[B2ST/Beast] Dream Story รักนี้ให้นาย...เจ้าชายอสูร

8.9

เขียนโดย Kreota

วันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 00.14 น.

  87 ตอน
  86 วิจารณ์
  113.58K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2557 22.21 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

64) [Episode 5 :: Beautiful Lover] # Chapter 10

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

Episode 5 Beautiful Lover

:: Chapter 10 ::

 

            “ณัช...ณัช...เธอฟื้นแล้วหรอ...ณัช...”  เสียงทุ้มนุ่มของฮยอนซึงดังเข้ามาในการรับรู้ ฉันค่อยๆ ดันเปลือกตาของตัวเองขึ้นช้าๆ ความรู้สึกอุ่นๆ จากมือที่เขากุมเอาไว้ทำให้ฉันรู้สึกดีอย่างน่าประหลาด ฉันดีใจขนาดนี้เลยหรอที่เจอเขาเป็นคนแรกที่ตื่น!

            “พี่ณัชฟื้นแล้วค่ะ...”  เสียงวิลล่าดังเข้ามาอีกคนทำให้ฉันหยีตาสู้แสงเพื่อให้สามารถมองทุกคนในห้องได้ ตอนนี้ทั้งบีสท์และลัสตี้อยู่กันครบวงทีเดียว พวกเขากำลังมองมาที่ฉันอย่างลุ้นๆ แทนที่จะดีใจรีบเข้ามาถามอาการของฉันกันนะพวกนี้ =_=

            “นาย?...”  ฉันส่งเสียงออกไปงงๆ แล้วรีบดึงมือกลับมาจากฮยอนซึง หมอนี่กล้าดียังไงมานั่งจับมือฉันแบบนี้ -///-

            “แก...เป็นยังไงบ้าง”  เภตราเดินเข้ามาถามฉันเป็นคนแรก

            “ก็โอเค...แผลไม่เจ็บอย่างที่คิดเลยอ่ะ”  ฉันบอกแล้วยกแขนของตัวเองขึ้นดู น่าแปลกที่ร่างกายของฉันแทนที่จะมีบาดแผลเต็มตัวแต่มันกลับเป็นเพียงแผลที่แห้งและตกสะเก็ดแล้ว

            “ช่วงที่มันควรจะเจ็บผ่านมาแล้วน่ะสิ”  จุนฮยองพูดขึ้นบ้าง ทำให้ของขวัญ (แฟนจุนฮยอง) หันไปตีต้นแขนเพื่อปราม...นี่พวกเขาปิดบังอะไรฉันอยู่รึเปล่าเนี่ย -?-

            “หมายความว่ายังไง พูดให้เคลียร์หน่อยสิ”  ฉันหันไปถามจุนฮยอง แต่ดูเหมือนหมอนั่นจะไม่กล้าพูดแล้วเพราะแฟนคุมอยู่ ฉันเลยหันไปมองหยากับวิลล่าแทนเพราะยัย 2 คนนี้ต้องกำลังคันปากอยากจะพูดใจจะขาดแล้ว แต่ทั้ง 2 คนนี้ก็ไม่ยอมพูดอะไรออกมาเลย โอ๊ยยย...ฉันเกลียดความรู้สึกแบบนี้จริงๆ เลย >_<!

            “จะไม่มีใครบอกฉันเลยรึไงว่ามันเกิดอะไรขึ้น...”

            แอ๊ด...

            อยู่ๆ พี่มะนาวก็วิ่งพรวดเข้ามาในห้อง แล้วเข้ามาลูบๆ คลำๆ ฉันทั่วทั้งตัวด้วยความดีใจจนฉันสังเกตเห็นน้ำตาปริ่มๆ อยู่ที่ตาทั้ง 2 ข้าง

            “พี่มะนาว...เป็นไรมากไหมคะเนี่ย =_=”

            “ณัช...ณัชจริงๆ ด้วย จำได้แล้วใช่ไหม...จำพี่ได้แล้วใช่ไหม?”  พี่มะนาวโผเข้ากอดฉันไว้แน่น

            “อะไรนะคะ...จำได้? อะไรกัน ณัชงงไปหมดแล้ว”  ฉันผลักพี่มะนาวออก พร้อมกับเสียงถอนหายใจของเพื่อนหลายๆ คนที่อยู่ในห้อง พวกเขาพยายามจะปกปิดอะไรอยู่กันแน่!

