[B2ST/Beast] Dream Story รักนี้ให้นาย...เจ้าชายอสูร
เขียนโดย Kreota
วันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 00.14 น.
แก้ไขเมื่อ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2557 22.21 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
6) [Episode 1 :: Leader Lover] # Chapter 6
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
Episode 1 Leader Lover
:: Chapter 6 ::
“แล้วรองเท้าเบอร์อะไรล่ะ” ฉันตัดสินใจถามเพราะเพื่อนทั้งหมดลงความเห็นว่าช่วยเถอะ ทำให้อึนพารีบเงยหน้าขึ้นมาอย่างดีใจ
“เบอร์ 35 ค่ะ”
“เบอร์เล็กจัง...ในพวกเราก็มีเฝ้าฝันคนเดียวใช่ไหมที่ใส่รองเท้าเบอร์ 35” ฉันหันไปหาเฝ้าฝัน เฝ้าฝันมีสีหน้าเหมือนว่าตกใจนิดหน่อยที่ตัวเองต้องใส่รองเท้าคู่นั้น แต่ก็ปรับสีหน้าเป็นปกติอย่างรวดเร็ว
“ก็ได้ ฉันจะใส่ให้แม่เธอภูมิใจ” เฝ้าฝันรับรองเท้ามาเปลี่ยน แต่อยู่ๆ เฝ้าฝันก็ขมวดคิ้วเมื่อถอดรองเท้าออก
“ทำไมเท้าฉันมีเลือดด้วยล่ะ” เฝ้าฝันพูด พวกเราเลยรีบเข้าไปดู
“จริงๆ ด้วย” ฉันพูดหลังจากจับเท้าของเฝ้าฝันขึ้นมาดู มันมีรอยเหมือนมีดใบเล็กๆ บาดเข้าที่เท้าแต่ยังดีที่ไม่ลึกมาก บาดแค่พอแสบๆ อ่ะ -_-
“ไปโดนอะไรมาตอนไหนเนี่ย” ณัชกอดอกถามเพราะการมีแผลที่เท้าวันที่ออร์ดิชั่นเนี่ย เรื่องใหญ่เลยนะ -_-!
“ไม่รู้เหมือนกัน สงสัยเศษแก้วเมื่อวานมั้ง”
“แล้วก็ไม่เอาออกให้มันหมดดีๆ” ณัชเอ็ด เอ๊ะ! จะว่าไปรองเท้าฉันก็แปลกๆ นะ หรือว่าฉันเอาเศษแก้วออกไม่หมดเหมือนกัน ซวยล่ะ Y_Y;
“เอ่อ!...” อึนพาส่งเสียงขึ้นมาอีกครั้ง ทำให้เราละความสนใจจากแผลของเฝ้าฝัน
“ถ้า...เอ่อ...ถ้าเป็นไปได้ อึนพาไม่อยากให้พี่ๆ เต้นแรงๆ เลยค่ะ”
“ให้เต้นออมๆ ไว้ แล้วจะมาออร์ดิชั่นทำไมล่ะจ้ะเด็กน้อย” ดอกหลิวถามอย่างงงๆ
“คือ...”
“เอาล่ะเด็กๆ ถึงคิวเราแล้ว” พี่มะนาวเดินเข้ามาบอกพวกเรา
“ไปล่ะ” ดอกหลิวลูบศีรษะอึนพาอย่างเอ็นดูแล้วเดินตามพวกเรามา พี่มะนาวและพี่มิวกี้เดินมาส่งพวกเราที่ประตูห้องออร์ดิชั่น
“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น...พวกเธอต้องทำได้” พี่มะนาวยิ้มให้ พวกเรายิ้มตอบพี่มะนาวก่อนจะเดินเข้าไป
ด้านในมีคุณอันโซ คุณอาจอง คุณเจ๊โบอา และอีกประมาณ 2 คนที่ฉันไม่รู้จัก และ...
