น้ำจะแห้งหมดแล้วน่ะ” ดูจุนยื่นหน้าเข้ามาจนจมูกของฉันแทบจะชนกับแก้มของเขา ฉันเลยรีบหันมามองหม้อต้มยำกุ้งที่กำลังเดือดอยู่ข้างหน้า
“เฮ้ย! แล้วทำไมไม่บอกให้เร็วกว่านี้ล่ะ” ฉันร้องแล้วรีบลนลานปิดแก๊ส
“เอาไปวางไว้ตรงนั้นแล้วกัน” ฉันพูดพร้อมกับพยักพเยิดไปที่เคาน์เตอร์ห้องครัวที่อยู่ข้างๆ เตา
“คร้าบ” ดูจุนรับคำแล้วทำตามอย่างว่าง่าย
“โอ๊ย!!” ดูจุนร้องและรีบปล่อยหูหม้อต้มยำกุ้งลงเคาน์เตอร์จนน้ำกระฉ่อนออกนิดหน่อย แต่เขาไม่ได้ร้องดังมากเพราะคนอื่นๆ คุยกันดังกว่า จะได้ยินก็แค่ฉันนี่แหละ -_-!
“แล้วทำไมไม่ใช้ถุงมือจับล่ะ -*-” ฉันเดินเข้าไปหาดูจุน ก็เห็นนิ้วมือของเขาเป็นรอยแดงตามความยาวของหูหม้อ ฉันเลยรีบปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้เขาก่อนโดยการเปิดน้ำผ่านแผลเพื่อลดอาการแสบร้อนและพุพอง เอ่อ...‘บิวตี้’ คะ (แฟนคลับ Beast) ฉันไม่ได้ตั้งใจจะใช้ดูจุนนะ เขาอาสาจะช่วยฉันทุกอย่างเอง อย่ามากระทืบฉันเลยนะ =_=;;
“โห ทำไมเธอปฐมพยาบาลเก่งจัง เรียนหมออีกคนรึไง” ดูจุนพูดขณะมองมือตัวเองที่เริ่มออกสีแดงๆ มากขึ้น
“เปล่า ฉันแค่เห็นเฝ้าฝันทำบ่อยๆ เวลาวิลล่าโดนเตารีดร้อนๆ” ฉันพูดขณะพลิกมือดูจุนไปมาในน้ำก๊อก พูดไปก็คิดถึงเฝ้าฝัน...นี่ก็ผ่านมาได้เดือนกว่าแล้วสินะ
“คิดถึงเพื่อนหรอ...” ดูจุนถามเบาๆ ฉันเลยหลุดออกจากภวังค์ แต่ยังไม่ทันที่ฉันจะได้พูดอะไร วิลล่าก็เดินเข้ามา
“อุ๊ย! รีดเดอร์ จับมือดูจุนทำไมน่ะ!!” วิลล่าพูดด้วยเสียงอันดัง ทั้งห้องเลยเงียบกริบและหันมามองฉันกับดูจุนที่กำลังอยู่ในท่าจับมือกันแช่น้ำก๊อก -///-
“เอ่อ...ดูจุนจับหม้อต้มยำกุ้ง ก็เลยโดนลวกน่ะ...(_ _//)” ฉันพูดพร้อมๆ กับเขยิบออกมายืนหน้าเตาแก๊สที่ประจำ เฮ้อ...มัวแต่นึกถึงยัยเฝ้าฝันจนลืมไปเลยว่าจับมือนายดูจุนอยู่ -///-
“เธอเขินหรอ!! O_O!” ดูจุนเดินเข้ามาก้มมองหน้าฉันใกล้ๆ
“ขงเขินอะไรของนายห๊ะ!! ถอยออกไปหน่อยได้ไหม อยู่ใกล้เตามันร้อน -///-!” ฉันพูด แต่เป็นฝ่ายถอยออกจากเขาเอง อร๋อยยย...น่าอายชะมัด หน้าฉันแดงไหมเนี่ย -//////-?