            “อ้าว...ก็ณัช..”  พี่มะนาวเหมือนกำลังจะพูดอะไรบางอย่างแต่เภตราก็พูดขัดขึ้น

            “พี่มะนาวคะ ณัชเพิ่งจะฟื้น เภอยากให้ณัชพักผ่อน...”  เภตราพูดยังไม่ทันจบประโยคจุนฮยองก็พูดแทรกขึ้นมาอีกคน

            “ฉันว่าณัชพักมาพอแล้วนะ 2 อาทิตย์เต็มๆ แล้วเภ...ฉันว่าควรจะบอก” 

            “แต่...”

            “ไม่มีแต่...ฉันต้องการรู้ตอนนี้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น!!!”  ฉันแทรกขึ้นมาระหว่างการสนทนาที่ดุเดือดของจุนฮยองและเภตรา

            เงียบกันไปทักใหญ่ทุกคนก็ออกไปจากห้องทิ้งให้ฉันกับเภตรานั่งอยู่ในห้อง 2 คน ตั้งแต่ฉันฟื้นขึ้นมานอกจากไม่มีใครห่วงแล้ว ทุกคนยังแสดงสีหน้าหนักใจแล้วก็กังวลแปลกๆ ฉันควรจะดีใจไหมเนี่ยที่รอดตายมาได้!

            “ตกลงมันเป็นยังไงกันแน่เภ...”

            “แกจำตอนที่รถบรรทุกชนแกกับโอกังจาได้ใช่ไหม”  เภตราเริ่มเกริ่นนำมาจากเหตุการณ์ล่าสุดที่ฉันจำได้

            “ใช่...จำได้สิ”

            “ตอนนั้นแกทะลุกระจกรถ ลอยออกมาตั้งเกือบสิบเมตร...แล้วรถก็ระเบิดไปพร้อมกับโอกังจา”  ระหว่างที่เภตราเล่า ภาพเหตุการณ์ที่มันลางๆ อยู่ในหัวเริ่มชัดเจนขึ้นทีละนิด พร้อมกับความรู้สึกเจ็บแปล๊บขึ้นมารอบๆ กระบอกตาทำให้ฉันต้องใช้มือกุมมันเอาไว้

            “แกไหวไหม?...”  เภตรารีบถามขึ้นมาทันที

            “ฉันไหว เล่าต่อสิ”

            “หลังจากนั้นเราก็รีบพาแกมาโรงพยาบาล แกเสียเลือดมากแต่โชคดีที่ฮยอนซึงกับโยซอบเลือดกรุ๊ปเดียวกับแก แกเลยรอดมาได้...”  พูดจบเภตราก็นิ่งไปพักใหญ่

            “แกเป็นอะไรเภ...เล่าๆ หยุดๆ อยู่นั่น ฉันปวดหัวแล้วนะเนี่ย...”  ฉันยังพูดไม่จบเภตราก็พูดสวนขึ้นมาบ้าง

            “แกจำได้ไหมว่าแกถูกจับไปวันที่เท่าไหร่”

            “อะไรนะ?...”

            “จำได้รึเปล่า”

            “ฉันไปอัดเสียงวันอังคาร...ซ้อมเต้นวันพุธ...ใช่ วันพุธนี่แหละที่ถูกจับไป...ทำไมหรอ?”

