[B2ST/Beast] Dream Story รักนี้ให้นาย...เจ้าชายอสูร
เขียนโดย Kreota
วันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 00.14 น.
แก้ไขเมื่อ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2557 22.21 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
68) [Episode 5 :: Beautiful Lover]# Chapter14<THE END>
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
Episode 5 Beautiful Lover
:: Chapter 14 ::
THE END
เงิบกินสิคะคราวนี้...U.U
ฮยอนซึงมองหน้าฉันสักพักก่อนจะเดินแยกออกไปจากห้อง พอฮยอนซึงออกไปปุ๊บทุกคนก็หันควับมามองหน้าฉันปั๊บเหมือนนัดกันมาแล้วตั้งแต่เมื่อวานซืน...เฮ้ๆ ฉันไม่ผิดนะ จุนฮยองต่างหากที่ยั่วโมโหฉันก่อน =_=;
“เธอต้องรับผิดชอบ” จุนฮยองพูดแล้วเดินตามฮยอนซึงออกไปพร้อมกับเพื่อนบีสท์คนอื่นๆ
เอ่อ...-_-
“พี่ณัชพูดแรงไปนะคะ ตุ๊ดเติ๊ดอะไร วู๊!” วิลล่าก็เอากับเขาด้วย =_=;
“แรงไปจริงนะณัช ฉันว่าไปขอโทษเขาหน่อยก็ดี” เฝ้าฝันพูดตอกย้ำความผิดให้ฝังรากลึกลงไปอีกเท่าตัว U_U
สรุปคือ...ฉันผิดเอง U_U;
ฉันนั่งทำใจในห้องอยู่นานมากกว่าจะกล้าไปเคาะประตูห้องพักของบีสท์ แล้วทายซิใครมาเปิดประตู -_-*
“ทำใจนานจังนะ แฟนเธองอนจนไม่รู้จะงอนยังไงแล้ว” จุนฮยองพูดทันทีที่เปิดประตูออกมา นี่นายรู้อยู่แล้วรึไงว่าคนที่มาเคาะคือฉันน่ะ -_-
“ใครแฟนฉัน? -///-”
“อย่ามาทำไขสือ ฉันรู้นะว่าพวกเธอไปถึงไหนกันแล้ว” จุนฮยองหรี่มองฉันอย่างรู้ทัน รู้ทงรู้ทันอะไร ไม่เข้าใจ -_-?
“เฮ้ย! ถ่วงเวลาอยู่นั่นแหละ เดี๋ยวฮยอนซึงมันก็โดดตึกตายซะหรอก” กีกวังดึงจุนฮยองออกมาจากกรอบประตูที่ยืนขวางอยู่แล้วมายืนแทนที่
“ฮยอนซึงมันขึ้นไปอาบแดดอยู่บนดาดฟ้าอ่ะ แต่ฉันว่ารีบหน่อยก็ดีนะ มันขึ้นไปนานแล้ว”
“ฮยอนซึงเนี่ยนะขึ้นไปบนดาดฟ้า” ฉันถามทวน เพราะวันดีคืนดีก็เห็นแต่ดูจุนกับเภตราที่ขึ้นไปบนนั้นบ่อยๆ
“ใช่” กีกวังยืนยันหนักแน่น
“เฮ้อ...ตุ๊ดเอ๊ย!” ฉันสบถออกมาอย่างหัวเสีย อย่าบอกนะว่าขึ้นไปตั้งแต่ออกมาจากห้องฉัน ไม่เป็นลมแดดตายก็คงโดนไล่ออกจากสังกัด KB ก็เพราะเป็นฝ้าแดดเต็มหน้าแล้วแฟนคลับรับไม่ได้นี่แหละ =_=
ว่าแต่ทำไมใครๆ ต้องชอบขึ้นมาบนนั้นจังเวลาที่มีเรื่องกลุ้มใจ (ฉันสงสัยมาตั้งแต่ภาคแรกแล้ว -_-?)
ฉันเปิดประตูดาดฟ้าขึ้นมาก็เจอฮยอนซึงนอนแผ่อยู่กลางดาดฟ้า อ้าวเฮ้ย!! เป็นลมแดดตายจริงๆ หรอเนี่ย!!!