“อ๋อ...ที่หน้าแดงเพราะว่าอยู่หน้าเตาหรอกหรอ...ว้าาา นึกว่าเขินเราซะอีก” ประโยคสุดท้ายดูจุนบ่นเบาๆ กับตัวเอง (แต่ฉันได้ยิน =///=) ก่อนจะเดินไปหั่นผักช่วยฮยอนซึง
ทำไมแค่นี้ฉันต้องเขินด้วยเนี่ย...>_<///
พอเลี้ยงอาหารไทยบีสท์จนอิ่มหนำ เราก็ช่วยกันเก็บกวาดความเสียหาย ซึ่งฉันได้มาทิ้งถุงดำ 2 ถุงใหญ่ๆ เพียงคนเดียวเพราะฉันเป่ายิ้งฉุบแพ้ สุดยอดไปเลยใช่ไหม -_-;
“มา เดี๋ยวฉันช่วย” ดูจุนเดินมาหยิบถุงขยะออกจากมือฉันทั้ง 2 ถุงไปถือเอาไว้
“เฮ้ยไม่ได้หรอก ฉันแพ้ฉันก็ต้องทำสิ -///- ” ฉันพูดขณะพยายามจะแย่งถุงดำคืนมา
“ช่างเถอะน่า ออกมาจากห้องแล้ว ไม่มีใครเห็นหรอก”
“ถึงจะไม่มีใครเห็นแต่ฉันก็ละอายใจอยู่ดี เอามาเถอะ”
“ไม่ ^^”
“นายนี่สงสัยจะชอบลำบากนะเนี่ย ชนะตั้งแต่รอบแรกแล้วยังมาช่วยฉันอีก”
“ที่จริงก็ไม่ได้ชอบทำอะไรแบบนี้หรอก แต่เป็นเธอฉันเลยมา ^^”
“ถามจริงเหอะ =_=” อยู่ๆ ฉันก็เกิดความรู้สึกอยากจะเคลียร์ขึ้นมาว่าทำไมเขาถึงชอบทำตัวติดฉันตลอดเวลาขนาดนี้ แต่อีกใจหนึ่งกลับต่อต้านขึ้นมาเบาๆ ว่า...‘เฮ้ย! ไม่นะ ห้ามถามนะยัยเภ! >_<!’ โดยไม่มีสาเหตุ ก็แหม...อยากถามให้มันรู้ไปเลยนี่ ดีกว่าจะมานั่งเขินอะไรไร้สาระอยู่คนเดียว >.<!
“อะไรหรอ?” ดูจุนเลิกคิ้วถามอย่างตั้งใจ
“ทำไมนายต้องทำอะไรแบบนี้ด้วย”
“แบบนี้...แบบไหนอ่ะ ^_^” ดูจุนทำหน้ากวนใส่ -_-
“ฉันรู้ว่านายรู้ว่าฉันหมายความว่าอะไร”
“โอเคๆ...คือฉัน แค่รู้สึกเหมือนชอบเธอ...แค่นี้พอไหม ^_^” ดูจุนพูดแล้วเดินนำหน้าไป เอ่อ...ฉันก็พอจะรู้ว่าเขามันเพลย์บอย แล้วก็เตรียมตัวเตรียมใจไว้แล้วกับคำหยอดหวานๆ อะไรเทือกนี้ แต่พอมาฟังเขาพูดเข้าจริงๆ แล้วมัน...หวั่นไหวอ่ะ -///-
“อ้าว” ดูจุนส่งเสียงออกมาเบาๆ เมื่อเดินมาตรงช่องทิ้งขยะของตึกแล้วพบว่ามันปิดปรับปรุงอยู่
“มาปิดอะไรตอนนี้วะ” ดูจุนสบถกับตัวเองเบาๆ ดูเหมือนเขาจะไม่รู้สึกอะไรกับสิ่งที่เขาพูดไปเมื่อกี๊เลยนะ (ทั้งที่ฉันยังใจเต้นแรงไม่หยุดเลย -_-//)
“สงสัยต้องยกลงไปข้างล่างแล้วล่ะ” ฉันเสนอโดยปรับน้ำเสียงให้ฟังดูปกติที่สุด เพราะดูจุนไม่ได้หันมามองฉัน
“ก็คงต้องเป็นงั้นแหละ” ดูจุนพูดแล้วเดินหิ้วถุงขยะเดินลงตึกไป
และแล้วก็เดินมาถึงที่ทิ้งขยะในที่สุดพร้อมกับบรรยากาศที่แสนจะอึดอัดสุดๆ เพราะฉันไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นไปมองหรือพูดคุยกับเขาได้อีก
“เฮ้อ...เสร็จละ” ดูจุนพูดเมื่อทิ้งถุงดำลงถังเรียบร้อย “ขึ้นไปกันเถอะ ตรงนี้มันหนาว” ดูจุนพูดแล้วเดินเข้าไปในตึกโดยที่ไม่หันมามองฉัน ทำตัวแปลกๆ มาตั้งแต่เมื่อกี๊แล้วนะนายน่ะ =_=? อย่าบอกนะว่าเริ่มเขินขึ้นมาบ้างแล้ว >///< (จะดีใจทำเพื่อ -///-?)