            “พุธที่เท่าไหร่”

            “พุธที่...23 เมษา”  ฉันบอกเดือนให้เสร็จสรรพเพื่อกันยัยเภถามต่อ =_=

            “รู้ไหมวันนี้วันที่เท่าไหร่”

            “จะไปรู้หรอ”  ฉันไม่ได้พูดกวนนะ เพราะว่าฉันไม่รู้เหมือนกันว่าหลับไปนานเท่าไหร่บาดแผลตามตัวถึงได้หายดีขนาดนี้

            “อ่ะ ดูเอง”  เภตรายื่นมือถือมาให้ฉัน บนหน้าจอมันปรากฏชัดเจนว่าเป็นวันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 บ้าน่า! นี่ฉันหลับไปนาน 2 อาทิตย์เลยหรอเนี่ย O_O!

            “แกจำช่วงเวลาสองอาทิตย์ที่ผ่านมาได้ไหม...”

            “หมายความว่าไง ฉันไม่ได้สลบอยู่หรอกหรอ”

            “ไม่...แกไม่ได้สลบ แกฟื้นขึ้นมา แต่แก...จำอะไรไม่ได้เลย”

            “ว่าไงนะ!!”

            “ฉันว่าแกได้ยินชัดเจนนะ -_-” 

            เปล่า...ไม่ใช่ว่าฉันไม่ได้ยินที่เภตราบอก แต่ฉันไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง ฉันเคยเห็นแค่ในละครทีวีที่โดนกระทบกระเทือนสมองแล้วจะจำอะไรไม่ได้ เหตุการณ์แบบนั้นมันเพิ่งเกิดขึ้นกับฉันงั้นหรอ?

            “ฉัน...สมองเสื่อมงั้นหรอ?”  ฉันพูดพร้อมกับพยายามควบคุมเสียงของตัวเองไม่ให้มันสั่นมากไปกว่าเดิม

            “ใช่...แกจำใครไม่ได้เลยสองอาทิตย์เต็มๆ”

            “แล้ว...ฉันตอนที่สมองเสื่อมเป็นยังไง...”

            “เรียบร้อยอย่างไม่น่าเชื่อเลยล่ะ ^_^”  เภตรายิ้มให้ฉันเป็นครั้งแรกที่ฟื้นขึ้นมา ถึงมันจะทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นมาก แต่ไอ้คำพูดสองแง่สองง่ามที่ไม่รู้ว่าชมหรือด่าของยัยเภตราก็ต้องทำให้ฉันค้อนยัยเพื่อนคนนี้ไปทีหนึ่ง

            “ยัยเภ -_+”

            “ฮ่าๆๆ ก็มันจริงนี่”

            “เอ่อ...กำลังคุยอะไรกันหรอครับ สนุกเชียว”  อยู่ๆ คุณอธิสก็เดินเข้ามาในห้องพร้อมกับกวาดตามองไปทั่ว

            “คนอื่นๆ ไปไหนหมดล่ะครับ ทำไมเหลือกันแค่สองคน”

            “เขาออกไปหาอะไรทานน่ะค่ะ”  เภตราเป็นคนตอบคำถาม

            “เอ่อ...ผมขอคุยกับณัชหน่อย...ได้ไหมครับ”  คุณอธิสพูดออกมาเบาๆ ทำให้เภตรารู้ตัวทันทีว่าต้องออกไปจากห้อง

            “อ๋อ ได้ค่ะ ยัยณัชก็จำได้แล้วด้วย คงไม่มีอะไรแล้วล่ะมั้งคะ ^^”  เภตราพูดยิ้มๆ แล้วเดินออกไป

            ฉันว่าระหว่างที่ฉันความจำเสื่อมไป 2 อาทิตย์เนี่ยต้องมีเรื่องเกิดขึ้นเยอะแน่ๆ และคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ -_-;;

            “ไงครับณัช จำได้แล้วหรอ”  คุณอธิสพูดพร้อมกับมานั่งบนเก้าอี้ข้างเตียงแทนเภตรา

            “ค่ะ แต่จำได้เฉพาะเรื่องนะคะ”

            “เช่นเรื่องไหนบ้างล่ะ”

            “ก็เรื่องที่รถชน แล้วก็เรื่องตอนที่เพื่อนพาส่งโรงพยาบาล”

            “แค่นี้หรอ”

            “ใช่ค่ะ นอกนั้นจำอะไรไม่ได้เลย”

            “เฮ้อ...รู้งี้ไม่ทำตัวเป็นพระเอกดีกว่า”  อยู่ๆ คุณอธิสก็พึมพำออกมาเบาๆ

            “อะไรนะคะ?” 

            “ไม่มีอะไรหรอกครับ เอาเป็นว่าผมเคารพการตัดสินใจของณัชทั้งตอนที่สมองเสื่อมแล้วก็สมองไม่เสื่อมแล้วกัน”

            “คุณพูดดีๆ หน่อยได้ไหม ฉันงงไปหมดแล้ว ตกลงตอนที่ฉันสมองเสื่อมฉันไปทำอะไรไว้หรอ ทำไมแต่ละคนถึงทำตัวแปลกๆ กันขนาดนี้”

            “ผมว่าคุณน่าจะไปถามฮยอนซึงเองนะครับ ผมว่าผมไม่ควรตอบเรื่องนี้”

            “ฮยอนซึง?...หมอนั่นมาเกี่ยวอะไรด้วยล่ะค่ะ”

            “เอ่อ...ผมไม่มีเวลาแล้ว...ผมไปก่อนนะครับ หวังว่าเราคงได้พบกันอีกนะณัช”  คุณอธิสยืนขึ้นเมื่อก้มลงดูนาฬิกาข้อมือของตัวเอง

            “คุณจะไปหนคะ”

            “ผมต้องกลับประเทศไทยน่ะครับ เรื่องของโอกังจามีผลกระทบต่อบริษัทของผมมาก ช่วงนี้ผมเลยต้องเดินทางบ่อยหน่อย ^^”

            “เอ่อ...โชคดีนะคะ”

            “ครับ โชคดีเหมือนกันนะครับณัช”  คุณอธิสยิ้มให้ฉันก่อนจะเดินออกไปจากห้อง

            เขาทิ้งปริศนาไว้ให้ฉันต้องงงอีกแล้วสินะ แล้วคำตอบก็ดันอยู่กับนายฮยอนซึงนั่นอีก ช่วง 2 อาทิตย์ที่ผ่านมาหวังว่าฉันคงไม่ได้ทำอะไรบ้าๆ ลงไปหรอกนะ =_=;;

 

            ### 2 อาทิตย์ก่อน ###

            พรืด....พรืด...ตี๊ด ตี๊ด ตี๊ด....พรืด…

            สิ่งแรกที่ฉันรับรู้คืออาการระคายเคืองที่คอ ต่อมาคือเสียงเครื่องอะไรสักอย่างที่ดังอยู่รอบตัว...ตอนนี้ฉันอยู่ที่ไหนนะ ทำไมมันรู้สึกปวดระบมไปทั่วทั้งตัวแบบนี้ ฉันไม่อยากขยับตัวเลย

            “อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณณัชยา วันนี้เป็นยังไงบ้าง หลับสบายดีไหมคะ เมื่อคืนฝนตกทั้งวันวันนี้เลยอากาศดี ฟื้นเร็วๆ นะคะ เพื่อนๆ ของคุณรออยู่นะ...ก่อนกินมื้อเช้า เดี๋ยวฉันจะดูดเสมหะให้ก่อนนะคะ”  อยู่ๆ ก็มีเสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังเข้ามาในหู การพูดคุยเหมือนเขากำลังพูดอยู่กับใครสักคน เขาพูดแบบที่ต้องการให้ผู้ฟังรับรู้แต่ไม่ต้องตอบกลับไปก็ได้ ออกแนวเล่าให้ฟังมากกว่า เขาพูดกับใคร...กับฉันหรอ?

            ฉันได้ยินเสียงเตรียมเครื่องมือสักพักก็มีเสียงของผู้หญิงอีกคนดังขึ้นอีก

            “อ้าวคุณหมอ มาแต่เช้าเลยนะคะ”

            “ค่ะ...ณัชเป็นยังไงบ้างคะ” 

            “ก็อาการยังคงที่อยู่น่ะค่ะ แผลตามร่างกายก็แห้งดีแล้ว”

            “อ๋อ...ค่ะ นี่กำลังจะดูดเสมหะหรอคะ”

            “ใช่ค่ะ”

            “งั้น เดี๋ยวฝันทำเองค่ะ”

            “ได้ค่ะ”  เสียงผู้หญิงคนแรกดังห่างออกไป และกลายเป็นผู้หญิงคนที่มาใหม่จะดูดเสมหะให้ฉันแทน สักพักฉันก็รู้สึกเหมือนไม่มีอากาศหายใจขึ้นมากะทันหันเพราะมีอะไรบางอย่างถูกแหย่เข้ามาในหลอดลมจนฉันต้องสำลักมันออกมา

            “เฮ้ย!! ณัช O_O!”   ผู้หญิงคนนั้นร้องขึ้นมาทันทีที่ฉันลืมตาขึ้นมองเขา

            “อะไร...เธอจะพูดอะไร?”

            เธอถามขณะที่ฉันพยายามส่งสัญญาณมือไปให้ว่า ‘ช่วยถอดท่อนี่ออกที’ ฉันไม่รู้ว่าทำไมฉันถึงได้มาใส่ท่อช่วยหายใจแบบนี้แล้วแผลตามเนื้อตัวของฉันมันมาได้ยังไง แต่ฉันรู้อยู่อย่างเดียวคือมันอึดอัดแล้วก็เจ็บคอมาก

            “เอาท่อนี่ออกหรอ”  เธอชี้มาที่ท่อช่วยหายใจ ฉันเลยรีบพยักหน้าหงึกๆ อย่างรวดเร็ว

            หลังจากความวุ่นวายในการถอดเครื่องช่วยหายใจผ่านไป ฉันก็ถูกย้ายจาก ICU ไปยังห้องพักธรรมดา หลังจากนั้นก็มีคนมากมายมาเยี่ยมฉันที่โรงพยาบาลจนเต็มห้องพักไปหมด ฉันไม่เห็นรู้จักพวกเขาเลย พวกเขามาเยี่ยมฉันทำไม?

            “เป็นยังไงบ้างณัช”  คุณหมอที่ช่วยถอดเครื่องช่วยหายใจออกให้ ถามฉันอย่างเป็นกันเอง นี่ถ้าฉันเป็นคนนอกแล้วมาฟังหมอคุยกับคนไข้แบบนี้ ฉันคงคิดว่าเป็นเพื่อนกันแน่ๆ

            “เอ่อ...ก็ปวดแผลนิดหน่อยน่ะค่ะ”  ฉันตอบ แต่ทั้งคุณหมอและคนที่มาเยี่ยมฉันต่างมองหน้ากันเลิ่กลั่กทำอะไรไม่ถูก ฉันทำอะไรผิดไปงั้นหรอ -_-?

            “มีอะไรกันรึเปล่าคะ”  ฉันกระซิบคุณหมอคนนั้นใกล้ๆ เพราะกลัวว่าคนที่นั่งเฝ้าอยู่จะได้ยินด้วย

            “แก...เอ่อ...คุณจำชื่อตัวเองได้ไหม”  คุณหมอคนนั้นทำท่าอึกอักถาม

            “ก็ชื่อ...ณัชไงคะ”  ฉันตอบออกไปอย่างมั่นใจ เพราะว่าคนที่มาเยี่ยมต่างก็เรียกฉันว่า ‘ณัช’ ทั้งนั้น

            “ชื่อจริง?”

            “ชื่อณัช...ณัชยา”  อันนี้ก็ได้ยินพยาบาลเรียกมา =_=;

            “นามสกุล”

            “เอ่อ...นามสกุล...?” 

            ว่างเปล่า...ไม่มีข้อมูลเหล่านี้ในหัวของฉันเลย จริงสิ! ฉันจำอะไรเกี่ยวกับตัวเองไม่ได้เลยแม้กระทั่งชื่อ หรือแม้แต่เหตุการณ์ที่ทำให้ต้องเข้า ICU ก็ยังจำไม่ได้ ที่ตอบหมอไปก็ฟังคนอื่นพูดมาทั้งนั้น!!

            ตกลงฉันเป็นใครเนี่ย!!!

            “ฉัน...ฉันไม่รู้ค่ะ”  สิ้นสุดเสียงของฉัน เสียงอื้ออึงของคนในห้องก็ดังขึ้นอย่างพร้อมเพรียง...ที่จริงพวกเขาอาจจะเป็นเพื่อนฉันทั้งหมด แต่ฉันเองที่จำพวกเขาไม่ได้! ฉันเป็นอะไรไป!!!

            “พี่ณัช คิดดีๆ สิ! นี่วิล...วิลล่าน้องพี่ไง!!”  ผู้หญิงตัวเล็กๆ แต่ท่าทางเซ็กซี่เดินเข้ามากุมมือฉันไว้ทั้งสองข้างด้วยมือที่สั่นเทา น้ำตาเอ่ออยู่ภายในตากลมโตนั้นอย่างน่าสงสาร

            “ฉัน...ฉันขอโทษ ฉันจำเธอไม่ได้จริงๆ”  ฉันพูดเบาๆ กับผู้หญิงคนนั้น วิลล่างั้นหรอ...ทำไมชื่อไม่คุ้นเลย!

            “แล้วพี่ล่ะ! จำพี่ไหมณัช”  ผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามานั่งบนเตียงเดียวกับฉัน ทุกคนพูดภาษาเกาหลีกับฉันหมดยกเว้นคนนี้ คนนี้พูดภาษาไทยกับฉัน...ตกลงนี่ฉันเป็นคนไทยหรือเกาหลรเนี่ย ฟังออกทั้ง 2 ภาษาเลยแฮะ =_=?

            “เอ่อ...จำไม่ได้ค่ะ”  ฉันส่ายหน้าไปมาอย่างอ่อนใจ พร้อมกับความรู้สึกปวดตุบๆ ที่ขมับทั้ง 2 ข้าง ฉันไม่ไหวแล้ว คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก...จำอะไรไม่เลย!!!

            “เอ่อ...ฝันว่าพวกเราพอแค่นี้ก่อนเถอะค่ะ ตอนนี้ถึงพูดยังไงณัชก็จำไม่ได้อยู่ดี อาการอย่างนี้ต้องใช้เวลาหน่อย”  หมอที่ชื่อฝันคนนั้นพูด ทำให้ใครหลายๆ คนที่พยายามเรียกความทรงจำกลับมาให้ฉันยอมถอยห่างออกจากเตียง

            “งั้น...พักผ่อนก่อนแล้วกันนะ”  คุณหมอบอกแล้วเดินออกไปพร้อมกับทุกคนที่มาเยี่ยม

            ความสงบสุขกลับมาภายในห้องพักหลังจากที่อึกทึกไปด้วยคนที่มาเฝ้าไข้ ทั้งผู้หญิงและผู้ชายพวกนั้นเขาเป็นเพื่อนของฉันทั้งหมดเลยหรอ...ถึงพวกเขาจะทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่นและไว้ใจ แต่ฉันก็จำพวกเขาไม่ได้อยู่ดีว่าพวกเขาเป็นใคร มาจากไหน ชื่ออะไรบ้าง...แม้กระทั่งชื่อของตัวเอง เรื่องราวของตัวเองก็ยังจำไม่ได้...นี่มันเกิดอะไรขึ้น!!!

            ฉันใช้มือตบขมับตัวเองแรงๆ 2-3 ทีเพื่อเรียกสติและความทรงจำกลับคืนมา แต่มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรฉันเลย มันกลับทำให้ฉันรู้สึกปวดหัวขึ้นมามากกว่าเดิมซะอีก หลับตาลงก็เจอแต่ความมืดมิดที่ไร้ซึ่งเรื่องราว ใครก็ได้...บอกฉันทีว่าฉันเป็นใคร ฉันมาจากไหน และควรทำอะไรต่อไปดี

            ถ้าเกิดฉันเป็นแบบนี้ตลอดไปล่ะ! ถ้าเกิดมันไม่มีทางกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อีกแล้วล่ะ! ถ้าเป็นแบบนั้น...ฉันจะอยู่ต่อไปได้ยังไง ฉันจะอยู่อย่างโดดเดี่ยวแบบนี้ได้ยังไง

            “นี่!!! เธอเป็นไรรึเปล่า!”  อยู่ๆ ก็มีเสียงทุ้มๆ และสัมผัสอุ่นๆ ที่ข้อมือจากใครบางคนซึ่งมันทำให้ฉันหลุดจากภวังค์

            เขา!...เมื่อกี๊เขาก็อยู่ในห้องด้วยนี่นา เขานั่งอยู่ตรงมุมห้องนี่เอง หน้าสวยๆ แบบนี้ฉันจำได้ นี่ถ้าเกิดเขาไม่พูดฉันนึกว่าเป็นผู้หญิงแล้วนะเนี่ย =_=;

            ...ฉันนึกว่าเขาออกไปพร้อมคุณหมอแล้วนะ

            “ฉัน...ไม่ได้เป็นอะไร” 

            “แต่ฉันเห็นเธอกุมขมับตั้งแต่เข้ามาแล้วนะ”

            “นาย...กลับไปแล้วไม่ใช่หรอ?”

            “ก็ใช่ แต่ฉันลืมนี่...เลยกลับมาเอา”  เขาชูมือถือเครื่องสีดำๆ ขึ้นมาให้ฉันดู

            “อ๋อ”  ฉันพยักหน้ารับรู้ แล้วทุกอย่างในห้องก็เงียบลง เวลาอยู่กับคนอื่นทำไมไม่รู้สึกอึดอัดแบบนี้นะ หรือว่าเพราะอยู่กัน 2 คนเลยอึดอัด ต้องใช่แน่ๆ เมื่อกี๊อยู่กันตั้งหลายคนนี่นา

            ...จีกึมนาเอเกวามัลแฮจวอ อูรีเอเกแนอีรึนออบซอ มังซอรีจีมา~

            เสียงริงโทนดังออกมาจากโทรศัพท์เครื่องนั้น เขารีบกดรับสายและตอบกลับปลายสายทันที

            “เออๆ จะไปแล้ว...ห๊ะ! ได้ไงวะ...เออๆ...เออ!...”  เขาพูดกับปลายสายก่อนจะกดตัดสายอย่างหัวเสีย

            “เอ่อ...งั้นฉันไม่กวนแล้ว...เธอพักผ่อนเถอะ”  เขาพูดก่อนจะหมุนตัวเตรียมเดินออกไปจากห้อง

            “นาย...เป็นเพื่อนฉันใช่ไหม?” 

            เขาหยุดฝีเท้าลงทันทีที่ฉันเอ่ยปากออกไปแล้วค่อยๆ หันกลับมาหาฉันอีกครั้ง

            “เธอคุยกับฉันหรอ”  เขาชี้นิ้วเข้าหาตัวเองอย่างงงๆ แล้วในห้องนี้มีใครอีกไหมล่ะนอกจากฉันกับเขาน่ะ =_=;

            “อื้ม”  ฉันพยักหน้ารับ

            “ใช่...เราเป็น...เพื่อนกัน”

            “แล้วนายชื่อว่าอะไรหรอ”

            “ฉันชื่อฮยอนซึง...จางฮยอนซึง”

 

 

 

 

 

***********************************

อัพเดตแล้วจ้า ^O^

Ch.10 มาแล้ว เดี๋ยว Ch.11 จะตามมาอีก ไม่นานเกินรอ

ฝากติดตาม แล้วก็คอมเม้น วิจารณ์กันได้เลยนะ อยากรู้ว่าอ่านแล้วเป็นไงบ้าง Y.Y

(คอมเม้นเป็นกำลังใจก็ได้เน้อ)

***********************************

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.2 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา