[B2ST/Beast] Dream Story รักนี้ให้นาย...เจ้าชายอสูร

8.9

เขียนโดย Kreota

วันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 00.14 น.

  87 ตอน
  86 วิจารณ์
  97.47K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2557 22.21 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

8) [Episode 1 :: Leader Lover] # Chapter 8

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

Episode 1 Leader Lover

:: Chapter 8 ::

 

          เพราะความกดดันฉันเลยตอบตกลงไปโดยไม่มีทางเลือก ยอมให้ยัยจีอึนตัวอันตราย (คิดเอาว่ายัยนี่ต้องอันตรายแน่ =_=) มานอนห้องใหม่กับพวกเราด้วย แต่เพราะเป็นเตียงเดี่ยวที่พอดีกับตัวคนหนึ่งคนนอนได้ เลยต้องปูที่นอนใหม่ให้จีอึนนอนอยู่ด้านข้างของเตียง 2 ชั้นของพวกเราแทน

            “อย่ามามองฉันแบบนั้นเลยนะ ทำไมตอนนั้นพวกเธอไม่ช่วยฉันล่ะ ฉันไม่มีทางเลือกนี่”  ฉันพูดหลังจากที่เพื่อนคนอื่นๆ มองหน้าฉันเซ็งๆ ที่ต้องมีเพื่อนมาร่วมแชร์ห้องนอนตั้งแต่วันแรกที่ย้ายเข้ามา

            “ก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่ -_-“  ณัชพูด ปากแกน่ะไม่ได้ว่าอะไร แต่หน้าแกอ่ะมันฟ้องออกมาหมดเลย =_=;;

            “มีผู้หญิงคนนั้นแล้ว ไม่อยากกลับห้องเลยอ่ะ รู้สึกว่าไม่ปลอดภัยยังไงไม่รู้ T.T”  วิลล่าพูด แต่ฉันคิดว่าที่วิลล่าไม่อยากกลับห้องเพราะตอนนี้เรามาสุมหัวระดมความคิดกันที่ห้องพักของบีสท์มากกว่า

            “แล้วนี่ดูจุนไปไหนหรอ เขาไม่พอใจมากเลยใช่ไหม”  ฉันหันไปถามบีสท์ที่นั่งเงียบตั้งแต่ขึ้นมา

            “เขาบอกว่าจะขึ้นไปสูดอากาศที่ดาดฟ้าน่ะ”  โยซอบบอก เอ่อ...แสดงว่าโกรธสุดๆ เลยน่ะสินะ ถึงขั้นต้องขึ้นไปทำใจบนดาดฟ้าคนเดียว -_-;;

            “สรุปเรื่องมันเป็นมายังไงหรอ ฉันงง”  ดอกหลิวถาม ทำให้ฉันเกิดอาการหูผึ่งขึ้นมาทันที

            “เฮ้อ...ถึงขั้นนี้แล้วคงไม่เล่าไม่ได้แล้วล่ะ”  กีกวังหันไปพูดกับจุนฮยอง จุนฮยองถอยหายใจออกมายาวๆ แล้วเริ่มต้นเล่าด้วยตัวเอง

            “ตอนที่เราเพิ่งจะเดบิวต์ใหม่ๆ มีเรื่องประหลาดๆ เกิดขึ้น นั่นก็คือเรื่องแบบที่พวกเธอได้เห็น แต่มันไม่ได้แรงขนาดตอนนี้ จะออกเป็นแนวปล่อยข่าวโคมลอยอะไรแบบนั้นมากกว่า”

            “พวกนายโดนแกล้งหรอ?”  หยาถาม

            “จะเรียกแบบนั้นก็ใช่”

            “แล้วรู้ตัวคนทำรึเปล่าคะ”  วิลล่าถาม

            “ยัง แต่เราเกือบจะเข้าถึงตัวคนทำได้แล้วเพราะจีอึนทำงานพลาด”  จุนฮยองพูด แววตาฉายความแค้นออกมาเมื่อพูดถึงชื่อของจีอึน

            “จีอึน...เป็นพวกเดียวกับพวกนั้นหรอ?”  ฉันถาม พร้อมกับลอบกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ถ้าเกิดคำตอบของจุนฮยองบอกว่า ‘ใช่’ ก็แสดงว่าฉันชักศึกเข้าบ้านชัดๆ =_=;;