“นั่น!...จุนใช่ไหม?” อยู่ๆ ก็มีเสียงแหลมๆ เล็กๆ ของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น มันเป็นเสียงที่สั่นเทาและอ่อนแรงจนฉันต้องรีบหันไปมองว่าคนๆ นั้นเป็นใคร และไปทำอะไรมาเสียงถึงได้สั่นขนาดนั้น
“จีอึน...” ดูจุนพูดขึ้นเมื่อหันไปแล้วพบผู้หญิงผมยาวน่ารักกำลังยืนกอดอกตัวสั่นอยู่มุมตึก แววตาของเขาทั้ง 2 คน มันลึกซึ้งจนทำให้ฉันรู้สึกว่า...ไม่ควรมายืนอยู่ตรงนี้
“เอ่อ...นายรู้จักหรอ งั้นฉันเข้าไปก่อนแล้วกันนะ” ฉันพูดแล้วจะก้าวเข้าไปในตึก แต่ดูจุนกลับฉุดข้อมือฉันไว้
“ไม่ต้องไปหรอก...เธอมาทำไม?” ประโยคสุดท้ายดูจุนเอ่ยถามผู้หญิงคนนั้นเสียงเรียบ ซึ่งเป็นเสียงที่ฉันไม่เคยได้ยินมาก่อนตั้งแต่รู้จักกันมา ผู้หญิงคนนี้เป็นใครกันถึงได้มีอิทธิพลกับดูจุนมากขนาดนี้
“ทำไมจุนเรียกฉันห่างเหินแบบนั้นล่ะ” ผู้หญิงคนนั้นตัวสั่นมากกว่าเดิมด้วยก้อนสะอื้นที่เริ่มก่อตัว
“อย่ามาเรียกฉันว่าจุน” ดูจุนน้ำเสียงที่ฟังดูเยือกเย็นกว่าเดิมจนฉันไม่คิดว่าจะใช่เสียงของเขาจริงๆ เขามองผู้หญิงคนนั้นด้วยแววตาเฉยชาและไร้ความรู้สึก
“จุน...” ผู้หญิงคนนั้นร้องไห้ออกมาท่ามกลางบรรยากาศที่หนาวเหน็บ
“ฉันว่าพาเขาเข้าไปในตึกก่อนดีกว่า เข้าไปแค่ชั้นล่างคงไม่ผิดกฎหอหรอกใช่ไหม” ฉันหันไปหาดูจุน แป๊บนึงก่อนจะพาจีอึนที่กำลังร้องไห้เดินเข้าไปในตัวตึกโดยที่ไม่รอให้ดูจุนอนุญาต
“อย่าบอกนะว่าพี่เภพาเขาเข้ามา” ดงอุนกระซิบถามฉันเบาๆ ดงอุนอายุเท่ากับวิลล่าก็จริง แต่พอได้ยินดงอุนเรียกว่า ‘พี่’ แล้วฉันรู้สึกเขินแปลกๆ อ่ะ -///-;
“ใช่ ทำไมหรอ?” ฉันกระซิบกลับโดยที่สายตายังคงมองบรรยากาศตึงเครียดตรงหน้า เพราะตอนนี้ทั้ง Beast boy และ Beast girl กำลังล้อมวงนั่งจ้องผู้หญิงที่ชื่อจีอึนไม่วางตา ภายในห้องรับรองของตึกชั้นล่าง
“พี่รู้รึเปล่าว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร” ดงอุนถาม ฉันจะไปรู้เร๊อะก็เพิ่งจะมาเกาหลีครั้งแรกในชีวิตเนี่ย จะบอกว่ายัยจีอึนนี่เป็นสิ่งมหัสจรรย์ของเกาหลีรึไง หรือว่าเป็นนักโทษอุกฉกรรจ์ที่ทางการกำลังตามตัวอยู่ดีล่ะ =_=;;
“เฮ้อ...ช่างเถอะน่าดงอุน ไม่ต้องไปเล่าให้มากความ” จุนฮยองปรามดงอุนขณะที่ดงอุนกำลังจะอ้าปากเล่า ทำให้ดงอุนรีบงับปากลงทันที
“เธอมาที่นี่ทำไม?” จุนฮยองเริ่มเปิดฉากถาม
“ฉัน...ฉันไม่มีที่ไป ฉันอยากจะขอความช่วยเหลือ”
“เธอจะเล่นไม้ไหนอีกล่ะ” ดูจุนถามขึ้น
“จุน...” ผู้หญิงคนนั้นมองดูจุนแล้วน้ำตาก็เริ่มคลอๆ ขึ้นมาอีกครั้ง
“เอาล่ะๆ อย่าเพิ่งร้อง เล่ามาว่าเธอต้องการอะไร” จุนฮยองรีบห้ามเพราะถ้ายัยจีอึนร้องไห้อีกครั้ง ตี 4 ของวันนี้ก็คงยังไม่ได้ฟังหรอกว่าชีต้องการความช่วยเหลืออะไร
“ครั้งก่อนฉันรูว่าฉันรบกวนพวกคุณมามากแล้ว แต่ครั้งนี้ฉันเดือดร้อนจริงๆ”
“เข้าเรื่องเลยดีกว่าไหม” ฮยอนซึงถาม น้ำเสียงเรียบเฉยไม่ต่างจากดูจุน พวกเขาพูดถึงเรื่องอะไรกัน ไม่เห็นรู้เรื่องเลย เพราะนายคนเดียวจุนฮยอง ฉันเกือบจะรู้เรื่องอยู่แล้วเชียว ทำไมต้องห้ามดงอุนไว้ก็ไม่รู้ -*-
“ฉันจะขออาศัยอยู่ที่นี่สักพักจะได้...”