“พี่นาบี!” วิลล่าร้องทัก แต่ก็ต้องชะงักไปเพราะพี่นาบีนั่งอยู่ที่โต๊ะกรรมการการออร์ดิชั่นและป้ายตำแหน่งที่ตั้งอยู่หน้าโต๊ะพี่นาบีคือ ‘รองกรรมการบริหาร’
“เป็นถึงรองผู้บริหารเชียวหรอเนี่ย...” เฝ้าฝันพึมพำออกมาเบาๆ พี่นาบีเป็นรองผู้บริหารค่ายนี้หรอ! มิน่าถึงรู้เรื่องเกี่ยวกับเด็กฝึกหัดของที่นี่ดีถึงขนาดรู้นิสัยใจคอ และสามารถสอนพวกเราให้เก่งขนาดนี้ได้...แต่ทำไมต้องปิดบังพวกเราด้วยล่ะ!!
“จะเริ่มได้รึยัง?” ยัยเจ๊โบอาขมวดคิ้วมองพวกเราด้วยท่าทางหงุดหงิด แต่พี่นาบีไม่พูดอะไรสักคำ
“พี่เขาเป็นกรรมการ คงจะคุยกับใครเป็นกรณีพิเศษไม่ได้หรอก” ณัชกระซิบบอกฉัน ดูเธอปรับตัวได้เร็วจริงๆ นะ ฉันยังอึ้งอยู่เลยที่พี่นาบีเป็นรองกรรมการบริหาร =_=;
พวกเราแนะนำตัวพอหอมปากหอมคอ เราก็เริ่มต้นโดยการร้องเพลงประสานเสียงกัน ต่อมาก็เต้น แต่เต้นได้จบฮุคที่หนึ่งฉันก็รู้สึกเจ็บแปล๊บที่ฝ่าเท้าทำให้จนล้มลงอย่างไม่ได้ตั้งใจ เพื่อนๆ คนอื่นหยุดเต้นทันที
“เภ!! แกเป็นไรน่ะ” หยารีบวิ่งเข้ามาดูฉัน ส่วนณัชเดินกระเผลกๆ เข้ามาดูฉันช้าๆ นี่มันเกิดอะไรขึ้น!!
“ฉัน...ไม่รู้” ฉันพูด นี่ฉันทำพลาดหรอ? ฉันพลาดหรอ!!!
“ไม่เป็นไรเภ ไม่เป็นไร” ณัชเดินเข้ามาหาฉัน แล้วจับหน้าฉันเงยขึ้นไปมองหน้าตัวเอง สายตาของฉันพร่ามัวไปด้วยม่านน้ำตาที่ไร้ที่มา แค่คิดว่าฉันทำพัง...มันก็ไหลออกมาแล้ว
“หึ!! ถ้าพลาดแล้วต่อไม่ได้ ก็ออกไปซะ!!” ยัยเจ๊โบอาพูดน้ำเสียงเย้ยหยันพวกเราเต็มที่
“ไม่ค่ะ!...พวกเธอออร์ดิชั่นต่อเถอะ ฉัน...ฉันจะออกไปเอง” ฉันพูด แล้วพยายามดันตัวลุกขึ้นยืน แต่มันยังเจ็บอยู่เลยลุกไม่ไหว T^T
“ไม่นะลีดเดอร์! ถ้าจะไม่ได้ไปต่อ พวกเราก็ต้องไม่ได้ไปต่อด้วยกันทั้งหมดสิ” วิลล่าพูดพร้อมกับขืนตัวฉันไว้
“ไม่!! พวกเธอจะยึดติดกับลีดเดอร์ที่ไม่เอาไหนอย่างฉันเนี่ยนะ ฉันไม่ยอมหรอก!!” ฉันพูดแล้วปัดมือของวิลล่าออก
“ให้โอกาสพวกเราอีกครั้งเถอะค่ะ” เสียงของเฝ้าฝันดังขึ้นแทรกระหว่างการสนทนาที่ชุลมุน ทำให้พวกเราหันไปมองต้นเสียง
“ฝัน!...” ฉันพูด...เฝ้าฝันกำลังนั่งคุกเข่าอยู่หน้าโต๊ะกรรมการ คนอย่างเฝ้าฝันเนี่ยนะยอมก้มหัวให้คนอื่นง่ายๆ ไม่มีทางหรอก!