            “ใช่”  จุนฮยองเงยหน้าขึ้นมามองฉัน ก่อนจะเล่าต่อ  “ทีแรก เขาทำตัวเหมือนแฟนคลับเรา ยืนรออยู่หน้าหอเราทุกวันเพื่อจะเอาอาหารที่ตัวเองทำมาให้ แล้ววันหนึ่งเราก็เห็นเขาเป็นลมอยู่หน้าหอ พวกเราเลยช่วย เขาบอกว่าเขากำลังเดือดร้อนขออาศัยอยู่ที่นี่สักพัก และเพราะอะไรไม่รู้ที่ทำให้พวกเรายอมรับเธอเข้ามาในหอพักทั้งๆ ที่คุณมินนาก็คัดค้านหัวชนฝาว่าไม่ได้”  จุนฮยองพ่นเสียงหัวเราะออกมาอย่างเจ็บใจ และเล่าต่อ

            “เขาทำดีกับพวกเรามาก มากจน...คิดว่าเธอคือเพื่อนเรา แต่รู้สึกว่าดูจุนจะอาการหนักกว่าเพื่อน เพราะยอมรับกับพวกเราเต็มปากเลยว่าชอบผู้หญิงคนนี้”  จบประโยค จุนฮยองตั้งใจเงยหน้าขึ้นมามองฉัน จีอึนกับดูจุน...เป็นอย่างที่ฉันรู้สึกจริงๆ สินะ ความรู้สึกแปลกๆ ที่ฉันรู้สึกในครั้งแรกที่เจอ...มันคือความจริง!

            “แล้ววันหนึ่งทุกอย่างก็ปรากฏชัดเจน เมื่อสุขภาพของพวกเราเริ่มทรุดลงเรื่อยๆ จนกระทั่งโยซอบแทบจะร้องเพลงไม่ได้เพราะเสียงมีปัญหา...มันเป็นเพราะอาหารที่เธอทำให้เรากินทุกวัน มันผสมยาพิษ”

            “ยาพิษ!!!”  พวกเราทั้ง 6 คนร้องออกมาพร้อมกัน

            โห...ถึงขนาดวางยาเนี่ย ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เลยนะ!!

            “หลังจากที่เรารู้เรื่อง เราก็ทำเป็นไม่รู้เพราะต้องการสืบหาตัวการ แต่พอเข้าใกล้จนเกือบจะรู้ตัว จีอึนกับตัวการใหญ่ของเรื่องก็ไหวตัวทันแล้วก็หายเข้ากริบเมฆไป”

            “แล้วลีดเดอร์ดูจุน ทำยังไงคะ”  วิลล่าถาม พร้อมกับเหลือบตามองมาที่ฉัน

            “ดูจุนพยายามติดต่อกับจีอึนทุกวิถีทางจนกระทั่งเจอตัว เขาพยายามเกลี้ยกล่อมให้จีอึนถอนตัวแล้วก็ยอมสารภาพ แต่จีอึนก็ไม่ยอมแถมพูดจาทำร้ายจิตใจดูจุนจนเขาเป็นอย่างทุกวันนี้...ที่จริงดูจุนเป็นคนรักใครรักจริงแล้วก็อบอุ่น ใจดีมาก ไม่ใช่เพลย์บอยเหมือนอย่างที่คนอื่นเห็นหรอก”  จุนฮยองไม่พูดเปล่า แต่มองมาที่ฉันด้วยอีกคนเหมือนพยายามจะสื่อความนัยอะไรมาให้ฉัน เอาเข้าไปทำไมต้องเจาะจงมาที่ฉันด้วยเล่า ฉันกับนายดูจุนไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย -///-

            “คำพูดของยัยจีอึนคงทำร้ายจิตใจดูจุนน่าดูเลยนะ”  หยาพูด ตอนนี้ฉันพูดอะไรไม่ออกนอกจากนั่งมองพวกเขาพูดกัน...ทำไมฉันหูอื้อไปหมดเลยนะ แล้วความรู้สึกผิดนี่มันหมายความว่ายังไงกัน

            “เอ่อ...ฉันกลับห้องก่อนแล้วกันนะ”  ฉันพูดแล้วแยกตัวออกมาจากห้องของบีสท์ ระหว่างทางที่จะเดินกลับห้องสายตาของฉันก็เหลือบไปเห็นบันไดขึ้นดาดฟ้าที่อยู่ไม่ไกล ฉันมองมันอย่างชั่งใจก่อนจะตัดสินใจเดินขึ้นไปดูบนนั้นสักหน่อย เผื่อว่านายดูจุนคิดจะโดดตึกประชดอดีตที่แสนขมขื่นขึ้นมาจะได้ช่วยทัน =_=

            แอ๊ด...

            ฉันผลักประตูเหล็กหนักๆ ของดาดฟ้าให้เปิดออกช้าๆ ก่อนจะโผล่ส่วนหัวออกไปมองด้านนอก ดูจุนยืนอยู่ตรงนั้นไง!!