“ไม่ได้!” ดูจุนพูดแทรกขึ้นมาทั้งๆ ที่จีอึนยังพูดไม่จบ
“จุน...ฉันไม่ได้ติดต่อกับพวกนั้นแล้วจริงๆ นะ ตอนนี้ฉันกำลังหาที่หลบเพราะฉันอยากจะเลิก แต่พวกนั้นก็ยังตามรังควานฉันไม่เลิก ฉันไม่รู้ว่าจะทำยังไงแล้ว”
“งั้นเธอบอกพวกเราได้ไหมว่าเบื้องหลังของเรื่องราวตอนนั้นเป็นใคร” กีกวังถามเพื่อลองใจ ยัยจีอึนมีท่าทีอึกอักอย่างเห็นได้ชัด
“ในเมื่อเธอบอกแค่นี้ไม่ได้ จะให้พวกเราเชื่อเธอได้ยังไง” ดูจุนพูด
“ฉันรู้ว่าทำยังไงพวกคุณก็คงไม่ให้อภัยฉัน แต่...ที่ฉันพูดมาเป็นความจริงนะ เชื่อฉันเถอะ แล้วที่ฉันไม่ยอมบอกเพราะเรื่องมันจบไปแล้ว ฉันไม่อยากให้พวกคุณต้องไปยุ่งกับพวกร้ายกาจพรรค์นั้น”
“แต่ตอนนี้มันยังไม่จบ...เธอรู้รึเปล่าว่าเธอเข้ามาได้จังหวะเวลาเดียวกับที่พวกนั้นลงมือเลยนะ จะไม่ให้พวกเราคิดได้ยังไง” จุนฮยองพูด
เอาเข้าไป ยิ่งฟังยิ่งไม่รู้เรื่อง ช่วยขยายความให้ฉันฟังหน่อยได้ไหม...พลีสสส =_=
“ถ้าฉันเป็นคนของพวกนั้นจริงๆ คุณคิดหรอว่าพวกนั้นจะส่งฉันมาทั้งๆ ที่รู้อยู่แก่ใจว่าพวกคุณต้องสงสัยฉัน และถึงส่งฉันเข้ามาก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดีเพราะพวกคุณต้องจับตามองฉันแน่...พวกนั้นไม่ยอมทำอะไรที่ไร้ประโยชน์หรอก...”
ทั้งห้องเงียบกริบไม่มีใครพูดอะไรต่อ ฉันและเมมเบอร์คนอื่นๆ มองหน้ากันงงๆ เพราะไม่รู้ว่าที่พวกเขาพูดกันมันเรื่องอะไร แต่ดูเหมือนบีสท์คงผ่านอะไรมามากเพราะผู้หญิงคนนี้ -_-!
“ได้โปรดเถอะ ฉัน...ฉันขอพักที่นี่ได้ไหม?” อยู่ๆ ยัยจีอึนก็เดินเข้ามาคุกเข่าลงข้างหน้าฉันพร้อมกับเอื้อมมือมาจับมือฉันไว้ทั้งสองข้าง เอาแล้วไง! งานเข้าฉันอีกแล้ว เข้าคนอื่นบ้างก็ได้นะดูเหมือนจะว่างกว่าฉันเยอะเลย =_=;
“เอ่อ...” ฉันอึกอักขณะที่ทุกคนมองมาที่ฉันอย่างลุ้นๆ แต่ดูจุนมองหน้าแป๊บนึงแล้วลุกออกจากห้องไป...เอาไงละฉัน พวกเธอก็ช่วยฉันหน่อยเซ่!! นั่งจ้องฉันอยู่นั่นแหละ -*-!
*********************************
อัพเดตค่ะ >O<
*********************************
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