“นี่เธอทำอะไรเนี่ย รู้รึเปล่าว่าวันนี้มีถ่ายทอดสดออกทีวีด้วย ไม่อายชาวบ้านบ้างรึไงห๊ะ” ยัยเจ๊โบอายิ้มมุมปากอย่างเย้ยหยัน
“วันนี้เป็นวันที่สำคัญมากสำหรับชีวิตของฉัน ถ้าฉันไม่ผ่านออร์ดิชั่นวันนี้ฉันก็จะไม่ได้อยู่ที่นี่และจะไม่ได้กลับมาที่นี่อีก ฉันมาไกลเกินกว่าจะหันหลังกลับแล้ว ได้โปรด...ช่วยให้โอกาสพวกเราเถอะค่ะ!” เฝ้าฝันโค้งศีรษะลงให้กรรมการ พี่นาบีไม่พูดอะไรแค่มองหน้าเฝ้าฝันเงียบๆ
“เธอใช่ไหมที่เป็นนักศึกษาแพทย์ แล้วนาบีบอกว่า...” คุณอาจองพูดไว้แค่นั้นก็มีสีหน้าสลดลง
อะไรกัน!...เฝ้าฝันเป็นอะไร ทำไมทุกคนต้องมองเฝ้าฝันแบบนั้นด้วย! แล้วที่บอกว่าจะไม่ได้อยู่ที่นี่อีก มันหมายความว่ายังไง!!
“เธอ...หมายความว่าไง?” ณัชเดินกระเผลกๆ พี่หาเฝ้าฝันหน้าโต๊ะกรรมการ
“ฉันจะต้องฝึกงานแล้ว...ถ้าเกิดฉันไม่ผ่านการออร์ดิชั่นวันนี้ ฉันจะต้องกลับไปเรียนแพทย์ต่อ...นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมพ่อแม่ถึงปล่อยฉันมาเกาหลีกับพวกเธอได้” เฝ้าฝันพูดออกมาทั้งน้ำตา
ฉันนี่มันแย่จริงๆ มัวแต่คิดว่า...มันจะออกมาดีไหมนะ จะออร์ดิชั่นผ่านไหม จะเต้นท่าไหนดีกรรมการจะได้ชอบ จะร้องยังไงให้เพลงมันฟังดูเพราะขึ้น จะหาจุดเด่นอะไรให้กับวงของเราดี...แต่ฉันลืมนึกถึงคนที่อยู่ข้างๆ ไปซะสนิทว่าเขากังวลอะไรอยู่รึเปล่าถึงได้ทำตัวเปลี่ยนไป เขารู้สึกยังไงที่ต้องทนเก็บเรื่องราวต่างๆ ไว้เพียงคนเดียว...
“ตกลง!” ผู้หญิงคนหนึ่งที่ฉันไม่รู้จัก ซึ่งเป็นคนๆ เดียวกับที่อยู่ในห้องประชุมคราวก่อน พูดด้วยเสียงที่หนักแน่น
“แต่ฉันไม่!...” ยัยเจ๊โบอาจะขัด แต่ผู้หญิงคนนั้นก็พูดแทรกขึ้นมา
“ยังกับว่าเธอไม่เคยมีประสบการณ์แบบนี้ยังงั้นแหละ!! ฉันว่าเธอน่าจะรู้ดีกว่าใครว่ามันกดดันขนาดไหนที่ต้องตัดสินใจเลือกทำสิ่งที่สำคัญๆ เพียงอย่างเดียว!...เอาเป็นว่าฉันให้พวกเธอออร์ดิชั่นอีกครั้ง แต่ถ้าคราวนี้พลาด ฉันจะเป็นคนไล่พวกเธอออกไปด้วยตัวของฉันเอง” ประโยคสุดท้าย ผู้หญิงคนนั้นหันมาพูดกับพวกเรา
“ขอบคุณค่ะ...ขอบคุณมากๆ ค่ะ” พวกเราพูดออกไปแทบจะพร้อมกัน พวกเขาบอกว่าให้พวกเราเต้นเลยเพราะร้องเพลงผ่านแล้ว เราเลยเริ่มต้นเต้นตั้งแต่แรก แต่เท้าของฉันมันเจ็บยิ่งกว่าเดิมอีกอ่ะ
กึก!
คราวนี้ไม่ใช่แค่ฉัน แต่เป็นณัชที่หยุดเต้นกลางคันจนกรรมการต้องยกมือขึ้นเพื่อเป็นสัญญาณให้ปิดเพลง
“เป็นอะไรอีกแล้วล่ะ!” ยัยเจ๊โบอากอดอกถามอย่างไม่สบอารมณ์
“ณัช!” ดอกหลิวรีบวิ่งไปรับณัชที่กำลังล้มลงพื้นเหมือนคนกำลังเป็นลม ณัชเนี่ยนะเป็นลม!!
“เกิดอะไรขึ้น” พี่นาบีวิ่งเข้ามาหาและพูดกับพวกเราเป็นประโยคแรก
“ณัชเป็นลมค่ะ” ดอกหลิวเงยหน้าขึ้นบอก
“รีบปลดกระดุม ปลดสายชุดชั้นในแล้วก็ถอดรองเท้าณัชออก!!” เฝ้าฝันบอกวิธีปฐมพยาบาลกับทุกคน ทุกคนรีบทำตามและ..
“ณัช!!” ฉันเรียกชื่อณัชเพราะมันเป็นสิ่งเดียวที่ฉันพูดออกในเวลานี้ เท้าของณัชโชกไปด้วยเลือดสดๆ จนร้องเท้าด้านในชื้น
“เรียกรถพยาบาลเร็ว!” คุณอันโซรีบบอกทีมงานที่อยู่ในห้องออร์ดิชั่น
“พวกเธอถอดรองเท้าออกมาทุกคนเลยนะ!” พี่นาบีร้องแข่งกับเสียงทีมงานที่เริ่มแตกตื่น ทุกคนรีบทำตามที่พี่นาบีบอก แต่ฉันกับเฝ้าฝันที่กำลังกดแผลบริเวณฝ่าเท้าให้ณัชยังไม่ได้ถอดเหมือนคนอื่นๆ
“บ้าเอ้ย!!” เสียงสบถดังๆ ของใครบางคนดังเข้ามาในห้องออร์ดิชั่น ตามมาด้วยจุนฮยองและบีสท์คนอื่นๆ
“มาไม่ทันแล้ว!” กีกวังร้องขึ้น
“เกิดอะไรขึ้น!” พี่นาบีถามด้วยเสียงอันทรงพลัง แหม...ท่านรองออกโรงเลยทีนี้ -_-
“พวกเราไปเจอเด็กฝึกหัดคนหนึ่งกำลังโดนทำร้ายเลยเข้าไปช่วย เด็กคนนั้นบอกว่า Beast Girl กำลังตกอยู่ในอันตรายครับ”
“แล้วทำไมเด็กนั่นมันไม่บอกพวกเราเองล่ะ!” ฉันร้องออกไปอย่างควบคุมสติไม่อยู่ ทำไมไม่บอกพวกเราตั้งแต่ยังไม่เข้ามา ทำไมต้องปล่อยให้เพื่อนของฉันเป็นแบบนี้ซะก่อนถึงจะบอก!!
“ก็พวกที่ทำ ยืนคุมเด็กคนนั้นตลอดน่ะสิ เลยไม่มีโอกาสพูด” ดูจุนพูดเสียงอ่อนลง
“เด็กคนนั้นบอกอะไรอีกไหม” พี่นาบีถามอย่างเร่งเร้า
“พวกนั้นเอาอะไรสักอย่างใส่ลงไปในรองเท้าได้สามคู่ครับแต่ไม่รู้ว่าคู่ไหนบ้าง” ฮยอนซึงบอก
“มีใครเป็นอะไรอีกไหม!” พี่นาบีรีบถามพวกเรา แต่ทุกคนส่ายหน้าน้อยๆ แทนคำตอบ
“มีใบมีดติดเทปใสอยู่ในรองเท้าเฝ้าฝันด้วย” พี่มะนาวเดินเข้ามาพร้อมรองเท้าที่เฝ้าฝันถอดฝากไว้
“งั้นก็เหลือหนึ่งคน” พี่นาบีพูด แล้วก้มลงมองรองเท้าฉัน
“ถอดออกมาเภ” พี่นาบีเดินเข้ามาจับรองเท้าฉัน
“โอ๊ย!!” ฉันร้องทันทีที่พี่นาบีแตะโดนเท้า อย่าบอกนะว่า ฉันก็โดนด้วย T^T
พอช่วยกันถอดออกก็เป็นอย่างที่ฮยอนซึงพูด เฝ้าฝันเลยต้องทำหน้าที่ปฐมพยาบาลให้ณัชและฉันไปพร้อมๆ กัน
“เมื่อไหร่รถพยาบาลจะมาล่ะคะ T^T” วิลล่าพูดไปร้องไห้ไป
“ทำไมเธอหน้าซีดๆ ไหวรึเปล่า?” ดูจุนเข้ามานั่งข้างๆ ฉัน
“ไหว” ฉันพูดทั้งๆ ที่ปากเริ่มจะแห้งแล้ว คอแห้งจัง...
“ช้ากว่านี้อีกหน่อยไม่ดีแน่! แผลลึกเกินไป!!!” เฝ้าฝันพูดอย่างเครียดๆ
“ไม่ต้องเครียดหรอกฝัน พวกฉันไม่ตายง่ายๆ หรอก ^^” ฉันยิ้มให้เฝ้าฝัน แต่ยัยนั่นกลับร้องไห้ออกมา
“ไม่ต้องมาทำพูดดีเลยนะ แค่ยิ้มยังไม่มีแรงเลยแล้วจะบอกว่าตัวเองไหวได้ยังไง!! ฉันเรียนหมอ ฉันรู้ว่าตอนนี้เธอไหวไหม...ฮือๆๆ...”
“พี่ฝัน T^T” วิลล่าเข้าไปกอดเฝ้าฝันไว้แล้วร้องไห้
ไม่นะ อย่าร้องไห้แบบนั้นสิ!...ฉันอยากจะพูดประโยคนี้ออกมา แต่มันกลับติดอยู่ที่คอ ฉันไม่สามารถเปล่งเสียงออกไปได้ แม้กระทั่งตาของฉันมันยังหนักจนแทบจะลืมไม่ขึ้นแล้ว...
“เภ!!...เภตรา!!” เฝ้าฝันใช้มือที่เปื้อนเลือดตบหน้าฉันเพื่อเรียกสติ แต่ไม่ไหวแล้วจริงๆ ฝัน...ฉันลืมตาไม่ไหวแล้ว...พรึ่บ!
“โห...ติดใบมีดไว้ซะขนาดนี้ คงกลัวเรารู้ตัวสินะ!!” เสียงของหยาเลยเข้ามาในโสตประสาทการได้ยิน ทำไมเสียงดังกันจังนะ...
“อย่าให้วิลล่าเจอตัวนะ วิลล่าจะเด็ดหัวมันออกมาทำปลาร้าซะให้เข็ด!”
“อะไรคือปลาร้าอ่ะ?”
“ก็ อืม...มันคล้ายๆ กับกิมจิอ่ะค่ะ...แต่มันต่างกันตรงที่กิมจิใช้ผักมาหมัก แต่ปลาร้าใช้ปลามาหมักค่ะ”
“อ๋อ”
ฉันค่อยๆ เปิดเปลือกตาขึ้นก็เห็นวิลล่ากำลังเล่าเรื่องปลาร้ากับกิมจิให้ดงอุนและดูจุนฟัง
“เสียงดังกันจังเลยนะ” ฉันพูดด้วยเสียงที่แหบพล่าจนฉันเองยังตกใจ =_=
“ลีดเดอร์!!...ทุกคนลีดเดอร์ฟื้นแล้วค่ะ >O<” ทันทีที่วิลล่าทัก ทุกคนก็รีบกรูกันเข้ามาดูอาการฉันทันที
“เป็นไงบ้าง” หยาถามฉัน
“ก็ดี ^^” ฉันยิ้มให้ทุกคนที่เข้ามาเกาะเตียงฉัน
“แล้วคนอื่นล่ะ” ฉันพูดหลังจากกวาดตามองไปรอบห้องแล้วเห็นแค่หยา วิลล่า ดูจุนและดงอุนเท่านั้น
“ไปเฝ้าณัชอ่ะ ยังไม่ฟื้นเลย” หยาบอก
“แล้วณัชอยู่ห้องไหนอ่ะ ฉันอยากไปเยี่ยม” ฉันทำท่าจะลุกจากเตียงทำให้ดูจุนที่ยืนข้างเตียงรีบจับไหล่ฉันไว้
“ยังไปไหนไม่ได้ หมอบอกว่าเธออ่อนเพลียมากต้องพักผ่อนเยอะๆ”
“แต่!...”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะลีดเดอร์ พี่ฝันยืนยันแล้วว่าพี่ณัชไม่เป็นไร ^^” วิลล่าบอกเสริม
“เอ่อ...ขอโทษค่ะ” อยู่ๆ ก็มีแขกเข้ามาเพิ่ม ทำให้พวกเราหันไปมองทางต้นเสียง
“อึนพา...” ฉันเรียกชื่อขณะที่เธอเดินเข้ามาใกล้ๆ พร้อมกับกล้องวีดิโอที่เธอชอบถือเดินไปเดินมาบ่อยๆ
“อึนพาขอโทษนะคะที่ไม่บอกพี่ตั้งแต่อยู่หน้าห้องออร์ดิชั่น”
“...ไม่เป็นไร!” ฉันตอบเสียงห้วนๆ ยังไงฉันก็ยังโกรธอยู่ดีว่าทำไมไม่ยอมบอก -_-*
“...อึนพารู้ค่ะ ว่าใครเป็นคนทำ” อึนพาพูดออกมาพร้อมกับยื่นกล้องวีดิโอมาให้ฉัน ฉันรับมันมา ก็เห็นมีวีดิโออันหนึ่งที่เตรียมพร้อมเปิดอยู่ ฉันเงยหน้าขึ้นมองหยากับวิลล่าอย่างลังเลก่อนจะกด Play
ภาพส่ายไปมาเล็กน้อยขณะที่กำลังแอบจับภาพผู้หญิง 3 คนกำลังทำลับๆ ล่อๆ บริเวณล็อคเกอร์ของพวกฉัน
[จะใส่ให้ใครดีล่ะ ฉันเอามาสามอันเอง] เสียงจากกล้องวีดิโอดังออกมา
[ใส่ให้ยัยลีดเดอร์นั่นก่อน ถ้าลีดเดอร์ดับเราก็มีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว] ยัยซอนบีพูดด้วยน้ำเสียงร้ายกาจ นี่ขนาดเห็นแค่ข้างหลังฉันยังจำได้แม่นเลยนะเนี่ยว่าเป็นยัยซอนบี -*-!!
[ต่อไปก็ใส่ให้ยัยที่เป็นเสียงหลัก แล้วก็คนที่ร้องท่อนแร็พ] ยัยซอนบีสั่งการขณะที่หันมองซ้ายขวาตลอดเวลาที่เพื่อนกำลังจัดการกับร้องเท้าของพวกฉัน
[เอาล่ะ เรียบร้อย] เพื่อนคนหนึ่งของซอนบีที่ทำหน้าที่ติดอาวุธ (ใบมีด =_=) ลุกขึ้นยืนหลังจากที่เสร็จสิ้นภารกิจ
[กึก!...อุ้ย!] เสียงของหล่นตามมาด้วยเสียงอุทานของคนที่ถือกล้องทำให้คนที่ถูกถ่ายทั้ง 3 คนรีบหันควับมามองต้นเสียงทันที
[เอ้ย!! นังอึนพา!!...] ซอนบีชี้ตรงมาที่มือกล้องแล้วย่างสามขุมเข้ามา แต่ยังไม่ทันได้เห็นอะไรต่อจากนั้น ภาพก็ตัดหายไปทันที
“นังซอนบี!!!” หยาร้องออกมาสุดเสียง จนดูจุนและดงอุนผงะออกนิดหน่อยหลังจากที่ก้มลงมาดูวีดิโอกับพวกเรา
“แบบนี้ต้องฟ้องพี่นาบีนะคะ!” วิลล่าเสนอ
“เรื่องนั้น ฉันบอกคุณนาบีหมดแล้วค่ะ ตอนนี้ที่ค่ายกำลังเรียกสอบสวนซอนบีและพวกอยู่ ต้องขอโทษด้วยนะคะที่มีส่วนทำให้พี่ๆ ต้องเจ็บ” อึนพาโค้งลงแทบจะ 90º
“แต่เธอก็ช่วยเพื่อนพี่ได้คนหนึ่งนะจ้ะ ^^” ฉันยิ้มให้อึนพา จะโกรธต่อไปก็น่าสงสารเด็กน้อยตาดำๆ อ่ะ T.T
“แล้วเฝ้าฝันไปไหน เฝ้าณัชหรอ?” ฉันถามเมื่อคิดได้ เพราะฉันอยากจะคุยกับเฝ้าฝันสักหน่อย
“ฝัน...อยู่รอคุยกับพี่นาบีอ่ะ ตอนนี้น่าจะอยู่ที่ค่ายนะ” หยาบอก แล้วตอนนี้เองที่พี่มะนาวโทรมาหา และบอกว่ากำลังไปส่งเฝ้าฝันที่สนามบิน!!!
ฉันกับเพื่อนคนอื่นๆ ยกเว้นณัชที่ยังไม่ฟื้น ดอกหลิวที่อยู่เฝ้าไข้ และบีสท์ที่ออกสู่ที่สาธาณะไม่ได้ รีบบึ่งรถมาที่สนามบินทันทีที่รู้ข่าว ส่วนฉันทุลักทุเลหน่อยเพราะว่าต้องนั่งรถเข็นมา
“ฉันบอกแกแล้วว่าอย่ามาๆ ก็ไม่เชื่อ” หยาบ่นขณะผลักรถเข็นให้ฉัน
“วิลสงสารดูจุนอ่ะ อุตส่าห์อยากมาด้วยแต่ก็โดยลีดเดอร์ต่อว่าซะงั้น T^T” วิลล่าหน้างอพร้อมกับเหลือบมามองฉันอย่างไม่ถูกใจ จะให้ดูจุนมาด้วยได้ยังไงล่ะ ขืนเขามาด้วยมีหวังไม่ได้คุยอะไรกับเฝ้าฝันพอดี (มัวแต่กันแฟนคลับให้ =_=)
“พี่ฝัน!!” วิลล่ารีบวิ่งไปหาเฝ้าฝันที่นั่งอยู่กับพี่มะนาวและพี่มิวกี้
“พวกเธอ...” เฝ้าฝันมองพวกเราอย่างตกใจ พอมองมาที่ฉันยิ่งตกใจเข้าไปใหญ่ คงไม่นึกว่าฉันจะแบกสังขารมาได้ใช่ไหมล่ะฝัน =_=
“แกมาทำไมเภ!” เฝ้าฝันเดินเขามาหาฉันพร้อสีหน้าตำหนิ
“มารั้งแกไว้ไง” ฉันพูดออกไปตามตรง “นี่แกจะทิ้งพวกฉันงั้นหรอ...สู้กันมาตั้งเท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ พอมาเจอเรื่องแค่นี้ก็คิดจะถอดใจแล้วรึไง!”
“ฉันไม่ได้ทิ้งพวกแกสักหน่อย...แต่ฉันต้องกลับไปทำเพื่อพ่อกับแม่...”
“แล้วแกจะมีความสุขหรอฝัน” หยาเดินเข้ามาพูดบ้าง
“มันเป็นความจริงที่ฉันต้องรับไว้ ฉันอยู่กับความฝันมานานมากพอแล้วล่ะ มันถึงเวลาที่ฉันต้องตื่นสักที”
“แต่อีกหน่อยมันก็จะไม่ได้เป็นแค่ความฝันแล้ว...แกไม่เห็นหรอว่าสิ่งที่เราทุ่มเทมาตลอดมันกำลังจะเป็นความจริง!” ฉันพูด น้ำตาเริ่มรื้อออกมาขณะที่มองหน้าเฝ้าฝัน
“เฮ้อ...ถึงพูดยังไงมันก็ไม่มีประโยชน์แล้วล่ะ ฉันไม่มีทางเลือกแล้ว...ไม่มีแล้วจริงๆ”
“งั้นก็กลับไปเถอะ ฉันจะไม่ให้ใครห้ามเธออีกแล้วเฝ้าฝัน” อยู่ๆ เสียงของพี่นาบีก็ดังขึ้นมา
“แต่ฉันอยากให้เธอรู้ไว้ ว่าเธอยังคงเป็นสมาชิกของวง Beast Girl Band เสมอ” พี่นาบีตบไหล่ของเฝ้าฝันเบาๆ
“ก่อนกลับ ฝันขอถามอะไรหน่อยได้ไหมคะ”
“ได้” พี่นาบีรับปากโดยที่ไม่ต้องคิดอะไรมากเหมือนเมื่อก่อน
“ทำไมพี่ต้องปิดบังฐานะที่แท้จริงของตัวเองกับพวกเราด้วยล่ะคะ”
“อืม...จะบอกยังไงดีล่ะ งั้นเอาคำที่มะนาวเคยพูดแล้วกัน ว่าพี่ไม่อยากให้พวกเธอเป็นเหมือนเด็กฝึกหัดพวกนั้น”
“เอ่อ...พี่นาบีคะ ทำไมพี่ถึงรู้ว่าพี่มะนาวเคยพูดกับพวกเราแบบนี้ วันนั้นพี่นาบีไม่ได้อยู่ด้วยไม่ใช่หรอ -?-“ หยาถาม ใช่ๆ ฉันก็กำลังสงสัย
“กล้องวงจรปิดจ้ะ ^^”
“อ๋อ ชัดเจนค่ะพี่” หยาพยักหน้า
“ทำไมถึงบอกว่าไม่อยากให้พวกเราเป็นเหมือนเด็กฝึกหัดพวกนั้นล่ะคะ” เฝ้าฝันยังคงถามต่อ
“ก็อย่างที่พวกเธอเห็น ขนาดเด็กซอนบีคนนั้นเป็นแค่คนโปรดของโบอาก็เบ่งจนคับค่ายไปหมด แล้ว ถ้าพวกเธอรู้ว่าตัวเองเป็นเด็กท่านรองของค่าย CLUB Entertainment พวกเธอจะไม่ยิ่งเบ่งกว่าอีกหรอ...เพราะฉะนั้นพี่เลยตัดปัญหาตั้งแต่ต้นลมจะดีกว่า ^^”
“แล้วซอนบีล่ะคะ ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง” ฉันถามพี่นาบี
“ก็ถูกปลดออกจากการเป็นเด็กฝึกหัด แล้วก็ตัดสิทธิ์ในการออร์ดิชั่น 3 ปี ไม่ว่าจะกับค่ายไหนก็ตาม”
“โห...โทษหนัก” วิลล่าพึมพำออกมาเบาๆ
หลังจากที่เฝ้าฝันจากไปเราก็เริ่มซ้อมกันปกติ งานชิ้นแรกของพวกเราคือเต้นเป็นแบ็คอัพให้บีสท์ในซิงเกิ้ลตัวใหม่ ซึ่งเราให้อึนพาเข้ามาร่วมวงกับเราไปพลางๆ เพราะว่าเราเหลือกันอยู่แค่ 5 คน
“...ด้วยเหตุผลที่เราต้องทำงานร่วมกับบีสท์บ่อยๆ พี่นาบีเลยมีคำสั่งให้พวกเธอย้ายเข้าไปอยู่หอพักตึกเดียวกับบีสท์” พี่มะนาวพูดสรุปงาน
“เฮ้ย!!! =_=;” << ฉัน
“กรี๊ดดด >O<” << วิลล่า
“-*-!!” << ณัช
“^_^” << ดอกหลิว (ยิ้มเบาๆ)
“-_-*” << หยา (เพิ่งทะเลาะกับแฟน)
และอึนพาที่ดูจะไม่แสดงออกอะไรมาก เพียงแค่ยิ้มกับท่าทางดี๊ด๊าของวิลล่านิดหน่อยเท่านั้น
********************************
อัพเดตอีกตอนค่ะ ฝากติดตามด้วยนะคะ ^O^
********************************
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