“ฮยอนซึง!! ฮยอนซึง!!...” ฉันเข้าไปเขย่าตัวฮยอนซึงแรงๆ เพื่อเรียกสติของเขา
“นายจะตายไม่ได้นะ นายยังมีเรื่องต้องเล่าให้ฉันฟังอีก ตื่นขึ้นมา!!!”
“โอ๊ย!! หูจะแตกอยู่แล้วเนี่ย จะตะโกนอะไรนักหนาอยู่กันแค่นี้เอง” ฮยอนซึงพูดพร้อมกับใช้มือปิดหูตัวเองเอาไว้ก่อนจะลุกขึ้นนั่ง
“อ้าว...ฉันเห็นนอนแผ่อยู่ก็นึกว่าตายแล้วซะอีก”
“ยังไม่ตาย ว่าแต่เธอเถอะ ยังมีอะไรจะให้ฉันเล่าอีก ฉันเล่าไปหมดแล้วนะ”
“เล่าอะไร? ตอนไหน? ไม่เห็นจำได้เลย”
“จะจำได้ไงล่ะ ตอนนั้นเธอสมองเสื่อมอยู่”
“ก็เรื่องนี้แหละที่ฉันจะถาม คุณอธิสมาหาฉันแล้วพูดอะไรแปลกๆ เกี่ยวกับนาย”
“เขาว่าไงบ้างล่ะ”
“นี่นายจะให้ฉันเล่ากลางแดดเปรี้ยงๆ แบบนี้เนี่ยนะ” ฉันพูดแล้วชี้ให้เขาดูว่าดวงอาทิตย์มันอยู่กลางหัวพอดีเด๊ะ
“งั้นเข้าร่มก่อนแล้วกัน” ฮยอนซึงพูดก่อนจะดันตัวลุกขึ้นยืน
“ลุกขึ้นสิ” ฮยอนซึงส่งมือมาให้ หนอยจะแต๊ะอั๋งฉันหรอ -_+
“ไม่เป็นไร” ฉันปัดมือเขาทิ้งแล้วลุกขึ้นยืนด้วยตัวเอง พอเราเดินมาถึงประตูดาดฟ้าก็พบว่ามัน...
ล็อค!! ต้องเป็นฝีมือนายจุนฮยองแน่ๆ เลย -*-!
“ฮึ่ม! ไอ้!...” ฉันสบถออกมาแล้วหันหลังพิงประตูดาดฟ้าอย่างหมดปัญญา เพราะว่ามีแค่ตรงนี้ที่มีร่ม แถมเป็นร่มเงาที่น้อยนิดมากเราสองคนเลยต้องยืนเอาหลังชิดกับประตูให้ได้มากที่สุด
“นายเลือกสถานที่อยู่ได้ดีมากเลย” ฉันประชด
“ขอบใจ” เขาตอบกลับมาหน้าตาเฉย
“ทำไมตอนนั้น...ตอนที่พวกของโอกังจารุมนาย นายถึงไม่สู้ล่ะ ถึงจะสู้พวกมันทุกคนไม่ได้ อย่างน้อยตอบโต้ไปสักหมัดก็ยังดี” ฉันพูดท้าวความมาตั้งแต่ตอนที่โดนจับตัวไป เพราะมันเป็นความทรงจำล่าสุดของฉันจะถามเหตุการณ์ต่อจากนี้ก็ไม่รู้เรื่องอะไรแล้ว =_=
“ฉันกลัวพวกมันไปรุมเธอไง...คอยถ่วงเวลามันไว้รอให้เพื่อนไปช่วย ดีกว่าตอบโต้แล้วมันวกไปหาเธอด้วย ก็แย่น่ะสิ”
โถ...ออร่าความแมนลอยขึ้นมาเลยพ่อคุณ U_U
“แล้วระหว่างที่ฉันสมองเสื่อม ฉันไปทำอะไรไว้หรอ ทำไมทั้งคุณอธิสกับเพื่อนคนอื่นเขาพูดจาแปลกๆ กัน”
“ยังไงล่ะ?” ฮยอนซึงหันมามองหน้าฉันตรงๆ แล้วก็ไม่ละสายตาไปเลย ฉันเลยต้องเป็นฝ่ายมองไปทางอื่นแทน -////-
“ก็ประมาณว่า ฉันตัดสินใจอะไรบางอย่างเกี่ยวกับนายอ่ะ ฉันก็อธิบายไม่ถูก...”
“อ๋อ เรื่องนั้นช่างมันเถอะ...” พูดจบฮยอนซึงก็หันกลับไปที่ประตูแล้วล้วงกุญแจเก่าๆ ดอกหนึ่งออกมา
...และเปิดประตู -_-*
“นายมีกุญแจหรอ!”
“ใช่”
“อ้าว แล้วทำไมไม่ไขตั้งแต่แรกเล่า!”
“ก็ฉันเห็นเธอเอนหลังพิงประตูนี่ ก็นึกว่ายังไม่อยากออกไป -_-”
ฮยอนซึงพูดแค่นั้นก็เดินไปเลย อ้าว! จะไปแล้วหรอ!! ยังคุยกันไม่รู้เรื่องเลยนะ
“เดี๋ยว!” ฉันวิ่งไปยืนขวางทางลงบันไดจากดาดฟ้าเอาไว้
“อะไร?”
“ฉันยังคุยกับนายไม่จบ และนายก็ห้ามไปไหนจนกว่าจะเคลียร์กันจบเพราะฉันไม่ชอบอะไรค้างๆ คาๆ”
“เฮ้อ...เธออยากเคลียร์อะไรล่ะ ในเมื่อเธอก็จำเรื่องที่ผ่านมาไม่ได้อยู่แล้ว งั้นก็ถือว่าเรื่องมันแล้วไปแล้วละกัน จะได้ไม่กวนใจเธออีก”
“ช่างมันไม่ได้หรอกนะ ในเมื่อมันทำให้เพื่อนคนอื่นไม่เหมือนเดิม...แล้วนาย...นายก็ไม่เหมือนเดิม”
พอฉันพูดจบเราก็นิ่งกันไปพักใหญ่ ก็เขาไม่เหมือนเดิมจริงๆ นี่ ตั้งแต่ฉันฟื้นขึ้นมาเขาก็ไม่ค่อยคุยกับฉันเลย กลับมาที่หอก็ไม่แวะมาที่ห้อง จะมาก็แต่ตอนที่ได้ยินฉันพูดว่า ‘หน้าตุ๊ด’ นั่นแหละ -_-;
“ฉันไม่เหมือนเดิมแล้วเธอไม่ชอบหรือไง อยู่ห่างๆ ฉันแบบนี้เธอชอบไม่ใช่หรอ”
“นี่! เลิกประชดสักทีได้ไหม ฉันอึดอัด!!” ฉันตะโกนอย่างหัวเสีย
“ฉันก็อึดอัดเหมือนกัน...ฉันคิดว่าจะแบกความรู้สึกเอาไว้คนเดียวได้ แต่มันทำไม่ได้จริงๆ” ในที่สุดฮยอนซึงก็พูดออกมา และทันทีที่เข้าเรื่องหัวใจฉันก็เริ่มทำงานหนักอีกครั้ง
“ฉันตั้งใจจะเก็บเรื่องนี้เอาไว้ไม่เล่าให้เธอฟังว่าเราเป็นยังไงตอนที่เธอ...สมองเสื่อม”
“เป็นยังไง? ก็เล่าต่อสิ -///-”
“อยากรู้จริงๆ หรอ”
“หรือถ้านายไม่อยากบอกก็ไม่เป็นไรนะ เพราะถ้านายไม่บอกฉันวันนี้และเดี๋ยวนี้ ฉันก็จะไม่เซ้าซี้นายแล้วล่ะ”
ฉันนิ่งรอฟังเขาบอกด้วยหัวใจที่เต้นรัวแต่แล้วเขาก็ไม่ยอมพูด เขายังคงยืนมองหน้าฉันนิ่ง
“ได้..งั้นฉันไปล่ะ ขอโทษที่ทำให้เสียเวลา” ฉันพูดแล้วหมุนตัวกลับลงบันไดไป แต่พอเดินลงมาถึงขั้นสุดท้ายเขาก็พูดออกมา
“เรารักกัน!”
เงียบ...~
ความเงียบเข้ามาครอบงำเอาไว้อย่างรวดเร็วเมื่อฮยอนซึงพูดประโยคนั้นออกมา ฉันไม่กล้าหันไปมองเขาและเขาก็ไม่ได้เดินลงมาหาฉัน เรายืนอยู่อย่างนั้นสักพักใหญ่จนกระทั่งฮยอยซึงเป็นฝ่ายเดินลงมายืนอยู่บนพื้นที่เตี้ยกว่าฉัน 1 ระดับ ฉันเพิ่งจะสังเกตตอนนี้เองว่าเขาสูงกว่าฉันมากขนาดนี้
“ฉันขอโทษที่ทำให้หนักใจ...แต่ตอนนั้นเธอบอกกับฉันว่าเธอ...ชอบฉัน” ฮยอนซึงพูดกับฉันเบาๆ
“ทำไมนายถึงคิดจะไม่บอกฉันล่ะ...ในเมื่อมันเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้”
“ฉันกลัวเธอไม่เชื่อ แล้วก็...ขำว่าฉันเพ้อเจ้อไปเอง” ฮยอนซึงทำหน้าจ๋อยๆ ใส่ จนฉันแทบจะหลุดยิ้มออกมา แทนที่ฉันจะหนักใจและไม่เชื่อในสิ่งที่เขาพูดตอนนี้หัวใจของฉันมันกลับพองโตขึ้นมาแปลกๆ
“แล้วตอนนี้ฉันขำไหมล่ะ”
“...” ฮยอนซึงไม่พูดอะไร เขาเอาแต่ก้มหน้ามองเท้าตัวเองอยู่อย่างนั้น จนฉันก็ไม่รู้จะต่อประโยคไปยังไง -_-;
“ตอนนั้นฉันบอกว่ายังไง...ตอนนี้ก็เป็นยังงั้นแหละ -////-” ฉันกลั้นใจพูดพร้อมกับหัวใจที่เต้นโครมครามไม่เป็นจังหวะ
“เธอ...ว่าไงนะ O_O” ฮยอนซึงเงยหน้าขึ้นมาพร้อมดวงตาเบิกโพลง
“ไม่พูดซ้ำนะ -/////////-”
จุ๊บ!
อยู่ๆ ริมฝีปากของฉันก็ถูกครอบครองด้วยริมฝีปากบางของฝ่ายตรงข้ามอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เขาจะถอนจูบออก
“เธอห้ามคืนคำนะ ^^” ฮยอนซึงถอยออกไปยิ้มจนปากจะฉีกแล้วดึงฉันเข้าไปกอดไว้แน่น มันแน่นมากจนฉันเริ่มรู้สึกตัว
อ้าวเฮ้ย!!! ปล่อยให้เขากอดจูบแบบนี้ได้ยังไงยัยณัช >//////<
“นี่! ถอยออกไปเลยนะ นายแต๊ะอั๋งฉันหรอ!!”
“อ้าว ก็เอาคืนไง ที่เธอหอมแก้มฉันตอนนั้นจำไม่ได้หรอ?”
“ตอนนั้นแค่หอมแก้มนะ แต่นี่มันเรียกว่า ‘จูบ’ ชัดๆ >///<”
“ก็มันนานแล้วไง ดอกมันก็ต้องงอกเงยขึ้นมาเป็นธรรมดา”
“นายนี่มัน!...ตุ๊ดเอ้ย!!” ฉันหลุดปากออกไป ทำให้ทั้งเขาและฉันนิ่งไปทันที เอ่อ...ฉันไม่ได้ตั้งใจ U.U;
“ต่อไปถ้าเกิดเธอหลุดปากพูดเรื่อง หน้าสวย หรือว่า หน้าตุ๊ด หรือว่าอะไรทำนองนี้อีกล่ะก็ ฉันจะจูบเธอตามจำนวนครั้งที่พูด!!” ฮยอนซึงหลิ่วตามองฉันอย่างฆาตโทษ
“งั้นคราวนี้ก็จูบครั้งหนึ่งเป็นการทำโทษสินะ” ฮยอนซึงพูดพร้อมกับโน้มตัวมาหาฉัน
“นายมีสิทธิ์อะไรจะมาจูบฉันยะ!” ฉันใช้มือผลักหน้าฮยอนซึงออกเป็นพัลวัน
อ๊ากส์!!! ฉันไม่น่าใจอ่อนตามมาง้อเลย รู้งี้ปล่อยให้งอนไปสัก 7 วัน 7 คืนยังดีกว่า ชะตากรรมของฉันชักจะเหมือนในฟิคพวกนั้นเข้าไปทุกทีแล้วนะเนี่ย >_<!
“แฟนไง มารับโทษซะดีๆ >3<”
“ไม่!!!>_<!!!”
“เฮ้! พวกนายทำอะไรกันน่ะ” อยู่ๆ เสียงของกีกวังก็ดังเข้ามา ทำให้ฉันสามารถผลักฮยอนซึงออกไปได้สำเร็จ
“มีอะไรหรอ” ฮยอนซึงหันไปถามกีกวังเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ส่วนฉันน่ะหรอ...กำลังพยายามมุดหลังฮยอนซึงอยู่เพราะรู้สึกว่าหน้าตัวเองมันคงแดงจนมะเขือเทศเรียกป้าแน่ๆ -///////-
“เปล่าหรอก จุนฮยองมันให้ฉันมาดูว่าพวกนายถึงไหนกันแล้วเพราะว่าถ้าเลยเถิดไปมากกว่านี้จะไม่เหมาะ มันบอกว่ากลัวหาห้องไม่ทัน...เอ่อ!...อันนี้มันฝากมานะ ฉันไม่ได้คิดเอง!!” กีกวังรีบแก้ตัวเอาไว้ตอนท้ายของประโยค
จุนฮยอง ฉันจะฆ่านาย! -_+!
“ฮ่าๆๆ ฝากขอบใจมันด้วยนะที่เป็นห่วง แต่อย่างยัยนี่คงไม่ยอมฉันง่ายๆ หรอก” ฮยอนซึงพูดพร้อมกับเลื่อนมือมาจับมือฉันเอาไว้เบาๆ
“เออๆ เข้าใจกันแล้วก็ดี ฉันไปล่ะ...เอ้อ! อย่าลืมมากินข้าวด้วยล่ะ ทำกับข้าวเสร็จแล้ว” กีกวังพูดเอาไว้แค่นั้นแล้วเดินไป
“งั้นที่หลุดปากมาคำหนึ่งน่ะ ติดไว้ก่อนแล้วกันนะ” ฮยอนซึงพูดพร้อมกับรอยยิ้มมุมปากอย่างผู้ชนะ
อะไรกัน! ทำไมเขากลายเป็นคนหื่นขึ้นมาแค่ชั่ววินาทีเลยล่ะ เอาเปรียบฉันชะมัด T^T สงสัยฉันจะทำกับเขาไว้เยอะแน่ๆ เขาเลยเอาคืนมาในรูปแบบนี้...แต่เอ๊ะ! นี่ฉันมีแฟนแล้วหรอเนี่ย เป็นแฟนกับไอ้หน้าสวยเนี่ยนะ!O_O!
ถึงจะเป็นแฟนกันแบบงงๆ เพราะฉันคิดว่าคงสารภาพไปตั้งแต่สมองเสื่อมแล้ว =_=; ถึงจะจำอะไรไม่ได้ แต่ฉันเชื่อเสียงหัวใจตัวเองที่มันดังแต่ชื่อของหมอนี่แถมมันดังขึ้นทุกวันๆ ฉันไม่รู้ว่าเผลอใจเต้นแรงขนาดนี้เพราะเขามานานเท่าไหร่แล้ว แต่ก็ถือว่าโอเคนะ ^_^
ฉันรักนาย...เจ้าชายอสูรของฉัน
THE END
03/06/2557
01:44 น.
*************************************
EP.5 จบแล้วจ้า ^O^
ยังไงก็อย่าลืมติดตามต่อด้วยนะคะ
อย่าลืมนะคะ เหลือ Ep.6 ส่งท้ายโปรเจ็กต์ Dream Story อยู่นะ
ฝากติดตามด้วยนะคะ ^_^
**************************************
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