            ฉันรีบดึงหัวตัวเองกลับมาด้วยอาการหายใจหอบ ทำไมฉันต้องตื่นเต้นขนาดนี้ด้วยเนี่ย =_=//

            แอ๊ด...

            เสียงเปิดประตูดาดฟ้าดังขึ้น ฉันสะดุ้งจนแทบจะกลิ้งลงจากบันได แต่ดูจุนก็คว้าข้อมือฉันเอาไว้ได้ทันพอดี

            “ทำอะไรของเธอเนี่ย เกือบตกบันไดแล้วไหมล่ะ”  ดูจุนขมวดคิ้วมองฉันพลางดึงฉันให้กลับมายืนด้วยตัวเอง

            “ก็ฉันตกใจนี่ อยู่ดีๆ นายก็เปิดประตูออกมาเงียบๆ”

            “ก็ใครจะไปรู้ล่ะว่าเธอจะยืนอยู่ตรงนี้...แล้วเธอมาทำอะไรเนี่ย”

            “ก็...”  ฉันอึกอัก จะบอกได้ไงว่ามาดูนายน่ะ -///-

            “เอ...หรือว่าเป็นห่วงฉัน เลยขึ้นมาดู”  ดูจุนยื่นหน้าเข้ามาพร้อมรอยยิ้มทะเล้นๆ ของเขา

            “บะ...บ้า!!! ใครเป็นห่วงนายกัน ฉะ...ฉันกะว่าจะเดินขึ้นมาสูดอากาศต่างหาก แต่คิดได้ว่านายอยู่บนนี้ เลยกำลังจะกลับไป -///-;”

            “จริงหรอ ^^”

            “จริงสิ!”  ฉันพูดแล้วรีบวิ่งลงมาจากบันได

            “ที่ฉันบอกตอนไปทิ้งขยะด้วยกันน่ะ ฉันพูดจริงนะ!”  ดูจุนตะโกนไล่หลังฉันมา แต่ฉันก็ไม่สนใจจะหันกลับไปเพราะหน้าฉันมันเปลี่ยนสีไปเรียบร้อยแล้ว

            “ตาบ้าเอ้ย!”  ฉันสบถกับตัวเองยิ้มๆ แล้วผลักประตูห้องพักเข้าไป ทำไมฉันต้องเขินอะไรขนาดนี้ด้วยน๊า ^///^

            “โอเค คอนเสิร์ตคราวนี้ฉันไม่พลาดหรอกน่า...เข้าใจแล้ว...แค่นี้แหละ”  จีอึนกดตัดสายโทรศัพท์ แล้วถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ อะไรกันนะ ทั้งที่ฉันรับยัยจีอึนนี่เข้ามาเองแท้ๆ แต่ฉันกลับไม่ไว้ใจยัยนี่เอาซะเลย -*-!

            “คุยกับใครหรอคะ ท่าทางซีเรียสเชียว”  ฉันทัก ยัยจีอึนสะดุ้งนิดหน่อยก่อนจะหันมามองฉันพร้อมรอยยิ้ม

            “อ๋อ! พอดีเพื่อนชวนไปดูคอนเสิร์ตเปิดตัวซิงเกิ้ลใหม่ที่พวกคุณเต้นเป็นแบ็คอัพให้บีสท์น่ะค่ะ วันอาทิตย์นี้ใช่ไหมคะ ^^”

            “ใช่ค่ะ งั้นฉันขอไปพักก่อนนะคะ ^^”  ฉันตอบแล้วเดินเลี่ยงเข้ามาในห้องนอน รู้สึกว่าเรื่องนี้จะมีอะไรไม่ชอบมาพากลแล้วล่ะสิ -*-!

                        

            “เฮ้อ...ตื่นเต้นจังค่ะลีดเดอร์”  วิลล่าเดินมากุมมือฉันไว้ด้วยมือเย็นๆ ของตัวเอง

            “ไม่ต้องตื่นเต้นหรอกน่า สูดหายใจเข้าลึกๆ ไว้ ทุกอย่างจะดีเอง”  ฉันปลอบ

            “แต่งานนี้ นอกจากจะเปิดตัวซิงเกิ้ลใหม่ของบีสท์แล้ว รู้สึกว่าคนอื่นๆ เขาจะตั้งหน้าตั้งตารอดูพวกเราด้วยนะ”  ณัชพูดด้วยท่าทางสงบ แต่ยัยคนที่จับมือฉันเนี่ยสิ...ถึงกับเต้นเร่าๆ ด้วยความตื่นเต้นที่เพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว

            “นั่นไงล่ะลีดเดอร์ ไม่ให้วิลตื่นเต้นได้ไงล่ะ T^T”

            “รู้ว่าเขาจะมองตัวเอง ก็ทำตัวให้มันดีๆ สิ เขาจะได้ไม่มีอะไรไปนินทา”  หยาพูดบ้าง

            “เอาล่ะเด็กๆ พร้อมกันรึยัง”  พี่มะนาวเดินเข้ามาในห้องแต่งตัวพร้อมรอยยิ้มปลื้มปิติ ครั้งนี้ฉันยอมรับว่าฉันก็ตื่นเต้นมากๆ เหมือนกัน แต่ก็ต้องเก็บอาการเพราะต้องรักษามาดลีดเดอร์เอาไว้ ยิ่งเห็นพี่มะนาวเดินเข้ามา ความตื่นเต้นยิ่งเพิ่มมากขึ้น อ๊ากส์ >_< ชักจะแอ๊บไม่ไหวแล้วล่ะ! ตื่นเต้นโว้ย!

            “ไปกันเถอะ”  พวกเราเดินตามพี่มะนาวออกมาจากห้องแต่งตัวพร้อมกับจังหวะหัวใจที่เต้นระทึกคึกโคมแข่งกับเสียงกรี๊ดและเสียงเครื่องเสียงที่ลอยเข้ามาถึงทางเดินด้านหลัง

            “อ้าว นั่นไง มากันแล้ว”  โยซอบพูด ทำให้บีสท์ทั้งวงหันมามองพวกเรา

            วันนี้พวกเขาดูหล่อมากๆ (จากปกติที่ดูหล่ออยู่แล้ว -///-) เพราะพวกเขาแต่งตัวด้วยสูทและไทน์สีดำสนิททั้งชุดและทรงผมที่ถูกเซ็ตมาอย่างดีตามคาแร็คเตอร์ของแต่ละคน ทำให้พวกเขาน่ามองและดูสะดุดตา ทั้งๆ ที่ใส่แค่สูทธรรมดา

            และไม่รู้ว่าเพราะอะไรที่ทำให้ฉันกับดูจุนสบตากัน เรามองตากันนิ่งๆ ก่อนที่ฉันจะเป็นฝ่ายหลบตาเอง เพราะว่าหน้ามันเริ่มร้อนๆ ขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ -///-

            “เอาล่ะ เดินเร็วเด็กๆ ได้เวลาแล้ว”  พี่มะนาวเร่ง ขณะที่พิธีกรเริ่มพูดเกริ่นเข้าเรื่องเพลงใหม่ของบีสท์แล้ว

            “วันนี้สวยจัง ^^”  ดูจุนมาเดินข้างๆ แล้วก้มลงมากระซิบที่ข้างหูฉันเบาๆ จนริมฝีปากของเขาแตะที่ใบหูฉันนิดหน่อย ทำเอาหน้าฉันยิ่งแดงเข้าไปอีก อ๊ากส์ >///< นายอยากจะกระซิบฉันไม่ว่า แต่มันไม่ใกล้ไปหน่อยหรอยะ!!

            “นายนี่!!”  ฉันหันไปค้อนเขาทีหนึ่ง แต่เขาก็ยังยิ้มมาให้ฉันเหมือนทุกครั้ง

            ตูม!!!

            อยู่ๆ เสียงระเบิดก็ดังขึ้น พร้อมกับเสียงกรี๊ดดังระงมไปทั่วทั้งงาน ความรู้สึกอุ่นที่อยู่ข้างตัวทำให้ฉันต้องเงยหน้าขึ้นไปมองต้นตอของมัน...ดูจุนกำลังกอดฉันไว้ขณะที่ทีมงานกำลังวิ่งไปวิ่งมาอย่างวุ่นวาย

            ตูม!!!

            เสียงระเบิดดังขึ้นอีกรอบ ดูจุนกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้นขณะที่ฉันก็เผลอก้มลงซบอกของเขาอย่างช่วยไม่ได้ เราอยู่ในสภาพนั้นจนกระทั่งเสียงระเบิดสงบลง

            “เธอเป็นอะไรรึเปล่า!!”  ดูจุนถามพลางสำรวจฉันตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างร้อนรน หลังจากที่ผละออกจากฉันแล้ว

            “ฉันไม่เป็นไร นายล่ะ”  ฉันถามบ้าง

            “ฉันสบายดี”

            “เครื่องเสียงระเบิด!!”  พี่มิวกี้วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาหาพวกเราที่กำลังถามสารทุกข์สุกดิบกันอยู่

            “ตายจริง!”  พี่มะนาวอุทาน

            “ต้องพาบีสท์ออกไปจากงานให้เร็วที่สุด ตอนนี้บีสท์ไม่ปลอดภัย”  คุณมินนาที่มาพร้อมกับการ์ดอีกประมาณโหลหนึ่งพูดอย่างรีบร้อน

            “ทางนี้”  คุณมินนาพูดแล้วเดินนำพวกเราทั้งหมดไปทางหนีไฟที่อยู่ใกล้ๆ กับลานจอดรถอย่างรวดเร็ว แต่ที่นั่นมีรถยนต์ที่ถูกดัดแปลงเป็นรถแข่งนับสิบคันกำลังเบิ้ลเครื่องรอพวกเราอยู่

            “นี่มันอะไรกับเนี่ย”  พี่มะนาวสบถ ขณะที่การ์ดทั้งหมดเดินออกมายืนข้างหน้าเพื่อคุ้มกันพวกเราไว้

            ดูจุนเอื้อมมือมากุมมือฉันไว้แน่น ความอบอุ่นจากมือของเขา มันทำให้ความกลัวของฉันผ่อนคลายลงได้มากทีเดียว ขอบใจนะ...ดูจุน

            “อย่านะ!!!”  อยู่ๆ จีอึนที่โผล่มาจากไหนไม่รู้ก็วิ่งออกไปยืนขวางรถแข่งพวกนั้นอย่างกล้าหาญ จนฉันอดที่จะหันไปมองดูจุนไม่ได้ว่าเขาทำหน้ายังไง...ตอนนี้เขากำลังมองจีอึน ด้วยแววตาที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่า...เป็นห่วง!

            “ถ้าพวกคุณไม่หยุด ฉันจะเปิดโปงเรื่องของพวกคุณทุกอย่างเลย!!!”  เสียงแหลมๆ เล็กๆ ตะโกนแข่งกับเสียงเครื่องยนต์อย่างไม่ยอมแพ้ ซึ่งคำขู่ของจีอึนดูเหมือนจะได้ผลเพราะรถแข่งพวกนั้นเริ่มถอยกลับออกไปจากโรงรถอย่างรวดเร็ว แต่มีอยู่คันหนึ่งที่ไม่ยอมไปไหน กลับยิ่งเบิ้ลเครื่องรุนแรงขึ้น ในที่สุดรถก็ออกตัวมาอย่างรวดเร็ว และดูเหมือนจะพุ่งมาที่จีอึนที่ยืนขวางอยู่ข้างหน้าสุดด้วย

            “กรี๊ด!!!”  เสียงกรี๊ดของจีอึนและของพวกเราดังประสานกัน ความรู้สึกกระแทกแรงๆ ที่ไหล่ ทำให้ฉันเซไปข้างๆ เล็กน้อย ตามมาด้วยภาพของดูจุนที่วิ่งฝ่ากำแพงการ์ดจำนวนมากออกไปช่วยจีอึนให้พ้นทางรถอย่างหวุดหวิด ทำให้ดูจุนกับจีอึนล้มลงไปด้วยกัน

            ปังๆๆ

            เสียงปืนของการ์ดระดมยิงไปที่รถคันนั้น แต่ก็เหมือนจะไม่ได้ผลเพราะรถคันนั้นก็ยังคงวิ่งหายไปในความมืดได้อย่างสบายๆ

            “ไม่ต้องตาม! คุ้มกันบีสท์กลับหอก่อน”  คุณมินนาบอกการ์ดที่กำลังทำท่าจะตามไป

            “เป็นอะไรไหม”  ดูจุนลนลานลุกขึ้นแล้วสำรวจดูจีอึนที่อยู่ในอ้อมแขน

            “ไม่เป็นไร แล้วจุนล่ะ...อุ๊ย!! เลือด!”  จีอึนร้อง ทำให้คุณมินนารีบวิ่งเข้าไปดูเลือดที่ไหลโชกอยู่ในข้อศอกข้างซ้ายของดูจุน

            “เรียกรถพยาบาลเร็ว!”  คุณมินนาร้อง

            “ไม่เป็นไรครับ แค่ถลอกๆ เอง”  ดุจุนพูดขณะที่ดันตัวลุกขึ้นมาด้วยความช่วยเหลือของเพื่อนร่วมวง แต่ก็ไม่ลืมที่จะหันไปพยุงจีอึนให้ลุกขึ้นมาด้วย ทำไมฉันเหมือน...หายใจไม่ออกล่ะ

            “ไหวไหมยัยเภ”  ณัชหันมากระซิบฉันเบาๆ

            “อื้ม”  ฉันตอบโดยไม่ละสายตาจากภาพตรงหน้า...ภาพที่ทำให้ฉันรู้สึกเจ็บ ทั้งที่ไม่ได้มีแผลอะไรเลย

            “รีบกลับกันดีกว่า”  คุณมินนาพูด ทำให้เราต้องรีบออกเดิน แต่...

            “โอ๊ย!!”  จีอึนร้องลั่นทันทีที่ก้าวเท้าออกเดิน

            “เป็นอะไร?”  ดูจุนหันไปถามจีอึนด้วยความเป็นห่วง ทำให้ใจฉันกระตุกวูบไปทีนึงอย่างไม่รู้สาเหตุ ลำคอของฉันมันเริ่มตีบตันเข้าทุกทีๆ กับภาพตรงหน้า

            “สงสัยขาจะแพลงน่ะ แต่ไม่เป็นไรหรอก ฉันไหว”  จีอึนพูดแล้วก้าวเท้าออกเดิน แต่ก้าวไปได้ไม่ไกลก็ต้องเซไปกอดคอดูจุนที่ยืนอยู่ใกล้ที่สุดเอาไว้เพื่อไม่ให้ตัวเองล้มลง

            “เฮ้อ...”  ดูจุนถอนหายใจ ก่อนจะก้มลงรวบร่างของจีอึนขึ้นไว้ในอ้อมแขน

            “ถ้าเรียบร้อยแล้วก็รีบไปกันเถอะ ชักช้ากันอยู่เดี๋ยวตำรวจกับนักข่าวก็ได้แห่กันมาพอดี”  คุณมินนามองดูจุนและจีอึนด้วยท่าทางไม่พอใจนิดหน่อยก่อนจะรีบเดินนำหน้าไปที่รถ เท่าที่ฉันรู้คุณมินนาไม่ชอบหน้าจีอึนเอามากๆ ตั้งแต่คราวก่อนแล้ว แต่ไม่นึกว่าจะไม่ชอบขนาดนี้

 

            “ไม่น่าเชื่อว่าจะกล้าขนาดนั้น”  ดงอุนพูด ขณะตักเส้นราเมงในหม้อมาไว้ในจานตัวเอง

            “แบบนี้เราก็น่าจะไว้ใจจีอึนได้แล้วสิ”  กีกวังพูดพลางแกะซองราเมงอีกห่อใส่หม้อ

            ฉันมองบีสท์ทั้ง 5 คน (ยกเว้นดูจุน) ที่วันนี้ยกก๊วนกันมาทำปาร์ตี้ราเมงในห้องพักของพวกฉันเพื่อปรึกษาหารือเรื่องของยัยจีอึน ส่วนเมมเบอร์ทั้ง 5 คนของฉันก็พากันมาร่วมปาร์ตี้อย่างพร้อมใจ เพราะว่าการนินทาเนี่ยเป็นกิจวัตรของพวกเราอยู่แล้ว แต่ที่ฉันทึ่งก็คือยัยณัชก็เป็นไปกับเขาด้วยนี่สิ ปกติจะไม่ค่อยยุ่งเรื่องพวกนี้เพราะบอกว่าไร้สาระ =_=

            “ทำไมเธอยังนั่งอยู่ตรงนี้ล่ะ ดูจุนมีแผลตั้งลึก ไม่คิดจะไปดูมันหรอ”  อยู่ๆ จุนฮยองก็หันมาว่าฉัน อ้าว...นายดูจุนมีแผลแล้วเกี่ยวอะไรกับฉันล่ะ ฉันไม่ได้ทำซะหน่อย -///-? (แอ๊บไม่เข้าใจ)

            “ใช่ๆ ไปดูลีดเดอร์ดูจุนเลยนะ”  ยัยวิลล่าเสริม เอาแล้วไง เริ่มกดดัน =_=;;

            “กล่องยาอยู่นั่นนะ”  ดอกหลิวพูดพลางชี้ไปที่กล่องปฐมพยาบาลที่อยู่โต๊ะเล็กๆ ข้างๆ ตู้เย็น

            “ก็ได้ๆ”  ฉันตอบตกลงเพราะทนความกดดันไม่ไหว...-///-;;

            ฉันเดินไปจับกล่องยาและออกมาจากห้องด้วยความรวดเร็ว แต่ก็ต้องมาหยุดอยู่หน้าห้องพักของบีสท์เพราะใจฉันมันเต้นแรงจนควบคุมไม่ได้ ป่านนี้แผลเขาจะเป็นยังไงนะ? จะอักเสบไหม? เลือดยังไหลอยู่รึเปล่า? อ๊ากส์! >.< ทำไมฉันลนลานแบบนี้ล่ะ...ฉันสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะผลักประตูเข้าไปด้านในห้อง

            “เอ่อ...”  ฉันส่งเสียงออกไปได้แค่นั้น เพราะฉันได้ยินเสียงของใครคนหนึ่งดังแทรกขึ้นมา

            “ไม่เป็นไรหรอกน่า ฉันปวดขานะไม่ได้ปวดแขน แค่นี้ฉันทำได้”

            “ไม่เป็นไร เธอไปพักเถอะ”

            “ไม่เอา”

            “เฮ้อ...โอ๊ย!”

            “เห็นไหมล่ะอวดเก่งนัก มานี่เลยเดี๋ยวฉันทำให้”

            แล้วเสียงก็เงียบไป ฉันเลยแอบชะโงกหน้ามองเข้าไปในห้องนั่งเล่น ฉันไม่ได้อยากจะแอบดูแอบฟังคนอื่นเขาคุยกันเท่าไหร่หรอกนะ ฉันแค่ขอดูนิดหน่อยเท่านั้นเอง...

            เฮือก! พวกเขากำลังจะ...จูบกัน

            O_O!!

            ตุบ!

            กล่องปฐมพยาบาลที่ฉันถือมาเมื่อกี๊หล่นลงพื้นและกระแทกเข้ากับนิ้วเท้าของฉันอย่างแรง แต่ฉันร้องไม่ออกเพราะลำคอของฉันมันตีบตันจนไม่รู้จะร้องยังไง

            “เภตรา!!”  ดูจุนร้องแล้วรีบผละออกจากจีอึนอย่างรวดเร็ว

            “เอ่อ...ขอโทษนะ ฉันนึกว่ายังไม่มีใครมาทำแผลให้ก็เลย...ขอโทษจริงๆ”  ฉันก้มหัวลงงุดๆ เพื่อขอโทษแล้วรีบวิ่งออกจากห้อง

            “เภตรา เดี๋ยว! ฟังฉันก่อน!!”  เสียงของดูจุนดังตามหลังมา แต่ฉันไม่คิดจะหยุดฟังหรอก เพราะว่าฉันยังไม่พร้อมจะฟังอะไรตอนนี้

            “อ้าว! ทำไมเร็วจัง -_-”  ณัชที่เพิ่งเปิดประตูห้องพักออกมาถามอย่างงงๆ ฉันเลยเปลี่ยนเป้าหมายจากที่จะเข้าไปหลบในห้องพักเป็นดาดฟ้าแทน

            “ไปไหนอ่ะเภ!”  ณัชตะโกนตามหลังมาพร้อมๆ กับดูจุนที่วิ่งตามฉันมาติดๆ

            ฉันวิ่งไปบนบันไดดาดฟ้าแล้วปิดประตูหนักๆ นั้นตามหลังทันทีก่อนจะล็อกกลอนเสร็จสรรพ ซึ่งดูจุนก็วิ่งมาถึงประตูพอดีกับที่ฉันล็อกไว้อย่างหวุดหวิด

            “เภ! เปิดประตูออกมาคุยกันก่อนสิ...เภตรา!!”  ดูจุนพูดไปเคาะประตูไปอย่างร้อนรน นายจะมาเดือดร้อนอะไรกับฉันล่ะดูจุน ฉันจะเป็นยังไง จะรู้สึกยังไงนายจะมายุ่งอะไรด้วย นายควรจะไปดูแลยัยจีอึนนั่นมากกว่า!!

            “เภ!!...”  ดูจุนเคาะประตูเบาลง และน้ำเสียงก็เริ่มอ่อนลง

            “นายไปทำแผลก่อนเถอะ ฉันแค่ขึ้นมาสูดอากาศ”  ฉันตะโกนกลับไป พร้อมกับข่มน้ำเสียงให้เป็นปกติที่สุด

            “ไม่!! ฉันจะทำแผลจนกว่าเธอจะยอมออกมา! ให้เลือดมันไหลอยู่แบบนี้แหละ”  ดูจุนตะโกนกลับมา

            “ตามใจนายแล้วกัน!!”  ฉันตะโกนกลับ นายจะเป็นยังไงก็ช่างนายสิ! ฉันไม่รู้สึกอะไรหรอก จะปล่อยให้เลือดไหลจนหมดตัวก็แล้วแต่นาย...

            “จุน...มีอะไรกันหรอ”  อยู่ๆ เสียงของยัยจีอึนก็ดังขึ้นจากด้านหลังของบานประตู ทำให้ฉันต้องแอบเอาหูแนบกับประตูเพื่อฟังว่าพวกเขาจะคุยอะไรกัน

            “ไม่ต้องมายุ่ง”  ดูจุนพูดเสียงเย็น

            “แต่...เลือดจุนไหล...”

            “บอกว่าไม่ต้องมายุ่ง!!”  ดูจุนตะโกนลั่นจนฉันที่อยู่อีกฟากของประตูถึงกับสะดุ้ง

            “มีอะไรกันเนี่ย”  เสียงของฮยอนซึงดังขึ้นมาอีกคน ตอนนี้เหมือนว่าทุกคนจะมายืนออกันอยู่หน้าประตูดาดฟ้านะ

            “จะอะไรก็ช่างเถอะ รีบพามันไปทำแผลก่อนดีกว่า เลือดโชกหมดแล้วน่ะ”  เสียงของจุนฮยองเสนอ ก่อนที่ทุกอย่างจะเงียบลงคงเพราะพวกเขาพาดูจุนไปทำแผลกัน

            ฉันหันกลับมายืนพิงประตูแล้วทิ้งให้สายลมเย็นๆ พัดผ่านน้ำตาอุ่นๆ ที่เริ่มไหลลงมา

            “หึ!!”  ฉันพ่นลมหายใจออกแรงๆ แล้วปล่อยน้ำตาที่อัดอั้นไว้นานให้ไหลออกมาเงียบๆ ภาพต่างๆ เริ่มหวนกลับมาปรากฏชัดอยู่ในหัว...แววตาเวลาที่ดูจุนมองผู้หญิงคนนั้น...ตอนที่ดูจุนกระแทกไหล่ฉันเพื่อวิ่งไปช่วยผู้หญิงคนนั้น...ตอนที่ดูจุนอุ้มผู้หญิงคนนั้นไว้ในอ้อมแขน...และเมื่อกี๊ ตอนที่ดูจุนกับผู้หญิงคนนั้นอยู่ใกล้กันจนเกือบจะ...จูบกัน

            จริงสิ...พวกเขาเคยมีอดีตที่แสนจะสดใสด้วยกันนี่ แล้วฉันล่ะเป็นใคร...ฉันมีสิทธิ์มาโวยวายอะไรแบบนี้ด้วยหรอ?

            ครืด...ครืด...

            โทรศัพท์มือถือสั่นเบาๆ ในกระเป๋ากางเกง และทันทีที่ฉันล้วงมันออกมาดู เบอร์ที่โชว์อยู่บนจอมันยิ่งทำให้ฉันปล่อยโฮออกมามากขึ้น...เฝ้าฝัน เพื่อนที่คอยเตือนให้ฉันรู้ตัวเสมอ...ว่าฉันเป็นใคร และควรยืนอยู่ที่ไหน...

            “ฝัน...ฮือ...”  ฉันกำมือถือที่สั่นเบาๆ อยู่ในมือ แต่ฉันไม่สามารถรับมันได้เพราะกลัวว่ายัยนั่นจะไม่สบายใจ...ฉันขอโทษนะ แล้วฉันจะโทรกลับไปหา...ในเวลาที่ฉันพร้อมและเข้มแข็งพอ

            ‘ทำใจได้แล้วก็กลับมาเถอะ’  เสียงของเฝ้าฝันที่เคยพูดกับฉันไว้ดังผสมปนเปกับภาพของดูจุนจนหัวของฉันแทบจะระเบิด

            “สงสัยฉันจะกลับไปไม่ได้แล้วล่ะฝัน...”  ฉันโต้ตอบเสียงของเฝ้าฝันที่ดังอยู่ในหัว

            ‘ไม่ว่าตอนนี้แกล่องลอยไปถึงไหนฉันอยากให้แกกลับมา ถึงแม้ว่ามันจะเป็นแค่ความหวั่นไหวหรืออะไรก็ตาม ฉันอยากให้แกหยุดตอนนี้...ก่อนที่มันจะสายเกินไป’

          “มันสายไปแล้วจริงๆ ฝัน...อึก!...ฉันกลับไปไม่ได้แล้ว...ฮือ”

          ‘พวกเขาเป็นใคร แล้วเราเป็นใคร...ฉันอยากให้แกคิด’

          “ฮือ...ฝัน...ฝัน!!!”  ฉันตะโกนออกไปสุดเสียงจนเสียงฉันแหบพร่าไปหมด ก่อนจะปล่อยโฮออกมาอย่างหยุดไม่อยู่

            ฉันจะทำยังไงเฝ้าฝัน...ฉันรักเขาไปแล้ว!!

 

 

 

 

*******************************

ฝากติดตามตอนต่อไปด้วยนะคะ ^O^

*******************************

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.2 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา